ความคิดเห็นที่ 1 ฮิญาบคือ?                                                                  : ความหมายของฮิญาบและทำไม “ฮิญาบ” จึงมากกว่า “ผ้าคลุมผม” ทำไมต้องคลุม?                                                          : เหตุผลที่ต้องคลุมฮิญาบและคลุมเพื่อใคร คลุมเมื่อไหร่?                                                            :สตรีมุสลิมจำเป็นต้องเริ่มคลุมฮิญาบตั้งแต่เมื่อไรและต้องคลุมฮิญาบต่อหน้าใครบ้าง ฮิญาบของฉัน ศรัทธาของฉัน                                      : รูปภาพการคลุมฮิญาบที่ถูกต้องและคุณค่าของฮิญาบ ข้อเท็จจริง                                                                : ผลการสำรวจความคิดเห็นที่ยืนยันคุณประโยชน์ของฮิญาบ คลุมอย่างไร?                                                            : อธิบายการคลุมฮิญาบที่ถูกต้องและทรรศนะของนักปราชญ์อิสลามเกี่ยวกับขอบเขตการปกปิดที่แตกต่างกัน ที่ดีกว่า...                                                                  : การคลุมฮิญาบตามทรรศนะที่ปกปิดใบหน้าและฝ่ามือ เข้าใจผิด!                : พูดคุยประเด็นที่มักสร้างความเข้าใจผิดของคนที่ไม่ใช่มุสลิม ปัญหาปวดหัว       : ข้อพึงปฏิบัติของผู้ที่คลุมหิญาบและไม่คลุมหิญาบ ด้านความคิด การวางตัว และการตรวจสอบตนเอง จากคุณ : hayeerun - [ 9 ธ.ค. 49 02:33:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ดีครับ เห็นด้วยกับการคลุมผมของสตรีในโลกอิสลามครับ ขอเทพมังกรอวยชัย เอนมา จากคุณ : idolation - [ 9 ธ.ค. 49 10:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ดีเหมือนกันครับ สวยดี คลุมไปเถอะ น่ารักดีออก แต่ไม่เห็นด้วยที่ว่า เพศหญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ เพราะถ้าอ่อนแอจริงแล้ว  พระเจ้าไม่ให้อุ้มท้องหรอกครับ ลองไปดูตามไร่นา  หรือการก่อสร้าง หรือตามตลาดร้านค้าดูนะครับว่า  ผู้ที่กระทำอยู่นั้นส่วนใหญ่เป็นหญิงหรือชาย หรือถ้าลองเปรียบเทียบกับสัตว์ก็ได้ สุนัขป่า จ่าฝูงจะเป็นตัวเมีย  หรือฝูงสิงโต ผู้มีหน้าที่ล่าจะเป็นตัวเมีย  มีแต่ทางศาสนาเท่านั้นที่จำกัด สิทธิสตรี เช่นไม่ให้บวช  ไม่ให้เข้าร่วมละหมาด  สตรีจึงเป็นได้อย่างเดียวในโลกแห่งจิตวิญญาน คือ เป็นแม่มด  แม้กระทั่งหมอผียังเป็นผู้ชาย เราว่า สิทธิไม่เท่าเทียมกันก็มีแค่นี้แหละ  แต่ก็ไม่เคยมีสตรีไหนเรียกร้องมากกว่านี้นะ จากคุณ : jonathan w. - [ 9 ธ.ค. 49 10:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ลองเอาผู้ชายไปคลอดลูกคงเจ็บตายซะก่อน ...ผู้หญิงแข็งแกร่งกว่าที่เราคิดนะครับ ลองอ่านจากวารสารการวิจัยต่างๆก็ได้ อายุเฉลี่ยก็มากกว่า เพียงแต่ว่าแตกต่างจากผู้ชายเท่านั้นเอง ไม่ใด้อ่อนแอกว่า ลัทธิผู้ชายเป็นใหญ่มันฝังหัวมนุษยชาติมาหลายพันปีแล้วครับการจะเปลี่ยนมันต้องใช้เวลาหน่อย เพิ่งเริ่มมาได้ไม่ถึงร้อยปีได้เท่านี้ผมว่าดีถมถืดไปแล้ว ผมกะว่าต้องใช้เวลาซักสอง สามร้อยปีถึงจะเห็นผล จากคุณ : Nexus - [ 9 ธ.ค. 49 10:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นอาภรณ์ที่มีเกียรติ.........ยูนิฟอร์มของผู้ศัทธา ญาซากัลลอฮฺ จากคุณ : Air Nanas - [ 9 ธ.ค. 49 10:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ได้รับหนังสือแล้วค่ะจากมุสลิมะฮฺคนหนึ่ง อัลฮัมดุลิลลาฮฺ จะอ่านทุกหน้า อินชาอัลลอฮฺ เป็นอาภรณ์แห่งชีวิตที่แท้จริง เคยมีรุ่นน้องคนหนึ่งเล่าว่า... มีอาจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่งถามเธอว่าต้องการความช่วยเหลือไหมเรื่องฮิญาบ หากโดนกดขี่ให้บอก จะช่วยให้ไม่ต้องคลุม สงสาร จากคุณ : Aisha - [ 9 ธ.ค. 49 11:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เครื่องแบบนักศึกษา ปัญหาที่ไม่รู้จบ! โดย สุขุม เฉลยทรัพย์ อธิการบดีสถาบันราชภัฏสวนดุสิต ช่วงนี้ คนที่เข้าสู่วัย "ผู้ใหญ่" เริ่มจะมีอาการขัดหู ขัดตา และขัดอก ขัดใจ กับการแต่งกายสไตล์กระโปรงสั้น ผ่าสูง รัดรูป คอลึก ของนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาตามสถาบันต่างๆ อยู่ไม่น้อย ถึงกับมีการตำหนิ ติเตียนไปยังสถาบันเหล่านั้นอย่างต่อเนื่องและมีการวิพากษ์ วิจารณ์รุนแรงขึ้นเป็นลำดับ ทำให้อดนึกย้อนไปถึงช่วงหนึ่งที่บรรดาเด็กวัยรุ่นน้อยใหญ่ มีความนิยมการแต่งกายแบบล่อแหลม เช่น สายเดี่ยว เกาะอก เว้าหน้า ผ่าหลัง ฯลฯ จนเกิดกระแสวิพากษ์ วิจารณ์อยู่นานนับปีที่ผ่านมาไม่ได้ ในขณะที่ผู้ใหญ่ทั้งหลาย ออกมาเต้นแร้ง เต้นกา ต่อว่าเรื่องการแต่งกายของเด็กเหล่านั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย จนกลายเป็น "ประเด็น" (Issue) ขึ้นเวทีสาธารณะ ถกเถียงกันให้วุ่น ทั้งฝ่ายพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ นักวิชาการ รัฐบาลและสื่อมวลชน ถึงความไม่ดี ไม่งาม ในเรื่องการแต่งกายสไตล์โป๊ของพวกเขา ปรากฏว่า ณ วันนี้ ไม่มีอะไรดีขึ้น เด็กวัยรุ่นหลายคน ก็ยังคงนิยมชมชอบการแต่งกายสไตล์โป๊ในแบบต่างๆ ตามที่มีวางขายอยู่ในตลาดเช่นเดิม โดยไม่แยแสและไม่ยี่หระต่ออาการถูกน้ำร้อนลวกของบรรดาผู้ใหญ่ที่ออกมาแสดงความห่วงใย หรือบางคนก็ทนไม่ได้ จนถึงกับแสดงความรังเกียจเหยียดหยามอย่างออกหน้าออกตา หาว่าการแต่งกายของพวกเขาเป็นพฤติกรรมของ "หญิงขายตัว" มั่วยา และก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม เป็นต้น หากถามว่าเหตุใด? วัยรุ่นเหล่านั้นจึงไม่มีปฏิกิริยาสนองตอบต่อคำพูดตักเตือนสักเท่าใดนัก ทั้งที่มีการให้เหตุผลถึงอันตรายในแง่ต่างๆ มากมาย ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะการรณรงค์ในเรื่องดังกล่าวยังมีน้อยเกินไป และไม่มีความ "จริงจัง" เพียงพอ ที่จะทำให้พวกเขารู้สึกคล้อยตามก็เป็นได้ อนึ่ง พวกเขาอาจมองการแต่งกายเหล่านั้น ว่าเป็นเพียง "แฟชั่น" ที่ผันผ่านไปตามกาลเวลา คงไม่มีเด็กคนใด มัวมาใส่สายเดี่ยว แขนกุด ในยามที่แฟชั่นกำลังนิยมชมชอบเสื้อผ้าสไตล์แขนยาว คอเชิ้ต อย่างแน่นอน ในทางกลับกัน การออกมาตำหนิติเตียนในเรื่องดังกล่าว ก็ทำให้เกิดปฏิกิริยาที่เรียกว่า "ยิ่งห้าม ยิ่งยุ" ดังจะเห็นได้จากการเผยแพร่ภาพเด็กสาวใส่เครื่องแบบนักศึกษาในเชิงประชดประชัน ที่มีลักษณะวาบหวิวเกินจริงตามสื่ออินเตอร์เน็ต ทั้งยังติดเข็มสัญลักษณ์ของสถาบันการศึกษามีชื่อแห่งหนึ่ง จนทำให้ผู้ที่ส่วนเกี่ยวข้องกับสถาบันดังกล่าวต้องออกมาประณามการเผยแพร่ภาพอย่างดุเดือด จากเหตุผลข้างต้น แสดงให้เห็นว่า พวกเขาไม่ได้ฟังเสียงเรียกร้องของฝ่ายผู้ใหญ่แต่อย่างใด ฉะนั้น ต่อให้รณรงค์อีกสักกี่ครั้งหรือแม้กระทั่งออกคำสั่งห้ามไม่ให้ใส่ พวกเขาก็คงจะยังฝ่าฝืนอยู่เช่นเดิม เพราะผู้ใหญ่ ไม่ได้มีอิทธิพลต่อความคิด ความอ่านของพวกเขาเหล่านั้นเท่ากับ "ผู้นำทางด้านแฟชั่น" ผู้นำทางด้านแฟชั่น ในที่นี้ ไม่ได้หมายเพียงเฉพาะบรรดานางแบบที่ออกมาเดินโชว์เสื้อผ้าสไตล์ที่วัยรุ่นนิยมเท่านั้น แต่ยังหมายไปถึง บรรดา ดารา นักร้อง นักแสดง ศิลปินต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อความคิดของเหล่าวัยรุ่นเป็นอย่างมาก จะไม่ให้พวกเขาทำตามได้อย่างไร ในเมื่อนางแบบที่เดินโป๊ โชว์อก โชว์ขา ยังคงออกมากรีดกรายตามเวทีแค้ตวอร์คอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ซ้ำยังได้รับความนิยม ชื่นชมว่า "หุ่นดี" มีชื่อเสียงเงินทอง หรือบรรดาศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดงก็เช่นกัน และแม้แต่ใน "โฆษณา" ก็จะเห็นวัยรุ่นน้อยใหญ่ ใส่สายเดี่ยว เกาะอก ยกโชว์ความขาวใต้วงแขนกันอยู่ไม่ขาด ดังนั้น การออกมาติติง ตักเตือนของบรรดาผู้ใหญ่ ในเรื่องการแต่งกายของนักศึกษาในปัจจุบัน สุดท้าย ผมคิดว่าก็คงจะไม่ได้ผลอยู่เช่นเดิม เพราะเรื่องเหล่านี้ ได้กลายเป็นแฟชั่นไปเสียแล้ว ต่อให้ห้ามอย่างไร ให้เหตุผลเพียงไหน พวกเขาก็จะยังคงแต่งตัวในสไตล์ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ดี ผมเอง ยอมรับว่าเป็น "ครู" ที่ทำได้เพียงแค่ "ติง" และชี้ให้เขาเห็นถึงสิ่งที่เรียกว่า "กาลเทศะ" เท่านั้น เนื่องจากคนที่ออกมารณรงค์ ไม่ใช่คนที่มีอิทธิเพียงพอต่อความคิดของเขา คนที่ออกมาห้าม เป็นคนที่พวกเขาไม่ให้ความไว้วางใจในเรื่องการแต่งกาย และด้วยความเจริญด้านวัตถุของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปมาก การออกกฎห้ามการแต่งกายแบบนั้น แบบนี้ ก็คงจะยาก เพราะเด็กมหาวิทยาลัยไม่ใช่เด็กมัธยม ที่จะกำหนดความยาวของชายกระโปรง รอบอกเสื้อหรือความลึกของคอเชิ๊ตได้หรอกครับ และถ้าพอจำกันได้ ในสมัยหนึ่งที่นักศึกษานิยมกระโปรงยาว ก็ไม่วายที่เหล่าผู้ใหญ่จะออกมาติติงว่ารุ่มร่ามไม่น่าดู ทำให้เด็กหลายคนต้องแอบบ่นกับความไม่แน่นอนของมาตรฐานความเหมาะสมที่ผู้ใหญ่เอง ก็ไม่ได้ให้ข้อยุติไว้ว่า แค่ไหน เพียงใด จึงจะดีและลงตัว แต่ถ้าจะให้มานั่งถกเถียงกันว่า "ใคร" ที่ทำให้พวกเขามีความนิยมชมชอบกับการแต่งกายในแบบที่เป็นอยู่ ก็คงหาตัวได้ยาก เพราะเวลานี้ ถ้าใครไม่ใส่ก็กลายเป็น "ยายเชย" หรือเป็นพวกไม่มีดีที่พอจะโชว์ไปแล้ว กล่าวคือ ตราบใดที่แฟชั่นยังไม่มีที่สิ้นสุด เครื่องแบบนักศึกษาวาบหวิว ก็คงไม่อาจหลุดจากวงจรไปได้ นอกเสียจากว่า บรรดาศิลปิน นางแบบ ดารา นักร้อง นักแสดง จะลองแต่งตัวให้มิดชิด และสร้างค่านิยมใหม่ เป็นสไตล์ "ยิ่งปิด ยิ่งสวย" ขี้คร้าน เด็กวัยรุ่นจะทำตามกันทั้งเมือง อย่าว่าแต่ปัญหาเรื่องการแต่งกายที่ผู้ใหญ่รู้สึกว่าไม่เหมาะสมของเหล่านักศึกษาเท่านั้น ต่อให้สายเดี่ยว แขนกุด เกาะอก ซีทรู ก็จะอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่ต้องคอยให้ใครมาตักเตือนเหมือนดังเช่นทุกวันนี้หรอกครับ ผมรับรอง!!. จาก นสพ.มติชน จากคุณ : Aisha - [ 9 ธ.ค. 49 11:17:28 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณลองคิดดูสิว่า ระหว่างหญิงที่แต่งกายเรียบร้อย กริยามารยาทสงบเสงี่ยม กับหญิงที่แต่งกายด้วยผ้าน้อยชิ้น รัดรูป เป็นการดึงดูดเพศตรงข้าม คุณคิดว่าระหว่างหญิงสองคนนี้ ใครมีคุณค่ามากกว่ากัน และคนไหนจะทำให้เกิด ปัญหาสังคมได้มากกว่ากัน คุณเคยได้ยินไหมว่า “การแต่งกายส่อความคิดและเจตนา” ข้อความข้างต้นนั่นถอนออกไปเถอะ การแต่งกายในสังคมขึ้นอยู่กับหลายๆอย่าง ทั้งวัฒนธรรม ประเพณ๊นิยม กาลเทศะ และอื่นๆอีกมากมาย การเหมารวมว่าคนแต่งกายในแบบที่คุณไม่ถูกใจมีคุณค่าน้อยกว่า เป็นการดูถูกคนและแบ่งแยกที่น่ารังเกียจยิ่ง ลองนึกถึงคนใส่ชุดว่ายน้ำ ว่ายน้ำในสระดูสิ คนๆนี้มีคุณค่าน้อยกว่าคนอื่นเพียงเพราะเธอใส่ชุดว่ายน้ำอย่างนั้นหรือ คนที่กำลังเรียกร้องสิทธิ์ให้คนอื่นเข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องคลุมหน้าคลุมผมน่ะ ไม่ควรจะเรียกร้องด้วยการกดให้คนอื่นเขาต่ำลง ปล ไม่เคยไปยุ่งเรื่องการคลุมหน้าคลุมผมของใคร ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่เลือกทำหรือไม่ทำ จากคุณ : Deckard - [ 9 ธ.ค. 49 11:19:27 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เครื่องแบบนักศึกษา กับ "ความเป็นนักศึกษา" แฟชั่นชุดนักศึกษามีมาใหม่เรื่อยๆ โดยเฉพาะชุดนักศึกษาหญิงที่นับวันจะสั้นมากขึ้นและเสื้อก็มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นที่นิยมของนักศึกษาส่วนใหญ่เพราะ "อินเทรนด์" ดูเซ็กซี่ น่าดึงดูดใจ ขณะเดียวกันมุมมองของครูอาจารย์ ผู้ปกครอง และผู้วิจารณ์ผ่านสื่อต่างๆ เห็นว่าแฟชั่นชุดนักศึกษาปัจจุบันออกจะโป๊และล่อแหลมต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศมากเกินไป จึงสมควรที่นักศึกษาซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ถูกคาดหวังในความเป็น "ปัญญาชน" จะต้องหันมาสำรวจตนเองอย่างจริงจัง และช่วยกันคิดหาทางปรับปรุงภาพลักษณ์ของตนก่อนที่สังคมจะผิดหวังมากไปกว่านี้ ในความเห็นของผู้เขียน "เครื่องแบบนักศึกษา" เมื่อสวมใส่แล้วจะต้อง present ภาพของปัญญาชนที่ดูสง่างามสุภาพเรียบร้อย ไม่ใช่ Present ความเซ็กซี่ หรือมุ่งโชว์สัดส่วนสรีระเพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม หรือมุ่งใช้สรีระเพื่อความมุ่งหมายอื่นใด แต่ปัจจุบันนี้อะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปหมด นักศึกษาที่แต่งกายถูกระเบียบหาดูได้น้อยเต็มที ส่วนใหญ่จะแต่งตัวตามกระแสแฟชั่นที่กำลังมาแรง กระโปรงเอวต่ำสั้นจู๋แถมผ่าหน้าผ่าหลังและฟิตมากๆ ส่วนเสื้อจากเดิมจะมีขนาดเล็กสุดเพียง