Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ## การให้ความคุ้มครอง ##

    ขอความสันติสุขจงมีแด่ทุกท่านครับ

    ด้วยพระนามของอัลเลาะห์ ผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงกรุณาปราณีเสมอ

    --------------------------------------------------------

    ในปี ฮ.ศ.15 (ค.ศ.637) กองทัพมุสลิม ภายใต้การนำของ อบูอุบัยด๊ะฮฺ แม่ทัพมุสลิม สามารถยึดเยรูซาเล็มมาจากไบเซนไทน์ได้  หลังจากการล้อมเมืองอยู่เป็นเวลา 4 เดือน  แต่ทั้งนี้มีเงื่อนไขที่ฝ่าย เยรูซาเล็ม ยื่นต่อกองทัพมุสลิมในขณะนั้น คือ ต้องให้ ท่านอุมัรฺ อิบนุลค็อฏฏอบ ซึ่งเป็นผู้ปกครองรัฐอิสลาม (คอลีฟะห์ ท่านที่ 2 ) ในขณะนั้น เดินทางมาลงนามในสนธิสัญญาด้วยตัวเอง

    อบูอุบัยด๊ะฮฺ แม่ทัพมุสลิมจึงได้เดินทางไปหาเคาะลีฟะฮฺอุมัร อิบนุลค็อฏฏอบและ ได้บอกท่านว่า  ชาวเมืองเยรูซาเล็มต้องการให้ท่านมารับกุญแจเมืองเอง ...ดังนั้น อุมัร จึงได้ออกเดินทางไปยังเยรูซาเล็มพร้อมกับผู้ติดตามรับใช้เพียงคนเดียว  โดยไม่มีหน่วยทหารติดตามมา  แม้แต่คนเดียว ... เมื่อเดินทางมาถึง ชาวเมืองเยรูซาเล็มได้ตอนรับท่านด้วยความยินดี ท่านได้ลงนามสัญญาสันติภาพที่รู้จักกันดีฉบับหนึ่งกับชาวเมืองซึ่งมีใจความว่า

    “ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ ...นี่คือสิ่งที่อุมัรผู้นำแห่งศรัทธาชน  บ่าวของอัลลอฮฺ  ได้ให้แก่ชาวเมืองเยรูซาเล็มเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของทรัพย์สินเงิน โบสถ์ เป็นต้น ...โบสถ์ของพวกเขาจะไม่ถูกทำลาย พวกเขาจะไม่ถูกทำร้ายหรือถูกบังคับให้ยอมรับศาสนาโดยไม่เต็มใจ  สัญญานี้ได้รับการประกัน โดย เคาะลีฟะฮฺและมุสลิมทั้งหมดและถูกเฝ้าดูโดยอัลลอฮฺและรอซูลของพระองค์ตราบใดที่อีกฝ่ายหนึ่งอีกฝ่ายหนึ่งปฏิบัติตามและจ่ายภาษีญิซยะฮฺ”

    ...สนธิสัญญานี้ จึงเป็นสนธิสัญญาฉบับแรกที่ ปลดปล่อย เยรูซาเล็มจาก การปกครองของ  ไบเซนไทน์


    ในยุคต่อมา คือ สมัยของ เศาะลาฮุดดีน ยูซุฟ อิบนุอัยยูบ  หรือ "จอมทัพ ซาลาดิน" ในยุคครูเสด  มีเหตุการณ์ที่สำคัญ อีกครั้งที่เกิดขึ้น คือ ในเดือน ตุลาคม ค.ศ.1187  กองทัพมุสลิม ภายใต้การนำของ ซาลาดิน สามารถยึด เยรูซาเล็ม ได้อีกครั้ง หลังจากที่ตกอยู่ในมือของพวกแฟรงค์มาเป็นเวลา 88 ปี


    สิ่งที่ ซาลาดิน ได้ให้แก่ชาวเมืองเยรูซาเล็มในตอนนั้นก็คือ  สนธิสัญญาสันติภาพ และ การให้คำมั่นสัญญาในการปกป้องความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของชาวเมือง เยรูซาเล็ม  ซึ่งเป็นไปในลักษณะเดียวกันกับที่ ท่านคอลีฟะห์อุมัรฺ ได้เคยสัญญาไว้


    ...สิ่งที่วีรชนทั้ง 2 ท่านได้กระทำนั้น  อยู่ในหลักเกณฑ์ข้อบัญญัติว่าด้วยการทำสงครามศาสนา ในเรื่องของ

                      "การให้ความคุ้มครอง"


     ในหลักเกณฑ์ การให้ความคุ้มครองต่อทหารฝ่ายศัตรูนั้น  มีหลักอยู่ว่า  หากมีมุสลิมคนใดให้สัญญา หรือ กล่าวคำพูดว่าจะให้การคุ้มครองให้ปลอดภัยแล้ว  ถือว่า คำพูด หรือ ข้อสัญญาดังกล่าว มีผลบังคับใช้ต่อทั้งกองทัพ  ไม่ว่า ผู้ที่ให้สัญญานั้นจะเป็นถึง แม่ทัพ หรือเพียง ทาสในกองทัพ ก็ตาม โดยมีเงื่อนไขว่า ผู้ที่ให้คำสัญญาต่อศัตรูนั้น  ต้องมีระยะเวลาการเป็นมุสลิมอย่างน้อยในสมรภูมิหนึ่ง  และตราบเท่าที่อีกฝ่ายไม่ละเมิดข้อสัญญา หรือ ก่อสงครามขึ้น


    โดยทั้งนี้ มีหะดิษที่ท่านนบีมูฮัมหมัด (ศ.ล.) กล่าวว่า

    "มุสลิมทุกคน มีความเสมอภาคกันในการให้ความคุ้มครอง  แม้ใครจะอยู่ฐานะต่ำเพียงใด  ก็มีสิทธิรับปากที่จะให้ความคุ้มครองต่อศัตรูที่มาขอพึ่งได้เท่ากัน"  (บันทึกโดย อบูดาวู๊ด และอิบนุมาญะห์)

    ....ในการรับปากว่าจะให้ความคุ้มครองนั้น กระทำขึ้นในเวลาใดก็ได้  และถือว่า เมื่อมีการรับปากให้ความคุ้มครองแล้ว สงครามจะต้องยุติโดยทันที  โดยไม่มีข้อแม้  และทั้งสองฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้โดยเคร่งครัด

    ------------------------------------------------
    รูปแบบการให้ความคุ้มครอง

    ...การให้ความคุ้มครองนั้น เกิดได้หลายรูปแบบ  หากมีทหารฝ่ายศัตรูคนใด ยอมแพ้ หรือ แสดงออกว่าต้องการจะวางอาวุธ หรือ เข้ามาขอหลบอาศัยหนีภัยสงคราม  แล้วกล่าวว่า "ข้าพเจ้าขอความคุ้มครองจากท่าน"

    มุสลิมคนนั้น เพียงกล่าวว่า "อย่ากลัวเลย" หรือ กวักมือ หรือพยักหน้า หรือ ยกมือชี้ขึ้นสู่ท้องฟ้า  หรือการกระทำใด ๆ ที่แสดงให้เห็นว่า  ยอมรับที่จะให้ความคุ้มครองแล้ว  สัญญานั้น มีผลบังคับใช้ทันที

    -----------------------------------------------
    ภาระผูกพัน  จากสัญญาการให้ความคุ้มครอง

    ...เมื่อ มุสลิมคนใด ให้สัญญาว่าจะให้ความคุ้มครองแล้ว  ถือว่า จะต้องไม่มีการละเมิดสัญญา ( ตราบที่อีกฝ่ายไม่ละเมิดก่อน)  กล่าวคือ มุสลิมคนใดละเมิดสัญญาที่ให้ไว้ ถือว่าเขามีความผิด

