Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    นักบุญดอมินิก ซาวีโอ

    เมื่อนักบุญดอมินิก ซาวีโอ ได้จากเราไปพบพระเจ้าในสวรรค์แล้วนั้น บิดาของท่านได้เขียนถึงคุณพ่อบอสโก ว่าดังนี้ “ผมขอแจ้งข่าวที่แสนเศร้าที่สูญเสียลูกไป ดอมินิกบุตรชายที่รักของผมและสาวกของท่าน ในเย็นของวันที่ 9 มีนาคม ได้จากเราไปหาพระเป็นเจ้าหลังจากที่ได้รับศีลศักดิ์สิทธ์แล้ว

    ขณะที่เขาเขียนบันทึกนี้ บิดาของดอมินิกอายุได้ 42 ปี ยังจำได้ว่าชีวประวัติสั้นของบุตรชายสุดที่รักของตน มารดาที่ชื่อว่า บรีจีดา ได้ให้กำเนิดดอมินิกในวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1842 ที่กีเอรีและในวันเดียวกันนั้นเองดอมินิกได้รับศีลล้างบาป

    ในบ้านหลังน้อยที่ยากจนมาก บิดาของเขาซึ่งเป็นช่างเหล็ก มารดามีอาชีพเป็นช่างตัดเย็บ รูปร่างสูง มีบุคลิกที่ละเอียดอ่อนและสวยงาม ที่สามารถอบรมให้บุตรชายของตนบรรลุความศักดิ์สิทธิ์ได้ในที่สุด การอบรมนี้จะสามารถช่วยเขาให้พัฒนาเติบโตขึ้นจนกลับกลายเป็นชุดที่สวยงามหรือน่าเกียจก็ได้

    ในเดือนพฤศจิกายน ปี 1843 ขณะนั้นดอมินิกอายุได้ 20 เดือน คาร์โลและบรีจีดา ได้ย้ายบ้านไปที่มูริอัลโด ส่วนหนึ่งของคัสเตลนูโอโว ไม่ไกลจากเบกกี เนินเขาที่ซึ่งครอบครัวของคุณพ่อบอสโกอาศัยอยู่ พวกเขาอาศัยอยู่ในห้องเล็กๆ ในชนบท ที่นั่นไรมอนโดและมาเรียได้เกิดมา น้องสาว 2 สองคนแรกของดอมินิกและน้องชายของเขาที่ชื่อยอห์นได้เกิดมา

    ดอมินิกได้เจริญชีวิตที่มูริอัลโด เป็นเวลา 10 ปี ได้ทำประสบการณ์หลัก 2 ประการคือ การเริ่มเรียนและการรับศีลมหาสนิทครั้งแรก ที่โรงเรียนครูคนแรกของดอมินิกคือ พ่อเจ้าวัด วัดน้อยที่มูริอัลโด ซึ่งคุณพ่อยอห์น บัปติสตา ชุกกา ท่านมีอายุ 29 ปี สมัยที่ถูกส่งไปประจำที่มูริอัลโดนั้น ดอมินิกอายุได้ 5 ขวบ พ่อยอห์นบัปติสตา จำได้ถึงการพบปะกับดอมินิกเป็นครั้งแรก ได้ดังนี้ “ในวันเหล่านั้นที่พ่ออยู่ที่มูริอัลโด พ่อเห็นเด็กเล็กๆคนหนึ่งอายุประมาณ 5 ขวบมาที่วัดเพื่อสวดภาวนา ด้วยท่าทีที่สำรวมจริงๆ หายากมากสำหรับเด็กวัยอย่างนี้ : เธอทักทายพ่อด้วยความเคารพนับถือในปีต่อไป เธอเริ่มมาโรงเรียน เธอขยันขันแข็ง มีความอ่อนโยนและขยัน และเนื่องด้วยเขารู้จักใช้ความสามารถที่มีอยู่ เพื่อพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้าด้วยเวลาอันน้อยนิด ดอมินิกรักพระเจ้า และแสดงออกโดยการเลียนแบบพระศาสนจักรโดยการภาวนากับพระมารดา ซึ่งพัฒนาเธอให้สามารถเรียนรู้ในการเป็นผู้ช่วยจารีตในพิธีบูชาขอบพระคุณ ที่โรงเรียนดอมินิกเรียนรู้จักเพื่อนๆ เพื่อนบางคนดีบางคนก็ยังไว้ใจไม่ค่อยได้นัก เพื่อนคนหนึ่งที่โรงเรียนซึ่งนามสกุลเดียวกับดอมินิกคือยอห์น ซาวีโอ จำได้ว่าเพื่อน 2 คนของดอมินิกที่ประพฤติไม่ดี วันหนึ่งครูก็หมดความเพียรลงโทษพวกเขาอย่างรุนแรง เมื่อเห็นครูโกรธและเพื่อนก็เสียหน้า ดอมินิกถึงกับร้องไห้บางทีอาจเป็นครั้งแรกที่ดอมินิกมีประสบการณ์กับความไม่ดีและความไม่ดีนี้ทำให้เธอต้องร้องไห้

    ในปีที่ 2 ของการเรียนหนังสือ ดอมินิกอายุได้ 7 ขวบ วันที่ทำให้ดอมินิกมีความสุขมากที่สุดคือ
    วันที่รับศิลมหาสนิทครั้งแรก คุณพ่อยอห์น บัปติสตา ซุกกาเขียนไว้ว่า “การมีความสามารถที่จะแยกแยะระหว่างปังสวรรค์และขนมปังได้จึงได้รับศิลมหาสนิท ซึ่งเธอรับศิลด้วยความศรัทธาอย่างน่าอัศจรรย์ใจในอายุวัยแบบนี้” เด็กๆในสมัยนั้นจะรับศิลมหาสนิทเมื่ออายุ 11 – 12 ปี แต่สำหรับดอมินิกแล้วพ่อเจ้าวัดให้การยกเว้น บรรดาพระสงฆ์ด้วยกันที่ได้รู้จักดอมินิกและพบว่าดอมินิกมีความฉลาดและศรัทธาดุจเดียวกับเทวดา

    เมื่อวันที่ 8 เมษายน 1849 เป็นวันอาทิตย์ปัสกา บิดาและมารดาได้พาดอมินิกไปร่วมฉลองวัดที่คัสเตลนูโอโว ยอห์น กัลเยโร ซึ่งภายหลังกลับเป็นพระสังฆราชและคาร์ดินัล ขณะนั้นเขาอายุได้ 11 ปี เป็นผู้ช่วยจารีตอยู่ที่วัดนั้น เขาได้เห็นดอมินิกและหลายปีหลังจากนั้น ชาวคัสเตลนูโอโวจำนวนไม่น้อยได้ชมเชยความศรัทธาของดอมินิก เมื่อดอมินิกรับศิลมหาสนิทครั้งแรก ท่าทีที่สำรวมซึ่งไม่เคยได้เห็นมาก่อนเลยในช่วงวัยเดียวกันกับเธอ ในวันเหล่านั้นอาศัยการบันทึกของเด็กคนหนึ่งซึ่งอยู่ระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลาย ที่ดูไม่แข็งแรงแต่อาศัยน้ำใจที่เข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว ดอมินิกได้เขียนข้อตั้งใจนี้ไว้ในสมุดของเธอว่าดังนี้ :
    ข้อตั้งใจของการรับศิลมหาสนิทครั้งแรก:
    1. ผมจะรับศีลอภัยบาปบ่อยๆ และรับศิลมหาสนิททุกครั้งที่มีอนุญาต
    2. ผมจะทำวันฉลองให้เป็นวันศักดิ์สิทธิ์
    3. มิตรสหายของผมคือองค์พระเยซูเจ้าและแม่พระ
    4. ยอมตายแต่ไม่ยอมทำบาป

    ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1848 เมื่อดอมินิกมีอายุได้ 6 ขวบ พ่อบอสโกได้สร้างวัดเล็กถวายเกียรติแด่พระมารดา
    แห่งลูกประคำขึ้นที่เนินเขาของเบกกี พ่อบอสโกมาจากตุรินพร้อมกับเด็ก 16 คน เพื่อฉลองแม่พระด้วยความยินดีและอย่างสง่างาม เด็กคนหนึ่งซึ่งอาศัยการเดินที่งใหญ่ตามถนนหนทางพร้อมกับระฆังใหญ่ และเชื้อเชิญฝูงชนให้ไปร่วมฉลองและฟังเทศน์ของคุณพ่อบอสโก ท่ามกลางกลุ่มชนน้อยๆนั้นไม่ยากที่จะวาดมโนภาพถึงคาร์โล ซาวีโอ ซึ่งจูงมือดอมินิก ส่วนมารดาบรีจิดา ก็อุ้มไรมอนดา น้องสาวไปร่วมฉลองด้วยกัน เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1853 คาร์โล ซาวีโอ เพื่อหางานที่ดีกว่าจึงได้ย้ายบ้านไปอยู่ที่มอนโดนีโอ ซึ่งห่างจากมูริอัลโดไม่กี่กิโลเมตร

    สำหรับผู้ที่มาที่มอนโดนีโอ บ้านของซาวีโออยู่ทางด้านซ้ายหลังแรก ติดถนนสายที่เข้าไปในหมู่บ้าน ทั้งชั้นล่างและชั้นบน มี 2 ห้อง ห้องข้างๆ บรีจีดาใช้ดูแลลูกๆและใช้ตัดเย็บ ดอมินิกมาถึงมอนโดนีโอ เมื่อเธอมีอายุเกือบ 11 ปีแล้ว และได้เรียนหนังสือกับคุณพ่อโยเซฟ คูยีเอโร

    ดอมินิกรับศิลกำลังที่วัดแห่งคัสเตลนูโอโว ในวันที่ 13 เมษายน คศ. 1853 พระจิตเจ้าเสด็จมาปรับเปลี่ยนเด็กคนหนึ่งที่เป็นผู้ใหญ่ในความเชื่อ พร้อมกับพละกำลังจากพระเจ้าที่จะต่อสู้สงครามแห่งชีวิต ที่โรงเรียนของมูริอัลโด ช่วงฤดูหนาวนักเรียนแต่ละคนต้องนำฟืนเพื่อมาใส่เตาผิง เพื่อให้ความอบอุ่น วันหนึ่งเด็กเกเร 2 คนได้นำก้อนหิมะและก้อนหินใส่ในเตาผิงทำให้หิมะละลายพร้อมควันคลุ้งทั้งห้อง เมื่อคุณพ่อคูลีเยโรมาถึงและถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เด็ก 2 คนนั้นโดยทันทีที่ชี้ไปที่ดอมินิก ดอมินิกได้ยอมรับการทำโทษโดยการคุกเข่ากลางห้องเรียนนั้น โชคดีที่เพื่อนคนหนึ่งได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณพ่อฟังหลัง จากวันนั้นคุณพ่อได้เรียกดอมินิกมาถามว่าทำไมไม่แก้ตัว ดอมินิกตอบว่า “ผมคิดว่าเด็ก 2 คนนั้นอาจจะถูกไล่ออกจากโรงเรียน ผมไม่อยากให้เกิดเช่นนั้น ส่วนผมเอง ผมคงได้รับการอภัยเพราะว่าเป็นครั้งแรก” และก็คิดถึงพระเยซูเจ้า พระองค์เองก็ถูกตัดสินโดยอยุติธรรม. คุณพ่อคูบีเอโร ประทับใจในน้ำใจดีของดอมินิก ท่านเขียนไว้ว่า “ใน 20 ปีที่ได้สอนมา พ่อไม่เคยพบเด็กดี ศรัทธา ขยันและมีไหวพริบเช่นนี้มาก่อนเลย ด้วยการเป็นเพื่อนของพ่อบอสโก คุณพ่อบอกว่าดอมินิกเป็นเด็กที่ดีที่สุดในโรงเรียนที่เปิดสอนสำหรับเด็กยากจน

     
     

    จากคุณ : ซูรากัน - [ 22 ก.ย. 50 16:50:57 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom