ฌาณคืออะไร ? ฌานเกิดจากอะไร ?
ฌานเป็นแผ่นขาวใส เกิดจากขยายดวงธรรมให้โตออกแล้วกายธรรมนั่งบนนั้น ลักษณะของฌานนั้น กลมคล้ายเขียงที่เราให้หั่นผักศูนย์กลาง ๒ วาหนา ๑ คืบ หากเป็นฌานของกายธรรมก็มีขนาดโตยิ่งขึ้นไป ฌานทำหน้าที่เป็นพาหนะให้แก่กายทำให้กายไปไหนมาไหนได้เร็ว
อารมณ์ฌานกับแผ่นฌานไม่เหมือนกัน
แผ่นฌานคือการขยายดวงธรรมให้โต คือวิชาที่เราจะทำต่อไปนี้ ส่วนอารมณ์ฌานนั้น เกิดจากสภาพใจที่สงบระงับ เช่น
ปฐมฌาน มีองค์ ๕ ได้แก่ วิตก วิจาร ปิติ สุข เอกัคตา
เรามักได้ยินคำ วิตกวิจารณ์ แปลว่า เป็นทุกข์กังวลใจ อย่าปนกับวิตกและวิจาร
คำวิตก แปลว่า ตรึก นึก ตรอง
คำวิจาร แปลว่า ใคร่ครวญโดยปัญญา
วิตก หมายความว่า ใจประคองดวงนิมิตได้ ไม่เผลอไปเรื่องอื่นเลย อารมณ์เรายึดมั่นแต่นิมิตเท่านั้น
มาถึงขั้นวิจาร หมายความว่า ประคองใจให้ถูกส่วนว่าจะวางใจอย่างไรเช่นไรเป็นขั้นใช้ปัญญา
คำทางพระทั้ง ๒ คำนี้ ทำความยุ่งยากใจพอสมควร นักปฏิบัติเขาไม่ห่วงเรื่องถ้อยคำ แต่นักวิชาการเขาเคร่งครัด
อารมณ์ฌานในเรื่องวิตกก็คือ ไม่เผลอและไม่ง่วงนอน พอถึงขั้นวิจารไม่มีความลังเลสงสัย พอถึงขั้นปิติ เกิดขนลุกบ้าง เกิดความโปร่งใจบ้าง เกิดความพอใจ พอถึงขั้นสุข ก็คือสบายใจแล้วอย่างนี้ดีแล้ว พอถึงขั้นใจดิ่งคือใจเป็นหนึ่ง ก็คือขั้นเอกัคตารมณ์
อารมณ์เช่นนี้เกิดขึ้นแก่ผู้ฝึกทำภาวนาไม่ว่าสายใด ๆ แต่แผ่นฌานไม่เกิดแก่กาย ไม่รู้จักว่าฌานมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร และอยู่ที่ไหนแต่การเจริญภาวนาแนว สัม มา อะ ระ หัง เราทำได้ทั้งอารมณ์ฌาณและเกิดแผ่นฌาน
ต้องขอขอบคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำสักร้อยครั้ง เพราะใคร ๆ ก็อยากทำฌานกันทั้งนั้น เพราะสบายใจ เกิดความสุขทางใจ ไปค้นคว้าในปิฎก พบแต่เรื่องอารมณ์ฌาน ส่วนวิธีทำแนวปฏิบัติ รูปพรรณสัณฐานไม่มี และศึกษาค้นคว้าที่ใดไม่ได้ด้วย เคราะห์กรรมจึงมีแก่ผู้ใฝ่รู้ทั้งหลาย เพราะเราไม่รู้วิธีทำ ชีวิตของเราจบลงด้วยความไม่รู้ แต่ด้วยมีอุปนิสัยมาแต่ปุเรภพชาติ ค้นคว้าธรรมไปตามคติของตน พบวิชาบ้าง ก็เป็นวิชาของมารเขาหรือวิชาของพระปนของมาร บัดนี้เป็นโอกาสดีแล้ว หลวงพ่อวัดปากน้ำมาชี้ขาดในทุกเรื่องแล้ว ขอเชิญท่านเรียนได้ตามใจชอบ
ทุติยฌาน มีอารมณ์ฌาน ๓ คือ ๑. ปิติ ๒. สุข ๓. เอกัคตา
ตติยฌาน มีอารมณ์ฌาน ๒ คือ ๑.สุข ๒. เอกัคตา
จตุตถฌาน มีอารมณ์ฌาน ๒ คือ ๑. เอกัคตา ๒. อุเบกขา
อากาสานัญจายตนะ พิจารณาอากาศว่าเป็นความว่างเปล่าปราศจากอารมณ์โดยกำหนดให้อากาศเป็นวงกลม
วิญญาณัญจายตนะ เพ่งอากาศที่เป็นวงกลมให้ว่างจากนั้นจะเห็นความใสยิ่งกว่าอากาศ มีลักษณะเป็นวงกลมเช่นเดียวกัน เราจะเกิดความรู้สึกว่า ความใสอันเป็นวงกลมนั้นมีวิญญาณ คือมีชีวิตจิตใจอยู่ก็ไม่ใช่จะว่าไม่มีชีวิตจิตใจก็ไม่เชิง ยังคาบลูกคาบดอก
อาจิญจัญญายตนะ เมื่อดวงกลมใสจะมีวิญญาณก็ไม่ใช่ ไม่มีวิญญาณก็ไม่เชิงได้หายไปแล้ว เกิดความรู้สึกทางใจขึ้นมาใหม่ คือรู้สึกว่าไม่มีอะไรอีกแล้ว ว่างจนกระทั่งไม่มีอะไร
เนวสัญญานาสัญญายตนะ เมื่อความรูสึกว่างจนไม่มีอะไร ได้หายไปแล้วจะเกิดอารมณ์คือความรู้สึกอย่างใหม่เกิดขึ้นคือ จะรู้สึกตัวก็ไม่ใช่ จะว่าไม่รู้สึกตัวก็ไม่ใช่ เป็นลักษณะคาบลูกคาบดอก คือจะว่ามีสัญญาก็ไม่ใช่จะว่าไม่มีสัญญาก็ไม่เชิง นี่คืออารมณ์ของเนวสัญญานาสัญญายตนะ สัญญา แปลว่า จึงได้หมายรู้
แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 49 14:59:21
แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 49 14:57:36
จากคุณ :
สมถะ
- [
11 พ.ค. 49 14:54:44
]