อดีตของธรรมกาย ตอนที่25 (27 ธค. วันเกิดยายชีทรชน! ผู้ปัดระเบิดลงญี่ปุ่น!!)
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y6319201/Y6319201.html
มันเป็นเส้นทางเพื่อดึงดูดมนุษย์ผู้มีจิตศรัทธาแต่ไร้ปัญญา
มันเป็นเส้นทางสู่กระบวนการล้างสมอง
มันเป็นเส้นทางที่ไม่เอื้ออำนวยแก่ผู้ที่ไม่สร้างผลประโยชน์แก่สำนักฯ
มันเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสาวกอลัชชี
และมันเป็นเส้นทางสู่การทำลายพระพุทธศาสนา!!!
"โวยวัดธรรมกายรังแกชาวบ้าน"
@@@"อาคม"หวั่นปัญหาธรรมกายถูกดองจนศาสนาล่ม
สั่งระดมนักปราชญ์ตั้งเป็นกรรมการหาทางออกพร้อมดึง 2
มหาวิทยาลัยสงฆ์ศึกษาหาทางออก ส่งให้เจ้าคณะภาค 1-
มหาเถรสมาคมเร่งตัดสิน ชาวบ้านคลองสองโวยวัดสร้าง
กำแพงกั้นถนน เข้า-ออกไม่ได้ เสร็จแล้ว "สีกาอี๊ด" โผล่
บีบซื้อที่ราคาถูก พระนักศึกษาแพทย์ขอนแก่นที่บวชในวัด
พระธรรมกายจนใกล้ถูกไล่ออก เขียนจดหมายโต้พ่อ-แม่
บุญธรรมว่าโกหก ไม่เคยส่งเสียให้เรียน ทำเอาคนที่เคยให้
เงินส่งเสียถึงกับต้องหลั่งน้ำตา
@@@เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. นายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.
ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงปัญหาวัดพระ
ธรรมกาย เกรงว่าเรื่องจะยืดยาวไม่มีวันจบ จึงมอบหมาย
ให้นายสุวัฒน์ เงินฉ่ำ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ไป
สรรหาบุคคลผู้มีความรู้เกี่ยวกับศาสนาทั้งในและ
นอกกระทรวง ตั้งเป็นคณะกรรมการพิจารณาปัญหาพร้อม
ข้อเสนอแนะ ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือจาก
มหาวิทยาลัยสงฆ์ 2 แห่ง คือมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราช
วิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย เพื่อ
ศึกษาวิจัยและเสนอทางแก้ปัญหา จากนั้นจะมีการส่งข้อ
สรุปดังกล่าวให้พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ในฐานะ
ประธานสอบปัญหาวัดพระธรรมกายตามมติของมหา
เถรสมาคม รวมถึงเสนอให้มหาเถรสมาคมเพื่อประกอบ
การพิจารณา
>>>"เวลานี้มีผู้วิจารณ์เรื่องวัดพระธรรมกายกันมาก ผม
รู้สึกเป็นห่วงเกรงว่าเรื่องจะไม่จบ และส่งผลให้ศาสนาพุทธ
เกิดความล่มสลายได้ จึงได้ตั้งคณะกรรมการระดับ
กระทรวงหาข้อยุติ แต่ไม่ใช่ตัดสินว่าถูกหรือผิด แต่เพื่อให้
เกิดความโปร่งใส ยุติธรรมในหลาย ๆ ด้าน และจะมีศาสนา
อื่นเข้ามาแทรกแซงรูปแบบต่าง ๆ จนเกิดความวุ่นวาย จึง
ต้องการให้ปัญหายุติโดยเร็ว ไม่อยากให้มหาเถรสมาคม
ปล่อยเรื่องทิ้งไว้ 2-3 เดือน โดยเฉพาะประเด็นการเผยแผ่
ว่าผิดต่อหลักศาสนาพุทธหรือไม่"
@@@ขณะเดียวกันมีชาวบ้านคลองสอง จ.ปทุม ธานี ร้อง
เรียน "เดลินิวส์" ว่าเดือดร้อนจากกรณีการก่อสร้างถนนใน
โครงการ "ถนนสีขาว" สำหรับใช้เป็นเส้นทางเข้า-ออกตรง
ถนนพหลโยธิน ด้านฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รังสิต หลักกิโลเมตรที่ 43 โดยเป็นถนนขนาด 4 ช่องการ
จราจร วิ่งเข้าไปยังพระธรรมกายเจดีย์ ซึ่งปรากฏว่าหลัง
การก่อสร้างถนนแล้วได้มีการสร้างกำแพงปิดกั้นไม่ให้ชาว
บ้านเข้าไปใช้ ความยาวของกำแพงประมาณ 500 เมตร
โดยเจ้าของที่ดินบริเวณนั้นเป็นชุมชนเดียวที่ยังถือครอง
ที่ดินอยู่ นอกนั้นเป็นของวัดหรือไม่ก็กลายเป็นของคนอื่น
เช่นเป็นของนักธุรกิจที่มีการก่อสร้างตึกแถวริมถนนใช้ชื่อ
โครงการธรรมกิจนิเวศน์
@@@หลังจากสร้างถนนเสร็จที่ดินสองฝั่งราคาสูงถึงไร่
ละ 5 ล้านบาท จากที่เคยเป็นทุ่งนา โดยชาวบ้านร้องเรียน
ว่าหลังการสร้างถนนเสร็จได้มีนายทุนทั้งที่อ้างว่าเป็นตัว
แทนจากวัดบ้าง เป็นผู้สนใจปฏิบัติธรรมบ้างมาขอซื้อโดย
ตรงเพื่อก่อสร้างเป็นหอพักนักศึกษา หรือไม่ก็ต้องการทำ
โครงการหมู่บ้านจัดสรรก็มี แต่ชาวบ้านไม่ขาย และหนึ่งใน
จำนวนนายหน้านั้นมีชื่อ สีกาอี๊ด ด้วย รวมถึงมีการบอก
ว่า สีกาอี๊ดเป็นผู้เสนอให้สร้างถนนเส้นนี้
>>>"ช่วงที่สร้างถนนแล้วเสร็จชาวบ้านต่างสรรเสริญวัด
เพราะจะได้มีถนนใช้ แต่แล้วก็มีนายทุนสนใจเข้ามาซื้อ
ที่ดินซึ่งเราไม่อยากกล่าวหาว่าวัดรู้เห็นกับการสร้างกำแพง
ปิดทางเข้าออกเพื่อซื้อที่ดินจากชาวบ้าน และการที่ชาว
บ้านไม่ยอมขายที่ ไม่ใช่ต้องการราคาที่สูงกว่านี้ แต่เพราะ
มรดกตกทอดตั้งแต่ปู่ ย่า เราก็ยอมรับว่าถนนเป็นสิทธิ์ของ
วัดที่ตัดเข้ามา อย่างไรก็ตามหากมีเมตตาธรรมกับชาวบ้าน
ก็น่าจะเปิดทางให้เข้า-ออก ตอนนี้เราต้องเจาะกำแพงเป็นรู
หมาลอดเพื่อเข้า-ออก โดยคนเฒ่าคนแก่ต้องลำบาก"
@@@ทางด้านพระวิเชียร วชิโร หรือพระวิเชียร มลอยู่พะ
เนา เขียนจดหมายชี้แจงถึง "เดลินิวส์"กรณีที่นายอภิรัตน์
และนางสำเนียง ชาติพัฒนางกูร เข้าร้องเรียนว่า พระ
วิเชียรเป็นบุตรบุญธรรมและมาบวชที่วัดพระธรรมกายไม่
ยอมสึกและจะทำให้ถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย
ขอนแก่น โดยพระ วิเชียรกล่าวว่าเรื่องดังกล่าวบิดเบือน
@@@ประการแรกที่นายอภิรัตน์บอกว่าเป็นบิดาบุญธรรม
ก็ไม่เป็นจริง โดยนายอภิรัตน์ได้ให้พระวิเชียรมาอาศัยอยู่
ในช่วง ม.5 และ ม.6 โดย ให้ทำงานบ้านและสอนหนังสือ
ให้บุตรชายนาย อภิรัตน์ซึ่งเป็นเพื่อนของพระวิเชียร โดย
นาย อภิรัตน์ให้เงินพระวิเชียรไปโรงเรียนวันละ 30 บาท
นอกจากนั้นนายอภิรัตน์และนางสำเนียงไม่ได้กู้เงินมาส่ง
พระวิเชียรเรียนและไม่เกี่ยวกับการออกค่าใช้จ่ายเลย โดย
คนที่จ่ายค่าเรียนคือนายเสมและนางบุญเทียม มลอยู่พะ
เนา ซึ่งเป็นบิดาและมารดา นอกจากนั้นยังได้ทุนจากมูลนิธิ
ศรีวิสารวาจาและคุณหญิงกัทลีวรรณ ลออคุณ รวมถึงการ
ที่นายอภิรัตน์บอกว่าได้รับน้องชายพระวิเชียรมาอยู่ด้วยก็
ไม่จริงเพราะยังอยู่ในการดูแลของพ่อและแม่ของตนเอง
@@@ส่วนการบวชที่วัดพระธรรมกายพระ วิเชียรยืนยันว่า
ไม่ได้ทำให้ถูกคัดชื่อออกจากมหาวิทยาลัย เนื่องจาก
เดิมทีพระวิเชียรบวชในช่วงฤดูร้อนเดือนมีนาคม 2541 เมื่อ
สิ้นสุดโครงการแล้วมีจิตศรัทธาจึงขอบวชต่อแค่ 1 ปี และ
เมื่อครบกำหนดแล้วจะสึกออกไปเรียนต่อได้เช่นเดิม
@@@อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวเข้าพบนายอภิรัตน์และนาง
สำเนียงอีกครั้งและนำจดหมายที่พระวิเชียรชี้แจงให้อ่าน
ซึ่งทำให้ทั้งคู่ถึงกับหลั่งน้ำตาและว่าถึงแม้ไม่ได้จด
ทะเบียนรับพระวิเชียรเป็นบุตรบุญธรรมก็รักเหมือนลูก และ
ได้พบพ่อแม่ของพระ วิเชียรแล้วซึ่งก็เสียใจเช่นกัน แต่ขอ
อโหสิกรรมให้พระวิเชียร ขอให้กลับเนื้อกลับตัวทุกอย่างที่
ตนบอกเป็นความจริง ตนไม่ใช่เลี้ยงนายวิเชียรคนเดียวแต่
ส่งเสียคนมาหลายคน ทุกคนบอกว่าให้เลิกเลี้ยงคน
อกตัญญูได้แล้ว และที่ว่าตนให้เงินพระวิเชียรวันละ 30
บาท แลกกับการทำงานบ้านก็เสียใจ เพราะส่งเสียตลอด
ทั้งค่ากินอยู่ ค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือ เสื้อผ้า ส่วนน้องพระ
วิเชียรก็จะมาอยู่กับตนเมื่อจบ ป. 4 แล้ว
อ้างอิงจากเดลินิวส์
แม้แต่คำสอนที่ว่า "กตัญญู กตเวที" สำนักนี้ยังไม่มีสอน
ขอทุกท่านพิจารณาข้อมูลด้วยปัญญาธรรม
จากคุณ :
Dhama Cyber
- [
10 ก.พ. 51 18:11:37
]