ความคิดเห็นที่ 1 จขกท.กล่าวถึงผู้รู้บางท่านบอกว่า บารมี แปลว่า กำลังใจ นั้น บังเอิญหลายวันก่อนฟังเสียงคำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านสอนเรื่องนี้และกล่าวว่า บารมี คือ กำลังใจ ดังนั้น ที่ จขกท. กล่าวถึง "ผู้รู้บางท่าน" คงจะเป็นใครไปเสียมิได้ นอกจาก "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" ??? จากคุณ : Radiant, Archangel - [ 7 พ.ย. 51 10:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มารอฟังคำตอบ  ถามได้ดีนะเนี่ย... จากคุณ : muangsombut - [ 7 พ.ย. 51 11:01:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รอคำตอบเหมือนกัน คห.2 รูปโกลด์ครอสทั้ง 12 สวยดี ชอบซากะที่สุด จากคุณ : ณัฐกร - [ 7 พ.ย. 51 11:03:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จากคำถามของ จขกท. นั้น ปัญหาส่วนหนึ่งเกิดการการใช้คำศัพท์ในทางพุทธศาสนา และคำพูดที่ใช้อยู่ทั่วไปสับสนกันจนเป็นความคลาดเคลื่อนเข้าในผิด ตัวอย่าง คนทั่วไปมักพูดว่า อย่าไปทำร้ายมัน(สัตว์) นะเด็วเป็นกรรม จะบาป อย่าไปทำไม่ดีหล่ะจะเป็นกรรมเอาได้ จากตัวอย่างนี้เห็นได้ว่า คนทั่วไปมักใช้คำว่ากรรม หมายถึง อะไรสักอย่างที่ส่งผลร้าย แต่ความจริง กรรม ในทางพุทธศาสนา แปลว่า การกระทำ ซึ่งมีทั้ง การกระทำ กุศลกรรม และอกุศลกรรม ดังนั้น คำถามของ จขกท ที่ถามถึงคำว่า บารมี นั้น ก็ตอบได้โดยทำนองเดียวกัน แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 51 11:09:39 จากคุณ : Radiant, Archangel - [ 7 พ.ย. 51 11:08:56 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สำหรับ คำถามในประเด็นที่ว่า "บารมี" หมายถึง อะไร ในเรื่องนี้หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้เทศน์สอนเอาไว้ ขออนุญาตหาไฟล์เสียงก่อน ถ้าหาเจอแล้วจะนำมาลงต่อไปคัย จากคุณ : Radiant, Archangel - [ 7 พ.ย. 51 11:11:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นอีกคำนึงที่คนเราเอามาใช้ผิดๆๆซิเนี่ย น่าตลกดีเหมือนกันนะ ขนาดผมเองยังนึกว่า คำว่า บารมี คือลักษณะของผู้มีความยิ่งใหญ่อารายประมาณนั้น บารมี แปลว่า กำลังใจ 5555555 อย่างคำนี้ก็เหมือนกัน เบญจเพศ มาจากคำว่า เบญจะ +  วีสะ (เบญจะแปลกว่า 5 วีสะแปลว่า 20) พูดไปพูดมากลายเป็น เบญจเพศ ไปได้ จากคุณ : muk_22 - [ 7 พ.ย. 51 11:42:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เบญจเพส อ่ะ  ส เสือ ( ข้อสอบ Ent ชอบออก ) เบญจเพศ มันแปลว่า มี  5 เพศนะท่านพี่  -_-" จากคุณ : Radiant, Archangel - [ 7 พ.ย. 51 11:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มีผู้รู้กล่าวว่า บุญ คือ เครื่องชำระสันดาน ความดี กุศล ความสุข ความประพฑติชอบทางกาย วาจา และใจ กุศลธรรม บารมี คือ คุณความดีที่บำเพ็ญอย่างยิ่งยวด เพื่อบรรลุจุดหมายอันสูงยิ่ง จากหนังสือ วิธีสร้างบุญบารมี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สรุป บารมี ก็คือ บุญที่ทำอย่างยิ่งยวด(อาจจะถึงกับเอาชีวิตเป็นเดิมพัน แบบบารมี 30 ทัศ) สั่งสมตามติดมาข้ามภพข้ามชาติ -ทำไมเราต้องสร้างบุญ สร้างบารมี   สำหรับผมนะ  ที่ผมได้เกิดมามีครอบครับฐานะใช้ได้ ไม่ลำบาก มีกินมีใช้   ได้เรียนหนังสือจนถึงระดับนี้ ผมมั่นใจได้ว่า เป็น เพราะบุญเก่า ที่เคยทำมาในอดีตชาติก่อน มีคนอีกมากที่ไม่มีโอกาสแบบผม ลำบาก ยากจน ต้องเจอภัยพิบัติ   ถ้าจะเปรียบ บุญก็เหมือนกับข้าวในตุ่มข้าวสาร  ชีวิตผมมีความสุข ไม่ลำบาก อย่างทุกวันนี้ ก็คือผมกำลังทยอยใช้บุญเก่า  เหมือนข้าวสารในตุ่มที่กำลังค่อย ๆ ลดลง     ดังนั้นถ้าผมต้องการจะมีชีวิตที่สุขสบายอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ผมก็จะต้องเพิ่มข้าวในตุ่ม ก็คือ ทำบุญเพิ่มเพื่อทดแทนบุญเก่าที่หมดไปทุกวัน  ผมไม่อยากรอจนข้าวหมดก่อนแล้วจึงค่อยหาใหม่ เพราะไม่อยากให้ชีวิตลำบาก พอหมดบุญแล้วจึงคิดค่อยมาสร้างบุญ      ทีนี้เราก็ต้องมาคิดอีกว่า จะทำบุญอะไรที่ได้บุญเยอะ ๆ เพราะชีวิตผมมีจำกัดอาจจะตายหมดอายุขัยเมื่อไหร่ก็ได้ และทรัพย์สินเราก็มีจำกัด ก็ได้คำตอบว่า ทำบุญกับเนื้อนาบุญ (ซึ่งก็มีละเอียดไปอีกว่าเนื้อนาบุญมีหลายระดับ ตั้งแต่ผู้ถือศีล 5 ไปจน พระที่ปฏิบัติ)       ถ้ายังมีโอกาสสร้างบุญได้ ก็รีบทำกันเถอะครับ ตอนนี้เรายังมีโอกาส เป็นมนุษย์อยู่ มีเนื้อนาบุญอยู่ บุญใช้ไปไม่สร้างเพิ่มก็หมดเหมือนกันเมื่อนั้น บาปทั้งหลายก็จะได้ช่องส่งผล คราวนี้ลำบากแน่ ถึงแม้จะเป็น มหาเศรษฐี กษัตริย์ เมื่อบุญหมดก็แย่เหมือนกัน        สร้างบุญไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงที่สุด คือไม่เกิดอีก บาปกรรมตามไม่ทันอย่างถาวร เพราะหมดกิเลสแล้ว แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 51 12:06:55 จากคุณ : KornM - [ 7 พ.ย. 51 12:06:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 บารมี [-ระมี] น. (1) คุณความดีที่ควรบําเพ็ญมี ๑๐ อย่าง คือ ทาน ศีล                           เนกขัมมะ (การออกจากกาม คือ บวช) ปัญญา วิริยะ ขันติ                          สัจจะ อธิฏฐาน เมตตา อุเบกขา เรียกว่า ทศบารมี;                     (2) คุณความดีที่ได้บําเพ็ญมา,                     (3) คุณสมบัติที่ทําให้ยิ่งใหญ่, เช่นว่า                        - ชมพระบารมี                        - พระบารมีปกเกล้าฯ                        - พ่ายแพ้แก่บารมี. (ป. ปารมี). บุญ, บุญ- [บุน, บุนยะ-] น. (1) การกระทําดีตามหลักคําสอนในศาสนา;                                    (2) ความดี, คุณงามความดี.                                ว.  (3) ดี   เช่น  คนใจบุญ,                                    (4) มีคุณงามความดี เช่น คนมีบุญ.                                    (ป. ปุญฺ?; ส. ปุณฺย). พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ http://rirs3.royin.go.th/dictionary.asp จากคุณ : wichaphon_me - [ 7 พ.ย. 51 12:12:49 ]

