ความคิดเห็นที่ 1 การใส่ร้ายธรรมกายคือแผนการทำลายพุทธศาสนาอย่างหนึ่งในไทยหรือไม่ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5887751/Y5887751.html   คนที่วิจารณ์พระคุณถือศีลได้มากกว่าพระที่คุณวิจารณ์หรือไม่ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5889830/Y5889830.html   ธรรม(กลาย) เพื่อ(มอมเมา)ประชาชน ฉบับพระรัตนตรัย(เป็นอัตตา) http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5779543/Y5779543.html คนบาปมันจะด้านอาจารย์ไหน ชื่อเสียงโ่ด่งดังขนาดไหนไม่ต้องไปกลัว   ตราบใดที่พุทธพจน์เรื่องนิพพานยังอยู่ให้อ้างอิง http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5832762/Y5832762.html พวกสัทธรรมปฏิรูป แต่งเรื่องลบหลู่พระพุทธเจ้า http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5705521/Y5705521.html .. แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 50 18:06:23 จากคุณ : /kd (@mantras) - [ 8 ต.ค. 50 17:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มีมานานและจะมีอีกต่อไป จากคุณ : ผีเก่าจาน - [ 8 ต.ค. 50 18:02:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ข้อเท็จจริงด้านเดียวก็เพียงพอแล้ว คือการบิดเบือนพระธรรมวินัยให้ผิดไปจากพระไตรปิฎก ซึ่งเป็นบาปหนาสาหัส แล้วแบบนี้เขาไม่เรียกว่าใส่ร้ายนะจ๊ะ เขาเรียกว่าชี้แจงแสดงข้อเท็จจริงเพื่อมิให้ผู้ที่ไม่รู้ต้องถูกหลอกเพิ่มขึ้นอีก จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 8 ต.ค. 50 18:38:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เป็นเรื่องเกิดจนชิน จากคุณ : เมื่อไรจะหายเหงา - [ 8 ต.ค. 50 18:50:21 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อันที่จริงธรรมกาย  ให้ร้ายพระศาสนา  มานาน เพียงแต่   กล้าที่จะเอาความจริง  มาตีแผ่เท่านั้นเอง ส่วนสื่อต่างๆ  ถูกวิชามาร  สยบ ไปหมดแล้ว รวมทั้งมหาเถร  และ กรมศาสนา เรียกได้ว่า  ที่นี่  ที่เดียว ที่ยังต่อสู้ เพื่อ.......รักษาพระธรรมวินัย จากคุณ : misery - [ 8 ต.ค. 50 19:04:16 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยืนหยัดสู้  หมู่มาร  ปณิธานมั่น จักฝ่าฟัน  อุปสรรค  และขวากหนาม เพื่อพระธรรม  ดำรง  เหนือคนทราม เปรียบเหมือนยาม  เฝ้าทรัพย์  จับคนโกง จากคุณ : misery - [ 8 ต.ค. 50 19:08:51 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มีข้อสังเกตุว่าน่าที่จะมีการทำกันเป็นขบวนการเพื่อการให้ร้ายและมุ่งหวังทำลายวัดพระธรรมกาย จากคุณ : Just_Anh  - [ 8 ต.ค. 50 17:36:56 ]   .......................................................................................................... ธรรมกาย  ให้ร้าย  ผู้รักธรรม แต่แปรคำ  กลับกลอก  หลอกให้หลง คอยป้ายสี  คนดี  ที่ธำรง ผู้มั่นคง  ในธรรม  ตามเป็นจริง จากคุณ : misery - [ 8 ต.ค. 50 19:18:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จริงๆแล้ว พ่อใคร ใครก็รัก มานั่งวิจารณ์ด่าพ่อชาวบ้าน มันเป็นเรื่องของคนมีการศึกษาครับ จากคุณ : jvn10 - [ 8 ต.ค. 50 19:20:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มุข คอยด่าว่า  คนที่รู้ทัน  ลัทธิ ธรรมกาย ทำใม  เอามาใช้ ตลอดเลยนะ   สาวก ทุกคน  มาพิมพ์  เดีนวกันเลย .................................................................. เหล่าสาวก  ละม้าย  คล้ายคลึงกัน อัศจรรย์   สอนสั่ง   ดั่งกินหญ้า พระธรรมมี  ให้คิด  พิจารณา เอาแต่ว่า  ตามกัน  นั่นของปลอม จากคุณ : misery - [ 8 ต.ค. 50 19:22:58 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ใข่ว่าพ่อ  ใครใคร  ที่ใหนหรอก แต่มาหลอก  บิดธรรม  ทรามเหลือหลาย คนรักธรรม  มีมาก ดั่งเม็ดทราย ยอมพลีกาย  ถวายแด่  พุทธองค์ จากคุณ : misery - [ 8 ต.ค. 50 19:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จตุคามรามเทพใช่พุทธหรอ รักพุทธพอทำไมท่านอยู่เฉย โคตรเศรษฐีมีกำไรใยละเลย อย่าอ้างเอ่ยคุณรักธรรมดั่งเม็ดทราย จากคุณ : jvn10 - [ 8 ต.ค. 50 19:34:51 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มีทำกันเป็นกลุ่มๆ  คงจะเงินดีนะ จากคุณ : rxkku - [ 8 ต.ค. 50 19:46:41 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จตุคาม  ชั่วยาม   ก็จางหาย ธรรมกาย  ทำลาย  ถึงรากฐาน บรรพบุรุษ  รักษา  มานมนาน อันตรธาน  ปลอมปน  โดยคนพาล จากคุณ : misery - [ 8 ต.ค. 50 19:51:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ความคิดเห็นที่ 8   จริงๆแล้ว พ่อใคร ใครก็รัก มานั่งวิจารณ์ด่าพ่อชาวบ้าน มันเป็นเรื่องของคนมีการศึกษาครับ จากคุณ : jvn10 หากนับถือพุทธ เรียกตัวเองว่าพุทธบุตร... พ่อเราก็คือพระพุทธเจ้า พระบรมศาสดาท่านไม่อยู่แล้ว  ท่านให้ถือพระธรรมแทนตัวท่าน สำนักเดียรถีย์บิดเบือนพระธรรม  ก็ไม่ต่างอะไรกับด่าพ่อเรา แต่พวกที่ไม่เดือดร้อน กลับไปถือเดียรถีย์อลัชชีเป็นพ่อนี่สิ ยังจะเรียกตนว่าเป็นพุทธบุตรกันปาวๆ ช่างมิรู้จักกระดากอายกันเลยจริงๆ จากคุณ : Sea Ghost Man - [ 8 ต.ค. 50 19:52:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จตุคาม   ลามพุทธ   หยุดแค่เปลือก ธรรมโกย   แส่เสือก   เปลือกถึงแก่น บ่อนทำลาย   พุทธธรรม   ล้ำถึงแดน สาหัสแสน   ตู่พุทธพจน์   สลดใจ อลัชชี   เก้อ-ยาก   กระชากฉุด คอยยื้อยุด   ขุดกลบ   สลบไสล พุทธธรรม   ล้ำค่า   มาทำลาย พวกมารร้าย   ชาติชั่ว   มั่วพระธรรม สอนบิดเบือน   กล่าวตู่   ไม่รู้ผิด ไม่เคยคิด   กลับตัว   ทำชั่วซ้ำ ยักยอกทรัพย์   ของสงฆ์   คงรับกรรม นรกขย้ำ   นิพพานปิด   ลิขิตเอง ฯ ฤทธีระทวย แก้ไขเมื่อ 11 ต.ค. 50 12:14:44 จากคุณ : Ritti Janson - [ 8 ต.ค. 50 19:57:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อีก มุข  ของเหล่าสาวก  คือ คอยเบนประเด็น อ้างโน่น  อ้างนี้    ให้เรางง   .................................................................. สาวกร้าย  หมายเบน  เอนประเด็น นั่นย่อมเป็น  อุบาย   หมายให้หลง คำถามมี  ไม่ตอบ  ชอบทำงง คอยพะวง   ป้องปัก  อลัชชี จากคุณ : misery - [ 8 ต.ค. 50 19:58:23 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ที่เจ้าของกระทู้ว่า.....คุณคิดว่าใครกันที่จะเป็นผู้ที่เสียประโยชน์ต่อในการเผยแพร่และดำรงรักษาไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาบนพื้นแผ่นดินไทย?? ............................. แล้วคุณคิดว่าใครได้ผลประโยชน์จากการบิดเบือนพระธรรมวินัยล่ะ จากคุณ : dcm - [ 8 ต.ค. 50 19:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อยากเห็น อย่างนี้ทุกวัน อย่างน้อยวันละยี่สิบกระทู้ยิ่งดี พระอะไรวะ ทาปากแดงๆด้วย ถ้าจะแก้ตัวว่า ทาลิปต์มัน มันก็ไม่ตรงกับที่พระผู้มีพระภาคเจ้าสอนใว้นะสิ ว่า สังขาน เป็นสิ่งไม่เที่ยง อย่างนี้เค้าเรียก เดียรถีย์ ไม่ใช่เหรอครับ จากคุณ : เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับสูญไป - [ 8 ต.ค. 50 20:02:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เหมือนคนเกลียดตุ๊กแก เห็นตุ๊กแกอยู่ใต้ถุนบ้าน จะกำจัดตุ๊กแกออกไปเพราะไม่ชอบขี้หน้ามัน คนคนนั้นโง่หรือฉลาดน้อยไม่อาจระบุได้ จุดไฟเผาบ้านตัวเองซะเลย ตุ๊กแกตายก็จริงแต่บ้านก็พลอยวอดวายไปด้วย ฉันใดก็ฉันนั้นแหละ คนโจมตีธรรมกายก็เหมือนคนเกลียดตุ๊กแกนี่แหละ จากคุณ : วิพิธวิสสุดา - [ 8 ต.ค. 50 20:33:07 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นธรรมดาของโลก คนชั่วมีทุกยุคทุกสมัย ในสมัยพุทธกาลก็มีคนชั่ว ลักษณะนี้  คนคิดไม่ดี จะให้พูดดีก็คงยากครับ จากคุณ : วรกร - [ 8 ต.ค. 50 20:33:17 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นธรรมดาของโลก คนชั่วมีทุกยุคทุกสมัย ในสมัยพุทธกาลก็มีคนชั่ว ลักษณะนี้   คนคิดไม่ดี จะให้พูดดีก็คงยากครับ จากคุณ : Ritti Janson - [ 8 ต.ค. 50 20:39:15 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่เรียกว่าการให้ร้ายครับ เรียกว่า  การนำความจริงมาตีแผ่ แต่สาวกอลัชชี   แก้ตัวแทนไม่ได้ เพราะจำนนด้วยหลักฐาน เรยดิ้นพล่านๆ อย่างที่เห็นอยู่   อนาจแท้ จากคุณ : yariv_80 - [ 8 ต.ค. 50 20:41:23 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คนที่คิดจะกำจัด "ตุ๊กเข้" ใต้ถุนบ้าน ด้วยการเผาบ้าน มันก็โง่จริง สมกับที่พูดนั่นแหละ ................. !!!!! เอาไม้เปื้อนคูถ ตีให้ตาย หรือไล่ไปให้พ้น ก็คงพอแล้วกระมัง ? จะคิดจะพูดอะไร ก็น่าจะแสดงให้เห็นถึง ความมีสติ เสียบ้างสิ เฮอะ เฮอะ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 8 ต.ค. 50 20:45:29 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ให้ร้ายหรือให้ความจริงครับ วัดธรรมกายนี่ ไม่ใช่ศาสนาพุทธครับ เป็นแค่ลัทธิที่มี คุณธัมมะชโย เป็นเจ้าลัทธิครับ ป.ล. เป็นความคิดเห็นส่วนตัวครับ ไม่จำเป็นต้องเชื่อตามผม แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 50 20:49:38 จากคุณ : monkeygig - [ 8 ต.ค. 50 20:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 25 http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5894854/Y5894854.html จากคุณ : วรกร - [ 8 ต.ค. 50 20:53:26 ]

ความคิดเห็นที่ 26 #19 อุปมาได้ดีมั่กๆ เปรียบตุ๊กแกกับลัทธิธรรมกาย จากคุณ : dcm - [ 8 ต.ค. 50 20:57:30 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ดีซีเอ็ม อยู่เฉยๆก็ดีแล้ว  เขียนบรรทัดเดียวก็หาบาปใส่ตัวได้ครับ คงไม่รู้หรอก เพราะถ้ารู้คงไม่เขียน จากคุณ : วรกร - [ 8 ต.ค. 50 21:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สงสัยจังว่า -คนที่โกหก ปลิ้นปล้อน หลอกลวงชาวบ้าน เพื่อให้หลงเชื่อตนเอง -คนที่หลอกลวงให้ชาวบ้านนำเอาทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลมาบริจาคให้ นำเข้ามาเป็นของส่วนตัว -คนที่บิดเบือนหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศานา -คนที่ปิดบังซ่อนเร้นความเลวทรามของตัว -คนที่อวดอ้างอุตริมนุษธรรม ฯลฯ ถ้าบุคคลที่กระทำการเหล่านี้ ดูจะกลายเป็นผู้วิเศษวิโส เป็นผู้ดีมีชาติตะกูล น่าเสื่อมใส แล้วล่ะก็ ผมก็จะยอมเป็นคนถ่อยที่จะไม่เคารพ ไม่ยอมรับบุคคลที่กระทำการดังกล่าว ละกันครับ จากคุณ : monkeygig - [ 8 ต.ค. 50 21:02:04 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ^ ^ ^ (ชี้ไปที่ #26) แล้วเธอก็ร่วมวางเพลิงด้วยใช่เปล่า? เหนื่อยหน่อยนะ ทั้งขุดจอมปลวกทั้งเผาบ้าน แล้วจากนี้เธอจะไปอยู่ไหนล่ะ ถ้าบ้านโดนเผาซะแล้ว เป็นคนจรจัดงั้นหรือ? ไม่น่าจะดีนะ จากคุณ : วิพิธวิสสุดา - [ 8 ต.ค. 50 21:04:38 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตุ๊กแกไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยกับใคร เลี้ยงเอาไว้มันยังช่วยกินแมลงและสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่มารบกวนเจ้าของบ้านเสียอีกแน่ะ แค่คนที่ไม่ชอบหน้ามันเพราะอุปาทานของตัวเองล้วนๆ เลยพยายามหาทางกำจัดมันซะ ก็เท่านั้น จากคุณ : วิพิธวิสสุดา - [ 8 ต.ค. 50 21:12:58 ]

ความคิดเห็นที่ 31 การบิดเบือน ปลอมปน พุทธธรรม มันเกิดจาก อุปาทาน ของผู้ใดกันจ๊ะ ? v v v v ธรรม(กลาย) เพื่อ(มอมเมา)ประชาชน ฉบับพระรัตนตรัย(เป็นอัตตา) http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5779543/Y5779543.html จากคุณ : Ritti Janson - [ 8 ต.ค. 50 21:31:57 ]

ความคิดเห็นที่ 32 #27 คุณวอระกอระอภิมหาชอบด่าคนว่าโคตระชั่ว ก็#19 เขาเปรียบอย่างงี้จริงๆนิ ไม่ได้พูดเองเออเองสักหน่อย จากคุณ : dcm - [ 8 ต.ค. 50 21:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 33 #29 เราเป็นแค่คนดูเท่านั้น ไม่ได้ร่วมวางเพลิงสักหน่อย มีหลักฐานหรือปล่าว V V V เข้ามาดู แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 50 21:51:29 จากคุณ : dcm - [ 8 ต.ค. 50 21:41:38 ]

ความคิดเห็นที่ 34 #30 เปรียบกับอะไรก็ไม่เปรียบ ไปเปรียบกับตุ๊กแก ตัวเองเป็นคนเริ่มก่อนนะจ๊ะ ไม่งั้นไม่มีตุ๋กแกในกระทู้นี้หรอก จากคุณ : dcm - [ 8 ต.ค. 50 21:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เข้ามาดูสาวกอลัชชี แหม ดิ้นกันพล่านเชียว จากคุณ : หวนเอยหวนคืน - [ 8 ต.ค. 50 21:48:48 ]

ความคิดเห็นที่ 36 กระทู้โจมตีอย่างน้อยวันละกระทู้ แต่กระทู้ชักชวนล่ะครับนับกันไม่หวาดไม่ไหวนะ ถ้าคนธรรมกายเกลียดที่นี่ ไม่เข้ามาเล่นหรือมาดูที่นี่ ก็คงไม่มีกระทู้ด่าหรอก จริงไหมครับ (รู้แล้วก็รีบปฏิบัติเถิด) ของปลอมนั้น สวยแค่ไหน เหมือนแค่ไหน มีคนหลงผิดมากเท่าไหร่ แต่จะช้าหรือเร็ว ของปลอมอย่าง ธรรมกายก็ต้องจบอยู่ดี จบเร็ว ก็เกิดความเสียหายต่อพุทธศาสนาน้อย จบช้าก็เสียหายมาก แต่ยืนยันครับ ว่าไม่เกินชั่วชีวิตของ เปรตเดียรถีย์ ตนที่มาหลอกชาวบ้านหลายสิบปีมานี้ ธรรมกายจะจบลงอย่างแน่นอน มานับถอยหลังให้กับธรรมกายกันดีกว่าครับ จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 8 ต.ค. 50 22:00:50 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เห็นด้วยกับ 18 อย่างยิ่ง ขอวันละ 20 กระทู้ก็พอ จากคุณ : หวนเอยหวนคืน - [ 8 ต.ค. 50 22:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เคยสังเกตว่า ตอนไหนที่ไม่มีเวลามาดูกระทู้หลาย ๆ วัน จะไม่รู้สึกว่ามีใครมาว่าร้ายหรือมาชี้แจงอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย และมีคนอีกจำนวนมากที่เป็นเช่นนี้ คือ ไม่ได้รู้ ไม่ได้สนใจ ว่าในโต๊ะศาสนาเขาวุ่นวายหรือยึดถืออะไรกันอยู่ เพราะหลาย ๆ คนที่กล้าแสดงความเห็นแรง ๆ ในกระดานข่าว มักจะเป็นคนที่ไม่ค่อยมีบทบาทหรือได้รับการยอมรับในสังคมจริง มีปัญหา มีความเครียด มีความกดดัน หรือไม่ก็มีความทะเยอทะยานที่มากเกินเหตุ ระงับตัณหาของตนเองไม่ได้ก็เลยต้องมาแสดงออกในกระดานข่าวที่ไม่มีใครรู้ว่าความจริงแล้วตนเองเป็นใคร พอไม่ได้ใช้กระดานข่าวหลาย ๆ วัน กลับมาเปิดดูก็ต้องอุทานทุกครั้ง หลาย ๆ ครั้งที่ผมรู้สึกว่า ถ้าเราคิดว่าคนอื่นไม่ดี แล้วเรามานั่งคุยกับคนไม่ดีทำไม และถ้าเราคิดว่าตนเองไม่ดี แล้วเรามาเสียเวลาทำบ้าอะไรอยู่แถวนี้ หรือจะมาเผยแพร่ความไม่ดีของตนเองให้คนอื่นทำไม สรุปว่าถ้าคิดดี ๆ แล้ว ควรจะใช้กระดานข่าวกันดี ๆ หรือไม่ก็ไปสงบสติอารมณ์ที่อื่นจะดีกว่า อันนี้สังเกตจากตัวเองนะครับ จากคุณ : พักผ่อน - [ 8 ต.ค. 50 22:15:31 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ล็อคอินเดิมๆ หน้าเดิมๆ ครับที่คอยโจมตี เขาเรียกมุขตลกคาเฟ่ครับ จากคุณ : ผีเก่าจาน - [ 8 ต.ค. 50 22:51:08 ]

ความคิดเห็นที่ 40 มีปัญหา มีความเครียด มีความกดดัน มีความทะเยอทะยานที่มากเกินเหตุ ระงับตัณหาของตนเองไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 50 22:58:01 จากคุณ : Ritti Janson - [ 8 ต.ค. 50 22:57:27 ]

ความคิดเห็นที่ 41 หลาย ๆ ครั้งที่ผมรู้สึกว่า ถ้าเราคิดว่าคนอื่นไม่ดี แล้วเรามานั่งคุยกับคนไม่ดีทำไม และถ้าเราคิดว่าตนเองไม่ดี แล้วเรามาเสียเวลาทำบ้าอะไรอยู่แถวนี้ หรือจะมาเผยแพร่ความไม่ดีของตนเองให้คนอื่นทำไม สรุปว่าถ้าคิดดี ๆ แล้ว ควรจะใช้กระดานข่าวกันดี ๆ หรือไม่ก็ไปสงบสติอารมณ์ที่อื่นจะดีกว่า จากคุณ : Ritti Janson - [ 8 ต.ค. 50 22:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เพราะหลาย ๆ คนที่กล้าแสดงความเห็นแรง ๆ ในกระดานข่าว มักจะเป็นคนที่ไม่ค่อยมีบทบาทหรือได้รับการยอมรับในสังคมจริง จากคุณ : Ritti Janson - [ 8 ต.ค. 50 23:01:52 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อันนี้สังเกตกันเอาเองนะครับ จากคุณ : Ritti Janson - [ 8 ต.ค. 50 23:03:19 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ผมยังมี กรณีตัวอย่าง อยู่อีกหลายราย คุณ พักผ่อน ยังต้องการจะดูเพิ่ม อีกไหมครับ ? ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 8 ต.ค. 50 23:06:02 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คือผมเห็นด้วยที่มีนะครับ ยังนึกขอบคุณที่มีเรี่ยวแรงกันอยู่ เพียงแต่คงเป็นวิธีการที่ควรจะแก้ไขปรับปรุงบ้าง เรียกได้ว่าทำไปเสริมสร้างตัวเองไปสองต่อ.. จากคุณ : ลมทะเลไม่เคยหลับ - [ 8 ต.ค. 50 23:17:07 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ทำอะไรที่ ถูกต้องต้องพระไตรปิฏก... ไม่บิดเบือน ต่อเติม อุตริเปลี่ยนแปลง ตัวแทนของพระพุทธองค์ นั่นหละถูกต้อง จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 8 ต.ค. 50 23:33:35 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อุปาทานคือความยึดมั่นถือมั่นด้วยอำนาจกิเลส ไม่ต้องดูอื่นไกลหรอก แค่กระทู้แนะนำที่ถูกนำไปแขวนไว้เนิ่นนาน พอมีกระทู้อื่นทำท่าจะขึ้นไปแทนก็มีคนออกมาร้องแรกแหกกระเชอระดมสรรพกำลังกันโหวตซ้ำโหวตซากเพื่อไม่ให้กระทู้เดิมตกลงไปทั้งที่กระทู้เหล่านั้นไม่ควรจะเป็นหน้าตาของห้องศาสนาเลยด้วยซ้ำ อย่างนี้ถ้าไม่เรียกอุปาทานแล้วจะให้เรียกว่าอะไรได้อีกล่ะ? ยิ่งพวกตั้งกระทู้ตอบกระทู้โจมตีซ้ำซากก็ยิ่งชัดใหญ่ว่าทำไปเพราะอุปาทานแท้ๆ เพราะตัวเองตั้งธงไว้ล่วงหน้าแล้วว่าต้องผิด ไม่ว่าใครจะนำเหตุผลมาโต้แย้งอย่างไรก็ไม่รับฟังทั้งนั้น ในเมื่อข้าว่าผิดมันก็ต้องผิดซิ ใครไม่เห็นด้วยกะข้ามันเป็นคนไม่ดี มันเป็นพวกเดียวกันกับคนที่ข้าโจมตี มันรับทรัพย์มา โอย...สารพัดจะปรักปรำ จากคุณ : วิพิธวิสสุดา - [ 8 ต.ค. 50 23:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อย่าไปใส่ใจเลยเจ้าของกระทู้  นั่งทำใจใสๆดีกว่า ได้ข่าวว่าจะมีวัดที่เคปทาน์ว  แอฟริกาใต้เพิ่มอีกหนึ่งวัด ไปอนุโมทนาบุญกันดีกว่า  .... ใครเขาจะจาบจ้วงสงฆ์ก็เรื่องของเขา..... จากคุณ : 2431 (arayab2001) - [ 8 ต.ค. 50 23:53:43 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คนเขียนรูป เค้าระบุชัดเจน ว่า "เค้าด่าเปรตอลัชชีในคราบพระ" เกี่ยวกันมะเนี่ย???? หึ หึ จากคุณ : nameonics - [ 9 ต.ค. 50 00:47:16 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อะแหม ....   ทีสาวกลัทธิที่ว่าไปแอบตั้งวอร์รูมคุยกันในบอร์ดอื่นเกี่ยวกับการทำวอร์รูม ยังทำได้  แล้วถูกเอามาแฉไง ทำเป็นจำไม่ได้ จากคุณ : ANUTA - [ 9 ต.ค. 50 00:54:16 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ยิ่งพวกตั้งกระทู้ตอบกระทู้ ฟลัดกระทู้ซ้ำซาก ก็ยิ่งชัดใหญ่ ว่าทำไปเพราะอุปาทานแท้ๆ เพราะตัวเองตั้งธงไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ............... ต้องถูก ไม่ว่าใครจะนำเหตุผลมาโต้แย้งอย่างไรก็ไม่รับฟังทั้งนั้น ในเมื่อข้าว่าถูกมันก็ต้องถูกซิ ใครไม่เห็นด้วยกะข้ามันเป็นคนไม่ดี มันเป็นพวกเดียวกันกับคนที่ข้าโจมตี มันรับทรัพย์มา โอย...สารพัดจะปรักปรำ ........................ !!!!!! v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 9 ต.ค. 50 00:55:41 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อย่างนี้ถ้าไม่เรียกอุปาทานแล้วจะให้เรียกว่าอะไรได้อีกล่ะ? v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 9 ต.ค. 50 00:58:28 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ไอ้เรื่องแบบนี้ มันมีหลักฐานให้เห็นอยู่นี่นะ ....................... !!!!! เฮอะ เฮอะ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 9 ต.ค. 50 00:59:48 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เข้ามาเชียร์กองทัพเคาเตอร์ทำมาไก๋ ผมไม่ใช่พุทธครับ แต่ผมก็ต่อต้านทำมาไก๋ ด้วยเหตุผลว่า มันอันตรายและน่ากลัวเกินไปที่จะให้สังคมตกอยู่ในอิทธิพลมืด ถึงผมไม่เคยไปวัด แต่ผมสาบานว่าผมตัดสินวัดจากช่อง DMCTV ที่ฉายโดยทางวัดเอง รวมทั้งเอกสารของทางวัด เดี๋ยวจะหาว่าผมมั่ว เอาเปนว่า ขอสนับสนุนให้โจมตีต่อไป เอาให้ล่มจม จากคุณ : atheist - [ 9 ต.ค. 50 05:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 55 แล้วตกลงริชซี่(ดวง)ไม่ใช่ชาวพุทธใช่ป่าว? จากคุณ : วิพิธวิสสุดา - [ 9 ต.ค. 50 07:41:41 ]

ความคิดเห็นที่ 56 คุณ Ritti ครับ ที่ผมกล่าวไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นคนของฝ่ายไหนจึงจะมีพฤติกรรมเช่นนั้น แต่เรื่องอย่างนี้มันเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลซึ่งควรพิจารณาตนเอง เพื่อประโยชน์แก่ตนเองและส่วนรวม ส่วนบรรดาคนที่ไม่รู้จักพิจารณาตนเอง เที่ยวแต่พิจารณาผู้อื่น อย่างนี้ก็ต้องปล่อยไปครับ ไม่พูดคุย ไม่สนทนา ไม่โต้ตอบด้วยจะดีที่สุด เพราะเป็นประเภทไม่รับฟังใคร ไม่คิดจะคุยกับใคร คิดแต่จะยัดเยียดความเห็นของตนให้ผู้อื่น ซึ่งแน่นอนว่าไม่เกี่ยวว่าเป็นฝ่ายไหน เพราะบรรดาพฤติกรรมหลาย ๆ อย่างที่ไปกล่าวหาเขา บางทีก็ลืมมองไปว่าตนเองก็มีพฤติกรรมอย่างนั้นเช่นกัน อย่างที่เห็นว่า มีหลายคนที่ยิ่งพูดให้ร้ายผู้อื่น ก็ยิ่งทำความเสียหายให้กับตนเอง เพราะคนประเภทนี้มีอยู่ทุกที่ครับ เรียกว่าไปที่ไหน ก็ทำความเสียหายให้กับตนเองและสังคมที่นั่น โดยบางทีเขาคิดว่าเขาทำเพื่อปกป้อง แต่มันกลายเป็นเหยียบย่ำซ้ำเติมไป เพราะตัณหาในใจของตนเองยังคุมไว้ไม่อยู่นั่นเอง ยิ่งพูดก็ยิ่งเลอะเทอะ ในเมื่อเราใช้กระดานข่าวร่วมกัน แต่ละคนก็มีวิจารณาญาณในการใช้ส่วนตน ก็ควรสำรวจตัวเองโดยไม่ต้องให้ใครมาบอกครับ และควรเคารพในการแสดงความเห็นของผู้อื่นด้วย อย่างน้อยก็ไม่ควรแสดงความเห็นที่เป็นการดูถูกดูหมิ่นไม่ว่ากรณีใด ๆ นะครับ หรือไม่มีอะไรก็ว่ากันไประหว่างคู่กรณี ไม่ควรพาดพิงถึงผู้อื่นนะครับ โดยเฉพาะบุคคลที่ไม่เคยเข้ามาใช้กระดานข่าวนี้เลย ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะนำมาพาดพิงเพื่อใช้ตอบโต้กับใครก็ตามในกระดานข่าวนี้นะครับ ผมยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจน สมมติว่าผมมีความเคารพรักในพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งมาก ๆ วัน ๆ นำแต่เรื่องของท่านมาโพสต์ แล้วทีนี้มีคนรำคาญพฤติกรรมผม จึงนำพระมหากษัตริย์พระองค์นั้นมาด่าอย่างเสีย ๆ หาย ๆ เพื่อเอาชนะผม คุณว่าอย่างนี้มันเป็นการกระทำที่ถูกต้องไหมครับ คนอื่นจะดีจะร้ายอย่างไร มันก็ไม่เกี่ยวกับคนที่ใช้กระดานข่าวนี้ มีปัญหาอะไรควรไปพูดกับบุคคลที่มีตัวตนจริง ๆ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ไม่ใช่มาอาศัยกระดานข่าวในการนำเสนออะไรก็ตามที่ตนเองอยากเสนอโดยเฉพาะเรื่องที่กล่าวหาผู้อื่นนะครับ ส่วนตัวเองก็ปกปิดตัวจริงเอาไว้ เป็นการกระทำที่น่าละอายมากครับ แต่ถ้าอยากตอบโต้อะไรกับสมาชิกบางท่าน ก็สมควรโต้ตอบให้เป็นเรื่องเฉพาะตัวของกันและกันเท่านั้น อยากจะด่ากันยังไงก็แล้วแต่ ไม่สมควรไปพาดพิงผู้อื่นนะครับ แต่หากนำเสนอข้อมูลที่เป็นกลาง ๆ ไม่มีคำด่า คำเสียดสี ปนไปด้วยล่ะก็ อย่างนี้ก็ทำเถอะครับ ผมเชื่อว่าแค่นี้เขาพิจารณากันได้ครับ ประเภทที่เจ้าตัวไม่ได้มีส่วนรู้เห็น เอาแต่นินทาลับหลังนี่ เลิกเถอะครับ จากคุณ : พักผ่อน - [ 9 ต.ค. 50 07:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 57 พักผ่อน อ้างว่า กล่าวไม่ได้เจาะจง นั่นมันเรื่องของคุณ ........ แต่ผมยกตัวอย่างให้คนทั่วไปได้เห็นอย่างจำเพาะเจาะจง นี่ก็ย่อมเป็นเรื่องของผมเช่นกัน !!!!!! พักผ่อนคิดจะพูดจาเปรียบเปรยอะไร ก็ขอให้มันดูเหมาะสมหน่อย อลัชชี มันก็คือ อลัชชี อยู่วันยังค่ำ ถ้าไม่มีคน หน้าหนา นำมันมาเชิดชูในที่สาธารณะ แล้วใครเขาอยากจะไปแตะต้อง ของสกปรกกันเล่าครับ ? และที่จริงแล้ว ก็มิได้มีใครคิดด่าอลัชชีไชยบูลย์หรอกนะครับ เพียงแต่ว่า การกล่าวถึงข้อเท็จจริงของอลัชชี มันมีค่าเท่ากับการด่า เท่านั้นเอง จะไปโทษว่าผู้อื่นมีเจตนาด่าทอก็มิได้ แต่เป็นเพราะพฤติกรรมของอลัชชีมันหยาบคาย เกินกว่าจะอธิบายข้อเท็จจริงของมันด้วยภาษาที่สุภาพได้ต่างหาก หวังว่า ทุกๆท่าน จะยอมเข้าใจความเป็นจริงในข้อนี้บ้าง !!!!!! ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 9 ต.ค. 50 08:18:08 ]

ความคิดเห็นที่ 58 คนจาบจ้วงบิดเบือนพระธรรม มันจะต้องได้รับผลแห่งกรรมชั่วอย่างสาสม ลุยเลยทุกท่าน จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 9 ต.ค. 50 09:05:40 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อย่างที่เห็นว่า มีหลายคนที่ยิ่งพูดให้ร้ายผู้อื่น ก็ยิ่งทำความเสียหายให้กับตนเอง เพราะคนประเภทนี้มีอยู่ทุกที่ครับ เรียกว่าไปที่ไหน ก็ทำความเสียหายให้กับตนเองและสังคมที่นั่น โดยบางทีเขาคิดว่าเขาทำเพื่อปกป้อง แต่มันกลายเป็นเหยียบย่ำซ้ำเติมไป เพราะตัณหาในใจของตนเองยังคุมไว้ไม่อยู่นั่นเอง ยิ่งพูดก็ยิ่งเลอะเทอะ พักพ่อน ********************************** จริงแฮะ   อลัชชี  ยิ่งพูดมันก็ยิ่งเลอะเทอะจริงๆ v v v v จากคุณ : taken01 - [ 9 ต.ค. 50 09:39:48 ]

ความคิดเห็นที่ 60 อย่างน้อยก็ไม่ควรแสดงความเห็นที่เป็นการดูถูกดูหมิ่นไม่ว่ากรณีใด ๆ นะครับ หรือไม่มีอะไรก็ว่ากันไประหว่างคู่กรณี ไม่ควรพาดพิงถึงผู้อื่นนะครับ พักผ่อน **************************************** อื้อ   เห็นด้วย  อลัชชี  มิควรพาดพิง  ดูถูกดูหมิ่น  พระพุทธเจ้า !!! v v v v v . จากคุณ : taken01 - [ 9 ต.ค. 50 09:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 61 โดยเฉพาะบุคคลที่ไม่เคยเข้ามาใช้กระดานข่าวนี้เลย ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะนำมาพาดพิงเพื่อใช้ตอบโต้กับใครก็ตามในกระดานข่าวนี้นะครับ ผมยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจน สมมติว่าผมมีความเคารพรักในพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งมาก ๆ วัน ๆ นำแต่เรื่องของท่านมาโพสต์ แล้วทีนี้มีคนรำคาญพฤติกรรมผม จึงนำพระมหากษัตริย์พระองค์นั้นมาด่าอย่างเสีย ๆ หาย ๆ เพื่อเอาชนะผม คุณว่าอย่างนี้มันเป็นการกระทำที่ถูกต้องไหมครับ พักผ่อน *********************************** แล้วอลัชชี  ที่มันจะเอาชนะพระธรรมแท้  โดยการพิมพ์หนังสือ  มอมเมาชาวบ้าน  แล้วอลัชชีมันจะโผล่มาในกระดานนี้ทำไม  โผล่มาก็ถูกจับได้นะสิ ว่า    มั่ว !!!!!! v v v v จากคุณ : taken01 - [ 9 ต.ค. 50 09:49:19 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คนอื่นจะดีจะร้ายอย่างไร มันก็ไม่เกี่ยวกับคนที่ใช้กระดานข่าวนี้ มีปัญหาอะไรควรไปพูดกับบุคคลที่มีตัวตนจริง ๆ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ไม่ใช่มาอาศัยกระดานข่าวในการนำเสนออะไรก็ตามที่ตนเองอยากเสนอโดยเฉพาะเรื่องที่กล่าวหาผู้อื่นนะครับ พักผ่อน *********************************************** ก็เรื่องมันเกี่ยวกับพุทธศาสนานี่ครับ  เกี่ยวกับพุทธรรมของแท้   อลัชชี  มันชั่วจริงๆ นี่คุณพักผ่อน  พุทธพจน์มีอยู่มันไม่สน  มันจะมั่วอย่างเดียว  แบบนี้ถูกต้องไหมล่ะ เป็นการกล่าวหาพระพุทธเจ้าหรือใช่หรือไม่   !!!!!!!   v v v v v จากคุณ : taken01 - [ 9 ต.ค. 50 09:53:20 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ฝากธรรมมะให้ทุกท่านครับ โดยเฉพาะคนชอบมั่ว จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 9 ต.ค. 50 09:55:44 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ส่วนตัวเองก็ปกปิดตัวจริงเอาไว้ เป็นการกระทำที่น่าละอายมากครับ พักผ่อน ***************************************** อื้อ   เห็นด้วย  เป็นการกระทำที่น่าละอายมากจริงๆ  พับผ่าสิ  ปาราชิก ไปแล้วยังห่มจีวรอยู่อีก !!!!!! v v v v v จากคุณ : taken01 - [ 9 ต.ค. 50 09:58:38 ]

ความคิดเห็นที่ 65 อื้อ  เห็นด้วยกับไม่สูบ   อลัชชีมันบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้า  มันทั้งมั่ว  ทั้งถ่อยจริงๆ  !!!!!! v v v v v จากคุณ : taken01 - [ 9 ต.ค. 50 10:01:02 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ถ่อยจริงๆ   พิมพ์มาได้  นี่ครับ รายชื่อคนถ่อย บิดเบือนพระพุทธเจ้า !!!!! v v v v v จากคุณ : taken01 - [ 9 ต.ค. 50 10:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เรียน เจ้าของกระทู้ มีมากกว่า 5 กระทู้ต่อวัน แถมยังมีต่างศาสนามาช่วยถล่ม แบบความเห็น 54 และคนที่อ้างตัวเป็นพุทธทั้งหลายมาเป็นกองเชียร์ ส่วนคุณฤทธีนี่นับถือศาสนาฮินดูรึเปล่า เล่นยกเอาบทสวดภควัตคีตามา post เป็นร้อยหน้าเลย http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5897788/Y5897788.html งานนี้  นรกคงต้องเพิ่มพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้นเยอะ น่าสงสาร จากคุณ : AYXC - [ 9 ต.ค. 50 10:03:04 ]

ความคิดเห็นที่ 68 อื้อ  ปัดปรมณู  โดนคนตายเป็นแสน !!!!!   แต่จริงๆ  ขี้จุ๊ !!!   งานนี้  นรกคงต้องเพิ่มพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้นเยอะ   สำหรับทีมจอมพิมพ์กำมะลอ น่าสงสาร v v v v v จากคุณ : taken01 - [ 9 ต.ค. 50 10:11:55 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ไม่สมควรไปพาดพิงผู้อื่นนะครับ พักผ่อน *********************************** อื่อ   เห็นด้วย   อลัชชีไม่ควรพาดพิงพระพุทธเจ้า และปัจวัคคีย์  !!!!!!! v v v v v จากคุณ : taken01 - [ 9 ต.ค. 50 10:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 70 . ..................... . จากคุณ : taken01 - [ 9 ต.ค. 50 10:24:34 ]

ความคิดเห็นที่ 71 AYXC ทายซิผมนับถือศาสนาอะไร จากคุณ : atheist - [ 9 ต.ค. 50 11:13:39 ]

ความคิดเห็นที่ 72 แปลกไหม ทำไมเวลามีคนไม่พอใจวัดธรรมกาย ไม่เชื่อ ธัมมชโย กลับถูกโจมตีว่าจ้องทำลายพระพุทธศานา ไม่ใช่พุทธ ฯลฯ แต่ในขณะเดียวกัน วัดธรรมกายก็เจริญๆเอา ทั้งทรัพย์สมบัติ อำนาจ ลูกศิย์ลูกหา โดยที่ไม่ได้ช่วยเหลือห้องค์กรของศาสนาพุทธที่แท้จริงอื่นๆเจริญตามไปด้วยยกเว้นเครือข่ายของตัวเอง??? นอกจากพระที่ทำตัวไม่ดีแล้ว สิ่งที่ทำให้ผมเอน็จอนาถใจมากอีกอย่างก็คือ พระที่ทำตัวเป็นพนักงานขาย หาเงินบริจาคเข้าวัด เห็นพฤติกรรมนักบวชในลัทธิธรรมกายที่กระทำกับคนรอบๆตัว มาแล้ว บางบริษัทห้างร้าน บางครอบครัวต้องเอาเงินหลักแสน หลักล้านไปให้กับวัดธรรมกายโดยเข้าใจผิดว่าเป็นการทำนุบำรุงศาสนาพุทธ แต่แท้จริงแล้วทรัพย์สมบัติเหล่านั้นกลับเอาไปสร้างความมั่งคั่งเฉพาะตัว เฉพาะกลุ่มพวกพ้อง ผมไม่เชื่อว่าการทำมาหากินบนศรัทธาของคนนั้นเป็นพฤติกรรมของศาสนาพุทธ จึงเชื่อว่าพฤติการณ์ดังกล่าวของวัดธรรมกาย ที่มี ธัมมชโย เป็นหัวหน้านั้น เป็นเพียงลัทธิหนึ่ง ที่เป็นกาฝากของพระพุทธศาสนาเท่านั้นเอง หรือจะให้สรุปง่ายๆคือ แม้วัดธรรมกาย จะเป็นสถาบันพุทธศานาทางกฎหมาย มีรูปแบบพิธีกรรมคล้ายพุทธศานา "แต่ในทางปฏิบัติแล้ว วัดธรรมการ และนักบวชในเครือยข่ายนี้ ไม่ได้มีความเป็นพุทธศาสนาเลย" คำเตือน นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ที่ได้รับรู้จากประสบการณ์ส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องเชื่อ แค่อยากจะบอกให้คนอื่นรู้ว่า มีคนที่ไม่เชื่อว่าวัดธรรมกายที่มี ธัมมชโย เป็นหัวหน้านั้นจะเป็นส่วนหนึ่งของพุทธศาสนาครับ จากคุณ : monkeygig - [ 9 ต.ค. 50 11:16:38 ]

ความคิดเห็นที่ 73 แหม AYXC นี่หาช่องแต่จะใส่ร้ายคุณฤทธีแหละนะ ไม่เห็นหรือว่ามีคนเขาขอมา หรือว่าทำแกล้งโง่ตาใส เรียนท่าน Ritti Janson http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5890331/Y5890331.html จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 9 ต.ค. 50 11:27:18 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ต๊ะเอ๋ AYXC จากคุณ : JitZungkabuai - [ 9 ต.ค. 50 11:48:42 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เข้ามาลงชื่อ ต่อต้าน ทำมาก๊อต ครับ ตอนเรียน มหาลัยปี 1 เคยโดนพี่ๆชมรมพุทธ ชักชวน มาทำสมาธิ ที่วัดนี้ เกือบเคลิ้มไปเหมือนกันครับ เพ่งศูนย์กลางกาย ทั้งวัน ใครทำบุญ ถวายเงิน ถวายปัจจัย ก้อจะมีคนคอยจับมือ จับขา(ตอนเดินออกมา) พร้อม พูด อนุโมทนาบุญๆๆๆๆ คำสอนก้อแปลกๆ ถวายเยอะได้บุญเยอะ ถวายน้อยได้บุญน้อย ???? พ่อแม่ พี่น้อง เปนเพียง กัลยาณมิตร ???? ต้องแม่ชี และ พระนะจ๊ะ ถึงจะเป็นผู้มีพระคุณ เป็นเนื้อนาบุญ ของพวกเรา เหอๆๆ ตอนนี้ เพื่อนผมมันลาออกจากมหาลัย ไปบวช กู่ไม่กลับ เพ่งศูนย์กลางกาย อยู่ในจานบิน ซะแล้ว จากคุณ : CrazyMc - [ 9 ต.ค. 50 12:40:15 ]

ความคิดเห็นที่ 76 เห็นจุดยืนของหลายๆ  ท่าน  ที่มีช่วยกัน  รักษาพระพุทธศาสนา มีความยินดีอย่างยิ่ง   เป็นความหวังที่จะหยุดลัทธินี้  ให้จงได้ สามัคคี  กันไว้  ให้มั่นคง ร่วมชูธง   ชูธรรม  ค้ำศาสนา ช่วยกำจัด  พระปลอม  จอมมายา ให้โลกา  นี้รอด  ปลอดอลัชชี จากคุณ : misery - [ 9 ต.ค. 50 13:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 77 คำสอนก้อแปลกๆ ถวายเยอะได้บุญเยอะ ถวายน้อยได้บุญน้อย ???? พ่อแม่ พี่น้อง เปนเพียง กัลยาณมิตร ???? ต้องแม่ชี และ พระนะจ๊ะ ถึงจะเป็นผู้มีพระคุณ เป็นเนื้อนาบุญ ของพวกเรา เหอๆๆ จากคุณ : CrazyMc ************************************ หา !!!    อลัชชี  สอนกันอย่างนั้นเหรอครับ       ดูถูกบุพการี  แบบนั้นได้อย่างไร   ใครก็ได้ ไปตามอลัชชีมาโชว์วิชั่น  กระดานนี้ด่วน  !!!!! ถ้าอลัชชีสอนอย่างนั้นจริง  มันก็เข้ากันได้กับความเห็นของคุณพักผ่อน พอดีเด๊ะ   v v v v ไม่ควรแสดงความเห็นที่เป็นการดูถูกดูหมิ่นไม่ว่ากรณีใด ๆ นะครับ   (อื่อ   อลัชชี ไม่ควรดุถูกบุพการีผู้อื่น นะครับ) v v v v ไม่ควรพาดพิงถึงผู้อื่นนะครับ  (อื่อ    อลัชชี ไม่ควรพาดพิงบุพการี  ผู้อื่นนะครับ) v v v v v ไม่ใช่มาอาศัยกระดานข่าวในการนำเสนออะไรก็ตามที่ตนเองอยากเสนอโดยเฉพาะเรื่องที่กล่าวหาผู้อื่นนะครับ    (อื่อ  ไม่ควรใช้สถานที่ที่เรียกว่าวัด  มาเสนอบิดเบือนกล่าวหาบุพการีผู้อื่น   และยกย่องเชิดชูคุณสมบัติของอลัชชีชั่วๆ ในตนเองนะครับ) v v v v ส่วนตัวเองก็ปกปิดตัวจริงเอาไว้ เป็นการกระทำที่น่าละอายมากครับ  (อื่อ   ปาราชิก เป็นอลัชชี  แล้วยังไม่อายเอาจีวรมาปกปิดตัวจริงให้คนเข้าใจว่าเป็นภิกษุอีก  เป็นการกระทำที่น่าละอายมากครับ) v v v v ประเภทที่เจ้าตัวไม่ได้มีส่วนรู้เห็น เอาแต่นินทาลับหลังนี่ เลิกเถอะครับ   (อื่อ   บุพการีเขาไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการต้มตุ๋น  แล้วเอาแต่นินทาลับหลังอย่างนี้นี่  อลัชชีเลิกเถอะครับ) ********************************************** สรุป   อลัชชีเลิกกระทำความชั่ว  น่าละอาย บิดเบือน พาดพิง   ทั้งพระพุทธเจ้า  ทั้งบุพการี ผู้อื่นฝ่ายเดียว ในสถานที่ที่เรียกว่าวัด   หยุดซะนะครับอลัชชี  น่าอายจริงๆ นะครับ . จากคุณ : taken01 - [ 9 ต.ค. 50 13:22:15 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เสียงปรบมือนี้ ขอมอบให้ คุณ taken01 ที่อุตส่าห์อธิบายความอย่างละเอียด จากคุณ : Ritti Janson - [ 9 ต.ค. 50 13:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ขอขอบคุณ ..................... คุณ Together In 80s Dream ผู้มีน้ำใจ แถลงไข ข้อเท็จจริง !!!!!!! จากคุณ : Ritti Janson - [ 9 ต.ค. 50 13:40:24 ]

ความคิดเห็นที่ 80 AYXC คุณมันไม่ใช่ "ลูกผู้ชาย" งานนี้  "ทิฟฟานี่" คงต้องเพิ่มพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้นเยอะ น่าสงสาร !!!!!!! จากคุณ : Ritti Janson - [ 9 ต.ค. 50 13:46:18 ]

ความคิดเห็นที่ 81 คุณtaken01 คุณเยี่ยมมาก.... จากคุณ : JitZungkabuai - [ 9 ต.ค. 50 13:52:58 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ความคิดเห็นที่ 71   AYXC ทายซิผมนับถือศาสนาอะไร จากคุณ : atheist ================================== นับถือศาสนาเทพมังกือ หรือไม่ก็ นับถือ $$$$$ ไช่ไหม ? 555 จากคุณ : AYXC - [ 9 ต.ค. 50 14:43:52 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เรียนท่าน Ritti Janson ขอความอนุเคราะห์ โพสท์ คัมภีร์ศรีมัทภควัทคีตา อีกสักครั้ง จำได้ว่าท่านเคยนำลงโพสท์ที่บอร์ดนี้ และได้เร็คคอร์ดไว้แต่เกิดหายไป ด้วยความขอบพระคุณอย่างสูง แวว จากคุณ : Waew Felton /////////////////////////////////////////////////////////////////// ก็เห็นเหมือนกันแหละกระทู้นี้น่ะ  คนมาขอนี้ เค้าเคยเห็นคุณฤทธี post ไง แล้วจะไม่ให้สงสัยได้ไงล่ะ ว่าคุณฤทธีนี่เป็น ฮินดู หรือ พุทธกันแน่   555 จากคุณ : AYXC - [ 9 ต.ค. 50 14:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 84 AYXC เก้อ-ยาก ดีนะครับ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น จริงๆ หึหึหึหึหึหึ ผมโพสต์ ภควัตคีตา แล้วมันเป็นอย่างไรหรือครับ ? ภควัตคีตา เป็นปรัชญาชั้นสูง ผู้ที่สนใจปรัชญาศาสนา ล้วนแล้วแต่ไม่ยอมพลาดที่จะได้สัมผัสสักครั้ง ดังคนรุ่นเก่า กล่าวกันว่า ไม่มีปราชญ์คนไหน ที่ไม่อ่านคีตา !!!! กรณีนี้ มีผู้ร้องขอมา เมื่อผมได้รับปากไปแล้ว จึงได้แต่อุตสาหะ ทำตามคำที่ตนเองได้พูดเอาใว้ ซึ่งผมก็ยังไม่เห็นเหตุผลใดๆเลยว่า การโพสต์คีตา จะเป็นเหตุที่จะทำให้เชื่อได้ว่า ผู้โพสต์เป็นฮินดู มิฉนั้นแล้ว จะมิกลายเป็นว่า ปราชญ์ทั่วโลกที่สนใจศึกษาคีตา ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน ต้องกลายไปเป็นฮินดูกันไปหมดหรือ ? สำหรับชาวพุทธเถรวาทโดยเฉพาะนั้น ถ้าสามารถเข้าใจคีตา และสามารถแยกแยะความแตกต่างของคีตากับพุทธออกจากกันได้ เขาผู้นั้นก็จะสามารถแยกแยะความเป็น "สัทธรรมปฏิรูป" ในคำสอนของสำนักธรรมโกย ซึ่งเป็น "มิจฉาทิฏฐิ" ออกจาก คำสอนที่แท้จริงของพุทธเถรวาท ได้โดยง่าย !!!!!!! แต่เมื่อกล่าวถึงตัวผมแล้ว อย่าว่าแต่ คีตา เลยครับ ไม่ว่า จะเป็นคัมภีร์ของ ฮินดู คริสต์ อิสลาม ผมก็ศึกษาทั้งนั้น จำเพาะของพุทธเอง ผมก็ศึกษาของทุกลัทธิทุกสำนักทุกนิกาย แม้แต่ ตำรับตำราของสำนักธรรมโกยเอง ผมก็อ่านมาเกือบหมด มันก็เหลืออยู่แค่ว่า ผมจะพูดถึง หรือไม่พูดถึง แค่นั้นเอง ................ มิเช่นนั้นแล้ว ผมจะสามารถเอาคำสอนของอลัชชีไชยบูลย์ มาถลกหนัง ชำแหละเนื้อ ให้ดูกันได้อย่างไร จริงไหม ? ข้อกล่าวหาอ่อนๆแบบนี้ AYXC อย่านำมาใช้อีกเลยนะครับ เพราะนอกจาก มันจะใช้ไม่ได้ผลแล้ว มันยังจะส่อแสดงให้เห็นว่า สาวกธรรมโกย มีทัศนคติที่ไม่ดี ต่อการศึกษาหาความรู้ ซึ่งมันจะเป็นการเน้นย้ำว่า ที่ธรรมโกย กระทำสัทธรรมปฏิรูป นั้น เกิดจาก "ความโง่เขลา" โดยแท้ !!!!!!!! ฤทธีระทวย จากคุณ : Ritti Janson - [ 9 ต.ค. 50 16:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 85 $$$$$ นี่ก็ศาสนาเดียวกับ ธัมมี่ แอนด์เดอะแก๊งค์น่ะสิ จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 9 ต.ค. 50 16:30:31 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ตอบคุณฤทธี ความเห็น 84 จริง ๆ ไม่ได้สนใจหรอก ว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไร และคุณกล่าวได้ถูกต้อง เรื่องการ post คีตาไม่เกี่ยวกับความเป็นฮินดู  การ post ลัทธิความเชื่ออะไร ก็ไม่ได้แสดงความ "ไม่เป็นพุทธ " ของคุณหรอก แต่การแสดงความเป็นพุทธ ก็ไม่ได้มาจากการเที่ยวด่าว่าคนอื่นว่าเป็นสัทธรรมปฏิรูป  แม้พระพุทธองค์ก็ไม่เคยสอนให้ข่มคนอื่นด้วยการทำลายล้างด้วยคำพูด หรือ การกระทำ  ต่อให้เป็นผู้ที่มีความเห็นแตกต่างจากพระองค์และมุ่งร้ายต่อศาสนาพุทธ พระพุทธองค์ก็ไม่เคยใช้วิธีการรุนแรงในการตอบโต้ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาของการปฏิบัติเพื่อความรู้แจ้ง แค่อ่านมาก แต่ยังไม่ได้ลงมือปฏิบัติจนมีญาณทัศนะ จะตัดสินว่า "ธรรมกาย" เป็นสัทธรรมปฏิรูป  ก็คงไม่ต่างอะไรกับที่คุณว่า "ผมก็ยังไม่เห็นเหตุผลใดๆเลยว่า การโพสต์คีตาจะเป็นเหตุที่จะทำให้เชื่อได้ว่า ผู้โพสต์เป็นฮินดู" และในฐานะที่คุณเป็นนักอ่าน  ก็ขอเชิญคุณช่วยค้นพระสูตรที่เกี่ยวกับการที่พระพุทธองค์ใช้วิธีการเปลี่ยนความคิดของคนด้วยการข่มขู่ หรือ กดขี่ด้วยคำพูด   หรือใช้คำหยาบสอนสาวก มาสักหน่อยเถิด ถือเป็นธรรมทานเพื่อแก่เพื่อนร่วมบอร์ด   555 จากคุณ : AYXC - [ 9 ต.ค. 50 17:17:14 ]

ความคิดเห็นที่ 87 [๙๕] ครั้งนั้น มารผู้มีบาป เมื่อท่านพระอานนท์หลีกไปแล้วไม่นาน เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วน ข้างหนึ่ง มารผู้มีบาปยืนเรียบร้อยแล้ว ได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอ พระผู้มีพระภาคจงปรินิพพานในบัดนี้เถิด ขอพระสุคตจงปรินิพพานในบัดนี้เถิด บัดนี้ เป็นเวลาปรินิพพานของพระผู้มีพระภาค ก็พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระวาจา นี้ไว้ว่า ดูกรมารผู้มีบาป ภิกษุผู้เป็นสาวกของเราจักยังไม่เฉียบแหลม ไม่ได้รับ แนะนำ ไม่แกล้วกล้า ไม่เป็นพหูสูต ไม่ทรงธรรม ไม่ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ ธรรม ไม่ปฏิบัติชอบ ไม่ประพฤติตามธรรม เรียนกับอาจารย์ของตนแล้ว ยัง บอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก กระทำให้ง่ายไม่ได้ ยังแสดง ธรรมมีปาฏิหาริย์ข่มขี่ปรับปวาทที่บังเกิดขึ้นให้เรียบร้อยโดยสหธรรมไม่ได้ เพียงใด เราจักยังไม่ปรินิพพานเพียงนั้น ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็บัดนี้ ภิกษุผู้เป็นสาวก ของพระผู้มีพระภาคเป็นผู้เฉียบแหลมแล้ว ได้รับแนะนำแล้ว แกล้วกล้า เป็น พหูสูต ทรงธรรม ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตามธรรม เรียนกับอาจารย์ของตนแล้ว บอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก กระทำให้ง่ายได้ แสดงธรรมมีปาฏิหาริย์ข่มขี่ปรับปวาทที่บังเกิดขึ้นให้เรียบร้อย โดยสหธรรมได้ ฯ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาปรินิพพานสูตร มหาปรินิพพานสูตร http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=10&A=1888&Z=3915&pagebreak=0 จากคุณ : Ritti Janson - [ 9 ต.ค. 50 17:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ปรัปวาท [ปะ-รับ-ปะ-วาด] = คำกล่าวของคนพวกอื่นหรือลัทธิอื่น = คำกล่าวโทษคัดค้านโต้แย้งของคนพวกอื่น = หลักการของฝ่ายอื่น = ลัทธิภายนอก พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) จากคุณ : Ritti Janson - [ 9 ต.ค. 50 17:40:47 ]

ความคิดเห็นที่ 89 สำหรับ AYXC .................... ผมขอประกาศ ความนิยมส่วนตัว ให้ทราบอีกครั้งหนึ่งว่า ผมไม่นิยม วิสาสะ กับคนที่โง่และดื้อด้าน !!!!!! ฉนั้น กับข้อความเพ้อเจ้อ ไร้สาระของคุณนั้น ผมขอละเอาใว้ ไม่อยากตอบ ........................... เฮอะ เฮอะ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 9 ต.ค. 50 17:45:27 ]

ความคิดเห็นที่ 90 มหาปรินิพพานสูตร http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=10&A=1888&Z=3915 ปาสาทิกสูตร http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=11&A=2537&Z=3181 เจติยสูตร http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=19&A=6549&Z=6637 จากคุณ : Ritti Janson - [ 9 ต.ค. 50 17:51:36 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เตรียมตัวกันหลายคนเลยนะครับ จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 9 ต.ค. 50 18:12:28 ]

ความคิดเห็นที่ 92 สมณพราหมณ์ผู้มีศีล (???) ************************************ แต่นายคนนี้ เขาเป็นอลัชชี นี่ครับ !!!!! v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 9 ต.ค. 50 18:21:45 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ด่าว่าผู้ทรงศีลคงต้องเป็นบาปแน่ๆ แต่ด่าว่ากาไม่เป็นไรหรอกครับคุณไม่สูบไม่ดื่ม ถึงที่สุดแล้ว คุณไม่สูบก็สบายใจเถอะครับ แค่หลงผิดไปก็ไม่ได้เป็นบาปเท่าไหร่หรอก ผู้เสพเนี่ย ตามกฏหมายยังถือได้ว่าเป็นผู้ป่วยครับ แต่ไอ้สองผู้ขายออริจินัลหางกุด tammy&tatty เนี่ย เดี๋ยวพวกเราช่วยลากมันลงโลงเองเหอๆ (เก็บพุทธแท้ๆ ไว้ใ้ห้ลูกหลานใช้ดีกว่านะ) จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 9 ต.ค. 50 18:22:36 ]

ความคิดเห็นที่ 94 เสพมากๆ เข้าก็มีสิทธิเดี้ยงสนิทไปอีกนานได้นะ ว่ามั้ยคุณใบไม้ 5 5 5 จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 9 ต.ค. 50 19:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 95 แม่นแล้วครับคุณ Together In 80s Dream แต่ไอ้เสพนั้นก็ยังไม่เท่าไหร่ ขอว่าอย่่าบอกต่อเลยครับ มันสิเป็นบาป เหมือนแนะนำเพื่่อนให้สูบยา ถ้าอยากเลิกยา มาถ้ำกระบอก ณ.โต๊ะศาสนากันได้เลยนะจ๊ะ ญาิติโยม เ๋ด๋วพวกเราช่วยกันเยียวยาให้เอง ด้วยพุทธแต๊ๆ(ไม่ต้องอ๊วกเดี๋ยวก็หาย) แต่ถ้าจะมาลองของ ระวังพี่ หลวงพี่ฤทธีี ตบกะบาลอ๊วกแตกเอานะจ๊ะ ฮ่าฮ่า จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 9 ต.ค. 50 19:53:41 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ความคิดเห็นที่ 89   สำหรับ AYXC .................... ผมขอประกาศ ความนิยมส่วนตัว ให้ทราบอีกครั้งหนึ่งว่า ผมไม่นิยม วิสาสะ กับคนที่โง่และดื้อด้าน !!!!!! ฉนั้น กับข้อความเพ้อเจ้อ ไร้สาระของคุณนั้น ผมขอละเอาใว้ ไม่อยากตอบ ........................... /////////////////////////////////////////////////////////////////////////// ที่แท้ก็หาพระสูตรแบบที่ขอมาไม่ได้  เหอ เหอ เหอ - มหาปรินิพพานสูตร ไม่ได้ตอบคำถามเลยนะ การปรัปวาท [ปะ-รับ-ปะ-วาด]  ไม่ได้แปลว่า  "การข่มขู่" หรือ "กดขี่ด้วยคำพูด"    หรือ "ใช้คำหยาบสอนสาวก"  - ความนิยมส่วนตัวของเรา ก็ไม่ชอบวิสาสะกับคนที่ชอบกดคนอื่นให้ต่ำ ดูถูกสติปัญญาชาวบ้าน แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 50 21:14:34 จากคุณ : AYXC - [ 9 ต.ค. 50 21:06:00 ]

ความคิดเห็นที่ 97 **** ช้างสะบัดงวง จากคุณ : หนูเล็กนิดเดียว - [ 9 ต.ค. 50 21:12:07 ]

ความคิดเห็นที่ 98 บอกตรงๆ ว่าผมเซ็งไอ้ปากแดงตั้งแต่หนังสือพิมพ์ลงข่าว ว่า:-)ส่งอันธพาลไปไล่ตีหัวชาวบ้านเพื่อยึดที่ดินข้างๆสำนัก มัน เพื่อจะเอาที่ไปขยายสำนักให้โอ่อ่าหรูหรา บอกตรงๆ รู้สึก หยะ แหยง ความ เอี้ย อ๋อง มัน อิ้บอ๋ายเลยว่ะ ตามที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนใว้ บรรพชิตต้องมีเครื่อง อยู่ของพรหม เป็นอันดับแรกมิใช่หรือ เครื่องอยู่ของพรหม คือพรหมวิหารสี่ อันประกอบด้วย เมตตา หนึ่ง กรุณา หนึ่ง มุธิตา หนึ่ง อุเบกขา หนึ่ง รวมประกอบกันเป็นเครื่องอยู่ของพรหม ไอ้เวรปากแดงนี้มันไม่มี ก็แปรได้ว่ามันไม่ใช่บรรพชิตแล้ว แล้วถ้าไม่ใช่บรรพชิต แต่มาแต่งตัวเลียนแบบบรรพชิตเนี่ย เค้าเรียก เดียรถี อลัชชี มิใช่หรือ จากคุณ : เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับสูญไป - [ 9 ต.ค. 50 21:18:03 ]

ความคิดเห็นที่ 99 หึหึ จริงๆใจนึงผมเห็นด้วยกับวิธีการของคุณฐานาฐานะ ที่ใช้วิธีปราบพวก "ปรับปวาท" อย่างธรรมกายด้วยการยกพระธรรมที่ถูกตรงกับกรณีมาตอบ แต่อีกใจนึงการใช้วิธีแบบที่คุณฤทธีใช้ก็เป็นวิธีที่ได้ผล เพราะใช้ภาษาร่วมสมัยกว่า คนสมัยนี้ถ้าอ่านภาษาไทยออกก็จะเข้าใจได้ แม้ว่าคุณฤทธีจะมีคำเกินคำหยาบคายไปมากในบางครั้ง แต่สิ่งที่สื่อสารก็มีหลักเกณฑ์อ้างอิง และเข้าใจง่ายกว่า ส่วน AYXC ลองเสนอวิธีปราบพวก "ปรับปวาท" มาสิ ว่าหากมีคนมาบิดเบือนพุทธธรรม บิดเบือนพระไตรปิฎก AYXC จะตอบโต้อย่างไร เท่าไหร่จึงเหมาะสม อย่าลืมว่าการที่พระพุทธศาสนาเสื่อมไปจากอินเดียส่วนนึงมาจากการบิดเบือนพุทธธรรมในแก่นคำสอน  เช่น การที่ฮินดูเอาพระพุทธเจ้าไปเป็นนารายณ์อวตารปางหนึ่ง เป็นต้น การบิดเบือนำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างที่ธรรมกายทำ เช่น การมีธรรมกายกลางท้ิอง การสะสมบุญด้วยการจ่ายมากได้มาก การมีพระพุทธเจ้าภาคขาว ภาคดำ เหล่านี้ทำลา่ยพระศาสนาที่แก่น ในที่สุดจะทำให้พระพุทธศาสนาสาบสูญไปได้เลยทีเีดียว หากไม่มีคนอย่างคุณฐานาฐานะ และคุณฤทธี ที่มีความสามารถในการยกพระไตรปิฎกให้ถูกกับกรณีเพื่อปราบคำสอนปลอมปนของพวกปรับปวาท โดยการแสดงว่าอันไหนเป็นคำสอนของพระพุทธองค์อันไหนไม่ใช่ พระพุทธเจ้าก็คงไม่สามารถปรินิพพานได้ตามมหาปรินิพพานสูตร จากคุณ : หลังเขา - [ 9 ต.ค. 50 21:50:27 ]

ความคิดเห็นที่ 100 คนชั่วก็ทำความชั่วเป็นนิจ บางครั้งไม่ได้ทำเองก็ชื่นชมกับความชั่ว ที่คนอื่นเขาทำ อย่างกระทู้นี้   คนดีที่ไหนจะไปว่าร้ายคนอื่นได้ทุกวัน บางครั้งก็ตั้งกระทู้ต้นบาป ให้คนมี วาจาทุจริต มีแต่ดึงใจให้คนต่ำลง อยากว่าร้ายผู้อื่น อย่างนี้พระพุทธองค์ไม่ ได้สอนให้ทำแบบนี้นะครับ จากคุณ : วรกร - [ 9 ต.ค. 50 22:33:18 ]

ความคิดเห็นที่ 101 อืม เดี๋ยวนี้เป็นอะไรกันหมดแล้วนี่ ขนาดเกลียดวัดใดวัดหนึ่งถึงกับยอมให้โพสภาพสร้างความเสื่อมเสีย ต่อพระศาสนากันแบบเฉยๆกันแล้ว บาปครับ วจีกรรมทั้งนั้น โดยเฉพาะบางคนที่ผมเห็นว่าเป็นผู้รู้เนี่ย เด๋วนี้ถึงขนาดเห็นดีเห็นงามกับคนทำผิดศีลกันไปแล้ว จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 9 ต.ค. 50 22:56:08 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ไม่สูบไม่ดื่ม คงหมายถึงรูปของ Tammy & Tatty ของผมกระมังครับ ถึงแม้ไม่ชอบ แต่ก็ยอมรับความจริงกันล่ะครับ ว่าต้นแบบของพระในรูปนี่ ถ้าไม่เพราะมี พระอย่างไชยบูรณ์กับคู่หู ก็คงไม่มีคนกล้าวาดรูปนี้ และคงไม่มีพวกผมมาปาวๆ อยู่อย่างนี้ ด้วยความเคารพนะครับ ไม่ได้อยากจะมาเอาชนะคุณเลย แต่อยากเตือนเท่านั้นเอง อยากปลุกพวกคุณ แม้รู้ว่า ตะโกนเรียกให้คุณตื่นอย่างไร ส่วนตัวผมก็รู้ว่าคุณไม่ตื่นแน่ แต่ก็อยากจะช่วยอยู่ดี ด้วยผมเองก็เป็นนัก network และรู้ว่าเวลามันแผลงฤทธิ์แล้ว มันมีพลังขนาดไหน การนำ network มาใช้แบบนี้แม้ไม่เกี่ยวกับศาสนา ในวงการของเราเองก็ยังถือว่าเป็น network ชั้นเลวเลยครับ ยิ่งเอามาใช้กับศาสนาแบบนี้ แถมด้วยการบิดเบือนเอาดีเข้าตัว เราเรียกว่า "เลวไร้ที่ติ" (บ่อข่วย) และผมก็ยังกล้ายืนยันครับ ไม่ใช่เฉพาะตัวผมหรอก ผมกล้าเอาคนที่ผมรักรอบๆตัวผมไปวางเดิมพันด้วยซ้ำไป จะเอาไปตกนรกขุมไหนก็ได้ ถ้านาย ไชยบูรณ์ ผิดจากที่ผมพูดไป นี่คืออยากจะบอกว่าถ้าผมไม่เข้าใจในตัว นายไชยบูรณ์อย่าง 100% จริงๆ ผมคงไม่เอาคนที่ผมรักมาเสี่ยงหรอกครับ แต่ที่พูดมาทั้งหมดนี่ก็ไม่ได้คิดว่าคุณจะตื่นอยู่ดีครับ (สรุป) แต่ก็อยากจะบอกไว้ว่า ความจริง อย่างไรก็ต้องปรากฏ ในช่วงอีกไม่กี่ปีนี้ ธรรมกายจะเสื่อมลง ปิดหรือเปล่าเป็นอีกเรื่อง อาจจะเป็นลัทธิกาฝากเล็กเกาะกินพุทธต่อไปก็เป็นได้ ถ้าโชคดีของธรรมกาย ไชยบูรณ์ก็แค่ไปใช้หนี้ในนรก โชคร้าย ก็คงต้องใช้ในคุกเสียก่อนไปนรกครับ ไม่ใช่ว่าคุณโง่ ไม่ใช่ว่าผมฉลาด แต่เป็นเพราะเขาเติมเต็มในสิ่งที่คุณขาด แต่ผมไม่ขาดได้ ก็เท่านั้น ผมถือว่ารูปนี้เป็นรูปที่เอาไว้เตือนสติคนพุทธ และเหมาะสมแล้วที่จะเป็นรูปประจำตัวของ Tammy & Tatty มารคู่ที่จะจารึกไว้คู่ประวัติศาสตร์พุทธศาสนาอีก ตราบนานเท่านานครับ ของให้ วรกร และ ไม่สูบไม่ดื่ม ได้ตาสว่างจากเงื้อมืออลัชชีผู้ชั่วร้าย และได้พบพุทธศาสนาที่แท้จริงในชั่วชีวิตนี้ครับ อ้อขอย้ำครับ วรกร ถ้าที่ผมกล่าวมาเป็นวจีทุจริต  คิดบิดเบือน หรือแม้แต่ "แค่ความเข้าใจผิด" ผมยินดีไปสู่นรกขุมที่ลึกที่สุด ตลอดกัลปวสารครับ. ขอโชว์รูป Tammy&Tatty อีกครั้งครับ จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 10 ต.ค. 50 00:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 103 (อ้างอิง) "หากไม่มีคนอย่างคุณฐานาฐานะ และคุณฤทธี ที่มีความสามารถในการยกพระไตรปิฎกให้ถูกกับกรณีเพื่อปราบคำสอนปลอมปนของพวกปรับปวาท โดยการแสดงว่าอันไหนเป็นคำสอนของพระพุทธองค์อันไหนไม่ใช่ พระพุทธเจ้าก็คงไม่สามารถปรินิพพานได้ตามมหาปรินิพพานสูตร จากคุณ : หลังเขา   - [ 9 ต.ค. 50 21:50:27 ]" ------------------------------------------------- ฤทธีนี่นะหรือเอาไปเปรียบกับท่านฐานาฐานะ ทำไปได้ ไม่รู้จักความเหมาะความควรเลยจริงๆ เอาอุจจาระ(ฤทธี)ไปเทียบกับขนมข้าวเม่า(ฐานาฐานะ) ทำได้ไง? อุจจาระสีเหลืองๆก็แค่หลอกตาเด็กทารกไร้เดียงสาว่าเป็นขนมแล้วหยิบเข้าปากเฉยเลยโดยไม่เคยรู้สึกสะอิดสะเอียนแต่อย่างใด เจอเมื่อไรก็โดดใส่เมื่อนั้น แต่เด็กที่รู้เดียงสาแล้วย่อมรู้ว่าอุจจาระก็คืออุจจาระ ไม่ต้องไปแตะแล้วมาดมแค่เห็นรูปร่างและได้กลิ่นก็เพียงพอที่จะให้สะอิดสะเอียนได้แล้ว เพราะฉะนั้น จะเอาอุจจาระมาหลอกว่าเป็นขนมข้าวเม่าก็เมินเสียเถอะ แต่เด็กบางคนก็แปลกกินอยู่ได้ทั้งที่เป็นอุจจาระ เท่านั้นยังไม่พอ ชื่นชมเสียอีกแน่ะ จะอ้วกแตกเอาน่ะไม่ว่า จากคุณ : วิพิธวิสสุดา - [ 10 ต.ค. 50 00:36:41 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ภิกษุทั้งหลาย! กา เป็นสัตว์ที่ประกอบไปด้วยความเลว ๑๐ ประการ ๑๐ ประการอะไรกันเล่า? ๑๐ ประการ คือ        กา เป็นสัตว์ทำลายความดี        กา เป็นสัตว์คะนอง        กา เป็นสัตว์ทะเยอะทะยาน        กา เป็นสัตว์กินจุ        กา เป็นสัตว์หยาบคาย        กา เป็นสัตว์ไม่กรุณาปรานี        กา เป็นสัตว์ต่ำช้า        กา เป็นสัตว์ร้องเสียงอึง        กา เป็นสัตว์ปล่อยสติ        กา เป็นสัตว์สะสมของกิน        ภิกษุทั้งหลาย! กาเป็นสัตว์ที่ประกอบด้วยความเลว ๑๐ ประการเหล่านี้        ภิกษุทั้งหลาย! ภิกษุลามกก็เช่นเดียวกับกานี้แหละ เป็นคนประกอบด้วยอสัทธรรม ๑๐ ประการ ๑๐ ประการอะไรกันเล่า? ๑๐ ประการ คือ        ๑. ภิกษุลามก เป็นคนทำลายความดี        ๒. ภิกษุลามก เป็นคนคะนอง        ๓. ภิกษุลามก เป็นคนทะเยอทะยาน        ๔. ภิกษุลามก เป็นคนกินจุ        ๕. ภิกษุลามก เป็นคนหยาบคาย        ๖. ภิกษุลามก เป็นคนไม่กรุณาปราณี        ๗. ภิกษุลากมก เป็นคนต่ำช้า        ๘. ภิกษุลากมก เป็นคนพูดเสียงอึง        ๙. ภิกษุลามก เป็นคนปล่อยสติ       ๑๐. ภิกษุลามก เป็นคนสะสมของกิน        ภิกษุทั้งหลาย! ภิกษุลามกเป็นคนประกอบด้วยอสัทธรรมสิบประการเหล่านี้ แล.        (คัดจากบาลีพระพุทธภาษิต ทสก.องฺ ๔/๑๕๙/๗๗ ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย ถ้าใครจะเรียกภิกษุรูปใดว่าเป็นภิกษุลามก ภิกษุนั้นคงโกรธมาก เพราะถือเป็นการประณามที่หนักแต่พระพุทธเจ้าจำแนกลักษณะของภิกษุลามกไว้ถึง ๑๐ อย่าง ภิกษุหรือฆราวาสทั่วไปน่าจะจำลักษณะเหล่านี้ไว้เป็นสูตรวัด ความเป็นภิกษุไม่ว่าเถระหรือลูกวัด เพื่อจะได้รู้ว่าเรากราบไหว้ภิกษุดี หรือภิกษุลามก) ------------------------------ ไม่ผิดไปทุกข้อหรอกครับ สำหรับหลวงพ่อวาจาหวานเจี๊ยบผู้นั้น แต่คนที่ไม่มองเข้าข้างใดข้างหนึ่ง คงจะพอเข้าใจนะครับ ว่าภิกษุสันดานกานั้น ใช้กับคู่ดูโอ้นี้ได้หรือเปล่า ------------------------------ จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 10 ต.ค. 50 00:42:48 ]

ความคิดเห็นที่ 105 คุณใบไม้ฯ  คนพวกนี้ตื่นยากครับเพราะโดนสะกดจิตจนสมองฝ่อไปแล้ว .. น่าสงสาร and น่าเบื่อ........... เก้อ-ยาก จากคุณ : อินทรีย์คิ้วขาว - [ 10 ต.ค. 50 05:30:30 ]

ความคิดเห็นที่ 106 วิพิธวิสสุดา ยังไม่รู้จัก "ขี้" ดีพอ ........................... คนที่รู้จักความสกปรกของ "ขี้" และรู้จักใช้ ความสกปรกของ "ขี้" ให้เป็นประโยชน์ต่อ "กิเลส" ของมัน นั้นก็มีอยู่ v v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 10 ต.ค. 50 06:31:41 ]

ความคิดเห็นที่ 107 คำพูดชั่วช้าของ "วิพิธวิสสุดา" นั้นยังถือว่าอ่อนนัก เมื่อเทียบกับความชั่วช้าเลวทรามที่ "ทัตโตะ" ได้เคยทำเอาใว้ในอดีต โดยธรรมชาติแล้ว ผมก็ไม่เคยจะเห็นว่า มี "โจร" ที่ไหน ออกปากยกย่อง "ตำรวจ" ว่าเป็นคนดีอยู่แล้วนี่ ฉนั้น ผมก็ย่อมถือว่า "คำก่นด่า" ของคนอย่าง  "วิพิธวิสสุดา" มีค่าเท่ากับ "คำยกย่อง" ของสาธุชน ชาวพุทธเถรวาทโดยทั่วไป หวังว่า สาวกธรรมโกย จะสามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจน นะจ๊ะ เฮอะ เฮอะ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 10 ต.ค. 50 06:38:54 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ที่แท้ก็หาพระสูตรแบบที่ขอมาไม่ได้  เหอ เหอ เหอ AYXC ***************************************************** ตาบอด หรือว่า อ่านหนังสือไม่ออกกันล่ะ ? แต่อย่าบอกนะว่า ....................... เป็นเพราะความ "เขลา" ล้วนๆ หึหึหึหึหึหึ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 10 ต.ค. 50 06:43:51 ]

ความคิดเห็นที่ 109 http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5898072/Y5898072.html อยากให้ไม่สูบอ่านกระทู้นี้นิดนึง เกี่ยวกับเรื่องรูปที่เข้าใจว่าไม่สูบพูดถึง พระที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านไม่มีปัญหากับรูปทำนองนี้เลยซักนิด เหมือนพุทธพจน์บทนึงที่พระพุทธเจ้าสาธยายเรื่องศีลเรื่องวินัย พอสาธยายจบ ภิกษุหน้าด้านถึงกับกระอักเลือด ภิกษุบางส่วนลาสิกขาออกไป เหลือภิกษุดีๆบรรลุธรรมกัน เรื่องศีลเรื่องวินัยในพระไตรปิฏก เอามาจับกับพวกทุศีลเมื่อไหร่ พวกทุศีลย่อมโกรธไม่พอใจ ส่วนพวกมีศีลกลับชื่นชมยินดี คุณฤทธีชอบมีคำเกินมามาก บางครั้งออกแนวด่า ซึ่งแน่นอนเป็นสิ่งไม่ดี แต่เนื้อหาข้างในมันอ้างอิงได้ทั้งพระํธรรมพระวินัย คนที่จะเจ็บกับคำด่าของคุณฤทธีจึงมีแต่พวกทุศีล เช่น ชาวธรรมกาย ส่วนชาวพุทธอื่นไม่เจ็บไปด้วย จากคุณ : หลังเขา - [ 10 ต.ค. 50 06:50:23 ]

ความคิดเห็นที่ 110 แสดงธรรมมีปาฏิหาริย์ข่มขี่ปรับปวาทที่บังเกิดขึ้น ให้เรียบร้อยโดยสหธรรมได้ ฯ อ้างจาก มหาปรินิพพานสูตร ปาสาทิกสูตร เจติยสูตร *********************************************** 1) ในพระสูตร ใช้คำว่า "ข่มขี่" ปรับปวาท 2) แต่ถ้า AYXC จะอ้างว่า ต้องหมายถึง การข่มขู่ หรือ กดขี่ด้วยคำพูด  หรือใช้คำหยาบ 3) ผมก็คงจะต้องย้อนถามว่า ................. ใครเขา "ข่มขู่" ชาวธรรมโกย มิทราบ ? ในโต๊ะศาสนานี้ ผมเคยเห็นก็แต่ กรณี ไอ้เหลิงกร่างแสนล้าน ที่พูดจา "ข่มขู่" ผู้อื่นอย่าง สุนัขจนตรอก หรือมิใช่ ? 4) ส่วนการ "กดขี่ด้วยคำพูด" ผมเห็นว่า คำๆนี้ ตรงกับคำว่า "ข่มขี่ปรับปวาท" ที่มีปรากฏอยู่ในพระสูตรอยู่แล้ว หรือใครจะเถียง ? 5) สุดท้าย ที่อ้างว่า "ใช้คำหยาบ" ตรงนี้ ผมก็ต้องย้อนถามเช่นกันว่า อย่างไร จึงเรียกว่า หยาบ อย่าบอกนะว่า การที่เรียกนายไชยบูลย์ว่า อลัชชี เป็นคำหยาบ อย่างนี้คงจะไม่ใช่เรื่องเสียแล้ว ก็มันเป็น อลัชชี แล้วจะให้เรียกมันว่า เทวดา หรือครับ  ???? อีกทั้งเมื่อเอ่ยถึงคำหยาบแล้วหละก็ ..................... ในโต๊ะศาสนาแห่งนี้ ยังจะมีใคร "หยาบ" เกินไปกว่า น้องกี้ขี้จุ๊ อีกหรือครับ ? อย่าบอกนะว่า นั่นยังไม่หยาบคาย หรือว่า AYXC  และชาวธรรมโกย เห็นว่านั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงามของสำนัก หึหึหึหึ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 10 ต.ค. 50 07:00:04 ]

ความคิดเห็นที่ 111 อยากให้ไม่สูบอ่านกระทู้นี้นิดนึง เกี่ยวกับเรื่องรูปที่เข้าใจว่าไม่สูบพูดถึง พระที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านไม่มีปัญหากับรูปทำนองนี้เลยซักนิด ****************************************** ยืนยันตามคุณหลังเขา พระอาจารย์ที่ผมรู้จัก ท่านบอกว่าท่านไม่เดือดร้อนเพราะท่านไม่มีสันดานกา แถมยังชมศิลปินที่วาดรูปนี้อีก จากคุณ : อินทรีย์คิ้วขาว - [ 10 ต.ค. 50 07:08:04 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ย้อนอดีต ....................... "ขี้ อภินิหาร ภาค1" v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 10 ต.ค. 50 07:30:08 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ย้อนอดีต ....................... "ขี้ อภินิหาร ภาค2" v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 10 ต.ค. 50 07:30:52 ]

ความคิดเห็นที่ 114 วิพิธวิสสุดา อิ่ม หรือยังจ๊ะ ? วิพิธวิสสุดา อิ่ม อราวนด์ เดอะ เวิลด์ หรือยังจ๊ะ ? ถ้า วิพิธวิสสุดา อิ่มแล้ว ก็ขอให้ อร่อยจ้า ........................ หึหึ อ้วก !!!!! ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 10 ต.ค. 50 07:34:12 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ไม่ผิดไปทุกข้อหรอกครับ สำหรับหลวงพ่อวาจาหวานเจี๊ยบผู้นั้น แต่คนที่ไม่มองเข้าข้างใดข้างหนึ่ง คงจะพอเข้าใจนะครับ ว่าภิกษุสันดานกานั้น ใช้กับคู่ดูโอ้นี้ได้หรือเปล่า ------------------------------ จากคุณ : ใบไม้กำนั้น  - [ 10 ต.ค. 50 00:42:48 ] สองคนมอม   จอมมาร  สันดานกา ขายธรรมา  หาแดก  แจกคำหวาน ปล่อยทิ้งไว้   ไช่ธรรม  อันตราธาน ล้างสันดาน   มารคู่   ชูพระธรรม จากคุณ : misery - [ 10 ต.ค. 50 08:04:59 ]

ความคิดเห็นที่ 116 นายริทคนถ่อย ความดีบุญกุศลต้องทำยังไง? รู้บ้างหรือไม่? ว่าร้ายผู้อื่น ว่าทุกวัน ว่าได้เป็นปี คนดีที่ไหนเข้าทำกัน คคห.ไม่ได้ยก ระดับจิตใจใครเลย มีแต่ดึงใจให้คนลงต่ำ อยากทำความชั่วไปด้วย เห็นแล้วใจต่ำดำมืดมุ่งไปอบายเมื่อหมดลมครับ เพราะสั่งสมความชั่วไว้ แม้เป็นวจีทุุจริต ก็อย่าได้ประมาท ตัวอย่างในพระไตรปิฎก คนตกนรกเพราะ วจีทุจริตก็มีนะครับ หาความชั่วทำไม่อิ่มเลยนะครับ ขยันเหลือเกิน อะไร ที่จะสนับสนุนให้ทำความชั่วไำด้ก็รีบเชื่อหามาเสริม บางอันเขียนเป็นร้อย เที่ยว ไม่มีอิ่มเลยนะครับ ของร้อนทั้งนั้น บาปทั้งนั้นครับ หาความดีที่ชัดแจ้งทำดีกว่านะครับ ที่ใครเห็นก็อนุโมทนาบุญ แม้เด็กพอรู้ ภาษาก็มองว่าเป็นสิ่งที่ดี อย่างนี้มีมากมายนะครับ จากคุณ : วรกร - [ 10 ต.ค. 50 08:05:26 ]

ความคิดเห็นที่ 117 นายมีสนี่ก็ด้วยอีกคน เหมือน คคห.ที่ 116 ครับ จากคุณ : วรกร - [ 10 ต.ค. 50 08:07:12 ]

ความคิดเห็นที่ 118 วรกร จะเอาแผนที่อย่างนั้นหรือ ? เดี๋ยวผมจะไปหามาให้นะครับ ก็เข้าใจไง ว่าเป็นคนรุ่นหลัง อาจจะมองภาพไม่ออก ว่า ไอ้โรงเรียนที่ว่า มันอยู่ตรงไหน ? v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 10 ต.ค. 50 08:40:23 ]

ความคิดเห็นที่ 119 อ้าว !!!!! วรกร ด่าผมว่า ........... "นายริทคนถ่อย" หรอกหรือครับ ? ที่แท้ผมก็อ่านผิดไปว่า "นายฤทธี ขอแผนที่หน่อย" !!!!!! แหม ............. ใครจะไปคิด ว่าชาวธรรมโกย จะพูดจาหมาไม่รับประทานแบบนี้ จริงไหม  AYXC  ? "หยาบคาย" จังเลยนะจ๊ะ ................. หึหึหึหึ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 10 ต.ค. 50 08:45:21 ]

ความคิดเห็นที่ 120 เห็นคำด่า  นายริทคนถ่อย นึกถึงเวลานางเอกชอบด่าพระเอกเลย ... นายริท นายคนถ่อย หยาบคาย คนผีทะเล บ้าๆๆๆๆ บ้าที่สุด ... ... เค้าเกลียดตัวเองแล้ว ... ... คอยดูนะ วรกรจะไม่ให้อภัยฤทธีเลย ...         จากคุณ : ช้อนบุญ - [ 10 ต.ค. 50 09:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 121 คนชั่วก็หาความชั่วทำ ผมไม่ได้เข้ามาก็เห็นทำชั่วเป็นประจำ ไม่ต้องอ้างโน้นอ้างนี่ อยากจะทำความชั่วก็ทำไป ไม่มีใคร ห้ามได้  ผมเห็นก็อดไม่ได้      จนจะเป็นคนถ่อยไปด้วย ยังดีว่าหายไปเป็นพักๆ ไม่ได้อ่านกระทู้บาปทุกวันครับ ผมให้อภัย แต่กฎแห่งกรรม ไม่ได้ยกเว้นให้ใคร? ครับ จากคุณ : วรกร - [ 10 ต.ค. 50 09:41:23 ]

ความคิดเห็นที่ 122 คุณ วรกร หาคำโต้แย้ง คำสอนของเจ้าลัทธิคุณไม่ได้ ก้ออ้าง บาปกรรม ขึ้นมาขู่กันเชียวนะ หึหึ.. จากคุณ : CrazyMc - [ 10 ต.ค. 50 09:57:51 ]

ความคิดเห็นที่ 123 แว้บเข้ามาให้กําลังใจคุณฤทธี และคุณtaken01ค่ะ จากคุณ : oor_dt - [ 10 ต.ค. 50 10:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 124 เอ ความรู้ใหม่แฮะ ว่าลัทธินี้มีคดีอาญาติดตัว!! ผมทราบแต่ว่า นักบวชวัดนี้ชอบมาสร้างความวุ่นวาย ก่อความรำคาญเดือดร้อน สูบเลือดสูบเนื้อชาวบ้าน บิดเบือนพระธรรมคำสอนของพระพุทธศานา นักบวชในลัทธินี้บางคนพอเห็นสตรีที่หลงเชื่อในคำสอนของลัทธินี่ บ้างก็พยายามจะเข้ามาตีสนิท ขอเป็นน้องชายบ้าง โทรมาคุยด้วยตลอดเวลาบ้าง มีออกอาการฮึดฮัดไม่พอใจเวลาผู้หญิงไม่รับโทรศัพท์ แต่ นี่ยังมีคดีบังคับ ขู่เข็ญ ข่มขืน งี้ นี่ไม่ไหวแล้วนะ ถึงจะยังไม่มีการไต่สวนมูลฟ้อง ถึงจะเป็นแค่เรื่องเล่าที่มีมูลข้อเท็จจริง แต่ถ้าเป็นจริงๆตามนั้นขึ้นมาแล้วล่ะก็ นอกจากจะเป็น "ลัทธิ" แล้ว ยังต้องนับว่าเป็น "ซ่องโจร" ด้วยแล้วครับ จากคุณ : monkeygig - [ 10 ต.ค. 50 10:12:48 ]

ความคิดเห็นที่ 125 เข้าใจที่คุณอินทรีย์ิคิ้วขาวบอกครับ ว่าอย่างไรซะ พวกเขาก็ไม่เข้าใจหรอก ในธุรกิจส่วนหนึ่งของผม ผมต้องเจอคนกลุ่มนี้ทุกๆวันเลยครับ และต้องจัดการกับเจ้าพวกเครือข่ายลวงโลกอยู่ตลอดเช่นเดียวกัน เลยเข้าใจพื้นฐานจิตใจ ความต้องการ และแนวทางการแก้ไขที่จะต้องเป็นไปอย่างช้าๆ ถึงช้าที่สุด เพราะมันเกี่ยวกับเรื่องของการลงทุน ทั้งทรัพยท์ และ ใจ มามากมายแล้ว มันเกี่ยวกับเป้าหมาย ความหวังและความฝัน อันสวยสดงดงาม ที่พลาดแล้วก็ไม่รู้ว่าจะไปหาหลักอะไรให้ชีวิตดี แต่ก็ยังยืนยันครับ ผู้ป่วย ก็คือผู้ป่วย ถึงชาวธรรมกายจะมีสีข้างเหล็กไหลอย่างไร สู้แบบปากกัดตีนถีบ ก็เป็นเพราะ "โดนหลอกมา" เขียนไปแล้วเค้าได้อ่าน วันหนึ่งอาจจะไปเจอเหตุการณ์อะไรให้ฉุกคิด และถึงบางอ้อขึ้นมาก็ได้ วันที่น่าสงสารสำหรับพวกเค้า คือวันที่เค้ารู้ความจริงว่า ไอ้ที่เค้าสู้กันแทบตายนั้น เค้าสู้ให้กับอีกาสองตัว (อีกาตัดต่อพันธุ์กรรมกัับตัวต๊ะเอ๋อีกต่างหาก) เท่านั้นเอง ยังไงเพื่อพุทธศาสนา เราก็ต้องช่วยกันต่อนะครับคุณอินทรีย์ฯ อ้อ...ขอบคุณ คุณmisery สำหรับกลอนเพราะๆครับ เหมาะกับอีกาทั้งสองตนมากครับ แถมรูปธัมมี่ ตอนโดนจับไต๋ได้สักหน่อยดีกว่า หุหุ จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 10 ต.ค. 50 13:18:20 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ก็หาบาปใส่ตัวกันไป คนชื่นชมคนทำบาปก็ได้บาปด้วยเหมือนกันครับ จากคุณ : วรกร - [ 10 ต.ค. 50 13:29:03 ]

ความคิดเห็นที่ 127 #120 คุณ ช้อนบุญ เข้าใจคิดนะ 555 ป่านนี้คุณฤทธีคงเสียวสันหลังวาบๆๆ อีกแล้ว (คราวก่อนก็น้องกี้วีนัส) เอ หรือคนเสียวสันหลังจะเป็นวรกร เพราะคุณฤทธีท่าทางจะเลี้ยงด้วย "ลำแข้ง" เป็นแน่แท้ จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 10 ต.ค. 50 13:36:27 ]

ความคิดเห็นที่ 128 นั่นสิครับ ในกระทู้นี้ผม่าคนที่หยาบคายและไร้มารยาทที่สุดก็คงเป็นวรกรแหละครับ หยาบคาย คือ ใช้ถอยคำหยาบคาย ไร้มารยาท คือ ไร้มารยาทในการสนทนา คนอื่นเค้าคุยกันด้วยเหตุด้วยผลอยู่ วรกรก็เข้ามา นอกจากไม่มีเหตุผลมาชี้แจงตามประเด็นที่เค้าคุยกันอยู่แล้ว ยังด่ากราดคนในวงสนทนาด้วยถ้อยคำหยาบคายกลางวงสนทนา อย่างนี้น่ะหรือครับ คนดี จากคุณ : หลังเขา - [ 10 ต.ค. 50 14:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 129 อ่าน #120 แล้วผมก็พลอยเสียวสันหลังไปด้วย  บรื๋ออออว์ แกสติแตกถาวรไปแล้วกระมังครับ  หมอเนี่ย   คิ คิ จากคุณ : Sea Ghost Man - [ 10 ต.ค. 50 14:37:18 ]

ความคิดเห็นที่ 130 คนที่ผมเขียนถึง เป็นคนถ่อยอย่างไร? จริงหรือไม่? ตรงนี้สำคัญนะครับ คนพวกนี้ไม่รู้ตัว ทำชั่วได้ทุกวัน ทำชั่วข้ามปี คนดีที่ไหนทำแบบนี้ครับ ควรตั้งกระทู้ที่ยกระดับจิตใจคน อ่านแล้วอยากทำความดี ไม่ใช่มีแต่ วาจาทุจริตเต็มไปหมด พออ่านแล้วอยากทำบาป อย่างนายผีทะเล นี้ตั้งกระทู้ต้นบาป คนอ่านแล้วอยากทำความชั่ว มีวาจาทุจริตว่าร้ายกัน เต็มไปหมด ก็ได้รับบาปมหันต์ไปเต็มๆ ก็ดูแล้วกันบาปส่งผลเป็นอย่างไร บ้าง? ก็ควรเอามานำเสนอ ว่าผมรับกรรมแบบนี้ คนจะได้ไม่เอาเยี่ยงอย่างครับ จากคุณ : วรกร - [ 10 ต.ค. 50 15:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 131 นายหลังเขา คนโจมตีวัด ด่าพระ เป็นคนเลวไหม? ก็หาเหตุมาอ้างไป เพื่อทำความชั่ว อย่างนี้เลวไหม? คคห.ผมก็อยู่ในเรื่องที่เขียนกันนั่นแหละ มันผิดธรรมอย่างไร? ผมก็ว่า ของผมไป ก็เราคิดว่าไม่ผิด ถึงไม่เลิกทำความชั่ว ก็ว่ากันไป ต่างคน ก็แสดง คคห.ได้ครับ คนที่ว่าร้ายผู้อื่นมารยาทดีหรือครับ จากคุณ : วรกร - [ 10 ต.ค. 50 16:13:16 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ผมสังเกตเห็นว่า "วรกร" ชอบพูดถึง "คนถ่อย" อยู่บ่อยๆ ผมก็เลยจัดให้คุณเป็นพิเศษ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คุณคงจะถูกใจ !!!!! v v v v มาทำความรู้จักกับ "คนถ่อย" ของ วรกร กันเถอะ !!!!!! http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5903773/Y5903773.html จากคุณ : Ritti Janson - [ 10 ต.ค. 50 17:58:41 ]

ความคิดเห็นที่ 133 นั่นน่ะสิ ถ้าตามตรรกะของวรกร การด่าพระล้วนเ็ป็นบาปทุกกรณี พระพุทธองค์ทรงเปรียบเทียบพระไม่ดีด้วยคำที่ไม่ดี เช่น พระขี้เรื้อน พระลามก พระอุจจาระ พระแกลบ พระเปลือกปอ พระสันดานกา ฯลฯ อย่างนี้วรกรต้องด่าพระพุทธองค์ด้วยไหมครับ http://www.aia.or.th/lookmonktextbook.htm การตำหนิถ้าอยู่บนพื้นฐานของความจริงของเหตุผลมีที่มาอ้างอิงได้ เช่น จากพระไตรปิฏก คนที่ควรถูกตำหนิก็คือคนถูกด่าครับ เหมือนคนจับฆาตกรฆ่าคนตายได้แล้วโกรธฆาตกรฆ่าคนตายมาก จึงด่าว่าฆาตกรฆ่าคนตายด้วยถ้อยคำเสียหาย อย่างนี้ควรตำหนิโจรมากกว่าหรือควรตำหนิคนด่ามากกว่ากัน หรือในสมัยพุทธกาลชาวบ้านตำหนิพระหลายอย่างทำให้เกิดเป็นพระวินัยขึ้น อย่างนี้ชาวบ้านเลวหรือพระที่ทำสิ่งไม่สมควรจนโดนชาวบ้านด่าเลวครับ ย้ำอีกครั้ง พระธรรมพระวินัยแสลงหูกับพวกทุศีลเท่านั้น จากคุณ : หลังเขา - [ 10 ต.ค. 50 18:59:45 ]

ความคิดเห็นที่ 134 เมื่อสาวก  เล่นลิ้น  อย่างสิ้นคิด อันความผิด  คิดชั่ว  ตัวไม่เห็น ไม่เตยตอบ  ชอบเกี่ยง  เลี่ยงประเด็น ทำตัวเป็น  เช่นชน  คนถ่อยเอง จากคุณ : misery - [ 10 ต.ค. 50 20:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 135 คนที่ผมเขียนถึง เป็นคนถ่อยอย่างไร? จริงหรือไม่? ตรงนี้สำคัญนะครับ คนพวกนี้ไม่รู้ตัว ทำชั่วได้ทุกวัน ทำชั่วข้ามปี คนดีที่ไหนทำแบบนี้ครับ จากคุณ : วรกร  - [ 10 ต.ค. 50 16:13:16 ] .................................................................................ง คนชั่วช้า  สามาลย์  ที่ขานถึง พวกเราจึง  ชี้แจง  แถลงไข เหล่าสาวก  ยกไว้  ได้อย่างไร ไม่เข้าใจ  ใครชั่ว  มั่วจริงจริง จากคุณ : misery - [ 10 ต.ค. 50 20:46:53 ]

ความคิดเห็นที่ 136 เฮ้อ ผมเองน่ะ ไม่ได้ห่วงตัวเองหรอก เพราะถึงโดนหลอกไปก็ไม่ค่อยจะมีเงินเท่าไหร่ ห่วงแต่พวกไม่รู้เรื่องราวจะลงนรกกันก็เท่านั้น เห็นเขาเฮก็เฮตาม อย่างที่บอกน่ะครับ นรกไม่ได้ถามว่าเต็มใจ หรือ ไม่เต็มใจ เจตนาดีหรือไม่ เขาถือความจริงในเรื่องกรรมเป็นหลักน่ะครับ จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 10 ต.ค. 50 21:52:18 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ครั้นพอลงไปเพื่อล้างภาพเสียๆหายๆดังใน คห 102 จะหาว่าฟลัดกระทู้หรือเปล่า? ผมยิ่งกลัวๆอยู่ด้วยเนี่ย ไม่รู้อมยิ้มจะหายเมื่อไหร่ โพสภาพเดียวคงไม่ถึงกับโดนเล่นกระมัง? จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 10 ต.ค. 50 21:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 139 อุจจาระก็ยังเป็นอุจจาระวันยังค่ำนั่นแหละ แม้จะเอาไปใส่ในโถเบญจรงค์ชั้นดีปิดฝาเอาไว้ พอเปิดฝาออกมา ยี้...แหวะ มันคืออุจจาระนั่นเอง บางคนปากพร่ำบ่นแต่หลักธรรมและมักนำข้อความจากคัมภีร์มาอ้างอิง แต่ทว่าเจตนาในการนำข้อความเหล่านั้นมาก็เพื่อตอกย้ำให้เกิดความเสียหายแก่คนที่ตัวเองปรักปรำว่าเลวเท่านั้นเอง ตกลงว่าระหว่างคนที่ถูกปรักปรำกับคนปรักปรำเขา ใครเลวกว่ากัน น่าสงสัยยิ่งนัก จากคุณ : วิพิธวิสสุดา - [ 10 ต.ค. 50 22:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 140 สถานะของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาคือนักศึกษาไม่ใช่ผู้วิเศษ เพราะฉะนั้นตำหนิได้หากยังกระทำการอันไม่ควรอยู่ ผู้ตำหนิเป็นไ้ด้ทั้งพระด้วยกันและชาวบ้าน การควรไม่ควรมีหลักคือพระธรรมพระวินัย สิ่งใดเข้ากันได้กับพระธรรมพระวินัยคือควร ถ้าขัดก็ไม่ควร ส่วนใครก็ตามที่ทำตามพระธรรมพระวินัย ก็เรียกว่าผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จัดเป็นสมมุติสงฆ์อริยสงฆ์ของพระพุทธศาสนา แล้วใครก็ตามที่ต่อให้ห่มเหลืองแต่ไม่ปฏิบัติตามพระธรรมพระวินัย ก็ไม่จัดเป็นสงฆ์ การตำหนิโดยมีเหตุผลกำกับ มีพระธรรมพระวินัยรองรับ เป็นการสืบอายุพระศาสนา เอากาฝาก เอาอลัชชีออกจากพระศาสนา แต่ตรงข้าม หากคิดแบบไร้เหตุผลแบบไม่สูบ เท่ากับเลี้ยงกาฝากเลี้ยงอลัชชีไว้ สุดท้ายเหล่ากาฝากนี่แหละที่ทำลายพระศาสนา โดยมีพวกไม่รู้จักคิดสนับสนุน เมื่อมีผู้ตำหนิพระสงฆ์อย่างกรณีรูปภิกษุสันดานกา พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไม่มีใครเดือดร้อน มีแต่อนุโมทนาว่าด่าได้ดี พวกหน้าหนาหากินกับพระศาสนาจะได้คิดได้บ้าง ส่วนพวกทุศีลกลับเต้นเป็นเจ้าเข้า หาว่าทำลายพระศาสนา แต่แท้จริงเรื่องแบบนี้เป็นการให้ความรู้กับประชา่ชนในการแยกพระแท้ออกจากอลัชชี ทำลายแต่พวกกาฝากก็เท่านั้น พระสุปฏิปัณโณทั้งหลายไม่กระทบเลยแม้แต่น้อย ในระยะยาวกลับทำให้พระศาสนาเจริญขึ้นด้วยซ้ำไป ไม่ใช่ทำลายพระศาสนาอย่างที่ไม่สูบอ้าง สุดท้ายคือ พระสงฆ์ของพระพุทธเจ้า เน้นที่ความสมถะ สันโดษ ไอ้ภาพความอลังการ อ้างว่ารวมตัวกันมาทำสิ่งดีๆ มันเป็นแค่การสร้างภาพ ผิดจากคติพุทธที่เน้นความสันโดษ สนับสนุนการรวมกลุ่ม ไม่ใช่ธรรมไม่ใช่วินัยชองสมณะในพระพุทธศาสนา ไม่ควรค่าแก่การชื่นชมยินดี เห็นแล้วมีัแต่ความสมเพชเวทนา ว่าคนเหล่านี้บวชเสียเปล่า ไม่ได้ประโยชน์ของพระศาสนา ไม่ได้เนกขัมมะบารมี ไม่ทรงศีลทรงธรรมทรงวินัย ชอบการคลุกคลีเป็นหมู่คณะ ทำแต่เรื่องสนับสนุนสัทธรรมปฏิรูป ละเลยคำสอนของพระพุทธองค์ ชาวพุทธไม่ชื่นชมกับกิจกรรมทำนองนี้ของธรรมกายกันหรอก จากคุณ : หลังเขา - [ 10 ต.ค. 50 22:50:35 ]

ความคิดเห็นที่ 141 #139 อุจจาระก็ยังเป็นอุจจาระวันยังค่ำนั่นแหละ แม้จะเอาไปใส่ในโถเบญจรงค์ชั้นดีปิดฝาเอาไว้ พอเปิดฝาออกมา ยี้...แหวะ มันคืออุจจาระนั่นเอง \**************** โถเบญจรงค์ที่เธอว่ารูปร่างมันคล้ายๆจานบินหรือปล่าวจ๊ะ จากคุณ : dcm - [ 11 ต.ค. 50 05:34:50 ]

ความคิดเห็นที่ 142 #137 ภาพที่คุณเอามาโพสต์ ดิฉันมองไม่เห็นถึงความสงบอะไรเลยนะคะ แต่ละคนในใจเขาคิดอะไรอยู่ เมื่อไม่กี่เดือนนี้ พี่น้องของสามีดิฉัน ๔ คน(พวกเขาได้เคยสมคบยักยอกโกงเงินมรดกของสามีดิฉันไปร่วมร้อยล้านบาท  ตอนนี้สองในสี่คนป่วยเป็นโรคร้ายแรง ) เพิ่งพากันเอาเงินไปบริจาคทำบุญเอาหน้าให้แก่วัดพระธรรมกายร่วม ๓ แสนบาทสร้างรัตนวิหารคตอะไรนั่นหน่ะ มีรายชื่อลงอยู่ในอินเตอเนท(ดิฉันถึงได้รู้ไง) ได้หน้าไปหลายกระบุง น้องชายสามีเมื่อหลายปีก่อนก็เคยขโมยตังพ่อไปเป็นแสนเพื่อไปแข่งกันบริจาคให้กับวัดธรรมกาย  ดิฉันไม่สงสัยเลยว่าทำไมคนประเภทนี้ถึงได้หลงไหลกับการทำบุญกับวัดนี้ จากคุณ : dcm - [ 11 ต.ค. 50 05:47:40 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ห้ามคนทำบุญบำรุงพระพุทธศาสนา มีแต่ตกนรกลูกเดียว เ คยมีนิทานเรื่องหนึ่งเล่าว่า ค่ำวันหนึ่ง...บนสวรรค์ชั้นฟ้าดาวดึงส์ ขณะพระอินทร์ทรงประทับอยู่บนพระแท่นมหาเวศเพชรน้ำค้างภายในท้องพระโรงทิพยปราโมทย์ เพื่อชมเหล่านางฟ้า     ที่กำลังฟ้อนละครสูง ให้ทรงทอดพระเนตรอยู่นั้น จู่ๆเสียงอึกทึกอันเกิดจากการดนตรีที่เหล่าเทวาหนุ่มได้ประโคมรัวเร่งให้เข้ากับการร่ายรำของนางละครก็ต้องมา         สะดุดหยุดกึกลงชั่วครู่ เนื่องจากเทวดาที่ชื่อเมฑิคำพรมาขอเข้าเฝ้า แล้วเมฑิคำพรก็ร้องขอต่อพระอินทร์ว่า         "พระองค์ผู้เป็นใหญ่บนสวรรค์ ข้าพระองค์มีเมียเจ็ดนาง ข้าพระองค์เบื่อพวกเมียๆของข้าพระองค์เหลือเกินแล้วพระเจ้าข้า ข้าพระองค์อยากจะหนีพวกนาง ไปให้ไกลพระองค์จะทรงช่วยส่งข้าพระองค์ไปให้ไกลจากพวกเมียๆสักหน่อยได้ไหมพระเจ้าข้า"         องค์อินทร์ได้ยินดั่งนั้นก็นิ่งคิด เมื่อคิดไม่ออกก็ทรงตรัสถามเอาตรงๆกับเมฑิคำพรว่า "เอ้า ทำไมเบื่อเมียเสียเล่า ท่านเมฑิคำพร หรือว่ามีเจ็ดเมียยังไม่พอใจ"         "เปล่าพระเจ้าข้า ที่ข้าพระองค์เบื่อก็เพราะพวกนางตบตีกันด้วยความหึงหวงไม่เว้นแต่ละวัน ข้าพระองค์อยู่บนสวรรค์ไม่เป็นสุขเลย พระองค์จะทรงช่วยส่ง ข้าพระองค์ไปเกิดบนโลกมนุษย์สักหน่อยได้ไหมพระเจ้าข้า" เมฑิคำพรตอบ แล้วก็ย้ำคำถามต่อพระอินทร์         องค์อินทร์เพ่งพระเนตรพิศดูความวิตกทุกข์ร้อนของเมฑิคำพรแล้วก็ทรงแย้มสรวลชอบพระทัย แล้วถึงตรัสอย่างพระอารมณ์ดีว่า "ได้สิท่านเมฑิคำพร เทวดา อยากจะไปเกิดเป็นอะไรที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ทั้งนั้นแหละ แต่ไปเกิดแล้วจะต้องรักษาความดีเอาไว้ให้ได้นะ รับปากข้าสิเมฑิคำพร ไม่อย่างนั้นท่านจะไม่ได้กลับขึ้นมา     บนสวรรค์อีก"        "พระเจ้าข้า! ข้าพระองค์รับปากพระเจ้าข้า" เมฑิคำพรกล่าวเสียงหนักแน่น จากคุณ : คนโปรดมาราโดนา - [ 11 ต.ค. 50 08:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 144 หลังจากนั้นเมฑิคำพรก็ก้มลงกราบแทบพระบาทขององค์อินทร์ด้วยความดีอกดีใจ แล้วก็รีบกลับไปบอกพวกเมียๆทั้งเจ็ดยังที่พำนัก ว่าพระอินทร์ทรงอนุญาตให้ไปเกิดเป็นมนุษย์แล้ว เมียๆของเมฑิคำพรหาได้ว่าอะไร ยกเว้นนางฟ้าอเวคิตยาซึ่งเป็นเมียหลวงแต่เพียงผู้เดียวหายอมไม่ ครั้นนางได้รับคำอธิบายจากสามีว่าองค์อินทร์ ทรงมีพระบัญชาให้ไปเกิดบนโลกมนุษย์ได้ตามประสงค์ แล้วก็คงจะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเลยทำให้นางอเวคิตยา แง่งอนโกรธสามีหัวฟัดหัวเหวี่ยง ก่อนทำเสียงแข็งๆเข้าใส่เมฑิคำพรว่า        "กระไรเล่าหนา กระไรเล่า...นี่ท่านมีเมียบนสวรรค์ตั้งเจ็ดเมียยังไม่พอใจอีกหรือ กระไรจะต้องหนีไปมีเมียบนโลกมนุษย์อีกเล่า ข้าไม่ยอมหรอกเมฑิคำพร ข้าจะไปขอพระองค์เหมือนกัน ข้าจะตามไปเกิดกับท่านบนโลกมนุษย์ด้วย"        ว่าแล้วนางอเวคิตยาก็สะบัดหน้าแง่งอนออกจากที่พำนักไปร้องขอกับองค์อินทร์บ้าง แล้วนางก็อ้างกับพระอินทร์ว่า        "กฎสวรรค์ห้ามเทวดามีเมียเกินเจ็ดนาง เมฑิคำพรสามีของข้าพระองค์จึงคิดหนีจะไปมีเมียเป็นนางที่แปดยังโลกมนุษย์ ข้าพระองค์ต้องตามไป เป็นเมียนาง ที่แปดของเมฑิคำพรพระเจ้าข้า ขอพระองค์ทรงโปรดมีพระเมตตาอนุญาตให้ข้าพระองค์ตามไปเกิดเป็นเมียของเมฑิคำพรยังโลกมนุษย์ด้วยเถิดพระเจ้าข้า ข้าพระองค์ไม่ยอมให้เมฑิคำพรไปมีหลายเมียบนโลกมนุษย์เหมือนอย่างบนสวรรค์อีกแล้ว ทรงโปรดมีพระเมตตาด้วยพระเจ้าข้า" กล่าวจบนางอเวคิตยาก็ก้มลงกราบ แทบพระบาท แล้วก็เอาหน้าผากจรดพื้นอยู่อย่างนั้น        องค์อินทร์ทรงตรึกตรองอยู่เป็นครู่ก่อนพยักพระพักตร์ แล้วถึงชี้พระดรรชนีไปยังโลกมนุษย์ด้วยความรำคาญ พลันลำแสงจากพระดรรชนีของพระองค์ ก็ทำให้บังเกิด ผีพุ่งใต้สองดวงในเวลาไล่เลี่ยกันให้คนบนโลกมนุษย์ได้เห็น...        ยี่สิบปีต่อมานายพรก็รักกับนางนิตยา โดยอดีตของนายพรนั้นเป็นลูกจีนที่พ่อแม่เปิดร้านขายกาแฟอยู่ที่หน้าพระธาตุนครพนมริมฝั่งโขง เมื่อพ่อแม่ตายพี่ชายคนโตก็รับช่วงขายกาแฟต่อไป พ่อแม่ของนายพรไม่ได้ทิ้งสมบัติไว้ให้นายพร นายพรจึงบากหน้าเข้ากรุงเทพฯอย่างหวัง จะไปตายเอาดาบหน้าเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัวตั้งแต่ยังหนุ่มแล้วนายพรก็ไปแต่ตัวจริงๆ มิหนำซ้ำนายพรยังเปลี่ยนชื่อจากอาฮุยเป็นนายพรก่อนเข้ากรุง ราวกับชื่อนี้คือพรจากสวรรค์ที่ให้นายพรไปร่ำไปรวยอยู่ในกรุงเทพฯ ส่วนนางนิตยาก็เป็นลูกชาวนาที่ยากจน ไปเกิดอยู่ถิ่นทุรกันดารสุดแดนสุพรรณบุรี ติดต่อกาญจนบุรีโน่น ความยากจนทำให้นางนิตยารำคาญ จึงบากหน้าเข้าเมืองหลวงหางานทำหาไปหามานางนิตยาก็ได้ผัวที่ชื่อนายพร        การพบรักของคนทั้งคู่เหมือนฟ้าได้กำหนดมาแล้ว ซึ่งฟ้าได้กำหนดมาว่าให้นางนิตยาเป็นสาวโรงงานทอผ้า แล้วกำหนดให้นายพรเข็นรถมาขายไอศกรีมแท่ง อยู่ที่หน้าโรงงาน เมื่อพบรักต้องต้องตาต้องใจต่อกัน ทั้งคู่จึงทำตามพระบัญชาของฟ้าด้วยการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน โดยที่นายพรทิ้งห้องเช่าย่านบางซื่อหอบผ้าหอบผ่อน มาอยู่เสียด้วยกันที่ห้องเช่านางนิตยาย่านบางโพ        เพียงเจ็ดปีที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันนายพรก็ทำลูกให้นางนิตยาถึงเจ็ดคน เหตุที่นายพรต้องทำลูกให้นางนิตยาจนเหนื่อยถึงเจ็ดคนนั้น ก็เพราะนางนิตยาขี้หึงไม่ยอมให้ผัวไปทำเจ้าชู้ ที่ไหนได้อีกแม้แต่ก้าวเดียว แล้วที่สำคัญนายพรก็กลัวเมียราวกับว่าถูกสวรรค์สาปไม่ให้มีเมียน้อย ไม่ให้กล้าไปทำเจ้าชู้กับใครได้อีก หากที่แน่ๆการมีลูกมากย่อมทำให้ยากจน แต่ทั้งคู่ก็สู้ชีวิตอย่างปากกัดตีนถีบด้วยความอดทนยิ่ง อะไรที่มัธยัสถ์ได้ก็มัธยัสถ์ ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จนในที่สุดทั้งคู่ก็ใช้เงินเป็น...ใช้เป็นแม้แต่กระทั่งเคยเอากรวด   มาคั่ว แล้วดูดๆแทนกับข้าวอยู่หลายครั้งหลายครา        การเคยลิ้มรสกรวดคั่ว ทำให้นายพรขุดเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ลูกหลานฟังตอนที่อายุได้เจ็ดสิบอยู่เนืองๆ แน่ละตอนที่นายพรอายุเจ็ดสิบนายพรย่อมจะกลายเป็น เจ้าสัวไปแล้ว แล้วการเป็นเจ้าสัวของนายพรก็มีเรื่องเล่ากันว่า        คืนหนึ่ง...เจ้าสัวนอนหลับแล้วฝันไปถึงตอนที่รับปากต่อพระอินทร์ ที่ทรงเตือนว่าถ้าไม่รักษาความดีเอาไว้ให้ได้จะไม่ได้กลับขึ้นไปบนสวรรค์อีกนั้น มันได้ทำให้เจ้าสัวกลัวเป็นอันมาก เพราะตอนไต่เต้าขึ้นมาเป็นเจ้าสัวนั้นไม่ได้ทำความดีเอาไว้เลย มีแต่เอารัดเอาเปรียบเขาไปทั่ว อย่างตอนค้าตอนขาย เจ้าสัวก็เอากำไรเกินควร ซ้ำยังเคยกักตุนสินค้า ยังอะไรๆอีกหลายอย่าง ทุกอย่างที่เจ้าสัวดำเนินธุรกิจไม่ว่าจะเป็นอะไรประเภทไหน มันมีแต่เล่ห์เหลี่ยมและกลยุทธ์ซุกซ่อนที่จะส่งให้เจ้าสัวก้าวขึ้นมาเป็นผู้มั่งคั่งด้วยทรัพย์ศฤงคารทั้งสิ้น       "ยังไม่สายที่ฉันจะไปสวรรค์ใช่ไหม" เจ้าสัวเปรยกับนางนิตยาหลังจากฝันถึงการรับปากในคำเตือนของพระอินทร์ในเย็นวันหนึ่ง โดยที่เจ้าสัวไม่ได้เล่าความฝันให้นางนิตยาฟัง        นางนิตยาได้ยินดั่งนั้นก็ให้นึกขำๆ "จะมานึกอยากไปสวรรค์อะไรเอาตอนนี้คนอย่างเจ้าสัวไม่มีวันได้ไปสวรรค์หรอก"        "ต้องได้สิ มันยังไม่สายที่ฉันแก่ปูนนี้แล้วจะมาเร่งทำความดี ขอเพียงเธออย่าขัดฉันเท่านั้นเป็นพอ..." เจ้าสัวตอบ        แล้วตั้งแต่เย็นนั้นเป็นต้นไป เจ้าสัวก็ให้คนขับรถพาไปตระเวนซื้อที่ดินที่เคยขายๆเอากำไรกลับคืน แน่นอนมันย่อมเป็นที่ดินที่เจ้าสัวเคยรับจำนองแล้วหลุด หลุดแล้วก็ขายต่อให้คนอื่นไป แม้ที่ดินบางแปลงจากที่เคยมีหญ้ารกๆจะเปลี่ยนสภาพมีตึกมีอะไรขึ้นมาแทน เจ้าสัวก็ใช้ความเป็นเจ้าสัวซื้อกลับคืนมาได้หลายแปลงอยู่ ในระหว่างนั้นเจ้าสัวก็ดำเนินการตามหา 'เจ้าของเดิม' ที่เคยเอาที่ดินมาจำนองหรือขายฝากไว้กับแกแล้วหลุด ว่าให้มาไถ่มาถอนเอากลับคืนไปในจำนวนเท่ากับเงินต้น แล้วยังจะคืนดอกเบี้ยที่เคยได้จากเจ้าของเดิมมาแล้ว ทั้งหมดให้ด้วย ที่ดินบางแปลงตอนที่หลุดจำนองมีราคาเพียงแค่ 2-3 แสน แล้วตอนนี้มันปาเข้าไปเป็นล้าน สองล้าน ห้าล้าน สิบล้านเจ้าสัวก็ยินยอมซื้อกลับคืนมาแล้วให้เจ้าของเดิมเขามา ไถ่เอาไปเท่ากับเงินต้นที่เคยเอามาจำนองหรือขายฝากเมื่อครั้งกระโน้นนั้น ก็เพราะเจ้าสัวกลัวจะไม่ได้กลับขึ้นไปบนสวรรค์โดยแท้        แต่พอเจ้าสัวดำเนินการ 'คืนที่' ได้เพียงแปลงเดียว ลูกๆทั้งเจ็ดของเจ้าสัวที่แต่แรกคิดว่าพ่อจะซื้อเก็งกำไร ไม่คิดว่าจะซื้อเอาไปคืนเขา คืนให้กับเจ้าของเดิม ก็พากันแห่ไปปิดทางไปสวรรค์ด้วยการบอกระงับกับเจ้าของเดิมว่าพ่อของพวกเขาเป็นโรคประสาท แถมลูกชายคนโตยังพาเจ้าสัวไปโรงพยาบาลประสาทจริงๆ พอทางโรงพยาบาลประสาทสรุปว่าเจ้าสัวไม่ได้เป็นบ้า ลูกสาวคนเล็กก็มาพาเจ้าสัวไปศรีธัญญาอีก คราวนี้เจ้าสัวทนไม่ไหว ประกาศลั่นคฤหาสน์ราคาสี่ร้อยกว่าล้าน เลยทีเดียวว่า        "เอา ใครขืนมาหลอกกูไปโรงพยาบาลอีก! กูจะไม่ยกสมบัติให้แม่แต่ชิ้นเดียว"        ในที่สุดลูกๆของเจ้าสัวก็พากันทำตาปริบๆ ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะคิดพาเจ้าสัวแวะไปกินข้าวอร่อยๆที่โรงพยาบาลไหนๆทั้งสิ้น แล้วเจ้าสัวก็คืนที่ดินที่เคยยึดๆเขามา ให้กับเจ้าของเดิมเท่าที่พอจะดำเนินการได้ไปเรื่อยๆ เพียงแต่ลูกๆเจ้าสัวต้องช่วยกันตามไประงับไม่ให้เจ้าสัวรู้ เจ้าสัวจึงไม่รู้คิดว่าตัวคืนที่ดินเปื้อนบาปให้กับคนที่เคยยึดเขามาไปหมดแล้ว        แต่เจ้าสัวไม่ได้เร่งทำความดีด้วยการคืนที่ดินเพียงอย่างเดียว ที่ไหนมีการฝังลูกนิมิตสร้างโบสถ์ เจ้าสัวก็จะถ่อสังขารไปบริจาคเงินสร้างลูกนิมิต        สมทบทุนสร้าง พระอุโบสถ เป็นจำนวนเงินมากๆอยู่เนืองๆและการนี้ลูกๆก็ไม่กล้าที่จะตามไประงับเพราะกลัวบาป ตรงห้ามคนทำบุญบำรุงพระพุทธศาสนา มีแต่ตกนรกลูกเดียว        ระยะหลังๆเจ้าสัวเห็นใครจนใครเดือดร้อนมักจะบังเกิดความสงสาร จึงให้ความช่วยเหลือไปตามสมควรและโอกาส หนักเข้าเจ้าสัวก็คิดจะสร้างนิเวศสถานให้คนจนอยู่ นางนิตยาเลยทนไม่ไหว ถึงกับต้องออกปากกับเจ้าสัวว่า        "จะทำบุญทำทานฉันไม่ว่า ทำไมจะต้องมาคิดสร้างบ้านให้คนจนอยู่ด้วย ตอนเราจนยังไม่เห็นมีใครมาสร้างบ้านให้เราอยู่เลย"        เจ้าสัวหัวเราะ "สร้างบ้านให้คนอยู่สิดี เราจะได้มีที่อยู่สบายๆอย่างบนสวรรค์ ใครเขาก็บอกว่าถ้าอยากไปสวรรค์ให้สร้างบ้านให้คนจนอยู่เถิด พ่อเจ้าประคุณ...ทำไมจะต้องมาขัด"        นางนิตยาหน้าหงิก แล้วแหวเอาว่า "ขัดไม่ขัดฉันไม่สนหรอกเจ้าสัว ฉันสนแต่ว่าหัวเด็ดตีนขาดฉันไม่ยอมให้เจ้าสัวสร้างบ้านให้คนจนอยู่... ทำแบบนั้นเดี๋ยวเราก็กลับไปจนอย่างเก่าทันตาเห็นหรอก" นางว่าราวกับกลัวความจนยิ่งกว่ากลัวจะได้ไปอยู่สบายบนสรวงสวรรค์        เจ้าสัวนิ่งคิดแล้วก็เห็นความจริงจนต้องว่า "เออนิ มันก็จริงอย่างที่เธอพูด ถ้าใครไม่อยากจนมันก็ต้องหา ถ้าใครอยากมีบ้านมันก็ต้องเก็บให้เป็น งั้นฉันไปทำความดีอย่างอื่นบ้างก็ได้"        "เจ้าสัวยังคิดจะทำอะไรอีก" นางนิตยาทำเสียงแข็ง        แต่เจ้าสัวไม่สนใจ ยิ้มๆแล้วตอบว่า "ทำอะไรไว้เธอก็รู้เอง"        หลังจากนั้นไม่นานเจ้าสัวก็ให้คนไปเที่ยวป่าวประกาศรอบๆคฤหาสน์ที่ตัวอยู่เป็นอันดับแรก ประกาศเข้าไปจนถึงกลางสลัมที่อยู่ไกลออกไปว่า ถ้าใครอยากจะกู้เงินก็ให้มากู้ได้ เจ้าสัวแกจะไม่คิดดอกเบี้ยแม้แต่สตางค์เดียว        และนั่นเองที่ทำให้นางนิตยาถึงกับเต้นผาง...        ในที่สุดนางนิตยาก็คิดว่าถ้ายังขืนปล่อยให้เจ้าสัวมีชีวิตอยู่ต่อไป คงจะต้องกลับไปจนอย่างเก่าเพียงชั่วพริบตาเสียเป็นแน่แท้ แล้วลูกๆหลานๆ ที่ไม่เคยลิ้มรสความจนมาก่อนก็จะต้องมาพลอยลำบากยากแค้นไปตามๆกันเพราะเจ้าสัวนี่เอง คิดแล้วนางนิตยาก็ส่งมือปืนมาชักชวนเจ้าสัวให้ไป สวรรค์เร็วกว่าที่สวรรค์ได้กำหนดมา ส่วนนางนิตยาก็ไปชดใช้กรรมอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลางลาดยาว อย่างหมดโอกาสที่จะทำความดีแก้ตัวเหมือนอย่างที่ เจ้าสัวเคยทำล้างบาปเพื่อจะกลับขึ้นไปบนสวรรค์อีกครั้งหนึ่ง        แล้วนิทานเรื่องนี้ก็จบลงตรงที่ว่า        วันที่นายพรตาย เมฑิคำพรพาหน้าอิ่มความดีกลับขึ้นมาบนสวรรค์ในตอนสายและยังไม่อยากที่จะนำข่าวดีกลับไปยังที่พำนัก เพื่อบอกกับ พวกเมียๆทั้งหกที่เหลืออยู่ ว่านางเมียหลวงอย่างอเวคิตยาไม่ได้กลับขึ้นมาอีกแล้ว นางอเวคิตยาต้องกลของเมฑิคำพรที่ล่อลวง ให้ไปถูกจองจำยังโลกมนุษย์ อย่างสมใจแล้ว ต่อไปครอบครัวของเมฑิคำพรคงจะมีความสงบสุขเพราะนางเมียหลวงไม่มีโอกาสกลับขึ้นมาสร้างความวุ่นวายตบตีกับคนโน้นคนนี้อีก แต่เมฑิคำพรก็ไม่ได้บอกเหล่าเมียๆที่เหลือทั้งหกหรอกว่า โดยแก่นแท้แล้วเมฑิคำพรอยากจะได้นางฟ้าใหม่ๆเอามาเป็นเมียอีกสักนางหนึ่ง ถึงได้ไปร้องขอต่อพระอินทร์หลอกเอานางอเวคิตยาไปขังไว้ยังโลกมนุษย์        เมื่อยังไม่อยากกลับไปยังที่พำนักเพื่อนำข่าวดีไปบอกพวกเมียๆที่เหลืออยู่ทั้งหก เมฑิคำพรจึงเข้าไปเฝ้าองค์อินทร์เพื่อถวายรายงานเรื่องการไปเกิดเป็นมนุษย์มาแล้ว และทันทีที่พระอินทร์ทรงทอดพระเนตรเห็นเมฑิคำพรคลานกระดุบๆเข้ามากราบแทบพระบาท พระองค์จึงทรงตรัสถามด้วยพระพักตร์เบิกบานว่า        "เอ้า รีบกลับขึ้นมาทำไมเล่าเมฑิคำพร เพิ่งจะลงไปโลกมนุษย์เมื่อค่ำวานนี้เองมิใช่หรือท่าน?"        "พระเจ้าข้า ที่ข้าพระองค์รีบกลับขึ้นมาก็เพราะเบื่อโลกมนุษย์เหลือเกินแล้วพระเจ้าข้า" เมฑิคำพรตอบด้วยเสียงหนักแน่นราวกับจะปดพระอินทร์เนื่องจากที่รีบกลับขึ้นมาก็เพราะอยากจะมองหานางฟ้าสวยๆอีกสักหนึ่งนางให้มาเป็นเมียครบเจ็ดตามกฎสวรรค์ "เบื่อตรงไหนหรือ" พระอินทร์ทรงตรัสถามอีก        "เบื่อตรงทำความดี! ความดีบนโลกมนุษย์ทำยากทำเย็นเหลือเกินพระเจ้าข้า"        องค์อินทร์ตบพระเพลา แล้วทรงพระสรวลชอบพระทัยก่อนที่จะทรงตรัสถามอีกว่า        "แล้วจะกลับลงไปอีกไหม"        "คงไม่แล้วพระเจ้าข้า! เข็ดแล้วพระเจ้าข้า..."        เมฑิคำพรตอบเสียงหนักแน่นอีกครั้งหนึ่ง แล้วองค์อินทร์ก็ทรงพระสรวลชอบพระทัยอีกครั้งหนึ่ง จากคุณ : คนโปรดมาราโดนา - [ 11 ต.ค. 50 08:18:09 ]

ความคิดเห็นที่ 145 โถ ........................ อ้างนิทาน (?) ทีหลังก็ ตั้งกระทู้ เล่านิทานเสียเลยสิ .................. ผมอยากฟังเรื่อง "สโนวไวท์ กับ โมดุลทั้ง7" มีหรือเปล่าหละ ? หึหึ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 11 ต.ค. 50 08:54:39 ]

ความคิดเห็นที่ 146 มองต่างมุมการวิจารณ์ของพวกท่าน ๆ ทำให้หลายท่านได้ข่าวของวัด เป็นการช่วยวัดทางอ้อม และต้องการมาพิสูจน์ แล้วท่านเหล่านั้นก็ติดใจวัด เพราะทำให้เขาเกิดความสงบสุขทางใจ ที่เขาแสวงหามานาน ก็มาเจอที่วัดธรรมกาย เลยรักชาวโลกทุกคน มาร่วมใจกันทุกทางช่วยหลวงพ่อ ในการเผยแผ่ศาสนาพุทธไปทั่วโลก ถ้าเพื่อนอยากดูผลงานของวัดธรรมกาย หาทีวีช่อง DMC ดูนะคะ มีหลายอย่างที่มนุษย์ยังไม่รู้ มีหลายอย่างที่มนุษย์โดนปิดบัง มีหลายอย่างที่เรายังไม่รู้จริง อย่าปิดตา อย่าปิดใจ ลองมาสัมผัส แล้วคุณจะติดใจค่ะ ว่าการแบ่งปัน มันสงบเย็น กว่าการที่จะเอารัดเอาเปรียบกัน ขอให้ทุกคนมีสันติสุขในใจค่ะ (ขอขอบคุณรูปภาพ จาก dmc.tv) แก้ไขเมื่อ 11 ต.ค. 50 11:17:50 จากคุณ : สงบสุข (สงบสุข) - [ 11 ต.ค. 50 11:13:58 ]

ความคิดเห็นที่ 147 ^ ^ ^ อย่าลืมไปโฆษณาวัดที่เวปลานธรรมด้วยนะจ๊ะสงบสุข จากคุณ : dcm - [ 11 ต.ค. 50 11:56:29 ]

ความคิดเห็นที่ 148 ความคิดเห็นที่ 146 มองต่างมุมการวิจารณ์ของพวกท่าน ๆ ทำให้หลายท่านได้ข่าวของวัด เป็นการช่วยวัดทางอ้อม -------------------------- อย่างนั้นคนเช่นผม หรือ คุณฤทธี กับพวกเราอีกหลายๆคน ก็มีบุญคุณกับธรรมกายสินะ คนธรรมกายจะสำนึกกันไม๊เนี่ย ถึงข้อนี้ เห็นฉอดๆกันจัง ช่วยประชาสัมพันธ์เพิ่มครับ สำหรับผู้ที่สนใจทำบุญหลังคา วิหารมหา"คด" ยังยืนยันครับ ว่าเตะหมา 1 ที ได้บุญมหาศาลมากกว่าทำหลังคากับธรรมกายครบทุกโมดูล (อย่าไปทำจริงล่ะ) ช่วยประชาสัมพันธ์กันต่อเยอะๆน๊า (ขำขำนะ อย่าซีเรียส) ขอให้ตาสว่าง และพบในพุทธแท้ได้ในเร็ววันครับ จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 11 ต.ค. 50 12:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 149 สุดท้ายคือ พระสงฆ์ของพระพุทธเจ้า เน้นที่ความสมถะ สันโดษ ไอ้ภาพความอลังการ อ้างว่ารวมตัวกันมาทำสิ่งดีๆ มันเป็นแค่การสร้างภาพ ผิดจากคติพุทธที่เน้นความสันโดษ สนับสนุนการรวมกลุ่ม ไม่ใช่ธรรมไม่ใช่วินัยชองสมณะในพระพุทธศาสนา ไม่ควรค่าแก่การชื่นชมยินดี เห็นแล้วมีัแต่ความสมเพชเวทนา ว่าคนเหล่านี้บวชเสียเปล่า ไม่ได้ประโยชน์ของพระศาสนา ไม่ได้เนกขัมมะบารมี ไม่ทรงศีลทรงธรรมทรงวินัย ชอบการคลุกคลีเป็นหมู่คณะ ทำแต่เรื่องสนับสนุนสัทธรรมปฏิรูป ละเลยคำสอนของพระพุทธองค์ ชาวพุทธไม่ชื่นชมกับกิจกรรมทำนองนี้ของธรรมกายกันหรอก จากคุณ : หลังเขา   - [ 10 ต.ค. 50 22:50:35 ] +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ รักชอบกันก็เตือนกันน่ะครับ จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 11 ต.ค. 50 12:45:11 ]