ความคิดเห็นที่ 1 ธรรมอย่างหนึ่งเป็นไฉน คือ สังฆสามัคคี ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อสงฆ์พร้อมเพรียงกันอยู่ ย่อมไม่มีการบาดหมางซึ่งกันและกัน ไม่มีการบริภาษซึ่งกันและกัน ไม่มีการขับไล่ซึ่งกันและกัน ในเพราะสังฆสามัคคีนั้น ชนทั้งหลายผู้ยังไม่เลื่อมใสย่อมเลื่อมใส และชนผู้เลื่อมใสแล้วย่อมเลื่อมใสยิ่งๆ ขึ้นไป ฯ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต โมทสูตร v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 16 ต.ค. 50 16:48:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 บทว่า สํฆสฺส สามคฺคี ได้แก่ ความพร้อมเพรียงแห่งสงฆ์ คือความไม่มีแตกกัน ความมีธรรมอย่างเดียวกัน และความมีอุทเทสอย่างเดียวกัน. อรรถกถา ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ เอกนิบาต ทุติยวรรค โมทสูตร v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 16 ต.ค. 50 16:49:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า ............... ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะภิกษุนั้นต้องอาบัติแล้วถูกยกแล้ว เห็นอาบัติแล้ว และสงฆ์เข้ารับหมู่แล้ว ถ้าเช่นนั้น สงฆ์จงทำสังฆสามัคคี เพื่อระงับเรื่องนั้น. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๕   พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๕ มหาวรรค ภาค ๒ v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 16 ต.ค. 50 16:51:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 1) ความบาดหมาง ความทะเลาะ ความแก่งแย่ง ความวิวาทแห่งสงฆ์ ความแตกแห่งสงฆ์ ความร้าวรานแห่งสงฆ์ การถือต่างกันแห่งสงฆ์ การทำต่างกันแห่งสงฆ์ ย่อมมีเพราะเรื่องใด สงฆ์ยังไม่ทันวินิจฉัยเรื่องนั้น ยังไม่ทันสาวเข้าไป ถึงมูลเหตุจากมูลเหตุ แล้วทำสังฆสามัคคี สังฆสามัคคีนั้น ไม่เป็นธรรม. 2) ความบาดหมาง ความทะเลาะ ความแก่งแย่ง ความวิวาทแห่งสงฆ์ ความแตกแห่งสงฆ์ ความร้าวรานแห่งสงฆ์ การถือต่างกันแห่งสงฆ์ การทำต่างกันแห่งสงฆ์ ย่อมมีเพราะเรื่องใด สงฆ์วินิจฉัยเรื่องนั้น สาวเข้าไปถึงมูลเหตุ จากมูลเหตุ แล้วทำสังฆสามัคคี สังฆสามัคคีนั้น เป็นธรรม. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๕   พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๕ มหาวรรค ภาค ๒ v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 16 ต.ค. 50 16:53:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ท่านพระอุบาลีทูลถามว่า .............. พระพุทธเจ้าข้า พระองค์ตรัสว่า สังฆสามัคคี สังฆสามัคคี ดังนี้ ด้วยเหตุเพียงเท่าไรสงฆ์จึงพร้อมเพรียงกัน ? พระไตรปิฎก เล่มที่ ๗   พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๗ จุลวรรค ภาค ๒ v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 16 ต.ค. 50 16:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อุบาลี  ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ตรัสว่า สังฆสามัคคี สังฆสามัคคี ดังนี้ สงฆ์จะเป็นผู้พร้อมเพรียงกันด้วยเหตุมีประมาณเท่าไรหนอแล ฯ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๖ อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต อุปาลิสามัคคีสูตร v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 16 ต.ค. 50 16:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ท่านพระอานนท์ทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ตรัสว่า สังฆสามัคคี สังฆสามัคคี ดังนี้ สงฆ์จะเป็นผู้พร้อมเพรียงกันด้วยเหตุมีประมาณเท่าไรหนอแล ฯ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๖ อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต อานันทสังฆสามัคคีสูตร v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 16 ต.ค. 50 16:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อกล่าวโดยสรุปแล้ว ................   "สังฆสามัคคี" ก็คือสิ่งที่ "ตรงข้าม" กับ  "สังฆเภท" นั่นเอง !!!!!!! ฉนั้น ความบริสุทธิ์ถูกต้อง ในพระพุทธศาสนา จะตัดสินด้วย พระธรรมวินัย นะครับ มิใช่ ตัดสินความถูกผิด ด้วย "จำนวนคน"   (???) v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 16 ต.ค. 50 17:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สรุปในสรุป 1) สังฆสามัคคี มีขึ้นก็เพื่อ รับภิกษุเข้าหมู่สงฆ์ หลังจาก ระงับอธิกรณ์แล้ว ภิกษุนั้นต้องอาบัติแล้วถูกยกแล้ว เห็นอาบัติแล้ว แต่ นายไชยบูลย์ ปฏิเสธการพิจารณาอธิกรณ์ มาโดยตลอด นั่นก็หมายความว่า นายไชยบูลย์ ยังต้องอาบัติอยู่ และอาบัตินั้นๆก็ยังมิได้ถูกยก ฉนั้น การประชุมรวมหมู่ภิกษุใดๆก็ตามของพวกนายไชยบูลย์ จึงเรียกว่า สังฆสามัคคี ไม่ได้ 2) หากแม้น เหล่าสาวกอลัชชี จะอ้างว่า ภิกษุมากมายเหล่านั้น ยอมรับนายไชยบูลย์เข้าหมู่แล้ว ร่วมสังฆกรรมกับนายไชยบูลย์แล้ว แต่ตราบใดที่ .................... ความบาดหมาง ความทะเลาะ ความแก่งแย่ง ความวิวาทแห่งสงฆ์ ความแตกแห่งสงฆ์ ความร้าวรานแห่งสงฆ์ การถือต่างกันแห่งสงฆ์ การทำต่างกันแห่งสงฆ์ ย่อมมีเพราะเรื่องใด สงฆ์ยังไม่ทันวินิจฉัยเรื่องนั้น ยังไม่ทันสาวเข้าไป ถึงมูลเหตุจากมูลเหตุ แล้วทำสังฆสามัคคี มีพุทธพจน์ วินิจฉัยว่า ................ สังฆสามัคคีนั้น ไม่เป็นธรรม !!!!!!! 3) ตราบใดที่นายไชยบูลย์และคณะ ยังบิดเบือนพระธรรมวินัย เผยแพร่สัทธรรมปฏิรูป ตราบนั้น นายไชยบูลย์และพวก ก็ยังได้ชื่อว่า เป็นผู้ทำ สังฆเภท อยู่นั่นเอง ฉนั้น การประชุมรวมหมู่ภิกษุ ไม่ว่าครั้งใดๆ ของกลุ่มอลัชชีเหล่านี้ ไม่มีทางที่จะเรียกว่า สังฆสามัคคี ได้เลย ชัดเจนแล้วนะครับ !!!!! 4) สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ อลัชชีไชยบูลย์ ต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากการเป็นพระภิกษุในพระธรรวินัยนี้โดยอัตโนมัติ เมื่อเป็นดังนี้แล้ว เหล่าสาวกทั้งหลาย ยังจะมีหน้ามาพูดถึง สังฆสามัคคี กระไรได้ (?) 5) ขอย้ำให้ฟังชัดๆอีกครั้งหนึ่งนะครับว่า สํฆสฺส สามคฺคี ได้แก่ ความพร้อมเพรียงแห่งสงฆ์ คือความไม่มีแตกกัน ความมีธรรมอย่างเดียวกัน และความมีอุทเทส(การสวดปาฏิโมกข์)อย่างเดียวกัน มิได้หมายความว่า การที่มีหมู่สงฆ์มารวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมอะไรบางอย่าง ก็จะมาเหมารวมว่า เป็น "สังฆสามัคคี" เป็นการรับ "อลัชชีไชยบูลย์" เข้าหมู่สงฆ์ อะไรเทือกนั้น .......... อย่ามาพูดจามั่วนิ่มแบบนี้อีกนะครับ มันไม่ดี มันไม่เหมาะ ทำไปทำมา มันก็จะกลายเป็นการ กล่าวตู่พุทธพจน์ ไปเสียอีก !!!!!!! 5) อธิบายมาพอสมควรแล้ว ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คงจะสามารถทำความเข้าใจได้ ไม่มากก็น้อยนะครับ ........... ฤทธีระทวย จากคุณ : Ritti Janson - [ 16 ต.ค. 50 17:05:27 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กระทู้ต้นเรื่อง ........................ v v v v เคยสังเกตุกันไหมว่าจะต้องมีอย่างน้อยวันละ1กระทู้สำหรับการให้ร้ายวัดพระธรรมกาย http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5896612/Y5896612.html#163 จากคุณ : Ritti Janson - [ 16 ต.ค. 50 17:12:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เยี่ยมเลยครับ จากคุณ : หลังเขา - [ 16 ต.ค. 50 17:29:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เนื้อหาเข้มข้นเช่นเคย   ยอดเยี่ยมครับ จากคุณ : yariv_80 - [ 16 ต.ค. 50 17:47:07 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สาธุ ขอบคุณคุณฤทธีค่ะ จากคุณ : oor_dt - [ 16 ต.ค. 50 17:47:15 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอได้รับความขอบคุณจาก Ritti CVD international จากคุณ : Natty_TT - [ 16 ต.ค. 50 17:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อืมม เข้าใจแจ่มแจ้งเลยค่ะ แต่ไม่รู้เหล่าสาวกอลัชชีจะยอมเข้าใจด้วยมั้ย แล้วเดี๋ยวกระทู้นี้ก็จะโดนไฟแดงพึ่บพั่บอีกตามเคย แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 50 18:02:15 จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 16 ต.ค. 50 17:53:34 ]

ความคิดเห็นที่ 16 # 12 คุณ  yariv_80 Forward mail เสร็จหรือยัง  จะออกพรรษาแล้ว ญาติโยม รออยู่ จากคุณ : ทางเลือก - [ 16 ต.ค. 50 18:36:31 ]

ความคิดเห็นที่ 17 หรือว่าคุณ Ritti จะเป็นพระภิกษุ? จากคุณ : พักผ่อน - [ 16 ต.ค. 50 18:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ^ ^ ^ ^ อย่าจุดประเด็นแบบนั้นเลยครับ !!!!!! v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 16 ต.ค. 50 18:58:29 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ชัดเจนแจ่มแจ้ง  ขอบคุณ คุณฤทธีครับ ........................................................................ ส่วนศิษย์ไชยบูลย์  คงจะรับไม่ได้  ไม่ยอมรับแถกแถฟอร์มเดิม อาการหน้าจอ  คงกระจองอแง  เพราะไม่มีอะไรมาชี้แจงเป็นชิ้นเป็นอันตามเดิม   ภาพหน้าจอ  ตอนความแตก  คงประมาณนี้  มั๊ง    หึหึ                           v                   v                   v                   v                   v จากคุณ : taken01 - [ 16 ต.ค. 50 19:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 โอ๊ว..ว มิบังอาจครับ มิบังอาจ สมาคมอันทรงเกรียตินี่ ตำแหน่งใหญ่ๆ อย่างประธาน หรือรองประธาน นี่ควรจะให้รุ่นใหญ่อย่าง คุณ ฤทธี หรือ คุณ taken01 จึงจะเป็นการสมควรครับ ผู้น้อยอย่างผมนี่ตำแหน่งอะไร ก็มิมีปัญหาครับ ยินดีปฏิบัติภาระกิจเต็มที่อยู่แล้ว ไอ้เรื่องตื้บตัวต๊ะเอ๋นี่ รับรอง จะกระทืบด้วยบาทาไร้เงาชนิดถึงไหนถึงกันเลยครับ ท่านนายก ท่านอุปนายก อ้อ เรื่องคุกก็ไม่ย่านครับ รับรองจะออกหน้าชนก่อนถึงตัวท่านนายก ท่านอุปนายกเลยล่ะครับ ลุยเต็มที่ แค่ขอให้พวกเราชาวพุทธมาผนึกพลังรักษาพุทธแท้ไว้ให้ลูกหลานเราได้ใช้ ก็สุดแสนจะ Happ๊y Happy แล้วล่ะครับ ----------- อ้อ จากภาพที่ท่านฤทธีโพสไว้ ดังที่เห็นในรูปนี้แล้ว ผมเห็นควรเรียกว่า " มหาสังฆเภท " นะครับ เพราะในประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนา ยังไม่เคยมีการจัด สัมฆเภท ขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อนเลย ควรเก็บภาพนี้ไว้เป็นประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนาเรา ว่าในช่วงประมาณปี พศ. 2500 มีการจัดมหาสังฆเภท ก่อนที่ลัทธิมารที่อ้างตนว่าเป็นพุทธนั้นจะล่มสลายไป (แหม...ในงานมหาสังฆเภทนี่ บุญเต้นกันวี๊ดๆๆ เร่าๆๆ เลยใช่ไหมล่ะ พวกสาวกจ๋า) เอ้า อย่างน้อย ผมว่าพวกเราก็โชคดีกันไม่น้อยเลยนะเนี่ย ที่เกิดมาแล้วมีโอกาสได้รับใช้พุทธศาสนาในงานสำคัญๆ ด้านการ ถอน Bigเหลือบ (เพื่อน Big บุญ) ของพุทธศาสนาครั้งใหญ่แบบนี้ นับเป็นเกรียติที่ได้ร่วมงานกันจริงๆนะเนี่ย เพื่อนๆจ๋า คุณไม่ดูดดื่ม หรือคุณ AYXZ (เขียนถูกป่าวหว่า) ช่วยกรุณาโพสข้อความที่ผมตำหนิพระ 100,000 "คน" เหล่านี้ เพื่อเป็นการประจานผมอีกครั้งด้วยเถิดครับ และขอให้ได้อานิสง ด้วยการ “ได้ตื่น” “ได้พบกับพุทธแท้” ตาสว่างกันทุกๆท่านนะ ส่วนชาวพุทธแท้อยู่แล้วนั้นขอให้เจริญในธรรมกันถึงขั้นนิพพานกันทุกๆท่านนะ (ภาพ " มหาสังฆเภท ") จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 16 ต.ค. 50 20:49:47 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้อีกเช่นเคย อ่านแล้วรู้สึกว่า พระพุทธเจ้านี่ฉล๊าดฉลาด สอนได้ครอบคลุมมาก ไม่ให้ใครมาเหมาเอามั่วๆได้ง่าย ช่วยให้แยกของเทียม ออกจากของแท้ได้ง่าย จากคุณ : แมวเก้าแต้ม - [ 16 ต.ค. 50 21:12:02 ]

ความคิดเห็นที่ 23 5) อธิบายมาพอสมควรแล้ว ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คงจะสามารถทำความเข้าใจได้ ไม่มากก็น้อยนะครับ ........... ฤทธีระทวย จากคุณ : Ritti Janson  - [ 16 ต.ค. 50 17:05:27 ] +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ริททีว่ามาก็ถูกอยู่นี่ครับ เพียงแต่ผมเห็นท่านก็ยังดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสอยู่ จัดว่าเป็นตำแหน่งพระสังฆาธิการ ไม่ยักรู้ว่าท่านปราชิกไปแล้ว? อาจจะเป็นเพราะผมชอบอะไรแบบเป็นทางการก็เป็นได้กระมังครับ ไม่อย่างนั้นคงไม่ศัพท์ว่า official กับ eligible. จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 16 ต.ค. 50 21:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อ้อ จากภาพที่ท่านฤทธีโพสไว้ ดังที่เห็นในรูปนี้แล้ว ผมเห็นควรเรียกว่า " มหาสังฆเภท " นะครับ เพราะในประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนา ยังไม่เคยมีการจัด สัมฆเภท ขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อนเลย ควรเก็บภาพนี้ไว้เป็นประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนาเรา ว่าในช่วงประมาณปี พศ. 2500 มีการจัดมหาสังฆเภท ก่อนที่ลัทธิมารที่อ้างตนว่าเป็นพุทธนั้นจะล่มสลายไป (แหม...ในงานมหาสังฆเภทนี่ บุญเต้นกันวี๊ดๆๆ เร่าๆๆ เลยใช่ไหมล่ะ พวกสาวกจ๋า) เอ้า อย่างน้อย ผมว่าพวกเราก็โชคดีกันไม่น้อยเลยนะเนี่ย ที่เกิดมาแล้วมีโอกาสได้รับใช้พุทธศาสนาในงานสำคัญๆ ด้านการ ถอน Bigเหลือบ (เพื่อน Big บุญ) ของพุทธศาสนาครั้งใหญ่แบบนี้ นับเป็นเกรียติที่ได้ร่วมงานกันจริงๆนะเนี่ย เพื่อนๆจ๋า คุณไม่ดูดดื่ม หรือคุณ AYXZ (เขียนถูกป่าวหว่า) ช่วยกรุณาโพสข้อความที่ผมตำหนิพระ 100,000 "คน" เหล่านี้ เพื่อเป็นการประจานผมอีกครั้งด้วยเถิดครับ และขอให้ได้อานิสง ด้วยการ “ได้ตื่น” “ได้พบกับพุทธแท้” ตาสว่างกันทุกๆท่านนะ ส่วนชาวพุทธแท้อยู่แล้วนั้นขอให้เจริญในธรรมกันถึงขั้นนิพพานกันทุกๆท่านนะ (ภาพ " มหาสังฆเภท ") จากคุณ : ใบไม้กำนั้น  - [ 16 ต.ค. 50 20:49:47 ] ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ด้วยความหวังดีนะครับ ต่อให้ผมเก่งกล้าสามารถสักเท่าใดก็ใจไม่กล้าเท่าคุณแน่ๆ ขนาดกล่าวคำข้างต้นออกมาได้ ตามสบายนะครับ รักชอบกันก็บอกๆกันไว้ เจออีกสิบกัปข้างหน้าจะได้ไม่ต่อว่ากันว่าทำไมไม่เตือน จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 16 ต.ค. 50 22:02:32 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เพิ่มเติมนะครับเรื่องความสามัคคี จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 16 ต.ค. 50 22:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ภิกษุต่างสามัคคี ชื่นชมยินดีกัน ไม่วิวาทกัน เป็นเหมือนน้ำนมกับน้ำ ต่างมองดูกันด้วยนัยน์ตาอันเปี่ยมด้วยความรักอยู่ กระผมขออนุโมทนาสาธุการกับสามัคคีธรรมที่เหล่าพุทธบุตรได้ประพฤติตามธรรมแห่งองค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และขอแสดงภาพนี้บูชาแด่พระรัตนตรัยด้วยจิตเคารพเลื่อมใสครับ จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 16 ต.ค. 50 22:11:19 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เพิ่มเติมนะครับ ผมแสดงพุทธพจน์ตามตรง ไม่ได้เพิ่มเติมดัดแปลงอะไร เอามาให้เห็นกันชัดๆ จะกล่าวหาว่าผมบิดเบือนมั่วนิ่ม หรือกล่าวตู่พุทธพจน์อะไรโปรดระวังคำพูดด้วย จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 16 ต.ค. 50 22:17:18 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอนิมนต์หลวงพี่ฤทธี ช่วยไปถวายความรู้เรื่องสังฆสามัคคี  แก่คณะสงฆ์ก็แล้วกัน   พระเถระผู้เสียสละ บวชเรียนมานานหลายสิบพรรษา  ทำประโยชน์แก่การคณะสงฆ์มากมายจนได้รับการยอมรับให้เป็นผู้ปกครองสงฆ์ในแต่ละระดับ  ด้วยภูมิธรรมของท่านคงจะแยกแยะออกเองแหละว่าอะไรเป็นอะไร แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 50 22:29:13 จากคุณ : AYXC - [ 16 ต.ค. 50 22:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 29 บิดเบือนพระธรรม พาคนเข้ารกเข้าพง ไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ หลงทางคนเดียวไม่พอ พาคนหลงตามไปอีก ชาวธรรมกายมั่นใจแล้วหรอ ว่าแนวทางของธรรมกายคือแนวทางที่ถูกต้องสมบูรณ์แล้วจริง ๆ จากคุณ : Kengmanny - [ 16 ต.ค. 50 22:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตอบคุณใบไม้กำนั้น   ความคิดเห็นที่ 21 คุณไปด่าพระที่มาประชุม ว่าทำสังฆเภท ด่าพระเป็นกาฝาก เป็นเนื้องอกของพระพุทธศาสนา เป็นบัวใต้น้ำ ตามความเห็นที่ 218 ของคุณในกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5896612/Y5896612.html ************************************************ พระที่มาวันประชุมนั้น แต่ละท่านก็ไม่ได้พรรษาน้อยๆ  บวชเรียนมาเป็นสิบพรรษา  บางท่านก็เป็นผู้ปกครองสงฆ์  สติปัญญาและภูมิธรรมของท่านต้องรู้จักดีว่าอะไรคือ สังฆเภท  อะไรเป็นสังฆสามัคคี จากคุณ : AYXC - [ 16 ต.ค. 50 22:42:21 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เรื่องที่ยกพระไตรปิฏมาทั้งหมด พระเถระท่านก็ผ่านการศีกษามาแล้วทั้งนั้นแหละ ทำไมท่านจะแยกแยะไม่ได้ จากคุณ : AYXC - [ 16 ต.ค. 50 22:47:09 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อ่ะ ไปตอบที่กระทู้เดิมไปแล้วล่ะสิ อย่างนั้นขออนุญาิตมาโพสที่นี่พร้อมเพิ่มเติมเล็กน้อยนะจ๊ะ เอ้าๆ ขอตอบนะครับ คุณ AYXC และคุณไม่ดูดดื่ม (ขออภัยผมว่าชื่อนี้น่ารักดี ไม่ได้เรียกเพราะต้องการจะว่าหรือแซวแต่อย่างใดนะจ๊ะ ผมเป็นเปลือกไม้แลกเปลี่ยนให้ก็ได้จ้ะ) ประการแรก ของคุณ AYXC (สรุปว่า  พระเถระผู้ใหญ่ที่ทำคุณประโยชน์ให้พระพุทธศาสนาจนได้รับพระราชทานสมณศักดิ์  ก็ยังคงเป็นบัวใต้น้ำ ?  มีแต่คุณใบไม้เท่านั้นที่ฉลาดเหนือพระ และฆราวาสนับแสนคน ?) ขอตอบนะครับ ว่าด้วยกำลังน้อยนิดอย่างผมมิบังอาจจะมีปัญญาอยู่เหนือ "คน" เป็นแสนๆหรอกจ้ะ แหม...คิดมากไปได้พ่อหนุ่มเอ๊ย แต่ในเมื่อมันเป็นเรื่องของ 1.ฆารวาสโดนต๊ะเอ๋หลอกมาทำมหาสังฆเภท 2.พระโดนต๊ะเอ๋หลอกมาทำมหาสังฆเภท เอาล่ะคราวนี้ โดย Logic แล้ว ผมไม่ได้อยู่เหนือคนกลุ่มนั้น แต่คนกลุ่มนั้น ก็ยังโดนต๊ะเอ๋หลอกได้ เอ้า พระเดชพระคุณท่าน AYXZ ช่วยสรุปให้ผมหน่อยว่า ในสมการนี้ ใครเจ๋งสุด ใครจอกสุด ผู้น้อยมิบังอาจ (เอ้า ก็ถูกใจกันไป ฮ่าฮ่า) ประเด็นที่สอง ของคุณ AYXZ (คุณใบไม้ กำลังบอกว่าพระเถระที่บวชมานานหลายสิบพรรษา เสียสละเพื่อประโยชน์สุขของพุทธบริษัท จนได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ปกครองสงฆ์ในแต่ละระดับ คือ กาฝาก  หรือ เนื้องอก ?   ส่วนคุณใบไม้ คือเนื้อแท้ของพุทธศาสนา ยังงั้นรึ ? ไม่เหยียบย่ำ คนทั้งประเทศไปหน่อยรึจ๊ะ เพราะคนเค้ากราบไหว้กันทั่วประเทศ) อ่ะ ขอตอบนะครับ ในความเป็นจริง ไม่มีใครเป็นเนื้อแท้ของพระพุทธศาาสนาหรอกครับ เนื้อแท้ของพุทธ คือศาสตร์แห่งการพัฒนาจิตใจสู่ระดับสูงสุด แค่ใครเข้าใจในศาสตร์แห่งพุทธ ฝึกฝน แล้วรู้จักการนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตของเราได้ มันก็จบ มันมีเท่านั้นจริงๆ ไม่ต้องไปนั่งหลงบุญ หลงลูกแก้วอะไรนั่นเลย ย้ำอีกครั้งว่าเนื้อแท้ที่คุณพูดถึงน่ะ ไม่ได้หมายถึง ฆารวาส ไม่ใช่หมายถึงสงฆ์ แต่เนื้อแท้คือศาสตร์ ที่คุณเรียนได้ ใช้พัฒนาตนเอง และสำเร็จในชีวิตด้วยศาสตร์แห่งพุทธได้ (ไม่ต้องรอหลายกัปป์หลายกัลป์เลย) พอผมเห็นสิ่งที่คุณต้องทำแล้ว ผมถึงได้รู้สึกสงสารว่า แทนที่คุณจะใช้เวลาในการเรียนรู้ศาสตร์ แห่งพุทธ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับชีวิต กลับต้องมาติดอยู่กับพื้นฐานราคาถูกของพุทธ กับการนั่งสมาธิเพ่งลูกแก้ว และกลับต้องมานั่งตะโกน " โมดุล เราทำได้ เฮ้ " มันเป็นความบัซซบ จมลึกเข้าไปอยู่ในกลางใจผมเลยล่ะครับ อันนี้ผมคงแค่บอกได้ว่า ผมยืนยันครับ ว่าคุณเป็นคนดี แต่ไอ้ต๊ะเอ๋นั่นมันหลอกใช้คุณทำลายศาสนาพุทธของคุณอยู่ครับ..และผมกำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะช่วยคุณอยู่ ได้ยินผมไม๊ (ผมบอกใส่หูซ้ายนะครับ..ที่เหลือเชิญตามสะดวก) อ้อ...ดังนั้นในประเด็นที่สอง กาฝากเนี่ย ผมรับรองครับว่าไม่ได้เจาะจงเข้าไปในประเด็นนี้ ประโยคนั้นผมอธิบายถึงการแยกพุทธ ที่ไม่ได้เป็นศาสตร์ออกมาสองส่วน คือพุทธแบบที่พึ่งทางใจ กับพุทธกาฝาก ใครจะเป็นใครจะไม่เป็น ก็เป็นประเด็นที่ต้องไปพิจารณากันเอง ไม่เกี่ยวกับประเด็นนี้หรอก และไม่ได้พาดพิงไปถึงด้วยครับ คำว่า กาฝาก เนื้องอก มะเร็งศาสนา เดียรถีย์ อลัชชี มารศาสนา สันดานกา สิบแปดมงกุฏ เก้อยาก (พอดีกว่าเน๊าะ เด๋วต๊ะเอ๋เบาหวานพุ่งตาย) ถ้าใช้โดยปกติแล้ว ผมหมายถึงเจ้าต๊ะเอ๋ ตัวเดียวอันเดียวเท่านั้นล่ะครับ พระรำดาบ พระนักปั๊ม ผมไม่สนใจหรอก ปัญหาคู่บ้านคู่เมืองอยู่ละ ขำขำ (แต่ไอ้ลัทธิมารนี่ไม่ขำไง) ดังนั้นประเด็นนี้เข้าใจตรงกันนะครับ ว่าพระที่เข้าร่วมงานนี้ ผมจำกัดความไว้แค่ไหน ก็ไม่ได้ว่าเกินนั้น เพราะแม้ตัวของคุณเองผมก็ยืนยันว่าไม่จะไม่ใช้คำ หรือรู้สึกอย่างนี้กับคุณหรอกครับ คุณผู้เสียหาย ท้ายนี้ อยากจะบอกว่า AYXC จะพยายามต้อนผมไปก็น่ากลัวว่าจะไม่ได้อะไรมากไปกว่านี้หรอกครับ เพราะที่จำเป็นต้องพูดก็พูดไปหมดแล้วล่ะ (ผิดใจมาก ก็โอ๋ๆละกันนะจ๊ะ) หลังจากนี้แล้ว ให้คนอ่าน แล้วตัดสินว่าผมเลว ก็ได้ครับ ผมนี่มันเลวเอ๋งเลย รับทราบครับผม ส่วนใครเห็นด้วยกับผม อยากมาช่วยกันดูแลพุทธศาสตร์ ให้มันสืบลูกสืบหลานไป ก็ขออนุโมนทนาสาธุอย่างยิ่งๆๆๆนะครับ ฉลาดเหนือหรือเปล่า เนื้อแท้หรือเปล่า อันนี้คงมีแต่พระอัลเลาะห์เท่านั้นที่รู้ (นี่แน่ะ หาบาทาข้ามศาสนาซะเลย) แต่เรื่องรักในพุทธศาสตร์เนี่ย อ่ะอันนี้ใครคิดว่ามากกว่าใบไม้ ก็คงต้องมาประชันกันหน่อยล่ะ อันนี้ยอมกันยากหน่อย ต้องพิสูจน์กันก่อนถึงจะยอมให้ ส่วนประเด็นของคุณ ไม่ดูดดื่มนั้น ผมขอดึงของเดิมมาแปะนะครับ ว่า ยังยืนยันครับ ว่าที่ได้พูดไปทั้งหมด ทุกประโยค ทุกคำ ทุกตัวอักษร ถ้าไม่ถูกต้อง หรือ "แค่เป็นความเข้าใจผิด" ตอนตายไม่ต้องมีใครมารับ ตายแล้วจะเดินไปนรกด้วยขาของตัวเองนี่ล่ะ (ในกรณีที่ผีไม่มีขา จะใช้วิธีลอยไปแทนเดินครับ) สบายใจนะครับ และขอบคุณที่เป็นห่วง เอ้า ก็ขอให้อานิสงค์ในความพยายามดี (ถึงแม้ผลจะร้ายต่อพุทธศาสตร์ก็เถอะ) ช่วยให้คุณ AYXC และคุณไม่ดูดดื่ม ได้พบกับพุทธแท้ในเร็ววัน หากโชคดีหลังพบพุทธแท้แล้ว ก็ขอให้ลุได้ถึงนิพพานในเร็ววันด้วยเทอญ จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 16 ต.ค. 50 23:41:30 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ความคิดเห็นที่ 24 อ้าง "เนมิราชชาดก" อีกแล้วหรือ ? ดูท่าว่า จะเป็นคนที่ดื้อด้านสอนยาก ผมอธิบายมากี่เที่ยวแล้ว ว่ากรณีนี้เอามาใช้ไม่ได้ สมณพราหมณ์ผู้มีศีล จะมารวมตัวกัน ทำผิดพระธรรมวินัยได้อย่างไร ? v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 02:33:26 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ธรรมอันลามก อธิบายว่า ว่าโดยกรรมบถ ได้แก่ อกุศลกรรมบถ ๑๐. v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 02:35:05 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ในหมู่สงฆ์นั้น มีอลัชชีซึ่ง ........................... อทินนาทาน ถือเอาของที่เขามิได้ให้ กาเมสุมิจฉาจาร ประพฤติผิดในกาม ฯลฯ v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 02:37:47 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ยังจะมีน้ำหน้า มาอ้างความเป็น สมณพราหมณ์ผู้มีศีล อีกหรือครับ ? เก้อ-ยาก จริงๆนะครับ !!!!!!! v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 02:40:50 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ดูเอาเองเถิด v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 02:41:58 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อัดธรรมโกย อย่างนี้ เป็น ต้นธาตุ-ต้นธรรม อย่างนี้ มันโกหกทั้งเพ แล้วยังจะมาอ้างว่าเป็น สมณพราหมณ์ผู้มีศีล อีกหรือครับ ? ไม่ค่อยจะอาย "ใคร" เลยนะครับ !!!!!!! v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 02:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 40 กลั่นอาหารทิพย์ ไปถวายพระพุทธเจ้า (????) อย่างนี้พูดจาเพ้อเจ้อไหมครับ ? เป็น อกุศลกรรมบถ ไหมครับ ? v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 02:46:36 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เรื่อง กลั่นอาหารทิพย์ ไปถวายพระพุทธเจ้า (????) ไม่ใช่เรื่องที่ พระอดิศักดิ์ หรือว่าใครๆยกขึ้นมาพูดใส่ร้ายนะครับ นี่เป็นเรื่องจริงที่ทุกวันนี้ ก็ยังทำกันอยู่ ........................ เขาทำมาหากิน กันทุกๆวันอาทิตย์แรกของต้นเดือนครับ อันนี้ เหล่าสาวกของสำนักอลัชชี เป็นคนคอนเฟิร์มเองเลยนะครับ อึ้ง ในความตลบแตลงฉ้อฉล ของอลัชชี ไหมล่ะ ? v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 02:51:16 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ความเลวของอลัชชี ไม่เคยมีวันจบสิ้น ................. v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 02:52:39 ]

ความคิดเห็นที่ 43 . จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 02:52:56 ]

ความคิดเห็นที่ 44 และเครื่องหมายการค้าที่สำคัญของสำนักอลัชชีก็คือ เป็นพวก มิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดจากคลองธรรม !!!!!! v v v v กรณีธรรมกาย : ทำไมผมจึงกล้าสรุปว่าเจ้าสำนักนี้... ปาราชิก http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y4661041/Y4661041.html   คำสอนนายไชยบูลย์ "บิดเบือน-แตกต่าง" ไปจากคำสอนของพระพุทธองค์ อย่างไร??..   ธรรม(กลาย) เพื่อ(มอมเมา)ประชาชน ฉบับพระรัตนตรัย(เป็นอัตตา) http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5779543/Y5779543.html คนบาปมันจะด้านอาจารย์ไหน ชื่อเสียงโ่ด่งดังขนาดไหนไม่ต้องไปกลัว   ตราบใดที่พุทธพจน์เรื่องนิพพานยังอยู่ให้อ้างอิง http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5832762/Y5832762.html พวกสัทธรรมปฏิรูป แต่งเรื่องลบหลู่พระพุทธเจ้า http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5705521/Y5705521.html ธรรมกายต้นตำหรับสัทธรรมปฏิรูป เซย์โนว...ชีปัดระเบิด!!!!!   ด่ายายปรมาณูซะเตลิดแต่ไม่สำเหนียกกำพืดตัวเอง!!!!!! http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5787662/Y5787662.html   ... จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 02:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ความคิดเห็นที่ 30 พระที่มาวันประชุมนั้น แต่ละท่านก็ไม่ได้พรรษาน้อยๆ   บวชเรียนมาเป็นสิบพรรษา  บางท่านก็เป็นผู้ปกครองสงฆ์   สติปัญญาและภูมิธรรมของท่านต้องรู้จักดีว่าอะไรคือ สังฆเภท   อะไรเป็นสังฆสามัคคี AYXC ******************************************* แต่ผมกลับเห็นว่า 1) อลัชชีทั้งหลายที่ถูกจับสึกหาลาเพศไป ก็ล้วนแล้วแต่ เคยเป็นภิกษุมากพรรษามาด้วยกันทั้งนั้นนี่ครับ ฉนั้น ความมากพรรษา มันไม่ได้ประกันหรอกครับว่า จะรู้จักดีว่าอะไรคือ สังฆเภท  อะไรเป็นสังฆสามัคคี !!!!! 2) บางท่านก็เป็นผู้ปกครองสงฆ์  แล้วอย่างไรเล่าครับ ? พระสังฆาธิการ ถูกถอดถอนไปกี่รูปเล่าครับ ในขณะเกิดเรื่อง กรณีธรรมโกย มันแสดงให้เห็นว่าอะไรครับ ? สามารถสรุปอย่างที่คุณพยายามจะสรุปว่า พระสังฆาธิการ เหล่านี้ จะรู้ผิดชอบชั่วดีไปเสียทั้งหมดไหมครับ ? 3) ที่จริงแล้ว การที่ภิกษุเหล่านี้ มาร่วมสังฆกรรมกับสำนักอลัชชี มันก็เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า ภิกษุเหล่านี้ เป็นอย่างไร ? ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 03:06:15 ]

ความคิดเห็นที่ 46 พวก สมี-อลัชชี เหล่านี้ ก็ล้วนแล้วแต่ไม่ได้มี พรรษาน้อยๆ   ต่างก็บวชเรียนมาเป็นสิบพรรษา เหมือนกับ นายไชยบูลย์ มิใช่หรือ ? แต่ทำไม คนเหล่านี้จึงไม่รู้เล่าว่า สิ่งใดคือ ปาราชิก ทั้งๆที่นี่เป็นคำสอนแรกที่อุปัชฌาย์ จะต้องบอกสอนแก่ผู้บวชใหม่ทุกคน (???) แปลกมาก ที่อลัชชีจะเป็นอย่างนี้ทุกคน รวมทั้งนายไชยบูลย์ด้วย !!!!!!! v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 03:14:44 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ความคิดเห็นที่ 25 เพิ่มเติมนะครับเรื่องความสามัคคี ไม่สูบไม่ดื่ม **************************************************** ทำสังฆเภท แล้วยังมาอ้างความสามัคคีอย่างนั้นหรือครับ ? เก้อ-ยาก ดีนะครับ ................................. อย่างนี้ ที่เขาเรียกว่า "สามัคคี-สังฆเภท" หรือจะเรียกว่า "สังฆเภท-สามัคคี" มันก็เหมาะแล้วนี่ครับ ในเมื่อ ไม่สูบไม่ดื่ม กล้าที่จะอ้างอย่างนี้ เช่นนั้นแล้ว โจรมันก็คงจะกล้าหน้าด้าน อ้างความสามัคคีได้บ้างน่ะสิครับ !!!!!! โจรมันก็ สามัคคีกันปล้นชาวบ้านชาวเมืองนะครับ เหมือนกับที่เหล่าอลัชชี สามัคคีกันปล้นพระธรรมวินัย   ของชาวพุทธเถรวาท นั่นแหละครับ .................... v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 03:24:02 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ความคิดเห็นที่ 27 เพิ่มเติมนะครับ ผมแสดงพุทธพจน์ตามตรง ไม่ได้เพิ่มเติมดัดแปลงอะไร เอามาให้เห็นกันชัดๆ จะกล่าวหาว่าผมบิดเบือนมั่วนิ่ม หรือกล่าวตู่พุทธพจน์อะไรโปรดระวังคำพูดด้วย ไม่สูบไม่ดื่ม ************************************************ ผมไม่ต้องระวังคำพูดหรอกครับ !!!!!!! 1) การอ้างว่า การรวมหมู่ภิกษุทำกิจกรรมอะไรๆ ว่าเป็น สังฆสามัคคี เป็นการกล่าวตู่บิดเบือน พระธรรมวินัยไหมครับ ? 2) การจัดงานใหญ่โตของสำนักอลัชชี เรียกว่า สังฆสามัคคี ได้ไหมครับ ? 3) พระพุทธเจ้าตรัสถึง สังฆสามัคคี ว่าหมายถึง การจัดงานใหญ่แบบที่สำนักอลัชชีทำอยู่นั่นไหมครับ ? 4) แล้วการที่ ไม่สูบไม่ดื่ม เอาคำว่า สังฆสามัคคี มาอ้างแบบนี้ ควรจะเรียกว่า การกล่าวตู่พุทธพจน์ บิดเบือน พระธรรมวินัย หรือไม่ครับ ? 5) เหมือนกรณีคนถ่อยฯ ไม่สูบไม่ดื่มยกมาทำไมครับ ? จะเอามากล่าวหาใครครับ ? ก็ในเมื่อคนในนี้ กำลังกล่าวตำหนิอลัชชีอยู่ หรือว่า ไม่สูบไม่ดื่ม จะบอกว่าอลัชชีเป็น บรรพชิต ? อลัชชีเป็นคนถ่อยนะครับ การที่คุณยกพระบาลีมาปกป้องคนถ่อย นับได้ว่า เป็นการกล่าวตู่บิดเบือนพระธรรมวินัยไหมครับ ? อย่ามั่ว และ อย่างง นะครับ .............................. เฮอะ เฮอะ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 03:42:20 ]

ความคิดเห็นที่ 49 Satu Anumotana with Ritti in Dhamma presentation  krab จากคุณ : จักรแก้ว - [ 17 ต.ค. 50 08:39:19 ]

ความคิดเห็นที่ 51 วุท (วุฒพรรษา2) = วุท (mr_wnew) จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 10:00:16 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ไม่ยักรู้ว่าท่านปราชิกไปแล้ว? ไม่สูบไม่ดื่ม ************************************* v v v v โอณิรักขวิภาค            [๑๑๗] ที่ชื่อว่า ภิกษุผู้รับของฝาก ได้แก่ภิกษุผู้รักษาทรัพย์ที่เขานำมาฝากไว้            ภิกษุมีไถยจิตจับต้องทรัพย์นั้น มีราคา ๕ มาสก หรือเกินกว่า ๕ มาสก ต้องอาบัติทุกกฏ ทำให้ไหว ต้องอาบัติถุลลัจจัย ให้เคลื่อนจากฐาน ต้องอาบัติปาราชิก. เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑  บรรทัดที่ ๖๓๕๐ - ๖๕๘๑.  หน้าที่  ๒๔๗ - ๒๕๖. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=1&A=6350&Z=6581&pagebreak=0                       v                       v                       v                       v                       v                       v จากคุณ : taken01 - [ 17 ต.ค. 50 11:02:09 ]

ความคิดเห็นที่ 55 จาก คห.50 ที่โดนสอยทิ้งไปเพราะรำคาญรูป(ใหญ่ๆ และไม่เกี่ยวกับกระทู้เล๊ย) เก็บข้อความไว้ให้นาจ๊ะ เด๊วจะหาว่าสมาชิกสมาคมตื้บตัวตะเอ๋ทองคำฯ ใจแคบ ------------------------------------------------------------ น่านับถือ.....กับความพยายาม น่าสงสาร.....กับความฝังใจ น่าสมเพ.....ที่ตัดสินด้วยอารมณ์ และ ข้อมูลด้านลบ น่าโมโห......กับการไม่รับรู้ รับฟัง ข้อมูลข่าวสารโลกภายนอก น่าเสียดาย...ความรู้ ไม่ได้สร้างสรรค์ มีแต่หาข้อบกพร่อง เฮอ คงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ไปอธิบายที่อื่นดีก่า จากคุณ : วุท (วุฒพรรษา2)  - [ 17 ต.ค. 50 09:52:36 ] ------------------------------------------------------------ วุทก็อธิบายมาสิจ๊ะว่าเนื้อความในพระไตรปิฎกที่ จขกท. เค้ายกมามันเป็นด้านลบตรงไหน หรือว่าอธิบายม่ายเป็น เป็นแต่ฟลัดกระทู้ (จนอมยิ้มหายไม่รู้ตัว) กร๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆ แม๊ เสียชาติ(ที่อุตส่าห์กลับมา)เกิดจริงๆ อิอิ แล้วถ้า คห.52 โดนสอยไป ก็ไม่ต้องใจขุ่นนะจ๊ะ ทำมาให้ใหม่ตามความประสงค์(ที่อยากป่าวประกาศ)แล้ว จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 17 ต.ค. 50 12:09:38 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เมื่อคืนนี้ได้ไปฟังธรรมะจากพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่ง....ท่านพูดถึงพระเทวทัต ผู้ทำให้สงฆ์แตกแยก...ผลกรรมนี้ทำให้พระเทวทัตต้องถูกธรณีสูบ ตกลงสู่นรกอเวจี.......เชื่อว่าในภพชาติปัจจุบันนี้ เราอาจจะได้เห็นหรือได้ข่าวคนซึ่งถูกธรณีสูบ เร็ว ๆ นี้ เนื่องจากทำให้พุทธบริษัท4 ต้องแตกแยก..เพราะความมีอคติอย่างสูง คุณไม่สูบไม่ดื่ม...ดิฉันเห็นด้วยค่ะ และรู้สึกปิติใจที่เห็นการรวมสงฆ์นับแสนรูป  ซึ่งเป็นภาพที่เกิดขึ้นได้ยากในปัจจุบัน...  ผู้ใดทำได้ ผู้นั้นต้องมีบุญและบารมีอย่างมาก จากคุณ : meditation - [ 17 ต.ค. 50 13:14:40 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ทำให้สงฆ์แตกแยก(สังฆเภท) หมายถึงอะไรครับ ? จนป่านนี้แล้ว meditation ยังจะกล้าๆทำเป็นมึนอีกนะครับ !!!!!! ก็ที่ชาวธรรมโกยแอบลบ จนถูกยึดอมยิ้มนั่นไง (?) meditation ยังไม่ได้อ่าน ยังไม่ได้เห็น อีกหรือครับ !!!!!! หึหึหึหึ v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 13:28:09 ]

ความคิดเห็นที่ 58 " ผู้ใดทำได้ ผู้นั้นต้องมีบุญและบารมีอย่างมาก " โอ๊ว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ทำได้ยังไงกันเนี่ยยยยย............................... มีบุญอย่างมากๆๆ จากคุณ : เดือน (บุษกรจันทร์) - [ 17 ต.ค. 50 13:52:18 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เอ่อ เพิ่งอ่านเห็นข้อความหนึ่งของ คุณไม่ดูดดื่ม (ข้อความนี้ครับ) " ขนาดกล่าวคำข้างต้นออกมาได้ ตามสบายนะครับ รักชอบกันก็บอกๆกันไว้ เจออีกสิบกัปข้างหน้าจะได้ไม่ต่อว่ากันว่าทำไมไม่เตือน " อ่ะ ไ้อนี่ล่ะ ที่่ลัทธิต๊ะเอ๋ทองคำ ทำอะไรที่มัน ต๊ะเอ๊...ต๊ะเอ๋ ไว้ ขอเกริ่นประเด็นของเรื่องก่อนนะ ต๊ะเอ๋สอนว่า เราเลือกได้สองทาง คือหนีวัฏฐะ กับ รื้อวัฏฐะ อย่างองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น คือหนีวัฏฐะ จะช่วยคนก็ช่วยได้แค่เล็กน้อย แต่อย่างเจ้า ต๊ะเอ๋อวตาร นั้นเป็นผู้สั่งสมบุญ สุดๆๆๆๆ ซึ่งในชาติปัจจุบันก็ยังกำัลังสั่งสมบุญอยู่ สลับกันมาเกิดกับหลวงพ่อสด (มันลามอาจารย์ของมันไปไม๊เนี่ย) เป็นศิษย์อาจารย์สลับกันไป (เช่นชาตินี้ตะเอ๋เป็นหลานศิษย์) มีวัตถุประสงค์เพื่อ "รื้อวัฏฐะ" เป็นที่สุด ซึ่งถ้าเทียบใ้ห้คนฟังแล้วเข้าใจง่ายๆคือปิด เซอร์ฟเวอร์ (ผู้นำบุญในธรรมกายมักใช้คำนี้อธิบายให้เห็นภาพ) เพื่อปลดปล่อยคนให้หมดในคราวเดียวกัน (โถ...ไอ้ต๊ะเอ๋NEO แม่ม..ติดเมททริกส์ก็ไม่บอก) ซึ่งผู้มีบุญพอจะทำการใหญ่เช่นนี้ได้ ต้องสั่งสมบุญมาแบบ โอ้โห ระดับที่พระพุทธเจ้ายังต้องอายเลยน่ะ ดังนั้น จึงเป็นที่มาของขบวนการรื้อวัฏฐะ ซึ่งหวังจะรวมคนทั้งโลกมาเข้าขบวนการ ถ้าเหนื่อยก่อน ท้อแท้ก่อน ก็อนุญาต ให้เข้าสู่นิพพานก่อนได้ นะจ๊ะ (โถ..ไอ้เทวทัต) แต่ถ้าอยู่กับต๊ะเอ๋ ยังมีใจสู้ไปด้วยกัน ก็จะมีที่พักเหนื่อยเป็น ดุสิตบุรี นะจ๊ะ นะจ๊ะ (ใครมีกำลังซื้อพอ ให้จองเฟสวงบุญพิเศษไว้ นะจ๊ะ นะจ๊ะ) ที่พักต้องดี ที่อยู่ต้องดี สาธรณูประโภคต้องพร้อม เพราะต้องร่วมกันเก็บสะสมบุญไปอีก หลาย หลาย หลาย อสงไขย์ เพื่อรวมพลังไปถล่ม "ไอ้ดำ" และปิดเซอร์ฟเวอร์รื้อวัฏฐะทิ้งให้หมดสิ้นไป นะจ๊ะ นะจ๊ะ ที่นี้ ต๊ะเอ๋ มันก็ถามว่า "ใครจะไปกับต๊ะเอ๋บ้าง" โอ้โหไปกับต๊ะเอ๋มันหมดเลย ไปสบาย ทำบุญสะดวก ถึงที่สุดแล้ว อย่างกระจอกสุดๆ ท้อแท้ เบื่อ ก็ไปแค่นิพพานก็ได้ แต่อย่างดี ก็จะได้เป็นผู้ร่วมบุญกับต๊ะเอ๋ ไปอยู่ดุสิตบุรี และก็ไปปราบไอ้ดำ รื้อวัฏฐะ (พระเจ้าจอร์ด!) เอ้า....ประการแรก ลองมาดู LOGIC พื้นฐานสิว่า เล่นสร้างภาพมาแบบนี้แล้ว คนธรรมกายผู้โดนหลอกง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วย มันจะศรัทธาพระพุทธเจ้า หรือตัวต๊ะเอ๋ทองคำ มากกว่ากัน เอากับเฉพาะคนที่ผมรู้จักเป็นสิบๆคน อย่างน้อยที่สุดต้องบอกว่า "เท่ากัน" (พูดแบบเลี่ยงๆทุกคน ไม่ค่อยกล้าฟันธงหรอก เพราะกลัวบาป)ในคำพูดนั้น จะพูดเชิงเปรียบเปรย เหมือนกันหมดว่า เพราะพระพุทธเจ้า หนีวัฏฐะ (จริงๆแล้วต้องการจะสื่อว่า งานของต๊ะเอ๋มันยิ่งใหญ่กว่า เพียงแต่ต้องใช้เวลาในการสะสมบุญมากกว่า เท่านั้นล่ะ) ประการที่สอง ที่ไม่ดูดดื่มบอกมาน่ะจ้ะ "เจออีกสิบกัปข้างหน้าจะได้ไม่ต่อว่ากันว่าทำไมไม่เตือน" สิ่งที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราสอนเอาไว้ สูงสุดคือนิพพาน และให้คนพยายามฝึกฝน จนเห็นผล ไม่ใช่รอสวรรค์ชั้นฟ้า รอสั่งสมบุญ รออีก สิบกัปป์ ร้อยกัลป์ แค่ คิดให้ดี ฝึกให้ดี เรียนให้ดี เอามาประยุกต์ใช้จริงในชีวิตให้ดีๆ สัมผัสได้ตอนไหน "มันจะจบที่นิพพานนั่นล่ะ เป็นที่สุด" ดังนั้น หากเทียบให้เห็นอีกมุม พุทธเป็นศาสตร์ ก็เหมือนกับที่เราไปโรงเรียนนั่นล่ะ เรียนอะไร เอามาประยุกต์ใช้เป็นไหม นี่เล่นไปคิดกันเรื่อยเปื่อย แต่งเป็นนิยาย ให้เป็นเรื่องพยายามจ่ายเงินเติมบุญกันให้เต็มถัง ถึงจะนิพพานได้ ถึงรื้อวัฏฐะได้ พอมีคนเชื่อตรงนั่นล่ะมันเลยเข้าทาง เมื่อคนขี้เกียจย่อมเลือกทางสบาย ทำบุญอย่างเดียว เดี๋ยวบุญก็ส่งให้เราประสบความสำเร็จทุกด้าน ทั้งทางโลก และทางธรรม คิดอย่างนี้ ก็เลยเสร็จโจรต๊ะเอ๋มันน่ะสิครับ เ้อาล่ะ...ใสส่วนนี้ผมขอลองเปรียบเทียบให้ ไม่ดูดดื่มเห็นภาพชัดๆนะครับ คุณคนรักความสบาย ไอ้ต๊ะเอ๋มันกำลังบอกคุณว่า จะทำใหุ้คุณเป็นนักวิ่ง 100 เมตร. ระดับโลกให้ได้ แต่มันไม่ได้ฝึกให้คุณวิ่งเลย มันไถตังคุณอย่างเดียว อย่างเก่งมันก็ให้คุณฝึกวิ่งจ๊อกกิ้ง (แบบผิดท่า และมีวัตถุประสงค์ แอบแฝง) ด้วยตัวอย่างที่ยกมานั้น ถามง่ายๆว่า คุณจะเป็นนักวิ่ง 100 เมตร. ระดับโลกได้สำเร็จจริงหรือไม่" เรื่องเดียวกันเลยครับ ใจของคุณ คุณไม่ฝึกเอง มันจะอยู่เหนือทุกข์ได้อย่างไรกัน ต่อให้พระพุทธเจ้า ก็ทำได้แค่ชี้นำพวกคุณเท่านั้น พวกชี้นำยากอย่างพวกคุณถึงโดนแบ่งเหล่ายังไงล่ะครับ (ขออภัยที่ต้องพูด) ผมถึงเกลียดไอ้ "เฮียเหลือง ปางวิหาร คด" นี่อย่างยิ่งไงล่ะครับ แทนที่มันจะได้สนับสนุนให้คน ลุถึง สำเร็จถึงอย่างเร็วที่สุด มันกลับให้เราต้องไปงมโข่ง (ต๊ะเอ๋มันรักเมทตริกซ์จริงๆ มันเลยเห็น ว่าพวกคุณ เป็นคนที่ใส่อยู่ในแคปซูลให้มันดูดน้ำเลี้ยงนั่นล่ะ) ไปหลงทาง อย่างไม่มีโอกาสได้เจอกับพระนิพาน อย่างน้อยภายในชาตินี้แน่ๆล่ะครับ และแย่กว่านั้นที่อย่างมากตามที่มันต้องการ นี่เป็นกับป์ เป็นกัลป์ไปเลย แถมยังยกตัวเอง ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นแค่ตัวต๊ะเอ๋ชั้นเลว มาเทียบชั้นกับศาสดาของตนเอง กับอาจารย์ของตนเอง (เลวไร้ที่ติ) Logic พื้นฐาน อยากพ้นทุกข์ก็ต้องเรียน ต้องฝึก วิธีการพ้นทุกข์ กับไอ้การไปติดบุญ หวังจะให้บุญทำโน่นทำนี่ให้แล้วเนี่ย ผมไม่เข้าใจจริงๆ ว่าพวกคุณโง่จริง หรือแกล้งโง่ ทำท่าเป็นให้เฮี้ยเหลืองมันหลอก เพื่อให้พวกผมหงุดหงิดใจเล่นน่ะ ไว้จะเอามาแฉให้ฟังอย่างเป็นตรรกชัดๆกว่านี้ ด้วยหวังว่าวันหนึ่งพวกคุณจะได้สติกลับคือมาบ้าง (แต่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เรื่องของพวกเอ็งน่ะครับ) ขอให้ได้พบพุทธแท้ ทันชาตินี้ด้วยเทอญ นะจ๊ะ นะจ๊ะ ปล. คุณ meditation ตกข่าวแน่ๆเลย ไม่รู้หรอกเหรอครับ ว่าเทวทัตหนีขึ้นมาเกิดเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ ประดิษฐานอยู่ ณ. วัดตะกวดทองคำวิหาร"คด" (ที่สร้างจานบินลำโตๆ พร้อมจะหนีออกนอกโลกให้พ้นนรก เมื่อโดนจับได้น่ะครับ) จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 17 ต.ค. 50 14:28:33 ]

ความคิดเห็นที่ 60 แต่ผมกลับเห็นว่า 1) อลัชชีทั้งหลายที่ถูกจับสึกหาลาเพศไป ก็ล้วนแล้วแต่ เคยเป็นภิกษุมากพรรษามาด้วยกันทั้งนั้นนี่ครับ ฉนั้น ความมากพรรษา มันไม่ได้ประกันหรอกครับว่า จะรู้จักดีว่าอะไรคือ สังฆเภท  อะไรเป็นสังฆสามัคคี !!!!! 2) บางท่านก็เป็นผู้ปกครองสงฆ์  แล้วอย่างไรเล่าครับ ? พระสังฆาธิการ ถูกถอดถอนไปกี่รูปเล่าครับ ในขณะเกิดเรื่อง กรณีธรรมโกย มันแสดงให้เห็นว่าอะไรครับ ? สามารถสรุปอย่างที่คุณพยายามจะสรุปว่า พระสังฆาธิการ เหล่านี้ จะรู้ผิดชอบชั่วดีไปเสียทั้งหมดไหมครับ ? 3) ที่จริงแล้ว การที่ภิกษุเหล่านี้ มาร่วมสังฆกรรมกับสำนักอลัชชี มันก็เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า ภิกษุเหล่านี้ เป็นอย่างไร ? ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson  - [ 17 ต.ค. 50 03:06:15 ] =========================================== โห  นายแน่มาก  เล่นด่ากราดพระเลยนะ  พระที่มาร่วมงานที่วัดตั้งเป็น 100,000 นี่ คงจะมีภูมิรู้น้อยกว่าท่านฤทธีกระมัง แล้วที่ว่าพระที่ถูกจับสึกไปนะ เมื่อเทียบกับพระเถระน่ะ เป็นสักกี่% เหรอ ถึง 0.01% ไหม ? การที่คุณมาปรามาสคณะสงฆ์ด้วยคำพูดแบบนี้น่ะหรือ แสดงถึงการรู้พระสัทธรรม  ลำพังแค่จะให้เกิดสามัคคีในหมู่ฆราวาสก็ยังไม่ได้ นับประสาอะไรกับคำว่า "สังฆสามัคคี"   แล้วคำพูดที่ว่า "พระสังฆาธิการเหล่านี้ จะรู้ผิดชอบชั่วดีไปเสียทั้งหมดไหมครับ"  หมายความรวมถึง "สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญมหาเถร ป.ธ. ๙) " ด้วยไช่ไหม ? รวมถึงองค์อื่นด้วยอย่างในรูปนี้ใช่ไหม ? อาจาย์ของใคร อุปัชฌาย์ของใคร ก็ช่วยมาดูแลกันหน่อย อย่าให้ท่านถูกปรามาสไปมากกว่านี้ หึ หึ หึ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 50 15:56:24 แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 50 15:51:16 แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 50 15:49:44 จากคุณ : AYXC - [ 17 ต.ค. 50 15:45:54 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เฮอ ท่าทางท่านประธานสมาคมตื้บตัวต๊ะเอ๋ฯ จะเหนื่อยฟรีแหงงานนี้ ก็คุณไม่ดูดดื่มของท่านประธานเขายึดสโลแกนนี้อ่ะ จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 17 ต.ค. 50 16:07:21 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ความคิดเห็นที่ 60 1) โห  นายแน่มาก  เล่นด่ากราดพระเลยนะ  พระที่มาร่วมงานที่วัด ตั้งเป็น 100,000 นี่ คงจะมีภูมิรู้น้อยกว่าท่านฤทธีกระมัง 2) แล้วที่ว่าพระที่ถูกจับสึกไปนะ เมื่อเทียบกับพระเถระน่ะ เป็นสักกี่% เหรอ ถึง 0.01% ไหม ? 3) แล้วคำพูดที่ว่า "พระสังฆาธิการเหล่านี้ จะรู้ผิดชอบชั่วดีไปเสียทั้งหมดไหมครับ"   หมายความรวมถึง "สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญมหาเถร ป.ธ. ๙) " ด้วยไช่ไหม ? AYXC ********************************************* 1) มันไม่ใช่แค่เรื่องของภูมิรู้เท่านั้นนะครับ ...................... แต่มันเป็นเรื่องของ เล่ห์เหลี่ยมต่างหาก !!!!!! ต่อให้ภิกษุเหล่านั้น มีความรู้ทางธรรมมากสักแค่ไหน ก็คงจะไม่สามารถรู้เท่าทันเล่เหลี่ยมของอลัชชีได้หรอกครับ อย่าทำมาเป็น งง นะครับ !!!!! หึหึหึหึ ต่อให้พระสงฆ์เหล่านั้น มีความรู้มากสักแค่ไหน แต่นั่นก็มักจะจำกัดอยู่แค่ความรู้ทางธรรม ท่านเหล่านั้น ไม่ทันเล่ห์ของพวกอลัชชี ที่เชี่ยวชาญการทำธุรกิจทางโลกหรอก จริงไหม AYXC ? AYXC ก็ลองทบทวนถถึงวิธีการ เขมือบที่ดินของอลัชชีดูสิ AYXC คิดว่า พระสงฆ์เหล่านั้น จะสามารถคิดไปถึงไหมเล่า ? วิธีการในการทำธุรกิจธุรกรรมอันโฉดชั่วแบบนี้ พระทั่วๆไป ท่านรู้ไปไม่ถึงหรอกครับ !!!!!! แก๊งส์อลัชชี ใช้วิธีการสร้างภาพ ทำมารยาสาไถยสารพัด พระเหล่านั้น จะไปรู้เท่าทันได้อย่างไร ก็ในเมื่อท่านไม่เชี่ยวกราก ในเรื่อง โลกีย์วิสัย เหมือนพวกอลัชชีนี่ครับ !!!!!! สรุป ก็คือ เป็นไปได้มากว่า พระโดยส่วนใหญ่ ถูกหลอก ด้วยมารยาสาไถยต่างๆนาๆ ของแก๊งส์อลัชชี ................. !!!!! มีอะไรจะเถียงไหมครับ ?????? 2) ผมไม่ได้เอาจำนวนมาเทียบสักหน่อย แต่ผมกำลังจะบอกว่า นายไชยบูลย์ เป็น อลัชชี 100% เมื่อเทียบกับ สมีนิกร สมียันตระ และ........ ฯ 3) พระสังฆาธิการเหล่านี้ จะรู้ผิดชอบชั่วดีไปเสียทั้งหมดไหมครับ ? คำถามนี้ก็ชัดเจนดีแล้วนี่ แต่คนบางคน ก็ งี่เง่า ดีนะครับ !!!!! AYXC อ่านประโยคคำถามแล้วไม่เข้าใจหรือครับ ? ที่ยก สมเด็จช่วง ขึ้นมา มีจุดประสงค์อะไร ? ทีพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช ทำไมไม่ยกขึ้นมาอ้างบ้างเล่าครับ ? สันดานเลวไหมครับ ? ยังมีอะไรจะพล่ามต่อไปไหมครับ ? กระทู้นี้ชื่อ "สังฆสามัคคี" คือไฉน ? จะเป็นพระรูปไหน จำนวนเท่าไร เป็นอาจารย์ของใคร มาเข้าร่วมกิจกรรมอะไรๆของธรรมกาย มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่า "สังฆสามัคคี" อยู่ดี !!!!! ชัดเจนไหมครับ ? ถ้า AYXC ไม่เชื่อคำผม ก็ไปถาม สมเด็จช่วง ดูสิ !!!!!! เฮอะ เฮอะ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 16:42:14 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ความคิดเห็นที่ 62 ต่อให้พระสงฆ์เหล่านั้น มีความรู้มากสักแค่ไหน แต่นั่นก็มักจะจำกัดอยู่แค่ความรู้ทางธรรม ท่านเหล่านั้น ไม่ทันเล่ห์ของพวกอลัชชี ที่เชี่ยวชาญการทำธุรกิจทางโลกหรอก จริงไหม AYXC ? AYXC ก็ลองทบทวนถถึงวิธีการ เขมือบที่ดินของอลัชชีดูสิ AYXC คิดว่า พระสงฆ์เหล่านั้น จะสามารถคิดไปถึงไหมเล่า ? วิธีการในการทำธุรกิจธุรกรรมอันโฉดชั่วแบบนี้ พระทั่วๆไป ท่านรู้ไปไม่ถึงหรอกครับ !!!!!! แก๊งส์อลัชชี ใช้วิธีการสร้างภาพ ทำมารยาสาไถยสารพัด พระเหล่านั้น จะไปรู้เท่าทันได้อย่างไร ก็ในเมื่อท่านไม่เชี่ยวกราก ในเรื่อง โลกีย์วิสัย เหมือนพวกอลัชชีนี่ครับ !!!!!! สรุป ก็คือ เป็นไปได้มากว่า พระโดยส่วนใหญ่ ถูกหลอก ด้วยมารยาสาไถยต่างๆนาๆ ของแก๊งส์อลัชชี ................. !!!!! มีอะไรจะเถียงไหมครับ ?????? ชัดเจนไหมครับ ? ถ้า AYXC ไม่เชื่อคำผม ก็ไปถาม สมเด็จช่วง ดูสิ !!!!!! ********************************************** อ๋อ เพิ่งรู้ว่าท่านฤทธีว่าคงจะมีสติปัญญามากกว่าพระเถรานุเถระทั้งหลายรวมทั้งสมเด็จช่วงด้วย   จึงทันเล่ห์เหลี่ยมที่ยกมาอ้าง  หุ หุ เวลาคณะสงฆ์เดือดร้อน เพราะต้องตกอยู่ในอัตรายอย่างที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้  การมาประชุมรวมกันเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจนั้นไม่ถูกต้องตามพระไตรปิฏก   ก็ขอนิมนต์ ท่านฤทธีช่วยไปถวายความรู้เรื่อง "สังฆสามัคคี"  ด้วยละกัน  555 จากคุณ : AYXC - [ 17 ต.ค. 50 17:02:05 ]

ความคิดเห็นที่ 64 มันเป็นกันซะอย่างนี้ล่ะครับ คุณ Together In 80s Dream  พวกธรรมกายเนี่ย มันเป็นกันซะอย่างนี้ทุกคนจริงๆ (ย้ำเจอมากี่คนต่อกี่คน นิสัยเหมือนกันหมด รักสบาย แต่อยากได้ดี) อะไรสบายๆ สวยงาม นี่มันถูกต้องหมดเลย แต่อะไรที่มันลำบากนี่ขอบาย ไอ้ตะกวดไฟหางกระดิ่ง มันจับทางคนจำพวกนี้ถูก มันถึงได้ทางหากินอันประเสริฐของพวกมันไงล่ะ รักแต่ความสบายแบบนี้ ไม่ต้องเอาเรื่องพุทธเลยนะ ชีวิตเอ็งน่ะ จะประสบความสำเร็จได้ไม๊ เจ้าดูดดื่ม ชีวิตมันก็ติดอยู่ักับแค่ฝันน่ะสิวะ ไม่เอาๆ เชื่อเฮีย พอเถอะ ไอ้ฝันในฝันอย่างของอาจารย์เอ็งน่ะ มัน:-)จริงๆว่ะ...คิดซักหน่อยเุถอะ แล้ว AXYZ เนี่ย ก็เลิกโชว์พาวความฉลาดแทนพระ 100,000 "คน" นั้นซะทีเถิดครับ มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องโง่หรือฉลาดเลย มันเกี่ยวกับความสำนึกได้ ความสำนึกได้ว่่าอะไรควรอะไรไม่ควร รู้บ้างหรือเปล่า (เดี๋ยวมันก็เอาพระมาหากินต่ออีกว่า พรรษาขนาดนี้ ตำแหน่งขนาดนั้น จะไม่รู้เชียวหย๋อ พวกเอ็งฉลาดกว่าพระ 100,000 "คน" งั้นหย๋อ...อ้อไม่ใช่ ประเด็นต่อไปของ AXYC คือสำนึกเอ็งดีกว่าพระ 100,000 "คน" เลยเหรอ ตะหาก จับทางเอ็งได้แล้วล่ะ)เอาเป็นว่าถูกต้องจริงๆก็ไปเอาพระพยอมมาร่วมให้ดูเป็นบุญตาหน่อยสิ เอ้า...ขอยกจากกระทู้นู๊นมาว่าที่กระทู้นี้อีกทีเหอะนะ "ไอ้หูล่ะดันตึง ไอ้สมองน่ะดันฝ่อ" (อุแม่เจ้า ไอ้พวกลัทธิตะกวดทอง) เอ้า ฝากคาถาปรับปรุงชีวิตให้คุณ ไม่ดูดดื่มสักบทนะ ไม่เกี่ยวกับศาสนา ขอให้เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันครับ อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเิงินน้อย อย่าคอยวาสนา ขอให้พบกับพุทธแท้ในเร็วๆๆๆๆวัน ที่สุดครับ ภาพเอาใจไม่ดูดดื่ม "ใบไม้แมวถ่อย" (เออ...ความเห็นนี้ถ่อยดีอยู่เหมือนกันนะ) จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 17 ต.ค. 50 17:09:10 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ได้อ่านหลักธรรมะบางตอนเรื่อง คุณสมบัติของ "คนดี"....จึงขอนำมาเผยแพร่.. หนึ่งใน คุณสมบัติของ "คนดี" ...คือ ..มีอริยวินัยควบคุมบาปกรรมโดยเหตุ 4 ....บาปกรรมโดยเหตุ 4...คือ อคติ 4 ประการ.(.ความลำเอียง 4 ประการ ) ลำเอียงเพราะ รัก หรือ พอใจ ลำเอียงเพราะ โกรธ พยาบาทผูกเวรกัน ลำเอียงเพราะ ความโง่เขลา เบาปัญญา ลำเอียงเพราะ ความกลัวภัยมาถึงตัว สาเหตุที่ทำให้มีอคติ 4 คือ "ใจหยาบ" .... คนใจหยาบ ..จะมีลักษณะ ใจแคบ จึงมี "โยนิโสมนสิการ" หรือ ความสามารถในการเจาะลึกไม่พอ......มักจะคิดตื้น ๆ สะเพร่า มักง่าย อิจฉาริษยา คนใจหยาบ จึงคิดเรื่องความเป็นธรรมไม่ออก ....ทำให้ขาดความสำนึกรับผิดชอบต่อศักดิ์ศรีแห่งความเป็น "มนุษย์" ทั้งของตนเอง และ ของผู้อื่น.. ขอผู้เจริญทั้งหลาย จงอย่าได้กระทำใด ๆ ทั้งกาย วาจา ใจ ..ที่เป็นบาปกรรมโดยเหตุ 4 ดั่งกล่าวข้างต้นนั้นเลย.... จากคุณ : meditation - [ 17 ต.ค. 50 17:17:17 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เอ้าเพิ่งอันใหม่เห็นของเจ้า AYXZ เอ้าแล้วไอ้อันล่าสุดที่คุณโพสเนี่ย มันเกี่ยวกับเรื่องปัจจัยไหมล่ะ ไชโยมันก็ไม่โง่พอที่จะไม่สร้างบารมีให้ตัวเองหรอก มันเป็นนักเครือข่าย ก็ต้องรู้จักมีหัวคะแนนเอาไว้บ้างล่ะ ให้วัดที่เป็นหัวคะแนน เชิญบางวัดที่รู้จักหรือเกรงใจกันอยู่ เค้าก็คงมาให้ (ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่ดีหรอกน่า) เงินไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่าง แต่ก็ซื้อได้หลายอย่าง คำกล่าวนี้จริงแท้เชียว เจ้าตะกวดหางกระดิ่งคงซึ้งในข้อนี้ดี (อ่ะ แต่อย่างน้อยเบาหวานเอ็งก็ไม่หายละกัน อันนี้ล่ะเอาเงินซื้อไม่ได้จริงๆ ฮ่าฮ่า) ตื่นๆๆๆจ้า AYXC ตื่นๆๆๆ กรูรักมืง ตื่นๆ (เผี๊ยะๆ) ภาพ "อาตมารักตะกวด" จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 17 ต.ค. 50 17:21:22 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ตามความใน คห.ที่ 59 แวะเอารูปมาแปะให้ ตามข้อมูลจากลิงค์นี้ครับ จากคุณ : nameonics - [ 17 ต.ค. 50 17:48:22 ]

ความคิดเห็นที่ 68 AYXC บอกให้ผมฟังหน่อยสิว่า นายไชยบูลย์ ไปบอกกับ สมเด็จช่วงว่าอย่างไร ? 1) ท่านครับ ศาลเขายกฟ้องแล้วครับ ผมพ้นผิดแล้วครับ 2) ท่านครับ อัยการถอนฟ้องแล้วครับ เพราะผมไปสารภาพผิด และยืนยันกับเขาว่าจะคืนทรัพย์ให้วัดครับ และที่สำคัญก็คือ สำนักธรรมโกย บอกกับพระแสนรูปว่าอย่างไรเล่าครับ ? ข้อหนึ่ง หรือ ข้อสอง .................................... (?) ที่จริงก็ไม่ต้องไปดูอื่นไกล ดูที่นี่ก็ได้ สาวกธรรมโกย พยายามอย่างยิ่งที่จะมาโฆษณาว่า ศาลยกฟ้อง คดีนายไชยบูลย์ !!!!!!! แต่ที่ไม่สำเร็จ ก็เป็นเพราะคนที่นี่เขาจับได้ว่า พวกเอ็งแหกตา ที่จริง ไม่ใช่ ศาลยกฟ้อง แต่เป็น อัยการถอนฟ้อง ต่างหาก และที่อัยการถอนฟ้อง ก็เพราะนายไชยบูลย์ไปสารภาพผิดกับเขา และยืนยันว่า ได้ทำตามพระลิขิตสมเด็จฯแล้ว คือ คืนทรัพย์ให้วัดฯ ผมอธิบายให้ฟังอย่างนี้ ชัดเจนไหมจ๊ะ ? ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 17:50:54 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เวงกำ ท่านประธานใบไม้ฯ ไปไหนแล้ว ลบดีกว่า แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 50 18:52:20 แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 50 17:57:16 จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 17 ต.ค. 50 17:52:03 ]

ความคิดเห็นที่ 70 meditation กำลังจะบอกผมเป็นนัยๆว่า ที่คุณพยายามจะแก้ต่างเข้าข้างอลัชชีไชยบูลย์ ก็เป็นเพราะ ฉันทาคติ ลำเอียงเพราะ รัก  อย่างนั้นหรือ ? คุณนี่ช่างไม่เห็นแก่พระศาสนาบ้างเลยเนอะ !!!!! ทำตัวได้น่าผิดหวังจริงๆ ............................ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 17:57:01 ]

ความคิดเห็นที่ 71 สงสัยจริงๆ ว่าสาวกอีกเพศนึงของเจ้าต๊ะเอ๋มันหายศีรษะกันไปไหนหมด ถึงได้ปล่อยให้ผู้หญิง 2 คน มาแถกแถกันตามลำพังอยู่แบบนี้ จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 17 ต.ค. 50 18:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 72 คุณฤทธี....สิ่งที่ปรากฏให้ดิฉันได้เห็น ได้ทราบ นั้น ระหว่าง ...ความคิดเห็น ของคุณฤทธี และ กลุ่มคุณฤทธี  ที่มีต่อ วัดหนึ่งและ พระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่ง และใช้ถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรง จาบจ้วง กับ.....ท่าทีของ มส. และ พระเถระผู้ใหญ่  ที่ท่านยังให้ความเมตตา กับ วัดนั้น และ พระภิกษุสงฆ์รูปนั้น....และยังส่งเสริม ให้กระทำความดียิ่ง ๆ ขึ้นไป รวมทั้งภาพที่ปรากฏให้เห็น " การรวมสงฆ์นับหมื่นนับแสนรูปเพื่อทำสังฆกรรม " และเหล่าสาธุชนอีกนั่บแสนคนที่ได้มาร่วมกันสร้างบุญสร้างบารมี ด้วยเหตุผลข้างต้น...ดิฉัน  ควรจะศรัทธาใครมากกว่า.... เพราะฉะนั้น ดิฉันยืนยันได้ว่า ...ดิฉันไม่ได้ลำเอียงเพราะรัก แน่นอน ขอให้เคารพความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลของผู้อื่นด้วย ศีลข้อ4 ..มิใช่แค่ละเว้นการพูดปด...แต่รวมหมายถึงให้ละเว้นการพูดจา ส่อเสียด หยาบคาย เพ้อเจ้อ ด้วยนะ... จากคุณ : meditation - [ 17 ต.ค. 50 19:26:09 ]

ความคิดเห็นที่ 73 meditation ไม่ต้องมาศรัทธาผมเลยนะครับ !!!!! และก็ไม่ต้องเอาผม ไปเปรียบเทียบกับพระสงฆ์ จำนวนหมื่นจำนวนแสน นั่นหรอกครับ ....................... ขอให้ถือเอาพุทธพจน์เป็นหลักนะครับ ให้ถือเอาพระธรรมวินัยเป็นที่ตั้งนะครับ พระเถระท่านเมตตา นั่นก็ถูกต้องดีงามอยู่แล้วนี่ครับ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า นายไชยบูลย์ จะไม่ปาราชิก นะครับ นั่นมันคนละเรื่องกันเลย ............................ (??) ฟังให้ชัดๆนะครับ ผมไม่ใช่ ครูบาอาจารย์ ของนายไชยบูลย์ ไม่ใช่อุปัชฌาย์ ของนายไชยบูลย์ ผมไม่ใช่ศิษย์ของอลัชชีผู้นี้ อีกทั้งมิใช่ญาติสนิทมิตรสหายของเขา นั่นย่อมหมายความว่า ผมมิได้มีหน้าที่ที่จะต้องไปให้ความเมตตาอะไรต่อเขานี่ครับ ผิดก็ว่าไปตามผิดสิครับ ผมถือเอาพระศาสนามาก่อน ส่วนนายไชยบูลย์นั้นเป็นเพียงอลัชชีปลอมบวช เป็นเนื้อร้ายของพระศาสนา ไม่มีจำเป็นต้องเมตตาอะไรนี่ครับ ถอดผ้าเหลืองออกไปก่อนนะครับ แล้วค่อยมาพูดเรื่องความเมตตา ไม่ใช่มาอ้างความเมตตา เพื่อให้ อลัชชี ห่มเหลืองปลอมบวชต่อไป คุณมันอ้างข้อธรรม ไม่ถูกเรื่อง ไม่ถูกกาละ-เทศะ นี่ครับ กรุณาไปฝึกการใช้สติ(และปัญญา)ให้มากๆนะครับ !!!!!! อลัชชี ก็คือ อลัชชี ครับ !!!!! อย่ามามั่วนิ่มกับผมนะครับ ..................... ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 19:52:43 ]

ความคิดเห็นที่ 74 AYXC บอกให้ผมฟังหน่อยสิว่า นายไชยบูลย์ ไปบอกกับ สมเด็จช่วงว่าอย่างไร ? 1) ท่านครับ ศาลเขายกฟ้องแล้วครับ ผมพ้นผิดแล้วครับ 2) ท่านครับ อัยการถอนฟ้องแล้วครับ เพราะผมไปสารภาพผิด และยืนยันกับเขาว่าจะคืนทรัพย์ให้วัดครับ และที่สำคัญก็คือ สำนักธรรมโกย บอกกับพระแสนรูปว่าอย่างไรเล่าครับ ? ข้อหนึ่ง หรือ ข้อสอง .................................... (?) จากคุณ : Ritti Janson ============================================ ไม่ได้บอกทั้ง 2 แบบแหละ ไม่มานั่งแก้ตัว และไม่ด่าว่าใคร แต่ลงมือทำงานเพื่อพระพุทธศาสนา   ทำให้พระพุทธศาสนาแข็งแรงมั่นคง 555 จากคุณ : AYXC - [ 17 ต.ค. 50 21:31:09 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ความคิดเห็นที่ 66   เอ้าเพิ่งอันใหม่เห็นของเจ้า AYXZ เอ้าแล้วไอ้อันล่าสุดที่คุณโพสเนี่ย มันเกี่ยวกับเรื่องปัจจัยไหมล่ะ ไชโยมันก็ไม่โง่พอที่จะไม่สร้างบารมีให้ตัวเองหรอก มันเป็นนักเครือข่าย ก็ต้องรู้จักมีหัวคะแนนเอาไว้บ้างล่ะ ให้วัดที่เป็นหัวคะแนน เชิญบางวัดที่รู้จักหรือเกรงใจกันอยู่ เค้าก็คงมาให้ (ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่ดีหรอกน่า) เงินไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่าง แต่ก็ซื้อได้หลายอย่าง คำกล่าวนี้จริงแท้เชียว เจ้าตะกวดหางกระดิ่งคงซึ้งในข้อนี้ดี (อ่ะ แต่อย่างน้อยเบาหวานเอ็งก็ไม่หายละกัน อันนี้ล่ะเอาเงินซื้อไม่ได้จริงๆ ฮ่าฮ่า) ตื่นๆๆๆจ้า AYXC ตื่นๆๆๆ กรูรักมืง ตื่นๆ (เผี๊ยะๆ) ภาพ "อาตมารักตะกวด" ************************************************ โห ท่านพี่ใบไม้  ด่าพระนี่ ท่าทางจะถนัดมากนะ  ปากไว้กันกระสุนได้มะ  จะได้ชวนไปร่วมถวายปัจจัยที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้   พระที่อยู่ภาคใต้เนี่ย ท่านลำบากมากนะ  ท่านก็บอกแล้วไงว่าบิณฑบาตก็ไม่ได้  ลองอ่านที่ท่านให้สัมภาษณ์ดิ  อย่าเอาแต่ด่าเลย ไปทำบุญกับท่านบ้างดีกว่านะ จากคุณ : AYXC - [ 17 ต.ค. 50 21:45:01 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ผมไม่ต้องระวังคำพูดหรอกครับ !!!!!!! 1) การอ้างว่า การรวมหมู่ภิกษุทำกิจกรรมอะไรๆ ว่าเป็น สังฆสามัคคี เป็นการกล่าวตู่บิดเบือน พระธรรมวินัยไหมครับ ? ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เมายาหม่องหรือเปล่าครับ ริทที ดูธรรมในข้อนี้นะครับ.... จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 17 ต.ค. 50 21:46:30 ]

ความคิดเห็นที่ 77 2) การจัดงานใหญ่โตของสำนักอลัชชี เรียกว่า สังฆสามัคคี ได้ไหมครับ ? ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ อลัชชี? คุณกำลังหมายถึงวัดที่ได้รับการยอมรับ "อย่างเป็นทางการ" หรือเปล่าครับ? ถ้ากำลังหมายถึงวัดพระธรรมกาย เราถือว่าเป็นวัดๆหนึ่งในพระพุทธศาสนาอย่างเป็นทางการนะครับ คำว่า "สำนักอลัชชี" นั้นเป็นสิ่งที่คุณเรียกขึ้นมาเองตามกำลังอคติของคุณจะพาไป ถามว่าจัดงานใหญ่เป็นสังฆสามัคคีไหม? ต้องดูว่าท่านทำตามดัง คห 76 หรือเปล่า ถ้าทำก็เข้าข่ายในข้อนี้ครับ.............. จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 17 ต.ค. 50 21:49:33 ]

ความคิดเห็นที่ 78 3) พระพุทธเจ้าตรัสถึง สังฆสามัคคี ว่าหมายถึง การจัดงานใหญ่แบบที่สำนักอลัชชีทำอยู่นั่นไหมครับ ? ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ท่านตรัสถึงว่าได้กระทำตามนี้หรือเปล่า ส่วนงานใหญ่หรือไม่ใหญ่นั้น หากทำตามนี้ถือว่าเป็น "สังฆสามัคคี" ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ? จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 17 ต.ค. 50 21:51:57 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ความคิดเห็นที่ 74 ไม่ได้บอกทั้ง 2 แบบแหละ ไม่มานั่งแก้ตัว และไม่ด่าว่าใคร แต่ลงมือทำงานเพื่อพระพุทธศาสนา   ทำให้พระพุทธศาสนาแข็งแรงมั่นคง 555 AYXC ************************************************ สรุปว่า สำนักอลัชชี ใช้วิธีปกปิดกลบเกลื่อนความชั่วของตน ไม่กล้าประกาศอธิบายข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ต่อหมู่สงฆ์นะครับ ก็ในเมื่อ AYXC อ้างอย่างนี้ ก็ย่อมเป็นที่ชัดเจนแล้วนะครับว่า การรวมตัวกันของหมู่สงฆ์เพื่อทำกิจกรรมต่างๆของสำนักอลัชชี มิได้เกี่ยวข้องกับ อธิกรณ์ หรือ อาบัติใดๆทั้งสิ้น เพราะฉนั้น การที่ผมสรุปว่า 1. การรวมตัวกันตามอ้างนั้น มิใช่ "สังฆสามัคคี" ตามพุทธพจน์ 2. นั่นก็มิได้เป็นการรับนายไชยบูลย์เข้าหมู่สงฆ์แต่อย่างใดทั้งสิ้น เป็นการสรุปที่ถูกต้องนะครับ !!!!! AYXC หมดประเด็นแล้วใช่ไหมครับ ........................... ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 21:56:59 ]

ความคิดเห็นที่ 80 4) แล้วการที่ ไม่สูบไม่ดื่ม เอาคำว่า สังฆสามัคคี มาอ้างแบบนี้ ควรจะเรียกว่า การกล่าวตู่พุทธพจน์ บิดเบือน พระธรรมวินัย หรือไม่ครับ ? ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ อ้างยังไงครับ? ว่าไม่ได้ทำตามธรรมในข้อนี้หรือ? การร่วมงานของพุทธบุตรเป็นแสนรูปมีอะไรเข้าข่ายสังฆเภท? ท่านไม่ได้กระทำตามธรรมในข้อนี้หรือ? จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 17 ต.ค. 50 21:58:39 ]

ความคิดเห็นที่ 81 หรือว่าข้อนี้? จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 17 ต.ค. 50 21:59:03 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ความคิดเห็นที่ 77 ถามว่าจัดงานใหญ่เป็นสังฆสามัคคีไหม? ต้องดูว่าท่านทำตามดัง คห 76 หรือเปล่า ถ้าทำก็เข้าข่ายในข้อนี้ครับ.............. 2. ย่อมแสดงสิ่งที่เป็นธรรมว่า เป็นธรรม ไม่สูบไม่ดื่ม *************************************************** ถ้าอย่างนั้น ไม่สูบไม่ดื่ม ก็อธิบายให้ฟังเสียทีสิว่า ไอ้คำสอนเรื่อง "อัตตา" ของอลัชชีไชยบูลย์ เป็นสิ่งที่เรียกว่า บรมธรรม ในพระพุทธศาสนาหรือไม่ ? มีหลักฐานในพระบาลีไหมครับว่า นี่คือ ธรรม ของพระพุทธเจ้า ตอบมาให้ชัดเจนนะครับว่า การที่ อลัชชีผู้นี้ สอนอัตตา นั้นเป็นการ "แสดงสิ่งที่เป็นธรรมว่า เป็นธรรม" หรือไม่ ? v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 22:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ถ้ายังข้องใจว่าจัดงานใหญ่เป็น "สังฆสามัคคี" ไหม พึงพิจารณาจากว่าท่านประพฤติตามธรรมใน คห 76 กับ 81 ไหม หากประพฤติตามก็เท่ากับท่านกำลังแสดงธรรมอยู่ตามหัวข้อ 77 นะครับ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ 5) เหมือนกรณีคนถ่อยฯ ไม่สูบไม่ดื่มยกมาทำไมครับ ? จะเอามากล่าวหาใครครับ ? ก็ในเมื่อคนในนี้ กำลังกล่าวตำหนิอลัชชีอยู่ หรือว่า ไม่สูบไม่ดื่ม จะบอกว่าอลัชชีเป็น บรรพชิต ? +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ อลัชชี? ริททีไม่เข้าใจความหมายของ official กับ eligible ใช่ไหมครับ? ข้อมูลข่าวสารต่างๆที่คุณจะนำมาจากไหนก็ตาม ต้องได้รับการยอมรับ "อย่างเป็นทางการ" ครับ ไม่ใช่ไปเอาจากเว็บทั่วไปมาโพส อย่างนั้นมีคนไปโพสในเว็บซ้อแปดว่า "ไม่สูบไม่ดื่มทำอั้มท้อง" ผมก็ซวยสิครับ ประเด็นมันอยู่ "อย่างเป็นทางการ" แล้ว ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส เป็นตำแหน่งของพระสังฆาธิการครับ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ อลัชชีเป็นคนถ่อยนะครับ การที่คุณยกพระบาลีมาปกป้องคนถ่อย นับได้ว่า เป็นการกล่าวตู่บิดเบือนพระธรรมวินัยไหมครับ ? อย่ามั่ว และ อย่างง นะครับ .............................. ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ผมไม่ได้ยกพระบาลีปกป้องใคร ผมแสดงธรรมด้วยความสัตย์จริง ไม่มีการเอาข้อมูลที่ "ไม่เป็นทางการ" มาโพส ผมแสดงธรรมแบบไม่ดัดแปลงต่อเติม อย่ามากล่าวตู่ว่าผมบิดเบือนพระธรรมวินัย ไม่มั่วและไม่งง ครับ หากคุณคิดว่าใครเป็นอลัชชี หรือ ปราชิก ช่วยหาข้อมูลแบบเป็นทางการได้ไหมครับ? ประเภทด่าเขาขณะที่เขายังดำรงตำแหน่งให้เห็นอยู่โทนโท่นี่ ผมว่ามันออกจะข้ามช้อตไปสักนิด เฮอะ เฮอะ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson  - [ 17 ต.ค. 50 03:42:20 ] จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 17 ต.ค. 50 22:08:24 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ถ้าอย่างนั้น ไม่สูบไม่ดื่ม ก็อธิบายให้ฟังเสียทีสิว่า ไอ้คำสอนเรื่อง "อัตตา" ของอลัชชีไชยบูลย์ เป็นสิ่งที่เรียกว่า บรมธรรม ในพระพุทธศาสนาหรือไม่ ? มีหลักฐานในพระบาลีไหมครับว่า นี่คือ ธรรม ของพระพุทธเจ้า ตอบมาให้ชัดเจนนะครับว่า การที่ อลัชชีผู้นี้ สอนอัตตา นั้นเป็นการ "แสดงสิ่งที่เป็นธรรมว่า เป็นธรรม" หรือไม่ ? v v v v จากคุณ : Ritti Janson  - [ 17 ต.ค. 50 22:06:58 ] +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ คห นี้แยกเป็นสองประเด็นครับ 1. เรากำลังคุยเรื่องว่าจัดงานใหญ่เป็น "สังฆสามัคคี" ไหม? อย่างที่บอกนะครับ หากท่านประพฤติตามธรรมใน คห 80 และ 81 ก็ถือว่าเป็น "สังฆสามัคคี" ถูกต้องไหมครับ? ยอมรับไหมครับ? 2. เรื่องนี้อยู่ในกระทู้............ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5779543/Y5779543.html ผมจะไปตอบในกระทู้นั้นครับ ถ้าริททีหายข้องใจในกระทู้นี้แล้ว ผมจะไปต่อที่กระทู้นั้น จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 17 ต.ค. 50 22:13:44 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ถ้า ไม่สูบไม่ดื่มยังไม่ตอบให้ตรงประเด็น ผมคงจะต้องแจ้ง WM ให้พิจารณาแล้วนะครับ !!!!! 1) สังฆสามัคคี ในความหมายแรกก็คือ การรับภิกษุเข้าหมู่ หลังจากชำระอธิกรณ์แล้ว นายไชยบูลย์ ยังมิได้ชำระอธิกรณ์ ฉนั้น ความหมายนี้ใช้ไม่ได้ 2) สังฆสามัคคี มีความหมายว่า เป็นนิเสธ ของ สังฆเภท นั่นเอง ในเมื่อ ไม่สูบไม่ดื่มอ้างข้อ "แสดงสิ่งที่เป็นธรรมว่า เป็นธรรม" ผมก็ทวงถามว่า เป็นอย่างนั้นจริงหรือ ? เพราะจากหลักฐาน กลับแสดงว่า นายไชยบูลย์ ยังสอนสัทธรรมปฏิรูปอยู่ ในเมื่อต้องการจะอ้างว่า อลัชชีผู้นี้ "แสดงสิ่งที่เป็นธรรมว่า เป็นธรรม" ก็แสดงหลักฐานมาสิว่า มีพุทธพจน์ เรื่อง อัตตา อยู่จริง เพราะถ้าไม่มีอยู่จริง ก็จะเท่ากับว่า นายไชยบูลย์ กำลังแสดงสิ่งที่ไม่เป็นธรรมว่า เป็นธรรม ซึ่งนั่นเป็นการทำสังฆเภท มิใช่ สังฆสามัคคี !!!!! 3) ประเด็นทั้งหมด มีอยู่เพียงเท่านี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่า มันเป็นเรื่องของพระธรรมวินัยล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับการจัดงาน ของสำนักอลัชชีเลยแม้แต่น้อย แล้วจะมาอ้างว่าเป็น สังฆสามัคคี ได้อย่างไร ? อย่ามามั่วประเด็นนะครับ ถ้ายังพูดกันไม่รู้เรื่อง ผมแจ้ง WM ว่าคุณมีเจตนา ฟลัดกระทู้นะครับ !!!!! ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 22:30:03 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เชิญครับริทที ให้ท่าน WM เป็นผู้พิจารณา ส่งเลยครับ การที่ผมโดนยึดอมยิ้มไปคงเป็นเรื่องที่คุณและหลายคนต้องการอยู่แล้ว ผมตอบกระทู้ตามความเห็น แสดงข้อมูลตามแหล่งที่มาชัดเจนประกอบเหตุผล หากการชี้แจงของผมเข้าข่ายฟลัดกระทู้แล้วไซร้ คงต้องให้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของท่าน WM ผมจะไม่อุทธรณ์ด้วยครับ จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 17 ต.ค. 50 22:37:56 ]

ความคิดเห็นที่ 87 คุณฤทธี.... คุณกล่าวว่า ดิฉันลำเอียงเพราะรัก...แก้ต่างให้พระภิกษุรูปนั้น ดิฉันตั้งใจอธิบายให้ทราบว่า...ดิฉันไม่ได้ลำเอียงเพราะรัก .. แต่ดิฉันมี "เหตุผล" ประกอบในการคิดและวิเคราะห์อย่างไร ไม่มี่ข้อความใดที่ดิฉันกล่าวเปรียบเทียบคุณ กับ พระสงฆ์  หรือ.. ไม่มีข้อความใดที่ดิฉันจะให้คุณมีเมตตาต่อวัดและพระภิกษุสงฆ์รูปนั้น คำว่า "อลัชชี"...เป็นคำที่ คุณที่มอบให้แก่พระภิกษุสงฆ์รูปนั้น... โดยคุณตัดสินว่า "ผิดก็ว่ากันไปตามผิด"...ซึ่งถ้าหลงไป ก็จะเป็นบาปแก่ทุกคนที่คิดตามคุณ...ดิฉันคิดว่า น่าจะเป็นหน้าที่ของ มส.นะ...ที่จะตัดสินเรื่องนี้.... มส. หรือ พระเถระผู้ทรงศีล ทั้งหลาย ท่านก็ไม่ได้มอบคำ "อลัชชี" ให้แก่พระภิกษุสงฆ์รูปนั้น..แต่ยังคงให้การสนับสนุนในการทำความดีของพระรูปนั้น...เช่นนี้แล้ว  มส หรือ พระเถระ ผิดหรือไม่?.....ที่ละเลยหน้าที่  "ผิดก็ไม่ว่ากันไปตามที่ผิด" ..... ถ้าคนในสังคม...ไม่ก่อบาปกรรมโดยเหตุ 4 ..โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลำเอียงเพราะโกรธ หรือ ลำเอียงเพราะโง่เขลาเบาปัญญา...ก็คงจะดีนะ ประเทศชาติคงมีความสุขสงบมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน... ตอนนี้คนทำบาปผิดศีลกันมาก..แผ่นดินไทยจึงโดนทั้ง ภัยธรรมชาติ และภัยการเมือง รวมทั้งภัยทางศาสนาด้วย... การรวมสงฆ์นับแสนรูปเพื่อทำสังฆกรรม ..และให้สาธุชนนับแสนได้ทำบุญทำกุศล..นับว่าเป็นการทำบุญให้แก่ประเทศชาติ... จากคุณ : meditation - [ 17 ต.ค. 50 22:43:59 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ความคิดเห็นที่ 79 สรุปว่า สำนักอลัชชี ใช้วิธีปกปิดกลบเกลื่อนความชั่วของตน ไม่กล้าประกาศอธิบายข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ต่อหมู่สงฆ์นะครับ ก็ในเมื่อ AYXC อ้างอย่างนี้ ก็ย่อมเป็นที่ชัดเจนแล้วนะครับว่า การรวมตัวกันของหมู่สงฆ์เพื่อทำกิจกรรมต่างๆของสำนักอลัชชี มิได้เกี่ยวข้องกับ อธิกรณ์ หรือ อาบัติใดๆทั้งสิ้น จากคุณ : Ritti Janson =========================================== 555  ช่างหาข้อสรุปเข้าข้างตัวเองดีแท้  ไม่ว่าจะตอบไปทางไหนข้อสรุปของคุณฤทธี ก็เป็นแบบเดียว ในเมื่อไม่เคยมีการไม่ยอมร่วมสังฆกรรมจากหมู่สงฆ์  ทำไมจะต้องมีการมาแก้อธิกรณ์   แต่ถ้าตอบว่ามีการประกาศเพื่อแก้อธิกรณ์ คุณก็จะบอกว่ายอมรับผิด สรุป ตรง ๆ ตามคุณฤทธีก็คือ  การมาร่วมประชุมสงฆ์นั้น ไม่ใช่เพื่อความสามัคคีของหมู่สงฆ์  เพราะไม่เป็นไปตามพระไตรปิฏก แม้ว่าพระสงฆ์ที่ท่านมาร่วมงานต่างเห็นพ้องว่าเป็นการส่งเสริมสามัคคี  งั้นรี  หึ หึ คงต้องขอแรงไปถวายความรู้ให้ท่านด้วยเรื่อง "สังฆสามัคคี" จากคุณ : AYXC - [ 17 ต.ค. 50 22:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 89 มันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย อย่ามาเพ้อจะดีกว่า ตอบมาสิ สังฆสามัคคี มีอยู่สองความหมายเท่านั้น แล้ว คุณพูดพร่ำมาตั้งมากมายเพื่ออะไร ? แยกไม่ออกหรือ ระหว่างคำว่า "สามัคคี" กับ สังฆสามัคคี" ปัญญามันยังไปไม่ถึงอย่างนั้นหรือ ? ตอบให้มันเข้าประเด็นใน ความคิดเห็นที่ 85 หน่อยนะครับ เพราะถ้ามันไม่เข้าประเด็น มันก็เท่ากับว่า ฟลัดกระทู้นั่นแหละ ก่อนที่จะเข้ามาตอบกระทู้ ไม่ได้อ่านกระทู้ก่อนหรืออย่างไร ? หลับหูหลับตามาตอบกระทู้อย่างนั้นหรือ ? และสรุปแล้ว ไอ้ที่ดิ้นเร่าๆอยู่นี่ ยอมรับได้หรือยังว่า ที่จริงก็เป็นสาวกธรรมโกยนั่นแหละ ถอดได้หรือยัง ไอ้หน้ากากน่ะ คนขี้โกหก มันไม่น่าเชื่อถือหรอก พูดอะไรก็ไม่มีใครเชื่อ !!!!!! ทุเรศจริงๆ หึหึหึหึ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 22:49:25 ]

ความคิดเห็นที่ 90 AYXC ยังจะมั่วอยู่อีกหรือ ? กลับขึ้นไปอ่านกระทู้ใหม่นะครับว่า สังฆสามัคคี หมายความว่าอะไร ? เลิกมั่วได้แล้ว !!!!!!! 5555555555555555 ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 22:51:24 ]

ความคิดเห็นที่ 91 2) สังฆสามัคคี มีความหมายว่า เป็นนิเสธ ของ สังฆเภท นั่นเอง ในเมื่อ ไม่สูบไม่ดื่มอ้างข้อ "แสดงสิ่งที่เป็นธรรมว่า เป็นธรรม" ผมก็ทวงถามว่า เป็นอย่างนั้นจริงหรือ ? เพราะจากหลักฐาน กลับแสดงว่า นายไชยบูลย์ ยังสอนสัทธรรมปฏิรูปอยู่ ในเมื่อต้องการจะอ้างว่า อลัชชีผู้นี้ "แสดงสิ่งที่เป็นธรรมว่า เป็นธรรม" ก็แสดงหลักฐานมาสิว่า มีพุทธพจน์ เรื่อง อัตตา อยู่จริง เพราะถ้าไม่มีอยู่จริง ก็จะเท่ากับว่า นายไชยบูลย์ กำลังแสดงสิ่งที่ไม่เป็นธรรมว่า เป็นธรรม ซึ่งนั่นเป็นการทำสังฆเภท มิใช่ สังฆสามัคคี !!!!! +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เราพูดเรื่องพระเถระร่วมชุมนุมกันเป็นการปฎิบัติตามหลักธรรมใน คห 80 และ 81 ซึ่งตรงกับ "สังฆสามัคคี" ในข้อ 2 ไม่ได้พูดเรื่องว่า พระเถระองค์ใดท่านแสดงธรรมอุปมาไว้อย่างไร แล้วที่ชุมนุมจะยอมรับในงานนั้นๆ โธ่ จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 17 ต.ค. 50 23:00:55 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ความคิดเห็นที่ 91 เราพูดเรื่องพระเถระร่วมชุมนุมกันเป็นการปฎิบัติตามหลักธรรมใน คห 80 และ 81 ซึ่งตรงกับ "สังฆสามัคคี" ในข้อ 2 ไม่ได้พูดเรื่องว่า พระเถระองค์ใดท่านแสดงธรรมอุปมาไว้อย่างไร แล้วที่ชุมนุมจะยอมรับในงานนั้นๆ โธ่ ไม่สูบไม่ดื่ม ********************************************* ไม่สูบไม่ดื่ม ยังจะด้านอยู่อีกหรือครับ ? 1) ก็ไม่สูบฯพูดเองนะครับว่า .............................. ไม่ได้พูดเรื่องว่า พระเถระองค์ใดท่านแสดงธรรมอุปมาไว้อย่างไร เช่นนั้นแล้ว จะไปอ้าง สังฆสามัคคี ในความหมายว่า เป็นนิเสธ ของ สังฆเภท ได้อย่างไร ? ก็ในเมื่อนี่เป็นข้อธรรมล้วนๆ (??????) 2) แต่ถ้าหมายถึงการที่สงฆ์มาประชุมร่วมกัน จะมีความหมายว่า สังฆสามัคคี ได้ก็ต่อเมื่อ นั่นเป็นการประชุมกันเพื่อรับภิกษุเข้าหมู่ หลังจากชำระอธิกรณ์แล้ว ซึ่งมันก็ไม่ใช่กรณีนี้อีกนั่นแหละ สรุปแล้ว ไม่สูบฯ มามั่วนิ่มอะไรอยู่ เพ้อเจ้ออยู่ หรือเปล่า ? 5555555555555555555555 ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 23:08:52 ]

ความคิดเห็นที่ 93 พูดครั้งที่สาม เราพูดเรื่องพระเถระร่วมชุมนุมกันเป็นการปฎิบัติตามหลักธรรมใน คห 80 และ 81 ซึ่งตรงกับ "สังฆสามัคคี" ในข้อ 2 จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 17 ต.ค. 50 23:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 94 เอ้า AXYZ ก่อน ผมไม่ได้บอกครับว่า การไปทำบุญให้กับพระภาคใต้ไม่ดี แต่ที่ได้อธิบายให้เห็นภาพไปว่า พระทั้ง 100,000 "คน" นั้นน่ะ เข้าไปร่วม "หมาสังฆเภท" ด้วยหลายสาเหตุใดบ้าง และหนึ่งในสาเหตุนั้น ก็คือ "ขาดปัจจัย" ใช่ไหมล่ะครับ โจรทำบุญ โจรก็คงได้บุญในส่วนที่ทำบุญ แม้จะทำเพื่อหวังวัตถุประสงค์อื่นใดก็ตาม อันนี้ไม่มีข้อจะเถียงหรอกครับ ถ้าโจรอยากจะทำบุญ ก็สนับสนุนอยู่แล้ว คำถามมันก็อยู่แค่ว่า ถ้าเราเคยรับเงินจากโจร แล้วเวลาโจรมันมาไหว้วาน เ่ช่นขอที่หลบตำรวจ หรือขอให้ช่วยเก็บของกลาง หรือช่วยให้มาร่วมงานสังฆเภทมหาโจรเนี่ย เราควรจะทำอย่างไร "เราควรจะเลือกระหว่าง ความถูกต้อง หรือการทดแทนบุญคุณ" แต่ถ้าลองดู ว่างานนี้ไม่ไปร่วม แล้วไม่หาข้อแก้ตัวไว้ดีๆ งานหน้าชื่อวัดคงจะได้อยู่ในโผปัจจัยของต๊ะเอ๋มันหรอก แล้วไอ้เรื่องทำบุญหรือลงสามจังหวัดชายแดนน่ะ มันลำบากอะไรกันหนักหนา ทำอย่างกับเหยียบเส้นแบ่งเขตจังหวัดแล้วจะมีคนดักยิงหัว ผมลงไปไปนราธิวาส กับยะลา อยู่เฉลี่ยสองเดือนครั้ง ไปแล้วก็ร่วมบริจากให้องค์กรต่างๆและวัดทุกครั้ง อ้อ...แต่ไม่เคยคิดเอามาโปรโมทหากิน หรือสร้างฐานเสียงจากวิกฤตหรอกนะ ไอ้ข้อนี้เนี่ย บ่นว่าด้วยไปด้วยอารมณ์เรื่อยเปื่อยสินะ พ่อแร็พเปอร์ เอ้าไม่ว่ากัน และจะบอกว่ามันไม่น่ากลัวขนาดนั้นหรอก ข่าวมันก็ดูแรงไปบ้างนั่นแหละ ไปเยี่ยมไปทำบุญได้ ไม่โดนยิงหรอก ยิ่งตอนนี้โจรมันก็น้อยลงไปเยอะแล้วด้วย ไม่ต้องป๊อดครับลูกธัมมี่ไม่ใช่เหรอ อ้อแถมหน่อย ชอบอ้างจังเลยไอ้เรื่องตำแหน่งพระ หรือเรื่องพระผู้ใหญ่เนี่ย แต่กลับไม่เชื่อองค์พระสังฆราช ประมุขของศาสนาพุทธหรอกเหรอครับ เรื่องเจ้าตัวตะกวดเนี่ย ใหญ่กว่าทุกๆพระที่คุณว่ามาเลยนะ ยังกล้าเลือกปฏิบัติได้....เฮ้อ ----------- ้ ส่วนไม่ดูดดื่มอย่าทำตัวให้เข้าใจยากเลยครับน้องรัก ผู้ใหญ่ที่สุดในพุทธศาสนาปัจจุบัน ท่านก็มีหนังสือออกมาแล้ว ก็เพราะพระเลวๆบาง "คน" กับพระเห็นแ่ก่ได้อีกกลุ่มหนึ่ง และตะกวดหนังเหนียวใส่เสื้อยืดเหลืองนั่นล่ะ ที่เห็นคำสั่งของท่านเป็นสั่งขี้มูก เฮียเหลือง พ้นสภาพพระไปแล้ว โดยการพิจารณาขององค์พระสังฆราช จัดสังฆสามัคคีได้หรือ? เอ้า แต่ไม่ดูดดื่ม ไม่ชอบอะไรที่มันไม่เป็นทางการนี่นะ อย่างนี้ ก็ลองไม่มองกลับไปที่จุดนั้น ความชั่วของเฮียเหลือง ก็ยังมีมากพอที่จะทำให้เจ้าต๊ะเอ๋พ้นสภาพพระ อย่างไม่ยากเย็นเลย เอ้า...อ้างเอาแค่เบสิกตามที่คุณ ฤทธีบอกไว้ ในกระทู้นี้ ก็เกินพอแล้วล่ะ เริ่มจากคำสอนที่ผิดจากขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไอ้คำปัญญาอ่อน "นิจจัง สุขขัง อัตตา" นี่มันคงเป็นแค่เสียงเรอของตัวตะกวดหางกระดิ่งออกมากระมัง เราเห็นกันได้ชัดอยู่แล้วว่าคำสอนของมันจงใจฉีกคำสอนของพระพุทธเจ้าเราทิ้งอยู่นับไม่ถ้วน รื้อวัฏฐะ ใบไม้นอกกำมือ ถ้าทำใจให้เป็นกลางสักนิด ก็ไม่ยากที่จะเห็นภาพของความคิดมัน มันบอกอยู่เสมอเลยว่า ไอ้พระพุทธรูปสังคโลกของมันน่ะ เป็นธรรมกายซึ่งอยู่ในตัวของเราทุกๆคน "มีอยู่ในตัวทุกคนอยู่แล้ว" เชื่อไหม ว่าเดี๋ยวตอนหลังมันจะโยงเข้าหาตัวมัน ดูให้ดีสิ พระพุทธรูปใส่เสื้อยืดแขนยาวเหมือนมันเลยนะจ๊ะ นะจ๊ะ (:-) ธรรมกายใส่เสื้อยืด ทำไปได้) มันเคยคิดที่จะมีพระพุทธรูป ที่จะสื่อถึงความรักในองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าสักองค์หรือเปล่า ไอ้องค์ก่อนหน้านี้ มันก็ปั้นซะให้หน้าเหมือนมัน (แหม..พระพุทธรูปหน้าตะกวด) ครั้งพอโดนด่า ก็บอกว่าชาวนาทุบทิ้ง..โถ ไอ้เลว เห็นวัตถุประสงค์ของมันขึ้นมาบ้างไหม นี่มันไม่ใช่พระ มันก็ตะกวดห่ม(ใส่เสื้อยืด)เหลือง มันมีชีวิตอยู่รอดได้ก็ด้วยวิชามาร ที่มีกำลังมาจาก เหล่าน้ำเลี้ยงโง่ๆที่โดนหลอกมาเท่านั้นล่ะจ้ะ (ประโยคนี้รู้สึกว่าแรงไป แต่เป็นเรื่องจริง ขออภัย) แล้วงานใดๆที่จัดโดย ตะกวดห่มเหลืองเนี่ย มันควรจะเป็น สังฆเภท หรือ สังฆสามัคคี ผมเห็นเป็น สังฆเภท ขนาดยักษ์ อุตสาห์ตั้งชื่อให้เป็น มหาสังฆเภท จะได้เป็นประวัติศาสตร์ของลัทธิตะกวดทองไงล่ะจ๊ะ แล้ว ไม่ดูดดื่ม ก็รู้ไว้บ้างเถิด ไอ้เงินที่สนับสนุนให้เค้าทำชั่วเนี่ย ถึงแม้จะเป็นเรื่องของการโดนหลอก มันก็ยังน่าอนาถใจในภายหลังอยู่ดี (ไม่ต้องพูดถึงเรื่องบาปด้วยซ้ำไป) คิดๆ ไอ้น้อง คนเราโง่ได้ หลงผิดได้ แต่อย่าดื้อมาก จะยากนาน ----------- เจอเร็วๆหน่อยเถอะ พุทธแท้น่ะ เจ้าลูกแกะผู้โง่เขลาทั้งสอง จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 17 ต.ค. 50 23:27:18 ]

ความคิดเห็นที่ 95 พูดเป็นครั้งที่เท่าไรไม่ทราบ .......................... สังฆสามัคคี มีสองความหมาย 1) การประชุมสงฆ์ เพื่อรับภิกษุเข้าหมู่ หลังจากชำระอธิกรณ์แล้ว 2) เป็น นิเสธ ของสังฆเภท สังฆสามัคคีไม่เคยมีความหมายว่า พระเถระร่วมชุมนุมกัน เป็นการปฎิบัติตามหลักธรรม อะไรๆตามที่ ไม่สูบฯ อ้างเลย !!!! ถ้ามีความหมายอย่างนี้จริง กรุณาชี้ให้ดูเลยนะครับ ชี้มาเลยนะครับว่า ตรงไหนในพระไตรปิฎก ที่กล่าวว่า สังฆสามัคคี มีความหมายอย่างที่ ไม่สูบฯ อ้างมา คนที่สอนผิด เช่นสอนอัตตา ก็เป็น สังฆเภท จะมาอ้าง ว่าปฏิธรรมอะไรได้ ................. หึหึ นี่คุณกำลังบิดเบือนพุทธพจน์นะครับ 55555555555555555555555 ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 17 ต.ค. 50 23:29:46 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ขอบคุณ คุณ nameonics สำหรับการอ้างอิงให้ครับ คุณ Together In 80s Dream มีอะไรให้ผมดูเหรอ รบกวนส่งหลังไมค์ให้ได้หรือเปล่าครับ ขอบคุณมากๆ (แหม มาดึกนี่ อดเลยเรา) ขอให้เจริญในธรรมกันมากๆนะครับ จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 17 ต.ค. 50 23:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 97 แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 50 23:57:31 จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 17 ต.ค. 50 23:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 98 อืม นะ ก็บอกไปแล้ว เอาเป็นว่าตามนี้ละกัน จะว่าตู่บิดเบือน ฟ้อง WM ก็ตามสบายเถอะ จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 17 ต.ค. 50 23:58:32 ]

ความคิดเห็นที่ 99 เห็นวัตถุประสงค์ของมันขึ้นมาบ้างไหม นี่มันไม่ใช่พระ มันก็ตะกวดห่ม(ใส่เสื้อยืด)เหลือง มันมีชีวิตอยู่รอดได้ก็ด้วยวิชามาร ที่มีกำลังมาจาก เหล่าน้ำเลี้ยงโง่ๆที่โดนหลอกมาเท่านั้นล่ะจ้ะ (ประโยคนี้รู้สึกว่าแรงไป แต่เป็นเรื่องจริง ขออภัย) แล้วงานใดๆที่จัดโดย ตะกวดห่มเหลืองเนี่ย มันควรจะเป็น สังฆเภท หรือ สังฆสามัคคี ผมเห็นเป็น สังฆเภท ขนาดยักษ์ อุตสาห์ตั้งชื่อให้เป็น มหาสังฆเภท จะได้เป็นประวัติศาสตร์ของลัทธิตะกวดทองไงล่ะจ๊ะ แล้ว ไม่ดูดดื่ม ก็รู้ไว้บ้างเถิด ไอ้เงินที่สนับสนุนให้เค้าทำชั่วเนี่ย ถึงแม้จะเป็นเรื่องของการโดนหลอก มันก็ยังน่าอนาถใจในภายหลังอยู่ดี (ไม่ต้องพูดถึงเรื่องบาปด้วยซ้ำไป) คิดๆ ไอ้น้อง คนเราโง่ได้ หลงผิดได้ แต่อย่าดื้อมาก จะยากนาน ----------- เจอเร็วๆหน่อยเถอะ พุทธแท้น่ะ เจ้าลูกแกะผู้โง่เขลาทั้งสอง จากคุณ : ใบไม้กำนั้น  - [ 17 ต.ค. 50 23:27:18 ] +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ นะ ถ่อยจริงๆ จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 18 ต.ค. 50 00:01:56 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เฮอะ เฮอะ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พอให้หาหลักฐานจากพระบาลี มาแสดงว่า .......... สังฆสามัคคี มีความหมายว่า พระเถระร่วมชุมนุมกัน เป็นการปฎิบัติตามหลักธรรม อะไรๆตามที่ ไม่สูบฯ อ้าง กลับ แบ๊ะๆ เสียแล้ว !!!!!! 5555555555555555555555 สันดานอลัชชี มันก็เป็นเสียอย่างนี้ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 18 ต.ค. 50 00:07:08 ]

ความคิดเห็นที่ 101 แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 50 02:34:22 จากคุณ : nameonics - [ 18 ต.ค. 50 01:09:27 ]

ความคิดเห็นที่ 102 **** จากคุณ : หนูเล็กนิดเดียว - [ 18 ต.ค. 50 07:24:26 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ท่านประธานใบไม้ฯ เมื่อวานข้าพเจ้าก็ส่งหลังมือไปแล้วนา ทำไมไม่เห็นหว่า ส่งไปอีกรอบแล้วเด้อ เป็นข้อมูลบางอย่างที่ท่านประธานฯ เข้าใจผิดอยู่อะ (ถ้าไม่ได้หลังมืออีก อ่าน คห.71 ของข้าพเจ้าเด้อ 5555) จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 18 ต.ค. 50 08:46:34 ]

ความคิดเห็นที่ 104 คำว่า สามัคคี เป็นคำทั่วไป ชาวบ้านใช้ได้ สงฆ์ใช้ได้ ในคคห 80 81 เป็นคำนี้ คือ ภิกษุต่างสามัคคีกัน หรือ ชื่นชมกัน แต่คำว่า สังฆสามัคคี เป็นความหมายพิเศษ สำหรับพระสงฆ์เท่านั้น มีคำว่า สงฆ์อยู่ข้างหน้า เป็นสังฆสามัคคี ต้องใช้ความหมายที่พระพุทธองค์บัญญัติไว้ ตาม คคห ที่ ห้าของ คุณ ริททีนะครับ ดังนั้น ของคุณ ริทที ถูกแล้วครับ อ่านให้ดีๆ เลย บิดเบือนพระธรรมวินัย บาปหนักเลยครับ ขออนุโมทนานะครับ ดังนี้ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 18 ต.ค. 50 09:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เหมือนกับคำว่า ทาน มีความหมายหลายอย่าง ชาวบ้านให้ทานได้ พระสงฆ์ให้ทานได้ แต่คำว่า สังฆทาน มีความหมายเฉพาะ ครับ สังฆสามัคคีก็เช่นกัน พระที่มาชุมนุมกัน สามัคคีกันรับทาน เป็นความสามัคคีทั่วไป ที่มองในมุมชาวบ้านแล้วได้ ใช้ได้ แต่ไม่ใช่  " สังฆสามัคคี  " เว้นไว้แต่จะตามที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้ ดัง คคห 5 คุณ ริทที ที่นำมาอีกครั้ง ใน 104 เช่นเดียวกัน กระทู้นี้พระสูตรนี้ คุณ ริทที ช่างหามาได้ ขอชื่นชม และอนุโมทนานะครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 18 ต.ค. 50 09:42:37 ]

ความคิดเห็นที่ 106 คุณจักรแก้วครับ ผมก็บอกใน คห. นี้แล้วว่า ริททีว่ามานั้นถูกอยู่.............. แต่ผมไม่ได้บอกว่าการร่วมชุมนุมของพระเถระนั้นเป็น "สังฆสามัคคี" หากแต่บอกว่า................... จะงานเล็กหรืองานใหญ่หากท่านกระทำตามในหลักแล้วก็ถือว่าเป็น "ส้งฆสามัคคี" อีกประการผมก็ได้ให้คุณริททีเธอไปหาหลักฐาน "ที่เป็นทางการ" เกี่ยวกับคำว่า "อลัชชี" ที่เธอได้บอกเอาไว้ ซึ่งผมเห็นว่า "อย่างเป็นทางการ" นั้น ไม่มีอลัชชีในงานนี้นะครับ เป็นอคติที่เธอเข้าใจไปเอง จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 18 ต.ค. 50 11:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เพื่อเป็นการยืนยันว่าที่ริททีเอาเรื่อง "สังฆสามัคคี" มาโพสนั้นถูกต้อง ผมได้ยืนยันใน คห นี้แล้ว ใครกันบิดเบือนพระธรรมวินัยครับ? จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 18 ต.ค. 50 11:44:09 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ภาษาอังกฤษสอนน้องวันละคำ 2 คำ Official เป็นคำคุณศัพท์ แปลว่า ที่เป็นทางการ ตย.เช่น ธัมมชโยเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย(ที่)อย่างเป็นทางการ Eligible เป็นคำคุณศัพท์ แปลว่า ซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสม และหากจะเจาะลึกลงไปว่า "เหมาะสม"ในด้านใด Dictionary (อังกฤษแปลอังกฤษ) เค้าก็ระบุไว้ชัดเจนว่า Eligible -adjective- แปลว่า fit to be chosen; legally or morally qualified แปลเป็นไทยว่า "มีคุณสมบัติเหมาะสม"ทั้งในด้านความถูกต้องตาม "ตัวบทกฎหมาย" และ "ระดับศีลธรรม" ดังนั้น คุณฤทธี เข้าใจคำศัพท์ทั้ง 2 คำนี้ถูกต้องแล้วนะคร๊าบบบบบ!!! เพราะ ถึง ธัมมชโยจะเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายอย่างเป็นทางการ แต่ เมื่อคำนึงถึง "ความเหมาะสม" ที่จะเป็นสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ธัมมชโย ขาด คุณสมบัติดังกล่าว   * ทั้งในแง่ กม.(ที่ต้องขอให้ศาลถอนฟ้อง ด้วยการเอาเงินและที่ดินที่ยักยอกวัดไป มาคืนให้แก่วัด) * ในด้านศีลธรรม (พระธรรมวินัย) ที่พระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชทรงระบุ ชัดเจนว่า การกระทำดังกล่าวของธัมมชโยนั้นละเมิดพระธรรมวินัยร้ายแรง ถึงขั้นอาบัติ ปาราชิก ขาดจากความเป็นสงฆ์โดยทันที ดังนั้น เข้าใจศัพท์ 2 คำนี้ให้ถูกต้องนะ ไม่สูบไม่ดื่ม..... จะได้เข้าใจว่า ทำไม ฤทธี เค้าถึงยืนยันว่า ธัมมชโย เป็น อลัชชี อย่างเป็นทางการ(Official) และ โดยหลักของความเหมาะสม( Eligibility) !!! แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 50 15:11:07 แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 50 15:07:47 จากคุณ : nameonics - [ 18 ต.ค. 50 12:01:11 ]

ความคิดเห็นที่ 109 เฮอ ถ้าพลาดไปเจอยมบาลเมื่อไหร่ อย่าลืมถามท่านด้วยนะว่า "ไหนล่ะ ความผิดอย่างเป็นทางการของกระพ๊ม ถ้าไม่มีจะจับกระพ๊มใส่กระทะทองแดงไม่ได้นะ" จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 18 ต.ค. 50 12:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ไม่สูบไม่ดื่ม ท่าทางจะเพี้ยนนะครับ ? 1)ความเป็น อลัชชี ใช้กฏหมาย หรือใช้พระธรรมวินัย ตัดสินครับ ? การที่นายไชยบูลย์ เป็นอลัชชี ต้องรอให้หน่วยงานไหนมาบอกครับ ? หรือว่าที่จริงแล้ว เมื่อนายไชยบูลย์ต้องอาบัติ เขาก็ปาราชิก ขาดจากความเป็นภิกษุ ในพระธรรมวินัยนี้แล้ว อย่า งง นะครับ ผมสังเกตเห็นว่า ไม่สูบฯ งง อยู่ตลอดเวลาเลยนะครับ !!!!! 2) สังฆสามัคคี คืออะไร และอย่างไร ? มีหลักการ และหลักฐานที่ชัดเจนอยู่แล้ว ฉนั้น อะไรที่ไม่ใช่ มันก็คือไม่ใช่ แล้ว ไม่สูบฯ ยังจะมาทำหน้าด้าน อ้างว่า ไอ้งานปาหี่อะไรนั่น เป็น สังฆสามัคคี อยู่ได้อย่างไร ? ถ้าจะอ้างว่า การกระทำดังกล่าวเป็น สังฆสามัคคี ไม่สูบฯ ก็ยกพระบาลีมาอ้างสิว่า สังฆสามัคคี มีความหมายอย่างนั้นจริง มิใช่เป็นการกล่าวตู่  คิดเอาเองพูดเอาเอง !!!!!!!! อย่ามาพูดมั่วๆสิครับ 3) ไม่สูบฯ เป็นสาวกอลัชชี จนป่านนี้ยังไม่กล้าพูดความจริง แล้วผมหรือใครๆ เขาจะไปเชื่อคำพูดของคนอย่างคุณได้อย่างไร ? ไม่สูบฯ เลิกเอาหลวงตาบัว มาบังหน้าได้แล้วนะครับ มันไม่มีประโยชน์หรอก หรือจะรอให้ลูกศิษย์หลวงตามาด่าอีกรอบ จึงจะเลิกทำแบบนี้ได้สักที .......................... !!!!! 4) ชัดเจนนะครับ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 18 ต.ค. 50 12:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 111 เมื่อจะกล่าวถึงการเป็นภิกษุ ผู้เป็นพุทธบุตร .. "ทางการ และความถูกต้อง" ในการเป็นภิกษุ   ตัดสินด้วย "พระธรรมวินัย" ที่บัญญัติโดย..พระพุทธองค์   ไม่ใช่จากใครอื่นที่ไหน!! ดังนั้น เมื่อผิดพระธรรมวินัย..ปาราชิก ก็ต้องหมดความเป็นภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ทันที   อย่างเป็นทางการตามพระวินัย!! [ถ้ายังไม่สึกหรือถูกจับสึก ก็คือพระปลอม!! เป็นอลัชชี] เปรียบเสมือนลักขโมยเมื่อไร ก็ผิดศีลทันที โดยไม่ต้องให้ใครมาตัดสิน[ให้ผิดอย่างเป็นทางการ]   .. จากคุณ : /kd (@mantras) - [ 18 ต.ค. 50 12:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 112 13 จากคุณ : Ritti Janson - [ 18 ต.ค. 50 12:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 113 16 จากคุณ : Ritti Janson - [ 18 ต.ค. 50 12:41:38 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ถอดได้หรือยังครับ ไอ้หน้ากากที่สวมเอาใว้นั่นน่ะ .................... ไม่มีสาวกของพระพุทธเจ้า "คนไหน" ........................ ที่ตั้งหน้าตั้งตา ปกป้องอลัชชี อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย เหมือนกับที่ ไม่สูบฯ กำลังทำอยู่นี่หรอก จะเฉลยได้หรือยัง ? หรือว่ายังเสียดาย "คอนเซ็ปท์" ประมาณว่า ชาวพุทธสำนักไหนๆ ก็เห็นด้วย ไม่ได้ต่อต้าน คำสอนของสำนักธรรมโกย (????) ที่นี่ ไม่มีคนโง่ หลงกลตื้นๆของ ไม่สูบฯ หรอกครับ เขาเพียงแต่จะรอดูว่า ไม่สูบฯ จะหน้าทน เล่นละคร-ตบตา ไปได้นานสักแค่ไหน ? เฮอะ เฮอะ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 18 ต.ค. 50 12:49:31 ]

ความคิดเห็นที่ 115 คุณ Together In 80s Dream จ๋า ขอคุณมากที่แจ้งข่าว รับทราบและหน้าแตกไปเปนที่เรียบร้อยแล้วจ้า (แหะ แหะ) แหม กระผมก็ไม่ค่อยถนัดด้วย นึกว่ามีแค่ด่าลิ๋ง วีนตบหลังข่าวแค่คนเดียวเท่านั้นซะอีก อ่านแนวเขียน ก็ดูเหมือนผู้ชายซะด้วย เลยเหมาเองเออเองซะเลย คราวหน้าต้องระวังหน่อยล่ะ AXYC เฮียผิดไปแล้ว นะจ๊ะ นะจ๊ะ ชื่อภาพ "ใบไม้ขวยเขิน" จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 18 ต.ค. 50 14:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ^ ^ 55555555 ขออนุญาตขำท่านประธานหน่อย เอาหนะ ของมันเข้าใจผิดกันได้ จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 18 ต.ค. 50 15:02:58 ]

ความคิดเห็นที่ 117 แหมๆๆ คราวหน้าจะระวังให้ดีเชียวจ้ะ --------- ส่วนประเด็นของไม่ดูดดื่มนี่น่าคิดจริงๆ ถ้าดีกรีอย่างเจ้าดูดดื่ม แล้วบอกว่าตนเองไม่ธรรมกาย แต่ก็ยังเชียร์ ยังปกป้องกันสุดตัวได้ขนาดนี้ล่ะก็...โอวว ผมไม่เห็นเหตุผลเป็นอื่นไปได้แล้วล่ะ ผมคิดว่าเป็นไปได้สูงมากที่เจ้านี่ อาจจะเป็นหนึ่งใน สีกา ซึ่งเป็นสีกาคัดพิเศษแบบ "สีกาประเภทสอง" ที่ซ่อนเอาไว้ลับๆข้างกายของธัมมี่ก็ได้นะครับ อืม อย่างนั้นกระทู้ ธัมมี่ฯคนไม่มีแฟนของคุณฤทธีคงจะต้องขึ้นภาค 2 ภาคพิเศษ หรือภาคพิสดาร กันอีกรอบล่ะ ต้องติดตามดููกันต่อไปแล้วพี่น้อง! (ตายล่ะ ผู้หญิง กับ ผู้ฉิงแอ็บแมนเราไม่ถนัด อ้อ! ยังมีลูกธัมมี่อยู่ ผู้ชายแท้ใช่ป่ะเอ็งน่ะ) ฮ่าฮ่า แซวเล่นนะเจ้าดูดดื่ม ยอมรับไปซะตรงๆดีก่า แมนๆ ไ้อ้น้องชาย! ยังไง จะอยู่ที่ไหน เด๋วพวกเฮียก็ช่วยกันดึงเอ็งออกมากันอยู่แล้วล่ะน่า จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 18 ต.ค. 50 15:53:41 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ความคิดเห็นที่ 106 คุณจักรแก้วครับ ผมก็บอกใน คห. นี้แล้วว่า ริททีว่ามานั้นถูกอยู่.............. แต่ผมไม่ได้บอกว่าการร่วมชุมนุมของพระเถระ นั้นเป็น "สังฆสามัคคี" หากแต่บอกว่า................... จะงานเล็กหรืองานใหญ่หากท่านกระทำตามในหลักแล้ว ก็ถือว่าเป็น "ส้งฆสามัคคี" ไม่สูบไม่ดื่ม ***************************************************** 1) เบื้องต้นก็อ้างว่า ................................ แต่ผมไม่ได้บอกว่าการร่วมชุมนุมของพระเถระ นั้นเป็น "สังฆสามัคคี" 2) แต่หลังจากนั้นก็ พูดจา กลับกลอก-สอดไส้ อีกว่า ................. จะงานเล็กหรืองานใหญ่หากท่านกระทำตามในหลักแล้ว ก็ถือว่าเป็น "สังฆสามัคคี" 3) ก็แสดงหลักฐานมาสิครับว่า มีพุทธพจน์ เป็นหลักฐานแสดงว่า "สังฆสามัคคี" มีความหมายตามที่อ้างมาจริง ไอ้ "หลัก" ที่ว่านั่นน่ะ หลักไหน หลักอะไร กันหรือครับ ? เอามาให้ดูหน่อยนะครับ ผมก็อยากจะเห็นชัดๆเหมือนกันว่า ไอ้หลักที่อ้างถึงนั้นมันเป็น "หลักการ" หรือว่า "หลักกู"  .......(??) คงจะไม่ใช่ว่า ไม่สูบฯ คิดเอาเอง พูดเอาเองนะครับ ................ (?) 4) หึหึ ฤทธี จากคุณ : Ritti Janson - [ 18 ต.ค. 50 16:06:21 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ชื่อ  น่ารักน่าหยิกมากเลย "  ไม่ดูดดื่ม  " คิดได้ไง โอววว............. จากคุณ : เดือน (บุษกรจันทร์) - [ 18 ต.ค. 50 16:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 120 - จากคุณ : Ritti Janson - [ 18 ต.ค. 50 17:26:24 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ^ ^ ^ โอว...ลีลารีทัช ใช่ย่อยๆ คุณ ธนะรัตน์ เอ็กโซติก เจอผู้ท้าชิงซะแว๊ววว จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 18 ต.ค. 50 17:55:11 ]

ความคิดเห็นที่ 122 วันนี้ไม่สูบไม่ดื่มท่าทางจะเจอศึกหนักทั้งสองกระทู้ อนาถแท้ๆ จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 18 ต.ค. 50 19:32:28 ]

ความคิดเห็นที่ 123 สมกันจริงๆ "ไม่ดูดไม่ดื่ม" กับ "ออสการ์ สาขาสตอเบอร์รี่" 55555 จากคุณ : nameonics - [ 18 ต.ค. 50 21:48:13 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ความคิดเห็นที่ 123   สมกันจริงๆ "ไม่ดูดไม่ดื่ม" กับ "ออสการ์ สาขาสตอเบอร์รี่" 55555 จากคุณ : nameonics   - [ 18 ต.ค. 50 21:48:13 ]   +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ริททีครับ ผมตอบนาโอมั่วนะครับ เพราะแกให้รางวัลผม ผมเลยเอาผลงานแกมาให้ดู ถือว่าหายกัน ถ้าแกโพสต่อ ริททีแจ้ง WM เลยนะครับว่านาโอมั่วฟลัดกระทู้ รางวัลสตอเบอรรี่นี่ต้องยกให้คนนี้ครับ สตอรเบอรี่ขนาดพวกเดียวกันยังไม่เอาเลย............ จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 18 ต.ค. 50 22:53:35 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ความคิดเห็นที่ 122   วันนี้ไม่สูบไม่ดื่มท่าทางจะเจอศึกหนักทั้งสองกระทู้ อนาถแท้ๆ จากคุณ : Together In 80s Dream   - [ 18 ต.ค. 50 19:32:28 ] +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ คุณครับ เมื่อตอนเที่ยงหยกๆก็ว่าจะเลิกยุ่งกับผมแล้ว พอทุ่มหนึ่งก็มาหาผมอีกยังงี้ ทำให้ผมนึกถึงเพลง "ใจนางเหมือนดั่งทางรถ ช่างคดเหลือจะคะเน" จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 18 ต.ค. 50 22:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ความคิดเห็นที่ 124 ขนาดพวกเดียวกันยังไม่เอาเลย............ ไม่สูบไม่ดื่ม ************************************************* แต่ผมกลับเห็นว่า ยิ่งไม่สูบฯ ทำแบบนี้ มันก็มีแต่จะทำให้เห็นว่า "คุณ" เหมาะสมกับรางวัลนี้แล้ว !!!!! v v v v จากคุณ : Ritti Janson - [ 18 ต.ค. 50 23:05:03 ]

ความคิดเห็นที่ 127 สำหรับริททีครับ................ เมื่อผมได้พิจารณาจากที่คุณจักรแก้วเธอได้ชี้แจงแล้ว............ ในกรณีที่สงฆ์รวมหมู่กันนั้น "ส้งฆสามัคคี" จักเกิดได้เมื่อได้มีการกระทำตามหลักนี้จริง จากคุณ : ไม่สูบไม่ดื่ม - [ 18 ต.ค. 50 23:09:11 ]