ความคิดเห็นที่ 1              ขอให้แยกให้ออก ระหว่างคำว่า น่าเกลียด และน่ากลัว              เมื่อมองเขียงหมูแล้วไม่กล้ามอง ข้อนี้เป็นเพราะความกลัว ดังนั้น เมื่อต้องการ ให้เกิดความสำคัญหมายว่าน่าเกลียด ความไม่สวยงามในร่างกาย ดังนั้นจึงต้องข่มความกลัวไว้       หรืออุบายอื่นๆ เช่นว่าเมื่อไปดูซากศพ ในกรณีที่กลัวมาก ควรไปกับเพื่อนที่มีปกติไม่ขลาดกลัว              พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕              อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต              สัญญาสูตรที่ ๒ http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=23&A=1076&Z=1220                            ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=23&i=46              พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๘  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๐              สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค              ภารทวาชสูตร http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=18&A=2904&Z=2981                            ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=18&i=195 แนะนำ :-              อ่านและค้นพระไตรปิฎก ๔๕ เล่ม              อ่านและค้นอรรถกถาพระสุตตันตปิฎก              อรรถกถาชาดกทั้งหมด ๕๔๗ เรื่อง              พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์              พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/              พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม              สารบัญประเภทธรรม http://84000.org/tipitaka/dic/d_type_index.php?                      หมวดหนังสือธรรมะ http://84000.org/tipitaka/book/              เรื่อง ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html              เรื่อง สิ่งที่เป็นมงคล (มงคล ๓๘) http://84000.org/tipitaka/book/bookpn06.html              เรื่อง ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก http://84000.org/tipitaka/book/bookpn01.html จากคุณ : ฐานาฐานะ - [ 29 ต.ค. 50 15:24:26 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขออนุญาตตอบนะครับ เพราะผมก็เป็นเหมือนกันเลย อิอิ :D แรกสุดเลยก็ต้องยอมรับอย่างนึงก่อนว่า เราสะสมอาจิณกรรมเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้มานานโขอยู่ นับไปนับมาก็ตั้งแต่วัยรุ่น จะตัดให้ขาดในทีเดียวแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยครับ อุปมาเหมือนเราค่อยๆเติมน้ำทีละหยดลงไปเจอสาวทีก็หยดไปที ดูเวปทีก็หยดไปที นับจนปัจจุบันน้ำคงแทบจะกลายเป็นทะเลแล้วกระมัง ยิ่งถ้ากรรมที่ก่อแรง ก็อาจจะไม่ใช่แค่ทีละหยด ที่กล่าวมาไม่ได้ให้ท้อใจนะครับ แต่อยากให้เข้าใจธรรมชาติของสิ่งที่เรากำลัง "อยาก" จะแก้ รึเป็นปฏิปักษ์กับมัน เมื่อเราค่อยๆสะสม เราก็ต้องค่อยๆลอกมันออกทีละน้อย โดยทำความเข้าใจกับมัน รู้ตัวในขณะที่เกิดว่ามันเกิดขึ้นมาอีกแล้ว โดยไม่ต้องไปกลียดหรือพยายามจะไล่มัน เพราะจะกลายเป็นสร้างโทสะ เพิ่มขึ้นมาอีกตัว การเข้าใจและรู้ทันจะทำให้ใจเราไม่หลงไปกับมันมากนัก รับรู้ไปอย่างสบายๆ ส่วนการแก้ที่เป็นขั้วตรงข้ามกันที่พระพี่เลี้ยงแนะนำตอนที่ผมบวชอยู่ ก็คือการพิจารณาอสุภะ ไม่น่าแปลกใจที่คุณจะเกลียดหรือกลัว เพราะถ้าจิตของคุณค่อนไปทางชมชอบของสวยๆงามๆ จิตก็มักจะเป็นปรปักษ์กับอสุภะอยู่แล้วครับ เพราะเป็นสิ่งที่แก้กันโดยตรง สิ่งที่ผมเคยทำก็สองงานข้างต้นนี่แหละครับ ยาตัวแรก "การรู้ทันตัวเอง" ใช้ในการทรงอาการ ไม่ยอมให้โมหะมันแพร่พันธุ์ในตัวมากขึ้นไปอีก คือไม่ก่อกรรมเพิ่ม ส่วนตัวยาที่สองใช้ในการฆ่าเชื้อที่มีอยู่แล้วโดยตรง คืออสุภกรรมฐาน เมื่อเห็นสาวๆสวยๆ สันดานเก่าก็มักจะพาไปมองในที่ๆจิตคุ้นเคย คิดเรื่องคุ้นเคย ก็ให้เข้าใจมัน และมองให้ลึกกว่าเดิม ถึงสิ่งที่อยู่ข้างใน ความเป็นจริงที่เราเคยพยายามจะไม่มอง เพราะอยากเสพแต่ความรื่นรมย์ทางสัมผัสภายนอก รูป รส กลิ่น เสียง เมื่อยาทั้งสองตัวให้ผล อาการเราก็จะบรรเทาลงเองตามลำดับครับ แต่สิ่งที่ผมเตือนตัวเองเสมอก็คือ ถ้าไม่อยากให้โรคดื้อยา ก็ต้องกินยาบ่อยๆ อย่าให้ขาดครับ   :) ปล. ถ้าจิตยังไม่พร้อมในการพิจารณาอสุภะก็อย่าเพิ่งฝืนตัวเองครับ แนะนำให้ "รู้" ไปก่อน เมื่อมันเบาบางลง จะเริ่มเข้าใจเองว่าจริงๆแล้วทุกอย่างเกิดจากภายในตัวเรา จิตเราเองที่พยศเมื่อเจอสิ่งไม่ถูกใจ แล้วก็จะค่อยเป็นไปตามกรรมตามวาระเรื่อยๆเองครับ ขอให้เจริญในธรรมครับ :) แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 50 16:07:27 แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 50 16:07:22 จากคุณ : Miquiztli - [ 29 ต.ค. 50 16:00:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มีหลายคน"ไปทำศัลยกรรมทางจิตวิญญาณ"ธัมมะธัมโมที่แท้ก็ซ่อนความชอบในกาม กรณีคุณจริงใจดีบอกมาตรงๆ การชอบกามจัดเป็น"กรรมเก่า"ครับอาจเป็นแต่เด็ก ก็ต้องสร้าง"กรรมใหม่"ค่อยๆลด หรือ"หาช่องว่างทำความสะอาดใจบ้าง" เช่นตักบาตร,เข้าวัด,ตอนเย็นๆพระสวดก็เข้าไปฟังได้ ติดกามใกล้เคียงเฮโรอีนหรือโคเคนครับจำไว้เลยเลิกยากต้องกัดฟันทน เป็นพระถึงกับคอขาด บวชอีกไม่ได้เลย เรียกพรหมทัณฑ์ โอยสุดจะเหงา ลองไปซื้อกาวตราช้างมาผสมแป้ง(ผัดหน้า)คนให้ทั่วๆที่พื้น แล้วหาจุกก๊อก,แท่งเหล็ก มาวางทับก้อนกาว พอแห้งลองดึงให้ออกซิครับ นั่นแหละกามมม แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 50 16:08:57 จากคุณ : ธนะรัตน์ เอ็กโซติก - [ 29 ต.ค. 50 16:04:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ที่ติดเพราะทำเป็นประจำ จนใจมันเคยชิน ลองค่อยๆห่างออกมา เช่น เดือนหนึ่งก็ตั้งใจไว้เลยว่า จะงดเรื่องกามซักสามสี่วัน(หรือตามวันพระก็ได้) หันไปออกกำลังกาย เล่นกีฬา อย่าพยายามอยู่คนเดียวในพื้นที่ส่วนตัว ดังนั้นสวดมนต์ นั่งสมาธิ เฉยๆ อาจจะไม่ค่อยได้ผลนักในกรณีเช่นนี้ ควรหันมาเดินจงกรมด้วย เน้นว่าในที่กลางแจ้งด้วย จะดีมากครับ และที่สำคัญควรห่างจากสิ่งกระตุ้นทั้งหลาย ทั้งสื่อโทรทัศน์ อินเทอร์เน็ท ฯลฯ อาจเข้าวัดหรือหาสถานที่สงบอยู่ในวันที่ตั้งใจงด จะได้ห่างจากผู้คนที่แต่งตัวสวยๆงามๆด้วย ดังนั้นถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น ลองถือศีล 8 แค่สี่วันต่อเดือนตามวันพระ จะช่วยได้เยอะเลยครับ ส่วนเรื่องอสุภกรรมฐาน ก็ตามที่ท่านฐานาฐานะแนะนำครับ หรือหากยังกลัวอยู่ ลองหันมาดูรูปขยะ รูปของเน่าเสีย หรือรูปคนแก่ๆ คนเป็นโรคมีแผลหรือติดเชื้อเป็นต้น แล้วไม่ใช่แค่ดูเฉยๆ แต่ควรดูแล้วพิจารณาว่า ซักวันหนึ่งเราเองหรือหญิงที่เห็นสวยๆงามๆ ก็ต้องเป็นเช่นนี้ จากคุณ : He-Who-Must-Not-Be-Named - [ 29 ต.ค. 50 16:31:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เคยมีพวกเวปโป้ส่งเมลมาประจำ แรกๆก็ดูอยากรู้ว่าเป็นไง แต่พอรู้แล้วคราวหลังส่งมา ก็ลบทิ้งเลยไม่เปิดเลย เราต้องมีใจเข้มเข็ง ลองเลิกสิ่งเหล่านี้ไปนานๆ พอกลับมาเจอใหม่จะกระดากมากไม่อยากยุ่งอีก  และก็มีการพิจารณามองความจริงว่า -ร่างกายนี้มีสิ่งปฏิกูลอยู่ภาย เช่น น้ำหนอง เลือด อุจจาระ อื่นๆ -ร่ายกายสกปรก ต้องชำระล้างทุกวัน เว้นเพียงวันเดียวก็เหม็น -ร่างกายมีโครงกระดูก ประกอบด้วยชิ้นเนื้อฉาบไว้ มีเอ็นรัดรึง ภายนอกห่อหุ้มด้วยผิวหนัง ทำให้ดูสวยงาม ความจริงลองคิดว่าลอกหนังออก ก็ไม่อยากจะมองกันแล้ว เพราะไม่สวยงามน่ามองเลย  ลองพิจารณาจากเราเอง แล้วมองคนอื่นว่าเขาก็เหมือนเรา จากคุณ : อปราชิตา - [ 29 ต.ค. 50 16:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อยากเลิกนิสัยแบบนี้ ทำไงดีครับ จากคุณ : crimson king  - [ 29 ต.ค. 50 14:57:25 ] ........................ เรียน จขกท. ปัญหาทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของความอยาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แล้วจะทำยังไงกันดี ????? มันก็เหมือนกับคนที่ติดบุหรี่ ที่เรียกว่าพวกขี้ยานั่นแหละ ปากก็บอกอยากเลิก ๆ ๆ แต่ก็ปากอีกนั่นแหละที่คาบบุหรี่เอาไว้ตลอดเวลา ไม่ยอมปล่อย ถ้าแค่อ้าปากไม่คาบบุหรี่เอาไว้ มันก็จบแล้ว แต่ไม่ยอมทำ ????? เรื่องที่ท่านถามมานี้ก็เช่นกัน !!!!! ท่านจะขอให้ใครช่วย ก็ช่วยตัวท่านไมสำเร้จแน่นอน วิธีเดียวที่จะสำเร็จ ก็คือ ท่านต้องช่วยตัวเอง ๆ ๆ ๆ วิธีแก้ไขจึงง่ายนิดเดียว ก็คือ ท่านช่วยตัวของท่านด้วยตัวของท่านเอง ยิ่งทำได้ตลอดเวลายิ่งดี แล้วปัญหาก็จะค่อย ๆ เบาบางลง แต่ถ้าสุดท้ายยังไง ๆ ก็ทำไม่ได้ ก็ขอแนะนำให้ตัด.......... ????? แล้วโยนให้เป็ดกินไปซะ...... !!!!! หุ หุ พูดเล่นน่ะ ????? จากคุณ : kongsilp2000 - [ 29 ต.ค. 50 17:07:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 การละออกจากกามเป็นเรื่องยาก แม้ผู้ที่บรรลุเป็นพระโสดาบัน และ พระสกทาคามี ก็ยังตัดกามราคะยังไมได้  เพียงแต่ท่านจะไม่ล่วงละเมิดศีล ส่วนเรามนุษย์ปุถุชน ซึ่งยังเวียนว่ายในกามภพ ยิ่งเป็นเรื่องยาก  แต่ก็ไม่เกินวิสัยหากคิดจะทำ  โดยการฝึกสำรวม กาย วาจา ด้วยการรักษาอุโบสถศีลในวันพระ หรือ ตามโอกาสอำนวย  เมื่อทำบ่อย ๆ ก็จะคุ้นกับการฝึกให้ออกจากกาม   เป็นผู้ชายก็ควรหาเวลาบวชอย่างน้อยสักพรรษา นอกจากจะได้บุญจากการสืบอายุพระพุทธศาสนา  ก็จะได้เนกขัมมบารมีด้วยจ้ะ ถ้ายังอยากดำรงชีวิตให้มีความสุขแบบชาวโลกโดยไม่ไปฝืนธรรมชาติของร่างกายมาก ก็ขอให้ยึดมั่นในศีล 5 เป็นปกติ หากจะมีอารมณ์จากกามวิตกบ้าง แต่ไม่ได้ละเมิดศีล 5  ก็ไม่บาป จากคุณ : AYXC - [ 29 ต.ค. 50 17:16:20 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมลอง ไม่มีsex ไม่ดูรูปโป๊ ไม่ช่วยตัวเอง ทนได้ประมาณอาทิตย์นึง พอหนักๆเข้ามันอยากครับ มันจะหงุดหงิดที่น้องชาย(พูดจริงนะครับ ไม่ได้ลามก) จนใจมันห้ามไม่ไหว เลยตบะแตกน่ะ ผมกลัวว่าถ้ายังทำไม่ได้แล้วไปบวช มันจะเป็นบาปน่ะ จากคุณ : crimson king - [ 29 ต.ค. 50 17:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สถานที่,สีและอาภรณ์ของสมณะเพศที่ศาสดาร่วมออกแบบ จะทำให้เรา"สงบเย็น"ลงเองครับ เวลาเปลี่ยน,สถานที่เปลี่ยน,คนเปลี่ยน,ได้แน่ครับ จากคุณ : ธนะรัตน์ เอ็กโซติก - [ 29 ต.ค. 50 17:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ลองดูอารมย์ตัวเองดีมั้ยครับ  ดูจิตดูใจของตัวเอง  ดูให้รู้ให้เห็นความเกิดดับ  เช่น ดู web โป๊  ก่อนดูรู้สึกยังไง  ระหว่างการดูรู้สึกยังไง หลังจากดูเสร็จรู้สึกยังไง  ลองสังเกตุดูดีๆนะครับ  มันจะเป็น Cycle ไปเรื่อยๆไม่จบ  เราก็ต้องตามมันไปเรื่อยๆ  นั่นคือเราขาดสติ  แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีสติตามจิตกับความคิดทัน  เราจะมีปัญญาขึ้นมาทันที จากคุณ : น้องหมูใหญ่ - [ 29 ต.ค. 50 17:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พระพุทธองค์และพระอรหันต์ทั้งหลาย  เป็นผู้  ไกล  จากกิเลส แต่คุณพยายามเข้าไป ใกล้  กิเลส  มันก็ไม่แปลก  ต้องโดนกิเลส ครอบงำเป็นธรรมดา ต้องพยายามไกล  มันไว้   เริ่มต้นจาก  ลด  ละ  เลิก มันได้สักอาทิตย์ก็ดี  ต่อไปก็ให้เพิ่มขึ้น   ของอย่างนี้ไม่ใช่ทำปุ๊บได้ปั๊บ เราสะสมกามกิเลส    มาเป็นเวลานานมันไม่ไปง่าย ๆหรอก แต่ที่คุณคิดได้  นีแสดงว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้วนะ จากคุณ : notsugar - [ 29 ต.ค. 50 18:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่อยากดูก็ต้องดูจะได้หายซักที www.kmitl.ac.th/buddhist/tumma/asupa.html อ่านเจอจากที่อื่นว่า อุคหนิมิตรของ อุทธุมาตกอสุภ จะเห็นเป็นศพยืนขึ้นได้ หรือว่า ลอยตามเรามา เหมือนผีปีศาจตามเรามา อะไรทำนองนี้ เป็นนิมิตรที่น่ากลัวจริงๆ ท่านให้คิดว่าเป็นศพแล้วจะตามมาหลอกหลอนทำอะไรเราไม่ได้ความจริงมันไม่ขยับอย่าไปกลัว จากคุณ : life-x-zone - [ 29 ต.ค. 50 19:11:13 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ใน คห. ส่วนตัวของตาลนะคะ ก็เพราะคุณยังเป็น  "มนุษย์" อยู่    มันก็ไม่ผิดหรอกที่คุณจะดูอะไรจำพวกนี้   ตามหลักวิชาสุขศึกษากับสังคม   มนุษย์เป็นสัตว์สืบพันธุ์นะคะ  ยังไงต้องมีการเจริญพันธุ์  ต้องมีการฆ่าน้องๆลูกอ๊อดตอนเช้าๆ เพียงแต่อย่าไปหมกหมุ่นก็พอ  คือ  ดูพอเป็นกระษัย   ตาลไม่รู้นะว่า   1.คุณว่างมากหรือเปล่า? 2.คุณเป็นคนไฮเปอร์ บ้าพลัง พลังเยอะหรือเปล่า? แต่ตาลว่าลองหากิจกรรมทำดีกว่ามั้ยคะ?   นั่งสมาธิก็ได้ สวดมนต์ก็ดี  เอาอาหารไปเลี้ยงน้องหมาเร่ร่อน      หรือไม่ก็นี่เลยค่ะ   "ออกกำลังกาย"   เอาพลังอันเหลือเฟือออกมาใช้บ้าง   วิ่งก็โอ   เตะบอลยิ่งดี  วิ่งตับแตกเลย ตาลเคยได้ยินสปอร์ตวิทยุร้องเพลงชวนออกกำลังกายท่อนหนึ่งว่า            ออกกำลังกาย SEXจัดก็ทุเลา  SEX เสื่อมก็ทุเลา ออกกำลังกายดีนะ หุ่นเฟิร์ม  แข็งแรง  ผิวสวย สุขภาพจิตดีด้วย ได้เพื่อนเยอะแยะ  ลองดูนะคะ   ป.ล    ตาลว่ากิจกรรมเยอะ แน่นเอียด เวลาหมกหมุ่นเรื่องดังกล่าวก็จะน้อยลงตามนะคะ     จากคุณ : น้ำตาลก้อนกลม - [ 29 ต.ค. 50 20:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ จะพยายาม ยกเว้นเรื่องพิจารณาอสุภะ ผมยังไม่พร้อมดูจริงๆ แต่ถ้าแค่นึกพิจารณาเอา ทำได้(แต่มันคงไม่ได้ผลเท่ากับดูภาพ) ปล ผู้หญิงสมัยนี้มันสวยๆทั้งนั้น แต่งตัวก็เก่ง ใจแลกายมันก็พาลหวิวๆ แต่พระท่านว่า การหลบไม่เก่งเท่าการเผชิญ ถ้าเอาชนะการยั่วยุได้ถึงแน่จริงๆ แน่กว่าการอยู่ป่าโดยไม่เจอใคร จากคุณ : crimson king - [ 29 ต.ค. 50 21:08:58 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมอาจจะพาคุณออกทะเลนะ ... ปัญหาของคุณตอนนี้ก็คือ การพยายามห้ามตัวเองกำลังมาทำร้ายคุณ ผมอยากให้คุณลองวิธีนี้นะครับ ... ปล่อยใจให้เป็นอิสระ เห็นหญิงงาม ก็มองซะ ... ... ทำไมเธอถึงแต่งตัวอย่างที่คุณเห็น ... ... คิดดูซิว่านิสัยเธอเป็นอย่างไร ... ... เพื่อนเธอเป็นหญิงประเภทไหน ... ... เธอมาทำอะไรแถวนั้น ... ฯลฯ เมื่อคุณตั้งถาม และพยายามหาคำตอบ คุณจะหลุดพ้นจาก "กรง" ของความหมกมุ่น หวังว่าไม่ออกทะเลมากนักนะครับ จากคุณ : เศียรนาคา - [ 29 ต.ค. 50 21:20:14 ]

ความคิดเห็นที่ 16 งี้ก็เข้าทำนองว่า.. อาตมารู้หมด แต่ก็ยังอดไม่ได้.. หุหุ จากคุณ : ลูกพระธัมฯ หลานคุณยาย - [ 29 ต.ค. 50 21:39:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แปลกตรงไหนครับ ผมก็ชอบมองผู้หญิงสวยๆ หุ่นแบบอึ๋มๆ บางทีมองจนเหลียวหลับ เอะ ไม่สะใจกลับหลังเดินตามไปมองใหม่ แต่เด็กก็ไม่เว้นนี่ ถ้าจะวิตถารแล้วนะครับ แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 50 23:05:01 จากคุณ : ผีร้ายใต้แสงจันทร์ - [ 29 ต.ค. 50 23:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตรงไปตรงมาดีครับ 1.ให้มอง 5 อย่างแทนครับ (1.)เด็กทารกเกิดใหม่ ตัวขาวตัวแดงก็ได้ (2.)คนแก่หง้อมหง่อม เดินไม่ไหว ก้าวกระแผลก ขยับโอย (3.)คนป่วย (หน้าห้องรอหมอเรียกมีเพียบเลย หน้าห้องฉุกเฉินก็เยอะ เดี๋ยวมาๆ) (4.)พระ"เดิน"บิณฑบาตร (ยืนเฉยๆที่หน้าร้านขายของ อย่าดูครับ เดี๋ยวกิเลสกำเริบ) (5.)ดูรูปใครก็ได้ที่สิ้นชีวิตไปแล้ว เช่น ท่านพุทธทาส พระพุทธรูป(รูปแทนพระพุทธเจ้า-พระสมเด็จก็ได้-รูปพระธรรมกายดวงใสๆ??ก็ได้) หลวงพ่อ(ฯลฯ) แล้วนึกย้อนไปถึงสมัยท่านเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่ 2.ว่างๆให้คิดถึง 5 คนข้างบนบ้างครับ ทำบ้างดีกว่าไม่ทำเลยครับ ของแถมจากเทวทูตสูตรครับ แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 50 01:40:45 จากคุณ : Go2Better - [ 30 ต.ค. 50 01:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อืม..ผมว่ามันอยู่ที่ความคิดนะ.. ของพวกนี้พอเผลอแวบเดียวก็เตลิดไปถึงไหนๆ จินตนาการไปถึงไหนๆได้ไกล ผมใช้วิธีดูจิต ใจมันคิดก็ดูว่าใจมันคิด ดูไปให้มีสติทั้งที่มันกำลังเกิดนี่แหละ จับมันมาพิจารณาเลยดูให้เห็นเลยทำไม มายังไงอย่างไร และมันไปเมื่อไร ลองตามสังเกตดูตั้งแต่ต้นจนจบบ่อยๆสิครับ ไม่ต้องไปฝืนอะไรมันหรอก ดูธรรมชาติสันดานของตัวเราให้เห็นก่อน เกิดได้อย่างไร แวบไหนตอนไหน มันมาอย่างไร อาการมาอย่างไร แล้วคิดอะไรต่อ ทำอะไรต่อ จนถึงไปหยุดมันจนจบตอนไหน มัันหายไปตอนไหน ถ้าไม่เห็นแจ้งแดงแจ่กะสันดานตัวเองมันละไม่ได้หรอก แต่ถ้าเห้นอย่างละเอียดด้วยสติแล้ว อารมณ์เห็นมันจะไปทอนอารมณ์กามเอง เพราะอารมณ์กามมันต้องหมกมุ่น มันถึงจะเพลิด ถึงจะแรง พอเราเห็นตัวเราเองชัดเจน เห็นอาการของเราชัดเจนตั้งแต่ต้นจนจบ ความรู้ตัวมันจะค่อยๆบอกตัวคุณเอง จนรู้ว่าเคยมีระดับนี้ ลดลงไปเท่านี้ จังหวะไหนเวลาไหนที่มันจะพุ่งขึ้นมาได้ง่าย รู้ทันหมด คราวนี้จะปิดป้อง จะควบคุมก็จะเริ่มง่าย โดยไม่ต้องไปบังคับเกินสันดาน ทำอย่างนี้บ่อยๆ ระยะเวลาที่ใช้แต่ละคนไม่เท่ากันครับ แต่ความสังเกตมองดูตัวเองอย่างละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบนี่ มันทำให้อารมณ์มันไม่เพลิดเพลินไปกับกามที่แวบเข้ามาในหัว พอรุ้จักตัวเองมากๆเข้าบางทีมันก็แก้ลำตัวเองได้ง่ายๆเหมือนหญ้าปากคอก บางเวลาที่เผลอไปก็ช่างมัน ขอให้รู้ตัวว่าเผลอไปเป็นใช้ได้ เผลอไปตอนไหน เผลอไปอย่างไร ขอให้จิตใจจดจ่ออยู่แต่การพิจารณาอาการของตนทุกอริยาบถครับ ไม่นานคุณจะเห็นผลของการพิจารณา มันจะช่วยรั้งได้ทีละน้อยๆ ใช้เวลาเหมือนกัน แต่ไม่ได้ยาก..เพียงแต่ต้องอาศัยความเพียร จากคุณ : granun - [ 30 ต.ค. 50 02:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ทุกค.ห.ดีหมดค่ะ แต่ถ้าจขกท.ทำแล้วยังไม่ได้ผล ลองใช้วิธีแบบตันตระดู อย่างแรก เอาภาพโป๊มาติดให้เต็มห้อง และทุกห้องที่คุณเข้าไปใช้ ติดลงบนทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นจานข้าว ทีวีก็อย่าเปิดดูรายการปกติ ให้ต่อกับเครื่องดีวีดีหรือวีซีดีไว้ พอเปิดปั๊บเป็นหนังโป๊เลย พูดง่ายๆ ว่า วันหนึ่งๆ คุณต้องได้เห็นภาพโป๊มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ข้อสำคัญ คุณต้องบังคับใจว่าจะดูเฉพาะอะไรที่เป็นภาพโป๊อย่างเดียว อย่างอื่นที่ไม่ใช่ภาพโป๊ คุณไม่มอง อะไรที่ไม่ใช่เรื่องโป๊ คุณไม่อ่าน ถ้าคุณจะกินข้าวหรือทำธุระส่วนตัว รีบทำให้เสร็จแล้วกลับไปเปิดคอมฯ ดูเว็บโป๊ เมื่อยตานักก็หยุด หันไปมองภาพโป๊ที่ติดไว้เต็มห้อง หรือเอาหนังสือโป๊มาดู ถ้าบังคับตัวเองได้แบบนี้ แค่ไม่กี่วันหรอกค่ะ คุณจะไม่อยากข้องแวะกับเรื่องพวกนี้อีกต่อไป หรือมีวิธีที่นุ่มนวลกว่า ลองดูก็ดีนะ น่าจะทำได้ง่ายกว่าด้วย คือถ้าคุณอยากดูรูปโป๊ คุณก็ไปหารูป Nude ที่เป็นงานศิลปะดีๆ เป็นของศิลปินชั้นครู เช่น อ.จักรพันธุ์ โปษยกฤต อ.ช่วง มูลพินิจ มาดู วิธีหาก็ไม่ยาก ไปเดินแถวท่าราชวรดิษฐ์ตอนบ่ายๆ มักจะมีคนแก่เอาภาพที่ตัดจากนิตยสารต่างๆ มาวางขายค่ะ คุณก็ไปซื้อภาพเหล่านี้มาดูแทนที่จะดูภาพโป๊ในหนังสือโป๊ทั่วๆ ไป เวลาเล่นเว็บโป๊ก็เช่นกัน คุณก็ลองตั้งใจ search เฉพาะเว็บที่เป็นงาน art แทนที่จะไปดู xxx งานของอ.ที่เราแนะนำ ก็สามารถค้นได้จาก net เช่นกันค่ะ เมื่อดูภาพพวกนี้แล้ว คุณก็ลองศึกษาว่า เค้าวาดยังไงหรือถ่ายรูปยังไง ผู้หญิงพวกนี้จึงดูสวย ให้คุณเปรียบเทียบงานสวยๆ แบบนี้กับงานดิบๆ ที่คุณได้เห็นมาแล้วในเว็บโป๊ทั้งหลาย แล้วคุณจะค่อยๆ เบื่อเว็บโป๊เว็บลามกทั่วไป เป็นการปรับรสนิยมให้ดีขึ้นค่ะ แน่นอนว่าคุณยังมีอารมณ์กับงานศิลปะพวกนี้ได้ แต่คุณจะค่อยๆ เปลี่ยนในที่สุด อารมณ์แบบนั้นจะไม่มารบกวน คุณจะมีทัศนคติที่ดีขึ้น จากนั้นคุณก็ลองดูพวกประติมากรรมต่างๆ หรือเทวรูปสมัยโบราณ ลองเปรียบเทียบดูว่าเค้าถ่ายทอดของจริงออกมาเป็นของแบบนั้นได้ไง แล้วพอดูๆ ไปคุณก็จะเห็นอะไรหลายอย่างที่คุณไม่คิดว่าจะเห็นจากรูปผู้หญิงโป๊มาก่อน ถ้าคุณไปได้ถึงระดับนี้ ก็ถือว่าเริ่มเข้าถึงศาสนาแล้วค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 50 03:05:07 จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 30 ต.ค. 50 03:02:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 หาอะไรทำหลายๆอย่างไว้ครับ อย่าให้ว่าง เพราะมีเวลาว่างมากไป ไม่มีอะไรทำ ก็หมกมุ่นนะ การลดก็ค่อยเป็นค่อยไป จำกัดจำนวนกิจกรรม ตั้งโควต้าเอาไว้ ต่อเดือน ต่ออาทิตย์ ต่อวัน เอาตามที่คิดว่าพอไหว ค่อยๆลดจำนวนลง ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องหักดิบ แต่มีกิจกรรมก็มีอย่างมีสติ และค่อยๆลดจำนวนครั้งไปเรื่อยๆ เด๋วก็ค่อยๆ สั่งสมอนุสัย ทีละเล็ก ทีละน้อย จะดีขึ้นเรื่อยๆนะครับ ขอให้เจริญในธรรมขึ้นเรื่อยๆ เป็นกำลังเสริมหลักนะครับ จากคุณ : ใบไม้กำนั้น - [ 30 ต.ค. 50 03:52:02 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมสังเกตุดูแล้ว ท่าทีในการตอบปัญหา เวลาเผชิญกับกิเลสโดยตรงเนี่ย เป็นสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน ไม่มีใครตอบให้ไปนั่งสมาธิ  ฝึกสติแบบ หลับตา ซักคน มีแต่ 1. ใชวิธีการลืมตาดูจิต  2.ใช้ปัญญาพิจารณา ********************************** ตอบโดยหลักการ กาม เกิด  จากการ ดำริ (คิด) ผิด  เป็นมิจฉามรรค ต้องการเข้าองค์มรรค ด้วยการดำริ(คิด)ชอบ คิดที่จะ ละ กาม และ พยาบาท ********************************* ดูประวัติหลวงพ่อชา สู้กันถึง 3 วันเต็ม  ดูจากในหนังสือหลวงพ่อชาแล้ว ต้องใช้กำลังปัญญา และกำลัง เจโตในการบังคับ อันนี้ต้องหักดิบครับ ******************************** จากคุณ : โทมัส (khunz) - [ 30 ต.ค. 50 07:52:24 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มีวิธี ลด ละ เลิก แบบ ง่าย ๆ    แต่ ต้องใช้เวลา    และกำลังใจ 1. ถ้าเห็นผู้สาว สวยๆก้อให้มอง มองแล้วก้อคิดว่าถ้าผู้หญิงคนนี้แก่ลงไปเรื่อยๆ   เรื่อยๆ    แล้วคุณก้อจารู้ว่าผู้สาวคนนี้อีกหน่อยก้อ แก๊... แก่ งั๊กๆ ๆ 2. ส่วนเรื่องชอบดู เวป หรือ หนัง  X  ก้อดูได้แต่อย่าหามาเพิ่ม   ดูไอ้ที่มี อ่ะ   ดูมันบ่อยๆ เด๋ว ก้อเบื่อ ปายเอง  เชื่อ ดิ ....... ปล. ทุกข้อ ที่บอกไป เรา ลองแล้ว  ได้ผล  อ่ะ ........... หุหุหุ ......... จากคุณ : cattym - [ 30 ต.ค. 50 07:59:02 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เรียน จขกท. กล้าหักดิบหรือเปล่า????? ถ้ากล้าก็ตามขอให้เวบสามอันนี้เข้าไปเลย แล้วเอาไป ปฏิบัติ อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ได้ผลอย่างไรก็กรุณากลับมารายงานให้เพื่อน ๆ ทราบด้วย . เวบนี้ คำเตือน เด็กต่ำกว่า 10 ขวบ , ผู้หญิง , หรือคนตกใจง่าย ห้ามเข้าไปดู...... http://www.watkoh.com/asupha/ . อสุภ แปลว่า ไม่สวย ไม่งาม กรรมฐาน แปลว่า ตั้งอารมณ์ไว้ให้เป็นการเป็นงานรวมความแล้วได้ความว่า ตั้งอารมณ์เป็นการเป็นงานในอารมณ์ที่เห็นว่า ไม่มีอะไรสวยสดงดงาม มีแต่ความสกปรกโสโครก น่าเกลียดน่าสะอิดสะเอียน กำลังสมาธิของอสุภกรรมฐาน สำหรับอสุภกรรมฐานนี้เป็นสมถกรรมฐานที่ให้ผลในทางกำจัดราคะจริตเหมือนกันทั้ง ๑๐ กอง นั่นก็คือการค้นคว้าหาความ จริงจากวัตถุที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต ที่นิยมชมชอบกันว่าสวยสดงดงาม ที่บรรดามวลชนทั้งหลายพากันมัวเมา หลงใหลใฝ่ฝัน ว่าสวยสดงดงามจนเป็นเหตุให้เกิดภยันตรายแก่ตน ลืมชีวิตความเป็นอยู่ของตน เป็นการประพฤติที่ฝืนต่อกฎของความ เป็นจริง เป็นเหตุของความทุกข์ที่ไม่รู้จักจบสิ้น http://www.kmitl.ac.th/buddhist/tumma/asupa.html . อสุภกรรมฐาน      อสุภ แปลว่า ไม่สวย ไม่งาม กรรมฐาน แปลว่า ตั้งอารมณ์ไว้ให้เป็นการเป็นงาน รวมได้ความว่า ตั้งอารมณ์เป็นการเป็นงานในอารมณ์ที่เห็นว่า ไม่มีอะไรสวยสดงดงาม มีแต่ความสกปรก โสโครก น่าเกลียด กำลังสมาธิของอสุภกรรมฐาน      อสุภกรรมฐานมี 10 อย่าง มีกำลังสมาธิเพียงปฐมฌานเป็นอย่างสูงสุด ไม่สามารถจะทรงฌานให้มีกำลังให้สูงกว่านั้นได้ เป็นกรรมฐานด้านพิจารณามากกว่าการเพ่ง ใช้อารมณ์จิตใคร่ครวญพิจารณาอยู่เป็นปกติ จึงทรงสมาธิได้อย่างสูงก็เพียงปฐมฌาน เป็นกรรมฐานที่มีอารมณ์คล้ายกับวิปัสสนาญาณมาก นักปฏิบัติที่พิจารณาอสุภกรรมฐานจนทรงปฐมฌานได้ดีแล้ว พิจารณาวิปัสสนาญาณควบคู่กันไป จะบังเกิดผลรู้แจ้งเห็นจริงในอารมณ์วิปัสสนาญาณได้ อสุภกรรมฐานนี้เป็นสมถกรรมฐานที่ให้ผลในทางกำจัดราคจริตเหมือนกันทั้ง 10 กอง ท่านที่เจริญกรรมฐานหมวดอสุภนี้ชำนาญเป็นพื้นฐานแล้ว ต่อไปเจริญวิปัสสนาญาณ จะเข้าถึงการบรรลุเป็นพระอนาคามีผลได้ไม่ยากนัก http://www.larnbuddhism.com/grammathan/asupa1.html จากคุณ : kongsilp2000 - [ 30 ต.ค. 50 10:15:40 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เป็นกระทู้ทีดีมากเลย  ผมเลยได้รู้เห็นวิธีผจญกิเลสกามตัณหาของแต่ท่าน สำหรับการผจญกามกิเลสของผมเป็นดังนี้ครับขั้นแรกต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องเพศเสียก่อนว่า"เมื่อใดที่เรารู้สึกว่าเราเป็นชายก็จะมีความต้องการเพศหญิง" เอามาจากพุทธพจน์ ดังนั้นปัญหาเรื่องเพศไม่ได้เกิดขึ้นกับเราตลอดเวลาดอกนะ  ผมแต่งงานแล้วแต่ก็ต้องบริหารกามกิจให้เหมาะสม  เพราะการเสพกามเป็นนิจจะทำให้การเจริญสมาธิไม่ก้าวหน้า  และปัญหาของผู้มีคู่ครองแล้วส่วนหนึ่งไม่รู้ว่าเป็นส่วนมากหรือน้อย  ก็คือมีความหน่ายในกามแต่หาทางออกไม่ได้  เลยเป็นประเภทเบื่อๆอยากๆเข้าๆออกๆอยู่อย่างนั้นร่ำไป     ผมเคยมีปะสบการณ์ได้พบปะกับเจตภูตทั้งสี่ของตนเองมีทั้งเพศชายและหญิงซึ่งเป็นเจ้าของบุคลิกภาพในการแสดงออกด้านอารมย์และความรู้สึกของผม  ผมจึงหมดความสงสัยต่อพุทธพจน์ที่ว่า"เมื่อใดที่เรารู้สึกว่าเป็นชายก็จะต้องการหญิง" วิธีแก้ปัญหาก็คือหมั่นทำสมาธิที่สะดือจนลมหายใจละเอียดมากๆเป็นการเพิ่มพลังให้กับเจตภูตเพศชายที่อยู่ที่สะดือ  เมื่อท่านผู้นี้มีสมาธิสูงขึ้นก็จะสามารถแปลงความรู้สึกทางเพศเป็นอารมย์ที่เข็มแข็งไม่หวาดกลัวครั้งหนึ่งผมเคยใช้สมาธิกำหนดที่สะดือเดินผ่านป่าช้าโดยที่ไม่เกิดอารมย์หวาดกลัวแม้สักน้อย  ทุกวันนี้ผมก็ยังใช้วิธีนี้  เคยอยู่ได้เป็นเดือนแต่ก็ไม่ทำบ่อยนักเพราะกลัวเมียทิ้ง จากคุณ : คนกรุงธน - [ 30 ต.ค. 50 11:24:55 ]

ความคิดเห็นที่ 26 พุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว สัญชาตญาณของสัตว์โลกเป็ปฏิกิริยาของจิตและสิ่งเร้าจึงเป็นวิทยาศาสตร์เช่นกันจึงใช้หลักการแก้สิ่งที่ไม่ต้องการได้แน่นอนครับ   ราคะเป็นสัญชาตญารฝ่ายต่ำที่มีมาในสัตว์ที่มีชีวิตทุกตัวตนคนในคนตั้งแต่พระสกิทาคามีลงมายังตัดไม่ได้จะห่มผ้าเหลืองหรือเหาะเหินเดินอากาศได้ก็อยู่ภายใต้สภาวะนี้เช่นเจ้าของกระทู้แน่   การที่จะกำจัดจะต้องมีสูตร มีฐานสองคือสมถะ และวิปัสสนา เท่านั้นจึงจะต่อสู้กับกิเลสนี้ได้ หากมีจิตไม่เข้มแข็งคือจิตบวกปัญญาเข้าสู่เจโตวิมุตโดยการเพ่งกสิณสิบคืออสุภกรรมฯไม่ได้ซึ่งเป็นทางตรงที่กำจัดราคะทันที ก็ใช้วิปัสสนาคือปัญญาอย่างเดียวคือเพ่งอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หากมีจิตอยากพ้นและเพียรจริงๆก็พ้นได้ไม่กลับมาเกิดอีก(จิตราคะไม่กำเริบอีก)  แต่หากสติปัญญาต่ำไม่สามารถเข้าสู่อริยผลได้ก็จะตกอยู่ใต้สิ่งนี้ก็รับทุกข์ไปตามหลักสัจจธรรมก็อัตตาหิฯนะครับคนอื่นหรือพระเจ้าช่วยมิได้ สาธุ แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 50 11:33:46 จากคุณ : มหาเทพ (tenmohs) - [ 30 ต.ค. 50 11:31:56 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คนเรามีกิเลสก็ชอบดูเป็นธรรมดา แต่ถ้าดูถึงกับไม่ดูไม่ได้ ทำความเสียหายความทุกข์ให้กับชีวิตตนเองและผู้อื่น มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาละมันเป็นปัญหาที่เราควรต้องแก้ ถ้าจะแก้ปัญหา เราก็ต้องเข้าใจให้ถูกต้องก่อนว่ามันเป็นปัญหา ถ้าคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาปัญหาก็แก้ไม่ได้ตั้งแต่ต้นละ เพราะไม่เห็นปัญหา เมื่อเห็นว่าเป็นปัญหาแล้วก็ต้องรู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร โดยมากปัญหารวมทั้งปัญหานี้เกิดจากการเห็นผิด ไม่เห็นตามที่เป็นจริง เห็นแล้วคิดปรุงแต่งว่าสวยงามว่าน่าเกลียด เราต้องฝึกแยก fact ออกจาก Emotion (ภาษาอังกฤษหน่อยบางคนว่าเข้าใจง่ายกว่า) ฝึกแยกความจริงออกจากอารมณ์ฟุ้งซ่าน ขั้นแรกผมแนะนำให้ฝึกง่ายๆแค่นี้ก่อน ถ้าก้าวหน้ายังไงก็ค่อยว่ากันอีกทีนะครับ ลองฝึกดู ฝึกเรื่อยๆไม่ต้องเคร่งมาก(ให้เหมาะสำหรับสภาพของคุณเอง) แต่อย่าท้อถอยหรือละทิ้ง จะได้ผลก็ต้องเกิดจากการฝึกฝนทั้งนั้น ลงมือทำทันทีที่นึกขึ้นมาได้ว่าเราเคยคิดจะทำแบบนี้ ไม่เริ่มก็ไม่มีทางได้อะไรขึ้นมา เหมือนอยู่ไปวันๆ ไม่ดีแน่ จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 30 ต.ค. 50 12:36:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อืม ผมไม่อยากใช้การ"เลี่ยง"ปัญหาไง การออกกำลัง ทำงานเยอะๆ มันเป็นการเลี่ยง ไม่ใช่แนวที่เผชิญ มุมมองผม ถ้าจะตัดได้จริง คือมองผู้หญิงเซ็กซี่ มายั่วยวนแค่ไหน ก็ไม่รู้สึกอะไร(ทั้งกายและใจนะ ไม่ใช่ใจสู้แต่กายไม่กระดิก) การพิจารณาอสุภะ ผมดูได้แค่ระดับ "แบบจำลองร่างกาย"แค่นั้น ซึ่งไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ บางทีถ่าย(ขี้)แล้ว ผมก็ดูว่าเออ ที่เรากินเข้าไปนี่มันออกมาเป็นขี้นะ (แต่ไม่ถึงกับเอาขี้มาจับมาดมนะ ทุเรศไป เล่าให้ฟังนี่ก็อายนะ) ร่างกายที่ว่าสวยเนี่ย มันก็มีขี้อยู่ข้างในนะ เวลาอาบน้ำผมก็คิดเสมอว่า ตัวเราถ้าไม่อาบน้ำเนี่ยมันเหม็นนะ ของเหม็นๆมันซึมออกมาจากข้างในตลอดเวลา อาบทีก็สะอาดที ทำได้แบบนี้ ตั้งใจว่าถ้าเจอสาวสวยๆ ก็จะนึกว่า ถุงขี้เดินได้ แต่เวลาเจอจริงๆ มัน เอ่อ สวยจัง อืม น่ารักดี เซ็กว่ะ ทำไมใส่สั้นจังวะ(สายตาสอดส่อง) .... เหลว  น่าจะประมาณว่า "สติมันตามคุมไม่ทัน" จิตมันปรุงไปเรีบยร้อยแล้ว จึงคิดว่า การใช้วิธีนี้มันจะได้ผลหรือ แต่การหักดิบ โดยการดูศพ บอกตรงๆ ผมไม่กล้า ไม่เข้าใจว่า ทำไมหลายๆคนถึงกล้าดู (หลายคน'ชอบดู'ด้วยซ้ำ ออกแนววิปริตรึเปล่า ไม่แน่ใจ) แก้ตัวนิดนะครับ ที่ชอบเด็กน่ะ เด็กวัยรุ่นนะ 16-17แล้ว ไม่ไช่เด็กแบบที่คุณผีร้ายใต้แสงจันทร์ เข้าใจนะ (แต่ตอนนี้มองเฉยๆนะ เลิกแล้วไม่ดี ผิดศีล แต่ก่อนนึกว่าถ้าเป็นการยินยอมทั้ง2ฝ่าย ไม่ผิดศีล แต่จริงๆแล้วถ้าผู้ปกครองไม่เห็นชอบ ก็ผิดศีล ผมไม่อยากปีนต้นงิ้ววว..อีกแล้ว ) แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 50 12:42:29 จากคุณ : crimson king - [ 30 ต.ค. 50 12:39:55 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มันเป็นเรื่องของฮอร์โมนในร่างกาย ไม่ใช่จิตใจ เดี๋ยวคุณอายุ 36 - 40 ก็จะเพลาๆลงไปเองละครับ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 30 ต.ค. 50 17:03:22 ]

ความคิดเห็นที่ 30 หุ หุ รักเด็กเหมือนกัน แต่ก็เลิกแล้วเหมือนกัน จะเอาแบบได้ผลไม่กระดิกทั้งกายและใจเลยหรือครับ อย่างนั้นคงต้องฝึกสติปัฐฐาน4 จนได้เป็นพระอนาคามีนั่นแหละ คงยากหนอ หรือไม่ ก็ฝึกสมถะจนได้อย่างน้อยก็อุปจารสมาธิแล้วพิจารณาอสุภะในสมาธิก็ได้ ไม่ต้องดูของจริงหรอก ถ้าไม่มีกำลังสมถะ พิจารณาอสุภะก็คือคิดๆเอา ก็ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่ไม่ขาดหรอก ส่วนผมฝึกสติทำสงครามระยะยาว ชนะบ้างแพ้บ้างก็ยังดี จากคุณ : ผู้เห็น (ผู้เห็น) - [ 30 ต.ค. 50 17:15:13 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ถือศีล 5 ก็เพียงพอครับ กามราคะแก้ไม่ได้ง่ายไนขั้นแรกๆ น้อมในไปทางกุศลเยอะๆจะช่วยเบาบางได้ แก้ไม่ได้เร็วนะครับ ค่อยๆผ่อนไป เพิ่มทางกุศลให้มากขึ้น จิตจะหิวน้อยลงครับ จากคุณ : พาหุง - [ 30 ต.ค. 50 18:08:59 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ความไม่ยึดมั่นชนะตัญหา พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารบุพพาราม เมืองสาวัตถี ท้าวสักกะได้เสด็จไปเฝ้า ทูลถามปัญหาธรรมะ ที่จะเอาชนะตัณหา ชนิดที่สั้นที่สุดย่อที่สุด ความว่า "ภิกษุปฏิบัติธรรมะ ที่ย่อและสั้นเพียงเท่าไร จึงจะได้ชื่อว่าพ้นจากตัณหาอย่างเด็ดขาด"?" พระพุทธองค์ตรัสตอบว่า "ภิกษุพึงทำในใจว่า "สิ่งทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น" เธอได้รับเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นสุขก็ดี ที่เป็นทุกข์ก็ดี ที่ไม่สุขไม่ทุกข์ก็ดี เห็นว่าไม่เที่ยง ไม่แน่นอน เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เมื่อพิจารณาดังนั้น จึงไม่ควรยึดมั่นถือมั่นสิ่งใด ๆ ในโลก ภิกษุปฏิบัติเพียงเท่านี้แล ชื่อว่าชนะตัณหา มีความปลอดโปร่งจากกิเลสทั้งปวง ย่อมประเสริฐกว่าเทวดา และมนุษย์ทั้งปวงด้วย". จูฬตัณหาสังขยสูตร ๑๒/๓๗๘ จากคุณ : agam - [ 30 ต.ค. 50 19:28:45 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ลอง เลี่ยง ไม่หาของพวกนั้นมาดู ตามถนนก็ไม่มอง มองแต่พื้นถนนเหมือนพระเดินบิณฑบาต เวลาเกิดความคิด ระงับความคิดด้วยการเปลี่ยนเรื่องสนใจบ้าง (ถ้าคิดไม่หยุดนี้เดี๋ยวก็แพ้) ดึงจิตให้ไม่คิดด้วยการดูแต่ลมหายใจ นับลมหายใจเข้าออกก็ได้ กรณีฉุดไม่อยู่ ลอง กลั้นหายใจ จนอึดอัด มันจะเลิกอยากเลิกฟุ้งอัตโนมัติ (แต่เดี่ยวก็กลับมาอีก อิอิ ) เรื่องร่างกาย ออกกำลังกายให้เหงื่อออกเสมอๆ ใช้แรงกับทางอื่น ถ้าทำไงก็เอาไม่อยู่ ลองยึดมั่นอยู่กับความคิดว่า ไอ้คนที่อยากอยุ่นี้ไม่ใช่เรา เราเป็นอีกคนที่กำลังดูมันอยู่ ไอ้หมอนี้จะเป็นอย่างไรก็เป็นไป เราก็เฝ้าสังเกตการณ์ดูเฉยๆ  ว่ามันจะเป็นไงไปไงได้แค่ไหน แต่อย่าไปให้ความสำคัญ และอย่าไปตามใจมัน ดูไปสักพัก มันก็หยุดของมันเองแหละ แรกๆ อาจหงุดหงิดงุ่นง่านแล้วๆเล่าๆ พอผ่านพ้นระยะนี้ไปได้ ก็จะชินแหละ มันไม่เรียกร้องเรื่องมากกะเราอีก หาสิ่งอื่นทดแทน เช่นการทำสมาธิย้าง ทำสติบ้าง ทำแล้วจะสุข จะเพลินหนา แต่มีข้อแม้ว่าต้องฝึกก่อน ไม่ใช่เป็นเลยสุขเลย หรือหากีฬาที่ชอบก็ได้ งานอดิเรกก็ได้ ดูร่างกายในมุมไม่สวยไม่งาม สำหรับบางคนน เพ่งศพอาจไม่กล้า และจินตนาการเป็นสาวสวยตรงหน้าไม่ค่อยสำเร็จ : ) ลองดึงๆ ปล่อยๆ เหมือนชักเย่อกับปลา อย่าไปหักดีบทีเดียว(ถ้าใจไม่ถึง) หมายความว่า จะมองว่าสวยก็ปล่อยไปได้ ใจจะได้ไม่ดิ้นหนีมีพยศกะเราเกิน แต่อย่าปล่อยสุด มองๆ แง่ไม่สวยไม่งามมั่ง อาจจะเน้นมองเป็นจุดๆ เช่น เหงือก ขี้ฟัน (ตอนเธอยิ้ม) ดวงตา(นึกถึงดวงตาทั้งลูกกลมเป็นลูกบอลหยุ่นๆแตกง่ายช้ำเลือดง่าย) คือมองเป็นจุดๆ อย่ามองรวบทั้งตัวหรือทั้งหน้า (เว้นแต่เห็นแล้วว่าไม่สวย) รูจมูก (มองส่องในรูจมูกนะ ไม่ใช่ความโด่งงาม ) จุดไหนได้ผลก็มองๆไปเหอะ ไม่ต้องจำกัดประจำอยู่ที่ใดที่หนึ่งหรอก เดี๋ยวมันก็ประมวลภาพเองแหละ แต่ควรทำตอนอารมณ์ปกติดีๆอยู่นะ อย่าทำตอนใจอ่อนแอ : ) หรือเวลาสัมผัสอะไรสกปรกๆ ในตัวเอง เช่นขี้มูกในจมูก ขี้ฟันเหม็นๆในปาก ก็อย่าลืมนึกสภาพด้วยว่า เขาก็มีอย่างนี้ เหมือนเราเดี๊ยะๆเลย ทำตอนที่เรากำลังรู้สึกแหยะๆแหยงๆ สดๆร้อนๆอยู่นั่นแหละ ฝึกสติ(อีกที) เชิงวิปัสสนา ถ้าอารมณ์เกิดหรืออะไรเกิดก็ตาม เห็นตามจริงว่า นั่นไม่ใช่ตัวเรา เกิดแล้วก็ตั้งอยู่ แล้วเดี๋ยวก็ดับไป อะไรเกิดขึ้นก็ไม่หลงให้ความสำคัญกะมันเกินจริง ถ้าทำได้ ถึงมีกามราคะรุมจิตอยู่ก็ทำไรเราไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 50 20:23:54 จากคุณ : ปล่อย - [ 30 ต.ค. 50 20:13:41 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้าไม่ยึดมั่น มันก็ตัดกิเลสหมด เป็นอรหันต์ไปเลยครับ แต่ที่มันเป็นอยู่เนี่ย ก็เพราะมันยังยึดติด ว่าสวยงาม ว่าน่าเกลียดอยู่ไง (ยังไม่นับติดสนุก ติดอร่อย ติดไพเราะ ติด...) ด้านทฤษฏีน่ะผมว่าทุกคนคงเข้าใจดี แต่การปฏิบัตินี่ อืม  ... ไม่ง่าย น้อมรับทุกความคิดเห็นครับ ได้เรื่องยังไงจะมาบอก จากคุณ : crimson king - [ 30 ต.ค. 50 22:34:30 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ให้อีกนิดถ้าทำไม่ได้ก็คงกรรมเวรดิบๆ  พระนันทภิกษุกำลังแต่งงานนิมนต์พระพุทธองค์ไปฉันๆเสร็จให้นันทกุมารเอาบาตรไปส่งที่วิหาร พอถึงวิหารพระพุทธองค์ชวนบวช นันทเกรงพระราชหฤทัยจึงบวชและตัดไม่ขาดจากเจ้าสาวที่ยังไม่ได้นอนด้วยกัน จึงรบเร้าพระองค์ขอลาสึก พระองค์ก็แสดงธรรมให้ฟังว่าชอบตรงไหนของเจ้าสาวตอบว่าชอบความสวยพระองค์ก็พรรณนาความสวยของนางอัปปสรว่าสวยกว่านี่มากและเหล่าอื่นก็สวยๆๆๆๆทั้งนั้น แล้วความสวยงามมันคืออะไร? นันทตอบไม่ได้ ซึ่งความสวยก็คืออัตตาตัวเองที่ไร้สติหลงตามความคิดของตน แต่ความจริงก็เป็นอย่างที่ว่ามันไม่มีที่มีเพราะอุปาทานจึงต้องทำลายอุปาทานเสียโดยการฝึกสติตลอดเวลาโดยการรักษาศีลให้มากๆเป็นฐานและสมาธิบุญอื่นๆ แต่ถ้ากุศลน้อยก็คงตกเป็รเหยื่อแห่งมารคือ กามราคะแน่ นอกจากจะตั้งใจจริงฝึกสมถะเลยเพ่งอย่างอื่นก็ได้ให้เกิดสมาธิมากๆ ง่ายๆขอจริงๆๆเถอะ จากคุณ : มหาเทพ (tenmohs) - [ 31 ต.ค. 50 12:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ย่อหน้าสุดท้ายในคห.33 ไม่ต้องขนาดตัดกิเลสหมดก็มีได้นะครับ : ) จากคุณ : ปล่อย - [ 31 ต.ค. 50 20:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 37 - หยุดเสพก่อน หยุดดู - หันไปลองมองอย่างอื่น เช่น ออกกำลังกาย - อย่าอยู่คนเดียว เพราะ เป็นปัจจัยให้ อยาก แนะนำได้แค่นี้ จากคุณ : น้องชวน(ป๋วย) - [ 1 พ.ย. 50 07:02:05 ]