ความคิดเห็นที่ 1 คริสเตียนยอมรับ โตราห์ 5 เล่มแรก ของยิวมาทั้งหมดครบตามต้นฉบับแท้จริง   เพราะมีการสมัยก่อน พระเยซูเป็นฉบับ เซปทัวจินท์ เป็นภาษากรีก ซึ่งกรีกก็เป็นภาษาที่รักษารูปพจน์เหมือนกัน จึงคงนามไว้แบบเดียวกัน แต่ในอัลกุรอาร  ที่คุณ kobbee เชื่อ และคุยในกระทู้ข้างล่าง เป็นการเรียบเรียงเขียนใหม่   แม้ว่าจะมีการบันทึกจากโตราห์มาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ลอกมาทั้งหมด  ดังนั้นจึงไม่ตรงโตราห์เดิมเป็นแน่ จากคุณ : Elshaddai - [ 5 ต.ค. 49 11:14:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2 นั่นสิทำไมล่ะ ยิวนับถือพระเจ้ากี่องค์กัน แต่ไม่เหมือนคริสต์นิครับ ถ้ายิวบันทึกต้นฉบับยิวก็ต้องรู้ดีกว่า การแปลงเป็นภาษากรีก ซึ่งยิวนับถือพระเจ้าองค์เดียว อยากเห็นต้นฉบับฮิบรู แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 49 11:28:03 จากคุณ : คลื่นแทรก - [ 5 ต.ค. 49 11:26:24 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้า มุสลิม นับถือ นบีมูซา  ก็น่าจะยอมรับว่า โตราห์ ของ มูซา บันทึกถูกต้องด้วยนะครับ สำหรับ ยิวกับคริสเตียน  นับถือ พระเจ้าองค์เดียวเหมือนกันครับ คุณคลื่นแทรก คริสต์ไหนที่บอกว่ามีพระเจ้า 3 องค์ เขาอาจสื่อคำผิดไป แต่แท้จริง คริสต์เตียน  แม้แต่พระเยซู เองก็บอกว่า มีพระเจ้าองค์เดียว เท่านั้น จากคุณ : Elshaddai - [ 5 ต.ค. 49 11:41:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยิวปัจจุบันบอกว่าพระเจ้าเป็นตรีเอกานุภาพด้วยเหรอครับ อันนี้เพิ่งรู้ ผมนึกว่ายิวเหมือนอิสลามซะอีกว่าพระเจ้าเป็นเอกภาพ ยิวเชื่อท่านโมเสส แต่ไม่เชื่อท่านมูฮัมมัด จากคุณ : คลื่นแทรก - [ 5 ต.ค. 49 11:51:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อืม คุณปลงฯ กำลังจะกลายเป็นมุสลิมซะแล้ว มีตอบแทนให้ด้วยนะ 555 จากคุณ : คลื่นแทรก - [ 5 ต.ค. 49 11:54:05 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณคลื่นแทรก....  ครับ ตรีเอกานุภาพ เป็นคำที่มนุษย์คิดขึ้นครับ  ถ้าจำไม่ผิดโดยเซนท์ ออกัสติน เพื่ออธิบายพระลักษณะ  แต่ก็ไม่ใช่ว่า เราจะอธิบายพระองค์ได้หรอกครับ เอาเป็นว่าเป็นคำที่กำหนดเพื่อให้ง่าย ต่อการสื่อความเท่านั้นเอง และขอย้ำว่า ทั้งยิว และคริสต์  นับถือ  พระเจ้าองค์เดียว เท่านั้น ----------------------------------------------------------- ชนอิสราเอลแท้  มีพระเจ้าองค์เดียว   คริสเตียนก็มีพระเจ้าองค์เดียว พระเจ้าองค์เดียว เป็นทั้งผู้สร้างและผู้ไถ่ (ผมจำข้อbb ไม่ได้) เมสไซอาห์  ในความคิดยิว คือ ผู้ที่จะมาครอบครอง ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากพระเจ้า แต่ พระเจ้ารู้ว่ามนุษย์จำกัดในด้านการเข้าใจพระองค์ พระองค์จึงสื่อในรูปแบบของบุคคลเพื่อให้เราเข้าใจ หรือการใช้คำ เช่นว่า พระหัตถ์พระเจ้า  ก็ไม่ได้หมายความเช่นนั้น ว่าพระเจ้ามีมือ  แต่ทั้งหมดสื่อในระดับที่มนุษย์พอจับต้องได้ไงละครับ จากคุณ : Elshaddai - [ 5 ต.ค. 49 12:40:01 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ฮาๆ ขำ กลัวอิสลามมาอธิบายก่อน เลยมาชิง ยุแหย่ก่อนเหรอครับ ลองตรวจสอบก่อนดีกว่าไหมครับว่า ผิดศิล ไปกี่ข้อ?? รอ SA มาดีกว่า ครับ เขาเรียนศาสนาเปรียบเทียบมา อิสลามยอมรับโตราห์ครับ แต่เป็นเล่มที่ไม่บิดเบือนนะครับ ไปหามาให้หน่อยสิครับ  เพราะอิสลามศรัทธาในบรรดาคัมภีร์ ของพระเจ้าทั้งหมดครับ จากคุณ : beckmee - [ 5 ต.ค. 49 12:43:59 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แม้ว่าจะมีการบันทึกจากโตราห์มาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ลอกมาทั้งหมด  ดังนั้นจึงไม่ตรงโตราห์เดิมเป็นแน่>>>อธิบายให้หน่อยสิครับว่า มีหลักฐานอย่างไรครับ จากคุณ : beckmee - [ 5 ต.ค. 49 12:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ แสดงว่า  โตราห์  ที่อิสลาม เชื่อ  เป็นคนละเล่มกับยิวหรือครับ ผมว่า  อาลักษณ์ของยิว ที่ลอกพระคัมภีร์ มีกฏและเคร่งครัดที่สุดนะครับ ขนาด  ฉบับทะเลตาย (Dead Sea Scroll)  ของชุมชนคุมราม ที่เขียนก่อน คริสตกาล 1000 กว่าปี  ยังคงเหมือนฉบับในสมัยปัจจุบันเลยนะครับ --------------------------------------------------------------- ผมจะรอคุณ SA  มาตอบครับ จากคุณ : Elshaddai - [ 5 ต.ค. 49 13:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ...(อาจจะนอกเรื่องสักนิดนะครับ)  คือ รบกวนท่านเจ้าของกระทู้  เกี่ยวกับประวัติ ของ เซนต์ บาร์นาบัส และ คัมภีร์ ไบเบิ้ล ฉบับ เซนต์ บาร์นาบัส นั้น มีความเป็นมาอย่างไรบ้างครับ และปัจุบัน มีนำมาบรรจุใน BB หรือไม่ครับ  ขอบคุณครับ จากคุณ : เพื่อนร่วมทาง - [ 5 ต.ค. 49 13:04:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ชักไม่เคลียร์ครับ ก็คริสต์เองไม่ใช่เหรอพยายามจะสื่อว่า พระบิดา พระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ในไบเบิ้ล แล้วจะเป็นอะไรครับ โตราห์และชาวยิวกล่าวถึงเรื่องนี้หรือเปล่าครับ จากคุณ : คลื่นแทรก - [ 5 ต.ค. 49 13:11:47 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ....ก็เคยอ่านมาตั้งนานแล้วครับ  ก็ไม่เห็นมีข้อที่จะทำให้มองว่า พระเจ้าแบบมุสลิม เป็น มนุษย์ต่างดาวได้เลย ยังห่างไกลอีกเยอะครับ   ....อ้อ...และเป็นดังที่ คุณ ปลงฯบอก แสดงว่า ทั่วทั้ง จักวาล จะมีมนุษย์ต่างดาว แค่เพียง 1 ตน เท่านั้น ห้ามมากกว่านี้เด็ดขาด เพราะมีบอกใน คัมภีร์ไว้แล้ว ว่ามีเพียง 1 เท่านั้น  แล้ว คุณ ปลงฯเชื่อตั้ง 60% ยังไม่รีบ ออกจากพุทธ มาทำการคาราวะ มนุษย์ต่างดาวซะหน่อยเหรอครับ เดี๋ยวจะตกนรกนะครับ เตือนแล้วหน่า.... จากคุณ : เพื่อนร่วมทาง - [ 5 ต.ค. 49 14:09:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ที่คุณ ปลงให้ทุกข์อันตรธาน  ยกมาเป็น ลัทธิ เอโลฮิม ครับ ไม่เกี่ยว เพราะลัทธิเอา พระนามพระเจ้า มาตั้งครับ เป็นพวก New Age ที่ พากันไปตายหลายความเชื่อแล้วครับอันตราย   กับพวกฝรั่ง ชอบมั่ว เท่านั้นเอง แหม ถ้าพระเจ้ามาเช่นนั้น  ทำไม สมณโคดม ไม่บอกไว้ละครับ หรือว่า ที่สมณโคดม ตรัสรู้ ก็อาจเป็น การที่ พวกต่างดาว ส่ง กระแสจิต มาใส่จิตของเจ้าชายสิตธัตถะ ก็ได้นะครับ ทำให้เจ้าชายสิทธัตตถะ เห็นภาพภพชาติ มากมาย จนจิตนึกว่าบรรลุ ตรัสรู้ก็เป็นได้นะครับ ........  เล่นเชื่อตั้ง 60 % ทั้งที่ไม่มีอะไรอ้างอิงได้ จากคุณ : Elshaddai - [ 5 ต.ค. 49 14:10:29 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมก็เคยถามมาก่อนว่า อาดับ เป็นมนุษย์ต่างดาวหรือเปล่า เรามีแนวสงสัยเดียวกัน คุณปลง ผมเห็นด้วยกับคุณ 555 ตกลง ยิวเชื่อเรื่อง พระบิดา พระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์หรือเปล่าครับ ถ้าไม่เชื่อ ผมก็งงว่าทำไมในโตราห์ใช้สรรพนามอย่างนั้น แสดงว่า ศาสนายิวก็ขัดแย้งกันเองน่ะสิครับ จากคุณ : คลื่นแทรก - [ 5 ต.ค. 49 14:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ดเห็นเรื่องพระเจ้าว่ามีเป็นหนึ่งหรือเป็น 3 กันแน่ ผมจะอธิบายให้ฟังทั้งหมดเลยน่ะครับเรื่องพระเจ้ากับมนุษย์                  พระเจ้าเป็นพระวิญญาณซึ่งยิ่งใหญ่และบริสุทธ์เป็นพระผู้สร้างสรรพสิ่ง  พระองค์ระบายปราณหรือวิญญาณให้กับมนุษย์ ๆจึงมีชีวิตการมีชีวิตขึ้น นั้นหมายความว่าเราไม่ใช่หุ่นยนต์ที่จะทำตามรีโมทของผู้สร้างแต่หากจะเลือกและตัดสินใจทำสิ่งใดก็ได้ ทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์ทำให้เรารับรู้ถึงภายในว่าภายในเรามีวิญญาณอยู่โดยทั้งที่เราเองก็มองไม่เห็นแต่รับรู้ได้ แต่วิญญาณที่ได้รับจากพระเจ้านี้เองได้โดนซาตานเข้าล่อลวให้ทำบาป บาปเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงเกลียดชังวิญญาณที่ปนเปื้อนไปด้วยบาปนั้นไม่สามารถกลับสู่พระเจ้าได้เพราะพระองค์ยังคงเป็นวิญญาณที่บริสุทธ์ไม่มีการปนเปือ่นจากบาป         เมื่อกายเนื้อได้ดับสูญไปแล้ว วิญญาณของมนุษย์ไม่สามารถกลับไปอยู่กับพระเจ้าได้จึงทำให้มนุษย์เกิดอาการแสวงหาทางกลับไปยังแห่งกำเนิดของตนด้วยการบำเพ็ญเพียรตัดกิเลสเองบ้างละบาปเองบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้วิญญาณมนุษย์บริสุทธ์จนกลับไปหาพระเจ้าได้ มนุษย์จึงได้เริ่มแสวงหา นับถือสิ่งศักสิทธ์ต่างที่อยู่ในโลกซึ่งแท้จริงแล้วก็เป็นเพียงเทวดาที่พระเจ้าสร้างขึ้นเพื่อรับใช้พระองค์ แต่เทวดา(เทวดามีหลายชั้น)เหล่านั้นได้โดนมารซาตานล่อลวงเหมือนกันจึงหนีลงมาอยู่บนโลกมนุษย์แต่ยังมีฤทธ์อยู่ก็แสดงการอัศรรย์ต่าง ๆให้มนุษย์เห็นเพื่อหวังให้มนุษย์ถวายการบูชาที่แต่ก่อนมนุษย์บูชาแต่พระเจ้า            ซาตานผู้ล่อลวงนั้นได้เข้ามายึดครองโลกที่พระเจ้าสร้างเพื่อจะได้เอาวิญญาณมนุษย์เป็นของตนเองจึงได้ทำให้เกิดศาสนาต่าง ๆขึ้นทั้งการไหว้ผีการบูชาเทพเจ้าต่าง ๆเพื่อจะทำให้มนุษย์หันหลังให้พระเจ้าและห่างจากพระองค์ไปเรี่อย ๆ ซึ่งในการณ์นี้พระคัมภีร์ได้บอกไว้อย่างชัดเจน       แต่มาถึงตอนนี้แล้วพระเจ้ามิได้ประสงค์สิ่งใดที่จะมาบูชาพระองค์พระองค์เพียงหวังว่าจะกลับใจเสียไหม่รับการช่วยเหลือจากพระองค์แล้วกลับมาหาพระองค์ และด้วยความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ซึ่งได้ทรงสร้างไว้ให้เป็นบุตรของพระองค์ พระองค์จึงได้ส่งการช่วยเหลือมาให้โดยผ่านทางพระเยซู ซึ่งเดิมอยู่ในสวรรค์ก็เป็นพระวิญญาณที่แบ่งออกมาจากพระเจ้าซึ่งเหมือนกับที่แบ่งให้อดัมตอนสร้างอดัมแต่ไม่ได้ทรงสร้างกายเนื้อให้         พระวิญญาณก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระเจ้าเหมือนกับเราแบ่งน้ำลงไส่แก้วเป็นหลาย ๆแก้วแต่น้ำก็ยังเป็นน้ำเหมือนเดิม พระเยซูต้องลงมารับโทษบาปและผลกรรมแทนมนุษย์ทุกคนโดยการที่พระองค์ได้ทรงตายอย่างบริสุทธ์บนไม้กางเขน หากท่านรับการช่วยนี้บาปทั้งสิ้นพระบิดาจะประทานอภัยให้และชำระล้างให้ หากท่านได้ศึกษาพระคัมภีร์ท่านจะเห็นว่าพระเยซูได้กล่าวไว้ว่า "วันหนึ่งพวกท่านจะได้ขึ้นไปปกครองอยู่กับเราในสวรรค์" นั้นแสดงให้เห็นว่าทุกคนมีสิทธิ์การเป็นบุตรของพระเจ้าแต่เพราะได้ทำบาปโดยการล่อลวงของซาตานก็เลยทำให้สิทธิ์ของเรานั้นเสียไป แล้วหากถามว่า ทำไมพระเจ้าไม่ลงโทษซาตานที่มาทำให้เกิดความวุ่นวายพระองค์ทรงลงโทษอย่างที่บอกไว้ตอนแรกน่ะครับพระเจ้าสร้างเราให้มีชีวิตให้สามารถเลือกสิ่งต่างๆด้วยตนเองเลือกฝ่ายดีก็จะได้สิ่งดีตอบแทนเลือกสิ่งเลวก็จะได้สิ่งเลวตอบแทน         แน่แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาของการลงโทษมันของแต่พระองค์ได้กำหนดวันและเวลาของการลงโทษซาตานและบริวารของมันไว้แล้ว ที่ของมันคือบึงไฟที่จะไหม้อยู่เป็นนิรันดร์พวกมันจะโดนโยนเข้าไปในนั้น มันจะไม่ได้ตายแต่ไฟก็จะเผามันอยุ่เป็นนิรันดร์ให้มีผลคือความทุกข์ทรมานแก่มันและบริวารตลอดกาล แต่วิญญาณที่ได้รับการไถ่นั้นพระเจ้าจะรับขึ้นสู่สวรรค์เพื่อกลับไปอยู่กับพระองค์ ฉะนั้นมี2 ทางให้ท่านเลือกว่าจะอยู่ข้างพระเจ้าหรือจะอยู่ข้างซาตาน ท่านจงเลือกเอาเถิด อาเมน จากคุณ : พระเจ้ารักฉัน (พระเจ้ารักฉัน) - [ 5 ต.ค. 49 14:34:50 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมก็ลืมบอกไปว่า  Compound Noun หมายถึง นามที่เรียกเป็นกลุ่ม เช่น พวงองุ่น  คือมี 1 เดียวครับ แต่ว่ามี หลายลูก ไว้จะศึกษาภาษาฮีบรู ให้ลึกกว่านี้  แต่ ที่ผมยกมาตามที่ผมเรียนรู้มาจริง ๆ ครับ พระเจ้าคงมีประสงค์จะเลือกใช้นามในรูปนี้  แต่เลือกใช้คำกริยาสำหรับ นามเอกพจน์ครับ ถ้าเทียบอังกฤษ ก็อาจเป็น We is อะไรทำนองนี้แหละ จากคุณ : Elshaddai - [ 5 ต.ค. 49 14:52:49 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมเห็นคุณ ปลงให้ทุกข์อันตรธาน  เชื่อไปแล้ว 60 % ก็เลยทำให้คิดว่า   ขนาด ฝรั่งมั่วเขียน คุณยังเชื่อง่ายขนาดนั้น ... มันจะกระทบทั้งทุกความเชื่อ  เลยนะครับ รวมทั้งความเชื่อคุณด้วย จากคุณ : Elshaddai - [ 5 ต.ค. 49 15:11:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอความสันติสุขจงมีแด่ทึกท่านครับ ...ไม่นึกว่าจะเป็นคำถามน่ะครับ... ภาษาในตระกูลเซเมติกมีการใช้รูปพหูพจน์ หรือ compoun noun ในการบันทึกคำเอกพจน์เพื่อใช้ในความหมายของการให้เกียรติ ภาษาเซเมติกในที่นี้หมายถึง ฮิบรู ที่เป็นต้นตระกูลของภาษาอาราเมอิค อาหรับ ที่เป็นต้นตระกูลของภาษาฟัรซี และอุรดู (อาจจะรวมฮินดีเข้าไปด้วยก็ได้) ภาษาหกภาษาที่กล่าวมา มีการใช้พหูพจน์กับคำนามเอกพจน์เพื่อแสดงการให้เกีรติทั้งสิ้น รวมทั้งกุรอ่านเองที่เป็นภาษาอาหรับด้วย ปัญหาคือ จะรู้ได้อย่างไรว่า อันไหนคือ พหูพจน์แท้ อันไหนคือ พหูพจน์เทียม? คำตอบคือ ให้ใช้ผู้เชี่ยวชาญทางภาษานั้นเป็นผู้ตรวจสอบครับ ยิวไม่เชื่อเรื่องตรีเอกาณุภาพ แต่คริสเตียนเชื่อ ซ้ำยังบอกว่า ตรีเอกาณุภาพมีบันทึกในพระคัมภีร์เก่า ซึ่งยิวเอง ที่เป็นทั้งเจ้าของคัมภีร์ และเจ้าของภาษาไม่ยอมรับ ถามว่า นี่ใช่เป็นการ "พยายามหาพวก" รึเปล่า? ...คุณให้คำตอบผมครับ... ........................................... ส่วนเรื่องคัมภีร์เก่า-ใหม่ ถูกบิดเบือน ผมขอใช้คำว่า "ไม่อยู่ในรูปแบบดั้งเดิม" ดีกว่าครับ อยากทราบอะไรมากกว่านี้ แตกกระทู้ไปได้ครับ จากคุณ : SA Student - [ 5 ต.ค. 49 15:49:03 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ^ กรุอ่านมีด้วยเหรอครับ ตรงไหนครับคุณ SA จากคุณ : คลื่นแทรก - [ 5 ต.ค. 49 16:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 28 Dead sea scroll เป็นม้วนคัมภีร์ของยิวถูกต้องแล้วครับ แต่ว่าระยะเวลาอยู่ในช่วงใกล้เคียงกับระยะที่พระเยซูประกาศครับ คือ 150 BCE ~ 70 CE ก่อนหน้าค้นพบ Dead Sea Scroll คับภีร์ของยิวที่เก่าแก่ที่สุดอยู่ในสมัย 1000 CE ครับ จากการศึกษาเปรียบเทียบพบว่า บางเล่มได้รับการคัดลอกมาอย่างสมบูรณ์เกือบไม่ผิดเพี้ยน เช่น Isaiah ส่วนบางฉบับใจความมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น  Samuel เป็นต้น ม้วนคัมภีร์ส่วนใหญ่บันทึกเป็นภาษาฮีบรู บางส่วนเป็นภาษาอาราเมอิก ส่วนน้อยมากๆที่ได้รับการบันทึกเป็นภาษากรีก ืnote: 1. C.E (Common Era) เป็นคำกลางๆที่ใช้เรียกแทน A.D (คริสต์ศักราช)      2. B.C.E (Before common era) จากคุณ : Nexus - [ 5 ต.ค. 49 17:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 29 "" แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 49 18:51:21 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 49 18:46:22 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 49 17:26:48 จากคุณ : ~ Jenny B. Good ~ - [ 5 ต.ค. 49 17:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ... ... ... ... Kul Sharif Mosque,Tatarstan,Russia แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 49 11:53:04 จากคุณ : Crescent ) - [ 5 ต.ค. 49 19:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมขอนำบทความเก่าของผมเองมาลงนะครับ จากคริสต์ถึงอิสลาม บนเส้นทางแห่งสันติ ถ้าเรามองดู ศาสนา (ความเชื่อ) ในโลก ความเหมือนใกล้ชิดกันมากที่สุด ก็คือศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม   ผู้ที่ถือว่าเป็นชาวคัมภีร์เหมือนกัน เชื่อในพระเจ้า ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรค์ และแผ่นดินโลก และสร้างจักรวาลเหมือนกัน ข้อแตกต่างระหว่างคริสต์กับอิสลาม มีข้อแบ่งแค่เพียงเส้นบางๆ เหมือนรอยขีดดินสอ “แตกต่าง แต่อยู่ในหนทางเดียวกัน” ถ้ากลับไปมองดูประวัติศาสตร์ ในพระคัมภีร์เดิม จะมีชื่อบุคคล ๆ หนึ่งปรากฏอยู่ คือ “ อิชมาเอล” ในปฐมกาล 16 16:10 แล้วทูตสวรรค์ของพระเยโฮวาห์กล่าวแก่หญิงนั้นว่า "เราจะให้เชื้อสายของเจ้าทวีมากขึ้น เพราะว่าจะมีคนจำนวนมากมายจนนับไม่ถ้วน" 16:11 ทูตสวรรค์ของพระเยโฮวาห์กล่าวแก่นางว่า "ดูเถิด เจ้ามีครรภ์แล้วและจะคลอดบุตรชายคนหนึ่ง จะเรียกชื่อของเขาว่า อิชมาเอล เพราะว่าพระเยโฮวาห์ทรงรับฟังความทุกข์ของเจ้า "อิชมาเอลจะเป็นบิดาของชนชาติใหญ่ชาติหนึ่ง" ปฐมกาล 17 17:20 สำหรับอิชมาเอลนั้นเราได้ฟังเจ้าแล้ว ดูเถิด เราได้อวยพรเขาและจะกระทำให้เขามีลูกดกทวีมากขึ้นอุดมบริบูรณ์อย่างยิ่ง เขาจะให้กำเนิดเจ้านายสิบสององค์และเราจะกระทำให้เขาเป็นชนชาติใหญ่ชนชาติหนึ่ง “อิชมาเอล” ผู้สืบเชื้อสายมาจากอับราฮัม และเป็นต้นกำเนิดของชนชาติอาหรับ พระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งเชื้อสายของอับราฮัม  ไม่ว่าจะทางอิสอัค หรือทางอิชมาเอล   ปฐมกาล 21 21:17 พระเจ้าทรงสดับเสียงร้องของเด็กนั้น และทูตสวรรค์ของพระเจ้าจึงเรียกฮาการ์จากฟ้าสวรรค์กล่าวกับนางว่า "ฮาการ์ เจ้าเป็นอะไรไป อย่ากลัวเลย เพราะว่าพระเจ้าทรงสดับเสียงของเด็ก ณ ที่ที่เขาอยู่นั้นแล้ว 21:18 ลุกขึ้นอุ้มเด็กนั้น เอามือจับเขาไว้ให้แน่น เพราะเราจะทำให้เขาเป็นชาติใหญ่ชาติหนึ่ง" ในอดีตพระเจ้าจะทรงประทานผู้เผยพระวจนะ หรือศาสดาพยากรณ์ มาทางชนชาติอิสราเอล เพื่อคอยตักเตือน และให้ธรรมบัญญัติ กับอิสราเอล (เนื่องจากอิสราเอล เป็นชนชาติที่หัวดื้อ และมักกบฏกับพระเจ้าบ่อยๆ)  จนคนสุดท้ายที่พระเจ้าส่งมาท่ามกลางชนชาติอิสราเอล คือ “องค์พระเยซูคริสต์” ซึ่งสืบเชื้อสายมาทางอิสอัค ลูกของอับราฮัม และคริสเตียนเป็นชนชาติของ “องค์พระเยซูคริสต์” เมื่อชาวอาหรับผู้ซึ่งสืบเชื้อสายมาทาง “อิชมาเอล” ได้เป็นชนชาติใหญ่ชนชาติหนึง และในยุคที่ชาวอาหรับ เสื่อมทรามทางด้านศีลธรรม  และการบูชาที่เต็มไปด้วยเทพเจ้าต่างๆ นาๆ   พระเจ้าผู้ทรงรักษาสัญญาที่จะรับฟังความทุกข์ของชนชาติ “อิชมาเอล”  ได้ประทานศาสดาผู้หนึงให้เกิดขึ้นท่ามกลาง ชนชาติอาหรับ เพื่อสั่งสอน ตักเตือน ชนชาติของ อิชมาเอล ให้กลับมาในทางของพระองค์   “ นบีมูฮัมหมัด” ศาสดาผู้สืบเชื้อสายมาทาง อิชมาเอล ลูกของอับราฮัมเช่นกัน   พระเจ้าผู้ทรงเมตตาปราณีเสมอ พระองค์มิเคยทอดทิ้งเชื้อสายของอับราฮัม และถ้าพระองค์จะทรงประทานศาสดาสักคนหนึ่งให้กับชนชาติของ “อิชมาเอล” ก็เป็นสิทธิของพระองค์ที่จะทรงกระทำ อันเกินสติปัญญาของมนุษย์ที่จะไปพินิจ พิเคราะห์พระองค์ได้   หนทางจากคริสต์ ถึงอิสลาม จึงเป็นหนทางแห่งสันติ ในความเชื่อ เชื่อในองค์พระเจ้าผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ และแผ่นดินโลก ผู้ทรงสร้างจักวาล  เช่นเดียวกัน   ในความแตกต่างเพียงเส้นบาง ๆ แต่อยู่ในหนทางเดียวกัน จึงมิอาจจะแยกคริสต์และอิสลามออกจากพระเจ้าได้ “พระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยความเมตตาปราณีเสมอมา” ขอพระเจ้าอวยพระพรทั้ง อิสลามและคริสเตียนครับ ด้วยความปราถนาดีครับ ขอให้เป็นไปตามความเชื่อ ของคริสต์เอง และของอิสลามเองดีกว่าครับ เพราะยังไงเราทั้งสองก็ได้ยืนหยัดในการเชื่อในพระเจ้าเหมือนกัน   ที่แตกต่างไปจากนั้น เป็นข้อปลีกย่อยครับ.... ผมสนับสนุนให้คนของพระเจ้ารักกันไว้ครับ..... จากคุณ : เหนือสายรุ้ง - [ 5 ต.ค. 49 20:09:21 ]

ความคิดเห็นที่ 32 #20 บางครั้งกุรอ่านใช้สรรพนามพหูพจน์แทนเอกพจน์เมื่อพูดถึงเอกองค์อัลลอฮ์ครับ เช่นใน กุรอ่าน97:1 ใช้คำว่า "อันซั้ลนา" ซึ่งเป็นความหมายของพหูพจน์ แทนที่จะใช้ "อันซั้ลตุ" ซึ่งเป็นเอกพจน์ หรือใน 108:1 ใช้คำว่า "อะอ์ตอยนา" ซึ่งหากเป็นเอกพจน์จะใช้ "อะอ์ตอยตุ" สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องทางภาษาครับ คนไทยเราหลายครั้งที่มักใช้คำว่า "เรา" แทนตัว ไม่ได้หมายความว่า "ผู้พูดมีมากกว่าหนึ่ง" ครับ และที่สำคัญ การใช้สรรพนามในรูปดังกล่าว ใช้ได้เฉาะเมื่อกล่าวถึงตัวเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ใช้สรรพนาม "พวกท่าน" ในการกล่าวพาดพิงถึงอัลลอฮ์ และกุรอ่านก็ไม่ได้กล่าวเช่นนั้นด้วย ซึ่งเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่า พหูพจน์ดังกล่าว เป็นพหูพจน์เทียม ........................... ส่วนจขกท. คุณเข้ามาโดยไม่ได้ดูบรรยากาศเลยน่ะครับ วัสลาม จากคุณ : SA Student - [ 5 ต.ค. 49 20:44:37 ]

ความคิดเห็นที่ 33 สวัสดีครับ คุณ : SA Student  หวังว่าสบายดีนะครับ และคงจะปรับตัวได้ ในอีกบรรยากาศหนึง ในใจคิดถึงและเป็นห่วงนะครับ เพราะเห็นว่าเป็นช่วงถือศีลอด  จริงๆ แล้วเป็นห่วงพี่น้องมุสลิมทุกคน และนับถือในการอดทน และเอาชนะความหิวกระหายได้ ขอให้กำลังของพระเจ้าอยู่กับทุกคนนะครับ อยากจะบอกความลับให้อย่าง  ทุกคืนก่อนนอน ผมจะดูเคเบิล ช่องต่างประเทศของปากีฯ  จะมีการสวดบทสรรเสริญพระเจ้า ฟังไม่ออก แต่สัมผัสได้ ฟังแล้วอบอุ่นนอนหลับฝันดีทุกคืนครับ ด้วยความจริงใจครับ แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 49 20:58:23 จากคุณ : เหนือสายรุ้ง - [ 5 ต.ค. 49 20:56:19 ]

ความคิดเห็นที่ 34 จากบางคนในหมู่ผู้เป็นยิวนั้น พวกเขาบิดเบือนบรรดาถ้อยคำให้เหออกจากที่ของมัน(*1*) และพวกเขากล่าวว่า เราได้ยินกันแล้วและเราก็ได้ฝ่าฝืนกันแล้ว(*2*) และท่านจงฟังโดยที่มิใช่เป็นผู้ได้ยิน(*3*) และจงสดับฟังเราโดยบิดลิ้นของพวกเขา(*4*)และใส่ร้ายในศาสนา และหากว่าพวกเขากล่าวว่า เราได้ยินกันแล้ว และได้เชื่อฟังกันแล้ว(*5*) และท่านจงฟัง(*6*) และมองดูเราเถิด(*6*) ก็จะเป็นสิ่งดีกว่าแก่พวกเขา และเที่ยงตรงกว่า แต่ทว่าอัลลอฮฺได้ทรงละอนัต(*8*) พวกเขาเสียแล้ว เนื่องด้วยการปฏิเสธศรัทธาของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ศรัทธากัน นอกจากเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  4:46 ---------------------------------- เมื่อนำมาเทียบกับ ความคิดเห็นที่ 28 Dead sea scroll เป็นม้วนคัมภีร์ของยิวถูกต้องแล้วครับ แต่ว่าระยะเวลาอยู่ในช่วงใกล้เคียงกับระยะที่พระเยซูประกาศครับ คือ 150 BCE ~ 70 CE ก่อนหน้าค้นพบ Dead Sea Scroll คับภีร์ของยิวที่เก่าแก่ที่สุดอยู่ในสมัย 1000 CE ครับ จากการศึกษาเปรียบเทียบพบว่า บางเล่มได้รับการคัดลอกมาอย่างสมบูรณ   ์"เกือบ"  ไม่ผิดเพี้ยน เช่น Isaiah ส่วนบางฉบับใจความมี"การเปลี่ยนแปลง"อย่างมีนัยสำคัญ เช่น  Samuel เป็นต้น ม้วนคัมภีร์ส่วนใหญ่บันทึกเป็นภาษาฮีบรู บางส่วนเป็นภาษาอาราเมอิก ส่วนน้อยมากๆที่ได้รับการบันทึกเป็นภาษากรีก ืnote: 1. C.E (Common Era) เป็นคำกลางๆที่ใช้เรียกแทน A.D (คริสต์ศักราช)     2. B.C.E (Before common era) จากคุณ : Nexus - [ 5 ต.ค. 49 17:08:16 ] จากคุณ : Daffie - [ 5 ต.ค. 49 21:09:02 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สวัสดีครับคุณเหนือสายรุ้ง กทม.อากาศชื้นๆ เย็นๆ ไม่ร้อนอย่างที่คิดครับผม ถือศีลอดสบายมาก ว่าแต่...ผมไปที่ใจสมานสุขุมวิท ซ.6 มาอาทิตย์ก่อน วันที่ไป พอดีว่าเป็นวันพันธกิจ และทราบมาว่า จะมีการอดอาหารอธิษฐาน40วัน เริ่มวันที่1ตุลาที่ผ่านมา พี่เหนือสายรุ้งได้ร่วมอดอาหารมั้ยครับ? เล่าสู่กันฟังมั่งสิ ^^ ตอนนี้ผมมีหลายบ้านครับ ^^" บ้านเก่า บ้านใหม่ พี่สาวเพิ่งคลอดลูก ก็เลยไม่ได้ไปแสวงบุญที่มหาวิหารที่มักกะฮ์ในเดือนรอมฎอน ผมก็ช่วยไปอยู่เป็นเพื่อนพี่สาวอีก T__T ไปๆ มาๆ อันนี้เหนื่อยครับ ตอนนี้ก็สามบ้านเข้าไปแล้ว แต่ผมคงไม่มีสามบ้านจริงๆแน่นอน ^^" (แก้ตัวล่วงหน้า เผื่อคุณเธอผ่านมาอ่าน ^^") จากคุณ : SA Student - [ 5 ต.ค. 49 21:15:15 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ว่าแต่...ผมไปที่ใจสมานสุขุมวิท ซ.6 มาอาทิตย์ก่อน ------------- นั่นแน่....รู้นะว่าไปหาใคร (คุณเธอคนนั้นนะ) อิ อิ พี่ไม่ได้อดอาหารอธิฐานครับ ที่คริสตจักรแจ้งมาเหมือนกัน  ก็คงต้องไว้ไปอดอาหารอธิฐานชดเชยเอานะครับ บ้านที่สามมีได้ ก็มาบ้านพี่ คุณเธอคงไม่ว่าไรหรอก...คริ คริ จากคุณ : เหนือสายรุ้ง - [ 5 ต.ค. 49 21:21:39 ]

ความคิดเห็นที่ 37 บ้านที่สามมีได้ ก็มาบ้านพี่ คุณเธอคงไม่ว่าไรหรอก...คริ คริ <<< ว่าดีกว่าพี่เหนือฯ - -" Y มันจะเต็มบ้าน คุณเธอจะเอา L มายัน ผมก็เจ็บตัวดิ ว่าแต่...สุขุมวิทซ.6 บอกอะไรได้มากขนาดนั้นเชียวเหรอ - -? จากคุณ : SA Student - [ 5 ต.ค. 49 21:49:42 ]

ความคิดเห็นที่ 38 agree with you  คุณเหนือสายรุ้ง ^^" แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 49 22:36:25 จากคุณ : นะ(รก) - [ 5 ต.ค. 49 22:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 39 Elohim เป็นคำพหูพจน์ครับ แต่ว่าไม่ได้แปลว่าพระเจ้ามีมากกว่าหนึ่งองค์หรืออย่างไร การใช้คำนามเป็นพหูพจน์ เช่น Elohim หรือ We หรือ Our ในปฐมกาล แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ และความสูงส่งของพระเจ้าครับ ซึ่งเป็นการใช้กันทั่วไปของกษัตริย์ต่างๆในอาณาบริเวณนั้นในสมัยก่อน ที่ใช้คำพหูพจน์เรียกตัวเองเช่นกัน อันนี้เป็นคำอธิบายที่ผมเรียนมาจากศาสนาจักรของผม(มอรมอน)นานมาแล้วครับ และดังที่ทราบๆกันว่า ศาสนาจักรของผมเชื่อว่าพระเจ้ามี"สามองค์"ด้วยซ้ำ ยังไม่นำตรงนี้ขึ้นมาสนับสนุนความเชื่อของตนเลย กลับบอกว่า การใช้คำพหูพจน์ในปฐมกาล ไม่ได้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าพระเจ้ามีหลายองค์แต่อย่างใดไม่ ส่วนสิ่งที่ผมศึกษามานั้นจะถูกผิดอย่างไร ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณเองด้วยครับ เพียงแต่เสนอคำอธิบายอีกแบบหนึ่งให้เท่านั้นเอง ขอพระเจ้าอวยพรครับ จากคุณ : Urim - [ 5 ต.ค. 49 22:37:35 ]

ความคิดเห็นที่ 40 พิจารณา "ฉัน" และ "เรา" นบีนูฮ์ (โนอาห์) กล่าว 26.107 แท้จริงฉันคือร่อซูลผู้ซื่อสัตย์สำหรับพวกท่าน 26.108 ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮ์ และเชื่อฟังฉัน [107] "I am to you a Messenger worthy of all trust: [108] "So fear Allah, and obey me. นบีอิบรอฮีม (อับราฮาม) กล่าว 6.74 และจงรำลึกขณะที่อิบรอฮีมได้กล่าวแก่บิดาของเขา คืออาซัรว่า ท่านจะยึดถือเอาบรรดาเจว็ดเป็นที่เคารพสักการะกระนั้นหรือ?แท้จริงฉันเห็นว่าท่านและกลุ่มชนของท่านนั้นอยู่ในความหลงผิดอันชัดแจ้ง [74] Lo! Ibrahim said to his father Azar: "Takest thou idols for gods? For I see thee and thy people in manifest error." 6.77 ครั้นเมื่อเขาเห็นดวงจันทร์กำลังขึ้นเขาก็กล่าวว่านี้คือพระเจ้าของฉัน แต่เมื่อมันลับไป เขาก็กล่าวว่านี้คือพระเจ้าของฉัน แต่เมื่อมันลับไป เขาก็กล่าวว่า ถ้าพระเจ้าของฉันมิได้ทรงแนะนำฉันแล้ว แน่นอน ฉันก็จะกลายเป็นคนหนึ่งในกลุ่มชนที่หลงผิด [77] When he saw the moon rising in splendour, he said: "This is my Lord." But when the moon set, he said: "Unless my Lord guide me, I shall surely be among those who go astray." นบียะกูบ (ยาโคบ) กล่าว 2.133 หรือว่าพวกเจ้าอยู่ด้วย เมื่อความตายได้เยี่ยมกรายยะอ์กูบ ขณะที่เขากล่าวแก่ลูก ๆ ของเขาว่า พวกเจ้าจะเคารพสักการะอะไร หลังจากฉัน? พวกเขากล่าวว่า พวกเราจะเคารพสักการะพระเจ้าของท่าน และพระเจ้าแห่งบรรดาบิดาของท่าน คือ อิบรอฮีม อิสมาอีล และอิสฮาก แต่เพียงองค์เดียวและพวกเราจะเป็นผู้สวามิภักดิ์ต่อพระองค์เท่านั้น [133] Were ye witnesses when Death appeared before Ya'qub? Behold he said to his sons: "What will ye worship after me?" They said: "We shall worship thy God and the God of thy fathers, - of Ibrahim, Isma'il and Ishaq, - the One (True) God: to Him we bow (in Islam)." นบีมูซา (โมเสส) กล่าว 7.104 “และมูซาได้กล่าวว่า โอ้ฟิรอาวน์! แท้จริงฉันคือทูตที่มาจากพระเจ้าแห่งสากลโลก   7.105 “เป็นสิ่งสมควรในการ ที่ฉันจะไม่กล่าวเกี่ยวกับอัลลอฮ์ นอกจากความจริงเท่านั้น แท้จริงฉันได้นำหลักฐานจากพระเจ้าของพวกเจ้ามายังพวกเจ้าแล้ว ดังนั้นจงส่งวงศ์วานอิสรออีลไปกับฉันเถิด” [104] Musa said: "O Fir'aun! I am a Messenger from the Lord of the Worlds. [105] "One for whom it is right to say nothing but truth about Allah. Now have I come unto you (people), from your Lord, with a Clear (Sign): so let the Children of Israel depart along with me." นบีอีซากล่าว 3.50 และฉันจะเป็นผู้มายืนยันสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของฉัน อันได้แก่ อัตเตารอต และเพื่อที่ฉันจะได้อนุมัติแก่พวกท่าน ซึ่งบางสิ่งที่ถูกห้ามแก่พวกท่านและฉันได้นำสัญญาณหนึ่งจากพระเจ้าของท่านมายังพวกท่านแล้ว ดังนั้นพึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด และจงเชื่อฟังฉัน 3.51 แท้จริงอัลลอฮ์นั้นคือ พระเจ้าของฉัน และพระเจ้าของพวกท่าน ดังนั้น จงอิบาดะฮ์ ต่อพระองค์เถิด นี้แหละคือทางอันเที่ยงตรง [50] "(I have come to you), to attest the Law which was before me. And to make lawful to you part of what was (before) forbidden to you; I have come to you with a Sign from your Lord. So fear Allah, and obey me. [51] "It is Allah Who is my Lord and your Lord; then worship Him. This is a Way that is straight." นบีมูฮัมมัดกล่าว 6.14 จงกล่าวเถิด ฉันจะยึดถือ “ผู้คุ้มครองอื่นจากอัลลอฮฺกระนั้นหรือ” ซึ่งพระองค์เป็นผู้ประดิษฐ์บรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน และพระองค์เป็นผู้ทรงให้อาหาร และไม่ถูกให้อาหาร จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) แท้จริงฉันถูกใช้ให้เป็นคนแรกในหมู่ที่สวามิภักดิ์ และพวกท่านจงอย่าอยู่ในหมู่ผู้ให้มีภาคีเป็นอันขาด [14] Say: "Shall I take for my protector any other than Allah, the Maker of the heavens and the earth? And He it is that feedeth but is not fed." Say: "Nay! but I am commanded to be the first of those who bow to Allah (in Islam), and be not thou of the company of those who join gods with Allah." มุสลิมทั้งหลายกล่าว 109.1 จงกล่าวเถิด มุฮัมมัดว่า โอ้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเอ๋ย   109.2 ฉันจะไม่เคารพภักดีสิ่งที่พวกท่านเคารพภักดีอยู่   109.3 และพวกท่านก็ไม่ใช่เป็นผู้เคารพภักดีพระเจ้าที่ฉันเคารพภักดี   109.4 และฉันก็มิใช่เป็นผู้เคารพภักดีสิ่งที่พวกท่านเคารพภักดี   109.5 และพวกท่านก็มิใช่เป็นผู้เคารพภักดีพระเจ้าที่ฉันเคารพภักดี   109.6 สำหรับพวกท่านก็คือศาสนาของพวกท่าน และสำหรับฉันก็คือศาสนาของฉัน [1] Say: O ye that reject Faith! [2] I worship not that which ye worship, [3] Nor will ye worship that which I worship. [4] And I will not worship that which ye have been wont to worship, [5] Nor will ye worship that which I worship. [6] To you be your Way, and to me mine. คิดว่าคำกล่าวนี้ของใคร 79.24 แล้วกล่าวว่า ฉันคือพระเจ้าสูงสุดของพวกท่าน [24] Saying, "I am your Lord, most high." และคำกล่าวนี้ของใคร 25.48 และพระองค์คือผู้ส่งลม เป็นการนำข่าวดีล่วงหน้า ท่ามกลางความเมตตาของพระองค์ และเราได้ประทานน้ำบริสุทธิ์ลงมาจากฟากฟ้า [48] And He it is Who sends the Winds as heralds of glad tidings, going before His Mercy, and We send down purifying water from the sky, 35.24 แท้จริงเราได้ส่งเจ้ามาด้วยสัจธรรม เป็นผู้แจ้งข่าวดีและผู้ตักเตือน และไม่มีประชาชาติใด (ในอดีต) เว้นแต่จะต้องมีผู้ตักเตือน (ถูกส่งมา) ยังพวกเขา [24] Verily We have sent thee in Truth, as a bearer of glad tidings, and as a warner: and there never was a people, without a warner having lived among them (in the past). 95.4 โดยแน่นอนเราได้บังเกิดมนุษย์มาในรูปแบบที่สวยงามยิ่ง   95.5 แล้วเราได้ให้เขากลับสู่สภาพที่ตกต่ำยิ่ง [4] We have indeed created man in the best of moulds, [5] Then do We abase him (to be) the lowest of the low, ฯลฯ ลูกา 4:24-25 24 พระองค์ตรัสว่า "เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ไม่มีศาสดาพยากรณ์คนใดได้รับการต้อนรับในบ้านเมืองของตน 25 แต่เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า มีหญิงม่ายหลายคนในพวกอิสราเอลคราวเอลียาห์ เมื่อท้องฟ้าปิดเสียถึงสามปีกับหกเดือนจึงเกิดกันดารอาหารมากทั่วแผ่นดิน 24 And he said, Verily I say unto you, No prophet is accepted in his own country. 25 But I tell you of a truth, many widows were in Israel in the days of Elias, when the heaven was shut up three years and six months, when great famine was throughout all the land; ??? เรา = I จากคุณ : ดาบจันทร์เสี้ยว - [ 6 ต.ค. 49 07:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 41 นบีอีซากล่าว 3.50 และฉันจะเป็นผู้มายืนยันสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของฉัน อันได้แก่ อัตเตารอต และเพื่อที่ฉันจะได้อนุมัติแก่พวกท่าน ซึ่งบางสิ่งที่ถูกห้ามแก่พวกท่านและฉันได้นำสัญญาณหนึ่งจากพระเจ้าของท่านมายังพวกท่านแล้ว ดังนั้นพึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด และจงเชื่อฟังฉัน 3.51 แท้จริงอัลลอฮ์นั้นคือ พระเจ้าของฉัน และพระเจ้าของพวกท่าน ดังนั้น จงอิบาดะฮ์ ต่อพระองค์เถิด นี้แหละคือทางอันเที่ยงตรง ลูกา 4:24-25 24 พระองค์ตรัสว่า "เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ไม่มีศาสดาพยากรณ์คนใดได้รับการต้อนรับในบ้านเมืองของตน 25 แต่เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า มีหญิงม่ายหลายคนในพวกอิสราเอลคราวเอลียาห์ เมื่อท้องฟ้าปิดเสียถึงสามปีกับหกเดือนจึงเกิดกันดารอาหารมากทั่วแผ่นดิน คิดว่าคำกล่าวนี้ของใคร 79.24 แล้วกล่าวว่า ฉันคือพระเจ้าสูงสุดของพวกท่าน [24] Saying, "I am your Lord, most high." ของฟาโรห์ คือ มนุษย์ คุณดาบฯ โชว์เหนือจริง ๆ ครับ พระเจ้าใช้อีกอย่าง มนุษย์ใช้อีกอย่าง แบ่งได้ชัดเจน พระเจ้ากับมนุษย์ ชาวคริสต์ครับ ทำไมพระเยซูใช้ I แล้วแปลเป็นไทยว่า "เรา" ล่ะครับ ต้นฉบับว่าอย่างไรครับ อย่างนี้เท่ากับแปลมั่ว ๆ หลอกกันนี่ครับ I นี่คือพระเยซูคนเดียว ตอนนั้นไม่ได้รวมกับพระบิดาเหรอครับ จากคุณ : คลื่นแทรก - [ 6 ต.