SS (2 เอส) เท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้ลดขนาดลงมาเป็น SSS (3 เอส) เป็นแบบฟิตแนบตัวจนบางคนใส่แล้วเสื้อปริออกมาเลยทีเดียว แต่ก็กำลังเป็นที่นิยมกันจนกลายเป็น "แฟชั่นเสื้อปริ" ที่จริงการใส่เสื้อฟิตเกินไปย่อมไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ เพราะจะทำให้รู้สึกอึดอัด หายใจไม่สะดวก และเป็นการทำตัวเองให้เป็น "เหยื่อ" ทางสายตาของเพศตรงข้ามโดยไม่รู้ว่าพวกผู้ชายที่จับจ้องเรานั้นคิดดีหรือคิดร้ายกับเรากันแน่ ถ้าโชคร้ายอาจถูกล่วงละเมิดทางเพศทั้งโดยสายตา คำพูดที่ดูถูก หรืออาจนำมาซึ่งการถูกข่มขืนอย่างที่เป็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยๆ ผู้เขียนกับเพื่อนๆ ในกลุ่มได้ลองสำรวจความคิดเห็นของเพื่อนนักศึกษาในตอนเรียนเดียวกัน จำนวน 120 คน เพื่อนำมาอภิปรายหน้าชั้นเรียน ผลสำรวจสรุปได้ดังนี้ 1.นักศึกษาร้อยละ 97 เห็นว่า แฟชั่นชุดนักศึกษาปัจจุบันไม่ได้ present ความเป็นนักศึกษาคือความสง่างาม ความมีระเบียบเรียบร้อย หรือความน่าเชื่อถือในลักษณะของผู้ใฝ่เรียนรู้ แต่เป็นการ present ความเซ็กซี่ดึงดูดเพศตรงข้าม โชว์สรีระ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น การถูกลวนลามล่วงละเมิดทางเพศ ลดตัวเองเป็นวัตถุทางเพศทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ แม้กระทั่งทำให้ผู้ชายบางคนเข้ามาติดต่อซื้อบริการทางเพศเพียงเพราะเห็นนักศึกษาแต่งเครื่องแบบโป๊เปิดเผยจนเกินงาม ดังนั้น เพื่อรักษาภาพพจน์ความเป็นนักศึกษา จึงควรแต่งเครื่องแบบให้ถูกระเบียบตามที่แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนด 2.นักศึกษาเพียงร้อยละ 3 เท่านั้นที่เห็นว่าแฟชั่นชุดนักศึกษาเป็นผลของความคิดสร้างสรรค์ตามยุคสมัยสังคม ควรเปิดกว้างยอมรับความเปลี่ยนแปลง ใครจะแต่งตัวโชว์ทรวดทรงก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล ขึ้นอยู่กับความมั่นใจ ความพอใจของแต่ละคน ไม่ควรด่วนตัดสินว่าใครใส่ใจหรือไม่ใส่ใจการเรียน หรือเป็นคนดีไม่ดีเพียงเพราะมองจากการแต่งกาย อย่างไรก็ตาม ในการอภิปรายได้มีการตั้งข้อสังเกตว่าแม้นักศึกษาส่วนใหญ่ร้อยละ 97 ในตอนเรียนนี้จะเห็นว่าการแต่งชุดนักศึกษาตามกระแสแฟชั่นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม แต่นักศึกษาในตอนเรียนนี้เกือบทุกคนก็แต่งตัวตามกระแสแฟชั่นทั้งนั้นเลย จึงเท่ากับว่าเหตุผลกับการกระทำหรือพฤติกรรมขัดแย้งกัน กล่าวคือเรามักมีเหตุผลอธิบายว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ไม่ดีไม่เหมาะสม เพราะอย่างนั้นอย่างนี้ แต่การกระทำหรือพฤติกรรมของเราก็มักขัดแย้งกับเหตุผลของเราเอง เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น มีคำอธิบายที่ชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงว่า ในสังคมที่ซับซ้อนเช่นปัจจุบันมีหลายเรื่องทีเดียวที่ "เหตุผลแพ้กระแส" เช่นเหตุผลบอกเราว่า ความฟุ่มเฟือยเป็นสิ่งที่ไม่ดี ความพอเพียงเป็นสิ่งที่ดี แต่ในชีวิตจริงเรามักจะต้านกระแสวัตถุนิยมบริโภคนิยมไม่ได้ เช่นเดียวกัน แม้เหตุผลจะบอกเราว่าแฟชั่นชุดนักศึกษาไม่เหมาะสมกับความเป็นนักศึกษา ล่อแหลมต่อการเกิดปัญหาต่างๆ มากมาย แต่กระแสที่มาแรงทำให้เราไม่อาจต้านได้ เพราะการตกกระแสหรือ "ตกเทรนด์" เป็นเรื่องที่วัยรุ่นยุคนี้ทำใจลำบาก แต่ในทรรศนะของผู้เขียน เมื่อเห็นปัญหาแล้วเราไม่ควรปล่อยปละละเลย ควรช่วยกันหาทางแก้ไข เช่น มหาวิทยาลัยต่างๆ ควรรณรงค์และเข้มงวดให้นักศึกษาลดเลิกการแต่งกายตามแฟชั่นที่ล่อแหลม นักศึกษาก็ควรคำนึงถึงศักดิ์ศรีของตนเอง นึกถึงหัวอกผู้ปกครอง และภาพลักษณ์ของสถาบันให้มากขึ้น การต้านกระแสอาจไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด หากเราปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่ให้ถูกต้องว่า การใช้ชีวิตนักศึกษาไม่ควรหมกมุ่นอยู่กับเรื่องฉาบฉวยไปวันๆ แต่ควรให้เวลากับสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่า เช่น เรียนให้รู้จริงเพื่อนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้จริง สนใจเรียนรู้ปัญหาบ้านเมือง ห่วงใยสังคม ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ฝึกจิตสำนึกเสียสละ เสริมสร้างการเรียนรู้และประสบการณ์เพื่อเป็นปัญญาชนที่มีคุณค่าของสังคมต่อไป แม้สิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องไม่ลืมว่านักศึกษาต้องพึ่งพางบประมาณของรัฐซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชน ดังนั้นนักศึกษาจึงไม่ควรทำตัวให้สังคมเอือมระอาหรือผิดหวังไปมากกว่านี้! ที่มาจากหนังสือพิมพ์ มติชน จากคุณ : Aisha - [ 9 ธ.ค. 49 11:21:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 นางสาวไจตนย์ ศรีวังพล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิไลเซ็นเตอร์ แอนด์ซันส์ จำกัด ผู้ดำเนินงาน รายการข่าวจราจร สวพ. FM 91 Traffic Pro คลื่นเพื่อข่าวสารความปลอดภัยและจราจร กองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทางคลื่นความถี่ FM 91.0 MHz. เปิดเผยว่า ทางสถานีฯ ได้ทำการสำรวจ สอบถามความคิดเห็นประชาชน ผู้ฟังรายการ ที่โทรศัพท์เข้ามายังหมายเลข 1644 “โทรฟรี” 0-2562-0033-4 และ 0-2941-0847-50 จำนวน 16,215 คน ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. – 5 ส.ค. 2549 ที่ผ่านมา ในหัวข้อ พฤติกรรม ที่น่าเป็นห่วงและเสี่ยงต่อความปลอดภัย ของผู้หญิงไทย หากไม่แก้ไขดูแลอนาคต จะควบคุมไม่ได้ พบว่า ผู้ชายกว่าร้อยละ 86 ยอมรับ วัยรุ่น หญิงไทย กล้า มั่นใจมากขึ้น และ เคยใช้สายตา ลวนลาม บรรดา “สาวมั่น” ขณะที่ผู้หญิง ร้อยละ 54 อับอาย และขาดความมั่นใจ เมื่อเห็นเพศเดียวกัน ไม่ระมัดระวังตกเป็นเป้าสายตาผู้ชายในที่สาธารณะ แบบไม่รู้ตัว เหตุจากพฤติกรรมการแต่งตัวสมัยใหม่ ผู้ปกครองห่วงบุตร หลาน แต่งตัวล่อแหลมเสี่ยงความปลอดภัย เพศสัมพันธ์ ขณะเดียวกันกิริยาการพูดจา มารยาท และท่วงท่า เกินอายุ พร้อมด้วยการมั่วสุมดื่มสุรา ยาเสพติด และหนีเรียน ล้วนแต่เป็นความกังวลใจเหล่าผู้ปกครองในยุคปัจจุบันทั้งนั้น          สำหรับผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน และผู้ฟังรายการของทางสถานีวิทยุ สวพ.FM 91 คลื่นเพื่อข่าวสารความปลอดภัย และจราจร กองตำรวจสื่อสารนั้น นางสาวไจตนย์ กล่าวสรุปไว้ว่า ผู้ร่วมแสดงความคิดเห็น ร้อยละ 93.61 หรือจำนวน 15,180 คน ต่างมีบุตร หลานอยู่ในความดูแล และปกครอง ร้อยละ 85.11 หรือจำนวน 13,800 คน มีบุตร หลานเป็นผู้หญิง อายุอยู่ระหว่าง 10-26 ปี ผลการสำรวจพบว่าพฤติกรรมที่น่าเป็นห่วงและเสี่ยงต่อความปลอดภัย ของผู้หญิงไทย          ในสายตาผู้ปกครอง จำนวน 14,145 คน หรือร้อยละ 87.23 ต่างมีความรู้สึกเป็นห่วง เรื่องพฤติกรรมการแต่งตัวของบรรดาบุตร หลาน ผู้หญิง วัยรุ่นไทย ในปัจจุบันที่ส่อไปทางล่อแหลม โชว์เรือนร่าง สวมเสื้อผ้าที่รัดรูปจนเห็นสัดส่วน เจตนาให้เห็นทรวงอก หรือแผ่นหลัง ชนิดไม่ปิดบัง สวมกระโปรงสั้น ผ่าสูง กางเกงสั้น แค่คืบ ความยาวแค่ 6-7 นิ้ว จากขอบเอว ถึงปลายขา ไม่รู้ว่าปิดอะไร แค่นั่งก็เห็นเครื่องใน ส่วนอันดับสอง เห็นว่าพฤติกรรมที่น่าเป็นห่วงและสุ่มเสี่ยงคือ เรื่องเพศสัมพันธ์ ผู้ปกครองร้อยละ 65.96 หรือจำนวน 10,695 คน ระบุว่าภาระหน้าที่การงาน ซึ่งพ่อ และแม่ ในสังคมปัจจุบันทำให้ต้องปล่อยบุตร หลาน เดินทางไปโรงเรียน หรืออยู่บ้านเพียงลำพัง สำหรับพฤติกรรมที่พบเห็นได้ทั่วไปในที่สาธารณะ พบว่า นักเรียน นักศึกษา วัยรุ่น หรือแม้นกระทั่งกลุ่มคนทำงาน ต่างแสดงความ “ไคร้” กอดจูบ ลูบคล้ำ เป็นที่เปิดเผย ล้วนแต่เป็นพฤติกรรมที่ “โจ๋งครึ่ม” และไม่เหมาะสมในสังคมไทย          อันดับสามนั้น ผู้ปกครอง จำนวน 9,660 คน หรือ ร้อยละ 59.57 มองว่ากิริยา ท่าทาง การพูดจา และมารยาท ที่กล้าแสดงออกเกินวัยอันควร ไม่เหมาะสม และไม่สำรวม ขณะเดิน ลุก นั่ง ไม่ระวังคำพูด คำจาที่จัดจ้าน ขณะสนทนาในที่สาธารณะ การแสดงกิริยาไม่เคารพผู้สูงอายุ หรือแม้นกระทั่งพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ เป็นพฤติกรรมที่น่าเป็นห่วง ส่วนอันดับสี่ ผู้ปกครอง มองว่าพฤติกรรมการคบหาเพื่อน รวมกลุ่มทำกิจกรรมที่ผู้ปกครองไม่เห็น เป็นการเสี่ยงต่อการมั่วสุมดื่มสุรา หรือยาเสพติด และการหนีเรียน ซึ่งพบเห็นได้ตามบ้านพัก หอพัก อพาร์ทเม้นท์ หรือกระทั่งห้างสรรพสินค้า ร้อยละ 55.32 หรือจำนวน 8,970 คน ขณะที่อันดับห้า เห็นว่าพฤติกรรมผู้หญิงที่แข็งกร้าว ก้าวร้าว เริ่มมาจากการคบหาเพื่อนชาย ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ และแข่งขันความเร็ว จำนวนร้อยละ 48.94 หรือ 7,935 คน          นอกจากนี้ ยังพบว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงที่เหล่าบรรดาผู้ปกครอง มองว่ากำลังทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น และเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิต ของบุตร หลาน ที่เป็นผู้หญิงไม่น้อยในยุคนี้ คือ การเล่นอินเตอร์เน็ต “แชท” หรือแม้นกระทั่ง การพูดคุยโทรศัพท์ ซึ่งปัจจุบันโปรโมชั่นที่ผู้ให้บริการลดกระหน่ำ ทำให้บรรดาบุตร หลาน วัยรุ่นหญิง เล่นอินเตอร์เน็ต “แชท” และคุยโทรศัพท์ นานหลายชั่วโมง กระทั่งถึงเช้าวันรุ่งขึ้นก็มีให้เห็นบ่อยครั้งขึ้น          นางสาวไจตนย์ กล่าวต่อว่า ผลการสำรวจของทาง สถานีวิทยุ สวพ. FM 91 Traffic Pro ยังพบด้วยว่า กลุ่มผู้ปกครองซึ่งเป็นผู้ชาย ร้อยละ 86 ยอมรับว่าเคยใช้สายตามอง “ลวนลาม” วัยรุ่น และผู้หญิง วัยทำงาน ที่มีความกล้า และมั่นใจ แต่งตัว “โป๊” โชว์รูปทรงองค์เอว สัดส่วนตัวเอง โดยผู้ชายกลุ่มนี้ ระบุว่า บ่อยครั้งที่พบบรรดา “สาวมั่น” กลุ่มนี้ไม่ระมัดระวังตัวเองจนเผย (อวัยวะ .....ของสงวน) ในที่สาธารณะ แต่ผู้ชาย ไม่กล้าเอยปากบอก เพราะเกรงจะถูกกล่าวหาว่า “ลามก....อนาจาร” ขณะเดียวกันกลุ่มผู้หญิง ร้อยละ 54 รู้สึกอับอาย และขาดความมั่นใจไปนาน หากพบเพื่อนผู้หญิง เพศเดียวกัน “ปล่อยไก่” ไม่ระมัดระวัง ในท่วงท่า การลุก นั่ง จนตกเป็นเป้าสายตาผู้ชาย หรือผู้อื่นในที่สาธารณะแบบไม่รู้ตัว โดยเฉพาะถูก “ลวนลาม ด้วยสายตา” ขณะนั่งตามป้ายรถประจำทาง ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ นั่งตามร้านอาหารริมถนน นั่งหลับบนประจำทาง หรือการก้าวขึ้น-ลงรถ          ปัจจุบันนี้ยังพบด้วยว่า “สาวมั่น” บางคนเริ่มเลียนแบบวัฒนธรรมตะวันตกมากขึ้นจากเดิม ซึ่งข้อมูลที่ได้จากกลุ่มผู้ชาย ที่เคยเข้าไปตามสถานบันเทิง ยามราตรี พบว่า วัยรุ่น ผู้หญิงไทย ไม่ชอบสวมชุดชั้น ในชิ้นบน “โน บรา” ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก เสี่ยงต่อความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ในปัจจุบัน นางสาวไจตนย์ กล่าว....... http://www.trafficbkk.com/91_Traf_fic_news_01/traffic_news01_viw.asp?b_id=127 จากคุณ : Aisha - [ 9 ธ.ค. 49 11:35:01 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กระทู้ :   การแต่งกายของนักศึกษาในละคร ทางช่อง 9   คุณ : อาจารย์ในสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง [email : ] IP : 202.28.48.xx ว/ด/ป : 12-Sep-2006 10:00 รายละเอียด : ดิฉันเป็นอาจารย์ในสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง บังเอิญได้ชมละครเรื่อง เพื่อนแซ่บ 4x4 ทางช่อง 9 วันอาทิตย์ เวลา 16.00 - 17.00 น. เป็นละครที่เกี่ยวกับเรื่องเพื่อนของนักศึกษาในสถาบันการศึกษา ซึ่งดิฉันได้เห็นว่ามีการแต่งกายที่ไม่ถูกระเบียบการแต่งกายของนักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย เช่น ในเรื่อง นักแสดงชายที่เป็นตัวเอกของเรื่องทุกคนสวมกางเกงยีนกับเสื่อเชิ้ตสีขาว นักแสดงหญิงสวมกระโปรงสั้น เสื้อนักศึกษารัดรูป เห็นแล้วดูไม่เหมือนนักศึกษาเลย ไม่แน่ใจว่าผู้จัดละครเค้าคิดอะไรอยู่ ต้องการให้เป็นแฟชั่นหรือคิดว่าระเบียบการแต่งกายไม่สำคัญกับละครที่แพร่ภาพให้คนทั้งประเทศได้ดู ซึ่งดิฉันทราบว่า อาจารย์ในมหาวิทยาลัยทุกท่านพยายามที่จะรณรงค์เรื่องการแต่งกายที่ถูกระเบียบ ซึ่งดิฉันก็เป็นคนนึงที่พยายามจะเข้มงวดกับนักศึกษาที่แต่งกายไม่ถูกระเบียบ แต่เมื่อได้ดูละครเรื่องนี้แล้วกลับรู้สึกว่า ทำไมภาคบันเทิงไม่ได้ช่วยสะท้อนถึงวัฒนธรรมการแต่งกายที่ดีของนักศึกษากลับเป็นเหมือนตัวชี้นำเยาวชนในทางที่ไม่ถูก แต่ไม่ได้เหมารวมทั้งหมดนะคะ เพราะละครเรื่อง น้องใหม่ ร้ายบริสุทธิ์ เค้าก็เป็นละครที่มีการแต่งกายชุดนักศึกษาถูกระเบียบ เห็นแล้วก็ชื่นชม จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ด้วยนะคะ เพราะอย่างน้อยผู้ที่เข้ามาศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยก็คือคนที่อยู่ในระดับปัญญาชน คือ ชนชั้นของผู้มีปัญญา จึงควรมีระเบียบวินัยไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย รวมไปถึงการศึกษาเล่าเรียน นำไปสู่การเป็นอนาคตที่ดีของชาติต่อไปค่ะ http://www.m-culture.go.th/culture01/webboard/reply-list.php?question_id=1574&question_catid=&lang=th จากคุณ : Aisha - [ 9 ธ.ค. 49 11:50:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขออภัยนะค่ะที่ลำดับการนำเสนอไม่ค่อยดี ข้อความที่ลบไปก็มีอยู่ในเล่มนะคะ อยากให้ลองอ่านในหนังสือตั้งแต่แรกจนจบ แล้วจะคอมเม้นต์อย่างไรก็ไม่ว่ากันค่ะ จากคุณ : hayeerun - [ 9 ธ.ค. 49 18:56:59 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นบทความที่ดีครับ....ญาซากัลลอฮุคอยรอน จากคุณ : คนแปลกหน้าในโลกนี้ - [ 9 ธ.ค. 49 19:53:29 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมคิดว่าการคลุมผมนี่มันเป็นความเท่ห์และความสง่างาม ของผู้หญิงอิสลามเลยครับ จากคุณ : เชษฐา - [ วันรัฐธรรมนูญ 14:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ระหว่างหญิงที่แต่งกายเรียบร้อย กริยามารยาทสงบเสงี่ยม กับหญิงที่แต่งกายด้วยผ้าน้อยชิ้น รัดรูป เป็นการดึงดูดเพศตรงข้าม เรื่องนี้ต้องประเด็นแยกแยะค่ะ คุณ Deckard   เมื่อแต่งกายเรียบร้อย มีกิริยา มารยาทน่ารัก ย่อมแสดงว่าให้ว่า มีคุณค่า มีเกียรติ น่าทะนุถนอม มากกว่า หญิงที่แต่งกายตามแฟชั่น    ที่แสดงถึงว่า ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง แยกแยะออกไม่ได้ ว่าเรากำลังตามกระแสวัตถุนิยม  หากไม่ตามแฟชั่น ก็จะรู้สึกว่า ตัวเองล้าสมัย ไม่อินเทรน  “การแต่งกายส่อความคิดและเจตนา”    หากเจตนาดี มีความคิดรักนวลสงวนตัว ที่มีมาช้านานสำหรับหญิงไทย ก็จะไม่แต่งกายเช่นนั้นค่ะ  เก่งได้โดยไม่ต้อง ตามกระแส อวดผิวขาว สวย ของดีต้องโชว์   ผู้สร้างเทรนขึ้นมาต้องการขายสินค้า สังคมจะเป็นอย่างไร ในระยะยาวนั้น ผู้สร้างสินค้าแต่ละอย่าง ที่เกี่ยวข้องกับสังคมนั้น  มีส่วนน้อยมากที่จะรับผิดชอบสังคมที่เกิดขึ้นจากสินค้าของตัวเอง   ลองเปิดหนังสือวัยรุ่นดูสิ เสื้อ แขนกุด ตัวละ 1800 กระโปรงยีนส์สั้น  ตัวละ 1900  รองเท้าคู่ละ 1500  ขอถามว่า เขขาจะเอามาจากไหน หากยังเป็นนักเรียน นศ.ที่ยังแบมือของเงินผู้ปกครองอยู่   คนๆนี้มีคุณค่าน้อยกว่าคนอื่นเพียงเพราะเธอใส่ชุดว่ายน้ำอย่างนั้นหรือ การมองที่ความสามารถเป็นสิ่งที่ดีค่ะ แต่มนุษย์ 1 คนนั้นต้องมี องค์ประกอบรวมมากมาย กว่าจะเป็น คน 1 คน ต้องมีเบ้าหล่อหลอมที่ดี มีการปลูกฝังที่ดีด้วย ถึงจะเป็นคนดีได้   ดังนั้น หากการใส่ชุดว่ายน้ำแล้วดูดี  มีความสามารถอื่นๆ แต่เป็นความสามารถด้านสังคมแต่ กิริยาวาจา ไม่น่ารัก ก็เท่านั้นค่ะ สวยแต่รูปจูบไม่หอมชุดว่ายน้ำ หากจะใส่ ก็ ควรใส่ให้เป็นที่ทาง ใส่เพื่ออะไร ใส่เพื่ออวดรูปร่างอวดโฉม ว่าหุ่นสวย ผิวงาม แสดงว่า ยังเป็นคนชอบโอ้อวด เช่นกัน ต้องการอวดว่ามีดีกว่ามนุษย์คนอื่นๆ  นั่นก็ยังแสดงออกด้านพื้นฐานความคิด แสดงถึงเบ้าหลอมเขามาเช่นกัน ค่ะ จึงทำให้เกิด แนวโน้ม ว่าต้องผอม สวย โชว์ผิวและเนื้อหนัง จากนั้นก็เข้ากระบวนการ เป็นทาสของสินค้าต่างๆ ฉลาดหน่อยก็ พึ่งพาธรรมชาติ ขี้เกียจหน่อยก็ ด้วยแพทย์ ทั้งหลายทั้งมวลมาจากคำว่า ไม่พอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่และต้องการอวด ต้องการเป็นจุดเด่นดัง เป็นผู้นำ  ตามกระแสจนขาดความเป็นมนุษย์ พื้นฐานจิตใจทีดีๆก็จางหายไป คนที่กำลังเรียกร้องสิทธิ์ให้คนอื่นเข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องคลุมหน้าคลุมผมน่ะ ไม่ควรจะเรียกร้องด้วยการกดให้คนอื่นเขาต่ำลง เจ้าของกระทู้ไม่ได้เรียกร้องแล้วการกดคนอื่นให้ต่ำลงหรอกค่ะ แต่ จุดประสงค์คือ แสดงถึงความเป็นลูกผู้หญิงที่ต้องการนำเสนอ สาระหนึ่งของอิสลาม และสิ่งที่เลือนหายไปในสังคมไทยด้วยซ้ำ  ถึงเรื่องการรักษาความเป็นสตรีและลูกผู้หญิงที่มีคุณค่า ที่สำคัญการแต่งกายของเราเองก็ต้องใช้สมองด้วยเหมือนกันค่ะ แต่งเพื่ออะไร แต่งแบบนี้ได้อะไร  มิใช่มองที่ความสามารถอย่างเดียวจนลืมว่า ความสามารถที่เขามีบางที ก็เป็นเฉพาะเรื่อง สมองที่และจิตใจที่แข็งกระด้างด้วยเช่นกัน ด้วยความเคารพค่ะ จากคุณ : นะ(รก) - [ 12 ธ.ค. 49 14:53:53 ]

ความคิดเห็นที่ 16 The Veil (From the Sound Vision documentary Hijab: An Act of Faith) They say, "Oh, poor girl, you're so beautiful you know It's a shame that you cover up your beauty so." She just smiles and graciously responds reassuringly, "This beauty that I have is just one simple part of me. This body that I have, no stranger has the right to see. These long clothes, this shawl I wear, ensure my modesty. Faith is more essential than fashion, wouldn’t you agree?" This hijab, This mark of piety, Is an act of faith, a symbol, For all the world to see. A simple cloth, to protect her dignity. So lift the veil from your heart to see the heart of purity. They tell her, "Girl, don’t you know this is the West and you are free? You don’t need to be oppressed, ashamed of your femininity." She just shakes her head and she speaks so assuredly, "See the bill-boards and the magazines that line the check-out isles, with their phony painted faces and their air-brushed smiles? Well their sheer clothes and low cut gowns they are really not for me. You call it freedom, I call it anarchy." This hijab, This mark of piety, Is an act of faith, a symbol, For all the world to see. A simple cloth, to protect her dignity. So lift the veil from your heart to see the heart of purity. Lift the veil from your heart and seek the heart of purity. จากคุณ : Aisha - [ 14 ธ.ค. 49 00:25:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 Hijab Nasheed THE VEIL They say, "Oh, poor girl, you're so beautiful you know It's a shame that you cover up your beauty so." She just smiles and graciously responds reassuringly, "This beauty that I have is just one simple part of me. This body that I have, no stranger has the right to see. These long clothes, this shawl I wear, ensure my modesty. Faith is more essential than fashion, wouldn't you agree?" This hijab, This mark of piety, Is an act of faith, a symbol, For all the world to see. A simple cloth, to protect her dignity. So lift the veil from your heart to see the heart of purity. They tell her, "Girl, don't you know this is the West and you are free? You don't need to be oppressed, ashamed of your femininity." She just shakes her head and she speaks so assuredly, "See the bill-boards and the magazines that line the check-out isles, with their phony painted faces and their air-brushed smiles? Well their sheer clothes and low cut gowns they are really not for me. You call it freedom, I call it anarchy." This hijab, This mark of piety, Is an act of faith, a symbol, For all the world to see. A simple cloth, to protect her dignity. So lift the veil from your heart to see the heart of purity. Lift the veil from your heart and seek the heart of purity. http://www.prohijab.net/english/hijab-nasheed.mp3 จากคุณ : Aisha - [ 14 ธ.ค. 49 00:42:20 ]

ความคิดเห็นที่ 18 Muslim Athletic Wear Covers Skin Without Cramping Style http://news.nationalgeographic.com/news/bigphotos/47209573.html จากคุณ : Aisha - [ 14 ธ.ค. 49 01:20:55 ]