Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ความเป็นมาของพระไตรปิฎก

    ความเป็นมาของพระไตรปิฎก
    เสฐียรพงษ์ วรรณปก

    (...เนื้อหายาวมากครับ อ่านตาลายแน่ ผมแนะนําว่าไม่SAVEไว้ก็ต้องปริ๊นท์อ่านครับ ...TerraN)

    พระไตรปิฎกเป็นคัมภีร์หลักของพระพุทธศาสนา ดุจเดียวกับคัมภีร์ไบเบิลของคริสตศาสนา คัมภีร์อัลกุรอานของศาสนาอิสลาม และไตรเพทของศาสนาพราหมณ์

    ตามรูปศัพท์ คำว่า "พระไตรปิฎก" (บาลี-ติปิฏกํ หรือเตปิฏกํ) มาจาก พระ (คำยกย่อง แปลว่า ประเสริฐ) + ไตร (สาม) + ปิฎก (ปิฏก) รวมแล้วแปลว่า ปิฎกสามอันประเสริฐ

    เฉพาะคำว่า "ปิฎก" (บาลี - ปิฏกํ) พระอรรถกถาจารย์ได้ให้ความหมายไว้ 2 ประการ คือ

    1. ปิฎก หมายถึง คัมภีร์หรือตำรา ดังประโยคบาลีว่า มา ปิฏกสมฺปทาเนน อย่าเชื่อถือโดยการอ้างตำรา

    2. ปิฎก หมายถึง ภาชนะ (เช่น ตะกร้า) ดังประโยคบาลีว่า อถ ปุริโส อาคจฺเฉยํย กุทฺทาลปิฏกมาทาย ครั้งนั้นบุรุษคนหนึ่งถือจอบและตะกร้าเดินมา

    ดังนั้น พระไตรปิฎก จึงหมายถึงคัมภีร์หรือตำราที่บรรจุคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า (และของพระสาวกสำคัญบางรูป) รวบรวมไว้เป็นหมวดหมู่ ดุจเดียวกับตะกร้าอันเป็นภาชนะสำหรับใส่รวมของต่างๆ ไว้


    ๏ ปิฎกทั้ง 3 คือ

    1. พระวินัยปิฎก ว่าด้วยวินัยหรือข้อบัญญัติเกี่ยวกับความประพฤติ ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมและการดำเนินกิจการต่างๆ ของภิกษุสงฆ์และภิกษุณีสงฆ์

    2. พระสุตตันตปิฎก ว่าด้วยพระสูตรหรือเทศนาที่ตรัสแก่บุคคลต่างๆ ในเวลาและสถานที่แตกต่างกัน เป็นรูปคำสนทนาโต้ตอบบ้าง คำบรรยายธรรมบ้าง เป็นรูปร้อยกรองบ้าง ร้อยแก้วบ้าง ร้อยแก้วผสมร้อยกรองบ้าง ตลอดถึงเทศนาของพระสาวกสำคัญบางรูป

    3. พระอภิธรรมปิฎก ว่าด้วยหลักธรรมต่างๆ ที่อธิบายในแง่วิชาการล้วนๆ ไม่เกี่ยวด้วยบุคคลหรือเหตุการณ์ ส่วนมากเป็นคำสอนด้านจิตวิทยาและอภิปรัชญาในพระพุทธศาสนา


    ๏ การจัดรูปแบบพุทธวจนะในสมัยพุทธกาล

    สมัยพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่นั้น หลักธรรมคำสอนต่างๆ ของพระองค์ยังมิได้จัดเป็นหมวดหมู่หรือเป็นระเบียบแบบแผนแต่อย่างใด ยังไม่มีพระไตรปิฎกบันทึกคำสอนดังที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบัน พุทธวจนะ หรือคำสอนของพระพุทธเจ้ามีชื่อเรียกกันสมัยนั้น 2 อย่างคือ

    (1) เรียก พรฺหฺมจริย (พรหมจรรย์) ดังพุทธวจนะที่ตรัสเมื่อครั้งทรงส่งพระอรหันต์สาวก 60 รูป ไปเผยแผ่พระศาสนาครั้งแรกว่า

    จรถ ภิกฺขเว จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย
    อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ เทเสถ ภิกฺขเว ธมฺมํ อาทิกลฺยาณํ
    มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ
    ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสถ

    ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงเที่ยวไป เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่พหูชน เพื่อความสุขแก่พหูชน เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงแสดงธรรม อันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด จงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถและพยัญชนะอันบริสุทธิ์บริบูรณ์โดยสิ้นเชิง

    (2) เรียกว่า ธมฺมวินย (ธรรมวินัย) ดังพุทธวจนะที่ตรัสแก่พระอานนท์ พุทธอนุชาก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพานว่า

    โย โว อานนฺท ธมฺโม จ วินโย จ มยา เทสิโต
    ปญฺญตฺโต โส โว มมจฺจเยน สตฺถา

    ดูก่อนอานนท์ ธรรม และ วินัย ใดที่เราตถาคตแสดงไว้แล้ว
    บัญญัติไว้แล้ว ธรรม และ วินัย นั้นจะเป็นศาสดาของพวกเธอ เมื่อเราตถาคตล่วงลับไปแล้ว


    ๏ มีหลักฐานบางประการบ่งชี้ว่า
    ได้มีการแบ่งพุทธวจนะเป็นรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งบ้างแล้ว เช่น

    1. แบ่งเป็น นวังคสัตถุสาสน์ (สัตถุสาสน์ 9 ประการ) คือ

    (1) สุตตะ คำสอนประเภทร้อยแก้วล้วน อรรถกถาอธิบายว่า ได้แก่อุภโตวิภังค์ (ปาติโมกข์ทั้งสองฝ่าย) ขันธกะ บริวาร นิเทศ และพระสูตรในสุตตนิบาตรวมทั้งสูตรอื่นๆ ที่ไม่มีชื่อกำกับว่า "สูตร" ด้วย

    (2) เคยยะ คำสอนประเภทร้อยแก้วผสมร้อยกรอง หมายเอาพระสูตรที่มีคาถาทั้งหมดโดยเฉพาะสคาถวรรคสังยุตตนิกาย

    (3) เวยยากรณะ คำสอนประเภทที่เป็นอรรถาธิบายโดยละเอียดเป็นร้อยแก้วล้วนๆ เช่น อภิธรรมปิฎก พระสูตรที่ไม่มีคาถา และพระพุทธพจน์อื่นที่ไม่นับเข้าในองค์ 8 ข้อที่เหลือ

    (4) คาถา คำสอนประเภทร้อยกรองล้วน เช่น ธรรมบท เถรคาถา เถรีคาถา และคาถาล้วนในสุตตนิบาตที่ไม่มีชื่อกำกับว่า "สูตร"

    (5) อุทาน คำสอนประเภทที่เปล่งขึ้นจากแรงบันดาลใจของพระพุทธเจ้า และพระสาวก ส่วนมากจะเป็นบทร้อยกรอง

    (6) อิติวุตตกะ คำสอนประเภทคำอ้างอิงที่ยกข้อความที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้มาอ้างเป็นตอนๆ ได้แก่ พระสูตรสั้นๆ 110 สูตรที่ขึ้นต้นด้วยว่า "วุตฺตํ เหตํ ภควตา"

    (7) ชาตกะ (ชาดก) คำสอนประเภทนิทานชาดกหรือเรื่องราวในชาติปางก่อนของพระพุทธเจ้าขณะเป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีอยู่

    (8) อัพภูตธรรม คำสอนประเภทเรื่องอัศจรรย์เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าและพระสาวกทั้งหลาย เช่น พระพุทธองค์สมัยอยู่ในพระครรภ์พระนางสิริมหามายา นั่งสมาธิผินพระพักตร์ออกมาทางด้านหน้าพระอุทร ไม่แปดเปื้อนด้วยมลทินครรภ์เหมือนทารกธรรมดาทั่วไป นี้เป็นเรื่องอัศจรรย์เกี่ยวกับพระโพธิสัตว์ เป็นต้น

    (9) เวทัลละ คำสอนประเภทคำถาม-คำตอบ เวทัลละ แปลว่า ได้ความรู้ ความปลื้มใจ หมายถึง ผู้ถามได้ความรู้และความปลื้มใจแล้วก็ถามต่อไปเรื่อยๆ

    การแบ่งพุทธวจนะเป็น 9 หมวดนี้ มีมาแล้วตั้งแต่สมัยพุทธกาล ก่อนที่จะมีพระไตรปิฎก เป็นการจัดรูปแบบหรือการแบ่งหมวดหมู่ที่เก่าแก่มากเท่าที่มีหลักฐานปรากฏ

     
     

    จากคุณ : Mr.Terran - [ 9 ม.ค. 52 14:18:18 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป


Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com