     ในสงครามครั้งหนึ่ง  ท่านอุมัรฺ อิบนุลค็อฏฏอบ ได้รับรายงานว่า  ทหารมุสลิมคนหนึ่ง ได้สังหารเชลย  ทั้ง ๆ ที่ทหารผู้นั้นได้ให้คำมั่นว่าจะคุ้มครอง โดยกล่าวว่า "อย่ากลัวเลย" แก่เชลยคนนั้น  ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ถือว่า ผิดหลักการ การให้ความคุ้มครอง   ...ท่าน อุมัรฺ จึงมีสาส์นไปยังแม่ทัพ  มีใจความว่า

    "มีทหารในกองทัพของท่านผู้หนึ่ง ได้กล่าวแก่ผู้ที่มาขอความคุ้มครองว่า "อย่ากลัวเลย" แต่กล้วกลับฆ่าเสียในทันที  ในนามแห่งอัลเลาะห์  ข้าพเจ้า ( คือ ท่านอุมัรฺ) ขอให้ท่านทำการสอบสวน และสืบจับทหารผู้นั้นให้ได้ แล้วนำตัวไปตัดศีรษะเสีย"


    -----------------------------------------------
    ขอบเขตการให้ความคุ้มครอง

     จากที่กล่าวมาแล้วว่า  ท่านนบีได้สั่งเสียว่า มุสลิมทุกคน มีความเสมอภาคกันในการให้ความคุ้มครอง  ...ทั้งนี้ มีเหตุการณ์หนึ่ง ที่ได้รับการปฏิบัติตามที่ท่านนบีได้สั่งไว้คือ  ในสมัยการปกครองของท่านอุมัรฺ อิบนุลค็อฏฏอบ   มีทาสคนหนึ่งในกองทัพ ได้ให้คำมั่นแก่ทหารฝ่ายศัตรู ที่มาอาศัยในป้อมปราการแห่งหนึ่ง  นายทัพจึงมีสาส์นไปถึง ท่านคอลีฟะห์ อุมัรฺ ว่า  จะโจมตีป้อมนั้นได้หรือไม่?

     ท่านคอลีฟะห์ จึงมีสาส์นตอบกลับว่า
    " ทาสมุสลิมให้คำมั่นว่าจะคุ้มครองนั้น  ก็เป็นมุสลิมเท่า ๆ กับเรา  ฉะนั้น คำมั่นนี้จึงผูกพันถึงมุสลิมทุกคนด้วย"

    ...การให้คำมั่นว่าจะคุ้มครอง เป็นหลักการข้อหนึ่งของการปฏิบัติตามข้อบัญญัติว่าด้วยการทำสงครามในศาสนาอิสลาม  ผู้ใดละเว้นหรือ ละเลยความสำคัญ  ย่อมหมายถึงการ ปฏิเสธข้อบัญญัติแห่งหลักสิทธิมนุษยชนในอิสลาม และเป็นการละทิ้งคำสั่งของพระผู้เป็นเจ้า และท่านศาสดา


    “และหากพวกเขาโอนอ่อนมาเพื่อการประนีประนอมแล้ว เจ้า ก็จงโอนอ่อนตามเพื่อการนั้นด้วย และจงมอบหมายแต่อัลลอฮฺเถิด แท้จริงนั้นพระองค์คือผู้ทรงได้ยินทรงรอบรู้” (กุรอาน 8:61)

    "และหากว่ามีคนใดในหมู่มุชริกได้ขอให้เจ้าคุ้มครอง ก็จงคุ้มครองเขาเถิด จนกว่าเขาจะได้ยินดำรัส ของอัลลอฮ์ แล้วจงส่งเขายังที่ปลอดภัยของเขา นั่นก็เพราะว่าพวกเขาเป็นกลุ่มชนที่ไม่รู้" (กุรอาน 9:6)



    -----------------------------------------------
    และพระดำรัสของพระองค์เป็นสัจจะเสมอ  ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพยาน  

    ด้วยจิตคารวะครับ

    จากคุณ : kheedes - [ 7 ธ.ค. 49 03:17:17 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom