ความคิดเห็นที่ 1 One could object to this that the third and the fourth of the "four Great Gods" in Sinhala and in old Tamil tradition are not identical. But it can be shown that later cults have displaced the originals gods in both traditions. In Sinhala inscriptions, e.g. in the Lankatilaka inscription of Bhuvanaikabahu IV (1341-1358) the four gods are Upulvan, Kandakumara, Sumana and Vibhisana. In the Jinakalamali we find the following four gods: Sumana, Rama, Lakkhana, Khattagama. In this list, Upulvan was identified with Vibhisana is displaced by Laksmana. Later on, Laksmana was identified with Saman. In the later Kandyan period, we find Kataragama, Upulvan, Natha and Pattini as the guardian deities of the Island. Here, Natha is nobody else than the bodhisattva Avalokitesvara of Mahayana Buddhism, and Pattini is the heroine of the Tamil epic Cilappatikaram.   ------------- รามเทพ จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 14 มิ.ย. 50 11:20:01 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ในคัมภีร์ของลังกา มีเทพรักษาเมือง 4 องค์ คือพระขัตตุคาม พระรามเทพ พระนาถทเพ(พระอวโลกิเตศวร) และพระสุมนเทพ องค์นี้คือพระนาถเทพ จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 14 มิ.ย. 50 11:31:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พระสุมนเทพ จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 14 มิ.ย. 50 11:37:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 "จตุคามรามเทพ"ไม่เคยปรากฏในเอกสารโบราณดังกล่าวมาแล้ว "ราม" ก็คือพระรามซึ่งเป็นส่วนประกอบของชื่อกษัตริย์หลายองค์ในโลก มอญ-ไทย แต่"รามเทพ"น่าจะหมายถึงพระรามในรามายณะ ส่วน"จตุคาม"แปลว่า "สี่บ้าน" พระนามรวมหมายความว่า"พระรามสี่บ้าน"ที่ไม่เคยปรากฏในตำนานประวัติศาสตร์หรือเทพปกรณัม ไม่ว่าเป็นฝ่ายพุทธหรือฝ่ายฮินดู จึงอธิบายไม่ได้และเป็นที่น่าสงสัย เป็นไปได้หรือไม่ว่าคำ"จตุคาม"เพี้ยนมาจากคำอื่นที่คนไม่ถนัด บาลี สันสกฤต จำมาผิดๆ. หลักฐานชิ้นที่1 จากตำนานพระธาตุนครศรีธรรมราช(ที่มีต้นฉบับเก่าแก่ เคยพิมพ์เผยแพร่และใคร ๆ อ้างอิงได้) เราทราบว่า พระธาตุนครศรีธรรมราชมีความผูกพันธ์กับลังกาอย่างใกล้ชิด เช่น "พลิติและพลิมุ่ย สองเศรษฐีชาวลังกาได้รับคำสั่งจากพระเจ้ากรุงลังกาให้มาช่วยสร้างพระบรมธาตุที่เมืองนคร แต่เดินทางถึงช้าจึงสร้างวิหารนี้ขึ้น"(วิหารนี้หมายถึงวิหารพระม้า) ในบทสัมภาษณ์(ข่าวสด 7 มี.ค.2550) น.พ.บัญชา พงษ์พานิช อธิบายเรื่องเทพรักษาพระธาตุว่า"โดยที่ยอดบันไดเป็นคู่ของท้าวขัตตุคามและท้าวรามเทพ นั่งพิทักษ์อยู่"เทพปูนปั้นที่นั่งชันเข่าสองข้างหัวบันไดจะเป็น ท้าวขัตตุคาม และ ท้าวรามเทพ ตามที่เชื่อกันนั้น ยังไม่มีหลักฐานโบราณรองรับ แต่เทวรูปสลักนูนบานประตูไม้ทางเข้าลานประทักษิณยังเป็นปริศนาที่น่าสนใจ บานหนึ่งมีรูปพระนารายณ์ทรงจักรและธนู ซึ่งสมควรเป็น รามเทพ จริง แต่อีกบานหนึ่งเป็นใคร? ใคร ๆ มักนับพระพักตร์ที่มองเห็นเป็นสี่แล้วสรุปว่าเป็น พระพรหม แต่ท่านถือเทพาวุธ(ค้อน?หอก?) ผิดพระพรหม แต่ตรงขันทกุมาร(สกันทะ)ที่นับถือว่าเป็นเทวเสนาบดี ยิ่งกว่านั้น หากนับพระพักตร์ที่มองไม่เห็น(เพราะอยู่ด้านหลังรูปนูน)ก็เป็นหกเศียร ตรงกับขันทกุมารที่เป็นลูกบุญธรรมแม่นมทั้งหกในนักษัตรกฤตติกา(ดาวลูกไก่ 6 ดวง) เทวรูปองค์ใหนในวิหารพระม้าจะเป็น ท้าวขัตตุคาม และ ท้าวรามเทพ ยังไม่เป็นที่ตกลง แต่ที่สรุปได้ก็คือ 1.สองชื่อนี้หมายถึงเทพสององค์ จะเหมาเป็นองค์เดียวไม่ได้ 2.หลังฐานดังกล่าวน่าจะรับรองความสัมพันธ์ระหว่างพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช กับศรีลังกา และ 3.ชวนให้สงสัยว่าชื่อ ขัตตุคาม และ รามเทพ ต่างสืบทอดมาจากเอกสารโบราณฉบับใด กันแน่ เรื่องนี้นำไปสู่หลักฐานชิ้นที่สอง หลักฐานชิ้นที่ 2 ในเรื่องนี้ท่านอาจารย์จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ แนะนำให้ผมกลับไปอ่าน ตำราพระพุทธสิหิงค์(สิงหลพุทธรูปนิทาน) และตำนาน ชินกาลมาลีปกรณ์ ทั้งสองฉบับมีความว่า "ครั้งหนึ่งพระร่วงสุโขทัยได้ยินกิตติศัพท์พระพุทธรูปในลังกาว่าศักดิ์สิทธิ์นัก จึงได้ส่งทูตไปเจรจาพระเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ว่าทำอย่างไร ถึงจะได้มา พระยานครฯตอบว่า ไปเอามาบ่มิได้ เพราะลังกามีเทพารักษ์สี่องค์ (จตุเทวรักขา) คือ พระราม พระลักษณ์ สุมนเทพ และขัตตุคามเทพ" เทพเหล่านี้คือใคร? ปัจจุบันนี้ พระราม ยังสถิตย์อยู่ที่เมืองเทพนคร (Dondra, Srilunka)ครองภาคตะวันตกเฉียงใต้ พระนาม"อุบลวรรณ", พระลักษณ์ หายไป มีพิเภก (Vibhishana) มาขึ้นครองแทนที่วัดกัลยาณีสีมา กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา, สุมนเทพ ยังครองสุมนกูฏ(เขาพระพุทธบาทกลางเกาะ), ส่วน ขัตตคามเทพ ได้แก่ ขันทกุมาร (บุตรพระอิศวร น้องชายพระพิฆเนศ) ที่สถิตอยู่ที่กฏรคาม (Kataragama) ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ ขันทกุมาร ได้ชื่อในลังกาตามที่สถิต Kataragama ซึ่งเขียนเป็นบาลีว่า ขัตตุคาม แล้วคนที่ไม่ถนัดภาษาย่อมดัดแปลงเป็น จตุคาม ตามใจนึกคิดโดยไม่นึกถึงความหมายหรือหลักภาษา ความสรุป ว่าโดยสรุป"จตุคามรามเทพ"แต่เดิมน่าจะเป็นเทพฮินดูสององค์ที่ชาวลังกานับถือว่า เป็นเทพรักษาพระพุทธศาสนา ต่อมาเมื่อชาวนครศรีธรรมราช รับพระพุทธศาสนาลังกาวงศ์เข้ามา เทพทั้งสองก็ตามมาด้วยในฐานะเทพารักษ์พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ต่อมาในสมัยหลังนี้ ความทรงจำทางประวัติศาสตร์เสื่อมสูญและเอกสารโบราณถูกลืมหรือถูกอำพราง บรรดาผู้มีศรัทธาบางคนจึงรู้สึกแปลกแยกหมดที่พึ่ง แล้วขวนขวายสร้างที่พึ่งขึ้นมาใหม่โดยผนวกชื่อ"ขัตตุคามเทพ" กับ "รามเทพ" แล้วอุปโลกน์เทพองค์ใหม่ชื่อ"จตุคามรามเทพ"ขึ้นมาจากความว่างเปล่าโดยไม่มีหลักฐานใด ๆ รองรับ. ความส่งท้าย ในเรื่องนี้เห็นจะโทษใครไม่ได้ คนที่คิด จตุคามรามเทพ ขึ้นมาคงจะเป็นคนอนาถาทางการศึกษา ไม่รู้ประวัติศาสตร์ เข้าไม่ถึงเอกสารโบราณ และขาดออกจากหลักพุทธศาสนาขนานแท้ จนหลงงมงายกับเครื่องอัปมงคลชนิดที่เรียกกันว่า "เงินไหลเข้ามา" แต่ในที่สุดผมได้แต่โทษระบบสังคมและการศึกษาที่ผูกวัฒนธรรมและความรู้ดี ๆ ไว้เป็นสมบัติเฉพาะของชนชั้นผู้ดี แล้วทิ้งประชาชนจำนวนมากเป็นอนาถาให้งมงาย ขวนขวายหาที่พึ่งกับผีสางเทวดาที่ไม่มี (และไม่เคยมี)ในโลกแห่งความเป็นจริง ไมเคิล ไรท์ จากหนังสือ ศิลปวัฒนธรรม แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 50 16:20:38 จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 14 มิ.ย. 50 11:47:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณคะ จากคุณ : vintage - [ 14 มิ.ย. 50 11:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 the four gods are Upulvan, Kandakumara, Sumana and Vibhisana. Upulvan หรือ อุบลวรรณ เป็นชื่อเรียกพระวิษณุของชาวลังกา ตรงกับพระราม Kandakumara หรือ พระขันทกุมาร ฮินดูเรียกพระสกันทะ อยู่ที่เมืองกฏรคาม(Kataragama) บาลีเรียก ขัตตุคาม Sumana พระสุมนเทพ Vibhisana พิเภก ครองเมืองลงกา(ลังกา)ต่อจากทศกัณฐ์ ------------------ บางคัมภีร์ของลังกา เอาพิเภกออก แต่ใส่"พระนาถเทพ"ไปแทน ซึ่งพระนาถเทพ คือพระอวโลกิเตศวรครับ นี่คือพระสุมนเทพ จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 14 มิ.ย. 50 12:21:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พระอุบลวรรณ หรือพระวิษณุ จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 14 มิ.ย. 50 12:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แต่ในชินกาลมาลีปกรณ์ บอกว่าเทพ 4 องค์ คือพระขัตตคาม(ขันทกุมาร) พระราม พระลักษมณ์(น้องชายพระราม) และพระสุมนเทพ(ที่เขาสุมนกูฎ) [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 14 มิ.ย. 50 12:29:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 http://kataragama.org/research/bechert.htm หลังค้นข้อมูล พบว่าขัตตุคาม ใกล้เคียงกับคำว่า kataragama ของลังกา จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 14 มิ.ย. 50 12:32:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 พระนาถเทพ จริง ๆ คือพระอวโลกิเตศวรครับ ภาพนี้คือพระอวโลกิเตศวรของลังกา จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 14 มิ.ย. 50 12:43:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 http://www.lankalibrary.com/phpBB/viewtopic.php?t=3126 อ่านดู จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 14 มิ.ย. 50 12:49:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณครับ แล้วที่ จขกท ได้ตั้งกระทู้บอกเอาไว้ในหว้ากอ ว่าจะเข้าไปฉะกับพวกเว็บบอร์ดจตุคาม ตกลงเหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้าง จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 14 มิ.ย. 50 15:43:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่านาถเทพ คคห 2 ของคุณ เมื่อไรจะหายเหงา เป็นต้นแบบรุ่น โคตรเศรษฐีแหงๆเลย แต่เทพทั้งหมดที่คุณ เมื่อไรจะหายเหงาว่ามา เป็นฮินดูทั้งนั้น ไม่ใช่ท่านจตุคามรามเทพกระมัง เพราะท่านจตุคามรามเทพ รักษาพระบรมธาตุอยู่ ท่านเป็นพุทธนะครับ จตุคามรามเทพ รุ่นหลังๆ จะมีพระพุทธองค์ประทับที่พระเศียร บ่งบอกว่ามี พระพุทธองค์เป็นสรณะ อย่างนี้ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 14 มิ.ย. 50 16:21:47 ]

