ความคิดเห็นที่ 1 คุณจันทร์กลางใจ  ก็เข้าไปอธิบายว่า   “ เป็นการจำลองแบบมาจากสมัยพุทธกาล ให้คนในยุคของเราที่เกิดไม่ทัน 2,500 กว่าปีก่อน มาให้ดูกันว่า แบบจริง ๆ เป็นอย่างไร ” ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า   หากเป็นการจำลอง ให้คนยุคปัจจุบันดู   ก็จำลองประกอบหุ่น  ตั้งในตู้โชว์  หรือทำเป็นภาพไสลด์/ภาพแอนนิเมชั่นก็ได้ ทำไมต้องเอามาแต่งประกอบในพิธีถวายผ้ากฐิน  ทั้งยังป่าวประกาศชักชักชวนทำนองว่า ด้วยกุศลผลบุญที่มหาอุบาสิกาวิสาขาถวายผ้าไตรจีวรจำนวนมากในอดีตชาติ  จึงได้มีเครื่องประดับชุด “มหาลดาปสาธน์ ”  ในการแต่งองค์ทรงเครื่อง   คลับคล้ายเป็นการเชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้ถวายผ้าไตรจีวรยิ่งมากยิ่งดี  เพื่อการที่จะได้มีเครื่องประดับชุดแต่งองค์ทรงเครื่องที่งดงามอลังการในอนาคตชาติดั่งชุด  “มหาลดาปสาธน์ ”  ของมหาอุบาสิกาวิสาขา จากคุณ : ทวนทอง - [ 22 พ.ค. 51 21:16:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คุณจันทร์กลางใจยังมาบรรยายมหากุศลผลบุญและคุณงามความดีของมหาอุบาสิกาวิสาขา   ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่วัดพระธรรมกายจัดให้บรรดานางงามทั้งหลายเวียนกันมาสวมใส่ ชุด “มหาลดาปสาธน์-จำลอง ”  แต่อย่างใดทั้งสิ้น เพราะบรรดาสาวงามที่เวียนกันมาสวมใส่ชุด “มหาลดาปสาธน์ – จำลอง ” นั้น  ได้สร้าง มหากุศลผลบุญและคุณงามความดีเทียบเท่ามหาอุบาสิกาวิสาขาแล้วล่ะหรือ   จึงบังอาจสวมใส่ชุด “มหาลดาปสาธน์ – จำลอง ”  ถึงแม้จะเป็นของจำลอง  ก็ไม่สมควร  อีกทั้งนำมาแต่งในพิธีกรรมถวายกฐิน  ซึ่งไม่ถูกต้องตามพระไตรปิฎก จากคุณ : ทวนทอง - [ 22 พ.ค. 51 21:19:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จากคุณ : ทวนทอง - [ 22 พ.ค. 51 21:20:30 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณจันทร์กลางใจได้บรรยายสรรพคุณของเครื่องประดับ ชุด “มหาลดาปสาธน์ ”   พร้อมทั้งอธิบายว่า  ที่มหาอุบาสิกาวิสาขา มีเครื่องประดับชุด “มหาลดาปสาธน์ ”   ในปัจจุบันชาติได้ก็เพราะ   “....ได้ยินว่า ในกาลแห่งพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า นางถวายจีวรสาฎก แก่ภิกษุ ๒๐,๐๐๐ รูปแล้ว ได้ถวายด้ายบ้าง เข็มบ้าง เครื่องย้อมบ้าง ซึ่งเป็นของตนนั่นเอง นางได้แล้วซึ่งเครื่องประดับนี้ เพราะผลแห่งจีวรทานนั้น จีวรทานของหญิงทั้งหลาย ย่อมถึงที่สุดด้วยเครื่องประดับชื่อมหาลดาปสาธน์ จีวรทานของบุรุษทั้งหลาย ย่อมถึงที่สุดด้วยบาตรและจีวรอันสำเร็จแล้วด้วยฤทธิ์ ” จุดประสงค์ที่คุณจันทร์กลางใจบรรยายตรงนี้ก็เพื่อชักจูงเชิญชวนน้อมนำให้พุทธศาสนิกชนได้หมั่นถวาย “จีวร” กันมาก ๆ จากคุณ : ทวนทอง - [ 22 พ.ค. 51 21:21:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ deeding เข้ามาบรรยายเสริมอีกว่า  “เป็นพุทธศิลป์” “และภาพนี้ จำลองภาพ มหาอุบาสิกา วิสาขา ในชุดมหาลดาปสาธน์ ชมเป็นงานศิลป์ แล้วจะได้ประโยชน์ ดีกว่ามาขัดแย้ง จับผิดเพ่งโทษ เพื่อนมนุษย์ด้วยกันครับ ” หากประสงค์จะให้เป็นงานศิลป์  ก็น่า จะจัดทำเป็นภาพแอนนิเมชั่น  หรือทำเป็นหุ่นจำลองไว้ในตู้กระจก เพราะปุถุชนอย่างเรา ๆ ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะสวมใส่  ชุด “มหาลดาปสาธน์ ” ได้ จากคุณ : ทวนทอง - [ 22 พ.ค. 51 21:22:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เพราะ  ชุด “มหาลดาปสาธน์ ”  นั้น  ท่านพ่อของมหาอุบาสิกาวิสาขา  จัดสร้างให้เป็นชุดเจ้าสาวในวันแต่งงานของมหาอุบาสิกาวิสาขา http://d71233.u23.bangkokserver.net/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=14&p=8 จากคุณ : ทวนทอง - [ 22 พ.ค. 51 21:23:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มีหลักฐานจากพระไตรปิฎกว่า  มหาอุบาสิกาวิสาขา  ท่านเคารพในพระพุทธองค์มาก  เมื่อจะเข้าเฝ้าพระพุทธองค์  ถึงกับถอด ชุด “มหาลดาปสาธน์ ”  ออก   “...ได้ยินว่า นางวิสาขานั้น เมื่อกำลังเดินไปวิหาร คิดว่า  "การที่เราสวมเครื่องประดับมีค่ามากเห็นปานนี้ไว้บนศีรษะ แล้วประดับเครื่องอลังการจนถึงหลังเท้า เข้าไปสู่วิหาร ไม่ควร"  จึงเปลื้องเครื่องประดับนั้นออกห่อไว้ แล้วได้ส่งให้ในมือหญิงคนใช้ ผู้ทรงกำลังเท่าช้าง ๕ เชือก ผู้เกิดด้วยบุญของตนเหมือนกัน. หญิงคนใช้นั้นคนเดียว ย่อมอาจเพื่อรับเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์นั้นได้, เพราะเหตุนั้น นางวิสาขา จึงกล่าวกะหญิงคนใช้นั้นว่า  "แม่ จงรับเครื่องประดับนี้ไว้, ฉันจักสวมมันในเวลากลับจากสำนักของพระศาสดา. ก็นางวิสาขา ครั้นให้เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์นั้นแล้ว จึงสวมเครื่องประดับชื่อฆนมัฏฐกะ ได้เข้าไปเฝ้าพระศาสดา สดับธรรมแล้ว.” ขนาด มหาอุบาสิกาวิสาขา ยังถอดเครื่องประดับ “มหาลดาปสาธน์ ”  ออก ก่อนเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ แล้วทีมงานวัดพระธรรมกายถือวิสาสะอย่างไร  ในจัดหาบรรดานางงามมาสวมใส่เครื่องประดับ “ มหาลดาปสาธน์ - จำลอง ” ถือผ้าไตรจีวรเข้าไปถวายพระสงฆ์ http://d71233.u23.bangkokserver.net/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=14&p=8 แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 51 23:22:18 จากคุณ : ทวนทอง - [ 22 พ.ค. 51 21:25:29 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ในที่สุดมหาอุบาสิกาวิสาขา ได้ประกาศว่า จะไม่สวมใส่เครื่องประดับ “มหาลดาปสาธน์ ” “...เพราะฉะนั้น นางวิสาขา จึงให้ค่าเครื่องประดับนั้นเสียเองทีเดียว แล้วให้ขนทรัพย์ ๙ โกฏิ ๑ แสน ขึ้นใส่เกวียน นำไปสู่วิหาร ถวายบังคมพระศาสดาแล้ว กราบทูลว่า "พระเจ้าข้า พระอานนท์เถระผู้เป็นเจ้าของหม่อมฉัน เอามือถูกต้องเครื่องประดับของหม่อมฉันแล้ว, จำเดิมแต่กาลที่ท่านถูกต้องแล้ว หม่อมฉันไม่อาจประดับได้, แต่หม่อมฉันให้ขายเครื่องประดับนั้น ด้วยคิดว่า ‘จักจำหน่าย น้อมนำเอาสิ่งอันเป็นกัปปิยะมา’ ไม่เห็นผู้อื่นจะสามารถรับไว้ได้ จึงให้รับค่าเครื่องประดับนั้นเสียเองมาแล้ว, หม่อมฉันจะน้อมเข้าในปัจจัยไหน ในปัจจัย ๔ พระเจ้าข้า?"               พระศาสดา ตรัสว่า "เธอควรจะทำที่อยู่เพื่อสงฆ์ ใกล้ประตูด้านปราจีนทิศเถิด วิสาขา." นางวิสาขาทูลรับว่า "สมควร พระเจ้าข้า" มีใจเบิกบาน จึงเอาทรัพย์ ๙ โกฏิ ซื้อเฉพาะที่ดิน. นางเริ่มสร้างวิหารด้วยทรัพย์ ๙ โกฏินอกนี้ .” ก็ในเมื่อมหาอุบาสิกาวิสาขาประกาศไม่สวมใส่เครื่องประดับ “มหาลดาปสาธน์ ” แล้ว  อีกทั้งในปฐมแห่งการถวายผ้าอาบน้ำโดยมหาอุบาสิกาวิสาขา อันเป็นที่มาของการทอดกฐินนั้น  ในพระไตรปิฎกก็ไม่ได้ระบุว่า  มหาอุบาสิกาวิสาขา ได้สวมใส่เครื่องประดับชุดใด   แล้วสำนักวัดพระธรรมกายไปจินตนาการจากไหนว่า  มหาอุบาสิกาวิสาขา สวมใส่เครื่องประดับ “มหาลดาปสาธน์ ”  นับเป็นจินตนาการที่ก้าวล่วงเกินกว่าที่ระบุในพระไตรปิฎก จากคุณ : ทวนทอง - [ 22 พ.ค. 51 21:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 9 นางวิสาขา  ได้รับการประกาศยกย่องจากพระพุทธองค์ให้เป็น “มหาอุบาสิกา” แต่ไม่เคยเห็นสมาชิกวัดพระธรรมกายเรียกขานนางวิสาขา ว่า  “มหาอุบาสิกาวิสาขา” ผิดกับแม่ชีจันทร์  ขนนกยูง   ที่ได้รับการเคารพนบนอบจากบรรดาพระภิกษุสงฆ์ และฆาราวาสจากวัดพระธรรมกาย  ยกย่องให้เป็น  “มหาอุบาสิกา จันทร์  ขนนกยูง”   เวลาสมาชิกวัดจะเรียกขานแม่ชีจันทร์  ก็จะเรียกด้วยการยกย่องเชิดชูว่า “มหาอุบาสิกาจันทร์”  ทั้งยังสร้างอนุสรณ์สถานให้ศิษยานุศิษย์เคารพสักการะกราบไหว้อีกด้วย ให้ความสำคัญกับ มหาอุบาสิกา ที่ตัวเองแต่งตั้ง  ยิ่งเสียกว่า  มหาอุบาสิกา ที่แต่งตั้งโดยพระพุทธองค์ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 51 21:38:04 จากคุณ : ทวนทอง - [ 22 พ.ค. 51 21:28:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ก็คนลัทธินี้มันมีสามัญสำนึกกันที่ไหน สักแต่จะประชาสัมพันธ์หรูเริด น่ากลัว ลัทธิบ้าๆบอๆล้างสมองผู้คนด้วยคำว่า ''ทาน'' เนี่ย จากคุณ : จันทร์กุมลัคนา - [ 22 พ.ค. 51 22:01:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11 บรรดาฆาราวาส-ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย  จะให้ความเคารพนบนอบต่อแม่ชีจันทร์อย่างไร  จะขนานนามว่า มหาอุบาสิกาจันทร์  หรือคุณยายอาจารย์ ฯลฯ ก็แล้วแต่ แต่กับธัมมชโยแล้ว  ไม่สมควรเรียกแม่ชีจันทร์ในลักษณะของการให้ความเคารพ/นับถือ  ถึงกับเอ่ยปากว่า "คุณยายอาจารย์" เพราะมีบทบัญญัติครุธรรม ๘ ประการ  สำหรับภิกษุณี ครุธรรม ข้อ ๘ "...            ๘. ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ปิดทางไม่ให้ภิกษุณีทั้งหลายสอนภิกษุ  เปิดทางให้ภิกษุทั้งหลายสอนภิกษุณี                ธรรมแม้นี้  ภิกษุณี ต้ อ ง สั ก ก า ร ะ   เ ค า ร พ นั บ ถื อ   บู ช า   ไ ม่ ล ะ เ มิ ด ต ล อ ด ชี วิ ต ..." ภิกษุณีซึ่งถือพระวินัยมากกว่า 300 ข้อ  ยังต้องเคารพต่อภิกษุ(ชาย)แม้บวชเพียงวันเดียว  ทั้งยังให้ภิกษุ(ชาย)แม้บวชเพียงวันเดียวสอนสั่งได้อีกด้วย แล้ว  แม่ชีจันทร์ ขนนกยูง  เป็นเพียงอุบาสก เป็นเพียงฆาราวาส แต่ธัมมชโยกลับยินยอมให้แม่ชีจันทร์เป็นครูบาอาจารย์สั่งสอนธรรมได้ ทั้งยังพร่ำเรียก "คุณยายอาจารย์" ทั้งยังยกย่องให้เป็น "มหาอุบาสิกา" เฮอะ !!! พุทธบัญญัติ  ยังเป็นพุทธบัญญัติ อีกหรือไม่ ? ธัมมชโยยังจะนับถือพระพุทธองค์เป็นพระศาสดาอยู่หรือไม่ ? จากคุณ : ทวนทอง - [ 22 พ.ค. 51 22:41:06 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอเพิ่มเติมนิดนึงครับคุณทวนทองพิมพ์ไม่ครบ นางวิสาขา พระพุทธองค์ทรงยกย่องเป็น........มหาอุบาสิกา....... >>>พระพุทธเจ้าทรงแต่งตั้ง แต่คุณยายจันทร์ คนที่วัดเขายกย่องว่าเป็น............................มหารัตนอุบาสิกา......... ตำแหน่งใหญ่กว่า  มหาอุบาสิกาที่พระพุทธองค์ตั้งนะครับ ใครตั้งน้อ....คนตั้งคงต้องยิ่งใหญ่กว่าพระพุทธองค์เป็นแน่ ใครทราบกรุณาบอกผมด้วยครับไปทำบุญด้วยคงได้บุญมากกว่าพระพุทธเจ้า จากคุณ : อภิมหานวบรมคุณทิคัมพร (sueki) - [ 22 พ.ค. 51 22:49:14 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โอย..ขำจนปวดท้อง จากคุณ : บุษยมาศ - [ 22 พ.ค. 51 22:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 โอ้ว  !  จริงด้วยครับ  คุณทิคัมพร  ขอบคุณครับ ผมผิดพลาด    ไปลดตำแหน่งคุณยายอาจารย์  ได้ยังไง ตำแหน่งที่ถูกคือ มหารัตนอุบาสิกา จริง ๆ ด้วย จากคุณ : ทวนทอง - [ 22 พ.ค. 51 22:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ป้าดโธ่ เดี๋ยวจะโดนไม่น้อย ไปลดตำแหน่งท่านได้อย่างไร จากคุณ : อภิมหานวบรมคุณทิคัมพร (sueki) - [ 22 พ.ค. 51 23:02:45 ]

ความคิดเห็นที่ 16 นี่คุณทิคัมพรจองตั๋วไปลงนรกให้ผมด้วยเรอะ #12 ผมพยายามคลิก Cancel ก็ click ไม่ได้ แต่ก็แปลก   นรก  ไม่ยอมรับการจองตั๋วของคุณทิคัมพรล่ะสิ ผมรอนานแล้ว  ยังดาวน์โหลดไม่เสร็จเยย จากคุณ : ทวนทอง - [ 22 พ.ค. 51 23:11:38 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เดี๊ยนขอตีตั๋วไปอเวจีสีชมพูนะคะ จากคุณ : แมวเหมียวตัวลาย - [ 22 พ.ค. 51 23:17:25 ]

ความคิดเห็นที่ 18 โต๊ะศาสนาเรา ก็แปลกนะ คนที่มีอัธยาศัยใฝ่นำภาพบุคคลอื่น ไม่เว้นแม้บรรพชิต และวิพากษ์ณ์วิจารณ์บุคคลอื่นไม่เว้นม้่บรรพชิต ในทางเสียหาย ให้เป็นที่จงเกลียดจงชังในที่สาธารณะ พูดเองเออเอง วิเคราะห์ตามทัศนะอคติของตัวเอง แล้วก็พิพากษาเอง โดยที่ท่านเหล่านั้น โดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียว แมน มั่ก ๆ วีรบุรุษมั่ก ๆ นักหรือครับ ดูท่าเจ้าของกระทู้ เร่งสร้างผลงานไว้สมานฉันท์ อดีตมิตร ???? ให้ทุกข์แก่ท่าน ระวังทุกข์นั้นย้อนกลับมาหาตัว  อีกหลาย ๆ รอบ นะครับ ็้ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 51 00:20:27 แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 51 00:17:25 จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 00:08:17 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาฮาด้วยคนค่ะ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 23 พ.ค. 51 02:07:26 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ใครคือบรรพชิตหรือครับ ? หากคุณ deedang หมายถึงธัมมชโยล่ะก็  คงต้องทำความเข้าใจกันใหม่ ! เพราะผมไม่คิดว่า ธัมมชโยเป็นบรรพชิตแล้ว  เนื่องจากธัมมชโยปาราชิกขาดจากการเป็นพระมานับ 10 ปีแล้ว อีกทั้งพฤติกรรมของธัมมชโยไม่เพียงไม่ใช่บรรพชิต ไม่เพียงไม่ใช่พระเท่านั้น  เพราะธัมมชโยได้กระทำการย่ำยีพระไตรปิฎก/บิดเบือนพระไตรปิฎก และบิดเบือนกล่าวตู่พุทธพจน์อยู่เนือง ๆ สมควรประนามว่า เป็นอลัชชีที่สร้างภาพว่า ทำดีบำรุงพระพุทธศาสนาแต่แอบแฝงด้วยการทำลายอยู่ลึก ๆ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 51 06:22:05 จากคุณ : ทวนทอง - [ 23 พ.ค. 51 06:21:17 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ......... เข้ามา ดู เฉย ........... แต่ ฮา ดี ............ จากคุณ : cattym - [ 23 พ.ค. 51 08:28:56 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แหม่ คุณทวนทอง ก็ธัมมะโยโย่เค้ารู้ตัวว่าตัวเองเป็นอลัชชีมิใช่พระไง เค้าถึงกล้าแต่งตั้งคุณแม่ชีเป็นอาจารย์ ไม่ผิดพุทธบัญญัตินะจ๊ะๆ (แต่ผิดเรื่องอื่นอีกหลายกระบุงโกยนี่ไม่เกี่ยวกันเด้อ) จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 23 พ.ค. 51 08:32:09 ]

ความคิดเห็นที่ 23 กระทู้นี้ดีมากเลย ให้ความรู้ที่ถูกต้อง ขอโหวตนะคับ สาธุคับ จากคุณ : Radiant, Archangel - [ 23 พ.ค. 51 08:32:28 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เจตนาชัดเจนอยู่แล้ว สอนการให้ทานเพื่อละความตระหนี่ หรือสอนให้ทานเพื่อหวังสมบัติ หวังจองที่บนสวรรค์  หวังจะได้มหาลดาปสาธน์แบบนางวิสาขา มหาอุบาสิกา ให้ทานเหมือนเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง จากคุณ : autumn whispers - [ 23 พ.ค. 51 09:08:20 ]

ความคิดเห็นที่ 25 วัดนี้เขาทำพวก marketing, PR,finance เก่งมากๆเลยนะ มีสื่อเอง มีระบบดีนะ แถมเอาดาราโปรโมทอีก เรียกว่าครบเลย ที่พูดนี้ คือเสียดายอ่ะ น่าจะเอา บุคลากร และอื่นๆ ไปพัฒนาทางโลก (ประเทศ)ด้านวัตถุไปเลย เช่น ทุกคนถ้าไม่ขับรถไปทำงาน(นั่งรถสาธารณะไป 1 วันได้บุญ 1 หน่วย ทำมากได้บุญมาก ปิดแอร์นอน 1 วันได้บุญ 2 หน่วย เอามาช่วยเรื่องโลกร้อนซะเลย ขำๆๆนะค่ะ จากคุณ : นก (นกรำพึง) - [ 23 พ.ค. 51 09:24:01 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ดูกรโมฆบุรุษ ธรรมอันเราแสดงแล้วโดยอเนกปริยาย เพื่อคลายความกำหนัด ไม่ใช่ เพื่อมีความกำหนัด เพื่อความพราก ไม่ใช่เพื่อความประกอบ เพื่อความไม่ถือมั่น ไม่ใช่เพื่อมี ความถือมั่นมิใช่หรือ? เมื่อธรรมชื่อนั้นอันเราแสดงแล้ว เพื่อคลายความกำหนัด เธอยังจักคิด เพื่อมีความกำหนัด เราแสดงเพื่อความพราก เธอยังจักคิดเพื่อความประกอบ เราแสดงเพื่อความ ไม่ถือมั่น เธอยังจักคิดเพื่อมีความถือมั่น.             ดูกรโมฆบุรุษ ธรรมอันเราแสดงแล้วโดยอเนกปริยาย เพื่อเป็นที่สำรอกแห่งราคะ เพื่อ เป็นที่สร่างแห่งความเมา เพื่อเป็นที่ดับสูญแห่งความระหาย เพื่อเป็นที่หลุดถอนแห่งอาลัย เพื่อ เป็นที่เข้าไปตัดแห่งวัฏฏะ เพื่อเป็นที่สิ้นแห่งตัณหา เพื่อเป็นที่สำรอกแห่งตัณหา เพื่อเป็นที่ดับ แห่งตัณหา เพื่อออกไปจากตัณหาชื่อวานะ มิใช่หรือ? วัดธรรมกายชอบทำอะไรขัดพุทธพจน์ตลอด แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 51 10:14:35 จากคุณ : Kengmanny - [ 23 พ.ค. 51 10:12:36 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ดีครับแสดงในสิ่งที่ควรเป็นจริงตามธรรมให้ปรากฏ   จะได้รู้ว่าอย่างไรคลาดเคลื่อนจากธรรมเพราะการสร้างภาพและการโฆษณา  อย่างไรควรเป็นธรรมที่เป็นจริง ที่ท่านที่มีคุณธรรมปฏิบัติมาเป็นแบบอย่าง จากคุณ : P_vicha - [ 23 พ.ค. 51 11:15:40 ]

ความคิดเห็นที่ 28 การ PR  Marketing  อาจเป็นกุศโลบาย ดึงคนมามาก ๆ ก็ได้คนที่หวังบุญเยอะ ๆ ไงละครับ ต้องแล้วแต่จิตไงละ  มีคนในสมัยพุทธกาล คนนึงอยากไปสวรรค์เพราะได้เจอ นางฟ้าอัปสร  พระพุทธเจ้าเลยสอนเขาถูกจุด ก็เลยบรรลุได้ แต่ทำใหญ่โตอลังการ มันก็เลยขัดหลักธรรมอะนะ อย่างที่คุณนก คห.25 บอกว่า การที่มีวัดที่มีพลังในการผลักดันสังคม ได้ขนาดนี้ น่าจะทำในส่วน สังคมอื่น ๆ  เพียงแต่ตอนนี้ภาพของท่านจ้าวสำนัก ติดลบไปซะแล้ว ต้องรอการผลัดใบเป็นคนรุ่นใหม่ดีกว่า จากคุณ : นบนอบ - [ 23 พ.ค. 51 11:17:42 ]

ความคิดเห็นที่ 29 deedang  ดูถูกป๋าเกินไปมั้ง จากคำพูดพวกนี้น่ะ ป๋าเขามีเพื่อนทั้งปัจจุบัน อดีต ใน และ นอกบอร์ด คงไม่ต้องทำอย่างที่คุณว่าหรอก ทำเป็นดี ที่แท้คุณก็เหน็บแนมผู้อื่น ทำให้เห็นเลยว่า  สมุน  ทำมะโกย ทำได้ดีเพียง  แถ / ไหล / บิดเบือน / ยกเมฆ / ไร้ยางอาย เหมือนเจ้าของสำนักจานบิน... พอถูกจับได้ดันอ้าง ผลกรรม นรก สวรรค์ ขู่ชาวบ้าน จากคุณ : บุษกรจันทร์ - [ 23 พ.ค. 51 11:44:40 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอเสนอแนะคุณdeedangสักเล็กน้อยครับ ทั้งที่รู้ว่าคงไม่สร้างแสงสว่างให้ได้สักเท่าไร.. หากไม่เชื่อใคร ไม่ฟังใคร  ก็เร่งปฎิบัติเถอะครับอย่ามัวขัดส้วมวัดอยู่เลย     น้องฉัตรนั้นวันที่บวชเขาได้ดวงปฐมมรรคแล้ว และต่อมาอีกสองสาม กายในเวลาต่อมา น้องฉัตรในเวลานั้นแม้ชีวิตก็ยกให้ แลกให้ เพื่อครูบาอาจารย์ได้ >>>>แต่พึ่งถึงกายพรหมเมื่อไม่นานนี้(สองปีที่ผ่านมา)     กายพรหมและกายพรหมละเอียด มีคุณสมบัติใช้ประโยชน์ในทางโลก (ย้ำ ทางโลก ระดับโลก) รู้เห็นความจริงของคนในโลกได้ไม่น้อย      แต่ ณ.วันนี้ น้องฉัตรน้ำตาเป็นสายเลือด คุณ deedang เร่งปฎิบัติเถอะครับ เตรียมขันใว้รองน้ำตาใบใหญ่ๆก็แล้วกัน เมื่อพบเห็นความจริงด้วยตาตนเอง จากคุณ : ทิคัมพร (sueki) - [ 23 พ.ค. 51 13:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ถึงเจ้าของกระทู้ ยินดีด้วยครับที่เจ้าของกระทู้ ไม่ได้เข้าใจผิดว่า   ชุดจากภาพที่นำมาแสดงนั้น ไม่ใช่ลอกแบบมาจากหนังมือการ์ตูน คำสาปฟาโรห์ ซึ่งช่วยสร้างความเข้าใจถูกให้ท่านที่ยังเข้าใจผิด เข้าใจคลาดเคลื่อนได้มากทีเดียวครับ แต่ตามทัศนะส่วนตัวของผมนั้น เห็นว่า เจ้าของกระทู้ ยังเข้าใจคลาดเคลื่อน นำเสนอข้อมูลที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง แบบคิดเอง เออเอง เข้าใจเอง หลายเรื่องนะครับ จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 14:00:08 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เช่น แล้วทีมงานวัดพระธรรมกายถือวิสาสะอย่างไร   ในจัดหาบรรดานางงามมาสวมใส่เครื่องประดับ “ มหาลดาปสาธน์ - จำลอง ” ถือผ้าไตรจีวรเข้าไปถวายพระสงฆ์ ความเป็นจริงก็คือ ภาพสตรีที่เจ้าของกระทู้นำมาแสดงนั้น เธอไม่ใช่ บุคคลที่ ถือผ้าไตรจีวรเข้าไปถวายพระสงฆ์ อย่างที่เจ้าของกระทู้ เข้าใจ เธอเพียงเป็นตัวแทนอัญเชิญผ้าไตร มาไปวางบนแท่นวางผ้าไตร เท่านั้นครับ จากนั้น ตัวแทนกัลยาณมิตร ที่เป็นประธานงานกฐิน ฝ่ายฆราวาส จึงน้อมนำไตรจีวร สำรับนั้น ไปถวายภิกษุที่เป็นตัวแทนคณะสงฆ์ เป็นลำดับต่อไปครับ งั้นขอนำภาพมาทบทวนให้เข้าใจ ถูกต้องตรงไปตามความเป็นจริงนะครับ ภาพนี้ คือ ตัวแทนอัญเชิญผ้าไตร จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 14:02:20 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ภาพนี้ เธอวางผ้าไตรบนแท่น แล้ว ที่วงกลมสีแดง จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 14:03:02 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ภาพนี้ดูเอง จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 14:03:34 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ภาพนี้ตัวแทนกัลยาณมิตร ที่เป็นประธานงานกฐิน ฝ่ายฆราวาส   เตรียมน้อมนำผ้าไตร ไปถวายภิกษุที่เป็นตัวแทนคณะสงฆ์ จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 14:04:11 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ซึ่งแต่ละปี ก็มีท่านอื่น ๆ มาเป็นตัวแทนกัลยาณมิตร เพือถวายไตรจีวร จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 14:05:01 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แต่ละปี ก็มีท่านอื่น ๆ มาเป็นตัวแทนกัลยาณมิตร เพื่อถวายไตรจีวร จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 14:05:55 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ตัวแทนกัลยาณมิตร น้อมนำผ้าไตร ไปถวายภิกษุที่เป็นตัวแทนคณะสงฆ์ จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 14:06:38 ]

ความคิดเห็นที่ 39 โอวว...............เข้าทาง ทำ-มะ-โกย จากคุณ : บุษกรจันทร์ - [ 23 พ.ค. 51 14:08:58 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ตัวแทนกัลยาณมิตร น้อมนำผ้าไตร ไปถวายภิกษุที่เป็นตัวแทนคณะสงฆ์ จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 14:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ส่วนตัวแทนอัญเชิญผ้าไตร เธอนำไตรจีวรอีกสำรับหนึ่ง นำมาวาง ที่โต๊ะนี้ จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 14:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ส่วนทัศนวิจารณ์อื่น ๆ เป็นสิทธิ์ส่วนตัวแต่ของละท่าน ใครมีอัธยาศัยอย่างไร เชิญตามสะดวกครับ แต่ผมมีข้อคิด อย่างนี้ครับว่า ๑  เรื่องพิธีกรรม ขนบธรรมเนียม ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนานั้น มีทั้งสิ่งที่สืบทอดต่อ ๆ กันมาแต่ครั้งพุทธกาล เป็นพุทธบัญญัติบ้าง   พระมหาเถราจารย์รุ่นหลัง ๆ ประยุกต์ให้เข้ากับสภาพท้องถิ่นบ้าง ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ขบวนแห่งานทอดผ้าป่าสามัคคี กฐินสามัคคี ในเขตสุวรรณภูมิ แต่ละประเทศ แม้แต่ในประเทศไทยเอง แต่ละภูมิภาค เหนือ อีสาน กลาง ใต้  แต่ละจังหวัด อำเภอ ตำบล ก็ยังมีรายละเอียดของขบวนแห่ฯ  ชุดแต่งกาย เครื่องประดับ วัตถุทาน ไทยธรรม ที่นำมาเป็นบริวารบริวารผ้าป่าและบริวารกฐิน แตกต่างกันไป เลยครับ ส่วนว่า พิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา ของวัดต่าง ๆ  เช่น วัดพระธรรมกาย จะเป็นพุทธบัญญัติ หรือถูกต้องตามพระไตรปิฎก อย่างที่เจ้าของกระทู้ ตั้งข้อสังเกต ข้อสงสัย ข้อใส่ความหรือไม่ อย่างไร เจ้าของกระทู้ ลองไปตรวจสอบด้วยตนเอง ดีกว่าครับ จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 14:10:53 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ๒  ความห่วงใยในพระพุทธศาสนา นั้นเป็นเรื่องที่น่าอนุโมทนา ครับ หากมุ่งมั่นจะแก้ไข จริง ๆ ก็ควรเกาให้ตรงที่คัน แก้ให้ตรงจุด สิครับ ไม่ใช่เอาแต่เอาภาพนั้น ข้อความนี้ เหตุการณ์นั้น ๆ จากข่าว จากสื่อสารมวลชน จากข้อมูลในระบบเครือข่าย จากปากคนนั้นคนนี้ มาวิเคราะห์ วิจัย วิพากษ์ วิจารณ์ ตามแต่ข้อมูล ข่าวสาร ตามแต่กรอบความคิดของตนเอง แล้วมาโพนทะนา พิพากษา ประจาน บุคคลอื่น หน่วยงานอื่น ในทางไม่ดี ให้เป็นที่จงเกลียดจงชังในที่สาธารณะ ทำแบบนี้  แมนมั่ก ๆ วีรบุรุษ มั่ก ๆ นักหรือครับ จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 14:11:18 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอแนะนำว่า คุณควรไปสอบถาม ร้องเรียนกับหน่วยงานที่มีหน้าที่และอำนาจ ที่กฎหมายบัญญัติไว้ สิครับ จะไปที่สำนักพุทธฯ  มหาเถรสมาคม  หรือกรมการศาสนา  กระทรวงวัฒนธรรม น่าจะตรงจุด เกาถูกที่คัน เป็นวิธีแก้ไขถูกต้อง ตามขั้นตอน   ตามอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบ ที่กฎหมายบัญญัติไว้ จะได้ผลมากกว่า การมาเย้ว ๆ แล้วก็  บลา  บลา  บลา ๆ ๆ ๆ  ในกระดานสนทนาธรรมนะครับ เหมือนสงสัยว่า ใครทำผิดกฎหมาย แทนที่จะไปแจ้งความตำรวจ หรือร้องเรียนหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ก็เอามาคุย สนุกปาก  ในร้านขายกาแฟ  แล้วก็  บลา  บลา  บลา ๆ ๆ ๆ  ซะงั้น จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 14:12:00 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ๓ ขอถามเจ้าของกระทู้สักนิดครับว่า การที่เจ้าของกระทู้ นำภาพในโพสต์แรก เป็นสตรีท่านหนึ่ง ซึ่งต่างวาระกัน คือภาพที่อยู่ในพุทธศาสนพิธี กับชุด ทูพีช ในงานประกวดฯ มาผนวกรวมอยู่ในภาพเดียวกัน คุณคิดอย่างไรครับ คุณไม่สนใจเลยหรือว่า สตรีที่อยู่ในภาพ ไม่ใช่ต้นเหตุโดยตรงของการสนทนา เธอไม่ได้มาร่วมการสนทนาในกระทู้นี้ แล้วภาพที่คุณนำมาใช้ ก็ต่างวาระ ต่างสถานที่ ต่างเหตุการณ์กันมาก อีกทั้งภาพที่คุณนำมาผนวกรวมกัน ก็ไม่ได้สื่อถึงเธอในทางที่ดีนัก คุณไม่คิดหรือไม่ใส่ใจ บ้างหรือครับว่า มารดา บิดาของเธอ หมู่ญาติและเพื่อน  ของเธอ จะคิดอย่างไร ที่คุณนำภาพเธอ มาทำแบบนี้ สมควรแล้วหรือที่คุณ นำภาพเธอมาเป็นเครื่องมือ ในการสนทนานี้ ??? ทำแบบนี้  แมนมั่ก ๆ วีรบุรุษ มั่ก ๆ นักหรือครับ จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 14:15:14 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ๔  ทำไมหนอ คนที่มีความรู้ ความสามารถ มีทักษะการสืบค้นข้อมูลเชิงลึก แบบเจ้าของกระทู้ แทนที่จะนำศักยภาพนี้ ไปใช้ในทางตั้งและตอบกระทู้ เพื่อพัฒนาจิตใจของคนที่เข้ามาในชุมชนโต๊ะศาสนา เพื่อให้เป็นสังคมออนไลน์คุณภาพ กลับมาตั้งและตอบกระทู้ และแสดงความคิดเห็น ทัศนวิจารณ์ ในทางเสี้ยมความกระทบกระทั่งในหมู่คนไทย ชาวพุทธด้วยกัน ทั้งที่พุทธศาสนิกชน ที่ไปวัดพระธรรมกาย ก็ไม่ได้มาตั้งกระทู้ เพื่อเสนอกิจกรรมและภาพงานกุศลของวัด ในโต๊ะศาสนานี้แล้ว คุณก็ยัง ขวนขวายมาตั้งกระทู้ ล่อเป้า เสี้ยมให้คนทะเลาะกัน ขอถามว่า ?  นิยามของคำว่า สังคมออนไลน์คุณภาพ ในโต๊ะศาสนา ของคุณ คืออย่างไรหรือครับ จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 14:15:49 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอขอบคุณ คำแนะนำจากเจ้าของความคิดเห็นที่ 30 ครับ ส่วนข้อมูลที่ ที่ว่า ใครเข้าถึงกายพรหม เมื่อสองปีที่ผ่านมา นั้น ผมเพิ่งทราบ ขอบคุณครับ จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 14:21:53 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ท่านใดใส่ถั่วแดง กรุณาแสดงเหตุผลด้วยครับ อย่ากดเฉยๆ จากคุณ : ทิคัมพร (sueki) - [ 23 พ.ค. 51 15:03:43 ]

ความคิดเห็นที่ 49 น่าจะเป็นเพราะมีภาพประกอบซึ่งมีข้อความแนะนำเวปไซด์ด้วย แต่สังเกตว่าบางค.ห.แม้เป็นของ deedang ก็ไม่ถูกลบเพราะไม่มีภาพประกอบ เพราะมีแต่ค.ห.อย่างเดียว แล้วก็บางภาพประกอบไม่มีเวปแปะมาแต่ลบเพราะไม่ได้เป็นข้อความที่ออกความเห็น แต่มาเล่าเรื่อง คล้ายๆโปรโมตวัดมั้ง ไม่รู้ละอันนี้ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 51 15:12:00 จากคุณ : Radiant, Archangel - [ 23 พ.ค. 51 15:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ที่คุณ deedang  อธิบายยกเหตุผลนั้นก็ดูดีครับ แต่คุณ deedang ครับผู้ที่อยู่ภายในของวังวนอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าผู้นั้นมีการพิจารณาอย่างแยบคาย จนเกิดสติปัญญา ย่อมเห็นเจตนาจริงๆ ของสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นว่าเป็นไปในทิศทางใด  คือ     1.เป็นทางถูกต้องตามธรรม     2.เป็นทางที่คลาดเคลื่อนจากธรรม .     3.เป็นทางผิดอย่างสิ้นเชิงทางธรรม    หมายเหตุ จงอย่างเอาทางโลกเป็นเครื่องวัดพิจารณาเลย  เพราะพุทธเจ้าและหลักพุทธศาสานานั้น ยกธรรมเป็นใหญ่ เป็นหลัก เป็นสำคัญ     การเมา, การอยู่ในหมอก,  การพิจารณาไม่รอบด้านด้วยธรรม,  ผู้มีปัญญาย่อมไม่ประสงค์ติดอยู่หรือติดอยู่นาน   ย่อมหยุดเสพสิ่งที่เมา  ย่อมออกห่างจากกลุ่มหมอกที่ขาดวิสัยทัศน์ ย่อมพิจารณาอย่างรอบคอบด้วยธรรมเพื่อให้เห็นตามความเป็นจริงตามธรรมที่ถูกต้อง       ปรารถนาดีไม่ได้ปราถนาร้าย    ปรารถนาให้เจริญในธรรมไม่ใช่ให้เสื่อมจากธรรม จากคุณ : P_vicha - [ 23 พ.ค. 51 15:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 51 กินถั่วแดง จนอิ่ม เลย ......... 555+ หุหุหุ ......... จากคุณ : cattym - [ 23 พ.ค. 51 15:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 52 การที่เจ้าของกระทู้ นำภาพในโพสต์แรก เป็นสตรีท่านหนึ่ง ซึ่งต่างวาระกัน คือภาพที่อยู่ในพุทธศาสนพิธี กับชุด ทูพีช ในงานประกวดฯ มาผนวกรวมอยู่ในภาพเดียวกัน คุณคิดอย่างไรครับ คุณไม่สนใจเลยหรือว่า สตรีที่อยู่ในภาพ ไม่ใช่ต้นเหตุโดยตรงของการสนทนา เธอไม่ได้มาร่วมการสนทนาในกระทู้นี้ แล้วภาพที่คุณนำมาใช้ ก็ต่างวาระ ต่างสถานที่ ต่างเหตุการณ์กันมาก อีกทั้งภาพที่คุณนำมาผนวกรวมกัน ก็ไม่ได้สื่อถึงเธอในทางที่ดีนัก คุณไม่คิดหรือไม่ใส่ใจ บ้างหรือครับว่า มารดา บิดาของเธอ หมู่ญาติและเพื่อน  ของเธอ จะคิดอย่างไร ที่คุณนำภาพเธอ มาทำแบบนี้ สมควรแล้วหรือที่คุณ นำภาพเธอมาเป็นเครื่องมือ ในการสนทนานี้ ??? ทำแบบนี้  แมนมั่ก ๆ วีรบุรุษ มั่ก ๆ นักหรือครับ ???????????????????????????????????????????  คุณทวนทอง แมนมั่กๆๆ  วีรบุรุษ มั่กๆ นักหรือ   งานนี้ วอร์รูมพิจารณาความ ด้วยหรือเปล่า  สงสัยจังว่าเป็นการสร้างความเสื่อมเสียแก่ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง ?????????? จากคุณ : จันทร์กลางใจ - [ 23 พ.ค. 51 16:53:00 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ภาพตอนที่ประกวดนางงาม เสื่อมเสียตรงไหนรึ ภาพเธอคนนี้สวมชุดว่ายน้ำก็มีออกเยอะแยะไป เห็นจนเบื่อ ถ้าไม่ได้เป็นนางงามมาก่อน มีหรือที่จะได้เป็นตัวแทนอัญเชิญผ้าไตร เหอ เหอ อย่าเบี่ยงเบนประเด็นเสียให้ยาก จากคุณ : บุษยมาศ - [ 23 พ.ค. 51 17:10:59 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ดูท่าเจ้าของกระทู้ เร่งสร้างผลงานไว้สมานฉันท์ อดีตมิตร ???? ให้ทุกข์แก่ท่าน ระวังทุกข์นั้นย้อนกลับมาหาตัว  อีกหลาย ๆ รอบ นะครับ จากคุณ : deedang  - [ 23 พ.ค. 51 00:08:17 ] ______________________________________________________ ^ ^ คุณทวนทองเป็นเพื่อนของผมเสมอ   deedang อย่ามั่วนะจ๊ะ หึหึ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 23 พ.ค. 51 17:53:17 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ช่าย B2 พูดถูกแล้ว ถ้าคิดว่าเสื่อมเสียแล้วไปประกวดทำไมล่ะจ๊ะ แล้วถ้าคิดว่าเสื่อมเสีย ธรรมโกยเอาคุณเค้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ทำไมจ๊ะ หึหึหึ จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 23 พ.ค. 51 17:57:50 ]

ความคิดเห็นที่ 56 แล้วถ้าจะดึงดันให้มันเสื่อมเสียให้ได้ มันก็เสื่อมทั้งสองรูปนั่นแหละ รูปหนึ่งยั่วราคะคน อีกรูปหนึ่งตีตนเสมอพระอริยบุคคล จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 23 พ.ค. 51 18:04:24 ]

ความคิดเห็นที่ 57 คุณคิดอย่างไรครับ คุณไม่สนใจเลยหรือว่า สตรีที่อยู่ในภาพ ไม่ใช่ต้นเหตุโดยตรงของการสนทนา เธอไม่ได้มาร่วมการสนทนาในกระทู้นี้ แล้วภาพที่คุณนำมาใช้ ก็ต่างวาระ ต่างสถานที่ ต่างเหตุการณ์กันมาก อีกทั้งภาพที่คุณนำมาผนวกรวมกัน ก็ไม่ได้สื่อถึงเธอในทางที่ดีนัก คุณไม่คิดหรือไม่ใส่ใจ บ้างหรือครับว่า มารดา บิดาของเธอ หมู่ญาติและเพื่อน  ของเธอ จะคิดอย่างไร ที่คุณนำภาพเธอ มาทำแบบนี้ สมควรแล้วหรือที่คุณ นำภาพเธอมาเป็นเครื่องมือ ในการสนทนานี้ ??? ทำแบบนี้  แมนมั่ก ๆ วีรบุรุษ มั่ก ๆ นักหรือครับ ??????????????????????????????????????????? จันทร์กลางใจ  - [ 23 พ.ค. 51 16:53:00 ] ____________________________________________________ ^ ^ ตาหลก Miss Thailand นี่อะนะ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 23 พ.ค. 51 18:08:51 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ดูซะ ในแวดวงการประกวดนางงาม มีแต่คนชื่นชมเธอนะจ๊ะ คนไทยส่งใจเชียร์ เสียดายที่ตกรอบ... จากคุณ : JitZungkabuai - [ 23 พ.ค. 51 18:22:58 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ^ ^ ผมแปะรูปเธอ“น้อด ชนันภรณ์ รสจันทร์”มาให้คุณๆดู ผมทำให้เธอเสื่อมเสียหรือเปล่าจ๊ะ ถ้าจำไม่ผิดเธอเป็นนักบินแล้ว เก่งมากๆ ดีดัง จันทร์กลางใจ คุณเพี้ยนหรือเปล่า? จากคุณ : JitZungkabuai - [ 23 พ.ค. 51 18:29:05 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เรา คิดว่า สตรีที่อยู่ในภาพ มิได้มีความเสื่อมเสียใดๆ เมื่อเธอไปประกวดนางงาม หรือใส่ชุดว่ายน้ำแบบใดทั้งสิ้นค่ะ เรา คิดว่า เธอเพิ่งจะมาเสื่อมเสียอย่างแท้จริง ก็เมื่อเธอถูกหลอกลวงให้สวมชุดแฟนซีที่ถูกอ้างว่า จำลองแบบชุดมหาลดาปสาธน์ ของพระอริยบุคคลเช่นพระนางวิสาขา (ตามอุปาทานของชาวธรรมกาย) เป็นอัปมงคลแก่เธออย่างยิ่งค่ะ ที่เธอเต็มใจทำเช่นนั้นโดยไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรเลย และคุณ deedang กับ คุณจันทร์กลางใจ ก็กรุณาอย่ามั่ว เบี่ยงเบนประเด็น โดยเฉพาะคุณ deedang ฉวยโอกาสใช้เป็นช่องทางประชาสัมพันธ์กิจกรรมของวัดนั้น โดยอ้างว่าเพื่อจะอธิบายประเด็นในกระทู้ เห็นแล้วน่ารำคาญค่ะ ทำผิด ไม่ว่าจะด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือด้วยเจตนาแอบแฝงอื่นใด เมื่อคนจับได้เค้าชี้ให้เห็นชัดแล้วว่าผิดจริง ก็ยอมรับว่าผิดแล้วอย่าทำอีก ก็สิ้นเรื่อง นี่กลับแถไปเรื่อย วัดนี้ เค้าไม่สอนเรื่องหิริโอตตัปปะกันเลยเหรอคะ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 23 พ.ค. 51 18:37:14 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อืม .... ได้ความรู้ขึ้นเยอะเลย จากคุณ : ลิงเล - [ 23 พ.ค. 51 18:48:23 ]

ความคิดเห็นที่ 62 มันแปลกนะครับทุกท่าน เวลาเราใส่บาตรเราถอดหมวก ถอดรองเท้า เข้าวัดเข้าโบสถ์ เราไม่ใส่เครื่องประดับไป นี่ใครคิด... ให้มาเต็มยศ รองเท้าก็ไม่ถอด ดูดีดีในรูป คห.32 ครับ   ฝีมือใคร เพื่ออะไร ? จากคุณ : JitZungkabuai - [ 23 พ.ค. 51 19:03:05 ]

ความคิดเห็นที่ 63 แวะมาฝากให้บรรดาศิษย์สำนักฯ นะจ๊ะ แบบเห็นว่าช่วงนี้ออกแสดงบ่อยย   [แต่ไม่รู้จะพอหรือเปล่าน่ะสิจ๊ะ???] จากคุณ : @mantras - [ 23 พ.ค. 51 19:27:59 ]

ความคิดเห็นที่ 64 “...ได้ยินว่า นางวิสาขานั้น เมื่อกำลังเดินไปวิหาร คิดว่า  "การที่เราสวมเครื่องประดับมีค่ามากเห็นปานนี้ไว้บนศีรษะ แล้วประดับเครื่องอลังการจนถึงหลังเท้า เข้าไปสู่วิหาร ไม่ควร"  จึงเปลื้องเครื่องประดับนั้นออกห่อไว้ แล้วได้ส่งให้ในมือหญิงคนใช้ ผู้ทรงกำลังเท่าช้าง ๕ เชือก ผู้เกิดด้วยบุญของตนเหมือนกัน. หญิงคนใช้นั้นคนเดียว ย่อมอาจเพื่อรับเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์นั้นได้, เพราะเหตุนั้น นางวิสาขา จึงกล่าวกะหญิงคนใช้นั้นว่า  "แม่ จงรับเครื่องประดับนี้ไว้, ฉันจักสวมมันในเวลากลับจากสำนักของพระศาสดา. ก็นางวิสาขา ครั้นให้เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์นั้นแล้ว จึงสวมเครื่องประดับชื่อฆนมัฏฐกะ ได้เข้าไปเฝ้าพระศาสดา สดับธรรมแล้ว.” ----------------------------------------------------------- นางวิสาขาเห็นว่าการใส่มหาลดาปสาธน์เข้าวัดไม่สมควร จึงถอดห่อไว้ให้คนใช้ถือ  เรื่องนี้ศิษย์วัดมีคำอธิบายว่ายังไง  อริยเจ้าเห็นว่าไม่สมควร  แต่วัดกลับจำลองชุดแฟนซีแล้วอ้างว่าเป็นมหาลดาปสาธน์ เห็นเป็นเรื่องดีงามน่ายกย่อง??? จากคุณ : autumn whispers - [ 23 พ.ค. 51 20:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 65 -ชัดเจนมากครับ คุณautumn whispers อนุโมทนา -คุณ@mantras ไม่พอหรอกครับ ต้องนี่...!!! จากคุณ : JitZungkabuai - [ 23 พ.ค. 51 20:36:40 ]

ความคิดเห็นที่ 66       โอ้ว  !  นี่ผมโดนไปไม่ใช่น้อยนะนี่ !!! แต่อภิอมตะมหามิตรผมเยอะแยะ  ทุกคนช่วยชี้แจงแถลงไขให้ครบถ้วนแล้ว ขอขอบคุณ  และขออนุโมทนากับทุก ๆ ท่านที่ร่วมชี้แจงและอธิบายแทนผม โดยเฉพาะคุณ autumn whispers  แสดงไว้ตรงจุดชัดเจนแล้วนะครับในเรื่อง ที่ มหาอุบาสิกาวิสาขาท่านถอดเครื่องประดับไว้นอกวิหาร/นอกวัด แต่ของธรรมโกย  กลับแต่งตัวเดินเข้าสู่มหาวิหารท่ามกลางมหาสมาคมที่ประกอบไปด้วยทั้ง ฆาราวาสและพระสงฆ์ ชาววัดพระธรรมกายคงเห็นว่า สมัยพุทธกาลเป็นเพียง วิหาร แต่ของวัดพระธรรมกาย  เป็น มหาวิหาร อีกทั้งสมัยพุทธกาลมีเพียง มหาอุบาสิกา   แต่ของวัดพระธรรมกายมีถึง มหารัตนอุบาสิกา จึงได้จับแพะชนแกะได้อย่างประหลาด จะไม่ให้ว่าจับแพะชนแกะได้อย่างไร ก็ดูเอาสิ  เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์  มหาอุสิกาวิสาขา  ท่านสวมใส่ครั้งแรกในวันแต่งงาน  และสวมใส่ไปในงานมหรสพทั้งหลาย  แต่เมื่อท่านจะเข้าวัด  ท่านก็ถอดออกก่อนเข้าสู่วิหาร ธรรมโกยจับมาผสมผเส  จำลองชุด มหาลดาปสาธน์  ให้สาวงามสวมใส่อย่างไม่บังควร เข้ามาประกอบพิธีกรรมถวายผ้ากฐิน ทั้งนี้ก็เพื่อ โกย ครับ โกย   BigBoon ครับ BigBoon   เร่เข้ามาครับเร่เข้ามา ร่วมกันถวายไตรจีวร 20,000 ชุด  ชาตกาลข้างหน้าท่านจะได้สวมใส่เครื่องประดับ มหาลดาปสาธน์ BigBoon ครับ BigBoon   เร่เข้ามาครับเร่เข้ามา ร่วมกันทำบุญถวายมหาสังฆทาน 30,000 วัดทั่วประเทศในวันเดียว (22 เมษายน - วันเกิดธัมมชโย-วันคุ้มครองโลก)   ชาตกาลข้างหน้าท่านจะได้กุศลผลบุญมากมายมหาศาล จากคุณ : ทวนทอง - [ 23 พ.ค. 51 21:06:11 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ตอนคุณจันทร์กลางใจไปตอบที่ห้องเฉลิมไทย   ไม่เห็นคุณจันทร์ฯ ทักท้วงที่ห้องโน้นเลยนี่ครับว่า เป็นคนละคนกัน ภาพทั้ง 3 ภาพที่ผมจับมารวมกันผมก็เอามาจากกระทู้ต้นเรื่อง 2 กระทู้ที่ผมอ้างถึงข้างต้น แล้วนี่มาโวยวายว่า เป็นคนละคนกัน จะเป็นคนเดียวกัน  หรือเป็นคนละคนกัน  นั้นผมไม่รู้หรอกครับ  เพราะไม่เคยดู/ไม่เคยสนใจเวทีประกวดนางงามมาก่อน ใครจะได้สวมมงกุฏปีไหนเมื่อไรผมไม่รู้  เพียงแต่อ่านข่าวผ่าน ๆ แล้วก็ลืม  อย่าว่า ลืมเพราะนานเป็นปีมาแล้วเลยครับ แค่เดือนสองเดือนผมก็ลืมแล้วล่ะครับ ดังนั้นเมื่อ 2 กระทู้ที่ผมอ้างถึงข้างต้น  ไม่มีใครทักท้วง  ผมก็นึกว่าเป็นคนเดียวกันจึงจับมารวมกัน ประเด็นนั้นไม่ใช่ประเด็นหลักที่ผมนำมาตั้งกระทู้ เพราะประเด็นหลักและเนื้อหาสาระมันอยู่ที่การควร  หรือไม่ควร  ในการนำเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์  มาจัดทำจำลอง เพราะนอกจากจำลองแล้วยังให้สาวงามสวมใส่อย่างไม่บังควรแล้วยังนำมาประกอบพิธีกรรมที่บิดเบือนไปจากพระไตรปิฎก สาระมันอยู่ตรงนี้แหละครับ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 51 21:30:58 จากคุณ : ทวนทอง - [ 23 พ.ค. 51 21:27:56 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ขอขอบคุณในความปรารถนาดีไม่ได้ปรารถนาร้าย    ปรารถนาให้เจริญในธรรมไม่ใช่ให้เสื่อมจากธรรม คุณ P_vicha  ความคิดเห็นที่ 50 ครับ รวมถึงในกระทู้ก่อน ๆ ที่ท่านเคยชี้แนะและร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยความเป็นกลางและให้เกียรติคู่สนทนาธรรมเสมอมา ขอบคุณเพื่อนสมาชิกหลายท่านที่ให้เกียรติกล่าวถึงผม แม้ในทางที่เข้าใจคลาดเคลื่อนจากความจริงไปบ้าง และมีคำแนะแหน เล็ก ๆ และภาพประกอบมาฝาก ด้วยความห่วงใย อิอิ จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 23:49:15 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ส่วนที่เจ้าของกระทู้เข้าใจว่า สตรีที่เป็นตัวแทนอัญเชิญผ้าไตร นั้นคือบุคคลที่น้อมไตรจีวรเข้าไปถวายภิกษุที่เป็นตัวแทนสงฆ์ ผมชี้แจงประกอบภาพแล้ว  คงเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของกระทู้บ้างนะครับ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 51 00:02:05 จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 23:49:57 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ท่านใดที่เคยไขว้เขว เคยเข้าใจและยังเข้าใจว่า ผม กับเพื่อนสมาชิก นามแฝงว่า นายกัณฑ์ เป็นคน ๆ เดียวกันนั้น (กระทู้ : งานที่วัดพระธรรมกาย ต้องแต่งตัวเป็นแครอล จากการ์ตูน คำสาปฟาโรห์ ด้วยหรอ ) เป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องนะครับ อาจเป็นเพราะว่า นายกัณฑ์ ใช้คำพูดและแนวทางและแนวคิดการสนทนา ใกล้เคียงกับผม ก็เท่านั้นเองครับ จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 23:50:31 ]

ความคิดเห็นที่ 71 สำหรับท่านที่คิดเอง เข้าใจเองว่า ผมเพี้ยน เพราะ ติติงเจ้าของกระทู้เรื่องการแปะภาพ คุณ ชนันภรณ์ รสจันทร์ ว่า เป็นการเสื่อมเสีย นั้น ช่วยกลับไปอ่านช้า ๆ อีกครั้งนะครับ ผมแสดงความคิดเห็นส่วนตัวว่า ภาพที่เจ้าของกระทู้ นำมาผนวกรวมกัน ก็ไม่ได้สื่อถึงเธอในทางที่ดีนัก เท่านั้น ไม่ได้ถึงขั้นเสื่อมเสีย อย่างที่คุณตั้งใจตีความเอง โดยเฉพาะ เธอไม่ได้มาร่วมสนทนาในกระทู้นี้ด้วย ผมมองว่า การที่ใครนำภาพบุคคลอื่น (กระทู้นี้) หรือการดัดแปลงภาพบุคคลอื่น  ในชิงสนุก ล้อเลียน(ไม่ใช่กระทู้นี้) และการนำบุคคลที่ไม่ได้มาร่วมสนทนาด้วย มาวิพากษ์วิจารณ์ในทางไม่ดีต่อบุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำ ผมเคยแวะเข้าไปห้องราชดำเนิน โอ้โห ไม่เข้าใจเลยครับว่า คนไทยด้วยกัน ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนคัว ไม่เคยทะเลาะกัน ไม่เคยเจอกัน ไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ แต่กลับมีคำพูดพาดพิงถึงกันด้วยถ้อยคำที่รุนแรง อย่างกับโกรธเกลียดกันมาแต่ชาติปางก่อนกระนั้น ผมไม่สนับสนุนแนวทางแบบนี้ โดยเฉพาะ โต๊ะศาสนา กระดานสนทนาธรรม ที่ควรมีอยู่ เป็นอยู่ เพื่อแสวงหาและแบ่งปันความรู้ในธรรมะ ดังนั้นผมจึงใช่ถ้อยคำที่รุนแรง กวน ๆไปบ้าง ว่า ทำแบบนี้  แมนมั่ก ๆ วีรบุรุษ มั่ก ๆ นักหรือครับ ส่วนว่าท่านใดมีอัธยาศัยอย่างไร ผมไม่ได้ห้าม แต่ขอติติง ทักท้วงด้วยความปรารถนาดี เพื่อที่จะไม่ไปกระทบบุคคลที่ไม่ได้มาร่วมสนทนาด้วย จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 23:52:08 ]

ความคิดเห็นที่ 72 อีกเรื่องคือ ตั้งแต่ผมสมัครเป็นสมาชิก ได้โอกาสตั้งและตอบกระทู้บ้าง ผมไม่เคยแจ้งลบความคิดเห็น หรือ ลบกระทู้ ของเพื่อนสมาชิกท่านใด แม้ว่าความคิดเห็นหรือเนื้อหาในกระทู้นั้น ๆ ผมจะไม่เห็นด้วยอย่างแรง ก็ตาม และไม่ได้รู้สึกว่า กระทู้ที่ว่าร้ายวัดพระธรรมกาย , พาดพิงหลวงปู่ สด จันทสโร ในทางไม่ดี ต้องรีบลบออก แต่อย่างไรเลย ผมถือว่า เพื่อนสมาชิกแต่ละท่าน มิสิทธิ์ตั้งและตอบกระทู้เสนอความคิดเห็น นำเสนอข้อมูล ตามกฎกติกา ฉะนั้น หากท่านใด เข้าใจว่า ถั่วแดง ในกระทูนี้ หรือกระทู้ไหน ๆ อาจเป็นฝีมือผม ก็ตอบว่า  ไม่ใช่ฝีมือผมครับ ไม่ใช่แนวทางของผมเลย จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 23:54:32 ]

ความคิดเห็นที่ 73 แต่การนำเสนอข้อมูลและการแสดงวามคิดเห็นที่ออกมา ถามว่า ศาสนา สังคม ชุมชน ตัวเรา เพื่อนร่วมสนทนา ดีขึ้นบ้างไหม และแค่ไหน ทำให้กิเลสเราและเขาบรรเทาลงหรือเปล่า หรือยิ่งหวังดี ยิ่งพูด ก็ยิ่งขัดแย้งกัน จะไล่บี้กันหนักเบาแค่ไหน ก็พิจารณากันเถิด เพราะโต ๆ กันแล้ว เรื่องนี้ผมขอชื่นชมเจ้าของกระทู้ เป็นตัวอย่างที่ดี ในกระทู้เกี่ยวกับ อนุโมทนาบุญข้ามปี ซึ่งคุณ ทวนทอง เจ้าของกระทู้นี้ แสดงเจตนาดี ด้วยถ้อยคำของมิตรในการชี้แจง ความเข้าใจไม่ตรงกันของเพื่อนบางท่าน เมื่อเห็นว่า ชี้แจงอย่างไร ตั้งคำสัตย์ สาบาน อย่างไร เพื่อนยังแรงอยู่ ก็ยอมถอยออกมา นับว่า เป็นสิ่งที่ดีในโต๊ะศาสนา อีกเรื่องหนึ่ง ก็หวังว่า ทั้งเขาและเธอ จะปรับความเข้าใจและมาสนิทกันฉันท์มิตรกับคุณทวนทอง เช่นเดิม นะครับ จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 23:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 74 หลายท่านอาจสงสัย ตามอัธยาศัย ว่า ทำไม ท่าทีในการตอบกระทู้ผมลดความกระด้างลง มันก็มีหลายสาเหตุนะครับ  เช่น ระลึกถึงธรรมะเรื่องโทษของการทะเลาะวิวาทของภิกษุเมืองโกสัมพี ระลึกถึง คำสอนของครูบาอาจารย์ในเรื่อง วาโต / นิวาโต ถ้อยคำ ของคุณ P_vicha ในคคห.ที่ 50 ในประโยคที่ว่า ความปรารถนาดีไม่ได้ปรารถนาร้าย    ปรารถนาให้เจริญในธรรมไม่ใช่ให้เสื่อมจากธรรม ระลึกถึงความดีของเจ้าของกระทู้ ที่ยืดหยุ่น เยือกเย็น ไม่ถือโทษ โกรธเคืองมิตร  ในกระทู้นั้น ๆ รวมถึงที่เคยแก้ต่างให้พุทธศาสนา กับศาสนิกชนอื่น และการได้ฟังธรรม  ได้นั่งธรรมะ ได้แวะหาความรู้ที่น่าสนใจในห้องอื่น ๆ บ้าง หลายเหตุดังกล่าวนี้ ก็ทำให้ผม อ่อนโยนลงกว่าตอนแรกที่เข้ามาอ่านกระทู้ สำหรับกระทู้แบบนี้ หากมีประเด็นน่าสนใจ ก็จะแวะมาอ่านและอาจร่วมสนทนาด้วยอีกครับ ง่วงนอนแล้ว  ไปล่ะครับ   ขอให้บุญรักษา พระรัตนตรัยคุ้มครองทุกท่านครับ จากคุณ : deedang - [ 23 พ.ค. 51 23:59:19 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ก๊ากกกกก...ได้ข่าวว่าออกโฉนดเฟสดุสิตบุรีให้สาวกด้วยเหรอ ธรรมกลาย 555555555555555555555555555555555555555555555555 ขำกว่านี้มีอีกมั้ย? สำนักนี้ทำได้ทุกอย่างจริงๆ นะจ๊ะ จากคุณ : rien - [ 24 พ.ค. 51 01:15:45 ]

ความคิดเห็นที่ 76 มาฮาอีกรอบ 55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555 จากคุณ : rien - [ 24 พ.ค. 51 01:19:23 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ชุดผมว่ายังไม่ครบนะ ขาดเครื่องเคียงอยู่... จากคุณ : Papercut - [ 24 พ.ค. 51 02:14:53 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ตกลงว่าการปฏิบัติธรรมมิใช่เพื่อการปล่อยวาง มิใช่การบำเพ็ญเพื่อตัดกิเลส หรอกหรือ สิ่งสมมติเหล่านี้หาใช่หนทางสู่พระนิพพานไม่ สัจธธรมแท้ต่างหากที่ควรถือปฎิบัติ พระพุทธองค์กว่าจะบรรลุ ก็ต้องตัดขาดจากสิ่งล่อลวงเหล่านี้มิใช่หรือ(เป็นสิ่งแรกที่พระพุทธองค์ละวางเสียด้วยซ้ำ) แล้วผู้บำเพ็ญเพื่อลดละกิเลส จะเอาสิ่งสมมติว่ามีค่าเหล่านี้มาถือปฏิบัติไปเพื่อเหตุใด? จากคุณ : สิงโตอ้วน - [ 24 พ.ค. 51 10:14:42 ]

ความคิดเห็นที่ 79 นอกจากมีมันนี่ เอ๊กซ์โปร์แล้ว คงต้องมีงาน"บุญเอ๊กซ์โปร์" ซื้อบุญวันนี้ ผ่อนได้60งวด มีปันผลทุก3ชาติ จากคุณ : *+*ข น ม ผิ ง ข้ า ง เ ต า*+* - [ 24 พ.ค. 51 10:24:38 ]

ความคิดเห็นที่ 80 สายตาเหมือนกันทุกคนเลยในรูป เหมือนถูกสะกดจิต จากคุณ : เนเน่กับกระต่ายน้อย - [ 24 พ.ค. 51 10:37:36 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ไม่มีใครเขาตำหนิคุณ ชนันภรณ์ เพราะเธออยู่ในฐานะของเหยื่อที่ถูกทำมาโกยล่อลวงมาให้ทำในสิ่งที่ไม่สมควร ที่เขาตำหนิกันก็คือบรรดาคนของทำมาโกยต่างหาก อย่าพยายามเบี่ยงประเด็นกันนักเลย ส่วนคุณ deedang ถ้าการตอบกระทู้ที่อ่อนลงเป็นเพราะคิดได้จริงก็ยินดีด้วย แต่หวังว่าคงจะไม่เป็นเพราะถูกต้อนด้วยเหตุผลจนจนมุมเลยกลับลำอย่างกระทันหันนะ เฮ้อ อ่านคำเตือนจากคุณ P_vichaแล้วก็ไปบ้างดีกว่า จากคุณ : Together In 80s Dream - [ 24 พ.ค. 51 11:30:05 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เข้ามาอ่าน มาโหวตให้ครับ ยึดติดกับวัตถุมากไป ยึดติดกับผลบุญมากไป ยึดติดกับการทำบุญที่คาดหวังผลบุญเกินไป เป็นวัตถุนิยม เสียดาย เสียดาย..... จากคุณ : buddhi - [ 24 พ.ค. 51 12:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 83 นางวิสาขาเกิดที่อินเดีย ชุดเป็นแบบนี้เหรอ ตลกมาก (ยังกะชุดอียิปต์) จินตนาการชุดเองเอาหน้าด้านๆ จะเทิดทูนยายนกยูง อะไรนั่นล่ะมากกว่า จากคุณ : MaX FiRE - [ 24 พ.ค. 51 13:29:24 ]

ความคิดเห็นที่ 84 สรุปว่าเอาชุดแต่งงานมาเดินในวัด แถมดูแล้วมันอียิปต์ชัดๆ อินเดียยุคโบราณเป็นอย่างนี้ที่ไหน เสร่อจริงๆ ผีเสร่อเข้าสิงหรือไงเนี่ย จากคุณ : =p o o k p u i= - [ 24 พ.ค. 51 14:59:08 ]

ความคิดเห็นที่ 85 คืองี้ครับ  ผมมองแบบเป็นกลางเลยนะครับ วัดพระธรรมกายจำเป็นต้องจัดกิจกรรม รวมถึงกิจกรรมแปลก ๆ อยู่ตลอดเวลาเพื่อความบันเทิง   คู่ความสุขและความฝัน   เพื่อให้วัดเป็นแดนความสุขปราศจากความกลัว   ที่นี่ไม่มีเมรุเผาศพ  ไม่มีการตั้งสวดศพ  ไม่มีป่าช้า  ไม่มีการฝังศพและการเก็บอัฐิคนตายทั่วไป    ที่นี่สะอาด  สวยงาม  กว้างใหญ่    มีกิจกรรมทำตลอด ๆ   ใคร ๆ  เลยชอบ   และจำเป็นต้องทำ  เพื่อไม่ให้วัดเงียบเหงาเหมือนวัดอื่น จากคุณ : ชญาณัตถภัทร์ - [ 24 พ.ค. 51 17:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เครื่องประดับ ส้มตำ ก็มาด้วยจ้า..นะจ่ะ จากคุณ : zakai - [ 24 พ.ค. 51 18:49:37 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เออ  ตกลงเครื่องประดับ แหวนไก่ย่าง กะ สร้อยส้มตำ มันจริงอะป่าว เข้ามาอ่านแล้วสงสัยค่ะ - -! จากคุณ : LArc026 - [ 24 พ.ค. 51 22:57:00 ]

ความคิดเห็นที่ 88 1.)  นางงามผู้แสดงแต่งชุดมหาลดาปสาธน์-จำลองเข้าในมหาวิหาร        ในขณะที่มหาอุบาสิกาวิสาขา  ถอดเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ ออกก่อนเข้าในวิหาร 2.) นางงามผู้แสดงมีศีลเสมอด้วยมหาอุบาสิกาวิสาขาหรือไม่       ที่บังอาจสวมใส่เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์-จำลอง เลียนแบบมหาอุบาสิกาวิสาขา 3.) ฆาราวาสผู้อื่นล้วนแต่ถอดรองเท้าเมื่อเข้าสู่มหาวิหาร       แต่นางงามผูแสดงสวมใส่รองเท้าเข้ามหาวิหารแต่เพียงผู้เดียว 4.) วัดพระธรรมกายเชื้อเชิญนางงาม Miss Thailand Universe มาสวมชุดจำลองจะโดยตรวจสอบจากพระไตรปิฎกหรือไม่ก็ตาม  ถือว่าเป็นการกระทำที่ประมาท  ขาดความรอบคอบ  อาจมองเลยไปถึงว่า จัดทำพิธีกรรมด้งกล่าวด้วยเจตนาแอบแฝงอย่างมีนัยสำคัญที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ 5.) ขอเรียกร้องให้ทีมงานวัดพระธรรมกายหยุดการกระทำพิธีกรรมต่าง ๆ ที่ไม่สอดคล้องกับพระไตรปิฎกโดยสิ้นเชิง จากคุณ : ทวนทอง - [ 24 พ.ค. 51 23:02:29 ]

ความคิดเห็นที่ 89 แก้ไขข้อความ เนื่องจากกล่าวแนะนำเจ้าของกระทู้ เรื่องให้ไปตรวจสุขภาพสายตา ในเชิงแนะแหน แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 51 01:29:49 จากคุณ : deedang - [ 25 พ.ค. 51 00:28:50 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ส่วนอาคารที่จัดพิธีนั้น ที่จริงคือห้องเรียน อบรมศีลธรรม ขนาดใหญ่ สร้างบนเนื้อที่ ราว ๑๕o ไร่ หรือ ประมาณ ๒๔o,ooo ตารางเมตร สองชั้นมีพื้นที่รวมกัน ราว ๔๘o,ooo ตารางเมตร มี ๒ ชั้น   ชั้นล่างเป็นที่จอดรถยนต์ ห้องน้ำ ห้องสัมมนา สำนักงานดูแลอาคาร ฯล ชั้นบน จุคนได้เต็มที่ราว  ๒oo,ooo คน ที่วัดเรียกชื่ออาคารนี้ว่า สภาธรรมกายสากล ซึ่งพื้นที่ชั้นบนนั้น บริเวณที่นั่งฟังธรรม นั่งสมาธิ สาธุชนก็ถอดรองเท้า มีถุงใส่รองเท้า มีที่วางรองเท้าก่อนเข้าพื้นที่นั่งอยู่แล้วครับ ไว้จะหาภาพมาให้ดู*** และสตรีท่านนั้น เธอเดินไม่ถึงบริเวณเขตที่สงฆ์นั่ง เจตนาของเธอก็ไม่ได้ลบหลู่สงฆ์ *** ป.ล. ลองค้นหาภาพนั้นแล้ว ไม่เจอ ขออภัยด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 51 01:58:31 จากคุณ : deedang - [ 25 พ.ค. 51 00:29:37 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ในงานพิธีที่เกี่ยวข้องกับสงฆ์ นั้น เขาแบ่งพื้นที่ ของสงฆ์กับฆราวาส แยกกันอยู่แล้ว พื้นที่ส่วนฆราวาส ดีที่สุดคือ ถอดรองเท้าร่วมพิธี ดีรองลงมา คือ ใส่รองเท้าร่วมพิธี และฟังสงฆ์เจริญพุทธมนต์ได้ ทั้งนี้เพราะ หากจำนวนคนมาก แค่คนสักพันคน รองเท้าก็สองพันข้างเข้าไปแล้ว อีกทั้งถ้าพื้นที่วางรองเท้า ไม่มากพอ ไม่เป็นมาตรฐาน ก็จะวางรองเท้าเกะกะกันไปมา โอกาสใส่ผิดคู่ ผิดข้างก็ง่าย  หายก็ง่าย แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 51 02:08:13 แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 51 00:37:21 จากคุณ : deedang - [ 25 พ.ค. 51 00:30:06 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ที่สำคัญอีกอย่าง คือ อาคาร ศาสนาสถานของไทย ไม่ได้ออกแบบ พื้นที่วางรองเท้าไว้มากนัก เช่นศาลาการเปรียญในวัดต่าง ๆ ก็ไม่ได้มีพื้นที่วางรองเท้ามากพอ จึงวางกันตาม ๆ กันไป ก็มีหารองเท้าตัวเองยากบ้าง ใส่ผิดข้าง ผิดคู่กันบ้าง จากคุณ : deedang - [ 25 พ.ค. 51 00:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เคยเห็นในโทรทัศน์ บ้างครับว่า งานพิธีเจริญพุทธมนต์ แม้ของราชการเอง ข้าราชการใส่ชุดขาว เหมือนกัน ใส่รองเท้าลักษณะคล้าย ๆ กันมาก เขาก็ใส่รองเท้าเข้าร่วมพิธีกันได้ เพียงข้าราชการแค่ ร้อยคน รองเท้าสองร้อยข้างที่รูปร่างเหมือนกัน ปัญหา คือ ที่วางรองเท้าไม่พอ + เวลากลับกว่าจะหารองเท้าของตัวเอวงเจอ + โอกาสหยิบผิดคู่ ก็มีมากแล้วครับ แต่การแบ่งพื้นที่ของสงฆ์ออกจากพื้นที่ของฆราวาส ก็น่าจะอนุโลมกันไปได้ครับ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 51 02:09:03 จากคุณ : deedang - [ 25 พ.ค. 51 00:31:23 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ดังนั้นหากคุณจะมาเพ่งโทษ เฉพาะที่วัดพระธรรมกาย แค่สตรีคนเดียวที่ไม่มีเจตนาลบหลู่สงฆ์ และใส่รองเท้าเดินแค่พื้นที่ของฆราวาส และเธอไม่ได้ก้าวล่วงเข้าไปในเขตที่สงฆ์นั่ง สักหน่อย จากคุณ : deedang - [ 25 พ.ค. 51 00:31:50 ]

ความคิดเห็นที่ 95 และสาธุชนเรือนหมื่น เรือนแสนคน ที่วัดพระธรรมกาย เขาก็ถอดรองเท้า วางในพื้นที่วางรองเท้าที่ ตีเส้น (ทำกรอบแบบที่จอดรถ) หรือเก็บในถุงใส่รองเท้า ที่เตรียมไว้ให้ สามารถถือถุงใส่รองเท้าไปวางข้างที่นั่งตนตนเองได้ คุณคิดเห็นอย่างไรครับ ผมว่าเป็นระเบียบเรียบร้อยดีและป้องกันการหยิบผิดและสูญหาย ได้นะครับ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 51 02:00:43 จากคุณ : deedang - [ 25 พ.ค. 51 00:32:06 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ตามทัศนะส่วนตัวของผม หากคุณ นำฉันทะ  วิริยะ  จิตตะ  วิมังสา ที่มีอยู่ แทนที่จะนำมาจับผิดอะไร ๆ ใคร ไปใช้ในทางขัดเกลากิเลสตนเอง ก็ดีนะครับ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 51 01:56:32 จากคุณ : deedang - [ 25 พ.ค. 51 00:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ไม่ได้เรียกร้อง นะ แค่ขอแนะนำว่า คุณควรไปร้องเรียนกับหน่วยงานที่มีหน้าที่และอำนาจ ที่กฎหมายบัญญัติไว้ เถิดครับ จะไปที่สำนักพุทธฯ  มหาเถรสมาคม  หรือกรมการศาสนา  กระทรวงวัฒนธรรม ก็ตามสะดวก แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 51 01:27:08 จากคุณ : deedang - [ 25 พ.ค. 51 00:33:57 ]

ความคิดเห็นที่ 98 คุณ ทวนทอง เค้าแจ้งว่า 3.) ฆาราวาสผู้อื่นล้วนแต่ถอดรองเท้าเมื่อเข้าสู่มหาวิหาร      แต่นางงามผูแสดงสวมใส่รองเท้าเข้ามหาวิหารแต่เพียงผู้เดียว ก็ถูกแล้วนี่ครับ วงกลมฟ้าคือวงว่าทุกคนถอดรองเท้าทั้งนั้น วงแดง คือ ทำไมไม่ถอด ใครควรไปตรวจสุขภาพ(จิต)กันแน่ครับ???? จากคุณ : อ่านไม่แตก รีบมาแย้งเชียว (Papercut) - [ 25 พ.ค. 51 00:38:27 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ในกระทู้นี้ ผมขอชี้แจงตามสมควร เพียงเท่านี้ครับ ด้วย ความปรารถนาดีไม่ได้ปรารถนาร้าย  ปรารถนาให้เจริญในธรรมไม่ใช่ให้เสื่อมจากธรรม (ขอใช้สุภาษิตของคุณ P_vicha ในคคห.ที่ 50 อีกครั้งครับ) แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 51 01:54:09 แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 51 01:26:27 จากคุณ : deedang - [ 25 พ.ค. 51 00:52:44 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ป.ล.  ขอบคุณเจ้าของความคิดเห็นที่ 98 ผมเข้าใจไม่ถูกต้อง  ขอแก้ไขคคห.ที่ 89 แล้วนะครับ ขออภัยทานคุณทวนทองด้วยครับ จากคุณ : deedang - [ 25 พ.ค. 51 02:06:33 ]

ความคิดเห็นที่ 101 อ่านมาเกือบชั่วโมง............ ง่วงนอนแล้ว......... นอนดีก่า........ จากคุณ : พูดตรงๆ/ไม่ตะเบง (แก้วบางจาก) - [ 25 พ.ค. 51 02:41:46 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ที่คุณ deedng ชี้แจงมานั้นเป็นวัฒนธรรมปัจจุบัน ก็แล้วที่สมาชิกวัดพระธรรมกาย  บอกว่า  จำลองเครื่องประดับ มหาลดาปสาธน์ จำลองพิธีกรรม มาจากครั้งพุทธกาลนั้น จำลองอย่างใดหรือ ? ท่านมหาอุบาสิกาวิสาขา  ไม่เคยสวมใส่ มหาลดาปสาธน์ เข้าวิหาร/วัด เป็นไปไม่ได้ที่ ท่านจะสวมใส่ในพิธีถวายกฐิน ดั่งที่วัดพระธรรมกายจัดทำจำลอง เป็นการจัดทำจำลองที่ผิดไปจากความจริงทั้งสิ้นอย่างสิ้นเชิง จากคุณ : ทวนทอง - [ 25 พ.ค. 51 07:37:46 ]

ความคิดเห็นที่ 103 จากคุณ : ทวนทอง - [ 25 พ.ค. 51 07:39:00 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ผมวิงวอนวัดพระธรรมกายและทีมงานตรงนี้แหละครับ คงไม่ไปร้องแรกแหกกระเฌอกับใครที่ไหนหรอกครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจิตใต้สำนึกของชาววัดพระธรรมกายแล้วล่ะครับ เพราะเจ้าหน้าและองค์กรที่เกี่ยวข้องไม่สามารถจัดทำอะไร ๆ ได้ ดูกรณียักยอกทรัพย์วัดพระธรรมกายเป็นอาทิ แม้ว่าทางฝ่ายอาณาจักร/ฝ่ายกฏหมายบ้านเมืองไม่เอาผิด  แต่หลักฐานก็เพียงพอแล้วว่า ท่านธัมมชโยได้กระทำการยักยอกทรัพย์วัดพระธรรมกายไปจริง ๆ มิเช่นนั้นแล้ว  ธัมมชโยกับพวกจะโอนทรัพย์สินคืนให้กับวัดพระธรรมกาย  เพื่อขอให้อัยการถอนฟ้องหรือครับ หลักฐานชี้ชัดขนาดนี้ คงไม่ต้องให้ผมสรุปอีกทีนะครับว่า ท่านธัมมชโยปาราชิกขาดจากการเป็นพระนานกว่า 10 ปีแล้วล่ะครับ ถึงแม้ฝ่ายอาณาจักร/ฝ่ายกฏหมายบ้านเมืองไม่เอาผิด  แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นหลักให้พระพุทธศาสนายืนยงคงอยู่มายาวนานถึง 2,600 ปี  ก็คือ พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์และพระวินัยบัญญัติ  ที่มีพระไตรปิฎกเป็นหลักฐานอย่างชัดเจนชัดแจ้งอยู่แล้ว ราชอาณาจักรต่าง ๆ ที่นับถือพุทธศาสนาล้มแล้วล้มเล่า ไม่มีอาณาจักรใดยืนยงเทียบเท่าอาณาจักรพุทธศาสนาของพระพุทธองค์ ขอให้ทุกท่านได้โปรดพิจารณาโดยรอบคอบ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 51 07:53:31 จากคุณ : ทวนทอง - [ 25 พ.ค. 51 07:52:57 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ศิษย์วัดช่วยตอบคำถาม #64 หน่อยสิ ว่านางวิสาขาจะเข้าวัด เห็นว่าเครื่องประดับนี้ไม่สมควรจึงถอดออกให้คนใช้ถือ  แต่ทำไมวัดธรรมกายถึงเอาชุดแฟนซีมาอ้างเป็นเครื่องประดับแล้วนำมาร่วมพิธีถวายกฐิน ทั้ง ๆ พระโสดาบันอย่างนางวิสาขาเห็นว่าไม่สมควร จากคุณ : autumn whispers - [ 25 พ.ค. 51 09:47:52 ]

ความคิดเห็นที่ 106 จากคุณ : ทวนทอง - [ 26 พ.ค. 51 06:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 107 สวัสดีครับ คุณ deedang ผมมาเขียนให้กำลังใจนะครับ     ทุกท่านต่างก็แสวงหาธรรม เพื่อบรรลุธรรม     แต่การกระทำในระหว่างนั้นอาจจะคลาดเคลือนผิดพลาดกันได้เป็นธรรมดา เพราะต่างก็ยังมีกิเลสอยู่  เมื่อหลงไปกระทำตามกิเลส ก็อาจจะทำให้ผิดไปจากธรรมได้ โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไม่รู้ตัว เพราะไปพิจารณาตามกระแสโลกเกินไป จนผิดจากธรรมไปอย่างสิ้นเชิงได้       ดังนั้นในการกระทำอะไรก็ตาม แม้แต่การโฆษณาหรือแสดงภาพลักษณ์ที่เป็นเฉพาะ ต้องเอาหลักธรรม หรือธรรมตั้งเป็นหลักไม่ให้คลาดเคลือนหรือทำจากผิดให้เป็นถูก แล้วโฆษณา หรือแสดงภาพลักษณ์ตามหลักธรรมที่เอื่ออำนวยเท่านั้นนะครับ. จึงจะไม่เกิดการขัดแย่งกันในสังคมหรือมหาชน     สิ่งที่คลาดเคลือนไปแล้ว ทำผิดจากถูกไปแล้ว ย่อมโดนตำหนิ ย่อมโดนว่ากล่าวเป็นธรรมดา ย่อมเกิดการขัดแย้ง จากสังคม จากชุมชน และมหาชนเป็นธรรมดา         เมื่อเราท่านทั้งหลายต่างก็แสวงหาธรรม เพื่อบรรลุธรรม       การแก้ไขสิ่งผิดนั้นก็คือ           1.ไม่ทำสิงผิดนั้นอีกต่อไป         2. ปรับฐานะเพื่อไม่ให้เกิดความผิดชำรอยต่อๆ ไปโดยไม่สิ้นสุด         3. อดทนต่อผลวิบากกรรม จากการถูกนินทา จากการถูกกล่าวหา เพราะวิบากกรรมนั้นย่อมมีวันสิ้นสุดได้เป็นธรรมดา เมื่อไม่สร้างกรรมตามวิบากนั้นเพิ่มลงไปอีก.      ส่วนท่านที่ยึดธรรมเป็นใหญ่  นั้นเป็นสิ่งที่ควรแล้วในการรักษาพระธรรมวินัยของพระพุทธองค์ได้สืบทอดต่อไปอย่างยาวนาน   แต่กรรมการเผลอมีโทสะใช้วจีทุศริตจนเกินเหตุ เมื่อเรายังเป็นปุถุชนอยู่ก็ย่อมมีวิบากกรรมที่อาจส่งผลได้บ้าง หรือทำให้บุญพร่องบ้างเป็นธรรมดานะครับ           ปรารถนาดีไม่ได้ปรารถนาร้าย  ปรารถนาให้ทุกท่านเจริญในธรรมไม่ใช่ให้เสื่อมจากธรรม จากคุณ : P_vicha - [ 26 พ.ค. 51 10:39:40 ]

ความคิดเห็นที่ 108 โมทนาสาธุ และขอน้อมรับคำสอนดีๆเช่นนี้ด้วยคนคับ จากคุณ : Radiant, Archangel - [ 26 พ.ค. 51 11:13:22 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ตอบข้อสังเกตและคำถามพี่ทวนทอง แสดงไว้ในคคห. ที่ 106 นั้น ถูกต้องครับ เพราะผมย้อนไปดูภาพ ลักษณะผ้าไตร ที่วางบนแท่น กับผ้าไตรที่ตัวแทนอัญเชิญนำมา ไม่เหมือนกันครับ เข้าใจว่า ผ้าไตรที่ตัวแทนอัญเชิญ นำมา เธอนำไปวางบนโต๊ะด้านข้าง ตามภาพในคคห.ที่ 41 ส่วนผ้าไตรเอก วางบนแท่นอยู่ก่อนแล้ว ตามภาพในคคห.ที่ 34 ครับ ส่วนที่ผมให้ข้อมูลไปในคห.ที่ 33  นั้น ได้มาจากเพื่อนท่านหนึ่งครับ เพราะปกติ ช่วงแห่ริ้วขบวนผ้าไตร หรือแห่ขบวนอะไรก็ตาม ผมดูแค่ช่วงต้น ไม่ได้ดูตลอด จึงโทร. ไปถามเพื่อนน่ะครับ เมื่องานทอดกฐินสามัคคี ที่วัดพระธรรมกาย เมื่อเดือน พฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา ผมนั่งไกลจากศูนย์กลางพิธีเกือบ สองร้อยเมตร เหมือนงานอื่น ๆ แต่ก็มีโทรทัศน์วงจรปิดถ่ายทอดให้ชม   ก่อนเริ่มพิธี  จะมีการจัดริ้วขบวนอัญเชิญผ้าไตร คุณ ศศินา เป็นตัวแทนอัญเชิญไตรจีวรเอก ใกล้เวลาที่ขบวนอัญเชิญผ้าไตร เริ่มเดิน สุภาพสตรี เพื่อนของผม เธอยื่นกล้องถ่ายของเธอ ฝากให้ผมถ่ายรูป คุณ ศศินา ผมปฎิเสธ เพราะผมจะนั่งสมาธิปรับใจ เตรียมใจให้สงบ ให้ใสมากที่สุดเท่าที่ทำได้ เธอก็งอน ผมเล็กน้อย  หลังพิธีก็ยังบ่นอีกนิด เพราะเธอถ่ายภพได้มุมมองไม่ได้ดังใจ แต่ผมก็ได้เห็นคุณศศินา ไกล ๆ ตอนตั้งริ้วขบวน ระหว่างขบวนอัญเชิญผ้าไตร ไปศูนย์กลางพิธี กว่าสิบนาที ผมก็นั่งหลับตา ทำสมาธิไป ซึ่งผมก็ทำอย่างนี้ในเกือบทุก ๆงาน กว่าผมจะลืมตา ดูโทรทัศน์วงจรปิดอีกที ก็ช่วงพิธีกรประกาศเชิญประธานกฐินฝ่ายฆราวาส น้อมนำไตรจีวร เข้าไปถวายไตรจีวรแด่ตัวแทนสงฆ์ สรุปว่า ผมให้ข้อมูลในคคห.ที่ 33 ไม่ถูกต้องเอง ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว และขออภัยทานอีกครั้งครับ จากคุณ : deedang - [ 26 พ.ค. 51 15:18:51 ]

ความคิดเห็นที่ 110 อนุโมทนาท่าน P_vicha สำหรับกำลังใจ ความปารถนาดีและข้อเสนอแนะการแก้ไข ครับ ผมเห็นด้วยทั้ง 3 ข้อที่ท่านแนะนำไว้ ที่จริงควรมีมากกว่านี้ด้วยครับ จากคุณ : deedang - [ 26 พ.ค. 51 15:20:06 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ผมขอร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ ความเข้าใจ ความคิดเห็นส่วนตัว เพิ่มเติม เรื่องปัญหา ความขัดแย้งทางความคิด ความไม่เข้าใจ หรือยังเข้าใจแต่เพียงบางส่วนเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย เพียงสั้น ๆ ครับว่า ผมอยู่ในสถานะ พุทธศาสนิกชนคนหนึ่งที่ไปศึกษาธรรมะที่วัดพระธรรมกาย การร่วมสนทนาด้วยนี้ ไม่ใช่ตัวแทนของวัดพระธรรมกาย เพียงแต่พอรู้เรื่องเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายบ้าง เพราะได้ร่วมกิจกรรมงานกุศลที่วัดพระธรรมกาย เนือง ๆ ผมมีความเลื่อมใส ศรัทธาต่อเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และหมู่คณะวัดพระธรรมกาย โดยส่วนตัว ผมชื่นชมและอนุโมทนา หมู่คณะ ศาสนบุคคลของวัดพระธรรมกาย ที่อุทิศตนในการจัดกิจกรรมงานกุศลและสร้างแรงบันดาลใจให้ชาวพุทธมาช่วยกัน สืบอายุพระพุทธศาสนา สร้างศาสนทายาท สร้างศาสนสถาน ให้แนวทางการฟื้นฟูและเผยแผ่พระพุทธศาสนาไว้ให้อนุชนรุ่นหลัง รวมถึงส่งเสริมด้านคันถะธุระและวิปัสสนาธุระ คือ ด้านปริยัติธรรม ปฏิบัติธรรมทั่วสังฆมณฑล และในต่างประเทศ รวมถึงการอบรมศีลธรรมให้แก่เด็กและเยาวชน สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา ฯลฯ จากคุณ : deedang - [ 26 พ.ค. 51 15:25:35 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ผมมีข้อคิดอย่างนี้ครับว่า องค์กร หรือหน่วยงานใด ที่มีขนาดใหญ่ ทำงานใหญ่ ที่เกี่ยวข้องกับมหาชน สาธารณะชนที่มีความรู้ ความเข้าใจ ความเชื่อทางศาสนาต่างกัน ล้วนมีปัญหาให้แก้ไขกันทั้งนั้นแหละครับ ไม่ใช่ว่า มีปัญหาเพราะองค์กรหรือวัดหรือหน่วยงาน หรือ บุคคลทั้งหมดขององค์กรนั้น ล้วนแต่ไม่ดี มีแต่ความชั่ว ทั้งในหน่วยย่อยของสังคม คือ ครอบครัว มีคนแค่ 5 ถึง 10 ชีวิต ทั้งรักและห่วงใยกัน แต่ในแต่ละบ้านก็ยังมีปัญหาทะเลาะกันเองบ้าง มีปัญหาเศรษฐกิจ จิตใจ ให้คอยแก้ ทุกเดือนทุกปี มิใช่หรือครับ หรือหน่วยงานที่ใหญ่ขึ้นมาอีก เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล สถานสงเคราะห์ ฯล ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ก็ล้วนทำคุณประโยชน์ให้สังคม ไม่ใช่แหล่งฝึกผู้ก่อการร้ายสักหน่อย แต่ก็ยังมีปัญหา ให้แก้ไข ทุกเดือน ทุกปี เช่นกันครับ ดังนั้นปัญหาหลายปัญหา ที่คนแต่ละยุคสมัยวิพากษ์ วิจารณ์นั้น ปัญหาไม่ใช่อยู่ที่องค์กรหรือบุคคลที่กำลังทำความดี เพียงอย่างเดียวหรอกครับ จากคุณ : deedang - [ 26 พ.ค. 51 15:27:33 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ผมมองว่า สิ่งที่วัดพระธรรมกายทำนั้น เป็นกุศลเจตนาที่ดี น่าสรรเสริญ น่าสนับสนุน แต่เนื่องจาก SCALE งานของวัดพระธรรมกายกายมีเยอะมากและขนาดใหญ่ทั้งนั้น เดี๋ยวก็โครงการถวายสังฆทาน ๒๖๖ วัดชายแดนใต้ , เดี๋ยวก็โครงการตักบาตรพระ ๕oo,ooo รูป ทั่วประเทศ , เดี๋ยวก็โครงการทางก้าวหน้า ตอบปัญหาธรรมะของเด็กและเยาวชน ๕,ooo,ooo คน , เดี๋ยวก็อบรมศีลธรรมเด็กและเยาวชน มากกว่า หนึ่งแสนคนในวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา นี่ก็จะมีอบรมศีลธรรมเด็กและเยาวชน ห้าแสนคนในเดือนธันวาคมนี้อีก ฯล อีกทั้งมนุษย์ คือ บรรพชิตและสาธุชนศิษย์วัดพระธรรมกาย ยังมีกิเลส + ระนาบของความรู้ ความเข้าใจในพุทธรรมของหมู่คณะวัดพระธรรมกายและคนทั่วไป มีไม่เท่ากัน + สามัญญผล หรือผลแห่งการขัดเกลากิเลส การบรรลุธรรม ของหมู่คณะวัดพระธรรมกายและคนทั่วไป มีไม่เท่ากัน ลุ่มลึกไม่เท่ากัน + ปัญหาทางสังคม การเมือง ภัยธรรมชาติ เศรษฐกิจตั้งแต่ระดับรากหญ้า จุลภาค ถึงระดับมหภาค  ในแต่ละปี ก็มีไม่เท่ากัน + กิจกรรมแต่ละงาน มีขนาดใหญ่ และไม่มีต้นแบบให้ดู ก็ทำกันไป  มีปัญหาก็ช่วยกันแก้ไข ไปตามลำดับ ๆ ดังนั้น ความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ ความเข้าใจถูกเพียงบางส่วน ทั้งที่เกิดจากหมู่คณะวัดพระธรรมกายเอง ทั้งที่มาจากบุคคล หน่วยงานอื่น ๆ เป็นเรื่องธรรมด๊า ธรรมดาของคนทำงาน ครับ จากคุณ : deedang - [ 26 พ.ค. 51 15:29:30 ]

ความคิดเห็นที่ 114 วัดพระธรรมกาย ซึ่งจัดเป็นองค์กรการกุศล ที่มุ่งมั่นอบรมศีลธรรม สืบอายุพระพุทธศาสนา อบรมศีลธรรมให้พุทธศาสนิกชน ก็เช่นกันครับ เนื่องจากเป็นวัดขนาดใหญ่ scale งานพระพุทธศาสนาก็มีเยอะ ทั้งศาสนบุคคล คือ ภิกษุสงฆ์ สามเณรก็มีหลายพันชีวิตและสาธุชนก็เป็นเรือนแสน จึงยังมีเรื่องให้ปรับปรุงแก้ไขอีก เยอะแยะ และยังรอการชี้ขุมทรัพย์ คำแนะนำ วิธีแก้ไขจากพุทธศาสนิกชนอยู่ครับ แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 51 20:02:24 จากคุณ : deedang - [ 26 พ.ค. 51 15:36:23 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ผมขอเสนอแนะว่า หากท่านใด สงสัย ไม่เข้าใจ ในกิจกรรมงานกุศล สิ่งที่วัดพระธรรมกายทำ สมควร ๑ อย่าเพียงฟังแต่ข้อมูล ข่าวสาร   ควรทำตามหลัก ๑o ข้อในเกปุตตสูตร ๑. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา ๒. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา ๓. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ ๔. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา ๕. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา ๖. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา ๗. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล ๘. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน ๙. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้ ๑๐.อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล ธรรมเหล่านี้ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายควรเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่ *** เกสปุตตสูตร (กาลามสูตร) ว่าด้วย ข้อห้ามมิให้เชื่อโดยอาการ ๑๐ อย่าง พระไตรปีฎกภาษาไทย ฉบับหลวง พ.ศ. ๒๕๒๕ เล่ม ๒๐ ข้อ ๕๐๕ หน้า ๑๗๙ - ๑๘๔ http://www.navy.mi.th/newwww/code/special/budham/tp/tp200366.htm เพราะข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์จริงที่แต่ละท่านเจอก็มีทั้งตรงกันบ้าง ต่างกันบ้าง จริง 90 % เท็จ 10 % บ้าง หรือ จริง 50 % เท็จ 50 % บ้าง จริง 20 % เท็จ 80 % บ้าง เป็นต้น ๒ ถามคนอื่น    แต่ก็จะได้ความรู้ ความเข้าใจ ความถูกต้อง แค่ระดับตื้น ๆ    ยิ่งถามคนที่ไม่ได้เป็นศิษย์วัดพระธรรมกาย    หรือ ถามคนที่มีทัศนคติกับวัดพระธรรมกาย ในด้านลบ    จะได้คำตอบอย่างไร ก็คงทราบนะครับ ๓ ไปพิสูจน์ด้วยตนเอง      เพราะวัดพระธรรมกายก็ยังมีอยู่ ร่วมสมัยเดียวกับเรา    ไม่ใช่วัดยุคสุโขทัย อยุธยา    หมู่คณะที่บุกเบิกสร้างวัด ก็ยังมีชีวิตอยู่      สาธุชนและกิจกรมงานกุศล ของวัดพระธรรมกาย ก็ยังมีอยู่ ๔  และหากพบสิ่งที่ผิด สมควรแก้ไข   ก็ควรไปแจ้งความไปร้องเรียนกับหน่วยงานที่มีหน้าที่และอำนาจ ที่กฎหมายบัญญัติไว้ เถิดครับ   จะไปที่สถานีตำรวจ สำนักพุทธฯ  มหาเถรสมาคม     หรือกรมการศาสนา  กระทรวงวัฒนธรรม ฯล   ไม่ได้ท้าทายนะครับ เพียงแต่อยากให้ร้องเรียนถูกสถานที่ จากคุณ : deedang - [ 26 พ.ค. 51 15:40:56 ]

ความคิดเห็นที่ 116 เพ่งจะมีเวลาเข้ามาค่ะ จากคุณ : จันทร์กลางใจ - [ 26 พ.ค. 51 15:41:06 ]

ความคิดเห็นที่ 117 และขอบอกไว้เลยว่า คุณจะเจอทั้งสิ่งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ครับ แม้ผมเอง ก็ไม่เห็นด้วย ไม่สนับสนุนในบางเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย แต่ก็ไม่ได้สรุปว่า ผมถูก ทางวัดผิดนะครับ มันเป็นเรื่องนานาจิตตัง ของมนุษย์ ครับ แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 51 19:35:45 จากคุณ : deedang - [ 26 พ.ค. 51 15:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวค่ะ   อย่างที่สวนโมกข์ก็มีภาพจำลอง วัดไผ่โรงวัวก็มีเปรตใช่ไหม จินตนาการหรือเห็นจริง ที่อื่นๆๆก็มีอีกมากมาย ไม่เห็นตั้งหน้าตั้งตาโจมตีเลย ส่วนชุดมหาลดาปสาธน์ที่จำลองมาให้ดู ที่นำภาพมาลงให้ดูในกระทู้นี้  เมื่อเทียบเคียงกันที่บรรยายในอถกถาธรรม มิใช้ว่ายกความขึ้นมาเอง  แล้วก็ใกล้เคียงกันมากใช้ไหม ถามยังมีความสงสัยว่าชุดจริงๆๆเป้นอย่างไร คงพอจะมีผู้ที่ไปพิสูจย์ได้มั่ง หรือภาพศิลป์ของวัดพระธรรมกายที่วาดภาพกายมหาบุรุษ 32 ประการของเจ้าชายสิททัตธะก่อนบวช ว่าตรงกัน 100 % หรือใกล้เคียงกัน 90 % 80% แค่ไหน หรือในการ์ตูนที่เขาวาด/วัดอื่น/สถานที่อื่นที่นำออกเผยแผ่ ใกล้เคียงกันหรือห่างไกลราวฟ้ากับดิน คุณๆๆ แค่นำไปให้ครูบาอาจารย์ของคุณ ที่เป็นพระอรหันต์ดูก็สิ้นเรื่อง ของแค่นี้ ท่านมีวิธีตอบคุณได้  อธิบายให้คุณฟังได้ โดยตัวท่านไม่เป็นการอวดอุตริมนุษยธรรมหรอกค่ะ ดพราะเรื่องเล่านี้มีอยู่จริง เป้นเรื่องจริงในพระพุทธศาสนา พระอรหันต์ท่านมีเมตตา ท่านจะตอบคุณๆให้หาสงสัย หมดสิ้นความครางแครงใจได้ สะเหมือนหนึ่งหงายของที่ควำให้เห็นความจริงได้ เพราะพระอรหันต์ท่านสามารถระลึกชาติของตัวท่านเอง และสรรพสิ่ง ไปได้ตั้งแต่ชาติแรกที่ท่านตั้งใจ ตั้งความปรารถนาจะเป็นพระอรหันต์แล้ว แค่ท่านระลึกชาติย้อนหลังไปสมัยพุทธกาล   2,500 กว่าปีแค่นี้ จิ๊บๆๆ ออก ท่านตอบให้คุณหายสงสัยอยู่ได้แล้ว ไม่ตั้งเสียเวลามาโต้แย้งกันเลย จริงไหมค่ะ แล้วพระอาจารย์ของใครมีคำตอบว่าอย่างไร นำมามาให้สมาชิกรับฟังบ้างค่ะ  สาธุ . จากคุณ : จันทร์กลางใจ - [ 26 พ.ค. 51 15:48:23 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ผมไม่ได้รู้ทุก ๆ เรื่องเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย บางเรื่อง บางเหตุการณ์ อยู่ในยุคสมัย ที่ผมยังไม่เกิด ผมยังไม่ได้ไปวัด ดังนั้น ผมไม่ได้รู้จริง แต่แค่ได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่านเอกสาร บันทึกที่มีอยู่ เท่านั้น แม้บางเรื่องผมอยู่ร่วมสมัย ในปีนั้น ๆ หรืออยู่เหตุการณ์นั้นจริง แต่ก็อยู่ในมุมมอง ของพุทธศาสนิกชนที่ไปวัด ผมนั่งในมุมหนึ่งของวัดพระธรรมกายอันกว้างใหญ่ จึงไม่เห็น ไม่รู้ทั่วทุก ๆ อย่างในเหตุการณ์นั้น ๆ ก็เหมือนผมเป็นคนไทย  อาศัยในกรุงเทพฯ นับถือพระพุทธศาสนา แต่ก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเมืองไทย ประวัติศาสตร์ไทย ไม่ได้รู้จักกรุงเทพฯ ทุกอย่าง และไมได้รู้ ไม่ได้เข้าใจ ไม่ได้เข้าถึงธรรมะในพระพุทธศาสนาทุกอย่าง แค่เพียงรู้มั่ง ไม่ได้รู้มาก ไม่ได้รู้หมดทั่วถ้วนในเมืองไทย,กรุงเทพฯ และในธรรมะ แต่อย่างใดครับ ดังนั้น หากท่านใด ใครจะมีปัญหา มีความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ หรือความเข้าใจถูกเพียงบางส่วนเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย แนะนำว่า ท่านควรไปค้นคว้า พิสูจน์ด้วยตนเองเถิดครับ และถ้าไปแล้ว ไม่ถูกจริต อัธยาศัยก็ค่อยออกมา และถ้าห็นอะไร ไม่เข้าใจ อยากรู้ ก็สอบถามเจ้าหน้าที่ของวัด ทั้งนี้เพื่อที่เราจะได้รับข้อมูลแท้จริง และถ้าห็นอะไรน่าสงสัย ก็ควรสอบถามไปยังหน่วยงาน องค์กร ที่เกี่ยวข้อง ได้ครับ ทั้งนี้เพื่อที่เราจะไ้ด้แก้ไข ถูกต้องตามขั้นตอนและแก้ไขตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ครับ *** แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 51 19:58:24 จากคุณ : deedang - [ 26 พ.ค. 51 15:52:04 ]

ความคิดเห็นที่ 120 มีสุภาษิตชาวบ้าน มาฝากครับ ท่านใดเห็นว่ามีประโยชน์ ก็นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน อย่างมีความสุข สมานฉันท์เถิดครับ *** ยิ้มแย้มอย่างแจ่มใส เห็นใครทักก่อน นี่คือ.. วิธีแสดงเสน่ห์แบบง่ายๆ แต่ให้ผลมาก คาถาที่ควรมีไว้ประจำใจ เมื่อจะซื้อของกินของใช้ ให้ท่องคาถาว่า จำเป็นไหม จำเป็นไหม การให้อภัยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่การแก้แค้นลงทุนมาก บ่นแล้วหมดปัญหาก็น่าบ่น บ่นแล้วมีปัญหา ไม่รู้จะบ่นหาอะไร เรายังเคยเข้าใจผิดผู้อื่น ถ้าคนอื่นเข้าใจเราผิดบ้าง ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องแปลกอะไร ทำไมต้องเศร้าหมอง ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอย่างที่ใครเข้าใจ แม้จะฝึกให้เป็นผู้ไม่โกรธไม่ได้ แต่ฝึกให้เป็นผู้ไม่โกรธบ่อยได้ ฝึกให้เป็นผู้รู้จักให้อภัยได้ การนินทาว่าร้ายเป็นเรื่องของเขา การให้อภัยเป็นเรื่องของเรา การชอบพูดถึงความดีของเขา คือความดีของเรา การชอบพูดถึงความไม่ดีของเขา คือความไม่ดีของเรา เราเข้าใจเขาผิด เรายังรู้สึกเสียใจ เขาเข้าใจเราผิด ถึงเขาไม่พูด เขาก็คงรู้สึกเสียใจบ้างเหมือนกัน โทษคนอื่นแก้ไขอะไรไม่ได้ โทษตนเองแก้ไขได้ รู้จักทำใจให้รักผู้บังคับบัญชา รู้จักทำใจให้รักลูกน้อง รู้จักทำใจให้รักเพื่อนร่วมงาน สวรรค์ก็อยู่ที่ทำงาน เกลียดผู้บังคับบัญชา เกลียดลูกน้อง เกลียดผู้ร่วมงาน นรก ก็อยู่ที่ทำงาน การที่เรายังต้องแสวงหาความสุข แสดงว่าเรายังขาดความสุข แต่ถ้าเรารู้จักทำใจให้เป็นสุขได้เอง ก็ไม่ต้องไปดิ้นรนแสวงหาที่ไห คนไม่ดี มักสนใจในความไม่ดีของคนอื่น คนดี มักสนใจในความดีของผู้อื่น อ่อนน้อม อ่อนโยน อ่อนหวาน นั้นดี.... อ่อนข้อให้เขาบ้างก็ยังดี แต่...อ่อนแอนั้น ไม่ดี ในการคบคน ศิลปะใดๆ ก็สู้ความจริงใจไม่ได้ จงประหยัด คำติ แต่อย่าตระหนี่ คำชม อภัยให้แก่กันในวันนี้ ดีกว่าอโหสิให้กันตอนตาย ถ้าคิดทำความดี ให้ทำได้ทันที ถ้าคิดทำความชั่ว ให้เลิกคิดทันที ถ้าเลิกคิดไม่ได้ ก็อย่าทำวันนี้ ให้พลัดวันไปเรื่อยๆ เมื่อก่อนยังไม่มีเรา เราเพิ่งมีมาเมื่อไม่นานมานี้เอง และอีกไม่นานก็จะไม่มีเราอีก จึงควรรีบทำดี ในขณะที่ยังมี...เรา จากคุณ : deedang - [ 26 พ.ค. 51 15:57:50 ]

ความคิดเห็นที่ 121 คุณจันทร์กลางใจชี้แจงผิดประเด็นแล้วล่ะครับ !! ผมไม่ได้ตำหนิว่า จัดทำเครื่องประดับ มหาลดาปสาธน์ ไม่เหมือนจริง   หรือตำหนิว่า ไม่สวย ผมตำหนิว่า วัดพระธรรมกาย จัดทำ มหาลดาปสาธน์ จำลองมาใช้ในพิธีกรรมที่ไม่เหมาะไม่ควร ไม่ถูกกาละเทศะ เพราะ   ประการแรก  ไม่มีในพระไตรปิฎกตอนใดระบุว่า มหาอุบาสิกาวิสาขาสวมใส่เครื่องประดับมหาลาดปสาธน์เข้าเฝ้าพระพุทธองค์  แม้จะเข้าสู่วิหาร  ท่านก็ชิงถอดออกซะก่อนเข้าวิหารทั้ง ๆ ที่ท่านสวมใส่กลับจากงานมหรสพ ประการที่สอง ในการถวายผ้ากฐิน  เป็นพิธีกรรมที่กระทำภายในวิหาร  จึงเป็นไปไม่ได้ที่มหาอุบาสิกาวิสาขาจะสวมใส่มหาลดาปสาธน์เข้าภายในวิหาร ประการที่สาม ผมคาดเอาว่า การถวายผ้ากฐิน  น่าจะเกิดขึ้นภายหลังจากการประกาศขายเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์เอาเงินสร้างวัดแล้ว  ที่ท่านประกาศขายก็เพราะ ท่านไม่ต้องการสวมใส่มหาลดาปสาธน์  และท่านก็คงไม่สวมใส่ออกงานใด ๆ อีก ประการที่สี่  แม้วัดพระธรรมกายจะจัดทำจำลอง  ก็น่าจะจำลองประดับกับหุ่น  หรือทำเป็นภาพอนิเมชั่น ก็ได้ผมไม่ได้ว่า  ไม่ได้ตำหนิในการจำลอง มหาลดาปสาธน์  เพราะผมพิจารณาเห็นว่า  แม้จะเป็นการจำลองขึ้นมา  บุคคลที่จะสวมใส่  ต้องพิจารณาว่า มีคุณงามความดีเหมาะแก่การสวมใส่เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์จำลองนั้น ๆ หรือไม่ ไม่ใช่คัดเอาแต่สาวงามระดับนางงามมาสวมใส่  ซึ่งเป็นการไม่ถูก ไม่เหมาะ ไม่ควร ประการที่ห้า นอกจากการคัดสาวงามมาสวมใส่เครื่องประดับจำลองดังที่กล่าวข้างต้นแล้ว  การนำชุดมหาลดาปสาธน์เข้าประกอบพิธีถวายผ้ากฐินนั้นเป็นการไม่ถูกต้อง  ไม่ตรงตามพระไตรปิฎก   พฤติกรรมในการจัดแสดงดังกล่าว เสมือนหนึ่งเจตนา ให้พุทธศาสนิกชนเข้าใจผิดพลาดในพิธีกรรมที่ไม่ถูกต้อง  ยิ่งบอกว่าเป็นการจำลองมาจากครั้งพุทธกาล  พุทธศาสนิกชนจะเข้าใจเป็นว่า มหาอุบาสิกาวิสาขา สวมใส่เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์เข้าถวายผ้ากฐิน ดั่งที่วัดพระธรรมกายจัดแสดง   วัดพระธรรมกายสมควรงดพิธีกรรมดังกล่าว จากคุณ : ทวนทอง - [ 26 พ.ค. 51 16:42:05 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ทราบครับคุณdeedang     ผมได้เข้าวัดธรรมกายประทุมธานี ตอนที่ผมเรียนอยู่ปี 2 จะขึ้นปี 3 เมื่อปี 2524 ผมมีความศรัทธาพุทธศาสนาอยู่แล้ว ผมได้พบกับการจัดสรรที่เป็นระบบของวัด และการแสวงหาผู้ศรัทธา ผมตระการตาตะการใจ ซึ่งเป็นวัดแรกในชีวิตผมที่ได้เห็นความศรัทธาของผู้คนเป็นอย่างมาก ที่สามารถน้อมใจให้ผมศรัทธาได้   ผมมีพื้นฐานความศรัทธาในพุทธศาสนาที่เป็นนิสัยอยู่แล้ว ผมสามารถเป็นกำลังหนึ่งของทางวัดธรรมกายได้โดยง่ายๆ  แต่เนื่องจากว่าผมได้อ่านศึกษาธรรมและพระไตรปิฏกส่วนหนึ่งในหอสมุดมหาลัยมาก่อนเป็นเวลาเป็นปี ผมศึกษาอย่างเป็นจริงเป็นจังครับ.     ครั้งสองครั้งแรกไปก็ยินดีในบุญกุศลของทางวัดที่จัดขึ้น ครั้งต่อมาได้ชวนเพื่อนไปวัดด้วย ครังต่อมาได้ฟังเทศของท่านพระเผด็จ และพระธัมชโย ก็เกิดส่งสัยในคำสอนที่แตกต่างกับที่ศึกษามา       ครั้งต่อมาก็เห็นว่าไปสนทนาธรรมกับท่านพระเผด็จได้ จึงได้เข้าไปสนทนากับสิ่งที่สงสัย       แต่ท่านพระเผด็จก็ให้ไปถามท่านพระธัมชโยโดยตรง  เมื่อเข้าไปถามท่านพระธัมชโยตามธรรมที่สังสัย ก็ย่อมรู้และเข้าใจดีว่า คืออะไร..       ตั้งแต่ครั้งนั้นมา ผมก็ไม่ไปวัดธรรมกายอีกเลย ทั้งๆ ที่ผมขัดสนมากในขณะที่เรียนอยู่  ซึ่งมีแหล่งสร้างบุญกุศลโดยไม่ต้องลงทุนอะไร การเดินทางไปวัดก็ฟรี ได้ทานข้าวฟรีด้วย. ทุกอย่างต้องอิ่มไปด้วยบุญกุศล แต่ผมหันหลังให้อย่างสิ้นเชิง  เพราะรู้และเข้าใจดีว่า รูปแบบของท่านธัมชโยคืออะไร  แต่หาได้มีอคติกับท่านมากเลย เพียงแต่รูปแบบการแสวงหาธรรมของพระพุทธเจ้าไม่ตรงกันเท่านั้น...       และหาได้มีอคติกับชาววัดหรือวัดธรรมกายเลย เพียงในภายหลังอีกหลายปีต่อมา ผลและรูปแบบนั้นปรากฏในสังคมอย่างชัดเจนจนขัดแย้งกันขึ้น  ก็เพียงแต่คิดว่า        เราจะทำอย่างไรหนอ  ให้คนที่ยังไม่เข้าใจธรรมหรือคลาดเคลือนจากธรรมที่เราได้ศึกษาได้ปฏิบัติมา ได้พอมีข้อมูลนำไปพิจารณา โยนิโสมนสิการ โดยยึดเอาธรรมเป็นใหญ่ เป็นสำคัญ.            ผมมีจุดประสงค์เพียงแค่นี้ . จากคุณ : P_vicha - [ 26 พ.ค. 51 16:53:27 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ขออนุญาตครับ ผมเข้ามาอ่านในนี้ ต้องการอ่านการวิเคราะห์และวิจารณ์อย่างมีเหตุผลครับ ท่านใดที่ประสงค์ flood กรุณาเห็นใจคนแถวนี้ด้วยครับ จากคุณ : ประจุบวก - [ 26 พ.ค. 51 17:15:17 ]

ความคิดเห็นที่ 124 คุณทวนทองค่ะ ของตอบข้อนี่ก่อน   ประการที่สี่  แม้วัดพระธรรมกายจะจัดทำจำลอง  ก็น่าจะจำลองประดับกับหุ่น  หรือทำเป็นภาพอนิเมชั่น ก็ได้ผมไม่ได้ว่า  ไม่ได้ตำหนิในการจำลอง มหาลดาปสาธน์  เพราะผมพิจารณาเห็นว่า  แม้จะเป็นการจำลองขึ้นมา  บุคคลที่จะสวมใส่  ต้องพิจารณาว่า มีคุณงามความดีเหมาะแก่การสวมใส่เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์จำลองนั้น ๆ หรือไม่ ไม่ใช่คัดเอาแต่สาวงามระดับนางงามมาสวมใส่  ซึ่งเป็นการไม่ถูก ไม่เหมาะ ไม่ควร ************************************** ที่วัดพระธรรมกายมีการจำลองหลายสิ่งหลายอย่างมาให้ดูเป็นกรณีศึกษา เช่น ช้างเอราวัณ  33 เศียรโสภา เศียรหนึ่ง 7 งาฯ มีตั้ง 33 เศียรแล้วจะโสภาได้อย่างไร ก็ทำเป็นช้างเอราวัณมาตั้งให้ดูกัน พญาครุฑ มีรูปร่างลักษณะเป็นอย่างไรก็ทำมาให้ดู บางสิ่งบางอย่างทำเป็นเอนิเมชั่นได้  บางอย่างก็ไม่ใช้ ต้องให้ดูของจริงๆๆ หรือต้นปาริฉัตรของพระอินทร์เทวธิราช ตั้งปริมณฑล ปริวัตรฉัตรธง อย่างไร ก็มีมาให้ได้ดูได้ศึกษา ในทำนองเดียวกัน  ก็จำลอง ชุดมหาลดาปสาธน์  มาให้ดู ทำด้วยด้ายทองคำ และวัสดุต่างๆฯให้ใกล้เคียงกับของจริงที่มีบันทึกไว้ ในพระไตรปิฏก มีนำหนักมากกว่า 15 กิโลกรัม และมีมูลค่าสูง รวมทั้งมีคุณค่าสูงมากด้วย เพราะฉนั้นจึงมีการคัดเลือกบุคคลทีเป็นผู้มีบุญมากพอ  มีความรู้ มีคุณงามความดี มีคุณธรรม มีศีล มีธรรมเป็นผู้ที่มีการศึกษาดี เป็นที่เคารพมีชื่อเสียงที่ดี ไม่มีความเสื่อมเสีย  ดังเช่นคุณชนันภรณ์ รสจันทร์ ซึ่งต้องมีการพิจารณาแล้ว พิจารณาอีกว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสม ควรค่าแก่การเป็นตัวแทนของมนุษย์ในยุคนี้  ให้เป็นที่สรรเสริญของมนุษย์และเทวา แต่คำพูดของคุณและการกระทำของคุณ โดยได้นำภาพที่ต่างสถานที่ ต่างวาระ ต่างเวลา เอามาประกบให้เป็นภาพเดียวกัน ภาพคู่กัน โดยรวมทั้งการนำภาพที่คุณชนันภรณ์สวมชุดว่ายนำ ขณะเข้าประววด โดยนำมาประกบคู่กับภาพที่เธอสวมชุดมหาลดาปสาธน์ เป็นการแสดงเจตนาชัดเจนว่าต้องการสร้างภาพที่ไม่ดีให้แก่เธอ  เป็นการเจาะจงสร้างภาพที่ไม่ดีให้แก่เธอ   กล่าวร้ายกับเธอว่าการเป็นนางงาม ไม่มีคุณความดี ฯ  และเป็นการว่าร้ายต่อวัดพระธรรมกายด้วย นี่คือสิ่งที่ดิฉันกล่าวโทษต่อคุณว่า คุณได้สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้แก่บุคคลที่สาม ที่ไม่เกี่ยวข้อง และสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้แก่วัด   วอร์รูมความพิจารณาการกระทำของคุณทวนทองในครั้งนี้ ว่าต้องอยู่ในสถานใด ส่วนในกระทูอื่นๆๆ ที่ลงภาพนี้  เป็นการลงภาพต่างภาพ ต่างวาระ ต่างสถานที่กัน  โดยที่ไม่ได้ลงภาพประกบให้เป็นชิ้นเดียวกัน เพื่อต้องการให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล และเสียหายแก่วัด . จากคุณ : จันทร์กลางใจ - [ 26 พ.ค. 51 17:51:21 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ความคิดเห็นตั้งแต่ 111 ผมไม่ได้กล่าวเฉพาะเจาะจงถึงท่าน P_vicha หรือเฉพาะเจาะจงถึงท่านใดนะครับ กล่าวโดยรวมทั่วไปเท่านั้น เนื้อหาอาจไม่ตรงกระทู้ ดูกลายเป็น flood ก็ขออภัยครับ ขอบคุณท่าน P_vicha ที่เล่าเกร็ดชีวิตตอนเริ่มแสวงธรรม เรื่องที่ท่านไม่มีอคติกับชาววัดเลยนั้น ผมก็เข้าใจอย่างนั้นครัีบ ผมสนใจที่กล่าวไว้ว่า *** เมื่อเข้าไปถามท่านพระธัมชโยตามธรรมที่สังสัย ก็ย่อมรู้และเข้าใจดีว่า คืออะไร.. ตั้งแต่ครั้งนั้นมา ผมก็ไม่ไปวัดธรรมกายอีกเลย  *** ***... แต่ผมหันหลังให้อย่างสิ้นเชิง  เพราะรู้และเข้าใจดีว่า รูปแบบของท่านธัมชโยคืออะไร  แต่หาได้มีอคติกับท่านมากเลย เพียงแต่รูปแบบการแสวงหาธรรมของพระพุทธเจ้าไม่ตรงกันเท่านั้น...**** ตรงนี้ผมยังไม่เข้าใจครับ เรื่องจุดประสงค์ ในทางสร้างสรรค์เพื่อความเข้าใจธรรมถูกต้องตรงไปตามความเป็นจริง ได้อ่านแล้ว ก็โมทนาด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 51 18:00:42 จากคุณ : deedang - [ 26 พ.ค. 51 17:59:26 ]

ความคิดเห็นที่ 126 คุณจันทร์กลางใจ #124 ไม่มีคำใดที่ผมได้กล่าวว่าร้าย Miss Thailand Univers เลยแม้แต่คำเดียว ในแต่ละความเห็น  ผมวิพากย์วิจารณ์ในพิธีกรรมของวัดพระธรรมกาย ทั้งสิ้น ผมไม่รู้ว่า คนปฏิบัติธรรมอย่างคุณจันทร์กลางใจ จะมีจิตใจคิดไปในทางอกุศลด้วย จากคุณ : ทวนทอง - [ 26 พ.ค. 51 18:22:45 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ไม่เข้าใจครับ ทำไมคุณ deedang ต้องฟลัดความเห็นด้วย รวบความเห็น เขียนแบบสั้นๆ อ่านเข้าใจง่าย ไม่ได้เหรอครับ ต้องมาโพสต์ยาวๆ ติดๆ กันหลายความเห็น เหมือนคนพูดจาไม่รู้เรื่อง วกไปวนมา หาสาระ จับประเด็นไม่เป็นหรือไงครับ น้ำท่วมทุ่งบักผุ้งโหรงเหรงรึเปล่า ขออภัยนะครับไม่มีความอดทนพอที่จะอ่านอะไรที่มีแต่น้ำ แต่หาเนื้อหาสาระมิได้ จากคุณ : รพินทร์ - [ 26 พ.ค. 51 18:29:57 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ท่านมหาอุบาสิกาวิสาขา ท่านสนใจประพฤติปฏิบัติธรรมตั้งแต่เยาว์วัย ท่านมีวัตรปฏิบัติที่ดีงามผิดแผกแตกต่างจากคนทั่ว ๆ ไปโดยสิ้นเชิง ท่ามกลางฝนที่กระหน่ำลงมา  คนอื่น ๆ พากันวิ่งหลบฝนเข้าที่กำบัง แต่ท่านมหาอุบาสิกา  กลับเดินอย่างปกติ ท่านเดินอย่างปกติ  แต่สำหรับคนทั่ว ๆ ไปอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ เนี่ยมองว่า ไม่ปกติ พราหมณ์ที่เป็นแมวมองจึงเข้าไปถามไถ่ว่า ทำไมไม่วิ่งอย่างคนอื่น ๆ การถามไถ่ในวัตรปฏิบัติอันดีงามของท่านมหาอุบาสิกาวิสาขาเช่นนี้แหละ ที่ชักนำท่านเข้าสู่พิธีการแต่งงาน  อันเป็นที่มาของเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ คุณจันทร์ฯ ก็ลองพิจารณาดูเอานะครับว่า  ปัจจุบันนี้มีใครที่มีวัตรปฏิบัติเทียบเท่าท่านมหาอุบาสิกาวิสาขาบ้าง ??? จากคุณ : ทวนทอง - [ 26 พ.ค. 51 18:43:17 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ถามในความคิดเห็นของเราก็แล้วกัน เราเคยได้เข้าไปปฏิบัติธรรมที่วัดธรรมกาย เมื่อปี 2528-2530 ในช่วงอายุ 12-14 ปี ต้องยอมรับว่าที่นี่ ชักจูงได้ดีมากโดยเฉพาะถ้าเป็นเด็ก ถามว่าดีไหม ก็ตอบว่าดี ถ้าเด็กมีผู้ใหญ่ที่ระงับได้จะดีมาก เพราะในขณะนั้นถ้าไม่มีแม่ คอยดึงไว้ก็คงจะบวชแน่นอน ตั้งแต่เรียนไม่จบ เมื่อออกมาก็เหมือน กบเมื่อออกจากกะลา และศึกษามากขึ้นก็จะรู้ว่า สิ่งที่เคยเห็นมา ไม่เป็นไปดังที่เชื่อไว้ หากท่านต้องการจะศึกษาทางธรรมจริง ๆ ให้หยุดซักพัก แล้วกลับมาศึกษา ธรรมจริง ๆแล้ว ท่านจะรู้ว่าเวลาที่เสียไป เป็นสิ่งที่เรียกกลับคืนมาไม่ได้ ธรรมะ จงมีแด่สาธุชนทุกท่าน จากคุณ : แสงสีน้ำเงิน - [ 26 พ.ค. 51 22:21:58 ]

ความคิดเห็นที่ 130 ผมไม่เข้าใจจริงๆว่า..... บรรดาพวกไม่ได้ทำบุญในวัดพระธรรมกายแม้แต่สตางค์แดงเดียว ทำไมต้องเดือดเนื้อร้อนตัวเกี่ยวกัยการจัดกิจกรรมของวัดด้วย.... คนที่เข้าทำมามากมาย เค้าไม่เห็นจะโอดครวญอะไรสักอย่าง... ปัญหาเยอะจริงเนาะ ไปสร้างประเทศอยู่ใหม่ไป แล้วก็บริหารกันเอง อยากจะเอานรกกี่ขุมก็จัดกันไปตามสบาย.....ไม่รู้แล้วพูดมาก ระวัง !!! นรก ไม่ต้องกลัวหรอก ถ้าคิดว่าตัวเองถูก....แต่นรกจะตัดสินเอง ตอนคุณ ...ตาย... จ้ากกกกก จากคุณ : กวีสวรรค์ - [ 26 พ.ค. 51 23:38:54 ]

ความคิดเห็นที่ 131 #130  ต้องเดือดร้อนสิคะ  มันไม่ใช่ศาสนานี่คะ มันเป็นธุรกิจ จะให้นิ่งเฉยได้อย่างไร  คนที่จะต้องไปสร้างประเทศอยู่ใหม่ ลองพิจรณาดูว่าใครกันแน่  ลัทธิประหลาดนี้ เท่าที่เห็นออกจะร่ำรวยมหาศาล อภิมหาอมต อลังการณ์งานสร้าง น่าจะไปตั้งประเทศเองดีกว่านะคะ เท่าที่ดู มันไม่เหมือนวัดหรือที่ปฏิบัติธรรม มันเหมือนโรงละครโอเปร่า แล้วมีคนดูที่มีฐานะ ไปแลกเปลี่ยนธุรกิจกันโดยบริจาคเงินให้สถานที่  เพื่อจะมีที่ ที่จะไปหาเพื่อนธุรกิจ โอเปร่า ชัดๆ จากคุณ : +:+SoMEonE ExacTlY likE yoU+:+ - [ 27 พ.ค. 51 01:02:29 ]

ความคิดเห็นที่ 132 [๕๓๓] ดูกรกัสสป ธาตุดินยังพระสัทธรรมให้เลือนหายไปไม่ได้ ธาตุ น้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ก็ยังพระสัทธรรมให้เลือนหายไปไม่ได้ ที่แท้โมฆบุรุษใน โลกนี้ต่างหาก เกิดขึ้นมาก็ทำให้พระสัทธรรมเลือนหายไป เปรียบเหมือนเรือจะ อัปปาง ก็เพราะต้นหนเท่านั้น พระสัทธรรมยังไม่เลือนหายไปด้วยประการฉะนี้ ฯ สัทธรรมปฏิรูปกสูตร          เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖  บรรทัดที่ ๕๘๔๖ - ๕๘๘๘.  หน้าที่  ๒๔๖ - ๒๔๗. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=16&A=5846&Z=5888&pagebreak=0             ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=16&i=531 ______________________ เมื่อคนหันมาศรัทธาสัทธรรมปฎิรูปของโมฆบรุษ มากกว่าพระสัทธรรมของพระพุทธเจ้า เมื่อคนหันมากปกป้องโมฆบรุษ มากกว่าจะปกป้องพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า สรรเสริญถ้อยคำที่กล่าวตู่พุทธพจน์ นั่นแหละคือความเสื่อมของศาศนาที่แท้จริง ที่อยากจะบอกก็คือว่า พระไตรปิฎก อันเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่สืบทอดกันมานั้นยัง สมบูรณ์ครบถ้วน ฉะนั้นก่อนที่จะเชื่อถ้อยคำของครูอาจารย์ท่านใดก็ช่วยกันกรุณา ศึกษาเทียบเคียงกับพระไตรปิฎกก่อนจะเป็นการปลอดภัยที่สุด เพราะถ้าเจอครูอาจารย์ที่ดีก็ดีไป แต่ถ้าเจอ โมฆบรุษระวังจะกู่ไม่กลับนะครับ _________________________________________ [๑๑๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ภิกษุ ผู้เป็นเถระอยู่ในอาวาสโน้น เป็นพหูสูต มีอาคมอันมาถึงแล้ว เป็นผู้ทรงธรรม ทรง วินัย ทรงมาติกา ข้าพเจ้าได้ฟังมา ได้รับมาเฉพาะหน้าพระเถระนั้นว่า นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสั่งสอนของพระศาสดา ดังนี้ พวกเธอไม่พึงชื่นชม ไม่พึงคัดค้าน คำกล่าวของภิกษุนั้น ครั้นแล้ว พึงเรียนบทและพยัญชนะเหล่านั้นให้ดี แล้วสอบ สวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัย ถ้าเมื่อสอบสวนในพระสูตร เทียบเคียง ในพระวินัย ลงในพระสูตรไม่ได้ ลงในพระวินัยไม่ได้ พึงถึงความตกลงในข้อนี้ว่า นี้มิใช่คำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคแน่นอน และพระเถระนั้นจำมาผิดแล้ว ดังนั้น พวกเธอพึงทิ้งคำกล่าวนั้นเสีย ถ้าเมื่อสอบสวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัย ลงในพระสูตรได้ เทียบเคียงในพระวินัยได้ พึงถึงความตกลงในข้อนี้ว่า นี้เป็นคำของ พระผู้มีพระภาคแน่นอน และพระเถระนั้นจำมาถูกต้องแล้ว เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐  บรรทัดที่ ๒๙๗๒ - ๓๐๒๔.  หน้าที่  ๑๒๑ - ๑๒๓. http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=10&A=2972&Z=3024&pagebreak=0 จากคุณ : Kengmanny - [ 27 พ.ค. 51 02:38:31 ]

ความคิดเห็นที่ 133 คุณจันทร์กลางใจตอบคำถามไม่ตรงประเด็นเลยครับ อย่าหาว่าใช้คำพูดรุนแรงเลย ท่านอายุเท่าไรแล้วครับ ??? ท่านคงไม่ใช่เด็กเป็นแน่ ผมว่าคำถามของคุณทวนทวนถามชัดเจน แต่ที่คุณตอบมันไม่ตรงคำถามเลยสักนิด ออกนนอกทะเลไปเสียหมด ไม่ทราบว่าที่ไม่ตอบให้ตรงคำถามเพราะจนด้วยเหตุผล หรือว่าเพราะอ่านไม่เข้าใจคับ ถ้าเป็นเพราะอ่านไม่เข้าใจในฐานะชาวพุทธด้วยกัน ผมแอบเป็นห่วงนะคับ ไปโรงพยาบาลหน่อยก็ดีคับ เผื่ออาจจะเกิดความผิดปกติขึ้นที่สมองหรือเปล่า อันนี้หวังดีจริงๆนะคับ เพราะว่าเท่าที่สอบถามมาทุกท่าน ก็เข้าใจตรงประเด็น อ่านรู้เรื่องกันทุกท่าน ประการต่อมาเห็นคุณชอบกล่าวบ่อยว่าให้ไปสอบถามพระอริยสงฆ์ เอาละ ผมเคยสอบถามแล้ว แต่ไม่ใช่เรื่องชุดตามกระทู้นี้ แต่จะเล่าให้ฟังคร่าวๆจะได้ไม่ต้องพูดถึงประเด็นนี้กันเสียที คือ " ท่านว่าหลวงพ่อสดและวิชชาธรรมกายของหลวงพ่อสดของจริง แต่วัดธรรมกายนี่มั่วเอาไปยำซะเละเลย " . ชัดเจนพอไหมครับ เจริญในธรรม จากคุณ : Radiant, Archangel - [ 27 พ.ค. 51 08:32:36 ]

ความคิดเห็นที่ 134 คุณ : Radiant, Archangel อายุเป็นเพียงตัวเลขค่ะ   แต่เมื่อคุณถามเรื่องอายุ จากการประเมินตัวคุณแล้ว ดิฉันน่าจะมีอายุมากกว่าคุณแม่ของคุณค่ะ และสิ่งที่ดิฉันตอบคุณทวนทองนั้น ถูกต้อง ตรงประเด็นที่เขาต้องการแล้ว มีความพยายามสร้างภาพที่ไม่ดี ให้แก่วัดพระธรรมกาย  สร้างความเชื่อให้คนหลงตามความคิดของตนเอง และรวมทำให้เกิดความดูถูก ดูหมิ่นแก่บุคคลต่างๆที่เข้ามาทำบุญในวัดนี้ เป็นการดิสเครดิตวัด และดิสเครดิตคนที่เข้าวัด . ************************************** จากคุณ : จันทร์กลางใจ - [ 27 พ.ค. 51 10:32:28 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ^ ^ ผมก็ว่าคุณน่าจะเป็นยายผมได้ อายุแม้เป็นเพียงตัวเลข แต่ก็สามารถบ่งบอกได้ว่าอยู่มานานและผ่านอะไรมามาก จึงน่าจะมีวิจารณญาณและเหตุผลที่ดีกว่าคนที่อายุน้อยกว่ามากๆ แต่เท่าที่เห็นที่ผมเองชักเริ่มไม่แน่ใจว่า อายุจะช่วยในเรื่องวิจารณญาณและความคิด ความมีเหตุผลของบางท่านหรือไม่ ตามวิจารณญาณของวิญญูชนทั่วไปที่เข้ามาอ่านนั้น คุณทวนทองล้วนตอบคำถามตามข้อเท็จจริงทั้งอ้างอิงจากพระไตรปิฎก และคำถามที่ถามมานั้น คุณจันทร์กลางใจก็ยังไม่เคยตอบเลย อ่านเท่าไรก็ไม่พบคำตอบ เจอแต่ทะเลน้ำเค็มเท่านั้นเอง คำถามที่ว่า ( ขออนุญาตยืมสรุปมาจาก ค.ห. ที่ 64 ชัดเจนดี) “...ได้ยินว่า นางวิสาขานั้น เมื่อกำลังเดินไปวิหาร คิดว่า  "การที่เราสวมเครื่องประดับมีค่ามากเห็นปานนี้ไว้บนศีรษะ แล้วประดับเครื่องอลังการจนถึงหลังเท้า เข้าไปสู่วิหาร ไม่ควร"  จึงเปลื้องเครื่องประดับนั้นออกห่อไว้ แล้วได้ส่งให้ในมือหญิงคนใช้ ผู้ทรงกำลังเท่าช้าง ๕ เชือก ผู้เกิดด้วยบุญของตนเหมือนกัน. หญิงคนใช้นั้นคนเดียว ย่อมอาจเพื่อรับเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์นั้นได้, เพราะเหตุนั้น นางวิสาขา จึงกล่าวกะหญิงคนใช้นั้นว่า  "แม่ จงรับเครื่องประดับนี้ไว้, ฉันจักสวมมันในเวลากลับจากสำนักของพระศาสดา. ก็นางวิสาขา ครั้นให้เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์นั้นแล้ว จึงสวมเครื่องประดับชื่อฆนมัฏฐกะ ได้เข้าไปเฝ้าพระศาสดา สดับธรรมแล้ว.” ----------------------------------------------------------- นางวิสาขาเห็นว่าการใส่มหาลดาปสาธน์เข้าวัดไม่สมควร จึงถอดห่อไว้ให้คนใช้ถือ  เรื่องนี้ศิษย์วัดมีคำอธิบายว่ายังไง  อริยเจ้าเห็นว่าไม่สมควร  แต่วัดกลับจำลองชุดแฟนซีแล้วอ้างว่าเป็นมหาลดาปสาธน์ เห็นเป็นเรื่องดีงามน่ายกย่อง??? ........ . . คุณจันทร์กลางใจผู้มากด้วยวัย ขอเชิญท่านชี้แจงคับ ป.ล. ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่บางคนอาจยอมรับมันไม่ได้ อันนี้ก็คงแล้วแต่จริตและนิสัยของแต่ละคนกันไป จากคุณ : Radiant, Archangel - [ 27 พ.ค. 51 10:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 136 ความคิดเห็นที่ 121   ซึ่งเป็นคำพูด ของ คุณทวนทอง ดังนี้ ประการที่สี่  แม้วัดพระธรรมกายจะจัดทำจำลอง  ก็น่าจะจำลองประดับกับหุ่น  หรือทำเป็นภาพอนิเมชั่น ก็ได้ผมไม่ได้ว่า  ไม่ได้ตำหนิในการจำลอง มหาลดาปสาธน์  เพราะผมพิจารณาเห็นว่า  แม้จะเป็นการจำลองขึ้นมา   บุคคลที่จะสวมใส่  ต้องพิจารณาว่า มีคุณงามความดีเหมาะแก่การสวมใส่เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์จำลองนั้น ๆ หรือไม่ ไม่ใช่คัดเอาแต่สาวงามระดับนางงามมาสวมใส่  ซึ่งเป็นการไม่ถูก ไม่เหมาะ ไม่ควร วัดพระธรรมกาย มีการคัดเลือกบุคคลจำนวนมาก  ต้องเป็นผู้มีบุญ  ประมวลรวมบุญแล้วว่าใครจะเป็นผู้ที่เหมาะสม ใครจะเป็นผู้มีบุญมากพอที่จะสวมใส่ มีบุญมากพอที่จะลองรับการสวมชุด มหาลดาปสาธ์นี่ได้ มีหลายคนที่มีความประสงค์ จะมาขอเป็นตัวแทนเพื่อสวมชุดนี้เป็นจำนวนมากหลายคน ซึ่งต้องพิจารณาคัดเลือกให้สมบูรณ์พร้อมทั้ง ความรู้ มีคุณงามความดี มีคุณธรรม มีศีล มีธรรมเป็นผู้ที่มีการศึกษาดี เป็นที่เคารพมีชื่อเสียงที่ดี ไม่มีข้อความเสื่อมเสียมาก่อน ซึ่งการคัดเลือกได้คุณชนันภรณ์ รสจันทร์  ซึ่งต้องมีการพิจารณาแล้ว พิจารณาอีกว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสม คู่ควรแก่การได้สวมใส่ชุดมหาลดาปสาธ์ในครั้งนี้  เธอมีคุณค่า ควรค่าแก่การเป็นตัวแทนของมนุษย์ในยุคนี้  ให้เป็นที่สรรเสริญของมนุษย์และเทวา  ไม่ใช้แค่เลือกเธอเพราะเธอเป็นนางงามอย่างที่คุณทวนทองกล่าวหาวัด ตามคำพูดของคุณทวนทองที่กล่าวมาว่า "ไม่ใช่คัดเอาแต่สาวงามระดับนางงามมาสวมใส่  ซึ่งเป็นการไม่ถูก ไม่เหมาะ ไม่ควร " โปรดทำความเข้าในประเด็นนี่ว่า นี่คือ สิ่งที่ดิฉันกล่าวโทษคุณทวนทอง คือ คุณได้กล่าวร้ายต่อบุคคลที่สาม ตรงประเด็น  โดยมีความพยายาม พูดและสร้างภาพที่ไม่ดี ให้แก่วัดพระธรรมกาย  สร้างความเชื่อให้คนหลงตามความคิดของตนเอง และรวมทำให้เกิดความดูถูก ดูหมิ่นแก่บุคคลต่างๆที่เข้ามาทำบุญในวัดนี้ เป็นการดิสเครดิตวัด และดิสเครดิตคนที่เข้าวัด . จากคุณ : จันทร์กลางใจ - [ 27 พ.ค. 51 10:56:19 ]

ความคิดเห็นที่ 137 คำตอบด้านบนแม้ตอบคุณทวนทอง แต่ตอบในข้อปลีกย่อยและมิใช่สาระ ทั้งยังยกมาเพียงคำถามบางส่วน ไม่ครอบคลุม ยังมิได้ตอบในคำถามที่ผมถามตาม ค.ห. ที่ 135 เลย *** จริงไหมคับ กำลังรอฟังคำตอบตามค.ห. 135 อยู่คับ ขอเรียนเชิญคุณยายตอบคับ (เรียกสรรพนามเพื่อเป็นการให้เกียรติในฐานะที่อาวุโสกว่ามากๆ) จากคุณ : Radiant, Archangel - [ 27 พ.ค. 51 11:01:56 ]

ความคิดเห็นที่ 138 คุณจันทร์กลางใจ #136 .....วัดพระธรรมกาย มีการคัดเลือกบุคคลจำนวนมาก  ต้องเป็นผู้มีบุญ  ประมวลรวมบุญแล้วว่าใครจะเป็นผู้ที่เหมาะสม ใครจะเป็นผู้มีบุญมากพอที่จะสวมใส่ มีบุญมากพอที่จะลองรับการสวมชุด มหาลดาปสาธ์นี่ได้ มีหลายคนที่มีความประสงค์ จะมาขอเป็นตัวแทนเพื่อสวมชุดนี้เป็นจำนวนมากหลายคน ซึ่งต้องพิจารณาคัดเลือกให้สมบูรณ์พร้อมทั้ง ความรู้ มีคุณงามความดี มีคุณธรรม มีศีล มีธรรมเป็นผู้ที่มีการศึกษาดี เป็นที่เคารพมีชื่อเสียงที่ดี ไม่มีข้อความเสื่อมเสียมาก่อน ซึ่งการคัดเลือกได้คุณชนันภรณ์ รสจันทร์  ซึ่งต้องมีการพิจารณาแล้ว พิจารณาอีกว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสม คู่ควรแก่การได้สวมใส่ชุดมหาลดาปสาธ์ในครั้งนี้  เธอมีคุณค่า ควรค่าแก่การเป็นตัวแทนของมนุษย์ในยุคนี้  ให้เป็นที่สรรเสริญของมนุษย์และเทวา  ไม่ใช้แค่เลือกเธอเพราะเธอเป็นนางงามอย่างที่คุณทวนทองกล่าวหาวัด..... เทียบกับ #128 ท่านมหาอุบาสิกาวิสาขา ท่านสนใจประพฤติปฏิบัติธรรมตั้งแต่เยาว์วัย ท่านมีวัตรปฏิบัติที่ดีงามผิดแผกแตกต่างจากคนทั่ว ๆ ไปโดยสิ้นเชิง ท่ามกลางฝนที่กระหน่ำลงมา  คนอื่น ๆ พากันวิ่งหลบฝนเข้าที่กำบัง แต่ท่านมหาอุบาสิกา  กลับเดินอย่างปกติ ท่านเดินอย่างปกติ  แต่สำหรับคนทั่ว ๆ ไปอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ เนี่ยมองว่า ไม่ปกติ พราหมณ์ที่เป็นแมวมองจึงเข้าไปถามไถ่ว่า ทำไมไม่วิ่งอย่างคนอื่น ๆ การถามไถ่ในวัตรปฏิบัติอันดีงามของท่านมหาอุบาสิกาวิสาขาเช่นนี้แหละ ที่ชักนำท่านเข้าสู่พิธีการแต่งงาน  อันเป็นที่มาของเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ คุณจันทร์ฯ ก็ลองพิจารณาดูเอานะครับว่า  ปัจจุบันนี้มีใครที่มีวัตรปฏิบัติเทียบเท่าท่านมหาอุบาสิกาวิสาขาบ้าง ??? คณะกรรมการวัดพระธรรมกาย  คิดว่า  Miss Thailand Universe ทุกคนที่มารับบทมหาอุบาสิกาวิสาขา  นั้น มีความเป็นเบญจกัลยาณีที่เพรียบพร้อมเสมอกับท่านมหาอุบาสิกาวิสาขาหรือครับ ? เทียบกับความเป็นเบญจกัลยาณีของท่านมหาอุบาสิกาวิสาขาได้ ใครกล้ารับรองว่า Miss Thailand Universe ทุกคนที่มารับบทมหาอุบาสิกาวิสาขา  นั้น มีความเป็นเบญจกัลยาณีที่เพรียบพร้อมเสมอกับท่านมหาอุบาสิกาวิสาขาหรือครับ ? http://d71233.u23.bangkokserver.net/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=14&p=8 จากคุณ : ทวนทอง - [ 27 พ.ค. 51 12:00:00 ]

ความคิดเห็นที่ 139 จากคุณ : ทวนทอง - [ 27 พ.ค. 51 12:01:29 ]