ตามปกติ ต้องเกิด อายตนะภายนอก เข้าสู่ทวารหก มีวิญญานมารับ เกิดผัสสะ และ ถึงจะมีเวทนา (ความรู้สึก) ( อายตนภายนอก>>ทวารหก>>ผัสสะ>>เวทนา )
แต่ในเดอะท็อปซีเคร็ต บอกความลับว่า ถ้าเราสามารถกำหนด ความรู้สึก(เวทนา) ได้ในระดับเดียวกับที่เกิดขึ้นจริงหลังจากได้รับผ่านอายตนะ เราจะสามารถกำหนดเหตุการณ์ในอนาคตได้
เช่น เรามีความรู้สึก สุขเวทนาอย่างมาก ในการไปร่วมงานแต่งงานเพื่อนสนิท ถ้า สุขเวทนาที่เกิดขึ้น อยู่ในระดับเดียวกับเพื่อนที่ได้แต่งงาน (หรือในทางพุทธศาสนาที่เรียกว่า ร่วมอนุโมทนาด้วย) ความรู้สึกนั้น จะเหนี่ยวนำให้เราได้แต่งงานในอนาคต อย่างแน่นอน (เวทนา>>ผัสสะ>>ทวารหก >>อายตนภายนอก)
หนังสือเล่มนี้ยังได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวกับการย้อนกลับของเวทนาไว้มากมาย และบอกไว้ว่า ตัณหา (ความอยาก) คือตัวที่จะดึงให้เวทนาไม่สามารถย้อนกลับไปทำให้อายตนภายนอกเกิดขึ้นจริงได้ ( ตัณหา >>เวทนา >>ผัสสะ >> ทวารหก >>อายตนภายนอก)
ถ้าสิ่งที่ เดอะท็อปซีเคร็ต บอกไว้เป็นจริง แสดงว่า ในภพภูมิเทวดา ที่บอกว่า แค่คิดก็บันดาลให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้นได้ เกิดจากการย้อนกลับของความรู้สึก (เวทนา) นี่เอง
และถ้ามนุษย์ สามารถเอาความลับนี้มาใช้ จะกลายเป็นเหนือมนุษย์ (ในหนังสือ เดอะท็อปซีเคร็ต ยกตัวอย่าง ไทเกอร์วู๊ดส์ ที่เขาบอกเคล็ดลับว่า เขาสร้างภาพแห่งความรู้สึกว่าลูกลงหลุมไปก่อนแล้วทุกครั้ง ก่อนที่จะตีลูกออกไป แล้วลูกจะวิ่งไปตามแรงดึงดูดของความรู้สึก)
เป็นหนังสือที่แปลก ถ้าลองเอาเทคนิคสร้างภาพแห่งความรู้สึกมาใช้ จะปรากฎว่าทำได้จริงๆ เพียงแต่ต้องกำหนดสติ สร้างความรู้สึกให้ชัดเหมือนกับว่ามันเกิดขึ้นแล้ว
ถ้ามนุษย์ทุกคนสามารถฝึก จนสร้างภาพแห่งความรู้สึกได้ชัดเจน และทำให้มันย้อนกลับไปเป็นเหตุการณ์จริงๆได้ จะเกิดอะไรขึ้น โลกคงต่อสู้กันด้วยพลังจิต
อีกตัวอย่างในหนังสือ ตอนสมเด็จพระเจ้าตากสินตีเมืองจันท์ พระองค์ทรงเห็นว่า ทหารยังบิ๊วด์ความรู้สึกแห่งชัยชนะได้ไม่ชัดพอ พระองค์จึงรับสั่งว่า มื้อต่อไปพวกเราจะไปฉลองกันอย่างอิ่มหนำสำราญในตัวเมืองจันท์ ทหารบิ้วด์ความรู้สึก จนอิน แล้วบอกว่า ถ้าอย่างนั้นหม้อข้าวพวกนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้วสิ ทุบทิ้งให้หมด
ตัวอย่างนี้แสดงว่า ไม่ต้องถึงระดับบรรลุญานหรือฌาน ถ้าสามารถบิ้วด์ความรู้สึก จนถึงระดับที่เท่ากับความรู้สึกว่ามันเกิดขึ้นแล้ว จะเกิดแรงดึงดูดให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริงๆ แต่มีข้อแม้ว่า ห้ามอยาก ต้องตัดตัณหาให้ได้ก่อน
ในหนังสือมีตัวอย่างอีกมาก อ่านแล้วเข้าใจเลย และนี่ถ้าปฏิบัติธรรม กำหนดสติจนจับความรู้สึกได้ จะมีพลังมากมายมหาศาลขนาดไหน เพราะขนาดทหารซึ่งไม่เคยฝึกกำหนดสติยังบิ้วด์ความรู้สึกได้
ทอม แฮ้งค์ ก็บอกในเรื่อง Cast away ซึ่งคนดูหนังเรื่องนี้จะรู้ว่า เขาเล่นได้ราวกับไปติดเกาะอยู่คนเดียวกลางมหาสมุทรจริงๆ หนังสนุกมาก มีนักข่าวไปถามทอม แฮ้งค์ ว่า ทำไมเล่นได้เหมือนจริงขนาดนี้ ทอมแฮ้งค์ตอบว่า ผมสร้างความรู้สึกขึ้นมาก่อน เป็นความรู้สึกที่เหมือนกับว่า ผมเครื่องบินตกแล้วไปติดเกาะจริงๆ หลังจากนั้น ทุกอย่างมันก็เหมือนจริงเองนั่นแหละ
ทอม แฮ้งค์ ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ แต่เขาสามารถกำหนดเวทนา จนย้อนกลับ ออกทางทวารหก และอายตนภายนอกได้
เล่าไม่หมด แต่ตัวอย่างในหนังสือ จะทำให้ get ทั้ง นโปเลียน จูเลียซ ซีซ่าร์ ไมเคิลแองเจลโล อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ฯลฯ และมีการทดลองทางวิทยาศาสตร์มายืนยันผลด้วย
หรือฝรั่งจะค้นพบความลับนี้ก่อนเรา ที่นับถือศาสนาพุทธแท้ๆ
แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 51 00:29:52
จากคุณ :
ปัจจตัง
- [
19 มี.ค. 51 21:02:42
]