ความคิดเห็นที่ 14 นี้คือเทพในพระพุทธศาสนา ที่มาห้อมล้อมตามเสด็จ ส่งเสด็จพระพุทธองค์ เพราะพระพุทธองค์เป็นศาสดาของมนุษย์และเทวดาทั้งหลายครับ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : จักรแก้ว - [ 14 มิ.ย. 50 16:23:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ก็บอกแล้วไงครับ ว่านครศรีธรรมราช กับลังกา มีความสัมพันธ์มาก ๆ เจดีย์พระธาตุนั่น ก็เป็นเจดีย์แบบลังกาครับ แล้วเทพที่ปรากฎในพระพุทธศาสนามีกี่องค์ครับ พระพรหม พระอินทร์ พระวิศวกรรม(ในชาดกก็มี) ท้าวกุเวร รวมถึงจตุโลกบาล.......ก็มีแค่นี้ครับ จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 14 มิ.ย. 50 16:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เอกสารโบราณไม่มีจตุคามนิครับ มีแต่"ขัตตุคาม"ซึ่งเป็นชื่อที่ชาวลังกาเรียกพระขันทกุมาร จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 14 มิ.ย. 50 16:35:04 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวยดี  ผมชอบพระนาถเทพ คห ๒ ทรงพระเท่ห์ดี แต่ท่านี้นั่งนานๆคงเมื่อยแย่ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 14 มิ.ย. 50 17:31:49 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ที่มาที่ไปมีหลายตำนานจริงๆ... จากคุณ : campaign - [ 14 มิ.ย. 50 18:35:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณหายเหงาครับ   เป็นอะไรมากไหมกับจตุคามนี่ จากคุณ : ซูไต้จี้ - [ 14 มิ.ย. 50 19:01:01 ]

ความคิดเห็นที่ 20 Kataragama-ขัตตคาม-ขัตตุคาม-ขันทกุมาร.......... คุณซูไต้จี้ ข้อความนี้ ยังไม่เข้าใจอีกเหรอครับ เพราะมันก็ชัดเจนมากแล้ว??? น่าจะเข้าใจได้แล้วนะครับ จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 14 มิ.ย. 50 19:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 21 Kataragama Buddism Katirkamam Hindu จากคุณ : campaign - [ 15 มิ.ย. 50 03:33:35 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ เมื่อไหร่จะหายเหงาครับ แล้วเรื่องของ พังพกาฬ ราหู 12 นักษัตริย์ พระยาชิงชัย เกี่ยวข้องกับขันธกุมารบ้างหรือเปล่าครับ ที่มาที่ไปมาจากไหน การผสมผสาน หรือของใหม่ที่ไม่เหมือนขันธกุมาร มาจากไหนได้บ้าง จากคุณ : campaign - [ 15 มิ.ย. 50 03:41:53 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ท่านเจ้าของกระทู้ คุณตอบผมมาว่าอย่างนี้ ก็บอกแล้วไงครับ ว่านครศรีธรรมราช กับลังกา มีความสัมพันธ์มาก ๆ เจดีย์พระธาตุนั่น ก็เป็นเจดีย์แบบลังกาครับ แล้วเทพที่ปรากฎในพระพุทธศาสนามีกี่องค์ครับ พระพรหม พระอินทร์ พระวิศวกรรม(ในชาดกก็มี) ท้าวกุเวร รวมถึงจตุโลกบาล.......ก็มีแค่นี้ครับ คุณยังไม่ได้หักล้างความเห็นผมเลยครับ ท่านเฝ้ารักษาพระเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุอยู่ ท่านไม่ใช่พุทธหรือครับ จะเป็นฮินดู เหมือนพระพิฆเนศวรหรือครับ แล้วเทพในพระพุทธศาสนา ไม่ได้มีแค่นั้นครับ มีเป็นแสนเป็นล้าน ในพระไตรปิฏกมีกล่าวมากมาย บรรลุธรรมมากมาย ทั้งดาวดึงส์ก็ใช่ ยังมีเทพบุตร เทพธิดาในวิมานต่างๆ ที่พระโมคคัลลานะไปเยี่ยมอีก นี้ไง่ล่ะ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 50 07:24:37 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : จักรแก้ว - [ 15 มิ.ย. 50 07:17:51 ]

ความคิดเห็นที่ 24 นี้ก็อีก ท่านจตุคามรามเทพท่านอาจจะอยู่ในกลุ่มนี้ก็ได้ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : จักรแก้ว - [ 15 มิ.ย. 50 07:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 25 นี้ก็อีก ท่านจตุคามรามเทพท่านอาจจะอยู่ในกลุ่มนี้ก็ได้ ไม่ได้มีวนเวียนในตำราประวัติศาสตร์ เพียงไม่กี่องค์อย่างคุณว่าหรอกครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 15 มิ.ย. 50 07:23:34 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เทพเหล่านี้ บางองค์ เป็นพระโพธิสัตว์ก็ได้ครับ คงมีอีกเป็นแสนเป็นล้านองค์ได้เหมือนกันครับ รูปนี้รู้สึกจะเป็นของ ครูเหม ผมชอบครับ ขออีกที จากคุณ : จักรแก้ว - [ 15 มิ.ย. 50 07:26:27 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าคณะโบราณคดี หรือคุณเมื่อไรจะหายเหงา เป็นผู้นำท่านจตุคามรามเทพ มาแพร่หลายในประเทศไทยเป็นคนแรก เหมือนคณะท่านเทพมังกรเอนมา ผมจะเชื่อกระทู้นี้ของคุณ แต่คุณไม่ใช่นะครับ คนที่นำท่านมา คนแรก เอ่ยนามท่านคนแรก คือ ขุนพันธ์ คุณก็รู้ว่าในประวัติศาสตร์ ชือ จตุคาม รามเทพ  ชื่อ ศรีธรรมโศกราช และอีกมาก เช่น พระเจ้ารามาธิบดี พระเจ้า เฮนรี่ มีได้หลายองค์ ผมพูดผิดตรงไหน แย้งมาได้เลยนะครับ แต่ท่านจตุคามที่โด่งดังทุกวันนี้ มาจากขุนพันธ์ ศิษย์เขาอ้อผู้มีกฤติยาคม มีศีล มีสัตย์ นั่งสมาธิ ได้มี ญาณหยั่งรู้สัมผัสได้ คุณอย่าไปดูถูกท่านนะครับ คนไทย ทำได้อย่างนี้มีมากมาย ทั้งพระและฆราวาส ขุนพันธุ์บอกว่า ท่านเป็นกษัตริย์ รักษาเมืองมาก่อน มีแม่ทัพคือพระยาชิงชัย องค์นี้เท่านั้นครับ องค์นี้เท่านั้น จึงจะตรงกับ ท่านจตุคามรามเทพ ที่วัดมากมายทั่วประเทศทำขึ้นมา เพราะเขานับถือ และเชื่อกันว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์ รักษาพระธาตุ รักษาพระศาสนา ถ้าท่านเป็นฮินดู วัดไม่ทำครับ ถ้าท่านไม่ใช่ พระโพธิสัตว์ พระสงฆ์ก็ไม่ทำเหมือนกัน ไม่เชื่อคุณไปถามพระสงฆ์วัดที่ทำพุทธาภิเษก เทวาภิเษก ดูสิครับ วัดไหนว่าท่านไม่ใช่พระโพธิสัตว์ คุณมาบอกในกระทู้นี้เลยครับ คุณอย่าเบี่ยงเบนท่านไปเป็นอย่างอื่นเลยครับ บาปกรรม ผมเห็นคุณลบหลู่ เทพพระโพธิสัตว์พระองค์นี้หลายครั้ง คุณพูดกระทบเปรียบเปรยท่านว่า อัปมงคล คุณลบหลู่ ขุนพันธุด้วย หรือคุณจะจำไม่ได้ ผมนำที่คุณเขียนมาให้ดูเลยครับ ในกระทู้นี้แหละ คนที่คิด จตุคามรามเทพ ขึ้นมาคงจะเป็นคนอนาถาทางการศึกษา ไม่รู้ประวัติศาสตร์ เข้าไม่ถึงเอกสารโบราณ และขาดออกจากหลักพุทธศาสนาขนานแท้ จนหลงงมงายกับเครื่องอัปมงคลชนิดที่เรียกกันว่า "เงินไหลเข้ามา" ทำอย่างนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ดีเลยครับ การส่อเสียด พูดกระทบ ลบหลู่ผู้มีบุญ สั้นๆว่า นรกครับ หรือไม่ก็เป็นเปรต ปากหมูอย่างที่ผมนำมาให้ดูหลายครั้งแล้ว ผมแนะนำให้ขอขมาท่าน เทพผู้มีความดี ต่อพระศาสนา ไม่ใช่ใครที่ไหนจะมาดูหมิ่นได้นะครับ แม้ท่านปยุต จะเอ่ยนามท่าน พูดถึงท่าน จตุคามรามเทพด้วยความเคารพในความดีงามของท่านเลยครับ ผมอยากให้คุณแย้งผมมาบ้างว่าผมผิดตรงไหน ผมจะได้รู้ตัว อีกทางหนึ่งก็อยากให้คุณได้คิดบ้าง ขอให้ มีความเจริญในธรรมนะครับ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 50 07:43:52 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 50 07:41:31 จากคุณ : จักรแก้ว - [ 15 มิ.ย. 50 07:37:49 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมนำคำของท่าน ปยุต มาให้ดูว่า ปราชญ์แท้ๆอย่างท่าน พูดถึงท่านจตุคามอย่างไร ผู้ร่วมสนทนาอีกคนถามว่า เทวดาดีอย่างจตุคามฯที่รักษาพระธาตุนครศรีธรรมราช มีเมตตากรุณาคอยช่วยเหลือคน เลยทำให้คนคอยหวังพึ่ง รอให้มาช่วย แล้วจะทำอย่างไรให้คนไทยเข้มแข็ง  รู้จักคิดทำอะไรด้วยตัวเอง ท่านเจ้าคุณปยุตตอบว่า เทพองค์นั้นเป็นชาวพุทธที่ดี มีศรัทธามาทำหน้าที่ปกปักรักษาพระพุทธศาสนา มาบำเพ็ญความดี นับเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าชาวพุทธควรจะบำเพ็ญความดีอย่างเทพองค์นี้ เรื่อง พระประยุทธ์ชี้กระแสจตุคามฯ ทำสังคมหมุน ลัทธิบริโภคนิยมผสมพึ่งโชค คนเป็นเหยื่อธุรกิจ-วัดหาลาภ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ได้เตรียมเผยแพร่บทสนทนาธรรม "คติ : จตุคามรามเทพ" เนื่องในโอกาสวิสาขบูชา วันที่ 31พฤษภาคม เราต้องแยกแยะระหว่าง ท่านจตุคาม กับคนที่ ทำสังคมหมุนกลิ้งด้วยการเอาท่านไปหากิน ในรูปแบบที่มอมเมาประชาชน ที่เรียกว่า ลัทธิบริโภคนิยม เช่น ลงรูป ขี้ฝุ่น ว่า เป็นปาฏิหารย์เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ผมจึงทำหนังสือเรื่อง เทวตานุสสติขึ้นมา และจะพยายามแพร่หลายให้ความรู้ให้มากที่สุดครับ ถ้าคุณไม่หายเหงา ขุ่นเคืองอะไรผม ผมกราบขออภัยมาในโอกาสนี้ ขอให้คุณแยกแยะออก มีความก้าวหน้าในความดีงามนะครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 15 มิ.ย. 50 07:50:44 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ประเด็น...ความส่งท้าย ในเรื่องนี้เห็นจะโทษใครไม่ได้ คนที่คิด จตุคามรามเทพ ขึ้นมาคงจะเป็นคนอนาถาทางการศึกษา ไม่รู้ประวัติศาสตร์ เข้าไม่ถึงเอกสารโบราณ และขาดออกจากหลักพุทธศาสนาขนานแท้ ... โดย ไมเคิล ไรท์ ก็ไม่ทราบได้ว่า ไมเคิล ไรท์ "เข้าถึง แก่นธรรมตามหลักพุทธศาสนาขนานแท้ แล้วหรือไม่? ได้ไม่ได้ ยกไว้ ไม่ใช่ กิจของอนัตตาอื่น จากไมเคิล ไรท์ มาพิจารณา ตามหลักฐานชั้นต้นเดิมสุดๆ ที่ = เข้าให้ถึงเอกสารโบราณ.. (๑) พระบาลีแปลไทย จากพระโอษฐ์ ไม่ว่าสำนวนแปลใดๆ ยังหาไม่พบ ตรัส ภูมิ ๓๑ ไว้ในพระสูตรใด พระสูตรหนึ่งฯ (๒) ภพ ๓ ได้แก่ กามภพ รูปภพ อรูปภพ (๓) ภูมิ ๔ ได้แก่ กามวจรภูมิ คือ จิตที่ท่องเที่ยวใน กามภพ ..เพราะมีอุปาทาน (นันทิในเวทนาขันธ์ นันทิคือ ตัวอุปาทาน) เป็นปัจจัย จึงมีภพ รูปาวจรภูมิ คือ จิตที่ท่องเที่ยวใน รูปภพ ..เพราะมีอุปาทาน (นันทิในเวทนาขันธ์ นันทิคือ ตัวอุปาทาน) เป็นปัจจัย จึงมีภพ อรูปาวจรภูมิ คือ จิตที่ท่องเที่ยวใน อรูปภพ ..เพราะมีอุปาทาน (นันทิในเวทนาขันธ์ นันทิคือ ตัวอุปาทาน) เป็นปัจจัย จึงมีภพ โลกุตตรภูมิ คือ อะไร? พิจารณา จูฬสุญญตสูตร ซิครับ (๔) ภพ๓ ภูมิ ๔ ..เนื่องกับ กรรม พิจารณา กรรม ตามที่ตรัสในนิพเพธิกสูตร เรื่อง กรรมอันทำสัตว์ ให้เสวยเวทนา เป็น (ด้วยพุทธปัญญา เด้อ) สัตว์นรก มีอยู่ เรื่อง กรรมอันทำสัตว์ ให้เสวยเวทนา เป็น (ด้วยพุทธปัญญา เด้อ) กำเนิดเดรัจฉาน มีอยู่ เรื่อง กรรมอันทำสัตว์ ให้เสวยเวทนา เป็น (ด้วยพุทธปัญญา เด้อ) เปรตวิสัย มีอยู่ เรื่อง กรรมอันทำสัตว์ ให้เสวยเวทนา ใน (ด้วยพุทธปัญญา เด้อ) มนุษยโล มีอยู่ เรื่อง กรรมอันทำสัตว์ ให้เสวยเวทนา ใน (ด้วยพุทธปัญญา เด้อ) เทวโลก มีอยู่ โลกนรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย(อบายภูมิ ภาวะที่ไม่เจริญ)โลกมนุษย์ โลกเทวดา...นั้น ตรัสองค์ธรรมคือ เจตนาคือกรรม อันทำสัตว์ ให้เสวยเวทนา เป็น หรือ ใน ...นะครับ (๕) เรื่องนรก สวรรค์ ตามที่ตรัสไว้ ก้ต้อง เนื่องกับ นรก สวรรค์ ตามที่ ตรัสไว้ว่า พระองค์ทรงเห็นแล้ว (จากความจำ) ตามที่ตรัสคำว่า ฉผัสสายติกนรก (นรก-นิรยะ คืออบาบแปลว่า ทางแห่งความไม่เจริญของวิชชา ที่เนื่องกับ ผัสสะ ทางอายตนะ หก = ฉผัสสายติกนรก) ฉผัสสายติกสวรรค (สัคคะ คือกาม หรือสวรรค์ที่เนื่องกับกาม เมื่อ ผัสสะทางอายตนะ หก) (๖) ตรัสไว้ว่า หมดอาหาร ก็นิพพาน ..ตรัส อาหาร ๔ ไว้ ตรัส อาหาร ๔ ว่า เพื่ออนุเคราะห์ สัมภเวสีสัตว์ (รอเกิด หรือแสวงหา ชาติ คือความเกิดตามกระแสปฏิจจสมุปบาทรอบใหม่ คือสัมภเวสี) และเพื่อความตั้งอยู่ได้แห่งภูตสัตว์ (สัตว์ที่เกิด ชาติ คือตัวกุ ของกุ อันเป็นอาการที่ ๑๑ แห่งกระแสปฏิจจสมุปบาทรอบปัจจุบันขณะๆ นั่นๆ นั่นแหละ) ดังนั้น จึงตรัสว่า "หมดอาหาร ๔ ก็นิพพาน" ...ด้วยการ ไม่ให้ นิวรณ์ทั้ง ๕ อันเป็น อาหารของ อวิชชา = เป็นอยู่โดยชอบ.... เพราะเมื่อ จิตไม่มีนิวรณ์ (= มีสติในสมาธิ + สัมมาทิฏฐิ หรือ กำลังเจริญโพธิปักขิยธรรม ๓๗) เจตสิกฝ่ายอกุศลคือ ฉันทะ ราคะ นันทิ ตัณหา ในอารมณ์ ณ ปัจจุบันขณะนั้นคือ เวทนา อันมี ผัสสะเป้นปัจจัย โดยเฉพาะ เวทนา (เสวยอารมณ์ มี ๓ ลักษณะ)..ย่อม ถูก ตามดู ตามเ็ห็้น เพื่อเห้นแจ้ง ด้วย จิตประภัสสร หรือตามที่ตรัสว่า ...จงเจริญสมาธิเถิด ภิกษุผู้มีจิตเป็นสมาธิ(ที่แวดล้อมด้วยบริวารมรรคทั้ง ๗)ตั้งมั่นดีแล้ว (มีสติในสมาธิขั้นรูปฌาน ที่ ๔ + ที่ สามารถแล้วในสมาธิภาวนาที่เป็นไปเพื่อความมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ตามพระบาลีโรหิตัสวรรค) ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริง ซึ่งความเกิดขึ้น และความดับไป (เพราะมิจฉาฉันทะ ราคะ นันทิ ตัณหาในอารมณืคือเวทนาฯ)แห่งขันธ์ทั้ง ๕ ฯลฯ รวมความว่า ต้นกำเนิดจตุคาม ต้นกำเนิดจตุคาม (ได้ข้อมูลจากคุณไมเคิลไรท์ หรือ ฯลฯ) ..ย่อมเนื่องกับ มิจฉาฉันทะ ราคะ นันทิ ตัณหา ซึ่งมีหัวโจกคือ ยังไม่มี วิชชาคืออาสวักขยญาณ (มีอวิชชา) ดังนั้น "จึง เป็นไปตามพุทโธวาท" ที่ตรัสว่า (๗) สัตว์โลกนี้ เกิดความเดือดร้อนแล้ว มีผัสสะบังหน้า (เพราะไม่รู้ตามที่เป็นจริงซึ่ง ผัสสะ เป็นส่วนสุดข้างหนึ่ง ผัสสสมุทัยเป็นส่วนสุดข้างที่สอง ผัสสะนิโรธมีในท่ามกลาง) ย่อมกล่าวซึ่งโรค (อาการคือความเสียบแทง)นั้น โดยความเป็นตัวตน (ไม่รู้ปรมัตถ์มั๊ง?) เขาสำคัญ (สัญญา +อุปาทาน ไม่ใช่ สมาทานด้วยสัมมาทิฏฐิ ฯ) สิ่งใด โดยความเป็นประการใด แต่สิ่งนั้น (กระทู้นี้คือ จตุคาม รามเทพ) ย่อม เป็น (ตามพุทธปัญญา อันเป็นพุทธวิสัย)ตามที่เป็นจริง โดยประการอื่น จากที่เขา (อนัตตา + No วิชชา) สำคัญนั้น สัตว์โลกติดข้องอยู่ในภพ ถูกภพ บังหน้าแล้ว (พิจารณา ปฏิจจฯ ..ผัสสะ เวทนา ตัรหา อุปาทาน ภพ) มีภพโดยความเป็นอย่างอื่น (จากที่ภพ มันเป็นอยู่จริง คือ อาการที่ ๑๐ แห่งกระแสปฏิจจสมุปบาท ไม่ตรัสคร่อม ๓ ช่วง ฯ) จึงได้ เพลินเพลินยิ่งนักในภพนั้น เขาเพลิดเพลินยิ่งนักในสิ่งใด สิ่งนั้นเป็นภัย (ที่เขาไม่รู้จัก ..แต่สำคัญว่ารู้จักฯ) เขากลัวต่อสิ่งใด สิ่งนั้นเป็นทุกข์ (ไม่กลัว ก้ยัง = กลัว ..ต่อเมื่อว่างทั้งกลัว ไม่กลัว เพราะได้สภาวะตามจูฬสุญยตสูตร จึง ไม่ทุกข์) พรหมจรรย์นี้ อันบุคคลพึงประพฤติ ก็เพื่อละขาดซึ่ง ภพ (๓) ฯลฯ ...เป็นชาวพุทธ ให้ ถูกฝาถูกตัว จากคุณ : เซนเถรวาท (F=9b) - [ 15 มิ.ย. 50 08:31:17 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขุนพันธ์เป็นฆราวาสนิครับ ไม่ใช่สมณะ พระอรหันต์จากสำนักไหนนะครับ ท่านเฝ้ารักษาพระเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุอยู่ ท่านไม่ใช่พุทธหรือครับ จะเป็นฮินดู เหมือนพระพิฆเนศวรหรือครับ แล้วเทพในพระพุทธศาสนา ไม่ได้มีแค่นั้นครับ มีเป็นแสนเป็นล้าน ในพระไตรปิฏกมีกล่าวมากมาย บรรลุธรรมมากมาย ทั้งดาวดึงส์ก็ใช่ ยังมีเทพบุตร เทพธิดาในวิมานต่างๆ ที่พระโมคคัลลานะไปเยี่ยมอีก นี้ไง่ล่ะ --------------------- ตำแหน่งจตุคาม ต่ำกว่าเทพนพเคราะห์ของอินเดียอีกครับ ถ้าเทียบกับเทพ ก็คือพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง เจ้าพ่อหอกลอง บลา ๆ ๆ แล้วขัตตุคามในลังกา เป็นเทพรักษาเมืองลังกานะครับ ไม่ใช่รักษาพระธาตุ........ ในตำนาน พระร่วงสุโขทัยปรึกษากับทางนครศรีธรรมราช เพราะอยากได้พระพุทธสิหิงค์ ทางนครศรีฯตอบว่า ไปเอามาไม่ได้ ลังกามีเทพรักษา 4 องค์......... ....................... นับแต่เล่นพันทิปมา ผมไม่เคยพูดถึงขุนพันธ์นะครับ แต่พูดถึงจตุคาม ******************** จตุคามที่เอารูปมาบูชากันอะ และที่เห็นที่พระธาตุ มีเทพถึง 3 องค์ -พระขันทกุมาร(Kataragama Deva ใกล้เคียงคำว่า ขัตตุคาม) -รามเทพ ชาวลังกาเรียกเทพองค์นี้ว่า"อุบลวรรณ"เป็นชื่อเรียกพระวิษณุในลังกา ซึ่งพระวิษณุที่ประตูวิหารพระม้า เป็นพระวิษณุ2หน้า(หน้าบนคงเป็นหน้าอวตาร คือพระราม) และอาวุธที่ถือที่มือซ้ายล่าง คือธนูกับลูกศร ซึ่งเป็นอาวุธพระราม -สุมนเทพ เทพารักษ์ที่เขาสุมนกูฏ ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท อยู่ที่ศรีลังกา -พระนาถเทพ ในเอกสารโบราณของลังกา มีคำว่า"นาถ"ซึ่งเป็นคำเรียกพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ชื่อว่า"อวโลกิเตศวร"ลังกาเรียกว่า"นาถเทพ"(ค.ห.2) จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 15 มิ.ย. 50 09:25:33 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คุณจักรแก้วไม่เห็นต้องอารมณ์เสีย คุณเมื่อไหร่จะหายเหงาครับ ผมรออ่านข้อมูลประวัติศาสตร โบราณคดี เพราะจตุคาม-รามเทพ มีข้อมูลเกี่ยวข้องกับหลายๆอย่าง อย่างที่พระขันธกุมารอาจจะไม่มี พังพกาฬ ราหู 12 นักษัตร พระยาชิงชัย รออ่านอยู่นะครับ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 50 15:38:21 จากคุณ : campaign - [ 15 มิ.ย. 50 10:39:46 ]

ความคิดเห็นที่ 32 นับแต่เล่นพันทิปมา ผมไม่เคยพูดถึงขุนพันธ์นะครับ แต่พูดถึงจตุคาม คุณพูดอย่างนี้ครับ คนที่คิด จตุคามรามเทพ ขึ้นมาคงจะเป็นคนอนาถาทางการศึกษา ไม่รู้ประวัติศาสตร์ เข้าไม่ถึงเอกสารโบราณ และขาดออกจากหลักพุทธศาสนาขนานแท้ จนหลงงมงายกับเครื่องอัปมงคลชนิดที่เรียกกันว่า "เงินไหลเข้ามา" เมื่อไรจะหายเหงา คนที่คิดขึ้นมา  และพูดออกมาว่า ท่านคือจตุคามรามเทพ คือ ท่านขุนพันธ์ครับ คุณเมื่อไรจะหายเหงา คุณ ก็คงรู้รู้ประวัติศาสตร์ตรงนี้แล้ว อยากให้คิดด้วย ก่อนที่จะไปเที่ยวว่าใครต่อใครครับ ระวังทายาทเขาฟ้องเอาด้วย บาปกรรมคุณไม่กลัว คงกลัวเรื่องนี้บ้างกระมัง ยังมี พล.ต.ท.สรรเพชญ ธรรมาธิกุล อีกท่านที่ร่วมคิดร่วมสร้างขึ้นมา  รอให้ท่านได้อ่านก่อนเถิด อนาถาทางการศึกษา คุณว่าเขาเสียเจ็บทีเดียว คุณคงภูมิใจที่ตัวมีการศึกษามากนะครับ จึงไปว่าคนอื่นอย่างนี้ได้ ไม่ดีเลยครับ อย่าทำอย่างนี้เลยครับ คุณพูดว่า ตำแหน่งจตุคาม ต่ำกว่าเทพนพเคราะห์ของอินเดียอีกครับ ผมขอตอบว่า ของเราเป็นเทพพุทธครับ ของเขาตอนนี้ส่วนมากเป็นฮินดู ความสูงต่ำคุณเอามาจากไหน มีอ้างอิงไหมครับ เห็นคุณชอบอ้างอิง คุณพูดว่า แล้วขัตตุคามในลังกา เป็นเทพรักษาเมืองลังกานะครับ ไม่ใช่รักษาพระธาตุ ผมขอตอบว่า ถูกต้องครับ ก็คนละองค์กันนี่ครับ ผมคิดว่าคุณสับสน ในองค์จตุคามมากเลยครับ ว่าคือองค์ไหนกันแน่ ซึ่งก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะประวัติศาสตร์มันสับสนครับ เมื่อสับสนอย่างนี้ อย่าไปเที่ยวเสนอความเห็นอันสับสนเลยครับ เสนอไปว่าไป บาปกรรมเปล่าๆครับ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 50 11:10:53 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 50 11:06:47 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 50 10:59:59 จากคุณ : จักรแก้ว - [ 15 มิ.ย. 50 10:45:58 ]

ความคิดเห็นที่ 33 พังพกาฬ ราหู ***12 นักษัตริย์ พระยาชิงชัย ***นักษัตรครับ ขอย้ำว่านักษัตร ไม่ใช่กษัตริย์ พังพกาฬ ราหู ชิงชัย ก็ไม่มีในเอกสารโบราณ จดหมายเหตุ พงศาวตาร ตำนานเมืองไหนก็ไม่มีครับ จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 15 มิ.ย. 50 13:07:17 ]

ความคิดเห็นที่ 34 .......... จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 15 มิ.ย. 50 13:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุณจักรแก้ว ลองไปดูเทพ 2 องค์ที่เฝ้าประตู คือเทพอะไร แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่พระพรหม เพราะไมเคิลไรท์บอกว่ามี 6 หน้า และพระพรหมก็ไม่เคยมี 6 หน้า ---------------- ป้ายด้านซ้ายเขียนว่า เท้าขัตตุคาม ด้านขวาเขียนว่า เท้ารามเทพ ---------------- ในกฏหมายตราสามดวง เรื่องดำน้ำลุยเพลิง ก็มีการอ้างถึงขัตตุคาม กับรามเทพ ซึ่งไม่ใช่กษัตริย์บ้าบอที่ไหน และไม่เกี่ยวกับจันทรภาณุ หรือศรีธรรมาโศกราชด้วย *********** ในตำนานพุทธสิหิงค์ มีกล่าวถึงขัตตุคาม รามเทพ -เมื่อพระสัมมาสัมพุทธปรินิพานได้ ๑,๘๐๐ ปี จุลศักราช ๖๑๘ (ตรงกับ พ.ศ. ๑๗๙๙) มีกษัตริย์องค์หนึ่งทรงพระนามว่า "โรจราช" ครองราชสมบัติอยู่ในเมืองสุโขทัยประเทศสยาม ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของชมภูทวีป (อินเดีย) ได้ยินว่า ครั้งหนึ่ง พระเจ้าโรจราชใคร่จะทอดพระเนตรมหาสมุทร แวดล้อมด้วยทหารหลายหมื่น เสด็จล่องใต้ไปตามลำแม่น้ำน่านจนกระทั่งถึงสิริธรรมนคร (นครศรีธรรมราช) พระเจ้าสิริธรรมครองราชสมบัติอยู่มนเมืองนั้น ได้ทรงต้อนรับเป็นอย่างดี แล้วตรัสเล่าให้พระเจ้าโรจราชฟังถึงความอัศจรรย์ของพระสีหลปฏิมาในลังกาทวีปตามที่ได้ทรงสดับมา พระเจ้าโรจราชตรัสถามว่าเราจะไปที่นั่นได้ไหม พระเจ้าสิริธรรมตอบว่าไปไม่ได้ เพราะมีเทวดาอยู่สี่ตน ชื่อสุมนเทวราช ๑ รามเทวราช ๑ ลักขณเทวราช ๑ ขัตตคามเทวราช ๑ มีฤทธิ์เดชมาก รักษาเกาะลังกาวีไว้เป็นอย่างดี ************** พระเจ้าโรจนราช คือกษัตริย์สุโขทัยครับ ท่านอยากได้พระพุทธสิหิงค์มาก เลยปรึกษาทางนครศรีฯ ว่าทำไงถึงเอามาได้......... จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 15 มิ.ย. 50 13:24:31 ]

ความคิดเห็นที่ 36 แต่ลักษณะจตุคามฯที่พบ เก่าสุดคือรูปพระอวโลกิเตศวรของลังกา ชาวลังกาเชื่อว่าเป็นเทพรักษาเมืองลังกา เทพองค์นี้มีศาลประจำอยู่ที่เมืองแคนดี ------------- คุณจักรแก้วไม่สังเกตบ้างเหรอครับ ว่าลังกา กับนครศรีฯ เกี่ยวข้องกันยังไง กษัตริย์สุโขทัยอยากได้พระพุทธสิหิงค์ แต่ทางนครศรีฯบอกว่าเอาไม่ได้ มีเทพรักษา 4 องค์ และในนั้นมี 2 องค์ มาที่นครศรีฯ นั่นคือขัตตุคาม กับรามเทพ ภาพนี้ คือศาลพระนาถเทพ หรือศาลพระอวโลกิเตศวร จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 15 มิ.ย. 50 13:33:18 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ศาลพระนาถเทพ จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 15 มิ.ย. 50 13:35:11 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ชื่อพ้องจองกัน มังครับ คุณเมื่อไรจะหายเหงา แตถ้าคุณว่า เป็นขัตตุคาม ก็แสดงว่าคนละองค์กันนะครับ คุณ บอกมาว่า ในกฏหมายตราสามดวง เรื่องดำน้ำลุยเพลิง ก็มีการอ้างถึงขัตตุคาม กับรามเทพ ซึ่งไม่ใช่กษัตริย์บ้าบอที่ไหน และไม่เกี่ยวกับจันทรภาณุ หรือศรีธรรมาโศกราชด้วย เอาอีกแล้ว ว่าเข้าไปอีก  สรุปว่า ตรงนี้ก็ถูก เทพ ขัตตุคามนั้นคงไม่ใช่กษัตริย์ครับ คุณเข้าใจอย่างนี้ก็ดีแล้ว ส่วนท่านจตุคามที่คนนับถือกันนั้น เป็นกษัตริย์ จึงคนละองค์กันอย่างไรเล่าครับ สมชาย สมศักดิ์ สมศรี ยังมีได้ตั้งหลายคน จริงมั้ยครับ ส่วนตำนานพระพุทธสิหิงส์ จะกล่าวอะไรก็กล่าวไป ไม่ใช่องค์นี้อีกนั่นแหละ ยังมีตำนาน อีกมั้ยนี่ครับ............... จะกี่ตำนาน จะว่าอย่างไรก็ว่าไปเถอะ คุณรู้ได้ไงว่าใช่องค์นี้ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 15 มิ.ย. 50 13:37:51 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ซ้ำกับข้างล่าง ดูข้อ 40 นะครับ เลขสวยกว่า แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 50 13:48:58 จากคุณ : จักรแก้ว - [ 15 มิ.ย. 50 13:40:31 ]

ความคิดเห็นที่ 40 พอดีผมไม่ได้อ่านสองความเห็นหลัง ผมจะบอกว่า เรื่องประวัติศาสตร์ก็น่าสนใจครับ ที่คุณ โพสต์มา ผมก็ได้ความรู้ แต่ผมจะบอกว่า มันอาจจะเป็นคนละองค์กันไปเลย นี้แหละครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 15 มิ.ย. 50 13:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ตำนานที่อ้างมา มันเกี่ยวกับลังกาโดยตรง หรือจะบอกว่าพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช มีที่ลังกาด้วย เพราะเป็นกษัตริย์นครศรีฯ --------- นครศรีฯ รับพระพุทธศาสนาจากลังกามาเต็ม ๆ ก็ไม่แปลกที่เทพ 2 องค์ รับมาจากลังกามาด้วย แล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร พระสุมนเทพ รักษาพระพุทธบาทที่ลังกา เราไม่เอามา เพราะนครศรีฯไม่มีเขาสุมนกูฏ นครศรีจึงมีแค่เทพ 2 องค์ นั่นคือเท้าขัตตุคาม(Kataragama) กับรามเทพ(พระอุบลวรรณ หรือพระวิษณุ ซึ่งรูปพระวิษณุที่บานประตูพระม้า ถือธนูและลูกศร เขาเจาะจงให้เป็นพระวิษณุในรูปรามาวตาร คนลังกาไม่ได้เรียกพระรามหรือพระวิษณุ แต่เรียกอุบลวรรณ แต่ไทยเรียกว่าพระรามครับ) ก็ตำนานนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับจันทรภาณุ ศรีธรรมาโศกราช หรือเทพหลักเมืองนครศรีฯ และโยงด้วยกันไม่ได้ ผมก็ไม่เคยเห็นมีอาณาจักรบ้าบอที่ไหน เอารูปกษัตริย์ตนเอง มายืนเฝ้าพระธาตุ หรือยืนเฝ้าสถานที่ หรือเอารูปท่านมาแปะที่บานประตู แล้วมีป้ายว่า"ห้ามปิดทอง"ให้ชาวบ้านชาวช่องทราบ แล้วจตุคามที่นับถือ ไม่เกี่ยวอะไรกับจันทรภาณุ และศรีธรรมโศกราช แต่เกี่ยวโยงกับตำนานลังกา ตำนานพุทธสิหิงค์ ชินกาลฯ และไม่มีพระราหูนะครับ พระราหู พังพกาฬนี่อะไรไม่ทราบ มาจากไหนไม่รู้ เติมแต่งเอาเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับจตุคามเลยซักนิด และไม่มีใครบูชาพระราหูองค์เดียวโดด ๆ ด้วย ฮินดูก็ไม่บูชาด้วย แต่จะบูชา 9 องค์พร้อม ๆ กัน แล้วก็พระปิดตา นี่อะไรไม่รู้ครับ คงเป็นพระพุทธเจ้าของจตุคามฯมั้ง พระปิดตาพังพกาฬอะไรนั่น จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 15 มิ.ย. 50 13:54:08 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ต้องขอบคุณ คุณ : เมื่อไรจะหายเหงา นี่แหละ เปิดเปิงให้เห็นชัด ๆ  เลยว่า  การโยงจตุคาม มาเป็น พระโพธิสัตว์ ถือว่าเป็น การดูหมิ่น พระโพธิสัตว์ทางพุทธ  อย่างร้ายแรง  ..  ไม่รู้คุณจักรแก้ว จะพยายามให้คน นับถือท่านทำไมอยู่ได้ จตุคามเป็นเทพมีที่มาทางฮินดูชัด  ๆ   อย่าทำให้ชาวพุทธต้องงมงายไปอีกนานเลยครับ พระหลายวัด ปลุกเสกเทพฮินดูกันสนุกเข้าไป จากคุณ : พันพรือ - [ 15 มิ.ย. 50 14:10:04 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เรื่องของจตุคามรามเทพ เป็นเรื่องของชาวพุทธที่ติดอยู่แค่เปลือกหรือใบ เกิดขึ้นในช่วงพุทธศาสนานี้แหละครับ  อย่าอิ่งอย่าเอา อินดู หรือพราหญ์เข้ามาเกี่ยวข้องเลย จะเป็นการทำลายใบและเปลือกของพุทธศาสนาด้วยศาสนาอื่น    ถ้าจะด่าว่ากัน ก็ด่าว่ากันในฐานะชาวพุทธที่ไปหลงติดอยู่กับใบและเปลือกจนเกินควร   เพราะจตุคามรามเทพเป็นเรื่องของพุทธศาสนานี้เต็มๆ เกิดเป็นรอยต่อระหว่างมหายานกับเถรวาท     จึงอย่าเอาอินดู หรือพราหมญ์ เข้ามาเกี่ยวข้องก่อนนะครับ เดียวจะเพี้ยนไปใหญ่ ผมเสนอ กลอนหก ที่ผมเพิ่งแต่ง ว่าพุทธศาสนาตอนนี้เป็นอย่างไร?    แก่นเป็นด่างด้วยเชื่อรา           รุกเข้ามา จึงเริ่มผุ เปลือกมีหนอนเข้ามาคุ               ทั้งเจาะขุด แล้วซอนไช ส่วนใบปลิดจากภายนอก           ให้ช้ำชอก ทุกกิ่งไป นี้และหนอ พุทธในไทย             ที่เริ่มไกล จากพระธรรม    วิชา 15/06/50 ต่อไปเอาภาวะจริงแจกแจงให้ดู แตกจากกลอนข้างบน   (แก่นที่เริ่มมีเชื่อรา)    ธรรมเริ่มคลอน ด้วยผู้สอนผิด     เข้ามาปิด เปลี่ยนธรรมวินัย ธรรมกายเห็นอย่างใสใส               อยากแก้ไข พระไตรปิฎก    (เปลือกมีหนอนเข้ามาไช) ศรัทธา จตุคาม เริ่มแบ่ง                 เข้ามาแย่ง จนตะหนก พราหมณ์พุทธปนกันจน รก             ชั่งตลก จริงจริง นะผู้คน    (ใบโดนปลิดจากภายนอก)  ต่างศาสตร์ก็ทำให้คล้าย            เพื่อขยาย ประสงค์ปวงชน ทำทุกวิธีอย่างแยบยล                 กลืนปวงชน เป็นของตน    (เพราะชาวพุทธห่างจากธรรม)    ชาวพุทธที่ไม่ศึกษาธรรม         ไม่นำธรรมมา เข้าหาตน ศรัทธาย่อมอ่อนเหลือทน             ใครก็ขนเอาเป็นพวกง่ายเอย     วิชา 15/06/50 จากคุณ : P_vicha - [ 15 มิ.ย. 50 15:00:42 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คนที่คิด จตุคามรามเทพ ขึ้นมาคงจะเป็นคนอนาถาทางการศึกษา ไม่รู้ประวัติศาสตร์ เข้าไม่ถึงเอกสารโบราณ และขาดออกจากหลักพุทธศาสนาขนานแท้ จนหลงงมงายกับเครื่องอัปมงคลชนิดที่เรียกกันว่า "เงินไหลเข้ามา"........... ^ ^ ไมเคิลไรท์พูดครับ ไปเปิดหนังสือศิลปวัฒนธรรมฉบับล่าสุดดูได้ ไม่ได้อ้างเองครับ จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 15 มิ.ย. 50 15:29:05 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คุณเมื่อไหร่จะหายเหงา "พระราหู พังพกาฬนี่อะไรไม่ทราบ มาจากไหนไม่รู้ เติมแต่งเอาเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับจตุคามเลยซักนิด และไม่มีใครบูชาพระราหูองค์เดียวโดด ๆ ด้วย ฮินดูก็ไม่บูชาด้วย แต่จะบูชา 9 องค์พร้อม ๆ กัน แล้วก็พระปิดตา นี่อะไรไม่รู้ครับ คงเป็นพระพุทธเจ้าของจตุคามฯมั้ง พระปิดตาพังพกาฬอะไรนั่น" นักประวัติศาสตร์ อ้างอิงหลักฐาน น่าจะมีข้อมูลนะครับ เพราะจตุคามรามเทพสำคัญ และอยู่คู่กับ พังพกาฬ ราหู   12นักษัตร (ขออภัยที่เคยเขียนผิด) มาตลอด คุณเมื่อไหร่จะหายเหงา มีข้อมูลเกี่ยวกับเทพเจ้า และประวัติศาสตร์มากนัก ผมเองก็ยังอยากจะอ่าน อยากขอความชัดเจนครับ  น่า นะ นะ หาให้หน่อย แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 50 15:47:18 จากคุณ : campaign - [ 15 มิ.ย. 50 15:46:11 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ถ้าพระขันธกุมาร คือ จตุคามจริงๆ ผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่อยากได้ความชัดเจนน่ะครับ เพราะอยากรู้ที่มาที่ไปชัดเจนกว่านี้ กระแสแรงเหลือเกิน หนังสือแต่ละเล่มก็บอกไปคนละทิศละทาง ทำไมจตุคามรามเทพ ถึงมีดวงตราราหู [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : campaign - [ 15 มิ.ย. 50 15:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 47 พังพะกาฬ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : campaign - [ 15 มิ.ย. 50 15:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เอาเรื่องอะไรอะครับ..........จะได้หาถูก ขัตตุคาม-รามเทพ ของจริงนะครับ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 15 มิ.ย. 50 16:15:05 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ถึง จขกท เทพฮินดู นับถือพระพุทธศาสนา ไม่ได้หรือ ? จะโวยวายอะไรกันนักหนา !!!!!! จขกท จะไม่เอื้อเฟื้อ คนที่ด้อยโอกาสทางสังคมบ้างเลยหรืออย่างไร ? ********************************************************* ส่วน นายพันพรือ ................. ก็ทีพระเจ้าของนาย ก็ยังหาที่มาที่ไปไม่ได้เลยมิใช่หรือ แล้วนายนับถือ สิ่ง ที่หาที่มาไม่ได้ ได้อย่างไรกัน ???????? ชาวบ้านเขาเชื่อ เขานับถือของเขา มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา มันไม่ได้เกี่ยวเลยว่า สิ่งที่เขานับถือนั้นจะมีที่มา อย่างพุทธ หรือไม่ ? พิธีบวชนาค ก็ไม่เคยมีในอินเดีย อย่างนี้ เราจะชาวพุทธ จะต้องยกเลิกพิธีกรรมเหล่านี้ไปหรือไม่ ศาสนิกพระเจ้าอย่างคุณ คิดเห็นว่าอย่างไรหรือ ? การที่ชาวพุทธจะนับถือ หรือเชื่อ ในสิ่งที่ไม่มีในพระพุทธศาสนา มันยังไม่ผิดจนถึงขั้นจะต้องตกนรกหรอกนะ ตราบเท่าที่เขา จะไม่ทำ บาปกรรมคือการเบียดเบียน ตนเองและผู้อื่น เพราะสิ่งนั้นๆ !!!!!! การที่ พันพรือ เคยเป็นพุทธมาก่อน แต่ไปหลงเชื่อยอมรับนับถือ พระเจ้าฝรั่งเป็นสรณะเหนือพระรัตนตรัย พรันพรือ จะยังไม่ตกนรกของพุทธเพียงเพราะเหตุนี้หรอกนะ แต่ถ้าเพราะ พันพรือไปรับพระเจ้าฝรั่งแล้วกลับมาเบียดเบียนชาวพุทธ ด้วยการบ่อนไส้แบบนี้ พันพรือ ก็อาจจะตกนรกของชาวพุทธก็ได้ !!!!!!!!! แต่หากว่า การกระทำของพันพรือในลักษณะนี้ ไม่ได้รับอนุญาติจากพระเจ้าฝรั่งล่ะก็ พันพรือ ก็อาจจะตกนรก แบบสองเด้ง ก็ได้นะ ขอให้ระวังการกระทำของตัวเอง เอาใว้บ้าง .................. ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 15 มิ.ย. 50 18:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เทพฮินดู นับถือพระพุทธศาสนา ไม่ได้หรือ ? จะโวยวายอะไรกันนักหนา !!!!!! จขกท จะไม่เอื้อเฟื้อ คนที่ด้อยโอกาสทางสังคมบ้างเลยหรืออย่างไร ? ^ ^ ^ ลองมีคนมาบอกว่า พระXXXหันมานับถือพุทธ เพราะศรัทธาในคำสอน ให้ชาวฮินดูฟังสิครับ ชาวพุทธยอมรับ แต่พวกพราหมณืไม่ยอมรับ และเทพองค์นั้นนะครับ และรังเกียจเทพองค์นั้นไปเลย ขนาดพระสงฆ์ในสมัยพุทธกาล ยิ่งเคยเป็นวรรณะพราหมณ์มาก่อน โดนดูถูกมาก ๆ ถูกมองเป็นพวกชั้นต่ำ พวกเกิดจากบาทพระพรหมครับ *********** เทพฮินดู ที่ปรากฎในพุทธ เช่น พระอินทร์ พระเวสสุกรรม พระพรหม ท้าวกุเวร ส่วนเทวดาในพระพุทธศาสนา ก็จตุโลกบาลไงครับ จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 15 มิ.ย. 50 18:42:41 ]

ความคิดเห็นที่ 51 1 จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 15 มิ.ย. 50 18:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 52 2 จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 15 มิ.ย. 50 18:46:47 ]

ความคิดเห็นที่ 53 3 จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 15 มิ.ย. 50 18:47:20 ]

ความคิดเห็นที่ 54 4 จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 15 มิ.ย. 50 18:50:41 ]

ความคิดเห็นที่ 55 5 จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 15 มิ.ย. 50 18:50:59 ]

ความคิดเห็นที่ 56 6 จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 15 มิ.ย. 50 18:52:32 ]

ความคิดเห็นที่ 57 พรัหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาปปะรักชักขะชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง ฯ จากคุณ : Ritti Janson - [ 15 มิ.ย. 50 19:42:51 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สำหรับในกรณีนี้ พระพยอมท่านมีทำเป็นคุกกี้ให้แล้วครับ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5513852/X5513852.html จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 15 มิ.ย. 50 21:14:47 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เดี๋ยวนี้ผมเห็นใครห้อยจตุคามนอกเสื้อนี่ผมต้องหันไปดูหน้าซะที ว่าหน้าตาเป็นยังไง จากคุณ : Spirit of Darkness - [ 16 มิ.ย. 50 06:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ผมเริ่มเห็นใจ คุณเมื่อไรจะหายเหงาแล้วครับ เอาเป็นว่า คุณไม่ได้ว่าก็ดีแล้ว ผมและคนจำนวนมากเชื่อแน่แก่ใจว่า จตุคามรามเทพ เป็นเทพพุทธและพระโพธิสัตว์ครับ เอาเป็นว่า เชื่อก็แล้วกัน ง่ายต่อการอธิบายดี ไม่ใช่พุทธจะมาฝ้าดูและพระบรมธาตุได้อย่างไร และท่านก็บอกว่าท่านเป็นกษัตริย์  เรื่องนี้ก็มีเพียงเท่านี้ ผมนับถือพระรัตนตรัย แต่ก็มีสิทธิเชื่ออะไรอีกหลายอย่าง เช่นเทพมีจริง ผมก็เชื่อว่าแม่พระธรณีมีจริง ท่านจตุคามรามเทพก็มีจริง ต้องแยกแยะในความจริงที่ท่านมี กับคนที่ปั่นกระแสมอมเมาชาวบ้าน เป็นคนละเรื่องกัน เหมือน พระพุทธมี แต่พระบางองค์ก็เป็นนัยว่า พระที่ตัวสร้าง เป็นพระพุทธนี้แหละ แต่เหนียวนะ อย่างนี้ต้องแยกกัน ไม่ใช่ว่าพระพุทธไม่ดีใช่ไหมครับ คนนำท่านมาให้คนรู้จักคือท่านขุนพันธ์ท่านสรรเพ็ชญ เขาก็บอกว่าท่านเป็นอย่างนี้ มันรู้ได้ครับ คนไทยที่มีการปฏิบัติ ไม่ว่าโยมหรือพระ รู้และติดต่อเทพได้เป็นปกติ มีถมไป สำคัญที่คุณเชื่หรือไม่ เชื่อก็ได้ ไม่เชื่อก็ได้  เรื่องลบหลู่ ในห้องศาสนา ต้องเปลี่ยนสโลแกนใหม่ว่า จะลบหลู่ก็ได้ กรรมใครกรรมมัน ผมไม่ทำ ก็เท่านั้นเอง น้องพันพรือก็อย่ามั่วให้ท่านเป็นฮินดูเลยครับ  เวลาพุทธศาสนา มีอะไรทำนองนี้ ที่ต้องการความเข้าใจกันบ้าง น้องพันพรือก็ชอบมั่วให้แตกแยกอยู่เรื่อยเลย ผมสังเกตุเห็นนะน้องนะ ก็น้องเป็นคริสตนี่นะ ไม่ได้รักพุทธหรอก หรือน้องรักพุทธมากกว่าคริสต์ จะมาบอกว่าน้องรักพุทธผมไม่เชื่อหรอก น้องตำหนิด่าพระได้อย่างเมามันปากมาก พุทธและคนรักพุทธเขาไม่ทำหรอก เขากลัวบาป แต่น้องไม่กลัวเลย น้องเป็นคริสต์นี่นะ ด่าพุทธก็ด่าได้ ไม่กลัวบาป ส่วนท่านเจ้าของกระทู้ จะวนเวียนอยู่ในประวัติศาสตร์อันสับสน ขอเชิญวนต่อไปตามสะดวก รับรองหามาได้ ก็มั่วอีก คุณจะไม่รู้ว่าองค์ไหนเป็นท่านหรอก ก็จะวนก็วนไป อย่าไปด่าว่าคนที่เขาไม่เชื่อคุณก็แล้วกัน อย่าไปดูถูกคนอื่น นะครับ ชาตินี้เรามีความรู้ ไปด่าว่าคนอื่นโง่เขลา สำหรับผมไม่แนะนำให้ใครทำเลย ผมเชื่อในกรรม ชาตินี้ผมฉลาดมากนะครับ แต่ไม่ดูถูกคนไม่รู้เลย ผมจะทำแต่กรรมดีเท่าที่ทำได้ สรปุว่า จะค้นประวัติศาสตร์ก็ค้นไปเถิดครับในเนื้อหาวิชชา รู้มากมันก็ดีทั้งนั้น แต่ ถ้าคุณโยง มันก็ผิดคนได้สบายครับ ผมว่าคุณโยงผิดองค์มาตลอด ถ้าคุณค้นเจอเมื่อไรว่ามีกษัตริย์ในอดีต พระองค์ไหนมีแม่ทัพคือพระยาชิงชัย นั้นแหละใช่ ครับ ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมนะครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 16 มิ.ย. 50 07:37:44 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ท่านจตุคามรามเทพก็มีจริง จากคัมภีร์พระเวทไงครับ จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 16 มิ.ย. 50 10:33:26 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เรียนเชิญ download สื่อธรรมะที่ คุณจักรแก้ว กล่าวถึงค่ะ หนังสือ สนทนาธรรม "คติ จตุคามรามเทพ" [พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)]   http://www.ebookdharma.com/ เสียงสนธนาธรรม "วาสนาคนไทย ได้แค่ไสยศาสตร์" เรื่องราวเกี่ยวกับจตุคาม-รามเทพ   [พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)] ..ตอนที่ 5.. เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2550 [ต้นฉบับของหนังสือ] http://www.dhammathai.org/sounds/pa_payutto/policybud.php [คัดลอกมาบางส่วน] พระตอบ:     ถ้าจะห่วงเรื่องนี้กันละก็ อย่ามาเพิ่งห่วงที่เรื่องจตุคาม-รามเทพนี่เลย   ควรจะห่วงมานานแล้ว กระแสจตุคามรามเทพนี่เป็นเพียงอาการหนึ่งของโรคนี้ที่สังคมไทยเป็นมานานแล้ว   เรื่องพระพรหม พระราหู พระพิฆเนศ คนไทยเอาทั้งนั้น เดี๋ยวก็ฮือๆ แต่ตอนนี้อาการมันแรงขึ้นๆ   ถ้าปล่อยกันอยู่ ก็คงแรงขึ้นไปเรื่อยๆ จนไปถึงจุดหนึ่งก็อาจจะเป็นสังคมหลักลอย ที่ผู้คนเลื่อนลอย   หาอะไรเป็นหลักยึดไม่ได้ บางคนอาจจะเรียกว่าโรคเส้นตื้น ถ้าใครพูดอย่างนั้น ก็อย่าไปว่าเขาเลย   เขานึกหาคําที่เหมาะไม่ได้ทันใจ ก็เลยพูดไปตามที่นึกได้   มองอีกแง่หนึ่ง เรื่องนี้ ถ้าคนเป็นชาวพุทธจริงละก็ ไม่ต้องไปห่วงเขาหรอก   ถ้าเป็นชาวพุทธจริงนะ ถึงจะนับถือของพวกนี้ เขาจะมีวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง ไม่ให้เกิดผลเสียหาย ..ฯลฯ.. พระตอบ:    เรื่องนี้มีอีกแง่หนึ่งที่สําคัญเหมือนกัน คือการวางใจ วางท่าที   คนในสังคมนี้ไม่ควรจะมัวมาเถียงกันแบ่งแยกเป็นสองฝ่าย เป็นฝ่ายเอาจตุคามฯ กับฝ่ายไม่เอาจตุคามฯ สําหรับพวกที่ไปตื่นหาจตุคามฯ นั้น ก็มีเรื่องที่ต้องเข้าใจเขาด้วย แล้วก็มีแง่ที่น่าเห็นใจอยู่บ้าง   แต่ไม่มีแง่ที่จะตามใจอย่างที่เขาอ่อนแอคอยหวังผลหวังพึ่ง หรือเขาเติบโตขึ้นมาโดยไม่มีความรู้เข้าใจเรื่องอย่างนี้   ว่าจะปฏิบัติตัวอย่างไร ทําให้ตื่นตูมตามกระแสไปง่ายๆ อะไรอย่างนี้ ก็ต้องเข้าใจและเห็นใจเขาบ้าง   ต้องมองไปที่คนและสถาบันที่ควรจะทําหน้าที่รับผิดชอบ เช่นให้การศึกษาแก่เขา รวมทั้งพระนี่แหละด้วย   แต่จะปล่อยให้จมกันอยู่อย่างนั้นก็ไม่ได้ นี่คือ เข้าใจ เห็นใจ แต่ไม่ตามใจ ..ฯลฯ.. แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 50 12:31:04 จากคุณ : /kd (@mantras) - [ 16 มิ.ย. 50 11:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 63 [คัดลอกมาบางส่วน จากหนังสือ สนทนาธรรม "คติ จตุคามรามเทพ"] ผู้มาเยี่ยม:      เรื่องจตุคามรามเทพนี้ ยังมีเรื่องอิทธิฤทธิ์ หรืออภินิหารเกิดร่วมด้วย   เช่น คนสวมจตุคามไว้ในเสื้อพอไปถ่ายรูปเห็นเป็นแสงสว่างออกมา อะไรทํานองนี้ ท่านเจ้าคุณฯ เห็นอย่างไร   พระตอบ:       ก็เป็นไปได้ที่ว่า หนึ่ง เขาอาจจะสร้างหรือแต่งภาพขึ้นมา สอง ความเชื่อของมนุษย์   เป็นแรงทําให้เกิดผลได้ พอเชื่อหรือมีศรัทธาแรงมากเข้า ใจคึกฮึกเหิม ก็เกิดความรู้สึกเป็นจริงเป็นจัง   อย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่เห็นจะต้องไปเอาใจใส่เรื่องพวกนี้เลย   ในสถานการณ์ตื่นกระแส เสียงเล่าลือก็จะมีกันมาอย่างนี้แหละ แล้วก็อาจจะโหมกระพือซ้ำเข้าไปอีก เอาสาระกันตรงที่ว่า พอมีกระแสพวกนี้ เราจับแกนของเรื่องให้ได้ และเจาะความรู้ที่โยงมาถึงธรรม   แล้วก็มองเข้าทางที่จะให้ธรรมก้าวต่อไป อย่างเช่น คนนับถือจตุคามรามเทพ ในเมื่อจตุคามรามเทพเป็นเทพพิทักษ์พระธาตุ   หัวใจของจตุคามรามเทพก็อยู่ที่พระธาตุ อย่างน้อยคุณก็ควรจะไปให้ถึงพระธาตุ   และให้ถึงไม่เฉพาะทางกาย แต่ให้ถึงจริงทั้งด้วยใจและด้วยปัญญา จากคุณ : /kd (@mantras) - [ 16 มิ.ย. 50 12:29:05 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ผมเห็นคุณเมื่อไหร่จะหายเหงา เอาเรื่องจตุคามรามเทพมาโพสท์บ่อยมาก มีหลักมีฐานชัดเจน ผมจึงพลอยอยากจะรู้ไปด้วย จึงไปหาเรื่องราวที่น่าจะเกี่ยวข้องกับ 12 นักษัตร ซึ่งน่าจะมีความเกี่ยวข้องอย่างมากพอสมควรกับจตุคามรามเทพ ถ้าจตุคามรามเทพ เกี่ยวกับคือเทพของฮินดู คือ พระขันธกุมาร และพระราม ก็น่าจะมีเรื่องของ นักษัตร แต่นี่ ผมไปหาดูมาแ้ล้ว ปรากฏว่า ในอินเดีย ไม่ใช่ต้นกำเนิดของ 12 นักษัตร ระบบ 12 นักษัตรนั้นมาจากจีน ตรงนี้น่าสงสัยเป็นอย่างาก ว่าอยู่ๆ จากเทพที่มีนกยูง และงูเห่า อยู่ๆ ทำไมถึงมาเกี่ยวข้องกับ นักษัตร ซึ่งไม่ใช่ระบบของฮินดู โหราศาสตร์ฮินดู จากวิคิพีเดีย http://en.wikipedia.org/wiki/Hindu_astrology โหราศาสตรจีน จากวิคิพีเดีย http://en.wikipedia.org/wiki/Chinese_astrology จากคุณ : campaign - [ 16 มิ.ย. 50 13:36:28 ]

ความคิดเห็นที่ 65 "วาสนาคนไทย ได้แค่ไสยศาสตร์" เรื่องราวเกี่ยวกับจตุคาม-รามเทพ   [พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)] แล้ว คนไทย ที่อ่านหนังสือ "พุทธธธรรม - พระราชวรมุณี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) มีวาสนาแค่ไหนครับ? ทั้งนี้เพราะ ผมหา เรื่อง สัมภเวสี  / เรื่อง ภูตา / เรื่อง อาหาร ๔ ไม่เจอในหนังสือ "พุทธธธรรม" และหาเรื่อง พระสูตรที่ตรัสว่า หมดอาหาร ก็นิพพาน (นิทาน สํ ๑๖/๑๒๔-๑๒๕/๒๔๘-๒๔๘)ไม่เจอในหนังสือ "พุทธธธรรม" ที่เข้ามาแสดงความเห็นนี้ ไม่ใช่เพื่อ ชี้ ความผิดของ พระราชวรมุณี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) นะครับ แต่ เพราะเกิดสงสัยว่า แล้ว คนไทย ที่อ่านหนังสือ "พุทธธธรรม - พระราชวรมุณี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) นั้น จะมีวาสนาแค่ไหนครับ? ท่านพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ถ้าดีกว่า...ไสยศาสตร์" เรื่องราวเกี่ยวกับจตุคาม-รามเทพ ..ดีกว่า แค่ไหนครับ? ท่านพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) หมายเหตุ ๑ เรื่อง อาหาร ๔ (ที่เกี่ยวกับ สัมภเวสีสัตว์ -ภูตสัตว์) + เรื่องหมดอาหาร ก็นิพพานนั้น = ปรโตโฆษะ ของ จอมอรหันต์ ใช่ไหมครับ พุทธบริษัท ต้อง โยนิโสมนสิการ ไหมครับ ...เพื่อ ความมี สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ แล้ว ใคร จะมีวาสนา เมื่ออาศัย..หนังสือ "พุทธธธรรม - พระราชวรมุณี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) หมายเหตุ ๒ เจอศิษย์ท่าน จะ แจ้งเรื่องนี้ให้ทราบ เพิ่มจากที่เคยแจ้ง เรื่อง นิพเพธิกสูตร ว่า ทำไม จึงแยกพระพุทธวจนะนิพเพธิกสูตร ไปไว้ที่โน้น ที่นี้ ฯลฯ จากคุณ : เซนเถรวาท (F=9b) - [ 16 มิ.ย. 50 13:41:31 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ถ้าจะมีคำอธิบาย์บอกว่า ในแถบศรีวิชัย   เป็นที่ผสมผสาน สองอารยธรรม คือ อินเดีย และจีน การนำมาผสมผสานจึงไม่แปลก ถ้าอย่างนั้ ผมก็ว่าไม่แปลกอีกเช่นกัน ที่จะนำชื่อของเทพ ฮินดู มาตั้งเป็นชื่อกษัตริย์ หรือมีเป็นเทพเจ้าองค์ใหม่ขึ้นมา ในอนาคตหลายพันปีข้างหน้า หากประวัติศาสตร์เลือนลาง คนอาจจะเข้าใจสับสนว่า สมเด็จพระนารายณ์มหาราช  กับพระนารายณ์ที่เป็นเทพเจ้าของพราหมณ์-ฮินดู เป็นองค์เดียวกันหรือไม่?? หรือกรณีกษัตริย์หลายพระองค์ของทวีปแถบนี้ ที่ใช้ชื่อของทพเจ้าพราหมณ์-ฮินดู กรณีของจตุคาม ซึ่งมีชื่อคล้ายกับ ขัตตุคาม หรือ ขันธกุมาร   หรือรามเทพ คล้ายกับ พระรามของทางพราหมณ์ จากข้อมูลที่ผ่านมาที่ได้อ่านยังมีบางสิ่งน่าเคลือบแคลงสงสัย มีความไม่ตรงกันในหลายๆ ส่วนที่ผมตั้งข้อสังเกตไว้ ตอนนี้ยังไม่ได้พูดกันถึงกษัตริย์ จันทรภาณุ (สะกดผิดขออภัยล่วงหน้า) ที่ผมเคยได้อ่านจากหนังสือพิมพ์เล่มหนึ่ง เมื่อหลายเดือนมาแล้ว ผมจึงไม่สรุปเชื่อ สิ่งที่คุณเมื่อไหร่จะหายเหงา นำมาลง ไม่ว่า จะมาจาก ไมเคิ้ล ไร้ท์ หรือนักประวัติศาสตร์ชื่อดังท่านใดก็ตาม เพราะข้อมูลอธิบายได้แค่บางส่วน เช่นเดียวกับเรื่องขง กษัตริย์ จันทรภาณุ ที่ผมเคยได้อ่านจากหนังสือพิมพ์เช่นกัน จากคุณ : campaign - [ 16 มิ.ย. 50 13:53:23 ]

ความคิดเห็นที่ 67 วัดญาณเวศกวัน เลขที่ ๑๐ หมู่ ๓ ตำบลบางกระทึก อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม [อยู่ติดกับพุทธมณฑล (สายสี่)]   เบอร์โทรฯ 02-889 4396, 02-482 1552 ถึง 3 [สำหรับ คุณ เซนเถรวาท (F=9b)] ps. อย่าออกตัวไปเลยค่ะ ว่าจะมีท่านใดเข้าใจว่า คุณจะชี้ความผิดของท่านเจ้าคุณฯ   เพราะทุกท่านคงทราบดีอยู่แล้วว่า คุณไม่อยู่ในฐานะที่กระทำเช่นนั้นได้!! ฉะนั้น สบายใจได้ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 50 14:22:23 จากคุณ : /kd (@mantras) - [ 16 มิ.ย. 50 14:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 68 โดยส่วนตัวแล้วผมก็เห็นว่า เรื่องจตุคามรามเทพ ที่เป็นอยู่นี้เป็นเรื่องที่ไม่สมควร และพระสงฆ์ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวด้วย     แต่พอ คุณ เมื่อไรจะหายเหงา  และคุณพันพรือ เอาไปเกี่ยวกับศาสนาอินดู ผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าเกียจมากและไม่เห็นควรเป็นอย่างยิ่ง ที่จะผลักใสผู้ที่นับถือจตุคามรามเทพ เป็นอินดู หรือพราหมญ์ไปเสีย  ทั้งที่เป็นพุทธ ที่ยังห่างไกลจากธรรมคือไม่ได้ศึกษาธรรมอย่างถูกต้องเท่านั้น    คุณเมื่อไรจะหายเหงา บอกว่า ขัตตุคาม  กับ รามเทพ  เป็นอินดู ผมเห็นว่า คุณเมื่อไรจะหายเหงา กล่าวได้ถูกต้อง    แต่การที่คุณกล่าวว่า จตุคามรามเทพ เป็นการเอาอินดูเข้ามานั้นเป็นการกล่าวไม่ถูก     เพราะ จตุคามรามเทพ เป็นเรื่องพุทธที่ติดอยู่ในเปลือกและใบอย่างแท้ๆ ในช่วง ประมาณ 100 ปีมานี้เอง ไม่ได้มีอิทธิพลมาจากอินดูแต่อย่างได  ส่วนชื่อเรียกก็เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ที่กล่าวถึงเทวดาที่เฝ้าพระพุทธเจ้า หรือพระธาตุ  เหมือนการตั้งชื่อหรือสมมุติชื่อคน เช่น   นาย ก. ชื่อ  พิชัย   นาย ข. ชื่อ ยุทธ แล้วครอบครัวหนึ่งมีบุตรขึ้นมาคนหนึ่งได้ตั้งชื่อว่า พิชัยยุทธ  ทั้งๆ ที่ เด็กชายพิชัยยุทธ ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับ นายพิชัย และนายยุทธ เลย  เช่นเดียวกับเรื่องของ จตุคามรามเทพ ที่เพิ่งเกิดมีกระแสความหลงนับถืออย่างมากมายปัจจุบันนีก็หาได้ไปเกี่ยวข้องกับ อินดูเลย   เสนอให้ไปพิจารณานะครับ จากคุณ : P_vicha - [ 16 มิ.ย. 50 14:58:23 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ประเด็น...ps. อย่าออกตัวไปเลยค่ะ ว่าจะมีท่านใดเข้าใจว่า คุณจะชี้ความผิดของท่านเจ้าคุณฯ   เพราะทุกท่านคงทราบดีอยู่แล้วว่า คุณไม่อยู่ในฐานะที่กระทำเช่นนั้นได้!! ฉะนั้น สบายใจได้ ผมไม่ได้ออกตัว ใดๆ ทั้งสิ้น เพราะที่เสนอ เกิดมาจาก เปิดหาในพุทธธรรม พบแต่คำว่าอาหาร แต่ไม่มีคำว่า อาหาร ๔ / มีคำว่าสัมภเวสี แต่ ไม่มีคำอธิบาย / หาไม่พบคำว่า ภูตา... ว่าแต่ว่า แล้วคุณ/kd (@mantras) ...ออกตัว หรือไม่ออกตัว ครับ ที่เสนอ คคห 67 (5555) แล้วที่คุณ/kd (@mantras) เสนอข้อความใน คคห 67 ..เสนอด้วยีฐานะอะไรละครับ (๑) ในฐานะ.... (๒) ในฐานะ... ถ้าจะเทียบ ฐานะ กับผม เซนเถรวาท ..อย่ากำหนดเทียบกันด้วยฐานะคือ ใครสิ้นสังโยชน์เบื้องสูง ตัวนั้นแล้ว หรือยัง ...นะครับ เอาแค่ขั้น...กำหนด โดยอาศัย สุตมยปัญญา ก็เพียงพอนะครับ ในเมื่อผมหาไม่พบ คำอธิบายเรื่อง อาหาร ๔ ที่เนื่องกับสัมภเวสี ภูตา ฯลฯ ตกลง วาสนาที่จะเกิดจากการอ่านหนังสือ "พุทธธธรรม - พระราชวรมุณี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) มีแค่ไหนครับ ... ไว้โอกาสอันสมควร ผมค่อยนมัสนการกราบเรียนถามท่าน พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)ว่า ตกลง วาสนาที่จะเกิดจากการอ่านหนังสือ "พุทธธธรรม - พระราชวรมุณี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) มีแค่ไหนครับ ... เบอร์ที่ให้นั้น สายตรงใช่ไหมครับ....คุณ/kd (@mantras) แต่ถ้ามีโอกาสเจอศิษย์ท่าน ที่คงไม่ใช่คุณ/kd (@mantras) แล้วผมจะฝากไปถามไม่ได้หรือครับ? ว่าแต่ว่า คุณ/kd (@mantras) อ่านพุทธธรรมแล้ว เข้าใจว่า ...ทั้งหมดทั้งสิ้นในหนังสือเล่มนั้นนั้น ดีที่สุดแล้ว... ไม่มีที่ติเป็นที่สุด หรือครับ?... ดีที่สุด ของคุณคุณ/kd (@mantras) กับ ดีที่สุดของพระราชวรมุณี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) กับ ตามที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ มากมายนั้น ..อยู่ในฐานะเดียวกัน หรือครับ คุณคุณ/kd (@mantras) ที่สำคัญ ทำไมไม่มองว่า ที่ผมเสนอนั้น "ถ้ามีอยู่ในหนังสือพุทธธรรม ก็จะยิ่ง วิเศษสุดๆ แม้นจะไม่อยู่ในฐานะเดียวกันกับ พระสุตตันตะ ที่พระเถระท่านรักษาสืบต่อๆ มา ทั้งนี้ผมขอบอกว่า เซนเถรวาท ไม่ได้ เข้าใจว่า หรือคิดว่า พระราชวรมุณี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)จะท่านไม่รู้ พระสูตร ทั้งสองนั้นนะครับ แล้วที่ผมเสนนั้น "ผิดตรงไหนครับ" แล้ว คนไทย ที่อ่านหนังสือ "พุทธธธรรม - พระราชวรมุณี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) มีวาสนาแค่ไหนครับ? จากคุณ : เซนเถรวาท (F=9b) - [ 16 มิ.ย. 50 16:08:36 ]

ความคิดเห็นที่ 70 คุณ เซน ............. จากคุณ : Ritti Janson - [ 16 มิ.ย. 50 16:31:24 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ในฐานะนักเรียนประวัติศาสตร์คนหนึ่ง ผมอยากได้ข้อมูลของอีกฝ่ายครับว่าที่ว่ากษัตริย์ของลังมีหลักฐานอะไรบ้าง แต่ไม่ได้ลบหลู่นะครับ อยากทราบจริงๆ เพราะยังไม่เห็นมีใครแสดงมาเลย จากคุณ : ผู้สาวเมืองยศ - [ 16 มิ.ย. 50 20:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 72 คุณ เซนใจเย็นๆนะครับ ไม่มีอะไรหรอก ผมคิดว่า คุณ kd เข้าใจสิ่งที่ผมพยายามทำ ผมพยายามทำสิ่งที่ท่านปยุตบอกไว้ พระพยอมมีวิธีการของท่าน ผมมีวิธีการของผม บางอย่างผมชอบที่พระพยอมท่านทำ บางอย่างก็ไม่เห็นด้วย  เอาว่าผมไม่เห็นด้วย เพราะความรู้และประสบการณ์ผมไม่เหมือนท่าน เป็นแล้วกัน คนเราย่อมไม่เหมือนกัน แต่สำหรับท่านปยุต ผมอ่านแล้วผมรู้สึกเห็นด้วยเป็นส่วนมาก ไม่รู้เพราะอะไร ถูกจริต ผมมาก คือท่านแยกประเด็นกระจายละเอียดมาก แต่ละประเด็น ท่านก็ให้ความเห็นได้อย่างฉลาด และมีปัญญาล้ำลึกจริงๆ ในความเห็นผม ไม่น่าเชื่อ ผมพบลักษณะเช่นนี้ในท่าน ว วชริเมธีด้วยเช่นกัน ไม่น่าเชื่อเพราะผมเห็นท่านยังมีอายุไม่มาก แต่ความคิดและปัญญาของท่านนั้นราวกับมีอายุมากมาก ผมเห็นด้วยและชอบความเห็นคุณ P vicha และผมขอบคุณ คุณ campaign ขอบคุณ คุณเมื่อไรจะหายเหงาที่สร้างกระทู้นี้ขึ้นมา ทำให้ผมได้ความรู้เพิ่มได้เห็นความคิดของคนอื่นและตัวเอง ขอบคุณทุกคนนะครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 16 มิ.ย. 50 23:20:06 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ขอให้ทุกๆ ท่าน กำหนดดีดี และตรงกัน ดังนี้ (๑) พระพุทธองค์ยังทรงยังอยู่ในเวลานี้ ตามมหาปรินิพพานสูตร ที่ได้แก่ ธรรม (พระพุทธภาษิต) และ วินัย จักเป็นศาสดาของพวกเธอ ที่ได้แก่ พุทธบริษัท ๔ ..หมายถึง พระราชวรมุณี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)] คุณ/kd (@mantras) คุณจักรแก้ว และ เซนเถรวาท พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต) แสดงความรู้ความเห็นไว้ในหนังสือ "รู้จักพระไตรปิฎก เพื่อเป็นชาวพุทธที่แท้" หน้า ๔ ..พระธรรมวินัยนั่นแหละ เป็นพระศาสดาแทนพระองค์ ซึ่ง ต้องไม่ขัดกับที่ตรัสไว้ว่า (๑) ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต (๒) ธรรมนั้น พระสารีบุตร ชี้ที่ ปฏิจจสมุปบาท ซึ่ง เนื่องกับ พระพุทธภาษิตที่ตรัสไว้ว่า (๓) ศาสดาและสาวก ย่อมมีการกล่าวตรงกันในเรื่องปฏิจจสมุปบาท (๔) เรื่องกรรม วิบากแห่งกรรม ตาม "วาเสฏฐสูตร" ก็เนื่องกับปฏิจจสมุปบาท (๕) พระสูตรนี้ "วาเสฏฐสูตร" นิยม + ชอบอ้างสั้นๆ ตรง สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมฯ ..(ไม่ทราบเพราะอะไร? ..เพราะอนุสัย แห่ง อาจารวาท หรือเปล่า?)   พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต) ท่านเสนอเช่นนี้ (หน้า ๔ ..พระธรรมวินัยนั่นแหละ เป็นพระศาสดาแทนพระองค์) ตกลง เมื่อพิจารณาระหว่าง "รู้จักหนังสือพุทธธรรม เพื่อเป็นชาวพุทธที่แท้" กับ "รู้จักพระไตรปิฎก เพื่อเป็นชาวพุทธที่แท้"..พุทธบริษัท ๔ ท่านใดจะ กำหนดว่า เหมือน หรือแตกต่างกัน ตรงไหน? ผมจึง ผูกคำขึ้นว่า...แล้ว คนไทย ที่อ่านหนังสือ "พุทธธธรรม - พระราชวรมุณี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) มีวาสนาแค่ไหนครับ? หมายเหตุ คุณูปการ ที่ "พุทธบุตร ป.อ. ปยุตฺโต" ซึ่งมีสมณยศศักดิ์ เช่นนั้น ...เซนเถรวาท เข้าใจ ยอมรับ ว่า เลิสกว่า พุทธบุตรอื่น โดยเฉพาะ สมมุติสงฆ์ที่สอนว่า นิพพาน เป้นอัตตา ..นะครับ แต่เหนือ "พุทธบุตร ป.อ. ปยุตฺโต" คือ "องค์พระบรมศาสดา"..หรือไม่ใช่ครับ ศิษยานุศิษย์ "พุทธบุตร ป.อ. ปยุตฺโต" ทั้งหลาย... ดังนั้น..ถ้า มีอะไรที่ ยังขาดอยู่ใน หนังสือพุทธธรรม (เพราะเหตุใดก็ตามที) แล้ว เซนเถรวาท เห็นด้วย สติในสมาธิปัญญาสัมปชัญญะ ณ ปัจจุบันขณะนั้นๆ ..ย่อม นิ่งเฉยดูดาย ได้หรือ???? ...พุทธศาสนา นั้น เป็นเรื่องที่พุทธบริษัทต้องช่วยกันรักษา สืบต่อ ทีนี้ พุทธศาสนานั้น ออกมาจากพุทธปัญญา อันเป็นพุทธวิสัย แล้ว พระเถระ ครั้งกระโน้น ท่านรักษาสืบต่อมา พระเถระ ยุคนี้ จะ อธิบายยักเยื้องให้ พิสดาร กว่าของเดิมๆ ..ไม่ผิด ครับ แต่ ต้องไม่ ขัดกับที่ตรัสไว้ว่า (๑) ศาสดาและสาวก ย่อมมีการกล่าวตรงกันในเรื่องปฏิจจสมุปบาท เพราะ คือธรรม ที่ตรัสว่า (๒) ก่อนก็ดี เดี๋ยวนี้ก็ดี ตถาคตบัญญัติสอนแต่เรื่องทุกข์ กับความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เท่านั้น หวังว่า จะเข้าใจ ที่เสนอว่า...แล้ว คนไทย ที่อ่านหนังสือ "พุทธธธรรม - พระราชวรมุณี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) มีวาสนาแค่ไหนครับ? นะครับ จากคุณ : เซนเถรวาท (F=9b) - [ 17 มิ.ย. 50 09:29:53 ]

ความคิดเห็นที่ 74 แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่จตุคาม แต่ประเด็นมันอยู่ที่ลังกา กับนครศรีธรรมราช และเอกสารเกี่ยวกับจตุคามรามเทพ เกี่ยวข้องกับลังกา และนครศรีธรรมราช และเรื่องพระพุทธสิหิงค์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับลังกา แล้วจันทรภาณุ กับศรีธรรมโศกราช มันเกี่ยวยังไงกับพระราม พังพกาฬ พระราหู หรือไม่ก็พระขัตตคามของลังกาครับ ผมวิเคราะห์ยังไงมันก็ไม่เกี่ยว โยงไม่ได้ แล้วกษัตริย์2องค์ ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหลักเมืองสักนิด จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 17 มิ.ย. 50 10:50:08 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ขัตตุคามเนี่ย มันเป็นคำที่ชาวลังกาเรียกพระขันทกุมารครับ แล้วเทพขัตตุคาม มีองค์เดียว ไม่มีอวตารที่ไหน ไม่ใช่อย่างพระแม่อุมา ที่มีหลายเมือง แล้วแต่ละเมืองมีปางไม่เหมือนกัน ขัตตุคามมีองค์เดียวครับ เทพองค์เดียวกัน และไม่มีการแบ่งภาคอวตารแบบพระกฤษณะ หรืออย่างนารายณ์10ปาง จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 17 มิ.ย. 50 10:54:07 ]

ความคิดเห็นที่ 76 เรื่องพระพุทธสิหิงค์ เกี่ยวข้องกับลังกาแน่ๆ แต่กระนั้นก็ตาม คุณเมื่อไหร่จะหายเหงา ก็ปฏิเสธว่า 12นักษัตร ราหู พังพกาฬ พญาชิงชัย ไม่เกี่ยวข้องกับจตุคามรามเทพ ถ้าไม่เกี่ยว ก็ขอให้มีหลักฐานข้อมูลเสียเล็กน้อย ว่าที่มาผสมผสาน ผสมผสานจากไหน เมื่อใด ผมไม่เชื่อว่า อยู่ๆ ก็จะเอามารวมเป็นตำนานกันได้ ต้องมีที่มาที่ไปชัดเจน มิใช่อ้างว่าไม่เกี่ยวแล้วปัดทิ้งไป หากคุณมีหลักฐานว่าเป็นการผสมผสานชั้นหลัง ผมก็ยินดีท่จะรับฟังเป็นความรู้(เพราะแต่ละตำนาน แต่ละเล่มบอกไม่ตรงกัน จะให้เชื่อ ไมเคิ้ล ไรท์ คนเดียว คงจะเป็นการมองโลกแคบเกินไป) ผมได้ยกตัวอย่างคุณเมื่อไหร่จะหายเหงาไปแล้ว ว่าชื่อของกษัตริย์ในดินแดนสุวรรณภูมินี้ มักใช้ชื่อของเทพเจ้าพราหมณ์-ฮินดู มาตั้ง ผมเองก็ไม่มีหลักฐานว่า รามเทพ จะเป็นฉายาของพระมหากษัตริย์ในสมัยใดได้บ้างหรือเปล่า ในหลวงองค์ปัจจุบัน ตามภาษาอังกฤษ ยังเรียกว่า  KING RAMA IX หรือ ในภาษาไทยก็หมายถึง พระราม 9 นั่นเอง ................. ข้อมูลจาก เมืองโบราณ http://www.muangboranjournal.com/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=158 แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 50 12:37:15 จากคุณ : campaign - [ 17 มิ.ย. 50 12:01:38 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ตอนนี้ เท่าที่ผมสังเกตได้จากที่ได้อ่านมา ข้อมูลของจาก เมเนเจอร์   พล.ต.ท.สรรเพชญ ธรรมาธิกุล “ความจริงแล้ว จตุคามรามเทพไม่ได้มีองค์เดียว แต่มี 2 องค์ องค์หนึ่งชื่อจตุคาม องค์หนึ่งชื่อรามเทพ เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่เคียงคู่กัน แต่โดยศักดิ์และฐานะแล้วองค์จตุคามมีอำนาจเหนือกว่า ใหญ่กว่า มีอำนาจมากกว่า เหมือนในประวัติศาสตร์ไทยที่มีสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับสมเด็จพระเอกาทศรถ หรือสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชกับสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท แต่ในการนำไปทำเป็นต้นแบบหลักเมือง ผมใช้องค์จตุคามแป็นหลัก” “สำหรับดวงตราสุริยันจันทราที่ผมสร้างและออกแบบขึ้นมา ก็ไม่ใช่มีองค์จตุคามองค์เดียว แต่มีองค์รามเทพซ้อนกันอยู่เหมือนกับเป็นเงาอยู่ด้านหลังด้วย คำถามต่อมาคือแล้วทำไมกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ถึงมายืนเฝ้าพระบรมธาตุ มายืนเฝ้าประตูเหมือนทหารยาม ความจริงก็คือจตุคามรามเทพไม่ได้มายืนเฝ้าพระธาตุ แต่มายืนรักษาพระบรมอัฐิของพระราชบิดา” พล.ต.ท.สรรเพชญเล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดี ถ้าใครเคยไปดูบานประตูแกะสลักทางขึ้นพระบรมธาตุ องค์จตุคามจะอยู่บานทางด้านซ้าย ส่วนองค์รามเทพจะอยู่บานทางด้านขวา ส่วนประติมากรรมเทพ 2 องค์ที่ประดิษฐ์สถานอยู่ก่อนที่จะถึงประตูบานไม้แกะสลัก ที่ต่อมาในภายหลังมีความสับสนว่า เป็นรูปปั้นจตุคามรามเทพนั้น เป็นความเข้าใจที่ผิด ยิ่งถ้าหากพิจารณาลักษณะทางศิลปะด้วยแล้ว ก็จะพบว่า เป็นรูปปั้นที่สร้างขึ้นมาในสมัยอยุธยา ไม่ใช่ศิลปะของอาณาจักรศรีวิชัย อีกเรื่องหนึ่งที่หลายท่านอาจจะไม่ทราบก็คือ ในการประกอบพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลของหลักเมืองนั้น จะไม่มีการนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีนั่งปรกปลุกเสก แต่จะทำโดยองค์จตุคามรามเทพเท่านั้น อย่างมากก็คือนิมนต์พระมาสวดชัยมงคลคาถา เฉลิมฉลองเมื่อสร้างและปลุกเสกเรียบร้อยแล้วเท่านั้น เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของศาสนาพุทธ ที่มา http://www.manager.co.th/Jatukarm/section3.html จากคุณ : campaign - [ 17 มิ.ย. 50 12:20:30 ]

ความคิดเห็นที่ 78 การพิสูจน์ว่าเป็นศิลปะในสมัยใด สามารถตรวจสอบได้ไม่ยาก ผมเองก็ยังไม่เชื่อข้อมูลของเว็บไซต์ของนายสนธิ 100% หากคุณเมื่อไหร่จะหายเหงา สามารถพิสูจน์ได้ว่า รูปปั้นขัตตุคาม-รามเทพ และบานประตูไม้สลัก เป็นศิลปะยุคใด และหาเทียบกับพระพุทธสิหิงค์แล้ว จะได้ข้อมูลชัดเจนขึ้นกว่านี้ เพราะข้อมูลบางหนังสือบางเล่มก็ปฏิเสธทฤษฎีที่ว่า จตุคาม กับ ขัตตุคาม คือองค์เดียวกัน หากสามารถสำรวจอายุ และศิลปะ ของวัตถุโบราณ คือ บานประตูไม้กับรูปปั้น ได้อย่างชัดเจน ก็จะล้มล้างทฤษฎีที่ว่า จตุคามกับ ขัตตุคาม(ขันกุมาร) เป็นองค์เดียวกัน ตามข้อมูลใน คหที่ 77 คราวนี้ก็มาถึงการชำระประวัติของ พระเจ้าจันทรภาณุ และความเชื่อเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรอีก ว่าเกี่ยวข้องกันกับจตุคามรามเทพหรือไม่ อย่างไร รบกวน คุณเมื่อไหร่จะหายเหงา หากพอจะมีข้อมูล วิเคราะห์เกี่ยวกับ รูปปั้นขัตตุคาม-รามเทพ และบานประตูไม้ ว่าเป็นศิลปะสมัยศรีวิชัย หรือ อยุธยา ก็จะได้ข้อมูลที่ชัดเจนขึ้น แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 50 12:48:10 จากคุณ : campaign - [ 17 มิ.ย. 50 12:34:06 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ประเด็น เรื่องพระพุทธสิหิงค์ เกี่ยวข้องกับลังกาแน่ๆ หรือ? อาจไม่เป็นเช่นที่ว่าแน่ๆ ก็ได้ ...ทั้งนี้เพราะหลักฐานที่แท้จริง สูญหายไปแล้ว จึงสรุปกัน ตามหลักฐานที่มีอยู่ พิจารณาโดยคำ "สิหิงค์" ถ้าจะมี รากศัพท์ มาจาก ภาษาสิงหล ..ก็คำไหนละ? ตัวอย่างกรณี คำว่า จตุคาม มาจากคำว่า.....ขัตตคามเทพ ได้แก่ ขันทกุมาร (บุตรพระอิศวร น้องชายพระพิฆเนศ) ที่สถิตอยู่ที่กฏรคาม (Kataragama) ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ ขันทกุมาร ได้ชื่อในลังกาตามที่สถิต Kataragama ซึ่งเขียนเป็นบาลีว่า ขัตตุคาม ..ไมเคิล ไรท์ เคยกล่าวถึงบ้างไหม? ("สิหิงค์") ..คุณcampaign มีข้อมูล +ความเห็นอะไรเพิ่มเติมไหมครับ จากคุณ : เซนเถรวาท (F=9b) - [ 17 มิ.ย. 50 20:01:01 ]

ความคิดเห็นที่ 80 คุณเซนเถรวาทครับ เรื่องพระพุทธสิหิงค์ ผมเองก็ไม่รู้ เพราะไม่ได้ใส่ใจ แต่จำได้คร่าวๆ ว่า เป็นศิลปะแบบลังกาน่ะครับ (ขอเน้นว่าคร่าวๆ)   ข้อมูลของจตุคามรามเทพ มีที่มาที่ไปหลายทางมากครับ ข้อมูลส่วนที่ผมได้เคยอ่านมานั้น แย้งกับข้อมูลของคุณเมื่อไหร่จะหายเหงา(ไมเคิ้ล ไร้ท์) โดยสิ้นเชิง  ยังข้อมูลที่พูดถึง กษัตริย์จันทรภาณุ และพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรอีก ซึ่งเมื่อเวลาหลายพันปีผ่านมาแล้ว ข้อมูลเลือนลาง หรือผสมผสานกันบ้าง จึงไม่แปลก แต่ถ้าหากพูดถึง จตุคามรามเทพ คือ กษัตริย์จันทรภาณุแล้ว ข้อมูลจะตรงกับเครื่องรางของขลัง(พังพกาฬ 12นักษัตร ฯลฯ) สามารถอธิบายได้ ว่าทำไม เครื่องรางของขลังที่เกี่ยวกับจตุคาม-รามเทพ โดยส่วนตัว ผมให้น้ำหนักว่า จตุคาม ไม่ใช่ ขัตตุคาม(ขันธกุมาร) เพราะทฤษฎีนี้ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัดเจน เนื่องจากบานประตู และรูปปั้นขัตตุคาม-รามเทพเฝ้าพีธาตุ  เป็นศิลปะที่ทำขึ้นมาในสมัยอยุธยา   ส่วนข้อมูลของทางไมเคิ้ล ไร้ท์(หรือนักประวัติศาสตร์คนอื่น) คงต้องรบกวนคุณเมื่อไหร่จะหายเหงา มาเพิ่มเติม เอาเอง เรื่องพระพุทธสิหิงค์  หรือเรื่องอืนๆ จากคุณ : campaign - [ 17 มิ.ย. 50 20:18:16 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ก็พระราม เป็นเทพกษัตริย์ครับ และเป็นชื่อพื้นฐานที่เอามาตั้งด้วย ส่วนขัตตุคาม จริง ๆ เป็นชื่อสถานที่ในลังกา คือศาลพระขัตตคาม หรือพระขันทกุมาร........... -------------- เทพที่บานประตู 2 องค์ องค์ซ้ายคือพระวิษณุ แต่คนสร้างเขาสร้างให้มี 2 หน้า(ปกติพระวิษณุมี1หน้า) ไม่ได้สร้างผิดครับ แต่เป็นการสื่อบางอย่างของเทพองค์นี้ ว่าคือเทพ2องค์ในองค์เดียว มี2หน้า หน้าบนคือหน้าอวตาร คือพระราม และกำหนดให้มือซ้ายล่าง ถือศรและธนู บอกให้ทราบว่าคือปาง"รามาวตาร"หรือพระราม ส่วนเทพองค์ซ้าย ตอนแรกเชื่อว่าเป็นพระพรหม แต่ตอนหลังมีคนมาดูอีกมี ควรจะเป็น6หน้า อีก2หน้าอยู่ด้านหลัง ซึ่งเทพที่มี6หน้า มีองค์เดียว คือพระขันทกุมาร พระพรหมไม่มีเคยมี 6 หน้า และไม่เคยถืออาวุธ และพระพรหม เป็นเทพของพราหมณ์ ไม่มีบทบาทเท่าไร........... จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 18 มิ.ย. 50 10:08:37 ]