Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    --->>> เปรต หน้าหมู

    เปรต  หน้าหมู



    อ่านตำราศาสนามาหลายเล่ม  พอสรุปได้ว่า  เปรต   เป็นสัตว์ที่รับทุกข์ทรมานคล้ายสัตว์นรก  เพราะฉะนั้น   บางครั้งในคัมภีร์ท่านจึงเรียกเปรตว่า  “สัตว์นรก”  ไปเลยก็มี  แต่จริง ๆ  แล้ว ไม่เชิงเป็นสัตว์นรกเป็นภพที่ต้องมารับทุกข์ทรมาน   หลังจากตกนรกหมกไหม้มาจนอานแล้ว



    คนทำกรรมชั่วช้าสารเลวในชาติเป็นมนุษย์คอหยัก ๆ   สักว่าคน  ตายไปก็ไปตกนรกหมกไหม้   ตามลักษณะของกรรมที่ตนทำมา  เช่น  ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต  ก็จะถูกนายนิริยบาล  (เจ้าหน้าที่นรก)   เอาหอกดาบทิ่มแทงฆ่าให้ตาย   ตายแล้วก็เกิดขึ้นมาใหม่ให้ได้รับทุกข์ทรมาน   ต่อเมื่อทนทรมานในนรกพอหอมปากหอมคอแล้ว    ก็จะไปเกิดเป็นเปรต   ทนทุกข์ต่อไปอีก



    ว่ากันว่า   ด้วยเศษกรรมที่ยังเหลืออยู่ไม่หมดไปนั้นแล   ที่ทำให้เขาต้องไปเกิดเป็นเปรต   จนกว่าจะหมดเวรหมดกรรม



    ในอดีตกาลยาวนานโพ้น    สมัยพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า  กัสสปะ มาตรัสรู้   เทศนาสอนชาวโลก    ว่ากันว่า  มนุษย์สมัยนั้นอายุยืนยาวมากเป็นหมื่นปีว่าอย่างนั้น   จริงเท็จอย่างไร   ก็ฟังท่านไปก่อนก็แล้วกัน



    มีภิกษุสองรูปเป็นสหายสนิทมาก    อยู่วัดเดียวกัน   ไปไหนไปด้วยกัน  มีอะไรก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน  วันหนึ่งมีพระอาคันตุกะเป็นนักเทศน์ฝีปากกล้า   เดินทางมาขอพักอาศัยในวัดนั้นชั่วคราว   ทั้งสองรูปก็ยินดีต้อนรับ   จัดที่พักให้ด้วยอัธยาศัยไมตรีอันดี



    ท่านทั้งสองเป็นเจ้าถิ่น   มีญาติโยมรู้จัก   และเลื่อมใสศรัทธามากออกบิณฑบาตได้อะไรก็มาแบ่งปันพระธรรมกถึก  (พระนักเทศน์)  ด้วยพระนักเทศน์เธอก็อยู่สบายดี   ก็น่าจะขอบบุญขอบคุณพระเจ้าถิ่นทั้งสองรูป   แต่เธอกลับคิดอกุศล


    “ความจริงอยู่วัดนี้ก็สบายดี    เราน่าจะหาทางไล่พระสองรูปนี้   ครองวัดเสียคนเดียว   เห็นทีจะดีเป็นแน่”



    แล้วแผนการอันเลวร้ายก็เกิดขึ้น   วันหนึ่ง   พระองค์หนึ่งกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ที่กุฏิของท่าน   พระธรรมกถึกก็ค่อย ๆ  ย่องเข้ามากระซิบว่า



    “พระผู้สหายของท่าน  ที่ท่านเชื่อใจเขานักหนารู้สึกจะยังไง ๆ  เสียแล้วละขอรับ”


    “ท่านอาจารย์”
     พระรูปนั้นพูดขึ้น


    “ท่านเอาอะไรมาพูด   สหายของผมเป็นคนดี  ไม่เคยมองใครในแง่ร้ายเลย”


    “ผมก็นึกอยู่แล้วว่าท่านจะต้องพูดเช่นนี้   ผมผิดเอง   ผมไม่ควรจะเอ่ยเรื่องนี้  ผมขออภัยครับ”
      พระธรรมกถึกเจ้าเล่ห์พูดขึ้น   แล้วทำท่าจะลุกไป


    “เดี๋ยวก่อนท่านอาจารย์ เพื่อนผมเขาว่ายังไงหรือ”   คราวนี้เกิดอยากรู้ขึ้นมาบ้าง


    “ไม่มีอะไร   ๆ   ผมพูดไปท่านก็คงไม่เชื่ออยู่แล้ว   ถือว่าผมผิดเองก็แล้วกัน”


    คำพูดของพระธรรมกถึกเท่ากับยั่วให้อยากรู้มากขึ้น   ได้ผลครับ พระธรรมกถึกเธอถูกขอร้องให้เล่าว่าได้ยินอะไรมา


