Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ผมไม่ค่อยเชื่อในศาสนา ขอเรียนเชิญท่านผู้เชี่ยวชาญแตกฉานในเรื่องศาสนา ช่วยแนะนำให้ผมพ้นทุกข์ด้วยครับ

    ขอเรียนเชิญท่านผู้เชี่ยวชาญแตกฉานในเรื่องศาสนา เข้ามาให้คำแนะนำกับกระผมสักหน่อยครับ

    ผมมีความคิดเห็นขัดแย้ง กับแนวความเชื่อของคนส่วนใหญ่ในห้องนี้ และแน่นอน ท่านที่มีความเชื่อ ความศรัทราย่อมออกมาโต้แย้ง แต่ขอให้ท่านมีใจเป็นธรรม พิจารณาหาเหตุผลที่พิสูจน์ได้ มาอธิบายผมให้เป็นวิทยาทานสักหน่อย อาจทำให้ชีวิตผมได้พบหนทางพ้นทุกข์ได้อย่างนิรันดร

    1. ผมไม่เชื่อในเรื่องพระเจ้า ภูติผี ปีศาจ ไสยศาสตร์ และการกลับชาติมาเกิด

    เหตุผล ในทางวิทยาศาสตร์ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ เป็นแค่เพียงข้อสมมติฐาน แต่เมื่อมีคนพยายามพิสูจน์ ไม่เคยมีครั้งใดเลยที่ได้รับการยอมรับ ให้เป็นทฤษฎี (สมมติฐานที่พิสูจน์ได้) แม้แต่ "ทฤษฎี" เองที่ถือว่าค่อนข้างแน่นอนแล้ว ก็ยังไม่ใช่สิ่งที่แน่นอนเลย เพราะวันใดวันหนึ่งอาจมีทฤษฎีใหม่เข้ามาขัดแย้งกับทฤษฎีเก่าได้ หากไม่ได้ตั้งทฤษฎีนั้น ให้มีเงื่อนไขประกอบอย่างครบถ้วนเพียงพอ นับประสาอะไรกับเรื่องเหล่านี้ ที่มีแต่เรื่องเล่า ความเชื่อ ข้อสงสัย การประสพได้แค่เฉพาะบุคคล (คิดไปเอง ประสาทหลอน โดนหลอก บังเอิญ ) พอไปพิสูจน์จริง ก็ไม่เคยสำเร็จแม้แต่ครั้งเดียว

    บางคนบอกว่า มันคงละเรื่องกับในทางวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เองก็เคยเชื่อผิดๆ และเพิ่งจะค้นพบสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้หลายประการ แต่ถ้าใครรู้จริง จะเข้าใจครับว่าสิ่งที่ค้นพบใหม่นั้น มีพื้นฐานจากธรรมชาติ ที่อยู่รอบตัวเราทั้งสิ้น ไม่ใช่สิ่งที่ขัดแย้งกับธรรมชาติเลย เช่น การบินได้ก็อาศัยหลักการเดียวกับนก การไม่เน่าเปื่อยของร่างพระเกจิบางท่าน ก็เป็นธรรมชาติที่วิทยาศาสตร์อธิบายได้ มีอยู่เยอะแยะ (ความจริงน่าจะเรียกว่าเน่าเปื่อยอย่างช้าๆ จึงจะถูกต้อง เพราะสุดท้ายก็ต้องกลายเป็นคาร์บอน และสลายไปอยู่ดี)


    2. ทำไมคนส่วนใหญ่จึงมีความเชื่อโดยสนิทใจ หรือ บางคนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

    เหตุผล ธรรมชาติของมนุษย์ส่วนใหญ่ต้องการสิ่งที่แน่ใจว่าเหนือกว่าตน เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เพื่อสนองความหวัง ความฝัน ที่มักแฝงด้วยความหวาดกลัวในใจลึกๆ บางทีการไม่รู้ ดีกว่าการรับรู้ เพราะถ้าไม่เป็นอย่างที่ตนคิด ก็อาจจะไม่มีความสุข บางทีการไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ ไม่เชื่อบาป บุญ คุณโทษ ในแง่นรก สวรรค์ อาจทำให้คนทำชั่วได้ง่ายขึ้น

    ด้วยสิ่งที่กล่าวข้างต้น ทำให้ผมสามารถตัดความเชื่อในเรื่องศาสนาได้เกือบทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่จะเชื่อพระเจ้า เทพ สิ่งลี้ลับ แต่มีบางศาสนา หรือบางลักธิที่น่าสนใจอยู่ เช่น ศาสนาพุทธ มีหลายคำสอน มีเหตุผลที่รองรับพิสูจน์ได้ ไม่ขัดแย้งกับวิทยาศาสตร์ แต่บางเรื่อง ก็ไม่น่าเชื่อถือ ขออนุญาติใช้ คำว่างมงายก็ว่าได้ แต่กระนั้น เนื่องจากระผมไม่ได้ศึกษาพุทธศาสนาอย่าถ่องแท้ แตกฉาน จึงไม่ฟันธงว่า เนื้อหาจริงๆนั้น อาจจะดีแล้ว แต่มีการปรุงแต่งของคนกันไปเองหรือเปล่า จนผิดเพี้ยนไป แต่ถ้าเป็นอย่างที่คนในนี้มีความเชื่อส่วนใหญ่เรื่อง นรก สวรรค์ บาป บุญ เกิดใหม่ ผมก็คงหมดศรัทราเหมือนกัน หวังว่าแก่นแท้คงไม่เป็นเช่นนั้น

    3. ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นอนิจจัง อย่างแน่นอนที่สุด (ความไม่แน่นอนเป็นสิ่งที่แน่นอนที่สุด) และเป็นอนัตตา

    เหตุผล  ผมมีความเชื่อตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ผมพอจะได้ศึกษามาบ้างเกี่ยวกับ ธรรมชาติของเอกภพ จักรวาล ซึ่งมีคำถาม ที่หลายคนสงสัยแต่หาคำตอบไม่ได้ เช่น
    สิ่งไหนใหญ่ที่สุด
    สิ่งไหนเล็กที่สุด
    จุดเริ่มต้นของสรรพสิ่งทั้งมวลอยู่ที่ไหน
    จุดสุดท้ายอยู่ที่ไหน
    ด้วยความรู้ทั้งมวลที่มีอยู่ในโลกปัจจุบัน ทำให้คนที่เข้าใจและเชื่อมากๆ เช่นผม ล้มล้างความเชื่อเรื่องศาสนาที่มีปาฏิหารย์ทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง

    สิ่งที่ใหญ่ที่สุด ไม่อาจเข้าใจได้ เพราะเหนือใหญ่ย่อมมีใหญ่เสมอ แต่เอกภพมีขอบเขตที่แน่นอนเสมอ เพราะถ้าไม่มีที่สิ้นสุดเราก็จะต้องเห็นดวงดาวอยู่เต็มท้องฟ้าไม่มีช่องว่างเลย แต่นึกไปอีกทีก็ไม่แน่ เพราะแสงของดวงดาวที่ไกลโพ้นเกินกว่าจินตนาการอาจจะยังเดินทางมาไม่ถึง หรือสลายไปกับระยะทางที่ไกลเกินไป

    สิ่งที่เล็กที่สุด เท่าที่ผมเข้าใจได้ ก็คือการสูญสลายสิ้นของคุณสมบัติของอนุภาค ดังนั้นคงไม่สิ่งที่เล็กที่สุดมีแต่การเปลี่ยนรูปแบบ จากสิ่งที่มีมวลน้ำหนัก แม้จะเล็กสุดสักแค่ไหนก็ตาม (เช่น อิเลคตรอน) เปลี่ยนกลายเป็นรูปแบบของเส้นพลังงานได้ ตัวอย่างเช่น หลักการปรมาณู เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับมนุษย์เรา ก็เช่นกัน สุดท้าย ที่ไม่ท้ายสุด เราก็เปลี่ยนเป็นคาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจน ไปรวมกับสิ่งอื่นๆ และในอนาคตอันไกลโพ้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็แตกตัวระเบิดเป็นพลังงาน ซึ่งหลังจากนั้นอีกก็ไม่รู้เป็นไงต่อ จะเห็นได้ว่า นี่คือ อนัตตา ไม่มีตัวตน ของตน ที่แท้จริง ไม่ว่าจะระดับเล็ก ใหญ่แค่ไหนก็ตาม

    จากเรื่องดังกล่าว ทำให้เห็นถึงความไม่เที่ยง และความไม่มีตัวตนที่แท้จริงของสิ่งทั้งมวล แม้แต่เรื่องพุทธศาสนาทั้งหมดก็เถอะ เป็นแค่สิ่งสมมุติขึ้นมา และจะไม่คงอยู่ตลอดไป เหมือนเช่นที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้

    มีหลายท่านที่มีความรู้แตกฉาน อาจเถียงว่าพุทธนั้นมีมานานแล้ว มีพระพุทธเจ้าหลายองค์แล้ว ซึ่งอันนี้เมื่อใช้ความคิดพิจารณาตามเหตุผล แล้ว ย่อมไม่น่าเชื่อได้ ง่ายๆ แค่ถามว่ารู้ได้อย่างไร มีอะไรพิสูจน์ไหม ก็ไม่สามารถมีใครตอบได้แล้ว ลองค้นกลับไปจริงๆ ก็เป็นเรื่องเล่าปรุงแต่งกันขึ้นมาโดยมนุษย์เราเองทั้งนั้น  พอพูดถึงเรื่องนี้ ผมก็มานึกถึงเรื่อง พระไตรปิฎก ในสมัย 2500 ปีก่อน พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้เขียนไว้ มีแต่สาวกจดจำกันมา ลองคิดดูว่า ผ่านมาถึงสองพันกว่าปี ผ่านการบอกเล่า เขียน แต่งเติม มากี่ร้อยครั้ง จนมาถึงวันนี้ ย่อมมีความผิดเพี้ยนจากต้นฉบับไปอย่างมากมายมหาศาลยิ่งนัก อันนี้ตรงกับความเชื่อเรื่อง อนิจจัง จริงๆ ไม่เที่ยงตรงแน่นอน เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ตัวอย่างง่ายๆ แค่ยุคนี้ เรื่องธรรมกายที่ท่านๆ มาถกเถียงกันเอาเป็นเอาตาย นี่ไม่ใช่หรือ คือความผิดเพี้ยนของคำสอน ผมนึกไปไกลถึงขั้น บางทีอาจไม่มีพระพุทธเจ้าจริงอย่างที่เราเข้าใจกันด้วยซ้ำ อาจเป็นแค่เรื่องเล่า นิทาน หรือ ถ้ามีก็อาจเป็นคนธรรมดาทั่วไปอย่างเราๆ ท่านๆ แต่เป็นปราชญ์ ในยุคสมัยนั้น มีคำสอนที่น่าเชื่อถือจนสืบทอดกันมา แต่สาวกก็นำมาแต่งเติมให้ผิดเพี้ยน มีอภินิหาร มีความขลัง มีพระพุทธรูป มีพุทธชาดก มีนรก สวรรค์ (รูปธรรม) มีเกิดใหม่ มีวิญญาณ จตุคาม สารพัดจะแต่งขึ้นเพื่อ เป็นอุบายจูงใจให้ผู้คนยึดเหนี่ยวไว้ แต่ทุกเรื่องส่วนใหญ่ ไม่มีข้อพิสูจน์ใดๆได้จริงเลย ไสยศาสตร์ร้อยทั้งร้อย ก็คือการแสดง การแสดงก็แบ่งออกเป็น 2 แบบ แสดงด้วยจิตศรัทราจริง กับ เพื่อผลประโยชน์หลอกลวง แต่ล้วนแล้วก็ไม่ใช่ข้อเท็จจริงใดๆ

    ผมมีความเชื่อในเรื่องพุทธศาสนา แต่ไม่ทั้งหมด ผมเน้นเชื่อในคำสอนที่พิสูจน์ได้เท่านั้น ผมไม่เชื่อบาป บุญ แล้วตกนรก ขึ้นสวรรค์ แต่เชื่อว่า บาป บุญ คือสิ่งที่ตอบสนองเราในทางจิตใจ และร่างกาย ได้ทันที และอาจจะไม่ทันทีก็ได้ เมื่อได้คิดหรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง
    คนทำชั่วในสายตาคนอื่นก็อาจได้บุญก็ได้ในความหมายของผม เพราะเขามีความสุขจากการได้ทำสิ่งนั้น โดยที่ไม่มีความกังวลใจใดๆ และ ถ้าไม่ได้รับผลร้ายของการทำชั่วนั้นด้วย ก็สบายกาย แต่ส่วนใหญ่จะถูกลงโทษโดยสังคมเอง แต่ไม่มีหรอกครับ ชาติหน้าเกิดมาชดใช้กรรม ไปเอาข้อพิสูจน์มาจากที่ไหน เป็นแค่สัณนิษฐานกันเท่านั้นเอง
    สำหรับผมไม่ชอบทำชั่ว เพราะจิตใจเป็นทุกข์ กังวล

    เรื่องกลับชาติมาเกิดนี่ยิ่งเป็นไปไม่ได้ คิดง่ายๆ มนุษย์เรา และสัตว์ ทั้งหมด มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วจะไปเอาวิญญาณที่ไหนมาเกิดใหม่มากมาย แล้วถ้าบอกว่า เกิดใหม่ ถูกลบความจำก่อนเกิด ยังงั้นก็แค่แก้ตัวให้สมจริงสมจังมากกว่า ถ้าเราลืมชาติที่แล้ว ชาตินี้มันก็ไม่ใช่ตัวเราในชาติก่อนแล้วครับ เพราะการระลึกว่าตัวเรานี่ย่อมเกิดจากความจำในเรื่องต่างๆเกี่ยวกับตัวเราไม่ใช่หรือ และก็อีกหลายเหตุผลที่ทำให้ไม่น่าเชื่อถือ แต่บางท่านก็บอกว่าเคยเจอ เคยได้ยินข่าวดังทั่วโลก คนระลึกชาติได้ ผมไม่เชื่อน่ะ ผมว่ามีมายากลมากมายที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่เขาก็ทำได้อย่างแนบเนียนที่สุด

    มีคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ ผมเห็นจริงอย่างนั้น ซึ่งคงรวมถึง  สิ่งต่างๆที่ผู้คนในปัจจุบันเอามาอ้างอิงเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าอย่างมากมายด้วย ทำให้คนส่วนใหญ่เขวไป

    เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับพุทธศาสนา ผมคิดว่ามีส่วนจริงมาจากพระพุทธเจ้าเองไม่ถึง 1 % ด้วยซ้ำครับ ถ้าเอาหนังสือที่รวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามาเรียบเรียงได้สัก 10000 หน้า ผมว่ามีของจริงไม่เกิน 100 หน้า ซึ่งต้องคัดแต่สาระสำคัญแก่นแท้ออกมาเท่านั้นนะ และผมว่าน่าจะเป็นเรื่องดี มีประโยชน์อย่างมากกับชีวิตมนุษย์ แต่คงทำงั้นไม่ได้ เพราะมนุษย์เราจะเข้าใจยาก และอาจดูไม่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ขลัง ไม่น่านับถือ จึงต้องมีอุบาย ปรุงแต่ง เพื่อดึงความสนใจ ความศรัทธาเข้ามา

    การที่ผมมีแง่คิดแบบนี้ มิใช่ไม่นับถือ ต่อต้าน พุทธศาสนา แต่ตรงกันข้ามครับ ผมค่อนข้างรู้สึกว่า ผมยังโชคดีที่พบว่าในโลกนี้ยังมีพุทธศาสนา ที่พอจะเป็นที่ยึดเหนี่ยวของผมได้บ้าง ส่วนศาสนาอื่นผมก็ไม่ได้ร่ำเรียนอะไรมากนัก แต่แค่อ้างถึงพระเจ้า ผมก็ไม่นับถือแล้วละครับ คงไม่ว่ากัน เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะนับถือหรือไม่ แต่สำหรับพุทธศาสนิกชน คงย่อมไม่เห็นด้วยไม่พอใจกับความเชื่อ วิธการคิดของผมเป็นแน่ ผมเองก็อยากจะเชื่อแบบท่านๆ ครับ ผมอยากให้มีผี อยากให้มีเกิดใหม่ อยากให้มีบาป บุญ อยากให้มีพระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาคุ้มครอง ผมไม่อยากตายแล้วสูญสิ้น บางคนเรียกว่านิพพาน ผมเชื่อว่าการตายของทุกคนเป็นนิพพาน สูญแน่นอน ผมอยากมีโอกาสกลับมาแก้ตัวใหม่ ในสิ่งที่ทำผิดพลาดไป ในร่างกายที่ดีกว่า หรือสมองที่อัจฉริยะ อยากมีชีวิตหลายรูปแบบ อยากลองเป็นประธานาธิบดีบ้าง อยากเป็นหมาขี้เรื้อนข้างถนนบ้าง อยากเป็นสารพัด จนเบื่อ แล้วค่อยนิพพาน แต่มันไม่มีจริงน่ะครับ ถ้าท่านเป็นผม ท่านจะเข้าใจในกระบวนความคิด ตรรกะต่างๆ ในสมองของผมครับ ว่าทำไม ซึ่งผมก็ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยการเขียนออกมาแค่นี้ ต้องเขียนกันเป็นร้อยๆหน้า แต่ก็นั่นแหละ ย่อมไม่เกิดผลดีนัก เพราะไปขัดความเชื่อ ความรู้สึกของคนส่วนใหญ่

    มาถึงข้อสรุปตรงนี้ ผมก็แค่อยากให้ท่านๆ จะศาสนาพุทธ หรือศาสนาไหน ลักธิใดก็ได้ ช่วยสั่งสอน หรือแนะแนวทางให้ผมเชื่อ และสนใจที่จะศึกษาเพื่อนำมาซึ่งความพ้นทุกข์ทั้งมวล ความทุกข์ที่เกิดจาก การกลัวเจ็บ แก่ ตาย การการยึดติด กิเลส ตัณหา ราคะ โมหะ ซึ่งทุกวันนี้ ผมรู้ว่า มันทำให้เกิดทุกข์ตามมาในที่สุด แต่ไม่สามารถละจากมันเหล่านี้ได้เลย ผมไม่สามารถต่อสู้ กับพญามารเหล่านี้ได้ (ใช้คำเปรียบเทียบตามที่ชาวพุทธใช้กัน)

    ผมคิดอยากจะออกบวช ตามรอยพระพุทธเจ้า แต่ก็คงทำไม่ได้ เพราะถ้าผมบวชจริง ก็ต้องเคร่งครัดจริง และปัญหาคือ ผมไม่ชอบปฏิบัติตนตาม พระธรรมวินัยทุกข้อ เช่นผมคิดว่านอนห้องแอร์ ไม่น่าผิดวินัย การมีเซ็กส์ที่ไม่เดือดร้อนใคร และเพียงพอตามที่ร่างกายต้องการ การดูทีวี หนัง บ้างเล็กน้อย การกินอาหารที่เพียงพอครบตามสุขอนามัย และอื่นๆ ซึ่งควรเป็นทางสายกลาง ไม่เป็นทุกข์กิริยา ตามยุคสมัย แต่ไม่ฟุ้งเฟ้อ แบ่งเวลาให้เหมาะสม ฝึกจิตไม่ติดกับ สิ่งยั่วยุต่างๆ และเน้นศึกษาปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าสู่นิพพานในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยไม่ต้องรอให้ตายก่อน เท่านี้ก็เชื่อว่าอาจจะเป็นหนทางแห่งการพ้นทุกข์และ พ้นสุขที่มากเกินไป

    แต่สิ่งที่ผมคิดข้างต้นก็คงผิดวิธีปฏิบัติชาวพุทธ ผมจะทำอย่างไรดี ผมจะศึกษาธรรมะที่เป็นแก่นแท้และเข้าใจง่าย ปฏิบัติได้จริง หรือมีวัดไหนที่แนะนำให้ผมได้บ้างที่มีแนวคิดในทำนองผม โปรดช่วยที และขออภัยอีกที หากไปทำให้ใครไม่พอใจ

    จากคุณ : supercar - [ 13 ส.ค. 50 14:51:21 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom