ความคิดเห็นที่ 3
เรื่อง นิมิต นั้นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้แสดงไว้เป็นขั้นตอนของการเจริญสมถวิปัสสนากัมมัฏฐานเพื่อทำนิพพานให้แจ้งว่าดังนี้
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ที่พอใจในความคลุกคลีกัน เป็นหมู่ ๆ, ยินดีในความคลุกคลีกันเป็นหมู่ๆ, ตามประกอบความพอใจในความคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, เป็นผู้พอใจในหมู่,ยินดีในหมู่, ตามประกอบความพอใจในหมู่, อยู่แล้วหนอ; เธอนั้นจักมาเป็นผู้โดดเดี่ยวยินดียิ่งในความสงัดเงียบนั้น ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่มีได้.
เมื่อไม่เป็นผู้โดดเดี่ยวยินดียิ่งในความสงัดเงียบแล้ว จักถือเอานิมิตแห่งสมาธิจิตวิปัสสนาจิตได้นั้นข้อนี้ก็ไม่เป็นฐานะที่มีได้.
เมื่อไม่ได้ถือเอานิมิตแห่งสมาธิจิตวิปัสสนาจิตแล้วจักยังสัมมาทิฏฐิแห่งวิปัสสนาให้บริบูรณ์นั้น ข้อนี้ก็ไม่เป็นฐานะที่มีได้.
เมื่อไม่ทำสัมมาทิฏฐิแห่งวิปัสสนา ให้บริบูรณ์แล้ว จักยังสัมมาสมาธิแห่งมรรคและผลให้บริบูรณ์นั้นข้อนี้ก็ไม่เป็นฐานะที่มีได้.
เมื่อไม่ทำสัมมาสมาธิแห่งมรรคและผล ให้บริบูรณ์แล้ว จักละสังโยชน์ทั้งหลายนั้น ข้อนี้ก็ไม่เป็นฐานะที่มีได้.
เมื่อไม่ละสังโยชน์ทั้งหลาย จักทำนิพพานให้แจ้งนั้น ข้อนี้ก็ไม่เป็นฐานะที่มีได้เลย.
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ที่ไม่พอใจในความคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ไม่ยินดีในความคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ,ไม่เป็นผู้พอใจในหมู่ ไม่ยินดีในหมู่ไม่ตามประกอบความพอใจในหมู่, อยู่แล้วหนอเธอนั้นจักมาเป็นผู้โดดเดี่ยวยินดีในความสงัดเงียบนั้นข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้.
เมื่อเป็นผู้โดดเดี่ยวยินดียิ่งในความสงัดเงียบแล้ว จักถือเอานิมิตแห่งสมาธิและวิปัสสนาจิตได้นั้นข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้.
เมื่อถือเอานิมิตแห่งสมาธิจิตและวิปัสสนาจิตได้แล้ว จักยังสัมมาทิฏฐิแห่งวิปัสสนาให้บริบูรณ์ได้นั้นข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้.
เมื่อทำสัมมาทิฏฐิแห่งวิปัสสนาให้บริบูรณ์ได้แล้ว จักยังสัมมาสมาธิแห่งมรรคและผลให้บริบูรณ์ได้นั้นข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้.
เมื่อทำสัมมาสมาธิแห่งมรรคและผลให้บริบูรณ์ได้แล้ว จักละสังโยชน์ทั้งหลายได้นั้น ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้.
เมื่อละสังโยชน์ทั้งหลายได้แล้วจักทำนิพพานให้แจ้งได้นั้น ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้แล.
(พระไตรปิฎกบาลีฉบับสยามรัฐ เล่มที่ ๒๒,อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต,ข้อ ๓๓๙,หน้า ๔๗๒-๔๗๓ (คำแปลจากหนังสือขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ ของกองตำราคณะธรรมทานไชยา พ.ศ. ๒๕๑๔ , หน้า ๒๘๕-๒๘๖))
จากคุณ :
สมถะ
- [
9 ธ.ค. 50 18:10:13
]
|
|
|