|
พระเวสสันดรทิ้งลูก ทิ้งเมีย..จะเป็นตัวอย่างที่ดีได้อย่างไร?
ถาม... สิ่งที่มหาบุรุษของโลก รัก..เทิดทูลยิ่งกว่าชีวิตตนเอง..คืออะไร
ตอบ... ลูก และภริยา
ก่อนหน้านั้น พระองค์พุทธเจ้า เคยบริจาคชีวิตตนเองให้เป็นอาหารของสัตว์อื่นแล้วหลายครั้ง......ในเมื่อพระองค์สละ บุตรและภริยาที่รักได้..ก็ย่อมไม่มีสิ่งใดในจักรวาล..ที่พระองค์สละเพื่อผู้อื่นไม่ได้ อีกต่อไป
ถาม... ทหารที่ทิ้งลูกเมียไปรบ...เป็นคนเห็นแก่ตัวหรือไม่???
ถาม......ถ้าพระเวสสันดรไม่มีจิตเด็ดเดี่ยวพอ..ที่จะบริจาค บุตรและภริยา พระองค์จะมีพลานุภาพแห่งจิต..พอที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าได้หรือไม่ และถ้าพระองค์ไม่ได้ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า...แล้วลูกเมีย คือ พระนางพิมพา พระราหุล และพระกุมารกัสสปะ จะมีโอกาสบรรลุอรหันต์ตามพระองค์..เข้าถึงความพ้นทุกข์ได้หรือไม่
ตอบ.........????
การให้โอรสธิดาเป็นทานของพระเวสสันดรอาจสรุปได้เป็นประเด็นๆดังนี้
๑)เป็นเรื่องของปุตตทารบริจาค ..อันเป็นทานบารมีระดับหนึ่งที่มีเงื่อนไขผูกพันอยู่กับการจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าคือ พระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญบารมีเพื่อการตรัสรู้เป็น พระพุทธเจ้านั้นจะต้องมีพื้นฐานทางการเสียสละสูงมาก แม้ชีวิตก็อาจสละได้ การให้บุตรธิดาเป็นทาน จึงเป็นเรื่องที่พระองค์จะต้องเลือกเอาทางใดทางหนึ่งคือ
ถ้าต้องการเป็นพระพุทธเจ้าเพื่อช่วยสัตว์โลกให้ได้ก็ต้องสละบุตรธิดาเป็น ทานได้ หากสละบุตรธิดาเป็นทานไม่ได้ ก็เป็นพระพุทธเจ้าไม่ได้ ซึ่งเงื่อนไขที่คนต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดา สำหรับคนที่มีอุดมการณ์เพื่อทำงานอันเป็นประโยชน์ต่อคนมาก เช่น ทหารผู้ต้องไปราชการสงคราม ถ้าต้องการทำหน้าที่ของทหารก็ต้องทอดทิ้งลูกเมียไว้ที่บ้านบ้าง เพราะหากผู้เป็นทหารอยู่แต่ภายในบ้านจะปฏิบัติราชการสงครามได้อย่างไร แม้คนทำงานเพื่ออุดมคติอย่างอื่นเช่น ตำรวจ แพทย์ พยาบาล ครู เป็นต้น ก็ต้องพบกับการเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่เสมอ
๒)เป็นเหตุผลที่บิดาผู้รักและหวังดีต่อบุตรธิดาจะต้องกระทำ เพราะพระเวสสันดรเองไม่ทราบว่าการผนวชเป็นดาบสของพระองค์จะยุติลงเมื่อไร พระโอรสธิดานั้นยังเยาว์วัยยังมีอนาคตจำเป็นจะต้องได้รับการศึกษาในบ้านเมือง เมื่อชูชกมาขอจึงให้ไป ซึ่งสามารถตีค่าไถ่กลายเป็นเศรษฐีได้ทันที ชูชกแกไม่โง่จนถึงกับนำพระราชกุมาร ราชกุมารีทั้งสองไปเป็นคนใช้ เพราะชูชกทราบดีว่าค่าไถ่ขนาดนี้ คนอื่นไม่มีใครเขาไถ่หรอกนอกจากพระเจ้าสัญชัยแห่งเชตุดรผู้เป็นพระอัยกา ซึ่งตามเรื่องก็เป็นเช่นนั้นถ้ามองในจุดนี้การให้ทานของพระเวสสันดรแทนที่จะเป็นผลดีแก่ชูชกฝ่ายเดียวกลับได้ประโยชน์มหาศาลทั้งแก่พระองค์ พระญาติวงศ์ทั้งมวล ตามเนื้อเรื่องในนครกัณฑ์
๓)เพื่อป้องกันอันตรายแก่พระโอรสธิดา เพราะการอยู่ในป่าอาจเกิดอันตรายได้ ทั้งเป็นการสร้างความกังวลในการบำเพ็ญเพียรของพระองค์ และเป็นการขัดขวางโอกาสแห่งการศึกษาของพระโอรส พระธิดา การส่งกลับเมืองด้วยวิธีให้แก่ชูชก จึงเกิดผลอย่างสมบูรณ์แก่คนทุกฝ่าย อาจจะมีข้อโต้แย้งว่าถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไมจึงนำพระโอรส พระธิดาเข้าป่ามาด้วย ไม่เอาไว้ในเมืองกับพระอัยกาเสียเลยเล่า? ข้อนี้เราพบว่าเหตุการณ์ตอนนั้นมีกระแสการต่อต้านสูงมาก โดยเหตุผลจำเป็นต้องผ่อนคลายสถานการณ์ให้อ่อนความรุนแรงลงทั้งการพรากจากในลักษณะนั้นรุนแรงเกินกว่าที่จะเพิ่มการพลัดพรากจากลูกเข้าไปอีก แต่เมื่อเหตุการณ์ผ่านมานานพอสมควรแล้ว ทุกคนกลับได้ความคิดที่สมเหตุสมผลขึ้น ทุกอย่างจึงดำเนินไปในแนวทางที่ถูกที่ควรเสียทีและผลก็ออกมาเช่นนั้นจริงๆ
จากคุณ :
taetrue
- [
6 ก.ย. 51 18:14:42
]
|
|
|
|
|