ความคิดเห็นที่ 10 บารมี  คุณความดีที่บำเพ็ญอย่างยิ่งยวด เพื่อบรรลุจุดหมายอันสูงยิ่ง         มี ๑๐ คือทาน, ศีล, เนกขัมมะ, ปัญญา, วิริยะ, ขันติ, สัจจะ,        อธิษฐาน, เมตตา, อุเบกขา พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ http://www.84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=บารมี [325] บารมี 10 หรือ ทศบารมี (ปฏิปทาอันยวดยิ่ง, คุณธรรมที่ประพฤติปฏิบัติอย่างยิ่งยวด คือ ความดีที่บำเพ็ญอย่างพิเศษ เพื่อบรรลุซึ่งจุดหมายอันสูง เช่น ความเป็นพระพุทธเจ้า และความเป็นมหาสาวก เป็นต้น — perfections)       1. ทาน (การให้ การเสียสละ — giving; charity; generosity; liberality)       2. ศีล (การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย, ความประพฤติดีงามถูกต้องตามระเบียบวินัย — morality; good conduct)       3. เนกขัมมะ (การออกบวช, ความปลีกตัวปลีกใจจากกาม — renunciation)       4. ปัญญา (ความรอบรู้, ความหยั่งรู้เหตุผล เข้าใจสภาวะของสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง — wisdom; insight; understanding)       5. วิริยะ (ความเพียร, ความแกล้วกล้า ไม่เกรงกลัวอุปสรรค พยายามบากบั่นอุตสาหะ ก้าวหน้าเรื่อยไป ไม่ทอดทิ้งธุระหน้าที่ — energy; effort; endeavour)       6. ขันติ (ความอดทน, ความทนทานของจิตใจ สามารถใช้สติปัญญาควบคุมตนให้อยู่ในอำนาจเหตุผล และแนวทางความประะพฤติ ที่ตั้งไว้เพื่อจุดหมายอันชอบไม่ลุอำนาจกิเลส — forbearance; tolerance; endurance)       7. สัจจะ (ความจริง คือ พูดจริง ทำจริง และจริงใจ — truthfulness)       8. อธิษฐาน (ความตั้งใจมั่น, การตัดสินใจเด็ดเดี่ยว วางจุดหมายแห่งการกระทำของตนไว้แน่นอน และดำเนินตามนั้นแน่นแน่ — resolution; self-determination)       9. เมตตา (ความรักใคร่, ความปรารถนาดี มีไมตรี คิดเกื้อกูลให้ผู้อื่นและเพื่อนร่วมโลกทั้งปวงมีความสุขความเจริญ — loving-kindness; friendliness)       10. อุเบกขา (ความวางใจเป็นกลาง, ความวางใจสงบราบเรียบสม่ำเสมอ เที่ยงธรรม ไม่เอนเอียงไปด้วยความยินดียินร้ายหรือชอบฟัง — equanimity; indifference to praise and blame in the performance of duty)       ทศบารมีนี้ เรียงตามที่ถือว่าได้บำเพ็ญในทศชาติ (จัดแบบไทย) ดังนี้       1. พระเตมีย์ — เนกขัมมะ (ข้อที่ 3)       2. พระมหาชนก — วิริยะ (5)       3. พระสุวรรณสาม — เมตตา (9)       4. พระเนมิราช — อธิษฐาน (8)       5. พระมโหสถ — ปัญญา (4)       6. พระภูริทัตต์ — ศีล (2)       7. พระจันทกุมาร — ขันติ (6)       8. พระนารท — อุเบกขา (10)       9. พระวิธุร — สัจจะ (7)       10. พระเวสสันดร — ทาน (1)       บารมีนั้น ท่านกล่าวว่าจะบำเพ็ญให้บริบูรณ์ ต้องครบ 3 ขั้น คือ       1. บารมี (ระดับสามัญ เช่น ทานบารมี ได้แก่ ให้ทรัพย์สินเงินทอง สมบัตินอกกาย — ordinary perfections)       2. อุปบารมี (ระดับรองหรือจวนจะสูงสุด เช่น ทานอุปบารมี ได้แก่ การเสียสละอวัยวะเป็นทาน — superior perfections)       3. ปรมัตถบารมี (ระดับสูงสุด เช่น ทานปรมัตถบารมี ได้แก่ การสละชีวิตเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น — supreme perfections)       บำเพ็ญทั้ง 10 บารมี ครบ 3 ขั้นนี้ เรียกว่า สมตึสปารมี หรือ สมดึงสบารมี แปลว่า บารมี 30 ถ้วน. พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พิมพ์ครั้งที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๔๖ http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=บารมี บุญ เครื่องชำระสันดาน, ความดี, กุศล, ความสุข, ความประพฤติชอบทางกายวาจาและใจ, กุศลธรรม พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ http://www.84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=บุญ [88] บุญกิริยาวัตถุ 3  (ที่ตั้งแห่งการทำบุญ, เรื่องที่จัดเป็นการทำความดี, หลักการทำความดี, ทางทำความดี — bass of meritorious action; grounds for accomplishing merit)       1. ทานมัย บุญกิริยาวัตถุ (ทำบุญด้วยการให้ปันสิ่งของ — meritorious action consisting in giving or generosity)       2. สีลมัย บุญกิริยาวัตถุ (ทำบุญด้วยการรักษาศีล หรือประพฤติดีมีระเบียบวินัย — meritorious action consisting in observing the precepts or moral behaviour)       3. ภาวนามัย บุญกิริยาวัตถุ (ทำบุญด้วยการเจริญภาวนา คือฝึกอบรมจิตใจ — meritorious action consisting in mental development) [[89] บุญกิริยาวัตถุ 10 (ที่ตั้งแห่งการทำบุญ, ทางทำความดี — bases of meritorious action)       1. ทานมัย (ทำบุญด้วยการให้ปันสิ่งของ — meritorious action consisting in generosity; merit acquired by giving)       2. สีลมัย (ทำบุญด้วยการรักษาศีลหรือประพฤติดี — by observing the precepts or moral behavior)       3. ภาวนามัย (ทำบุญด้วยการเจริญภาวนาคือฝึกอบรมจิตใจ — by mental development)       4. อปจายนมัย (ทำบุญด้วยการประพฤติอ่อนน้อม — by humility or reverence)       5. เวยยาวัจจมัย (ทำบุญด้วยการช่วยขวนขวายรับใช้ — by rendering services)       6. ปัตติทานมัย (ทำบุญด้วยการเฉลี่ยส่วนแห่งความดีให้แก่ผู้อื่น — by sharing or giving out merit)       7. ปัตตานุโมทนามัย (ทำบุญด้วยการยินดีในความดีของผู้อื่น — by rejoicing in others’ merit)       8. ธัมมัสสวนมัย (ทำบุญด้วยการฟังธรรมศึกษาหาความรู้ — by listening to the Doctrine or right teaching)       9. ธัมมเทสนามัย (ทำบุญด้วยการสั่งสอนธรรมให้ความรู้ — by teaching the Doctrine or showing truth)       10. ทิฏฐุชุกัมม์ (ทำบุญด้วยการทำความเห็นให้ตรง — by straightening one’s views or forming correct views)       ข้อ 4 และข้อ 5 จัดเข้าในสีลมัย; 6 และ 7 ในทานมัย; 8 และ 9 ในภาวนามัย; ข้อ 10 ได้ทั้งทาน ศีล และภาวนา พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พิมพ์ครั้งที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๔๖ http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=บุญ จากคุณ : wichaphon_me - [ 7 พ.ย. 51 12:20:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอบแบบใช้ความเข้าใจของตัวเอง บารมีมักมาคู่กับบุญ คือบุญบารมี คือคนที่ทำคุณงามความดีมากๆ เช่นเคยช่วยเหลือคนมามาก บางคนมีบุญเยอะแต่ไม่มีบารมี คงเป็นเพราะจิตในขณะทำความดีด้วย เช่น ช่วยเหลือคนยากคนจนมามากด้วยใจเมตตาจริงๆ คนเช่นนี้จะมีบารมี มาก เพราะอนิสงส์ของการช่วยเหลือคนไว้เยอะ คือมีบุญเยอะ แต่คนที่ช่วยเหลือคนแบบไม่จริงใจ เช่นทำอะไรเพื่อตัวเองให้ได้หน้า แบบนี้จะไม่มีบารมีมาก จะมีแต่บุญ จากคุณ : รักดี - [ 7 พ.ย. 51 12:56:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ง่ายๆแต่เข้าใจ เห็นด้วยกับคุณรักดีค่ะ จากคุณ : หญ้าสีเขียว - [ 7 พ.ย. 51 14:01:57 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมจะคอยดู เรื่อง "อธิษฐานบารมี" ว่าจะยกมาเมื่อไหร่ครับ จากคุณ : จิตป๊อบแป๊บ (JitZungkabuai) - [ 7 พ.ย. 51 14:04:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 บารมีคือ การบำเพ็ญ เป็นการบำเพ็ญเพื่อจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ และหากเป็นบารมีของพระโพธิสัตว์ เพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว จะมี 10 ประการ ดังข้างต้น แต่บารมีเหล่านี้ จะต้องเริ่มที่ อธิษฐานบารมี  คือการกำหนดจุดหมายของการบำเพ็ญ และการสะสมบารมีนี้ บางครั้ง ก็ไม่ได้เป็นการกระทำ ที่เป็นบุญ 100 เปอร์เซ็น แต่เป็นกุศลแน่นอน กุศล คือ การกระทำที่นำประโยชน์ บุญ คือ การกระทำที่เป็นความดี พระโพธิสัตว์บางครั้ง ก็ทรงทำสิ่งที่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นบุญ แต่เป็นกุศลแน่นอน และเป็นไปเพื่อการสร้างบารมี เฃ่น พระเวสสันดร ยกพระมเหสี ราชโอรส ราชธิดา ให้กับคนอื่น นี้ไม่ใช่บุญ(บางคนมองว่าเห็นแก่ตัวจนน่าเป็นบาปด้วยซ้ำ) หากแต่เป็นกุศลที่ทรงบำเพ็ญ เพื่อให้ได้มาซึ่งทานบารมี อันจะเป็นหนทางเห็นโพธิญาณ หรือ อย่างที่พระในหนังจีนชอบพูดว่า "อาตมาไม่ลงนรกแล้วใครจะลง" นอกจากมีความหมายถึงการเสียสละตน แล้ว ยังหมายถึง การที่ ผู้แสวงหาโพธิญาณบางครั้งก็ต้องทำในสิ่งที่ดูเป็นบาป เพื่อช่วยเหลือคนอื่นไม่ให้ตกอยู่มิจฉาทิฐิที่จะทำให้เขาทำบาปต่อไปเรื่อยๆ (มหายาน) ดังนั้น คำว่า บารมี คือ การบำเพ็ญ/กระทำอันยากยิ่ง เพื่อให้ถึงจุดหมาย ส่วนคำว่า บุญ คือ การกระทำในสิ่งที่ดี เป็นประโยชน์แก่ตนเอง และ กุศล หมายถึง การกระทำที่จะส่งผลดี (ผิดถูกอย่างไร แลกเปลี่ยนกันได้ครับ) แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 51 15:06:19 จากคุณ : <<First>> - [ 7 พ.ย. 51 15:04:27 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ในทศบารมีในพุทธศาสนาเถรวาท สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ความตอนหนึ่ง คำว่าบารมี ตามรูปศัพท์แล้ววิเคราะห์ศัพท์เป็น ๒ แนวทางคือ ๑. มาจากคำศัพท์ ปรม ประกอบด้วยปัจจัยเป็น ปารมี มีความหมายว่าความเป็นเลิศ ๒. มาจากการประกอบ ปารมีศัพท์ กับ อิธาตุ มีความหมายว่าธรรมเครื่องถึงฝั่ง บารมีในพระไตรปิฎกได้ให้ความหมายหนึ่ง คือเป้าหมายของการปฏิบัติธรรม อีกความหมายหนึ่งคือเป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อบรรลุถึงเป้าหมายสูงสุดคือหมดกิเลส เป็นพระอรหันต์ ในปรมัตถทีปนี อรรถกถาขุททกนิกาย จริยาปิฎก ความตอนหนึ่งกล่าวถึงบารมีดังนี้ บารมีเพราะอรรถว่ากระไร? ... ...  อีกอย่างหนึ่ง บารมีย่อมผูกสัตว์อื่นไว้ในตนด้วยการประกอบคุณวิเศษ. หรือบารมีย่อมขัดเกลาสัตว์อื่นให้หมดจดจากมลทินคือกิเลส. หรือบารมีย่อมถึงนิพพานอันประเสริฐที่สุดด้วยคุณวิเศษ. หรือบารมีย่อมกำหนดรู้โลกอื่นดุจรู้โลกนี้ด้วยคุณวิเศษคือญาณอันเป็นการกำหนดแล้ว. หรือบารมีย่อมตักตวงคุณมีศีลเป็นต้นอื่นไว้ในสันดานของตนเป็นอย่างยิ่ง. หรือบารมีย่อมทำลายปฏิปักษ์อื่นจากธรรมกาย อันเป็นอัตตาหรือหมู่โจรคือกิเลสอันทำความพินาศแก่ตนนั้น เพราะเหตุนั้นจึงชื่อว่าปรมะ. ที่เราต้องสร้างบารมี ก็เพราะเราต้องช่วยเหลือตนเองและช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นทุกข์ด้วย เนื่องจากมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนมีความทุกข์เป็นพื้นฐานและต่างก็ปราวรณาที่จะหลุดพ้นความทุกข์ทรมาน เพียงแต่ไม่รู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุของการให้เกิดทุกข์ จะดับทุกข์ได้อย่างไร ความไม่รู้ทำให้หลงวนเวียนอยู่ในสังสารวัฎไม่รู้จักจบสิ้น ชีวิตก็ตกอยู่ในกรอบของอวิชชา ตกเป็นทาสของพญามารที่คอยบัญชาอยู่ร่ำไป การจะทำตนให้หลุดพ้นจากอาสวะกิเลส ต้องอาศัยการสร้างบารมีนี่แหละ จากบุญที่สั่งสมกันมามากๆเข้าก็กลายเป็นบารมี จากบารมีขั้นธรรมดา เมื่อสั่งสมมากเข้ามากเข้า บารมีนั้นก็แก่กล้ามากขึ้นเป็นอุปบารมี และปรมัตถบารมีครับ จากคุณ : ebusiness - [ 7 พ.ย. 51 15:05:11 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อธิบายนะขอรับ ผมชอบอ่านครับ เรื่องอธิษฐาน และ บารมีสิบ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 51 15:20:16 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 พ.ย. 51 15:19:21 ]

ความคิดเห็นที่ 18 บังเอิญเข้ามา ตอบแบบผมนะ    ถ้ามีน้ำบ่อหนึ่ง  จิตสำนึก คือน้ำที่อยู่บนผิวบ่อ   จิตใต้สำนึกคือ น้ำที่อยู่ก้นบ่อ   เมื่อเราทำอะไรไป  สิ่งนั้นไม่ได้หายไปไหน   ก็จะลงไปอยู่ใต้บ่อ  เช่นใบไม้ที่ตกลงในบ่อนั้นเอง  บุญ หรือ บาป ก็เช่น กัน  ดังนั้นเราต้องคิดพิจารณาให้ดี  ในการกระทำทุกอย่าง  จะสั่งสมไว้  เมื่อเกิดใหม่  จะนำสิ่งที่สั่งสม มาด้วย   เช่นเมื่อชาติก่อนเป็นศัตรู กันมา  พอชาตินี้พอเห็นหน้าก็ไม่ชอบกัน  ทั้ง ๆที่บางทียังไม่ได้ทำอะไร  เพราะเหมือนมี อะไรโยนลงไปในใต้จิตสำนึก  แล้วฟุ้งกระจายออกมา  ถ้าทำดี ก็จะสะสมไว้ที่เราเรียกว่า บารมีไงล่ะครับ จากคุณ : notsugar - [ 7 พ.ย. 51 17:32:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาคอยอ่าน..................................... คอยฟังคำสอนของ"หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" ชอบท่านเป็นผู้ไม่ยึดติด และกตัญญู จากคุณ : end...bye - [ 7 พ.ย. 51 17:40:11 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่าเราทุกคนเองก็บำเพ็ญ  ขันติบารมี กันอยู๋ไม่น้อยเลย  ในการสนทนาธรรมในแต่ละครั้ง   สำหรับผมเอง ไม่ค่อยมีความกระจ่างในธรรม   แต่พอฟังคำตอบของคุณ รักดี แล้ว รู้สึกว่าความหมายน่าจะใกล้เคียงกับคำว่าคุณความดีที่บำเพ็ญอย่างยิ่งยวด   แต่ของเพิ่มอีก นอกจากทำบุญด้วยใจที่ปลื้มในบุญเต็มที่แล้ว  การทำบุญที่ไม่ขาดช่วงทำอย่างสม่ำเสมอ  ก็น่าจะเป็นการทำคุณความดีที่บำเพ็ญอย่างยิ่งยวด ฟังธรรมจากทุกท่านแล้ว ชอบครับ  อนุโมทนาบุญด้วยละกันครับ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 51 17:52:07 จากคุณ : kraho - [ 7 พ.ย. 51 17:46:48 ]

ความคิดเห็นที่ 21 การที่เราจะหลุดพ้นวัฏฏะ ไปได้ ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่ผู้รู้บางคนเข้าใจ  เพียงแค่นั่งสมาธิอย่างเดียว  แล้วสามารถไปเป็นพระโสดาบัน  หากมีจิตตั้งมั่นต้องการเป็นพระโสดาบันกันในชาตินี้  จะต้องทำบุญสร้างบารมีครบทั้งสิบอย่างยิ่งยวดกันเลย ดังตัวอย่างให้เห็นว่า   กว่าจะมาเป็นพระพุทธเจ้าได้  ไม่ใช่ง่าย ต้องสร้างบารมีทั้งสิบข้อ สิบชาติ ปลื้มในบุญ จากคุณ : kraho - [ 8 พ.ย. 51 00:40:44 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เป็นกระทู้ที่ดีมากๆ ตอบดีทุกคน ผมเลยให้ GIVE แบบพิเศษเลย เอารูป หัวใจ อันใหญ่ๆ ไป อิอิ จากคุณ : muangsombut - [ 8 พ.ย. 51 01:34:37 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แนะนำให้อ่านหนังสือ "บารมี ยิ่งยวด หรือ ยิ่งใหญ่" ของพระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุต.โต)แล้วจะกระจ่างเองครับ http://118.175.68.30/books/pdf/barami.pdf ถ้ามีเวลาก็อีกเล่ม "บุญ-บารมีที่จะกู้แผ่นดินไทย" ของผู้เขียนคนเดียวกัน ยังพอหาได้ที่ มหาจุฬาบรรณาคาร กับที่ธรรมสภา ครับ จากคุณ : ทิดมีน (mean2523) - [ 8 พ.ย. 51 10:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ... ความหมายที่เพี้ยนไปนี้คือไปมองที่ผล เอาผล ที่เกิดขึ้น แต่ของพระท่านมองที่เหตุ คือ การทำเหตุ “การทำความ ดีที่เป็นตัวเหตุ เรียกว่าเป็นบารมี” แต่คนไทยเรามามองที่ผล ว่าคนที่มีกำลังมีอิทธิพลอย่าง นั้นแล้วเรียกว่าเป็นบารมี ก็เลยเป็นความหมายที่เคลื่อนคลาดไป ถ้าจะปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา จะต้องไปเน้นที่ ตัวการประพฤติปฏิบัติ หรือตัวคุณธรรมที่จะบำเพ็ญนั้น แล้วทำ “เหตุ” สำเร็จแล้ว ก็จะเกิดเป็น “ผล” ขึ้นเอง และเป็นผลที่ ดีงาม เป็นคุณแท้จริง ไม่ใช่อิทธิพลที่ส่งผลร้ายคุกคามข่มขี่คนอื่น ถ้าเราตั้งใจทำความดีอย่างจริงจัง ก็จะเกิดเป็นบารมี ขึ้นมาอย่างที่ว่า คนที่ทำความดีจนกระทั่งเห็นกันชัดๆ คนรู้กัน ทั่วไป เป็นที่เชื่อถือในเรื่องนั้นๆ ได้รับความเคารพนับถือใน ระดับนั้นๆ ก็เพราะเขาได้สั่งสมบารมีมามาก เราก็เลยเรียกสั้นๆ ว่า เขามีบารมีมาก ก็คือเขามีคุณธรรมความดีที่ได้สั่งสมมามาก นั่นเอง เราจะต้องพยายามทำความเข้าใจในเรื่องบารมีให้ถูกต้อง พยายามตรวจสอบกันอยู่เสมอ ในภาษาไทยนี้คำศัพท์ต่างๆ ทาง ธรรมะที่นำมาใช้นั้น ความหมายคลาดเคลื่อนไปไกลก็มีมากมาย ศัพท์ประเภทนี้คนนำมาใช้ต่อๆ ตามๆ กัน แล้วความหมายก็ เลือนไป... ... ^ ^ บางส่วนจาก ปาฐกถาธรรมเรื่อง “บารมี” ... ท่านเจ้าคุณอาจารย์ พระเทพเวที http://118.175.68.30/books/pdf/barami.pdf ________________________________________________ ขอบคุณ คุณทิดมีน (mean2523) ครับ :) จากคุณ : JitZungkabuai - [ 8 พ.ย. 51 11:38:53 ]

ความคิดเห็นที่ 25 บารมี  ทำได้ยากกว่า บุญ จากคุณ : LArc026 - [ 8 พ.ย. 51 21:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เดี๋ยว นี้  ไปอยู่ที่  บอร์ด ของ DMC เลยเข้ามาที่นี่ น้อยลง ครับ เพื่อน ติดตาม  ตามติด ไปที่ DMC บ้างนะครับ จากคุณ : kraho - [ 10 พ.ย. 51 01:41:26 ]

ความคิดเห็นที่ 27 บารมี แปลว่า กำลังใจ จริงๆครับ ในที่นี่ หมายถึง กำลังใจในการทำความดี ต้องเรื่มต้น จากทาน ศีล ภาวนา ตามลำดับ ยกตัวอย่างเช่น นาย ก มีบารมีเต็มในเรื่องของทาน  ดังนั้น นาย ก จึง ชอบทำทานมากๆและ เก่งในเรื่องของการทำบุญรูปแบบต่างๆ   แต่ นาย ก  มีบารมีในเรื่องของศีล ไม่เต็ม ทำให้ นาย ก รักษาศีลได้เพียงบางข้อ จากคุณ : excaribur - [ 14 พ.ย. 51 22:46:24 ]