ความคิดเห็นที่ 345
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
ลูกมาวัดพระธรรมกายครั้งแรกปี พ.ศ. 2527 โดยการชักนำของลูกชาย แต่ต่อมาลูกชายได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ ลูกจึงห่างวัดพระธรรมกายไปปฏิบัติธรรมสายอื่น จนกระทั่งได้กลับมาปฏิบัติธรรมที่วัดพระธรรมกายอีกครั้งเมื่อเดือนตุลาคม 2548 ลูกมีผลการปฏิบัติธรรมที่พบกับความประหลาดใจหลายอย่าง จนกำลังมาถึงหนทาง 2 แพร่ง ว่าจะเอาอย่างไรดีค่ะ ลูกจึงขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ฝันในฝันให้ลูกซึ่งได้บรรจงร้อยเรียงเรื่องราวมาด้วยนะเจ้าคะ
คุณตาของลูก มีท่านอาเป็นถึงเจ้าจอมมารดาในรัชกาลที่ 5 คุณตารับราชการเป็นปลัดซ้าย เป็นที่เกรงใจของทุกคน มีฐานะดีมาก มีทาสไว้ใช้งาน มีที่สวนมากมายในอำเภอพยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ เมื่อบ้านเมืองเจริญขึ้น คุณตาก็ยกที่ข้างสวนและท้ายสวน ให้ทำเป็นถนนให้ชาวบ้านสัญจรได้ คุณตาชอบให้หลานๆ อ่านทศชาติชาดกให้ฟัง แล้วคุณตาคุณยายก็จะนอนเอามือก่ายหน้าผาก ฟังหลานอ่านอย่างมีความสุข ช่วงที่คุณตาป่วยหนักใกล้เสียชีวิต จะเรียกหาตัวลูก ตัวลูกก็เดินทางไปจนใกล้จะถึงบ้านคุณตา ลูกตาลก็หล่นลงมา และได้ยินแว่วมาคล้ายพระสวดมนต์เหมือนกับเป็นลาง พอขึ้นบันไดไปตาก็บอกให้ตัวลูกพาหลานเล็ก ๆ ออกไปไกล ๆ ก่อน อย่าให้เด็กๆ มาเสียงดังตรงนี้ เดี๋ยววิญญาณตาจะไปแขวนตามต้นไม้ เมื่อเด็กๆไปแล้ว คุณตาก็บอกว่า ตาจะตายขึ้น คือขาจะเย็นเฉียบก่อนแล้วก็แข็ง เหมือนขาตายก่อนแล้วไล่ขึ้นมาถึงตัว รู้สึกเหมือนถูกความตายกัดกินทีละน้อย สักพักท่านก็บอกลูกทุกคนว่า เดี๋ยวจะไปแล้วนะ เพื่อนคุณตาที่อยู่ด้วยก็เตือนให้พุทโธไว้ คุณตาพยักหน้า แล้วก็พูดว่า จะถึงหัวใจแล้วนะ ขอน้ำกินหน่อย ส่วนที่เหลือของชีวิตคงอยู่น้อยลงเรื่อยๆ พอผ่านเฮือกแรกก็ขอน้ำกินอีกแล้วก็เฮือกอีกถึง 2 ครั้ง ครบสามเฮือกก็สิ้นใจ คนแก่บอกว่าไฟธาตุแตกแล้ว คุณตาเสียชีวิตอายุเกือบ ๙๐ปี
คุณยายของลูก เคยเล่าว่า ขณะที่ตอนนั้นอายุประมาณ 40 กว่าปี คุณยายกำลังป่วยหนักมีคนร่างโต ๓ คน มากระชากลากตัวท่านออกจากร่างถูลู่ถูกังผ่านป่ารกหนามตำเต็มตัว ท่านขอร้องว่า พ่อคุณ อย่าเอาฉันไปเลย พวกนั้นก็ไม่ฟัง ยังคงลากคุณยายมาถึงที่แห่งหนึ่ง เอาคุณยายไปรายงานตัวที่โต๊ะ โต๊ะนั้นก็บอกไม่ใช่ ไปโต๊ะนี้โต๊ะนี้ก็บอกไม่ใช่ สักพักหัวหน้าพวกเขาก็บอกว่า ไม่ใช่คนนี้ให้เอาไปคืน คล้ายๆ กับว่าเอามาผิดตัว ตอนนั้นคุณยายเห็นพรรคพวกที่ตายแล้วในนั้นหลายคน ท่านก็สงสัยว่าพรรคพวกไปอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร จากนั้น พวกเขาก็ดึงคุณยายกลับ ดึงให้วิ่งจนท่านวิ่งแทบไม่ไหว เมื่อมาถึงร่างท่าน เขาก็สั่งให้เข้าร่าง คุณยายก็พูดว่า จะเข้าได้อย่างไรร่างเหมือนท่อนไม้แข็งทื่ออย่างนี้ เขาจึงช่วยโดยการถีบคุณยายเข้าร่างไป คุณยายตายอยู่ ๓ วัน จึงฟื้น ความตายทำให้ซึ้งถึงการมีชีวิตอยู่ คุณยายจึงทำบุญทำทาน ตักบาตรทุกเช้า ถวายข้าวพระหน้าหิ้งพระทุกวัน ไปวัดเป็นประจำ เวลาลูกตามท่านไปวัด ลูกจะเห็นผู้เฒ่าที่ไปวัดทุกคน ทำสมาธิโดยการนั่งพับเพียบก้มตัวลงกับหมอนไม้กลมๆ ที่พันผ้าไว้ พนมมือคล้ายหมอบกราบ แล้วก็ก้มหน้าสวดบริกรรมไป ซึ่งไม่เหมือนกับการนั่งสมาธิในสมัยนี้เลย คุณยายเสียชีวิตเมื่ออายุ ๘๐ ปี
คุณป้าของลูก เหมือนบุคคลพิกลคนพิการ ตอนเด็กป้าเป็นโรคชักมาตลอด พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง หาข้าวกินเองไม่ได้ ถ้ากินเองก็หก เหมือนคนปัญญาอ่อน ทั้งๆที่ใบหน้าเหมือนคนปกติ เวลากลางคืนจะไม่นอน ได้แต่มองไปบนฟ้า แล้วพูดว่า ลงมา ฮู สวยจัง มาแล้วหรือลูก แต่เดี๋ยวก็ด่า เดี๋ยวก็ไล่ เดี๋ยวก็โอ๋ แม้เป็นอย่างนี้ ป้ากลับอดทนต่อความเจ็บปวดได้ดีมาก ป้าเคยถูกงวงเหล็กตะขอ ฝังเข้าไปในเท้าทั้งอัน คุณตาจึงเอามีดลนไฟ แล้วกรีดเท้าป้าสด ๆ เอาตะขอออกมา ป้าจะกัดฟัน กำมือแน่นโดยไม่ร้องเลย แล้วคุณตายังเอาเกลือยัดเข้าไปในแผลไม่ให้เน่า แกก็กระโดดเหยง แต่ไม่ร้องไห้เลย ป้าเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 72 ปี
ตัวลูกเอง ในวัยเด็กอายุประมาณ 2 ขวบ ลูกมีอาการท้องอืด ท้องป่องจนหายใจไม่ออก มีอาการหนัก ตาเหลือก หมอคนหนึ่งบอกว่าเด็กจะไปแล้ว แต่ก็รักษาด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านโดยเอาสบู่มาเหลาแล้วสวนทวาร ลูกก็ถ่ายออกมาอาการตาเหลือกใกล้ตายจึงหาย เมื่อโตขึ้นลูกก็ได้ร่ำเรียนจนสอบบรรจุครูได้ ตอนไปรายงานตัวได้พบชายคนหนึ่ง เขาชอบลูกมาก เขาบอกว่าเขาแอบรักลูกอย่างแรงรู้ตัวไหม แต่ลูกไม่รักเขาเลย เพราะมีคู่รักอยู่แล้ว เขาจึงเข้าทางคุณยายเอาอกเอาใจจนคุณยายรักเขามาก บอกว่าถ้าลูกไม่แต่งกับคนนี้ จะไม่ยกที่สวนและสมบัติใดๆ ให้แม่ของลูก , ตอนนั้นลูกเครียดถึงขนาดกินยาแก้เครียดเกินขนาดจนเกือบตายต้องไปให้หมอล้างท้อง แต่ด้วยความกตัญญูลูกจึงยอมแต่งงานกับเขา
สามีของลูกรับราชการเป็นปลัดอาวุโส (เทียบเท่าซี 7) แม้มีลูกกับเขาแต่ก็ยังไม่มีความรู้สึกรักเขาเลย ไม่รักไม่ห่วงแต่กลับหึงหวง เพราะเขาเจ้าชู้มาก ลูกเจ็บปวดเพราะเขาแต่ก็จำทน เขาติดผู้หญิงจนบางทีลืมบ้านลืมเมีย เขาพาผู้หญิงอื่นออกหน้าออกตา จนชาวบ้านคิดว่าตัวลูกเป็นเมียน้อย แต่สามีก็ยังมีความดีอยู่ตรงที่ได้เงินเดือนมาเท่าไหร่ก็ยกให้ลูกใช้จนหมด วันหนึ่งอยู่ดีๆ เขาก็ล้มหงายหลัง เลือดคั่งในสมอง ต้องผ่าหัว เจาะคอ นอนป่วยอยู่ ๑ ปี ๔ เดือน แล้วก็เสียชีวิต
ตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2527 ที่อยู่กับสามีนี้เอง ลูกเริ่มสมาทานศีล อยู่กินอย่างประหยัด เข้าวัดฟังพระธรรม บำเพ็ญกรรมฐาน กับพระอาจารย์ในสายยุบหนอพองหนอที่จังหวัดเชียงใหม่ ในขณะทำสมาธิลูกมีคุณภาพจิตที่สามารถนิ่งอย่างเอกอุ จนเมื่อเดือนเมษายน 2548 ลูกไปปฏิบัติธรรม 3 วัน 3 คืนโดยไม่นอน ไม่ได้เอาอกเอาใจสังขารใช้มันอย่างเต็มที่เพื่อทำความเพียร ประพฤติปฏิบัติเข้าสู่กรอบของชีวิตที่พระท่านกำหนดกรอบเอาไว้โดยไม่ออกจากห้อง ไม่อาบน้ำ เพราะเป็นขั้นสังขารุเปกขาญาณ ส่วนอาหารมีแม่ชีมาส่งให้ ลูกปฏิบัติได้โดยไม่อ่อนเพลีย ในขณะปฏิบัติธรรมลูกมักจะเห็นนิมิตเรื่องจริงผ่านใจที่ตอกตรึงสายตาเมื่อพบเห็น เช่น เห็นความงามเรืองรองของพระอาราม ภายในโบสถ์เหลืองทองอร่ามถูกตกแต่งอย่างหรูหราและมีรสนิยม ในแต่ละส่วนถูกออกแบบอย่างวิจิตรบรรจง และแว่วยินเสียงสวดมนต์ตลอด , เห็นม้าสูงสีน้ำตาลงามสง่าน่าเกรงขาม ผมด้านหน้าขอดเป็นก้นหอยมายืนตรงหน้า , อีกวันก็เห็นเป็นผู้หญิงนางหนึ่ง นุ่งถุงสำเร็จยาวถึงเท้า เสื้อแขนกระบอก คอกลม สีเหลืองอมทอง อมเขียว ส่งแสงประกายวูบวาบระยิบระยับ ,บางทีเห็นกองดินสีลูกรัง พอกองดินเลื่อนมาใกล้ กลายเป็นถนนตัดกลาง สองข้างทางเป็นต้นไม้ยืนต้นเรียงรายเป็นแถว สวยสุดบรรยายต้องตราตรึงไว้ในความทรงจำอีกวาระหนึ่ง
มีอยู่ปีหนึ่ง ลูกไปปฏิบัติธรรมที่วัดรำเปิงตโปธาราม ขณะที่ลูกกำลังจุดธูปเทียนก้มกราบพระธาตุเจดีย์ ทันใดนั้นก็มีตะขาบโตตัวหนึ่งวิ่งมาตรงมือลูกที่กำลังกราบ ลูกตกใจกลัว พูดขึ้นว่า ทางใครทางมันหนอ ตะขาบตัวนั้นก็หายเข้าไปในฐานพระธาตุ , อีกครั้ง ลูกไปนั่งสมาธิบริเวณลานพิกุล ขณะลูกทำสมาธิ เด็กสาวคนหนึ่งก็ร้องเรียกตัวลูกว่า คุณแม่ๆ งูค่ะ! ลูกลืมตาขึ้น สะดุ้งตกใจ เพราะมีงูเขียวเลี้ยวมาเกือบถึงตัว ลูกก็พูดว่า ไปหนอ ไปหนอ งูก็กลับหัวเลี้ยวไปทางอื่น ปัจจุบันลูกมาทำสมาธิแบบวัดพระธรรมกาย ทำให้เวลาฝึกสมาธิจะกลับไปกำหนดวิธีเดิม ลูกกำลังพะวงว่า เราเคยใช้หลักโน้นแล้วเปลี่ยนมาใช้หลักนี้ได้หรือ เหมือนตอนนี้การปฏิบัติของลูกกำลังมาถึงทาง 2 แพร่งไม่รู้จะไปแพร่งไหนดี
ลูกยังมีเรื่องที่พาฉงนสงสัยแตกตื่นจินตนาการไปต่างๆนานาอีกสองเรื่อง เรื่องแรกนั้น ลูกเคยต้องไปสอนเด็กเล็กที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ห้องเรียนซึ่งมีมุมเก็บของเล่น เครื่องนอน หมอน ผ้าห่มของเด็ก เย็นวันศุกร์ ผู้ปกครองเด็กต้องมาถอดปลอกหมอนไปซัก ลูกก็จะไม่เก็บเครื่องนอน เอาผึ่งไว้ ให้เพื่อนครูคนหนึ่งช่วยปิดหน้าต่าง ลูกปิดห้องเรียน ล็อคและถือกุญแจไว้เอง พอวันจันทร์ลูกมาสาย ไม่มีเวลาเก็บห้องเรียนเอง จึงใช้เด็กป.๖ ไปช่วยเก็บ แต่พอเปิดประตูก็ตะลึง เพราะทุกอย่างถูกเก็บเรียบร้อย ถามใครก็ไม่มีใครเก็บ ลูกจึงสงสัยมากว่ามีใครมาช่วยเก็บของให้
อีกครั้งหนึ่งที่บ้านพักราชการของสามี มีเสียงประตูถูกงัด เข้าใจว่าขโมยขึ้นบ้าน สามีจึงยิงปืนทะลุประตูไป พอเปิดประตูก็ไม่เจอ ปรากฏว่าครัวหลังบ้านมีกระสอบถ่านร่วงมา ๑ กระสอบ มีของล้มกระจัดกระจาย ประตูหลังเปิดทิ้งไว้ จึงเข้าใจว่าขโมยหนีไปแล้ว ตอนเช้าลูกเข้าห้องน้ำหลังบ้านก็เห็นว่าของที่ล้มไว้ถูกเก็บเรียบร้อย ถามก็ไม่มีใครไปเก็บ จึงกลายเป็นเรื่องคาใจลูกมาทุกวันนี้
คำถาม
1. คุณตาของลูกที่ตายแบบ ตายขึ้น นั้น เป็นการตายอย่างถูกหลักวิชาหรือไม่ , ทำไมท่านถึงรู้ตัวว่าจะตาย , และทำไมรู้ด้วยว่าความตายขึ้นมาถึงจุดนั้นจุดนี้แล้ว , นอกจากการตายขึ้นแล้ว ยังมีการตายอย่างอื่น เช่น ตายลง หรือไม่อย่างไรคะ , เหตุใดท่านต้องขอน้ำกินก่อนตาย , ตายแล้วไปไหน
2. ความเชื่อที่ว่าถ้าก่อนตายมีเสียงรบกวน วิญญาณจะถูกแขวนตามต้นไม้เป็นจริงหรือไม่ เหตุใดจึงเชื่อกันเช่นนั้นคะ , แล้วถ้าเป็นความจริง ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นคะ
3. เหตุการณ์ที่คุณยายตายแล้วฟื้นเป็นจริงหรือไม่คะ ถ้าจริงสถานที่นั้นคือที่ไหน , เหตุใดจึงมีการผิดพลาดพาไปผิดตัว , เหตุใดคุณยายถูกถีบแล้วเข้าร่างได้คะ , เหตุใดคุณยายนิ่งไป 3 วัน 3 คืนแล้วตัวยังอุ่นๆ อยู่ , และเมื่อต้องตายจริงครั้งที่สอง ท่านตายแล้วไปไหน
4. การนั่งสมาธิของคนสมัยก่อน ทำไมต้องนั่งคุดคู้ก้มหน้าอย่างที่ได้เล่ามาคะ นั่งแบบนั้นแล้วจะได้ผลหรือไม่คะ
5. กรรมใดคุณป้าจึงมีหน้าตาสวย แต่กลับมีอาการคล้ายปัญญาอ่อนและกรรมใดต้องโดนงวงเหล็กตะขอทิ่มเท้าให้ทรมานอย่างนั้น แต่ทำไมคุณป้าจึงอดทนต่อความเจ็บปวดได้อย่างมากคะ , เมื่อคุณป้ามองไปบนท้องฟ้า ท่านเห็นอะไรหรือไม่ หรือเพ้อไปเองคะ , คุณป้าละโลกแล้วไปไหนคะ
6. ทำไมตอนเด็ก ลูกจึงป่วยหนักปางตาย ท้องป่องจนหายใจไม่ออก แต่ก็มาหายได้ด้วยแค่การสวนทวาร ตามวิธีการรักษาของหมอพื้นบ้าน
7. ทำไมลูกได้แต่งงานกับคนไม่รัก ทั้งเขายังเป็นคนเจ้าชู้ ทำให้ลูกไม่ได้ความสุข ความอบอุ่น, แม้ไม่รักเขา แต่ก็หวง พอเขาจากไป ก็วังเวง, สามีของลูกตายแล้วไปอยู่ภพภูมิไหน, บุญที่ลูกชายอุทิศไปให้ เขาได้รับหรือไม่ มีสภาพดีขึ้นหรือไม่อย่างไร
8. การปฏิบัติธรรมของลูกแบบยุบหนอพองหนอ ทำไมลูกเห็นนิมิตต่าง ๆ และนิมิตเหล่านั้นคืออะไรคะ , และทำไมเมื่อตะขาบ และงูเขียวตรงรี่มาหา พอลูกพูดว่าทางใครทางมันหนอ ไปหนอ ทำไมมันจึงไป , ตอนนี้การปฏิบัติธรรมของลูกกำลังมาถึงทาง 2 แพร่ง ลูกควรจะดำเนินต่อไปในแพร่งไหนดีคะ
9. เรื่องแปลกเรื่องที่หนึ่งที่ห้องเรียนถูกเก็บเรียบร้อย ความจริงคืออะไร ใช่เทวดามาช่วยจริงหรือไม่ และถ้ามาช่วยจริง เทวดาจะทำงานหยาบของมนุษย์ได้อย่างไรคะ เรื่องแปลกเรื่องที่สองของลูกนั้น ความจริงเป็นอย่างไร โจรขึ้นบ้านหรือเปล่า และใครคือผู้ลึกลับที่มาเก็บของคะ
กราบนมัสการด้วยความเคารพยิ่ง
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
จากคุณ :
maneomicz
- [
12 ก.ย. 50 11:14:39
]
|
|
|