    “เพื่อนของท่านกระซิบผมว่า  ให้ระวังท่านให้ดี  เพราะท่านเป็นคนมือไว   ชอบลักเล็กขโมยน้อย   ระวังของท่านจะหาย  เขาว่าท่านแสร้งเป็นคนมีศีล  แต่จริง ๆ  แล้วเป็นอลัชชี”   พระธรรมกถึกใส่ไฟ


    “เขาว่าผมอย่างนั้นหรือ”   พระรูปนั้นอุทานออกมาอย่างนึกไม่ถึงความรักความเคารพที่เคยมีต่อกันมานมนาน   ชักจะคลายจาง   ความน้อยเนื้อต่ำใจ   ความกินแหนงแคลงใจเข้ามาแทนที่



    พอได้จังหวะเหมาะ  พระธรรมกถึกแกล้งไปกระซิบทำนองเดียวกันกับอีกรูปหนึ่ง


    ได้ผลครับ รุ่งขึ้นวันใหม่  ท่านทั้งสองที่เคยออกบิณฑบาตด้วยกันต่างก็อุ้มบาตรไปคนละทาง   ญาติโยมถามว่า  ทำไมวันนี้ท่านไม่มาพร้อมกัน  ก็ตอบเลี่ยง ๆ ไปเพื่อไม่ให้โยมสงสัย



    มึนตึงกันอยู่ได้ไม่ถึงสามวัน  ต่างองค์ต่างก็อุ้มบาตรหนีออกจากวัดไปเลย  พระธรรมกถึกแกก็ได้ครอบครองวัดเสียองค์เดียวสบาย


    รุ่งเช้าออกบิณฑบาตองค์เดียว   เมื่อญาติโยมถามหาท่านทั้งสองก็บอกญาติโยมว่า



    “เห็นท่านทั้งสองบอกว่า   เบื่อโยมแถวนี้  ล้วนแต่คนโง่ทั้งนั้นหลับหูหลับตาทำบุญ   ได้แต่ใส่บาตรทำทาน  ไม่ปฏิบัติสมาธิวิปัสสนาเลยทั้งสองท่านว่าอุบาสิกา  บ้านอื่นดีกว่า   จึงไปโปรดพวกนั้น”


    ใสไฟญาติโยมอีกต่างหาก


    หลายปีผ่านไปทั้งสององค์โคจรมาพบกันอีกครั้งหนึ่งปรับความเข้าใจกันได้  รู้ว่าถูกพระธรรมกถึกใจบาปส่อเสียดให้แตกกัน   จึงพากันกลับมาที่วัดเดิม



    พระธรรมกถึกพอเห็นท่านทั้งสองเดินมาแต่ไกลก็รู้ทันทีว่า  แผนการของตนถูกท่านทั้งสองจับได้แล้ว   จึงรีบหนีไป   (ขืนอยู่กลัวจะโดนอัดพระทั้งสององค์คงไม่ทำดอก  แต่ญาติโยมนั้นไม่แน่   จึงแจวดีกว่า  ว่างั้นเถอะ)





    -->> ผลบาปกรรมที่ยุยงให้พระผู้ทรงศีลแตกกันนี้   พระธรรมกถึกตายไปตกนรกหมกไหม้ตลอดกาลนาน    เศษกรรมนำให้มาเกิดเป็น  สุกรเปรต (เปรตหน้าหมู)   รูปร่างเป็นคน   แต่ศีรษะเป็นหมูมีหางงอกออกจากปาก   แถมมีหมู่หนอนไต่ยั้วเยี้ยออกจากปาก ไม่ใช่หนอนธรรมดา  หนอนปากคมกริบกัดปากเปรตตัวนี้ได้รับทุกขเวทดิ้นไปมาน่าสงสาร




    --->> พระโมคคัลลานะเห็นเปรตตัวนี้   ขณะเดินลงจากเขาคิชฌกูฏพร้อมกันพระลักขณะ  มาเล่าให้พระพุทะองค์ฟัง  พระพุทธองค์ทรงเล่าบุพกรรม  (กรรมแต่ปางก่อน)   ของเปรตตัวนี้ให้ทราบดังข้างต้นนั้น



    --->>> คนที่ชอบยุแยงตะแคงรั่วทำให้คนเข้าใจกันผิด   หรือสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในหมู่คน   ก็เพลา ๆ  ลงบ้างก็ดี   ไม่ยังงั้นอาจจะไปเป็นเพื่อนเจ้าเปรตตัวนี้ก็ได้







    **************************************************************************

    ข้อมูลที่ใช้ในการเรียบเรียง  :  ผี สาง คาง แดง  โดย  เสฐียรพงษ์  วรรณปก

     
     

    จากคุณ : ปราชญ์ขยะ - [ 1 ส.ค. 50 12:55:08 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom