CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    กว่าจะเป็น Bible

    กระทู้นี้มีที่มาจาก http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y4721410/Y4721410.html  ครับ ต้องขออภัยที่ล่าช้าไปหนึ่งวันเพราะเมื่อคืนมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น เรื่องราวที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้เป้นการมองจากมุมมองของนักประวัติศาสตร์ ที่สามารถอ่านภาษาอาราเมอิก ละติน กรีก และภาษาอื่นๆที่คนทั่วไปเขาไม่พูดกันนั่นละ และศึกษาจากเอกสารต่างๆ ไม่ว่าจะของคริสต์ ยิว หรือ Pagan

    เรื่องราวต่อไปนี้เป็นการมองอย่างนักประวัติศาสตร์ล้วนๆ และมีหลักฐานสนับสนุนทั้งนั้น ขอให้มีความสนุกในการอ่านครับ


    ก่อนอื่นต้องปูพื้นก่อนนะครับว่าสภาพสมัยคริสตวรรษที่หนึ่งนั้นเป็นอย่างไร เริ่มจากพระเยซูเริ่มต้นสั่งสอนศิษยานุศิษย์ ช่วงประมาณ CE(Common Era) 20 ล่วงมาถึงประมาณ CE 30 พระเยซูก็ถูกตรึงกางเขน ต่อจากนั้นเชื่อกันว่าประมาณ CE 50 ข้อเขียนเรื่องแรกที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งสอนของพระเยซูได้ถูกบันทึก (จดหมายของ Paul) ส่วนบันทึกอื่นๆก็ได้รับการบันทึกตามมาไม่ว่าจะเป็น Mark, Luke etc. เรื่องที่ใหม่ที่สุดใน Bible เชื่อว่าคือ 2 Peter ที่ถูกบันทึกราวๆ CE 120

    ปูพื้นมาระดับหนึ่งแล้วต่อมาก็ลองมาดูกันว่า Bible มีความเป็นมาอย่างไร?
    แน่นอนว่า Bible ทั้ง 27 เล่มไม่ได้ลอยลงมาจากสวรรค์ ในความเป็นจริงแล้วกว่าจะเป็น Bible ที่เห็นกันอยู่นี้ได้มีการถกเถียงเป็นเวลานานกว่าสามศตวรรษว่าข้อเขียนใดบ้างควรใช้ในการสั่งสอนศาสนาคริสต์ ในสมัยช่วงคริสตวรรษที่หนึ่งและสองนั้น คริสต์ศาสนามีนิกายต่างๆมากมาย และความแตกต่างระหว่างนิกายนั้นถ้าจะพูดไปแล้ว บางนิกายนั้นคริสตชนปัจจุบันอาจจะไม่เชื่อว่ามีคนที่เรียกตัวเองว่าผู้ศรัทธาในพระเยซูจะเชื่อเช่นนั้นได้ เช่น
    บางนิกายเชื่อว่ามีพระเจ้าสององค์ บ้างเชื่อว่าสิบสององค์ บ้างก็เชื่อว่า 365 องค์
    บางนิกายเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลก บางนิกายเชื่อว่าพระเจ้าสร้างพระเจ้าขึ้นมาอีกองค์หนึ่งแล้วพระเจ้าองค์นั้นถึงเป็นคนสร้างโลก
    บางนิกายเชื่อว่าพระเยซูเป็นมนุษย์แท้ๆ ไม่ได้เป็นพระเจ้าแม้แต่น้อย บ้างเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าล้วนๆโดยไม่มีส่วนเป็นมนุษย์เลย
    บ้างเชื่อว่าการถูกตรึงการเขนเป็นการไถ่บาปแก่มวลมนุษย์ บ้างเชื่อว่าการถูกตรึงกางเขนไม่เกี่ยวอะไรเลย
    บ้างเชื่อว่าพระเยซูสิ้นพระชมน์ไปแล้ว(โดยไม่ฟื้น) บ้างเชื่อว่าพระเยซูไม่เคยสิ้นพระชมน์

    นิกายต่างๆเหล่านี้บางส่วนสามารถพบได้ในข้อเขียนของ Eusebius ซึ่งเป็นนักบวชชาวคริสต์ที่มีชีวิตอยู่ในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าคอนสแตนติน และได้บันทึกประวัติศาสตร์ของคริสต์จักรตั้งแต่สมัยพระเยซูจนกระทั่งถึงสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ (กลางคริสตวรรษที่สี่) ไว้ในหนังสือ History of Church ที่มีจำนวนถึง 10 เล่ม
    ข้อมูลบางส่วนเราได้พบจากคัมภีร์โบราณเช่นการค้นพบที่ Nag Hanmmadi เป็นต้น

    นิกายเหล่านั้นแต่ละนิกายก็มีคัมภีร์ที่เป็นของตนเอง และแต่ละนิกายก็พยายามทำให้คัมภีร์ของตนเป็นของสากลสำหรับคริสต์ชน การต่อสู้ทางความคิดดำเนินสืบเนื่องมาถึงสามร้อยกว่าปีซึ่งมีเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่ชนะ และชัยชนะนั้นก็ปรากฎออกมาในรูป Bible ทั้ง 27 เล่มที่ใช้กันต่อมานั้นเอง โดยกลุ่มที่ชนะนั้นก็สืบเนื่องมาจากกลุ่มที่ชนะใน Council of Nicea ในสมัยพระเจ้าคอนสแตนตินนั่นเอง

    เป็นที่น่าเชื่อว่า Gospel(ภาษาไทยไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไร) หลักทั้งสี่เล่ม Matthew, Mark, Luke และ John ได้รับการยอมรับในหมู่ชาวคริสต์มาตั้งแต่สมัยคริสตวรรษที่สองแล้วเช่นที่ปรากฎในงานเขียนของ Justin Martyr ที่มีการอ้างถึงคำพูดที่มีอยู่ใน Gospel แต่ว่าเขาไม่ได้อ้างถึงชื่อของ Gospel นั้นๆ เขาเรียกรวมๆว่า Memoirs of the Apostles(บันทึกของเหล่าสาวก) และเขาไม่ได้ระบุว่ามีกี่เล่ม ต่อมาอีกสามสิบปี สมัย CE 180 Irenaeus ได้ระบุอย่างเด่นชัดว่า Matthew, Mark, Luke และ John เป็นคัมภีร์ของแท้ ส่วนใครที่ใช้ Gospel อื่นๆเช่น Peter หรือ Thomas นั้นเป็นพวกหลงทาง

    ต่อมามีการค้นพบรายชื่อของคัมภีร์ที่นักเขียนนิรนามท่านหนึ่งยอมรับว่าเป็นคัมภีร์ที่ชาวคริสต์ควรศึกษา โดย L. A. Muratori ค้นพบรายชื่อที่ว่านี้ในห้องสมุดที่มิลาน ตัวเอกสารนั้นเชื่อว่าเขียนขึ้นในศตวรรษที่แปด แต่ข้อความนั้นเชื่อว่า แต่แรกถูกเขียนขึ้นในโรมสมัยศตวรรษที่สอง ในเอกสารนั้นมีการกล่าวถึง Gospel ทั้งสี่เล่มและเอกสารอื่นๆ เช่น Act of the Apostel เป็นต้น รายชื่อนี้ไม่ตรงกับ Bible เสียทั้งหมดแต่ในรายชื่อนั้นประกอบไปด้วยรายชื่อคัมภีร์ 23 เล่ม จาก 27 เล่มที่รวมอยู่ใน Bible ปัจจุบัน

    รายชื่อแรกที่ตรงกับ Bible ฉบับปัจจุบันที่มีทั้งหมด 27 เล่มนั้น ปรากฎในปลายศตวรรษที่สี่ โดย Athanasius ที่เป็น Bishop ของ Alexandria และเป็นผู้มีอิทธิพลในคริสตจักรอย่างยิ่งในสมัยนั้น ทุกปีเขาจะเขียนจดหมายไปยังโบสถ์ต่างๆในอียิปต์ที่เขาดูแลอยู่และในจดหมายเหล่านั้นประกอบไปด้วยรายชื่อของคัมภีร์ 27 เล่มพอดี ไม่ขาดไม่เกิน ต่อจากสมัยนั้นอีกสอง-สามทศวรรษก็ยังมีการโต้เถียงกันอยู่แต่ท้ายที่สุดทุกคนก็ยอมรับ

    จะเห็นได้ว่ากระบวนการคัดเลือกและัรวบรวม Bible นั้น เริ่มมาตั้งแต่สมัยปลายศตวรรษที่หนึ่ง และกว่าที่จะลงตัวเป็น 27เล่มที่เราเห็นอยู่นี้ก็เกือบศตวรรษที่ห้าแล้ว และพระเจ้าคอนสแตนตินก็ไม่ได้เป็นคนคัดเลือกแต่อย่างใด ส่วน Gospel อื่นๆที่ไม่ได้รับการยอมรับก็ไม่ได้รับการคัดลอก ทำสำเนาและก็คงสูญสลายไปตามกาลเวลา บางส่วนก็เหลือรอดมาถึงสมัยปัจจุบันเพราะได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีเช่น Nag Hanmmadi Library หรือ Coptic Gospel of Peter เป็นต้น

    จากคุณ : Nexus - [ 20 ก.ย. 49 18:59:11 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com