ค. 49 08:06:33 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ผมไม่ได้มาว่า เรื่องขอภาษาไทย  หรือสรรพนาม เพราะการใช้สรรพนาม นั้นบางครั้งเป็นทั้งเอก  หรือ พหู แต่ผมยกให้เห็นว่า  คนยิว ตั้งใจใช้ชื่อนาม Elohim ในขณะที่ เมื่อกล่าวถึง พระ หรือ เทพเทียมเท็จ ทั่วไป  อาจใช้ el คงลงในรูปเอกพจน์ คนยิวไม่รู้จัก ตรีเอกานุภาพ  และคงเข้าใจภาพผิด  แต่ว่า คนยิวรู้ว่า  เมสไซอาห์  คือ ตัวแทนพระเจ้า  หรือไม่ก็คือพระเจ้า นั้นเองที่จะมาครอบครอง ........................................................................ และตอบ ข้อ ปฐมกาล 1  ที่ผมยกมาด้วยสิครับ พระเจ้าชวนใคร   ไม่งั้น  พระเจ้า ไม่บอกว่า ให้เรา  ... พระเจ้า คงประสงค์พูด เลยว่า   เราจะ... แน่นอนบางตอน พระเจ้า เป็น 1 เดียว มีองค์เดียว ย่อมใช้คำว่า  I  และ ผมบอกให้ว่า ทั้งเล่ม เวลา พระเจ้ากล่าวถึงพระองค์เอง ก็ใช้สรรพนามเอกพจน์ ทั้งเล่มครับ พระองค์ไม่ใช้สรรพนามพหูพจน์ (We) แต่เวลาให้บันทึกชื่อ พระองค์ทรงเลือกใช้  Compound Noun  ไม่ลองสงสัยบ้างหรือครับ ------------------------------------------------------ ผมเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวนะครับ    คริสเตียนเชื่อในพระเจ้าองค์เดียว พระเจ้าไม่มีลูก   คำว่า พระบุตรอันหมายถึง พระเยซู ก็ไม่ได้หมายความว่า พระองค์ ออกมาจาก พระเจ้าพระบิดา..... จากคุณ : Elshaddai - [ 6 ต.ค. 49 09:26:34 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอขอบคุณ SA ด้วยครับ ที่ช่วยให้ข้อมูล ..... ผมแค่ยกมาให้คิด  เพราะผมเชื่อว่า  พระเจ้าทรงมีประสงค์ บางอย่างที่ให้ โมเสส  เลือกบันทึกพระนาม พระองค์ด้วย นามนี้ และพระองค์ ก็เป็นพระเจ้า องค์เดียวครับ จากคุณ : Elshaddai - [ 6 ต.ค. 49 09:50:00 ]

ความคิดเห็นที่ 44 "แต่ผมยกให้เห็นว่า  คนยิว ตั้งใจใช้ชื่อนาม Elohim ในขณะที่ เมื่อกล่าวถึง พระ หรือ เทพเทียมเท็จ ทั่วไป  อาจใช้ el คงลงในรูปเอกพจน์" รูปเอกพจน์ของ Elohim คือ Eloh ครับ ไม่ใช่ El สังเกตุตรง -im นั่นคือ -s ของภาษาอังกฤษ ถ้ายังไง รบกวนช่วยยกตัวอย่างของการใช้คำดังกล่าวที่ใช้ Eloh โดยหมายความถึง "พระ-เจ้า" หรือ "เจว็ด" (เอาที่เป็นฮิบรูน่ะครับ) มาดูกันดีกว่า เพิ่มความรู้ของผมด้วย ....................... "คนยิวไม่รู้จัก ตรีเอกานุภาพ  และคงเข้าใจภาพผิด  แต่ว่าคนยิวรู้ว่า  เมสไซอาห์  คือ ตัวแทนพระเจ้า  หรือไม่ก็คือพระเจ้า นั้นเองที่จะมาครอบครอง" คุณจะบอกว่า "ชาวยิวเข้าใจผิด เลยบันทึกพระคัมภีร์ผิดพลาด" หรือไงครับ? ไหนว่าคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า 2 ทิโมธี 3:16 พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี และการอบรมในเรื่องความชอบธรรม หากบอกว่าชาวยิวบันทึกพระคัมภีร์เก่าพลาด แล้วพระคัมภีร์ใหม่ล่ะ? อย่าบอกปัดว่า "พระคำท่อนดังกล่าว พูดถึงเฉพาะพระคัมภีร์ใหม่" น่ะครับ ไม่ดีต่อตัวท่านเลย .............................. "พระองค์ไม่ใช้สรรพนามพหูพจน์ (We) แต่เวลาให้บันทึกชื่อ พระองค์ทรงเลือกใช้  Compound Noun  ไม่ลองสงสัยบ้างหรือครับ" ...อธิบายไปแล้วเรื่องหลักไวยากรณ์ของภาษาเซเมติก ในการใช้พหูพจน์เทียม เพื่อแสดงความเคารพ กฎนี้แพร่หลายอยู่ และยังมีให้เห็นได้ในกสนใช้ภาษาปัจจุบันครับ อีกอย่าง Let us คำว่า "Us" ก็คือ รูปกรรมของ "We" ลองดู Genesis 3:22 And the LORD God said, Behold, the man is become as one of us, to know good and evil: and now, lest he put forth his hand, and take also of the tree of life, and eat, and live for ever: ............................ แทนที่จขกท.จะอธิบายถึง "ความเป็นหนึ่งเดียวกันของตรีเอกาณุภาพ" ... - -" ... ............................... ส่วนประเด็น "พระบิดา พระบุตร" คุณต้องขยายความครับว่า "พระบุตรเป็นพระเจ้าได้อย่างไร" (ขอแถมเรื่องพระวิญญานอีกอัน) ขยายมาแล้วไม่มัดตัวเองเมื่อไหร่ ตั้งเป็นกระทู้ไว้รอผมได้เลย ผมพร้อมจะเข้าไปหาความรู้ ขอความสันติจงมีแด่ผู้ที่อยู่ในทางนำ จากคุณ : SA Student - [ 6 ต.ค. 49 10:14:23 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ยิ่งอธิบายยิ่งงงครับ 3 ใน 1 1 แต่มี 3  แล้วอย่างนี้เวลาตัดสินใจใครตัดสิน ใครเป็นผู้กำหนด  งงวุ้ย จากคุณ : รักสันติ - [ 6 ต.ค. 49 10:17:46 ]

ความคิดเห็นที่ 46 พระเจ้าเรียกตัวเองว่า พวกเรา ทำไมผมมองเป็นความขัดแย้งล่ะครับ จากคุณ : คลื่นแทรก - [ 6 ต.ค. 49 10:29:28 ]

ความคิดเห็นที่ 47 คนยิวไม่ได้บันทึกผิดครับ  ....  ผมคิดว่าพระเจ้า ต่างหาก อยากให้โมเสส บันทึกในรูปนี้    พูดง่าย พระเจ้าเป็นคนเลือกคำครับ และผมคิดว่าคนยิว มีความคิดว่า เมสไซอาห์ เป็นพระเจ้า ซึ่งเขาเอง ยอมรับ ตรีเอกานุภาพโดยไม่รู้ตัว มากกว่าครับ เพราะมีตอนนึงที่ ดาวิด บันทึกไว้ว่า   พระเจ้าตรัสกับองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าว่า ... คือ คนยิวมีภาพ เมสไซอาห์ คือกษัตริย์ที่จะมาถึง  แต่ในขณะเดียวกัน เมสไซอาห์ ผู้นี้  มิใช่เป็นแค่มนุษย์เท่านั้น ..... ยินดีที่ได้สนทนาด้วยครับ คุณ SA จากคุณ : Elshaddai - [ 6 ต.ค. 49 11:04:10 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ว่าแต่...สุขุมวิทซ.6 บอกอะไรได้มากขนาดนั้นเชียวเหรอ - -? จากคุณ : SA Student -------------- ใช่ครับ อิ อิ   พีเก่งปะละ หุ หุ   ฝากดูแลน้องด้วยนะ...... จากคุณ : เหนือสายรุ้ง - [ 6 ต.ค. 49 11:06:32 ]

ความคิดเห็นที่ 49 "พระเจ้าตรัสกับองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าว่า" ...ใช่พระคำประมาณ "And God spoke to my LORD" รึเปล่าครับ? ถ้าใช่ อันนั้นหมายถึง "Lord" ที่เป็น "Master" หรือ "ธรรมาจารย์" ครับ ลองเช็คฉบับฮิบรู และรูปแบบการใช้คำดังกล่าวดู เป็นรูปแบบการใช้ที่สืบทอดกันมาจนถึงพระคำใหม่ (ลูกา และ มัทธิว) พอมาถึง ยอฮ์น การใช้ดัง กล่าว ถูกตีความไปว่าเป็น "LORD The God" ..................... พี่เหนือฯมาฝากฝังไรผม - -" คุณเธอคงไม่ต้องการหรอกฮับ T__T จากคุณ : SA Student - [ 6 ต.ค. 49 15:53:17 ]

ความคิดเห็นที่ 50 "ผมคิดว่าพระเจ้า ต่างหาก อยากให้โมเสส บันทึกในรูปนี้" ทำไม คุณ Elshaddai คิดแทนพระเจ้าล่ะ  พระเจ้าบอกไว้ตรงไหนเหรอ  ว่าอยากให้โมเสสบันทึกรูปคำนี้  ถ้าคุณยอมรับว่า ยิว เอง มีระบบการบัทึกที่เคร่งครัด  เขาก็ต้องมีความแตกฉานในภาษาที่เขาบันทึกอยู่ด้วย  ดังนั้น เรื่องที่บอกว่า  ยิวไม่รู้ว่า ตัวเองบันทึกพระเจ้าในลักษณะ ตรีเอกานุภาพเนี่ย  มันไม่ เมกเซนท์ ไปหน่อยเหรอครับ ผมว่า คำว่า  ตรีเอกานุภาพต่างหาก  ที่ดูน่าจะเป็นคำถาม  มากกว่า ว่า ยอมรับการบัญญัติคำนี้กันได้อย่างไร  ทั้ง ๆ ที่คนบัญญัติเองก็ไม่สามารถอธิบาย คำนี้ได้ และคำนี้ก็ไม่ปรากฏในคัมภีร์เลยสักที่เดียว  เป็นการสรุปความและเข้าใจกันเอง จากคุณ : Devil in baggy pants - [ 6 ต.ค. 49 16:17:57 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ก่อนจะคิดอะไรเลยเถิดแบบนี้  จขกท น่าจะตั้งกระทู้ถามว่า " ผมควรไปเรียนไวยากรณ์ภาษาโบราณที่ไหนดี " ********************************** คุณ SA Student  อยู่ South Africa หรืออยู่เมืองไทยเอ่ย จากคุณ : ฟ้าคำนวณ - [ 6 ต.ค. 49 19:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 52 น้าซาครับ ผมก้ออดกะเขาด้วยนะ แต่อดแค่วันละมื้อเองครับ ฮี่ ๆ ๆ จากคุณ : ลุงตุ่น - [ 6 ต.ค. 49 21:37:12 ]

ความคิดเห็นที่ 53 #51 ไวยากรณ์โบราณเรียนได้ที่วิทยาลับเทววิทยาทั่วๆไปครับ ยิ่งเป็นภาเซเมติก ไม่ยากหรอก เพราะเป็นกลุ่มภาษาที่ไม่ค่อยมีการพัฒนาตัวเอง (ภาษาไม่วิบัติ) เหมือนกลุ่มอื่นๆ เช่น ผมสามารถใช้ไวยากรณ์ที่เป็นรูปแบบการบันทึกกุรอ่านเมื่อพันสี่ร้อยปีก่อน มาเขียนเรียงความส่งเข้าประกวดชิงทุนการศึกษาหนูน้อยนักเขียนของยูนิเซฟได้โดยไม่มีปัญหาครับ ตอนนี้ผมอยู่ไทย ปิดเทอมเที่ยวบ้านครับผม ................... #52 เพื่อนผมมานน้ำหนักไม่ถึง T__T อดไปเด๊วเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อธิษฐานเผื่อด้วยน่ะครับ เห็นในคู่มือการอดอาหารแว้บๆว่ามีอยู่แบบนึงคล้ายกับการอดอาหารของมุสลิมคือ อดอาหารตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้น จนถึงดวงอาทิตย์ตก (แต่ดื่มน้ำได้) ไม่ทราบว่ามีใครอดด้วยวิธีนั้นบ้างครับ? เล่าสู่กันฟัง ^^ แล้วลุงตุ่นได้รับอะไรตอบแทนมั่งครับในการอดอาหาร หมายถึง spiritual upliftment หรือ ความสงบทางใจ หรือ อะไร ยังไง? รีวิวด้วยเน้อ ^^ จากคุณ : SA Student - [ วันเกิด PANTIP.COM 08:46:22 ]

ความคิดเห็นที่ 54 re:53 ผมคาดหวังจะได้แค่วินัยเท่านั้นล่ะครับ เป็นการแสดงความตั้งใจที่จะอธิษฐานเท่านั้นเอง คงไม่ได้มีอะไรพิเศษ เท่าไรหรอกครับน้าซา จากคุณ : ลุงตุ่น - [ วันเกิด PANTIP.COM 11:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อีกเรื่องครับ เรื่อง พระคัมภีร์ไบเบิล กับมุสลิมนี่ ผมเคยเข้าใจว่า มุสลิมอ่านโตราห์ (พระคัมภีร์เดิม 5 เล่มแรก) ผมเข้าใจว่า ใช้เล่าเดียวกันมาโดยตลอดจนได้ความรู้จากมุสลิมในพันทิพย์ครับ สรุปว่า เขาใช้แต่ อัลกุรอ่าน เล่มเดียวเท่านั้นครับ เนื่องจากเชื่อว่า พระคัมภีร์ที่เราใช้ ถูกบันทึกอย่างบิดเบือนครับ จากคุณ : ลุงตุ่น - [ วันเกิด PANTIP.COM 11:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เออ คุณคลื่นแทรกเข้าใจผิดแล้ว ที่ผมยกมาคือจะแสดงให้เห็นว่า เรา และฉัน ใช้ได้กับบุคคลเดียวก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นประธานหลายคนนะครับ โดยเอาไบเบิ้ลมาเทียบ i = เรา จริงเหรอ? ก็จริงไงล่ะ มันเป็นเรื่องของภาษา อย่างภาษาไทยคำว่าเธอ (you) จริง ๆ คืออ้างถึงบุรุษที่สอง แต่มันก็กลายเป็นบุรุษที่สามก็ได้ (she) ถ้าแปลตรงตัวทื่อ ๆ โดยไม่ดูบริบทรอบ ๆ ก็ไม่ถูกต้องทีเดียว ไม่ใช่ให้พระเจ้าใช้แต่เรานะครับ เพราะในอัลกุรอ่าน พระเจ้าใช้ฉันก็มี โดยส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะการอ้างอิงคำกล่าวของพระองค์เอง เช่น 2.30 และจงรำลึกถึงขณะที่พระเจ้าของเจ้าได้ตรัสแก่มะลาอิกะฮฺว่า แท้จริงข้าจะให้มีผู้แทนคนหนึ่งในพิภพ มะลาอิกะฮฺได้ทูลขึ้นว่า พระองค์จะทรงให้มีขึ้นในพิภพซึ่งผู้ที่บ่อนทำลาย และก่อการนองเลือด ในพิภพกระนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่พวกข้าพระองค์ให้ความบริสุทธิ์ พร้อมด้วยการสรรเสริญพระองค์ และเทิดทูนความบริสุทธิ์ในพระองค์ พระองค์ตรัสว่า แท้จริงข้ารู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้ จากคุณ : ดาบจันทร์เสี้ยว - [ วันเกิด PANTIP.COM 20:37:59 ]