ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มต้นจากข้อกล่าวหาแรก มีข้อความดังนี้ ............... "ในความเป็นจริงแล้ว ตนรู้จักพระอดิศักดิ์มาตั้งแต่ยังเป็นฆราวาส ชื่อเดิมว่า อดิศักดิ์ อารยะวัฒนาพงศ์ เป็นคนมีนิสัยเจ้าชู้มาตั้งแต่หนุ่ม ขนาดที่บวชเป็นพระแล้ว ก็ยังหนีไม่พ้นมีเรื่องชูสาวเกิดขึ้น เมื่อคุณยายจันทร์ ขนนกยูง ตักเตือนในเรื่องนี้ เพราะมีผู้หญิงที่พระอดิศักดิ์เกี่ยวพันด้วย มาสารภาพผิด เรื่องความประพฤติดังกล่าวต่อคุณยาย แต่แทนที่พระอดิศักดิ์จะยอมรับผิด กลับปฏิเสธอย่างหนักแน่น และเก็บความแค้นไว้ในใจ จนเมื่อสบโอกาส พระอดิศักดิ์ถือโอกาส เดินชนคุณยาย ที่มีอายุมากกว่า 80 ปีแล้ว และยังเอามือทุบอกของอาจารย์ตนเองอีกด้วย จนได้มีการนำเรื่องนี้ ไปแจ้งความกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ คือ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ ณ สงขลา สถานีตำรวจคลองหลวง เป็นผู้รับแจ้งความ ขณะนี้นายตำรวจผู้นี้ ได้ย้ายไปอยู่ที่ สภ.อ.หัวหิน" ข้อความทั้งหมดนี้ อ้างจาก แหล่งข่าวผู้ทรงคุณวุฒิ ผ่าน นสพ. พิมพ์ไทย จากข้อความทั้งหมด ผมสรุปได้ดังนี้ 1. หญิงสาว มาสารภาพผิด กับยายชีจันทร์ 2. พระอดิศักดิ์ปฏิเสธอย่างหนักแน่น 3. มีบุคคลที่3(แหล่งข่าวผู้ทรงคุณวุฒิ) รู้เรื่องนี้จากยายชีจันทร์ 4. นสพ. พิมพ์ไทย นำเรื่องนี้มาเผยแพร่ต่อสาธารณชน จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:40:47 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ประเด็นในส่วนที่เกี่ยวกับยายชีจันทร์ ก็คือ 1. อะไรที่ทำให้ยายชีจันทร์เชื่อว่า สิ่งที่หญิงสาวพูดเป็นเรื่องจริง ............. !!!!!! ประเด็นนี้สำคัญนะครับ เพราะว่าเรื่องแบบนี้ จะเชื่อไปเสียทีเดียวเลยก็ไม่ได้ จะไม่เชื่อเลยก็ไม่ได้ ในกรณีนี้ อ้างว่า หญิงต้นเรื่องนั้นเองเป็นผู้เล่าให้ฟัง แต่ในขณะเดียวกัน พระอดิศักดิ์ก็ปฏิเสธอย่างหนักแน่นเช่นกัน ฉนั้นก่อนที่จะเชื่อว่าจริงหรือเท็จ ยายชีจันทร์ พิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างไรครับ ? นี่เป็นคำถามนะครับ และก็เป็นคำถามที่สำคัญมากเสียด้วย แต่ในคำอ้างจากกระทู้ กลับมิได้ให้รายละเอียดในประเด็นนี้เลย ประหนึ่งว่า มีเป้าประสงค์เพียงแค่ กล่าวร้ายให้พระอดิศักดิ์ได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงเท่านั้น มันจะไม่กลายเป็นว่า ยายชีจันทร์ เชื่อเพราะ "เรื่องนี้มันตรงกับใจชั่วๆของตัว" ตามที่นายวรกร ได้กล่าวเอาใว้หรือครับ ? ต้องไม่ลืมด้วยว่า เวลามีข้อกล่าวหาต่อนายไชยบูลย์ในลักษณะเดียวกัน ทำไมชาวธรรมโกย จึงไม่เชื่อ โดยพยายามกล่าวว่า นั่นเป็นขบวนการทำลายพุทธ (?) แต่ในกรณีนี้ แม้ว่า พระอดิศักดิ์ปฏิเสธอย่างหนักแน่น แต่ชาวธรรมโกย ก็ยังปักใจเชื่อว่า พระอดิศักดิ์ผิดจริง หรือที่แท้แล้ว พระอดิศักดิ์ผิด เพียงเพราะว่า ขณะนี้ยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับสำนักธรรมโกย !!!!! จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:41:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 2. ประเด็นต่อมาที่จะต้องพูดกันให้ชัดก็คือ ในเมื่อเราไม่ทราบข้อเท็จจริง ว่าเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะเป็นการฟังความข้างเดียว คือหญิงสาวมากล่าวหาพระอดิศักดิ์ แต่ พระอดิศักดิ์กลับปฏิเสธอย่างหนักแน่น เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว จะเป็นการสมควรหรือไม่ ที่ยายชีผู้นี้ จะแพร่งพรายเรื่องนี้ไปถึงหูของบุคคลที่3 ใน มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ ข้อที่ ๖๖๐ อ้างถึงพุทธพจน์ดังนี้ว่า ............ "แม้รู้วาทะลับหลังใดจริงแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ก็พึงสำเหนียกเพื่อจะไม่กล่าววาทะลับหลังนั้น" แล้วบุคคลที่อ้างกันว่า เป็นผู้บรรลุธรรม เป็นผู้ทรงคุณวิเศษถึงขนาดปัดระเบิดได้ สมควรหรือไม่ครับ ที่จะมีพฤติกรรม การกล่าววาทะลับหลัง อันไม่ประกอบด้วยประโยชน์ เช่นนี้ ? นายวรกรเองก็ได้กล่าวว่า .................... "ว่าร้ายได้น่าตาเฉย คนดี เข้าถึงธรรมะ ไม่มีลักษณะอย่างนี้แน่นอน" !!!!! ถ้าเช่นนั้นแล้ว พฤติกรรมดังที่ยายชีคนนี้ได้กระทำลงไปนั้น ยังจะนับได้ว่า เป็น คนดี มีคุณธรรม อยู่อีกหรือครับ ? จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:42:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อย่าลืมนะครับว่า เป็นนายวรกรนั้นเองที่กล่าวว่า "อ้าปากว่าร้ายผู้อื่น ก็ทำชั่วแล้ว" ก็ในเมื่อยังไม่สามารถที่จะพิสูจน์ได้ว่า จริงหรือเท็จ แล้วยายชีผู้นี้กลับเอาเรื่องนี้ ไปบอกต่อผู้อื่นได้อย่างไร ยายชีจันทร์ ทำแบบนี้ ถือได้ว่า "ทำชั่ว" ไหมครับ ? วรกร กรุณาตอบให้ผมฟัง แบบชัดๆหน่อยนะครับ ? จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:43:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หรือว่า ทั้งยายชีจันทร์ และชาวสำนักธรรมโกย เป็นคนประเภท ..................... "เห็นอะไรตรงกับใจตน ก็มักจะคล้อยตามใว้ก่อน" ตกลงชาวสำนักธรรมโกย ตั้งแต่ยายชีจันทร์ ลงมา มีอุปนิสัยสันดาน เป็นแบบนี้เหมือนกันหมดไหมครับ ? นายวรกร ช่วยตอบให้ชัดๆหน่อยนะครับ ? จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:44:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 3. สำหรับเรื่องลามกชู้สาวแบบนี้ มันเป็นเรื่องของคนสองคน คนหนึ่งมากล่าวร้าย แต่อีกคนหนึ่งซึ่งเป็นพระ ปฏิเสธอย่างหนักแน่น "สาเหตุที่แท้จริงเป็นอย่างไร เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แม้อยู่ในเหตุการณ์ เราก็ไม่มีวันรู้ได้" นี่เป็นคำพูดของนายวรกรเองนะครับ ไม่มีใครจะรู้ได้หรอกว่าจริงๆแล้วมันเป็นอย่างไรกันแน่ นี่หมายรวมถึง ยายชีจันทร์ นั่นด้วย แต่ก็น่าแปลก ที่ยายชีคนนี้ สามารถแพร่งพรายเรื่องลามกชู้สาวอย่างนี้ ไปสู่บุคคลที่3ได้ โดยมิได้คิดถึงหญิงสาวที่อ้างว่ามาสารภาพผิดกับตน เลยสักนิด (!!!!!) เพราะถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง นั่นก็เท่ากับว่า .......................... ยายชีจันทร์ ได้ทำลายความใว้เนื้อเชื่อใจที่หญิงคนนั้นมีต่อยายชี อย่างย่อยยับ !!!!!! และยายชีจันทร์ ได้ทำร้ายผู้หญิงคนนั้นอย่างทารุณโหดร้าย อย่างหาที่เปรียบมิได้เลยทีเดียว ผมก็แค่เพียงต้องการถามว่า ยายชีคนนี้ ไม่มีสามัญสำนึก ไม่มีสมบัติผู้ดีบ้างเลยหรือครับ ? การเอาเรื่องแบบนี้ไปพูดกับบุคคลที่3 มันก็เท่ากับฆ่าเขาทั้งเป็นเลยนะครับ !!!!!!! จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:44:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอสรุปสั้นๆในกรณีของยายชีจันทร์ ดังนี้ ...................... 1. ไม่มีผู้ทรงศีลทรงธรรม หรือทรงคุณวิเศษที่ไหนหรอกครับ ที่จะมีความประพฤติดังที่ยายชีผู้นี้ได้กระทำลงไป วรกรเองก็ยืนยันว่า คนดี เข้าถึงธรรมะ ไม่มีลักษณะ(ว่าร้ายผู้อื่น)อย่างนี้แน่นอน 2. ถ้าสิ่งที่ยายชีผู้นี้พูดเป็นความจริง นั่นก็แสดงว่า ที่เคยแสดงอาการอวดอ้าง ว่าเป็นผู้บรรลุธรรมขั้นสูง หรือเป็นผู้ทรงคุณวิเศษต่างๆ ก็ย่อมที่จะไม่ใช่เรื่องจริง เพราะ คนดี เข้าถึงธรรมะ ไม่มีลักษณะ(ว่าร้ายผู้อื่น)อย่างนี้แน่นอน นี่วรกรยืนยันมาเอง นั่นก็ย่อมหมายความว่า นิยายปัดระเบิดอะไรนั่น ก็ต้องเป็นเรื่องโกหกอย่างแน่นอน เพราะพฤติกรรมดังที่แสดงให้เห็นนี้ ย่อมมิใช่พฤติกรรมของผู้ทรงศีลทรงธรรมหรือทรงคุณวิเศษใดๆ เรื่องวิเศษพิสดารเหล่านั้น จึงเป็นเรื่องที่ตกแต่งขึ้นมาเพื่อหลอกลวงคนโง่โดยแท้ !!!!!!! 3. แต่ถ้าสิ่งที่ยายชีจันทร์พูด ไม่เป็นความจริง นั่นก็หมายความว่า ยายชีผู้นี้ ก็เป็นเพียงแค่ยายชีแก่ๆคนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งยังหนีไม่พ้นเรื่องทางโลก "ตามีใว้มองคนอื่น ปากมีใว้ว่าคนอื่น" เป็นไปตามที่วรกร ว่าเอาใว้ จริงไหมครับ ? เป็นแค่ยายชีธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่แต่งองค์ทรงเครื่องกันเสียจนกลายเป็นผู้วิเศษ แต่แท้ที่จริงแล้ว มันก็มีค่าเป็นแค่เพียงนิยายสร้างภาพเรื่องหนึ่งๆเท่านั้นเอง !!!!!! จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:46:24 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ต่อไปเป็นข้อกล่าวหาที่สอง ซึ่งกล่าวหาว่า พระอดิศักดิ์ ยักยอกทรัพย์ จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:47:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตรงนี้นับได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าขันอย่างยิ่ง !!!!!!! ไปกล่าวหาว่าพระอดิศักดิ์ยักยอกทรัพย์ ซึ่งเป็นกล่าวหาอย่างเลื่อนลอย ทั้งๆที่ในความเป็นจริงก็คือ นายไชยบูลย์และลูกน้องคนสนิท ได้สารภาพในชั้นอัยการว่า ทั้งสองยักยอกทรัพย์ไปจริง แต่ตอนนี้ได้คืนทรัพย์นั้นให้แก่วัดแล้ว จึงขอให้อัยการช่วยถอนฟ้องเพื่อยุติการดำเนินคดี ................... (???????) ประเด็นนี้ผมก็สุดปัญญาที่จะคาดเดาได้เลยว่า คนพวกนี้ เขาคิดวิเคราะห์ด้วยหลักการแบบไหนกัน ถ้าจะคิดกันว่า คำกล่าวหาอย่างเลื่อนลอยนี้ เป็นเหตุผลที่พอเพียงต่อการสรุปว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ (???) ถ้าเช่นนั้นแล้ว กรณีการยอมรับสารภาพของนายไชยบูลย์ในชั้นอัยการ ว่ายักยอกทรัพย์จริงนั้น จะสามารถนำไปสู่ข้อสรุปที่ว่า นายไชยบูลย์และพวก เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ ได้หรือไม่ และอย่างไรครับ ? ข้อนี้  นาย ลูกพระธัมฯ หลานคุณยาย กรุณามาตอบหน่อยนะครับ !!!!! จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ข้อกล่าวหาที่สาม อ้างเรื่องหยุมหยิมไร้สาระ เพื่อกล่าวหาว่า พระเมตตา ไม่รู้คุณคน (?) จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ที่ผมบอกว่าเรื่องที่อ้างมานั้น มันเป็นเรื่องหยุมหยิมไร้สาระ !!!!! ก็เพราะเมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมของแก๊งส์อลัชชี ที่กระทำต่อ อาจารย์วรณี ซึ่งเป็นผู้บริจาคที่ดิน 196ไร่ ให้แก่พวกเขาเหล่านี้ ซึ่งในขณะนั้น เรียกได้ว่าสิ้นไร้ไม้ตอก เพราะที่ที่เคยสิงสถิตย์มาแต่เดิม กำลังจะถูกไล่ พูดง่ายๆก็คือแก๊งส์อลัชชีแก๊งส์นี้ กำลังจะไม่มีที่ซุกหัวนอน มาตั้งหลักปักฐานได้ ก็เพราะได้อาศัยที่ดินบริจาคนี้แท้ๆ แต่ก็ดูเอาก็แล้วกันว่า พฤติกรรมของคนเหล่านี้ เมื่อเปรียบเทียบกับ เรื่องที่หยิบยกเอามากล่าวร้ายพระเมตตานั้น มันห่างไกลกันขนาดไหน ? นาย ลูกพระธัมฯ หลานคุณยาย ก็ควรจะมาช่วยกันพิจารณาด้วยนะครับ !!!!! จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:49:34 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ข้อกล่าวหาที่สี่ กล่าวหาว่า พระเมตตาพัวพันการเมือง ไม่ใช่กิจของสงฆ์ที่พึงกระทำ (?) จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าอย่างนั้นแล้ว การที่นายไชยบูลย์ พยายามที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับ สถาบันชั้นสูง จนเกิดเหตุไม่ดีไม่งาม เป็นที่ระคายเคืองเบื้องยุคลบาท อย่างนี้ เป็นกิจของสงฆ์ที่พึงกระทำ ไหมครับ ? นายไชยบูลย์ ยังน่าเชื่อถืออยู่ไหมครับ ? จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แล้วการที่เข้าไปมีความสัมพันธ์กับนายทหาร จนถึงขั้น ร่วมมือกันค้าอาวุธสงคราม อย่างนี้เรียกว่าอะไรครับ เป็นกิจของสงฆ์ที่พึงกระทำ ไหมครับ ? การเข้าไปสนับสนุนพรรคความหวังใหม่ของพลเอกชวลิต ถือว่าเป็นการเข้าไปพัวพันการเมืองไหมครับ ? และเหตุการณ์ในระยะเวลาอันใกล้ ที่สำนักธรรมโกยให้การสนับสนุน นักการเมืองหน้าเหลี่ยม อย่างนี้เรียกว่า เป็นการเข้าไปพัวพันการเมืองไหมครับ ? แล้วคนแบบนี้ ยังมีความน่าเชื่อถืออยู่อีกไหมครับ ? จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:54:57 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ที่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ก็เพื่อเป็นแสดงการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ในเว็บบอร์ดแห่งนี้ อันเป็นการแสดงให้เห็นว่า ผมมิเคยละเลยในการศึกษารายละเอียดต่างๆของทุกๆคนในนี้ หมายความว่า ที่ทุกๆคนแสดงความคิดเห็นออกมานั้น ผมก็ย่อมที่จะให้ความสนใจอย่างทั่วถึง มิใช่ว่า จะเลือกที่รักมักที่ชัง เพราะแม้เป็น ความคิดเห็นของอีกฝ่ายหนึ่ง ผมก็ย่อมที่จะเห็นถึงความสำคัญเสมอ ..................... การที่ผมทวงถามมาตรฐานกับวรกรนั้น ก็เพื่อ เป็นการเตือนสติ ไม่ให้ว่าร้ายต่อครูบาอาจารย์ของตน เพราะว่ามันจะเป็นบาปติดตัวไปทุกภพทุกชาติ วรกร จึงควรที่จะเห็นถึงความหวังดีของผมนะครับ !!!! จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:56:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อีกประการหนึ่งก็คือ ผมต้องการที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลและมาตรฐานในการวิเคราะห์ข้อมูล กับ นาย ลูกพระธัมฯ หลานคุณยาย เพื่อที่จะได้หาจุดสมดุล 1. ว่าอย่างไรจึงจะเรียกว่าเป็นการเสนอข้อเท็จจริง 2. ว่าอย่างไรจึงจะไม่เรียกว่าเป็นการว่าร้าย "เพราะคนวัดพระธรรมกาย ย่อมที่จะไม่ว่าร้ายใคร" จริงไหมครับ ลูกพระธัมฯ หลานคุณยาย ? จริงไหมครับ วรกร ? จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:56:55 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพียงแค่การวิเคราะห์เบื้องต้น โดยใช้ข้อมูลส่วนใหญ่ที่มาจากฝ่ายธรรมโกยเองนะครับ ฉนั้น ไม่ต้องมาโวยวาย ในเรื่องความถูกต้องของข้อมูลกับผมนะครับ ผมเพียงแต่นำข้อมูลของพวกคุณ มาวิเคราะห์เท่านั้น ความถูกต้องของข้อมูล จึงขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ใจของพวกคุณเอง อย่าบอกนะว่า พวกคุณสร้างข้อมูลเท็จเพื่อเอามาตอบโต้ ฝ่ายต่อต้านสำนักธรรมโกย !!!!!!!!! จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:57:44 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าเนื้อหาถ้อยคำในกระทู้นี้ สามารถที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ในทางสติและปัญญาอยู่บ้าง ผมก็ขอมอบเครดิตให้กับ คุณ @mantras และ คุณ Together In 80s Dream นะครับ ในฐานะที่ทั้งสองล็อกอินนี้ เป็นผู้ที่เอาจริงเอาจัง และเอาใจใส่ ต่อความบริสุทธิ์สะอาด ของพระพุทธศาสนามาโดยสม่ำเสมอ อีกทั้งยังเป็นกำลังใจที่สำคัญสำหรับผมมาโดยตลอด ต้องขอขอบคุณในความเอื้อเฟื้อมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ...................... แต่ถ้าใครอ่านกระทู้นี้แล้ว รู้สึกอึดอัดคับข้องใจ อยากจะด่าใครสักคนล่ะก็ เชิญมาด่าผมได้เต็มที่เลยครับ เพียงแต่ คุณจะต้องสำเนียกเอาใว้ก่อนว่า อย่าได้คาดหวังนะครับว่า เมื่อคุณด่าผม แล้วผมจะไม่ด่าตอบ !!!!!!! ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 09:59:47 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เบื่อคำพูดที่ชอบปรามาสพุทธศาสนิกชนอื่นๆ ว่า "ไม่เข้าวัด" ทั้งๆ ที่พุทธศาสนิกชนอื่นๆ เค้าเข้าทุกวัดแหละครับ ยกเว้นวัดนี้.. รบกวนคุณ ฤทธี จัดไปครับ ยาวไป.. อย่าให้เสีย จากคุณ : idolation - [ 1 ก.ย. 50 10:04:31 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ได้รู้อะไรมากขึ้น งง.. 1 เรื่อง พวกเขาไปยุ่งอะไรกะอองซาน ซูจี แท้จริงแล้ว ที่โลกยกย่องว่า เธอคนนี้ ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย จริงๆในเนื่อหัวใจ เขาเป็นยังไง นัทก็ไม่รู้ อาจจะเป็น คนที่คิดดีคนหนึ่ง ของประเทศเขา แต่มันยังไม่ใช่เวลา ที่ ประเทศเขาจะเป็นประชาธิปไตยรึป่าว........ ดูเอานะประเทศนี้ ตะเข็บชายแดน ยาวมาก...... ชนกลุ่มน้อยเยอะมาก................................ การศึกษา ยังมีไม่มาก............................... คนยังไม่พัฒนาไปได้มาก.......................... จะเป็นประชาธิปไตย 555555555555555555 ไอ้กัน ไอ้กฤษ รอสูบทรัพยาการอยู่แน่ๆ มันจึงอยากให้ เขาเป็น ประชาธิปไตยที่ใช้ไม่เป็น มีสิทธิ์โดนเข้ามาฮุบ... ดีแล้ว ที่รัฐบาลเขาเป็นเผด็จการทหาร.................... อย่างน้อยๆ ทรัพยากรของเขายังเหลือให้ลูกหลานอีกมาก ถ้ามันไม่มากจริง เรือประมงไทยไม่แอบไปน่านน้ำเขาหรอก แล้วไอ้ที่แอบเข้ามาทำงานในไทยน่ะ ไม่ต้องพูดเลยว่า ถ้าประเทศนี้ดีจริง คนของเขาแอบหนีมาทำไม 555 คิดได้หลายแง่ ** คนเลวไมมีที่อยู่หนีมา ** คนที่เป็น สันดานโจรหนีมา...แบบว่าอยู่เมืองเขาเข้าคุกแน่ หนี:-) เลย ** แล้วทำไมคนดีๆ ผู้ดีของ ประเทศนั้น ยังอยู่ได้ล่ะ.... ยังไงก็รักเมืองไทยนะ ขอตายที่แผ่นดินนี้แหละ ดีที่สุด จากคุณ : ดาวประกายพรึก (Natty_T) - [ 1 ก.ย. 50 10:19:54 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณ จขกท ที่หาข้อมูลมาให้ คิดเหมือน 19 ยอมเสียเวลาเดินทางไปวัดไกลๆ ดีกว่าเข้าร่วมลัทธิข้างบ้าน ดีนะที่เข้ามาดูก่อน ขี้เกียจดูความเห็นประเภทตัดแปะซ้ำซาก โพสต์ภาพที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับกระทู้ จนต้องอ่านข้ามๆ รำคาญฮ่ะ จากคุณ : Demeter - [ 1 ก.ย. 50 10:36:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านไปครึ่งหนึ่งแล้ว มาลงชื่อไว้ก่อน   บ่าย ๆ จะมาอ่านต่อให้จบครับ จากคุณ : อินทรีย์คิ้วขาว - [ 1 ก.ย. 50 10:37:59 ]

ความคิดเห็นที่ 23 #20 ?? จากคุณ : Demeter - [ 1 ก.ย. 50 10:39:10 ]

ความคิดเห็นที่ 24 Demeter >> ขออภัย คห 20 ของเรา  เรามันโยงไปหน่อย.......... พอดีอ่านเจอ ที่ คห 12 พบว่า มีคนขอให้วัดธรรมกาย ช่วยเจ๊อองซาน ที่พม่า กำลังจะบอกแค่ว่า ไม่รู้จะไปยุ่งกะเขาทำไม คือเราเห็นว่า การเมืองของพม่า กับเรื่องเจ๊อองซาน เป็นเรื่องของเขา ** ทำไมพวกนี้จะต้องไปแส่...แค่นั้น และก็บ่นเรื่อง  ของปท. ไทย นิดหน่อย โทษที... ยังไงเราก็ไม่ใช่พวกที่เข้าวัดธรรมกายก็แล้วกันนะ----อืม และก็ไม่ได้ว่า ท่าน ฤทธี ออกจะเข้าข้างด้วยซ้ำ ที่มีข้อมูลดีๆ มาให้ชม เราจะได้รู้มากขึ้น จากคุณ : ดาวประกายพรึก (Natty_T) - [ 1 ก.ย. 50 11:05:54 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณดาวประกายพรึก (Natty_T) เข้าใจแล้วจ้า ขอบคุณที่ชี้แจงค่ะ พอดีเพิ่งอ่านข่าวเรื่องคนงานพม่า ก็เลยงง จากคุณ : Demeter - [ 1 ก.ย. 50 11:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เอาอีก เอาอีก ข้อแบบเน้นๆ อย่างนี้อีก ครับ อยากเห็นว่าจะเข้ามาตอบกันยังไง ผมเกลียด คนวัดธรรมกาย ยืนยัน ฟันธง จากคุณ : saeikung - [ 1 ก.ย. 50 11:26:40 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คห 26 ครับ คุณจะไปเกลียดคนวัด ธรรมกาย ทำไมละครับ ไม่เข้าใจ จะว่าไปแล้วเขาก็แค่เชื่อถือในอาจารย์ มากกว่าพระไตรปิฏกเท่านั้น  แล้วก็ลึกๆๆ แล้วเขาก็เหมือนเราๆๆ นี่ละ เป็นชาวพุทธเหมือนกัน  แต่จะออกจากทะเลไปไกลจากฝั่ง ซักหน่อย จากคุณ : muk_22 - [ 1 ก.ย. 50 11:41:48 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณค่ะ.. /kd .. จากคุณ : grande latte - [ 1 ก.ย. 50 11:42:16 ]

ความคิดเห็นที่ 29 * * * * * * ถึงคุณเจ้าของกระทู้ ... ผมเองติดตามการโพสของคุณแลคนอื่น ๆ ... มาเป็นเวลาพอสมควร ... ข้อธรรมที่คุณโพสมีประโยชน์อย่างยิ่ง ....ในหลาย ๆครั้ง ถ้ามีมาพิจารณาตามไปด้วย ... ปัญญา !! และผมเอง ... ทราบมาว่าใครหลาย ๆ คนในห้องนี้ มีการปฎิบัติแบบเจริญสติปัฏฐาน 4 ... ตามคำสอนของพระพุทธองค์ หรือครูอาจารย์สายสติปัฏฐาน ตามที่หลาย ๆ ท่านได้โพสถึงครูบาอาจารย์ของท่านเป็นประจำ ... ดังนี้ ... ขอแนะเพื่อการปฎิบัติเพื่อให้ได้ผลสูงสุด ผมขอถามว่า ... ผู้มีปกติเจริญสติปัฏฐาน ในแบบที่คุณ จขกท และเพื่อนๆ ... ได้เพียรปฎิบัตินั้น ได้เข้าถึงหัวจิตหัวใจท่านหรือไม่ ...เพียงใด การกระเพื่อม ...สภาพของความหวั่นไหวด้วย โลภะ โทสะ โมหะ ... ท่านรู้ได้ชัดเจน ถูกต้องเพียงไร ...? ในกรณีที่ถ้าท่านทั้งหลาย ได้เป็นผู้มีปกติเจริญสติปัฎฐาน ... .... ....... ........... เพียรระลึกรู้ตนเอง มิใช่รู้ผู้อื่น ... แต่ไม่รู้ตัวเอง ... !!! นามธรรมใด ๆ รูปธรรมใด ๆ ที่เกิดขึ้นในใจ ... พวกท่านยังไม่ระลึกรู้แม้ลักษณะนั้นเป็นนามธรรม หรือรูปธรรม อย่างนั้นหรือ ? ************ ผู้มีปกติเจริญสติปัฎฐาน ที่แท้นั้น... จึงควรพึงระลึกรู้และไม่ก้าวล่วง กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจรติ ... ที่เกิดขึ้นเพื่อการดับ เพื่อความหมดจด หมดรอบ ดังนี้จะใช่หรือไม่เพียงใด ....? แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 50 12:13:48 จากคุณ : dream2zero - [ 1 ก.ย. 50 12:07:11 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ลงชื่อก่อน... เดี๋ยวมาอ่านต่อ... จากคุณ : Jantima T... (Jantima T...) - [ 1 ก.ย. 50 12:33:00 ]

ความคิดเห็นที่ 31 หึหึหึ .......... จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 12:51:17 ]

ความคิดเห็นที่ 32 พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑  พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑ ปาราชิกกัณฑ์ ปฐมปาราชิกสิกขาบท เรื่องพระสุทินน์ ....... ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล เราจักบัญญัติสิกขาบทแก่ภิกษุทั้งหลาย อาศัย อำนาจประโยชน์ ๑๐ ประการ คือ เพื่อความรับว่าดีแห่งสงฆ์ ๑ เพื่อความสำราญแห่งสงฆ์ ๑ เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อยาก ๑ เพื่ออยู่สำราญแห่งภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก ๑ เพื่อป้องกันอาสวะอันจะบังเกิด ในปัจจุบัน ๑ เพื่อกำจัดอาสวะอันจักบังเกิดในอนาคต ๑ เพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่ เลื่อมใส ๑ เพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว ๑ เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม ๑ เพื่อถือตามพระวินัย ๑             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑  บรรทัดที่ ๔๓๒ - ๖๖๕.  หน้าที่  ๑๘ - ๒๗. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=1&A=432&Z=665&pagebreak=0 อ่านซะนะครับ คุณdream2zero จากคุณ : JitZungkabuai - [ 1 ก.ย. 50 12:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 33 * * * * * อ่านแล้วคับ ... ส่วนพระรูปใดท่านจะดี หรือไม่ มิได้เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติของคุณนี่คับ ใจคุณเอาออกไปไหน ... ? ไปแปะไว้ที่ใด ...? ผมโพสเพราะจะให้เข้าสู่การปฎิบัติสติปัฎฐาน ซึ่งวันก่อนได้ไปทำบุญ และกราบสนทนาทำกับพระเจ้าอาวาสวัดสาขา หลวงปู่เที่ยนใน จ . ขอนแก่น... ท่านสอนดีมาก อยากให้คุณซึ่งเป็นศิษย์สายท่านได้ทำแบบท่านแท้จริง ก็เท่านั้น ... อย่างไรเสีย ก็รู้สึกดีใจที่คุณได้ทำ ได้ปฎิบัติในสายตรง และใด้ทำในสิ่งที่เน้น และถูกต้อง ยังไงก็ขอให้เจริญในธรรมและ ขอให้ได้ใช้จริง ในการปฎิบัติ เพื่อความหมดจด นะคับ สาธุ จากคุณ : dream2zero - [ 1 ก.ย. 50 12:56:40 ]

ความคิดเห็นที่ 34 พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต มหาโจรสูตร ........ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน ภิกษุผู้ลามกประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ย่อมบริหารตนให้ถูกกำจัด ให้ถูกทำลาย ประกอบด้วยโทษ ถูก วิญญูชนติเตียน ทั้งจะประสบบาปเป็นอันมากอีกด้วย ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ลามกในธรรมวินัยนี้ ย่อมอาศัยกรรมอันไม่สม่ำเสมอ ๑ อาศัยป่าชัฏ ๑ อาศัยบุคคลผู้มีกำลัง ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ลามกย่อมอาศัย กรรมอันไม่สม่ำเสมออย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ลามกในธรรมวินัยนี้ ประกอบด้วยกายกรรมอันไม่สม่ำเสมอ ด้วยวจีกรรมอันไม่สม่ำเสมอ ด้วยมโน- *กรรมอันไม่สม่ำเสมอ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ลามกย่อมอาศัยกรรมอันไม่ สม่ำเสมออย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ลามกอาศัยป่าชัฏอย่างไร ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ภิกษุผู้ลามกในธรรมวินัยนี้ เป็นคนที่มีความเห็นผิด ประกอบด้วย อันตคาหิกทิฏฐิ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ลามกย่อมอาศัยป่าชัฏอย่างนี้แล ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุผู้ลามกย่อมอาศัยบุคคลผู้มีกำลังอย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ลามกในธรรมวินัยนี้ ย่อมอาศัยพระราชาหรือมหาอำมาตย์ของพระราชา เธอ คิดอย่างนี้ว่า ถ้าใครจักว่ากล่าวอะไรเรา พระราชาหรือมหาอำมาตย์ของพระราชา เหล่านี้ จักช่วยปกปิดโทษของเราแล้วว่ากล่าวคดี ดังนี้ ถ้าใครได้ว่ากล่าวอะไร ภิกษุพวกลามกนั้น พระราชาและมหาอำมาตย์ของพระราชาเหล่านั้น ต่างก็ช่วยกัน ปกปิดโทษของภิกษุนั้นไว้แล้วว่ากล่าวคดี ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ลามกย่อม อาศัยบุคคลผู้มีกำลังอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ลามกประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล ย่อมบริหารตนให้ถูกกำจัด ให้ถูกทำลาย ประกอบด้วยโทษ ถูกวิญญูชนติเตียน ทั้งจะประสบบาปมากอีกด้วย ฯ จบจูฬวรรคที่ ๕ ----------------------------------------------------- รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ             ๑. สัมมุขีสูตร ๒. ฐานสูตร ๓. ปัจจยวัตตสูตร ๔. ปเรสสูตร ๕. ปัณฑิตสูตร ๖. ศีลสูตร ๗. สังขตสูตร ๘. อสังขตสูตร ๙. ปัพพตสูตร ๑๐. อาตัปปสูตร ๑๑. มหาโจรสูตร ฯ ปฐมปัณณาสก์ จบบริบูรณ์ -----------------------------------------------------             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐  บรรทัดที่ ๓๙๘๔ - ๔๐๓๐.  หน้าที่  ๑๗๑ - ๑๗๓. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=20&A=3984&Z=4030&pagebreak=0             ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=490 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 50 13:03:46 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 50 13:02:10 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 1 ก.ย. 50 13:00:06 ]

ความคิดเห็นที่ 35 วิญญูชนที่ไหนไม่ติเตียนบ้าง?? สติปัฏฐานนี่มันคนละเรื่องกับการปกป้องพระสัทธรรมจากอสัทธรรม ถ้าคุณอ่านเรื่องพระสุทินน์ที่ผมใส่เกล้ายกมา คุณจะทราบเองว่า พระพุทธองค์ทรงตำหนิว่าอย่างไรบ้าง แล้วคุณจะตาสว่าง แยกออก เรื่องธรรม กับเรื่องการรักษาธรรม ครับ เจริญในธรรม แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 50 13:10:50 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 1 ก.ย. 50 13:10:04 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ....เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว อย่างนี้ เรียกว่าเพราะ โลภะ โทสะ โมหะ จึงขับไล่ไม่ให้บวชอีกหรือครับ? ทรงกล่าวแล้วเรื่องปฐมปาราชิก ผมยกมาให้คุณdream2zero อ่านแล้วนะ ขออนุญาตท่าน จขกท. ครับ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 1 ก.ย. 50 13:28:15 ]

ความคิดเห็นที่ 37 555  เถียงก็แล้ว  ด่าก็แล้ว  แช่งก็แล้ว  ลบกระทู้ก็แล้ว  ไม่สำเร็จ เอาธรรมะยัดปากซะเลย  กร๊ากกกก อุเบกขา  ต้องเป็นไปเพื่อรักษาธรรมครับ พิจารณาใคร่ครวญดูดีแล้วเห็นควรวางเฉย  จึงวางเฉย หากเห็นไม่สมควรวางเฉยก็ลงมือทำ  ด้วยเมตตา ไอ้วางเฉยแบบหลับหูหลับตานั่นเค้าเรียกว่า  อัญญาณุเบกขา อุเบกขาแบบเฉยโง่น่ะ  อิอิ จากคุณ : Sea Ghost Man - [ 1 ก.ย. 50 13:49:34 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มาเสริมครับท่าน มาเสริม ครับท่าน สมัยก่อน     อัญญาณุเบกขา = ควายไถนา.....รอคนมาไถ..... สมัยนี้         อัญญาณุเบกขา = รถที่ไส่เกียร์ว่าง.....รอคนมาเข็น...... จากคุณ : ลูกธัมมี่หลานชีจัน (Nong_Eke) - [ 1 ก.ย. 50 15:16:29 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ในระหว่างที่รอ ท่านวรกร มาตอบ ในกระทู้นี้ ถ้าจะด่า บรรดาบุคคลที่ไม่เห็นด้วยกับธรรมกาย  ก็มีมากมาย  เช่น จากคุณ : ลูกธัมมี่หลานชีจัน (Nong_Eke) - [ 1 ก.ย. 50 15:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ..... วิธีนี้เห็นอันใด(อะไร)ไม่ได้ เห็นผีเห็นเทวดา เห็นพระพุทธรูป เห็นดวงแก้ว ที่สุดเห็นพระพุทธเจ้าก็ไม่ถูกต้อง เพราะ จิตของเรามันคิดออกไป เราไม่เห็นความคิด มันถูกปรุง คือจิตใจมันปรุงเอง มันปรุงเพราะเราไม่เห็น "ต้นตอของความคิด" นี่เอง ใจของเรานี่มันเร็ว เราไม่เห็นมันคิด มันคิดปุ๊บออกไปนี่ มันไปแสดงเป็นผี เป็นสี เป็นแสง เป็นเทวดา เป็นนรก เป็นสวรรค์ แล้วแต่มันจะแสดงเรื่องใด เราต้องเห็นตามภาพที่จิตใจมันแสดงนั่นเอง มันเป็นมายาของจิตใจ เราเรียกว่าเป็นกลไก ของจิตใจ... จึงว่าสิ่งที่เห็นนั้นจริง แต่สิ่งที่ถูกเห็นนั้นไม่จริง มันจึงแก้ทุกข์ไม่ได้ ถ้าหากเห็นของจริงแล้ว มันต้องแก้ทุกข์ได้ ....... หลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ (พันธ์ อินทผิว) http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/lp_thien/lp-thien_03.htm จากคุณ : JitZungkabuai - [ 1 ก.ย. 50 15:49:18 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อ่านจบแล้ว ดีใจจัง ดูเหมือนว่าจะ้ค้างอีกหลายเรื่องนะคะเนี่ย รออ่านอยู่ค่ะ จากคุณ : แมวเหมียวตัวลาย - [ 1 ก.ย. 50 15:53:30 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คุณฝันเข้าไปหยุดกลางศูนย์ เข้าใจคำว่าวิญญูชนติเตียน หรือยัง!!! จากคุณ : JitZungkabuai - [ 1 ก.ย. 50 15:54:39 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ลูกพระธัมฯ หลานคุณยาย นายวรกร ......  หายไปใหนแล้วครับ ........คิดมุขออกแล้วยังครับ     จากคุณ : misery - [ 1 ก.ย. 50 16:34:30 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ต้องอย่างนี้สิถึงจะเป็น "ฤทธี" คนจริง คนนั้น ขอบคุณที่ให้เครดิตค่ะ ดิฉันคงไม่มีความดีถึงขนาดนั้น คงต้องยกความดีให้กับทุกๆ คนในห้องศาสนา ที่คอยปกป้องพระสัทธรรมเอาไว้ จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 1 ก.ย. 50 16:38:00 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ปูเสื่อรอดูคำตอบ จากคุณ : silverspider - [ 1 ก.ย. 50 16:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 50 20:19:46 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 1 ก.ย. 50 18:26:07 ]

ความคิดเห็นที่ 48 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 50 20:20:43 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 50 20:20:19 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 1 ก.ย. 50 19:11:42 ]

ความคิดเห็นที่ 49 หุๆ จากคุณ : atheist - [ 1 ก.ย. 50 20:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 50 waiting แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 50 20:30:30 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 1 ก.ย. 50 20:18:21 ]

ความคิดเห็นที่ 51 still waiting.. [too] ['d like to hear ery! read..] .. จากคุณ : /kd (@mantras) - [ 1 ก.ย. 50 21:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อ้าว%!!!!! มาแปะรูปโฆษณา  แล้วหายไปเลย ....ขอเชิญชวน สาวก พระธัมมี่ อย่าอวดดี เจื้อยแจ้ว อยู่ข้างหลัง ที่ด่าไว้ คล้ายย้อน สอนอย่างจัง อย่าหันหลัง ดั่งผี นี่ธรรมกาย.... .................  @@@@@รออยู่ครับ@@@@@@@ จากคุณ : misery - [ 1 ก.ย. 50 21:38:59 ]

ความคิดเห็นที่ 53 .........ท่านฤทธี  ว่าไว้  นั้นลึกล้ำ สาวกช้ำ  ชอกใจ ไฝ่ล่องหน น่าจะเชิญ  อลัชชี  มาด้วยคน อย่าสัปดน เล่นลิ้น จนสิ้นลาย......... @@@@@@@@@ @@@@@@@@@ จากคุณ : misery - [ 1 ก.ย. 50 21:44:44 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ความคิดเห็นที่ 26   เอาอีก เอาอีก ข้อแบบเน้นๆ อย่างนี้อีก ครับ อยากเห็นว่าจะเข้ามาตอบกันยังไง ผมเกลียด คนวัดธรรมกาย ยืนยัน ฟันธง จากคุณ : saeikung  - [ 1 ก.ย. 50 11:26:40 ] +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ยังงี้เกลียดผมด้วยไหมครับ? จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 1 ก.ย. 50 21:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ผมเองก็มารอดูท่านทั้งสองตอบด้วยเช่นกัน หวังว่าเพื่อนสมาชิกทุกท่านจะยังคงโต้ตอบด้วยเหตุผลและไม่ละเมิดศีลกันนะครับ เป็นแฟนกระทู้ริททีเสมอมา เลยตามมาดู จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 1 ก.ย. 50 22:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เฮ้อออ  ไปเอามาจากที่ไหนน่ะ? มุสาวาท พูดเพ็จ, พูดโกหก, พูดไม่จริง (ข้อ ๔ ในกรรมกิเลส ๔, ข้อ ๗ ในมละ ๙, ข้อ ๔ ในอกุศลกรรมบถ ๑๐) http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=มุสาวาท จากคุณ : Sea Ghost Man - [ 1 ก.ย. 50 22:43:42 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ศีลข้อที่สี่ "มุสาวาทา" นั้นมิได้มีแต่เพียงการกล่าวเท็จอย่างเดียว หากแต่ยังรวมถึงการพูดส่อเสียด ว่าร้ายคนอื่นทั้งในที่ลับและที่แจ้ง รวมถึงในโลกไซเบอร์ด้วย จาก ไม่สูบไม่ดื่ม ^ ^ ^ ^ ^ นับว่าฝ่ายต่อต้านสำนักธรรมโกย โชคดีเป็นอย่างมากเลยนะครับ ที่ยายชีจันทร์ อายุไม่ยืนพอ ที่จะได้รับการอบรมจาก "ไม่สูบไม่ดื่ม" !!!!! มิเช่นนั้นแล้ว เราๆท่านๆทั้งหลาย ก็คงจะไม่มีโอกาสได้ยินได้ฟัง การแพร่งพราย "เรื่องลามกชู้สาว" จากปากของยายชีผู้นี้ "ที่ว่าร้ายผู้อื่นทั้งในที่ลับและที่แจ้ง มิหนำซ้ำ ยังมีคนเอามาขยายต่อ ทั้งใน นสพ. และในโลกไซเบอร์อีกด้วย" และถ้าเหตุการณ์เป็นเช่นนั้น ........ การจับพิรุธยายชี ก็คงจะมิใช่เรื่องง่ายๆเป็นแน่ !!!!!!! สาวกธรรมโกยจะโทษว่า โชคชะตากลั่นแกล้ง ให้ยายชีมาด่วนตายเร็วเกินไป หรือจะโทษว่า เพราะฟ้าลิขิต ให้ไม่สูบไม่ดื่ม เกิดมาช้าไป ดีล่ะ ? ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 22:56:22 ]

ความคิดเห็นที่ 58 จากที่นี่พอได้ไหมครับ ผมเป็นห่วงไม่อยากให้ "ศีลวิบัติ" กัน จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 1 ก.ย. 50 22:58:56 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ยุคสมัยของอลัชชี้ชั่วเงินหนา ต้องช่วยกันครับ สาธุกับคุณฤทธี และผู้พิทักษ์พระสัทธรรมทุกท่าน จากคุณ : campaign - [ 1 ก.ย. 50 23:00:39 ]

ความคิดเห็นที่ 60 โอ้ เจอคุณริททีพอดีเลยครับ แฟนคลับอย่างผมตื่นเต้นดีใจมากเลย เอาความหมายของคำว่า ธรรมกาย มาให้ดูนะครับ จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 1 ก.ย. 50 23:03:29 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เอาคำว่า ธรรมกาย อันเป็นพระนามของพระบรมศาสดามาแปลงเอง อย่างนี้เข้าข่าย "ส่อเสียด" ไหมครับริทที ผมความรู้น้อยค่อยศึกษา ไม่เข้าใจจึงไต่ถามด้วยความอยากรู้ หวังว่าคงให้ความรู้กับผมได้ จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 1 ก.ย. 50 23:06:03 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ความคิดเห็นที่ 59   ยุคสมัยของอลัชชี้ชั่วเงินหนา ต้องช่วยกันครับ สาธุกับคุณฤทธี และผู้พิทักษ์พระสัทธรรมทุกท่าน จากคุณ : campaign  - [ 1 ก.ย. 50 23:00:39 ] +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ สาธุกับผู้รักษาพระศาสนาในทางที่ถูกต้องทุกท่านครับ จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 1 ก.ย. 50 23:08:27 ]

ความคิดเห็นที่ 63 คำว่า "ธรรมโกย" นั้น ผมขอให้ความหมายว่า "หนีออกจากธรรม" และคำว่า "อลัชชี" นั้น นอกจากจะหมายถึง "ผู้ไม่มีความละอาย" แล้ว คำๆนี้ยังมีความหมายว่า "ภิกษุผู้มักประพฤติละเมิดพุทธบัญญัติ" ซึ่งก็คือการ "หนีออกจากธรรม" หรือก็คือ "ธรรมโกย" นั่นเอง !!!!!! ไม่สูบไม่ดื่ม พอจะเข้าใจได้หรือไม่ ? หรือว่า นอกจากจะอ่อนพุทธธรรมแล้ว ไม่สูบไม่ดื่ม ยังอ่อนภาษา(คน)อีกด้วย !!!!! อย่าพยายามที่จะกล่าวหาผม ด้วยข้อหาโง่ๆ เลยนะครับ เพราะว่ามันจะส่อแสดงให้เห็นถึง "ความอ่อน" โดยรวมของชาว "ธรรมโกย" !!!!! ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 1 ก.ย. 50 23:19:33 ]

ความคิดเห็นที่ 64 กระทู้นี้ดี..ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากๆค่ะ.. จากคุณ : ดั่งก้อนกรวด - [ 1 ก.ย. 50 23:22:51 ]

ความคิดเห็นที่ 65 หมอนี่มันจอมมั่วโดยแท้  มั่วข้อมูลเป็นประจำ ไอ้ที่ยกมานั่นมันเรื่องเดียวกันซะที่ไหน  ยกมาอ้างมั่วซั่ว ศีลข้อที่สี่ "มุสาวาทา" นั้นมิได้มีแต่เพียงการกล่าวเท็จอย่างเดียว จากข้อความก็ชัดเจนว่าหมายถึงศีล ๕  ยังจะมากะล่อนอีก? ไปศึกษาซะใหม่ให้ดี  ศีล ๕ ยังศึกษาไม่ถ้วน  อย่าเที่ยวสู่รู้อวดดี จากคุณ : Sea Ghost Man - [ 1 ก.ย. 50 23:24:04 ]

ความคิดเห็นที่ 66 นักธรรมตรี อย่างไม่สูบไม่ดื่ม ยกเรื่อง ศีลมาสอนคนอื่น แต่ทีตัวเองทำอะไรไว้ ทำเป็นลืมไปได้หนอ ไม่สูบไม่ดื่ม? จากคุณ : nameonics - [ 2 ก.ย. 50 00:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ถ้า "ไม่สูบไม่ดื่ม" ไม่คิดที่จะตอบกระทู้ ......... ผมก็ขอเชิญ "ไปข้างหน้า" ก่อนนะครับ ที่ตรงนี้ "ไม่มีอะไรจะให้" นะครับ !!!!! ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 2 ก.ย. 50 00:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เห็นใจพระท่านนั้นแท้ๆ อุตส่าห์หลงเชื่อน้ำคำหวานๆของ คุณ ไม่สูบไม่ดื่ม หลงเอ็นดู.....ไม่สูบไม่ดื่ม ไปได้ซะขนาดนั้น........ ที่ไหนได้ พอลับหลัง ไม่สูบไม่ดื่ม กลับเอาเรื่องของท่าน ยกมาเป็นตัวอย่างมั่วๆ ( คิดเอาเองเพียวๆ ไม่มีหลักฐานทั้งสิ้น) ด่าท่านว่า ไปเอาเงิน ไม่สูบไม่ดื่ม "มาใช้เพื่อบำรุงความสุข สนองปาก" ไปซะหยั่งงั้น นี่ยังไม่รวมค่ารถนะ 5 5 5 * ถ้าพระท่านรู้ว่า คุณ ไม่สูบไม่ดื่ม กล่าวหาท่านลอยๆ ว่า ท่านไปยักยอกเงินคุณแบบนี้ พระจะคิดอย่างไรครับ? * แล้วที่ คุณ ไม่สูบไม่ดื่ม ไม่มีหลักฐานใดๆประกอบ "คำถาม" ที่ตั้งขึ้นมา ถามผม เพื่อช่วยธัมมชโยในกรณียักยอกเงินวัดนั้น   คุณ ไม่สูบไม่ดื่ม ลืมคิดไปหรือเปล่าครับ ว่า "คำถามของคุณนั้น" มัน "เพ้อเจ้อ" หรือ "เป็นการว่าร้ายผู้อื่นด้วยความเท็จ" หรือเปล่า? * หรือ จะแก้เกี้ยวแบบเดิมๆว่า จะถาม(แล้วหลอกด่าพระ)อย่างไรก็ได้ เพราะ มันเป็นแค่ "คำถาม" แบบเดิมๆ ครับ? :::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: นี่ก็จะปีนึงแล้วนา.... * ไม่คิดจะขอโทษ พระท่านบ้างหรือครับ ที่ทำให้ชื่อเสียงของท่าน ต้องเสื่อมเสีย ในโลกไซเบอร์แบบนี้?? * หรือคิดว่า ไม่มีใครรู้ก็ไม่ต้องรับผิดชอบ กับ การด่าพระลับหลังแบบนี้ ของคุณไม่สูบไม่ดื่ม ครับ? จากคุณ : nameonics - [ 2 ก.ย. 50 00:15:31 ]

ความคิดเห็นที่ 69 นายริทคนถ่อย อย่าไปวิเคราะห์อะไรให้ฟุ้งซ่านไปหมด ผมเห็นแล้ว ขี้เกียจอ่านครับ ตัวเรานะให้ทำดีก่อน อย่าไปว่าร้ายใคร? ไม่ว่าจะ เป็นพระวัดไหน? แต่ถ้าเป็นวัดพระธรรมกาย ผมจะให้สนใจ เพราะผม เป็นลูกศิษย์วัดนี้  ผมเป็นขุนพล(ตั้งเอง) แม้เข้าวัดมาเพียง 3 ปี ก็เข้าใจ ทุกอย่าง มาโจมตีก็เจอผมทุกที สำหรับโจมตีผม ผมไม่สนใจเท่าไหร่? ก็ว่าไปเถอะ เห็นเยอะไปหมด ขี้เกียจอ่าน ไปยก คคห.ผมเป็นท่อนๆ คนจะไปเข้าใจอะไร? ผมว่าอะไร? โต้ตอบอะไร?   ผมเป็นนักรบโจมตีคนชั่ว เห็นหางโผล่มา ก็มีหน้าที่เอาไม้ไล่ตี ไม่ให้ ทำชั่ว หรือเอามีดตัดหางจะได้เป็นคนกับเขา รักษาความเป็นมนุษย์ เพราะไม่มีหางเสียแล้ว จะได้เป็นผู้เป็นคนกับเขา ประกอบแต่กุศล กรรม ไม่ชอบ คคห.ผม ที่ผมว่า ทำให้เสียศูนย์ เสียหน้า อยากจะเป็นคนดี กับเขา อยากได้รับคำชม ก็ต้องนำเสนอสิ่งที่ดี สิ่งที่ถูก มีอย่างไร? ก็ว่าไป จะอวดรู้ อวดเก่ง อวดเบ่ง (ไม่รู้ว่ากลาครอบอยู่) ก็ว่าไป อย่าไปไม่ว่า่ร้ายใคร? โดยเฉพาะวัดพระธรรมกาย ก็ไม่เจอผมครับ จากคุณ : วรกร - [ 2 ก.ย. 50 00:16:28 ]

ความคิดเห็นที่ 71 อ้างจาก ความคิดเห็นที่ 69 นายริทคนถ่อย อย่าไปวิเคราะห์อะไรให้ฟุ้งซ่านไปหมด ผมเห็นแล้ว ขี้เกียจอ่านครับ ตัวเรานะให้ทำดีก่อน อย่าไปว่าร้ายใคร? ไม่ว่าจะ เป็นพระวัดไหน? แต่ถ้าเป็นวัดพระธรรมกาย ผมจะให้สนใจ เพราะผม เป็นลูกศิษย์วัดนี้  ผมเป็นขุนพล(ตั้งเอง) แม้เข้าวัดมาเพียง 3 ปี ก็เข้าใจ ทุกอย่าง มาโจมตีก็เจอผมทุกที จาก วรกร ---------------------------- กลายเป็นว่า วรกร สามารถอ้าปากด่าว่าผู้อื่นได้โดยไม่ต้องอ่าน(?) ไม่ต้องคิด และไม่ต้องใช้สมองวิเคราะห์อะไรเลยอย่างนั้นหรือ ? วรกร มีความประพฤติอย่างนี้ ควรจะเรียกว่า "คนถ่อย" ไหมครับ ? วรกร ทำตัวเหมือนสุนัข นะครับ เพราะสุนัข มันก็สามารถเห่าอะไรๆก็ได้ตามใจชอบ โดยที่มัน ไม่จำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจต่อเหตุผลแบบมนุษย์เลยแม้แต่น้อย และผมก็รู้สึกว่า สุนัขตัวนี้จะเห่าเก่งเสียด้วย แต่เท่าที่ทราบ หมาที่เห่าเก่ง มักจะบ้อท่า เวลากัด !!!!!!! จริงไหม ? จากคุณ : Ritti Janson - [ 2 ก.ย. 50 01:45:49 ]

ความคิดเห็นที่ 72 อ้างจาก ความคิดเห็นที่ 69 สำหรับโจมตีผม ผมไม่สนใจเท่าไหร่? ก็ว่าไปเถอะ เห็นเยอะไปหมด ขี้เกียจอ่าน ไปยก คคห.ผมเป็นท่อนๆ คนจะไปเข้าใจอะไร? ผมว่าอะไร? โต้ตอบอะไร?   จาก วรกร ------------------------------------- นี่เป็นเพราะสุนัขอย่างวรกร ไม่อ่านกระทู้ให้แจ่มแจ้งเสียก่อน มาเห่าแบบโง่ๆอย่างนี้ ก็เสียหมากันพอดี !!!!!!! ไม่มีใครเขาสนใจว่า วรกรจะด่าใครด้วยเหตุผลอะไรหรอกนะครับ แต่ผมสนใจที่จะถามว่า ในกรณีของยายชีจันทร์ ซึ่งมีพฤติกรรมน่ารังเกียจ ดังที่อ้างจากกระทู้ของนายลูกพระธัมฯนั้นน่ะ สามารถที่จะพูดได้หรือไม่ว่า นั่นเป็นพฤติกรรมที่ชั่วช้าสามานย์ เหมือนกับที่ วรกร ก่นด่าผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา !!!!! วรกรยังกล้าที่จะยืนยันหรือไม่ว่า คนที่มีพฤติกรรมเลวๆแบบนี้ สมควรที่จะถูกก่นด่าสาปแช่ง เหมือนกันทุกคนไป ?????? นี่คือสาระทั้งหมด ของกระทู้นี้นะครับ !!!!!! จากคุณ : Ritti Janson - [ 2 ก.ย. 50 01:46:59 ]

ความคิดเห็นที่ 73 แล้ววรกรเมื่อไหร่จะออกจากกะลาคับ  รับฟังเหตุผลบ้าง .. ไม่รู้ว่าจะประเมินวรกรอย่างไรดี .. เห็นวรกรแล้วเหนื่อยแทนตัววรกรเอง  ไม่รู้จะพูดยังไง  ขอให้วรกรสนุกกับวัฏฏะนี้ต่อไปชั่วกัปป์ชั่วกัลล์ก็แล้วกัน.. คนอื่นเขาพยามดึงขึ้นมาตัววรกรไม่ยอมช่วยตัวเอง ยังขัดขืนอีก  เศร้าใจจริง ๆ ครับ ถ้าวรกรรักตัวเองก็เลิกนับถือวัดพระธรรมกายเถอะครับ คำสอนมันบิดเบี้ยว ไม่สามารถใช้เพื่อการหลุดพ้นได้  หันมาศึกษาพุทธธรรมแท้ ๆ ดีกว่าครับ วรกร  ผมหวังดีจริง ๆ นะครับ จากคุณ : อินทรีย์คิ้วขาว - [ 2 ก.ย. 50 01:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 74 อ้าวคุณฤทธี ยังอยู่ตอบกระทู้หรือครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ จากคุณ : อินทรีย์คิ้วขาว - [ 2 ก.ย. 50 01:49:29 ]

ความคิดเห็นที่ 75 อ้างจาก ความคิดเห็นที่ 69 ผมเป็นนักรบโจมตีคนชั่ว เห็นหางโผล่มา ก็มีหน้าที่เอาไม้ไล่ตี ไม่ให้ ทำชั่ว หรือเอามีดตัดหางจะได้เป็นคนกับเขา รักษาความเป็นมนุษย์ เพราะไม่มีหางเสียแล้ว จะได้เป็นผู้เป็นคนกับเขา ประกอบแต่กุศลกรรม จาก วรกร ----------------------------------------------------- ถ้าเช่นนั้น วรกร กล้าขุดกระดูกยายชีจันทร์ ขึ้นมาตัดหางที่โผล่แพลมออกมาหรือไม่ ? วรกร ควรเอามีดเอาเสียม มาตัดหางยายชีจันทร์ เพื่อที่ยายชีจะได้เป็นผู้เป็นคนกับเขาบ้าง จะได้ประกอบแต่กุศลกรรม ไม่ทำความชั่วตามที่ปรากฏให้เห็นอย่างนี้อีกนะครับ วรกร กล้าไหมครับ ? ถ้าวรกร ไม่กล้าไปตัดหางยายชี วรกร ก็ควรที่จะตัดหางของตนเองก่อนเป็นอันดับแรกเลยนะครับ !!!!!! จากคุณ : Ritti Janson - [ 2 ก.ย. 50 01:50:04 ]

ความคิดเห็นที่ 76 อ้างจาก ความคิดเห็นที่ 69 ไม่ชอบ คคห.ผม ที่ผมว่า ทำให้เสียศูนย์ เสียหน้า อยากจะเป็นคนดี กับเขา อยากได้รับคำชม ก็ต้องนำเสนอสิ่งที่ดี สิ่งที่ถูก มีอย่างไร? ก็ว่าไป จะอวดรู้ อวดเก่ง อวดเบ่ง (ไม่รู้ว่ากลาครอบอยู่) ก็ว่าไป อย่าไปไม่ว่าร้ายใคร? โดยเฉพาะวัดพระธรรมกาย ก็ไม่เจอผมครับ จาก วรกร ------------------------------------------------- ใครกันหรือครับ ที่เสียศูนย์ เสียหน้า เพราะถ้อยคำชั่วๆของวรกร ? วรกร นี่ช่างน่าสมเพชเสียเหลือเกิน นะครับ !!!!! ที่หลายๆคนเขาอุตส่าห์ลดตัวลงมาพูดจาด้วย ก็นับว่าปราณีมากพออยู่แล้ว อย่าว่าแต่คนอย่าง วรกร เลย ต่อให้นายไชยบูลย์ มันแค่เศษสวะเท่านั้นแหละครับ มันไม่ได้มีค่ามากเกินไปกว่านี้หรอก วรกร ต้องรู้จักประเมินตัวเองเสียบ้างนะครับ วรกร ต้องหัดอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงบ้าง นายไชยบูลย์ มันก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไรหรอก ในสายตาของผม มันก็แค่อลัชชีตนหนึ่งเท่านั้น ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้ แล้วคนอย่าง วรกร มีอะไรครับ ? นอกจากถ้อยคำชั่วๆ กับสมองโง่ๆอีกก้อนหนึ่งแล้ว วรกร ยังมีอะไรที่มากไปกว่านี้อีกไหมครับ ? แต่ผมคาดว่า ไม่น่าจะมี .................... วรกร อย่าบอกนะว่า มีสี่ขา กับอีกหนึ่งหาง !!!!!!! หึหึหึ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 2 ก.ย. 50 01:51:26 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ถ้า "maneomicz" ไม่มีปัญญาตอบกระทู้ ก็ขอความร่วมมือ "ให้ไปข้างหน้า" ก่อนนะครับ เดินตาม "ไม่สูบไม่ดื่ม" ไปนั่นแหละครับ ที่ตรงนี้ "ไม่มีอะไรให้" หรอกครับ ไม่ต้องมาฟลัดกระทู้นะครับ !!!!!!! v v v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 2 ก.ย. 50 01:57:19 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ไปธุระมา กลับดึกเรย ว่าจะมาตอบกระทู้ซะหน่อย มาเจอ ฤทธี ปากคอขนาดนี้ สงสัยจะไม่ไหว เถียงสู้ไม่ได้แน่ ยิ่งเห็นข้อความใน คห.75 ยิ่งรับไม่ได้ใหญ่เลย เห็นแล้วกลัวแทนฤทธีเลย  นรกไม่รู้กล้ารับรึป่าว ปากขนาดนี้ เหอๆๆ จากคุณ : ลูกพระธัมฯ หลานคุณยาย - [ 2 ก.ย. 50 02:36:58 ]

ความคิดเห็นที่ 79 มาแบบเดิมๆอีกแล้วนายวรกร นอกจากจะต้องไปเย็บแผลที่หน้าแล้วยังต้องไปทายาที่ที่สีข้างด้วยนะ อ้ออย่าลืมทานยาที่หมอสั่งด้วยนะฟางอบน้ำผึ้งกินให้ครบหละอย่าขาดยาหละ   อย่าลืมเอาไปฝากเพื่อนๆที่วัดด้วยหละจะได้เกรี๋ยนกันไปทั้งคณะ    ขอบคุณคุณฤทธีมากๆๆๆๆ จากคุณ : VNC_256 - [ 2 ก.ย. 50 03:23:10 ]

ความคิดเห็นที่ 80 มาสนับสนุนคุณฤทธีครับ จากคุณ : razzmatazz - [ 2 ก.ย. 50 07:52:33 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ลูกพระธัมฯ หลานคุณยาย ไม่ต้องมาเถียง ไม่ต้องมาตีฝีปากอะไรเลยนะครับ คุณก็แค่อธิบาย หลักการและเหตุผล ในการที่คุณอ้างหลักฐานสั่วๆนั่นแล้วสรุปออกมาว่า พระสองรูปที่กล่าวถึงเป็นบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ ได้อย่างไรก็พอ ? และก็ควรจะ อธิบายให้ได้ด้วยว่า ........ ในขณะที่แก๊งส์อลัชชี ซึ่งกระทำการชั่วหยาบ มากกว่าพระสองรูปนั้นหลายร้อยหลายพันเท่า อีกทั้ง มิได้เป็นการกล่าวหาอย่างเลื่อนลอย แต่กลับมีพยานและหลักฐานที่ชัดเจนแน่นหนา แล้วทำไม คุณและพวก จึงยังเห็นว่า อลัชชีเหล่านี้ เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถืออีกล่ะ คุณใช้หลักการแบบใดในการวิเคราะห์ ? หรือที่จริงแล้ว พวกคุณมิได้มี "หลักการหลักคิด" อะไรหรอก มันก็เป็นเพียงแค่ ความพยายามที่จะใส่ร้ายป้ายสี พยานบุคคล ฝ่ายตรงข้ามเท่านั้นเอง !!!!! แต่ถ้าเป็นกันแบบนี้ แล้วมันจะไม่บาปหรือครับ ก็ไหน นายวรกรบอกว่า "ชาวธรรมโกย ไม่ว่าร้ายใคร" มิใช่หรือครับ ? แล้วการที่พวกคุณ พยายามปกป้อง "อลัชชี" ซึ่งต้องอาบัติ "ปาราชิก" แต่ในขณะเดียวกันก็ "ว่าร้ายพระ" ซึ่งมิได้ต้องอาบัติ "ร้ายแรง" ทำกันแบบนี้ จะไม่เป็นการกระทำบาป อย่างใหญ่หลวงหรอกหรือครับ ? ผมขอความชัดเจนหน่อยนะครับ !!!!!! ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 2 ก.ย. 50 07:59:08 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ลูกพระธัมฯ หลานคุณยาย ควรจะตอบคำถามของกระทู้มาให้ชัดนะครับ !!!!! เพราะที่จริงแล้ว กระทู้ต่างๆของผม ทั้งที่ยังอยู่ก็ดี และที่ถูกแอบลบไปแล้วก็ดี ล้วนแล้วแต่มาจากการ "เรียกร้อง อย่าง คึกคะนอง" ของ ลูกพระธัมฯหลานคุณยาย ทั้งสิ้น ฉนั้น ในเมื่อเป็นฝ่าย "ร้องขอ" มาเองแท้ๆ ลูกพระธัมฯหลานคุณยาย จะมาแสดงอาการ "ไม่รับผิดชอบ" ได้อย่างไร จริงไหมครับ ? หึหึหึ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 2 ก.ย. 50 08:09:40 ]

ความคิดเห็นที่ 83 คนอ่านรออ่าน คำตอบของคุณลูกพระธัม  กันตรึมเลยนะครับ คุณลูกพระธัม  มีคำตอบอะไร  ก็ควรจะตอบให้คนเขาเห็นบ้างนะครับ อย่าตอบเหมือนคุณวรกรเลย  อ่านปุ๊ป  รู้ปั๊ป  ว่าไม่ได้ใช้สติปัญญาอะไรมาตอบเลย เห็นแล้วอนาจ จริงๆ จากคุณ : taken01 - [ 2 ก.ย. 50 08:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ความคิดเห็นที่ 63   คำว่า "ธรรมโกย" นั้น ผมขอให้ความหมายว่า "หนีออกจากธรรม" และคำว่า "อลัชชี" นั้น นอกจากจะหมายถึง "ผู้ไม่มีความละอาย" แล้ว คำๆนี้ยังมีความหมายว่า "ภิกษุผู้มักประพฤติละเมิดพุทธบัญญัติ" ซึ่งก็คือการ "หนีออกจากธรรม" หรือก็คือ "ธรรมโกย" นั่นเอง !!!!!! ไม่สูบไม่ดื่ม พอจะเข้าใจได้หรือไม่ ? หรือว่า นอกจากจะอ่อนพุทธธรรมแล้ว ไม่สูบไม่ดื่ม ยังอ่อนภาษา(คน)อีกด้วย !!!!! อย่าพยายามที่จะกล่าวหาผม ด้วยข้อหาโง่ๆ เลยนะครับ เพราะว่ามันจะส่อแสดงให้เห็นถึง "ความอ่อน" โดยรวมของชาว "ธรรมโกย" !!!!! ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson  - [ 1 ก.ย. 50 23:19:33 ] ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ กล้าสาบานต่อพระที่คุณนับถือไหมครับว่า คำว่า "ธรรมโกย" ที่คุณว่ามาเนี่ย คิดเอาเอง ถ้าดัดแปลงมา มาจากคำไหนล่ะครับ คำนั้นล่ะครับ ที่คุณไม่ให้เกียรติว่าเป็นนามของพระศาสดา ถามว่าเจตนาโจมตีใคร ก็ควรจะดูความเหมาะสมด้วย ผมหวังดี เห็นเป็นผู้รู้ ไม่อยากให้ทำอะไรพลาดพลั้ง จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 2 ก.ย. 50 08:48:37 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ^ ^ ^ ^ ^ ดูท่าว่า ไม่สูบไม่ดื่ม จะอ่อนภาษา(คน)จริงๆด้วย 1) คำว่า "ธรรม" มันหมายถึงอะไรครับ ? 2) คำว่า "กาย" มันหมายถึงอะไรครับ ? 3) คำว่า "โกย" มันหมายถึงอะไรครับ ? ฉนั้น 4) คำว่า "ธรรมกาย" หมายถึงอะไรครับ ? 5) คำว่า "ธรรมโกย" มันหมายถึงอะไรครับ ? นี่เป็นเพียงหลักภาษา(คน)อย่างง่ายๆนะครับ ฉนั้น ไม่สูบไม่ดื่ม อย่าพยายามที่จะ "โง่" อีกเลยนะครับ !!!!!! 6) คำว่า "ธรรมกาย" เกิดจาก "ธรรม+กาย" หมายถึง "ชื่อ" ของพระพุทธเจ้า ใช่ไหมครับ ? แล้ว ไม่สูบไม่ดื่มกับสำนักอลัชชี แปลคำๆนี้ว่าอะไรครับ แปลตรงไหมครับ ? 7) คำว่า "ธรรมโกย" เกิดจาก "ธรรม+โกย" หมายถึง หนีออกจากธรรม ซึ่งเป็นอีกความหมายหนึ่งของคำว่า "อลัชชี" นี่ผมอธิบาย ภาษา(คน)ให้ฟังนะครับ ทำไมจึงทำเหมือนว่า มันฟังเข้าใจยากล่ะครับ ? หรือว่านี่เป็นเพียงแค่ ความพยายาม ที่จะใส่ร้ายป้ายสีผม อย่างโง่ๆเท่านั้น !!!!! ไม่สูบไม่ดื่ม พยายาม หายใจเข้าปอดให้ลึกๆนะครับ และถ้าไม่คิดที่จะตอบกระทู้ ก็ขอเชิญออกไปได้แล้วนะครับ นี่ผมเตือนคุณเป็นครั้งที่สอง !!!!!! ถ้ายังอยากจะพล่ามเรื่อง "ธรรมโกย" ไม่สูบไม่ดื่มก็ไปตั้งกระทู้ใหม่เลยสิครับ แล้วผมจะตามไปตอบข้อข้องใจให้ อย่างละเอียด !!!!! ชัดเจนแล้วนะครับ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 2 ก.ย. 50 10:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ผม ในฐานะ จขกท ขอความกรุณา ทุกๆท่าน ที่เข้ามาในกระทู้นี้ ช่วยลบ คคห ของนาย ไม่สูบไม่ดื่ม ออกไปด้วยนะครับ ฟลัดกระทู้แบบนี้ ไม่เข้าท่าเลย .......... ไม่สูบไม่ดื่ม ไม่ต้องสงสัยนะครับ ถ้า คคห ของคุณหายไป !!!!!! ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 2 ก.ย. 50 10:31:21 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เราอยู่ในภาวะสงครามหรือนี่ จากคุณ : คลื่นแทรก - [ 2 ก.ย. 50 10:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 97 พี่ มสมด. ครับ ใคร ๆ เขาก็รู้ว่าลัทธิธรรมกายไม่ใช่ศาสนาพุทธ เพียงยืมศัพท์ในพุทธศาสนาไปใช้  ความจริงความหมาย และจุดมุ่งหมาย เป็นคนละเรื่องกับความหมายของพุทธเรา เวลาตีความในความหมายของศัพท์ ถ้าอันไหนมีประโยชน์กับตนก็จะแปลแบบนั้นแหละครับ จุดยืนก็ไม่ค่อยมี **เบื่อมาก ๆ ** จากคุณ : อินทรีย์คิ้วขาว - [ 2 ก.ย. 50 16:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 98 คุณลูกพระธัมฯ จะข้ามวันข้ามคืนแล้ว ทำไมไม่ออกมาตอบเสียทีละ จะได้ฟังความทั้งสองข้างไง หรือตอบอะไรไม่ได้ เลยหนีหายจ้อยโดยยกเอานรกมาขู่อีกตามเคย จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 2 ก.ย. 50 17:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 99 เชียร์ผู้ต่อต้านลัทธิ ขายบุญ MLM ทุกท่าน จากคุณ : นัท (Natty_T) - [ 2 ก.ย. 50 20:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 100 โผมได้เป็นความคิดเห็นที่ 100 ล่ะ เย้...................... จากคุณ : อินทรีย์คิ้วขาว - [ 2 ก.ย. 50 21:41:00 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ขอเป็น 101 ครับ ................ เหล่าสาวก   หายไปใหนหมดนะ   ครั้นจะแช่ง จะด่า นรกขู่  มันหมดมุขแล้ว ...................................................... ....  เหล่าสาวก  อลัชชี  ล้วนหนีหน้า     ทีหลังอย่า อวดดี ตีความมั่ว     เที่ยวข่มขู ชูนรก ให้เขากลัว    แต่ความชั่ว อยู่กับใจ ไม่เคยมอง......     แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 50 21:54:09 จากคุณ : misery - [ 2 ก.ย. 50 21:45:26 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เลิกลบความเห็นคนอื่นซะทีครับ แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 50 21:59:57 จากคุณ : misery - [ 2 ก.ย. 50 21:56:48 ]

ความคิดเห็นที่ 103 คุณลูกธัมมชโย ถ้ารู้ตัวว่าผิดพลาดไปแล้ว ก็มาขอโทษซะเถอะ ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร ผมยังขอโทษพี่ ๆ ในนี้ออกบ่อยไป  สังคมให้อภัยนะ เชื่อเห่อะ  หลบหน้าไปจะมีแต่คนเขาเยาะ ... กล้าหาญหน่อย... แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 50 00:32:49 จากคุณ : อินทรีย์คิ้วขาว - [ 3 ก.ย. 50 00:14:48 ]

ความคิดเห็นที่ 104 63# นั้นเด็ดสุดแล้ว...   ยังอุตส่าห์ นะ... จากคุณ : campaign - [ 3 ก.ย. 50 00:49:00 ]

ความคิดเห็นที่ 105 มาแล้วครับ มาแล้วววววว ไม่ได้หนีไปไหนครับ พอดีภารกิจเยอะไม่ค่อยได้เข้าเน็ต เด๊วจะตอบแล้วนะครับ จากคุณ : ลูกพระธัมฯ หลานคุณยาย - [ 3 ก.ย. 50 01:00:57 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ลูกพระธัมฯ หลานคุณยาย ไม่ต้องมาเถียง ไม่ต้องมาตีฝีปากอะไรเลยนะครับ คุณก็แค่อธิบาย หลักการและเหตุผล ในการที่คุณอ้างหลักฐานสั่วๆนั่นแล้วสรุปออกมาว่า พระสองรูปที่กล่าวถึงเป็นบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ ได้อย่างไรก็พอ ? และก็ควรจะ อธิบายให้ได้ด้วยว่า ........ ในขณะที่แก๊งส์อลัชชี ซึ่งกระทำการชั่วหยาบ มากกว่าพระสองรูปนั้นหลายร้อยหลายพันเท่า อีกทั้ง มิได้เป็นการกล่าวหาอย่างเลื่อนลอย แต่กลับมีพยานและหลักฐานที่ชัดเจนแน่นหนา แล้วทำไม คุณและพวก จึงยังเห็นว่า อลัชชีเหล่านี้ เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถืออีกล่ะ คุณใช้หลักการแบบใดในการวิเคราะห์ ? หรือที่จริงแล้ว พวกคุณมิได้มี "หลักการหลักคิด" อะไรหรอก มันก็เป็นเพียงแค่ ความพยายามที่จะใส่ร้ายป้ายสี พยานบุคคล ฝ่ายตรงข้ามเท่านั้นเอง !!!!! แต่ถ้าเป็นกันแบบนี้ แล้วมันจะไม่บาปหรือครับ ก็ไหน นายวรกรบอกว่า "ชาวธรรมโกย ไม่ว่าร้ายใคร" มิใช่หรือครับ ? แล้วการที่พวกคุณ พยายามปกป้อง "อลัชชี" ซึ่งต้องอาบัติ "ปาราชิก" แต่ในขณะเดียวกันก็ "ว่าร้ายพระ" ซึ่งมิได้ต้องอาบัติ "ร้ายแรง" ทำกันแบบนี้ จะไม่เป็นการกระทำบาป อย่างใหญ่หลวงหรอกหรือครับ ? จากคุณ : Ritti Janson __________________________________________________________ __________________________________________________________ สรุปง่ายๆ คือผมไม่ได้อ้างหลักฐานอะไรทั้งนั้นแหละ  แล้วก็ไม่ได้จะใส่ร้ายพยานบุคคลอะไรนั่นหรอก ผมแค่ไปเปิดเจอในเวบ เห็นว่าเป็นอีกมุมมองหนึ่ง ก็เลย ก๊อปมาให้ดูกันเท่านั้นเอง  เพราะในนั้นก็ไม่ได้มีความเห็นของผมอยู่นี่ ก๊อปมาทั้งดุ้นเรย  จะมาว่าผมอ้างหลักฐานใส่ร้ายได้ไง  ผมก็แค่ไปเจอเข้า จึงก๊อปมาให้ดูกันเล่นๆ  แค่นั้นเอง ไม่ได้ต้องการจะโจมตีใครซักหน่อย  อิอิ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 50 01:12:03 จากคุณ : ลูกพระธัมฯ หลานคุณยาย - [ 3 ก.ย. 50 01:10:32 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เออแน่ะ ไปเอาข้อมูลคนอื่นมา แต่ "ไม่รับผิดชอบ" กับสิ่งที่เอามาโพส ออกตัวว่าแค่ ก๊อปมาให้ดูกันเล่นๆ ก็ทำไปด้ายนะคุณลูกธัมมี่ ถ้างั้น มาดูผมโพสเล่นๆบ้างดีฟ่า ดีมะครับ? :::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: อ้อ ที่โพสมาเช่นนี้ กรุณาอย่าแปลว่าผมไป endorse ความเชื่อของอลัชชี ในเรื่องรื้อวัฏฏะว่า ทำได้นะครับ ผมแค่ชี้ จุดอ่อน ของความเชื่อแบบนี้ให้ สาวกอลัชชีเห็นเท่านั้นเอง........   คุณลูกธัมมี่ เก็บเอาไปดูเล่นๆพอมันๆนะคับ 5 5 5 V V แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 50 01:26:08 จากคุณ : nameonics - [ 3 ก.ย. 50 01:22:25 ]

ความคิดเห็นที่ 108 คคห.106 "ชั่ว" จริง!! ชั่ว.. ชั่ว.. ชั่ว.. ที่สามารถนำข้อความที่ใส่ร้ายผู้อื่นมาโพส ทั้ง ๆ ที่ตนก็ไม่รู้ข้อเท็จจริง และไม่มีหลักฐานอื่น   แถมยังปัดสวะ "ความชั่ว" ให้พ้นตัว ..ไม่มีความรับผิดชอบ.. ไร้ค่าจริง ๆ แต่อย่างว่า ที่สำนักฯ คงไม่ได้สอนให้รู้จัก "ความรับผิดชอบ" เพราะเจ้าสำนักฯ ก็ยังไม่รู้จักเลยหนิ..   [และคงเป็นพฤติกรรมเลียนแบบเจ้าสำนักฯ โดยเฉพาะการนำข้อความที่หาหลักฐานความจริงไม่ได้มาเล่า]   .. จากคุณ : /kd (@mantras) - [ 3 ก.ย. 50 07:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ลูกพระธัมฯ หลานคุณยาย ............... คุณเป็นคน สารเลว !!!!!!! http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5779286/Y5779286.html จากคุณ : Ritti Janson - [ 3 ก.ย. 50 08:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ค.ห.47 กัดฟันพูดป่าวครับ??? ล้อเล่นน่า.......... จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 3 ก.ย. 50 11:53:11 ]

ความคิดเห็นที่ 111 จขกท.เป็นคนชั่วครับ คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่วครับ จากคุณ : วรกร - [ 4 ก.ย. 50 00:45:36 ]

ความคิดเห็นที่ 112 วรกร น่าสมเพช !!!!!! ผมสรุปได้อย่างนี้จริงๆ ............ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 4 ก.ย. 50 07:40:37 ]