ความคิดเห็นที่ 1 หลวงพ่อฤาษีลิงดำ แนะนำ เทคนิคการฝึกสมาธิเบื้องต้น ตอนที่ 1-3 มหาสติปัฏฐาน 4 โดย พระมหาวีระ ถาวโร (ตอนที่ 1 ถึงตอนที่ 3) สรุปย่อโดย kongsilp2000 http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2007/10/Y5916404/Y5916404.html จากคุณ : kongsilp2000 - [ 9 พ.ค. 51 09:07:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พระพุทธานุภาพและจิตตานุภาพ พระพุทธคุณ ๙ ประการ ผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ทรงเป็นพระอรหันต์ เป็นผู้บริสุทธิ์หมดจด จากกิเลส ผ่องใส ทรงมีชัยอยู่เหนือบัลลังก์โพธิญาณทรงสยบมารได้ในที่สุด และตรัสรู้แจ้งธรรมด้วยตนเอง ด้วยความเพียร และจากการสั่งสม บ่มบารมีมาอย่ายิ่งยวด ทรงบรรลุวิชชาอันลึกซึ้งยิ่ง และทรงเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตที่ประเสริฐ  อันหาผู้ไดเปรียบเสมอมิได้ พระองค์เสด็จไปดีแล้วไปสู่สันติสุขอันเป็นอมตะนิรันดร์ ทรงเป็นผู้รู้แจ้ง แห่งสรรพสัตว์และสรรพชีวิตทั้งหลาย ทรงเป็นสารถีผู้ฝึกบุรุษที่ควรฝึกไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า ทรงเป็นบรมครู เป็นศาสดาของเทพและมนุษย์ทั้งหลาย ทรงเป็นพุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ตลอดเวลา ทรงเป็นพระผู้มีพระภาค คือเป็นผู้มีความเจริญที่ไม่มีวันเสื่อม พระองค์ทรงทำโลกนี้พร้อมทั้ง เทวโลก มารโลก พรหมโลกให้แจ้งชัดถึงธรรมอันไม่ตาย ด้วยพระปัญญาอันยิ่งของพระองค์เอง แล้วทรงสอนหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณะพราหมณ์ เทพ และมนุษย์ ให้รู้ตาม ทรงแสดงธรรมไพเราะงดงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ทรงประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะครบบริบูรณ์บริสุทธิ์ อนึ่ง การเห็นพระอรหันต์ทั้งหลายนั้น เป็นความดี. คุณของพระพุทธเจ้าและพระพุทธานุภาพนั้นมีอานุภาพคุ้มโทษคุ้มภัยต่อโลกและชีวิตแห่งสรรพสัตว์ ทุกรูปทุกนาม ผู้เชื่อและยึดมั่นต่อพระองค์อย่างแท้จริง ด้วยปํญญาอันชัดแจ้ง เมื่อนั้นแม้ทั้งโลกนี้และโลกหน้า พวกเราทั้งหลายจะพ้นภัยพิบัติทั้งมวลและล่วงพ้นมือมารได้ จงกล่าวคำว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ  เถิด  สาธุ สาธุ สาธุ http://www.sathanimahaprash.com/index.asp?catid=3&contentID=10000004&getarticle=37&title=%BE%C3%D0%BE%D8%B7%B8%D2%B9%D8%C0%D2%BE%E1%C5%D0%A8%D4%B5%B5%D2%B9%D8%C0%D2%BE จากคุณ : kongsilp2000 - [ 9 พ.ค. 51 10:25:03 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ความไม่สงสัย เพราะ รุ้เห็นด้วยตนเอง  ก็พร้อมที่จะใช้พุทธคุณแล้วละครับ เช่น ไม่สงสัยเรื่อง สมาธิ ฌาน  เพราะปฎิบัติแล้วรู้ว่ามีจริง ไม่สงสัยเรื่อง คนตาย  วัฎฎะสงสารการเกิด แก่ เจ็บตาย เพราะ รู้เองเห็นเอง ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าพุทธศาสนา เป็นเพียงศาสนาที่ชี้ทาง ไม่ใช่การอ้อนวอนขอ ดังที่ว่า ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นประธาน สัตว์โลกมีกรรมเป็นของตนเอง บุรุษที่ฝึกตนดีแล้วย่อมนำสุขมาให้ตนเองและผู้อื่น(พระพุทธเจ้า พระสาวกผู้มีฤทธิ์ ปาฎิหารย์  )ทรงยกย่องเทศนาปาฎิหารย์ และการใช้ปาฎิหารย์บรรเทา โรค ภัย บ้านเมือง เป็นบางครั้ง พุทธคุณที่แท้จริง คือสัจจธรรม คือความจริงนั้นเอง จากคุณ : เอก (aunemaek2) - [ 9 พ.ค. 51 10:35:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สำหรับชาวบ้านทั่วไป ต้องดูว่า รับธรรมได้ขั้นไหน โดยมากแล้วพระพุทธเจ้ามักจะแสดงธรรมไปตามลำดับและบอกวิธีการปฎิบัติธรรมไปตามลำดับเช่นกัน เริ่มต้นด้วย ทาน   (ทำความดี)  ผลของทาน ศีล  ได้กี่ข้อแล้วแต่ความสามารถ  (ทำความดี  ละเว้นความชั่ว)  ผลของศีล ความสุข  (สวรรค์ ) โทษของความสุข  (ความไม่แน่นอน ความต้องรักษา ความต้องแย่งชิง ความมีผลน้อย ทุกข์มาก ความไม่ใช่สิ่งที่บังคับควบคุมให้เป็นไป) และอริยสัจ4  (พุทธานุภาพ คือ ความจริงที่เป็นอาวุธ เป็นพลานุภาพที่ใครๆไม่อาจต้าน) แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 51 10:44:26 จากคุณ : gvd (aunemaek2) - [ 9 พ.ค. 51 10:43:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต  = พุทธานุภาพ แบบหนึ่งไหม? ศาสดาและสาวก ย่อมมีการกล่าวตรงกันในเรื่องปฏิจจสมุปบาท = พุทธานุภาพ แบบหนึ่งไหม? เป็นอยู่โดยชอบ (ตามที่ ทรงเฉือนขี้ริ้วทิ้งออกให้หมดแล้ว) โลกจักไม่ว่าจากพระอริยเจ้า = พุทธานุภาพ แบบหนึ่งไหม? สัมมาทิฏฐิ เป็นดุจอรุณรุ่ง = พุทธานุภาพ แบบหนึ่งไหม? กาลามสูตร = พุทธานุภาพ แบบหนึ่งไหม? จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) - [ 9 พ.ค. 51 10:52:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสว่าง แต่ขาดไปอย่างคือ วิธี ขั้นตอนปฏิบัติให้เข้าถึง ทำยังไง โปรดบอกด้วย พร้อมผลประจักษ์ที่ใช้สำหรับพิสูจน์วัดระดับการเข้าถึง 1,2,3 โปรดแจกจ่ายกันเป็นธรรมทานด้วย สาธุ จากคุณ : Ghost Bat - [ 9 พ.ค. 51 11:06:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขั้นตอนปฎิบัติ  แตกต่างกันตามแต่จริตบุคคลครับ จากคุณ : เอก (aunemaek2) - [ 9 พ.ค. 51 11:21:27 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เริ่มจาก  ความสนใจ v ฟังธรรม v ศรัทธา v ปฎิบัติ จากคุณ : เอก (aunemaek2) - [ 9 พ.ค. 51 11:26:45 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ท่านเจ้าของกระทู้ ความคิดเห็นที่6 ในหนังสือเรื่องสิทธารถะ ก็มีคำถามคล้ายๆกับของท่าน (สภาวะดังกล่าวไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ ผู้ปฏิบัติจะต้องรู้เอง ไม่สามารถหลอกตนเอง เท่ากันทุกคน) ท่านน่าจะอ่าน สูตรของเหว่ยหล่าง หรือแนวทางของหลวงพ่อเทียน ก็จะเกิดความเข้าใจเกิดปัญญา ข้อเขียนของท่าน koknam ท่านนมสิการ และอีกบางท่านในเว็ปพันทิพย์ก็สื่อสิ่งที่ท่านอยากรู้ จบดีกว่า ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมครับ จากคุณ : ศิษย์ปู่หมอ - [ 9 พ.ค. 51 11:48:28 ]

ความคิดเห็นที่ 10 (๑) ..แต่ขาดไปอย่างคือ วิธี ขั้นตอนปฏิบัติให้เข้าถึง ทำยังไง โปรดบอกด้วย จขกท ..เห็นเห็น ไหมครับ ว่า มีผู้เสนอ อย่างไรบ้าง (๒)...พร้อมผลประจักษ์ที่ใช้สำหรับพิสูจน์วัดระดับการเข้าถึง 1,2,3 จขกท ..เห็น เห็น ตามที่อ่าน (ไม่ใช่ เห็น ตรงตามที่บุคคลนั้นเห็นเห็น) อย่างไร? แต่ ปัญหา ที่ จขกท สมควร เห็น เห็น น่าจะมีว่า จขกท เชื่อนั่นเชื่อนี้ แต่ ไม่เชื่อ การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า หรือเปล่า ถ้าเชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ก็ จะไม่เกิดคำถาม ..แต่ขาดไปอย่างคือ วิธี ขั้นตอนปฏิบัติให้เข้าถึง ทำยังไง โปรดบอกด้วย และ ...พร้อมผลประจักษ์ที่ใช้สำหรับพิสูจน์วัดระดับการเข้าถึง 1,2,3 เมื่อ ไม่เชื่อ การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ..ทั้งๆ ที่ เป็นพระศาสดาเพียงพระองค์เดียว ที่ ทรงประทาน การดำรง จิต สติ ปัญญา เมื่อเนื่องกับความเชื่อ ๑๐ ประการ คือ กาลามสูตร.. พิจารณา   กาลามสูตร.....ให้ ตลอดเสียก่อน เพราะ กาลามสูตร = พุทธานุภาพ แบบหนึ่งไหม? แล้วจะ เนื่องกับ ข้ออื่นๆ คือ สันทิฏฐิโก + ปัจจัตตัง ...(ดูนิยามของคำ ทั้งสอง เองนะครับ) จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) - [ 9 พ.ค. 51 12:25:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เรียน คุณเซ็นเถรฯ อนุสนธิจากข้อความของคุณ ตอนหนึ่งว่า ......จขกท เชื่อนั่นเชื่อนี้ แต่ ไม่เชื่อ การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า หรือเปล่า ถ้าเชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ก็ จะไม่เกิดคำถาม .......................................... ....ไม่ทราบว่า คุณเซ็นฯ เขียนผิดหรือมีข้อความขาด-ตก ไปหรือเปล่า ? เพราะคำถาม ไม่จำเป็นต้องเกิดจากเหตุแห่งความสงสัย  ก็เพราะเชื่อนะซีจึงถาม เนื่องจากมีพระบาลีรองรับไว้ถึงเรื่อง "โอปกนฺนสทฺธา" และกล่าวต่อไปถึง "อจลนุภาเวน" คืออานุภาพที่ไม่มีวันเสื่อมสูญ หนึ่งในนั้นคือพุทธานุภาพ ... ดังนั้น คำถามจึงมีว่า      1. ปฏิบัติอย่างไร ? 1,2,3 จึงจะเข้าถึง      2. เมื่อเข้าถึงแล้ว มีวิธี อย่างไรที่จะปริวัติมาใช้กับชีวิตมนุษยโลกทั่วไปได้      3. คนที่ไม่ได้นับถือพุทธศาสนา จะสามารถประจักษ์ในพุทธานุภาพได้หรือไม่ ? หากได้ มีวิธี หรือการปฏิบัติอย่างไร ? .... ทั้ง 3 ข้อนี้คือหลักการปฏิบัติที่ต้องเห็นผลจริง ในระยะเวลาสั้น ไม่ใช่ตามบุญตามกรรม หรือรอไปชาติหน้า นี่คือเป้าประสงค์หลักของคำถาม ซึ่งไม่ได้หมายถึงว่า ไม่เชื่อ !! และคำตอบ ก็ยังไม่พบหลักการ หรือวิธีที่ใคร ๆ ก็สามารถนำไปปฏิบัติได้เลยแม้แต่น้อย   สาธุ จากคุณ : Ghost Bat - [ 9 พ.ค. 51 13:05:02 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอตอบคุณ Ghost Bat ด้วยความเคารพครับ เท่าที่ผมได้อ่านสำนวนการตั้งคำถาม และสำนวนการตอบคำถามของท่านที่ผ่านมา แม้มีไม่มาก แต่หากผมพิจารณาแล้วไม่ผิด คุณ Ghost Bat จะต้องเป็นผู้ที่สั่งสมสุตตะมาไม่น้อยทีเดียว... วิธีการต่างๆ ที่คุณถามไป แล้วมีผู้ตอบมา บอกกับท่านมา หากเป็นไปได้ท่านอย่าเพิ่งไปสรุปว่าวิธีดังกล่าวใช้ไม่ได้ผล หรือไม่ชัดเจน (หากท่านไม่ได้คิดเช่นนั้นก็ไม่เป็นไร) จนกระทั่งได้นำไปพิจารณาและทดลองทำตามดูนั่นแหละ ท่านถึงจะรู้เอง เพราะบางทีรายละเอียดต่างๆ มันปลีกย่อยมาก และเป็นสิ่งที่ควรจะค้นหาคำตอบ ได้รับถ่ายทอดจากประสบการณ์การปฏิบัติของตนเองโดยตรงจะดีที่สุด จะทำให้หมดความคลางแคลงสงสัย ไม่เช่นนั้นจะข้ามวิจิกิจฉาไม่ได้ การปฏิบัติธรรมไม่สามารถบอกได้ว่าวิธีการใดดีที่สุด เป็นขั้นตอนที่สุด เพราะแต่ละคนย่อมมีจริตแตกต่างกัน ปัญญาความเข้าใจประสบการณ์เดิมก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นลองนำไปปฏิบัติตามดูให้ถึงที่สุดไม่ว่าวิธีการใดก็ตาม เอาสักอย่างหนึ่ง แม้เพียงง่ายๆ เช่น ศีล-สมาธิ-ปัญญา เป็นต้น หรือวิธีที่เป็นแบบธรรมน้อยที่พัฒนาไปสู่ธรรมใหญ่ เช่น การเจริญสติ เป็นต้น ก็ตาม ขอให้จริงๆ จังๆ จนที่สุดย่อมรวมลงกันได้ทั้งสิ้นครับ ผมดูลักษณะแล้วเห็นว่า แม้ใครจะตอบอย่างไร อาจจะไม่ถูกสำหรับท่าน ชัดเจนสำหรับท่าน หรือว่าท่านอาจจะมีวิธีการอยู่แล้วหรือเปล่าครับ แต่มาถามเพียงเพื่อเทียบเคียงความรู้ที่ท่านมีอยู่ว่าตรงหรือแตกต่างกันอย่างไร หากเป็นเช่นนั้น ผมคิดว่าสิ่งที่ดีกว่า คือ ท่านแสดงธรรมอันใดที่เป็นประโยชน์ แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติเป็นขั้นตอนมาให้ผู้อื่นทราบบ้างดีกว่าครับ จะได้ช่วยกันพิจารณา ผมคนหนึ่งล่ะที่จะรออ่านครับ ขอให้เจริญในธรรมครับ จากคุณ : ศิรัสพล - [ 9 พ.ค. 51 14:02:29 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าหลายท่านในที่นี้ไม่มีจิตคิดดูถูกดูแคลนคติความเชื่อของชาวพุทธสยามโบราณ ในเรื่องความสามารถเข้าถึงอำนาจแห่งพระพุทธคุณแล้วไซร้ และลองเจริญรอยตามบรรพชนก็ถือว่าเป็นเรื่องท้าทายยิ่ง       ขั้นแรกท่านต้องรู้ว่าชาวสยามโบราณนำพระพุทธคุณมาใช้ในเรื่องใดบ้าง  ก็ไม่ยากที่จะเข้าใจได้เพราะพระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ในเรื่องของการพ้นทุกข์  ดังนั้นอำนาจของพระพุทธคุณจึงเป็นไปเพื่อการพ้นทุกข์ทางกายและใจได้ เช่นเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ  ป้องกันภัยแคล้วคลาด  คงกระพัน  เมตตามหานิยม      วิธีการเข้าถึงอำนาจแห่งพระพุทธคุณ  ศีล สมาธิ ปัญญา  และผ่านทาง วัตถุที่ผนึกอำนาจของพระพุทธคุณจากพระเกจิผู้มีความสามารถ  วัตถุมงคลจะมีปัญหาในการทดสอบเพราะผู้ทดสอบยังไม่มีสมาธิจิตเหมือนกำลังตกอยู่ในอันตรายจริงๆ  แต่ถ้าผู้นั้นกำลังตกอยู่ในอันตรายจริงๆและเกิดศรัทธาเชื่อมั่นในพระพุทธคุณแบบไม่เคยมีมากล้นแบบนั้นมาก่อน   ก็เชื่อได้เลยว่าผู้นั้นย่อมจะสามารถประจักษ์ต่ออำนาจของพระพุทธคุณได้แน่นอน  เพราะอำนาจแห่งพระพุทธคุณมีไว้เพื่อการพ้นทุกข์นั่นเอง  ก่อนที่ปฏิหารจะเกิดขึ้นให้เราเห็นก็คือสมาธิความแนวแน่มั่นใจแบบไม่เคยมีมาก่อนจะปรากฏขึ้นอยู่เสมอ          อีกวิธีของการเข้าถึงพระพุทธคุณด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา  ศีลนอกจากไม่ทำการผิดศีลห้าแล้ว ศีลตัวนี้ยังมีความหมายถึงความเป็นปกติ  ปกติอะไรกัน  ก็หมายถึงมีจิตน้อมลำลึกถึงอำนาจของพระพุทธคุณเป็นปกติคือมีศรัทธาคงเส้นคงวาอยู่เสมอ  สมาธิก็คือระดับของความศรัทธาแน่วแน่ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นขณะมีทุกข์ภัยหรือเกิดขึ้นขณะนั่งบริกรรมก็ได้ แล้วปัญญาทีจะเกิดขึ้นตามมา  นั้นคือปฏิหารย์ความสามารถกำจัดทุกข์ได้  ไม่ว่าเป็นการแคล้วคลาด  คงกระพัน  เมตตามหานิยม จากคุณ : คนกรุงธน - [ 9 พ.ค. 51 14:03:23 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ..ก็เพราะเชื่อนะซีจึงถาม คุณ เชื่อ  ด้วยเหตุปัจจัยอะไรบ้าง หรือ เชื่อแบบไหน? (๑) เชื่อ แบบ ชาวพุทธ ตาม ทะเบียนบ้าน (บิดา มารดา ฯลฯ นับถือพุทธฯ) (๒) เชื่อเพราะ ฯลฯ (๓) เชื่อเพราะ เจอปัญหาในชีวิต (ปัญหา คือทุกข์)แล้ว เมื่อแก้ โดย วิธีนั้น วิธีนี้ ทุกข์ก้ยังคาใจ จึงหันมา พิจาณณา ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ผ่านพระเถระ ผ่าน ฯลฯ กระทู้นี้ื คุณ ฯ "พุทธานุภาพ" ผ่านคำบาลีสองคำ ผมเสนอคุณใน คคห 5 ว่า คือ พุทธานุภาพ ที่น่าจะเนื่องกับ ...คำที่คุณ เสนอ คือ "โอปกนฺนสทฺธา" และกล่าวต่อไปถึง "อจลนุภาเวน" แต่ เมื่ออ่าน ที่คุณ ตั้งไว้ ๔ ข้อ คือ .....๑. พุทธานุภาพคืออะไร ? สามารถจับต้อง มองเห็น สัมผัสหรือ พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ อย่างเป็นรูปธรรมได้หรือไม่ ? เหตุผล ::: พระพุทธศาสนา เป็นของแท้ ของจริง ทนทานต่อการพิสูจน์ เทียบกับที่เสนอว่า เพราะคำถาม ไม่จำเป็นต้องเกิดจากเหตุแห่งความสงสัย  ก็เพราะเชื่อนะซีจึงถาม บวก ขอขอบคุณล่วงหน้าทุกท่าน ที่กรุณาให้ความกระจ่าง ตกลง ความกระจ่างของบุคคลอื่น ที่เนื่องกับ พุทธานุภาพ + ๔ ข้อ คุณGhost Bat  ย่อม กำหนดว่า ...ทั้งหมดนั้น ไม่ใช่ "องค์พระบรมศาสดา" ใช่ไหมครับ ดังนั้น ไม่ว่าใคร จะเสนออะไรๆ มันก็ เชื่อไม่ได้ หรือ ยังไม่ต้องเชื่อ ตามกาลามสูตร แล้ว มันจะกระจ่าง อย่างไร? ผมจึงเสนอว่า ถ้าเชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ก็ จะไม่เกิดคำถาม คุณGhost Bat ยังเข้าใจไม่ได้ ใช่ไหมครับ ว่า คคห 5 ที่เสนอ ..ถ้าเรียงลำดับ ทให้ ถุกต้อง ตามขั้นตอนแห่ง การเป็นอยู่โดยชอบ โลกจักไม่ว่างจากพระอริยเจ้า ตามที่ตรัสนั้น แล้วไซร้ บุคคล อนัตตานั้น ก็ จะ ตอบความถามทั้ง ๔ ข้อได้ด้วยตนเอง โดยตั้งต้นที่ เชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า+ + + แล้วเมื่อ บรรลุธรรม ตรงตามที่ตรัสไว้ = ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต ฯลฯ...........ก็ จะคือ ความหมายของคำที่ผมเสนอว่า ถ้าเชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ก็ จะไม่เกิดคำถาม ทั้ง ๔ ข้อ และ ที่ ถามใน คคห 6 ว่า แต่ขาดไปอย่างคือ วิธี ขั้นตอนปฏิบัติให้เข้าถึง ทำยังไง โปรดบอกด้วย พร้อมผลประจักษ์ที่ใช้สำหรับพิสูจน์วัดระดับการเข้าถึง 1,2,3 แปลว่า เชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ก็ย่อมเป็นธรรมดา คือขวนขวาย แสวงหาว่า ...วิธี ขั้นตอนปฏิบัติให้เข้าถึง ทำยังไง ตามที่พระบรมศาสดาตรัสไว้ แล้ว พระเถระท่านรักษาสืบมา "ด้วยตนเอง เสียก่อน"  ก่อนที่จะ เกิดคำว่า ....โปรดบอกด้วย ซึ่งจะสอดคล้องกับ ข้อความ ที่คุณ เสนอว่า ........ ทั้ง 3 ข้อนี้คือหลักการปฏิบัติที่ต้องเห็นผลจริง ในระยะเวลาสั้น ไม่ใช่ตามบุญตามกรรม หรือรอไปชาติหน้า ทีนี้ สาระสำคัญ น่าจะอยู่ที่ ข้อความ ใน คคห 11 ที่คุณ เสนอ ว่า "และคำตอบ ก็ยังไม่พบหลักการ หรือวิธีที่ใคร ๆ ก็สามารถนำไปปฏิบัติได้เลยแม้แต่น้อย" ขอให้ ผมเดาผิด ว่า "ขณะที่คุณGhost Bat ตั้งกระทู้นี้ขึ้นนั้น คุณฯ มีความเชื่อความเห็น ตายตัวแล้วว่า ..."และคำตอบ ก็ยังไม่พบหลักการ หรือวิธีที่ใคร ๆ ก็สามารถนำไปปฏิบัติได้เลยแม้แต่น้อย" เมื่อคุณฯ มีความเชื่อความเห็น ตายตัวแล้วว่า ..."และคำตอบ ก็ยังไม่พบหลักการ หรือวิธีที่ใคร ๆ ก็สามารถนำไปปฏิบัติได้เลยแม้แต่น้อย" แต่ คุณGhost Bat เชื่อ การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ตกลง คุณGhost Batตั้งกระทู้นี้ เพื่ออะไรกันแน่ครับ?..โดย อ้าง พุทธานุภาพ ตกลง คุณGhost Batตั้งกระทู้นี้ เพื่ออะไรกันแน่ครับ?...โดย อ้าง พุทธานุภาพ ตกลง คุณGhost Batตั้งกระทู้นี้ เพื่ออะไรกันแน่ครับ?...โดย อ้าง พุทธานุภาพ การที่ผม เสนอว่า ถ้าเชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ก็ จะไม่เกิดคำถาม ทั้ง ๔ ข้อ ย่อม เป็นคำตอบ ที่ผู้นั้นต้องมองเห็นได้เองด้วยว่า ...ใครก้ตาม ที่เชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธองค์  แล้ว ไม่ ติดตังตายด้านอยู่กับ ความคิดว่า การบรรลุมรรคผล กระทำนิพพานให้แจ้ง ไม่มีแล้วในสมัยนี้ แล้ว ปฏิบัติตามวิธีที่ตรัสสรรเสริญ (ซึ่งผู้นั้น ต้องขวนขวายแสวงหาเองก่อน ฯลฯ) ก็ย่อม พบเห็น พุทธานุภาพ แล้ว ก็ จะไม่เกิดคำถาม ทั้ง ๔ ข้อ สรุป ผมเดาผิดได้ ครับ แต่เมื่อผมอ่าน กระทู้ ผมได้กลิ่น คำว่า ..."และคำตอบ ก็ยังไม่พบหลักการ หรือวิธีที่ใคร ๆ ก็สามารถนำไปปฏิบัติได้เลยแม้แต่น้อย" แล้ว เดาว่า คุณGhost Bat ก็เชื่อ การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ตามแบบของคุณเองด้วย เข้าใจ นะครับ (ไม่เกี่ยวกับ ยอมรับ หรือไม่ยอมรับว่า ..นะครับ) ว่า คำว่า ถ้าเชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ก็ จะไม่เกิดคำถาม ทั้ง ๔ ข้อ นั้น มันมี ความหมาย กว้างแค่ไหน ..ดังที่ผม พรรณาความมา ขอแสดงความนับถือ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) - [ 9 พ.ค. 51 15:17:28 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ค้นคำว่า  พุทธานุภาพ ที่นี่  (ข้อ 3  ค้นด้วยข้อความ) http://www.84000.org/ http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/tipitaka_seek.php ผลการค้นหา คำว่า  “ พุทธานุภาพ ”  :-พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๒  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๔  ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ ------กดดู ลิงก์ด้านล่าง มีลิงก์ต่อไปยังรายละเอียดของข้อพระธรรม ครับ--------- ในอากาศ ด้วยพุทธานุภาพ ดอกไม้ซึกทั้งหลายแวดล้อมอยู่โดยประการ http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=32&A=3686&w=พุทธานุภาพ ด้วยพุทธานุภาพ ด้วยกุศลมูลนั้น พราหมณ์ผู้รู้จบมนต์ได้เสวยสมบัติแล้ว http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=32&A=3985&w=พุทธานุภาพ แล้ว ดอกบัวเหล่านั้นได้ตั้งอยู่เหนือพระเศียรด้วยพระพุทธานุภาพ ด้วย ฟุ้งในสำนักพระพุทธเจ้า ด้วยพุทธานุภาพ เวลานั้น ต้นไม้มีดอกหอม ทุกชนิด ดอกบานสะพรั่งโชยกลิ่นมาหอมตลบพร้อมกัน ด้วยพุทธานุภาพ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๕  ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก ด้วยพุทธานุภาพ พิณที่ไม่ถูกทำเพลง ไม่ถูกเคาะ ก็บรรเลงขึ้นได้เอง ป่าใหญ่โพลงไปด้วยพุทธานุภาพ เราเห็นปาฏิหาริย์ของพระพุทธเจ้า ได้โดยสะดวกทีเดียว ด้วยพุทธานุภาพ พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ครั้งนั้น เราเห็นพุทธานุภาพนั้นแล้ว เป็นผู้อัศจรรย์ใจจึงได้บรรพชา นั้น เราได้พบพุทธานุภาพจึงออกบวช เราเจริญธรรม ๔ ประการ มาด้วยพุทธานุภาพ บางพวกที่ฉลาดในฤทธิ์ก็มาด้วยฤทธิ์ต่างช่วยกัน หม่อมฉันได้เห็นพระพุทธานุภาพ และได้ฟังธรรมมีคุณเป็นที่ประชุม  บันทึก  ๒๖  สิงหาคม  พ.ศ. ๒๕๔๖.     การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจาก พระไตรปิฎก ฉบับสยามรัฐ.     หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ DhammaPerfect@yahoo.com แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 51 20:24:47 จากคุณ : วงกลม - [ 9 พ.ค. 51 20:19:19 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คิดว่า ทางที่จะเข้าถึงพุทธานุภาพได้ คือ สติปัฏฐาน เป็นทางเดียวที่เข้าถึงแก่นแท้ของพุทธ   รู้ได้เฉพาะตน เฉพาะผู้ปฏิบัต สติปัฏฐานสี่ โดย หลวงตามหาบัว http://larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/000668.htm หนังสือ มหาสติปัฏฐาน4 http://dungtrin.com/sati/ _/|\_ จากคุณ : sukcharo - [ 13 พ.ค. 51 10:53:35 ]