ความคิดเห็นที่ 1 ผู้ประพันธ์ได้กำหนดตัวแสดง คือ ชายหนุ่มผู้หนึ่งเป็นไข้หลับไปเห็นภาพในโลกอื่นที่มิใช่โลกมนุษย์ ได้เห็นสิ่งต่างๆในเมืองนรกที่มีแต่ความน่ากลัว ได้เห็นความรื่นรมย์จากธรรมชาติในเมืองสวรรค์ ในตอนท้ายของบทประพันธ์ชายหนุ่มผู้นี้ได้พบมารดาที่ตายไปแล้วไปอยู่บนสวรรค์ จึงได้รู้ว่าเหตุที่มารดามีทิพยสมบัติเพราะประกอบกรรมดี แล้วมารดายังได้สอนลูกให้ทำแต่ความดีเมี่อยังมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์เพื่อพบกับความสุขในภพปัจจุบัน และบุญกุศลนี้เองจะส่งผลต่อเมี่อละโลกมนุษย์ไป ผู้ประพันธ์เริ่มต้นด้วยการจำลอง ว่า มีชายหนุ่มผู้หนึ่งเป็นไข้หลับไปได้เห็นภาพในโลกอื่นที่ไม่ใช่มนุษยโลก ประหนึ่งว่าได้ไปชมเมืองเปรต เมืองนรก เมืองสวรรค์   โดยเริ่มจากชมเมืองนรกและเมืองเปรต จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:19:54 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สอบไล่เสร็จ เตร็จเตร่ ห่างเคหา เป็นเวรกรรม จำใจ อาลัยลา พลัดยุพา เพียงครู่ ดูสักเดือน ยามสายัณห์ ตะวันรอน จรจากบ้าน ดวงวิญญาณ ลอยล่อ ไร้ผองเพื่อน เหลือร่างนิ่ง อิงหมอน นอนในเรือน ญาติมาเยือน เยี่ยมไข้ ร้องไห้โฮ ออกจากทับ เดินทาง มากลางเถื่อน รวดเร็วเหมือน หมู่นก เที่ยวผกโผ ลุเมืองหนึ่ง พึงใจ ยาวใหญ่โต แต่พอโผล่ ประตู หดหู่ใจ เหมือนเมืองผี ปีศาจ หวาดวิตก บุรีรก เป็นพง แสนสงสัย รีบลัดเลาะ เหยาะย่าง เข้าข้างใน มีแสงไฟ ส่องสว่าง กลางพารา จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:20:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นงิ้วหนาม หนาน่า หวาดหวั่น ขึ้นลดหลั่น เรียงราย ทั้งซ้ายขวา หมู่หญิงชาย ป่ายปีน จนตีนชา ทั่วกายา เปลือยเปล่า หนังเน่าพอง หนามแหลมตำ เนื้อหนัง เลือดหลั่งไหล หมู่หนอนไช ชอนทั่ว ตัวเป็นหนอง ร้องโหยหวน ครวญคร่ำ น้ำตานอง พี่เหม่อมอง เมินหน้า ไม่กล้าดู ฝูงแร้งกา จับกิ่ง ชิงกันจิก สั่นระริก หลังไหล่ นัยน์ตาหู ตรงใต้ต้น คนคุม กุมหอกชู ฝูงหมากรู เข้ากัด ผู้พลัดลง ถูกหอกแทง แรงถอย เลือดย้อยหยด เอวเคล็ดคด ลำเค็ญ คอเป็นผง เร่งมือตีน ปีนขึ้น หัวมึนงง หอกสวนส่ง เสียบตี น ก่นโศกี ลอบคบชู้ คู่เขา เมาตัณหา ไม่รักษา ศีลสัตย์ น่าบัดสี คิดนอกใจ ใฝ่เสน่ห์ ประเวณี วายชีวี ปีนงิ้ว ริ้วรอยลาย ควรซื่อสัตย์ ต่อกัน มั่นในรัก สงวนศักดิ์ ศรีตัว กลัวเสียหาย ผิดเมียผัว ชั่วช้า น่าอับอาย ทั้งหญิงชาย ยับยั้ง ระวังตน จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:21:47 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถึงถิ่นหนึ่ง อึงมี่ เสียงตีตบ พี่รีบหลบ มุมมอง สยองขน กงจักรใหญ่ ไล่พัด ตัดคอคน หมุนอยู่บน ศีรษะ เลือดกระเซ็น ตาถลนลิ้น ห้อยเห็น รอยแผล เลือดรักแร้ ไหลริน กลิ่นปากเหม็น ขาถูกคราด ฟาดพลัก หักกระเด็น เนื้อตัวเต้น กระตุก ทุกข์ทวี ตีพ่อแม่ พระเณร เวรกรรมหนัก ถูกกงจักร ตัดหัว ตัวเป็นฝี ด่าปู่ย่า ตายาย ร้ายเหลือดี ปากจึงมี กลิ่นเหม็น มิเว้นวาย มือพ่อแม่ เปลไกว ปากเห่กล่อม เฝ้าถนอม แนบข้าง ไม่ห่างหาย คอยคุ้มครอง ป้องกัน อันตราย ลูกทั้งหลาย ควรหมั่น กตัญญู อย่าขึ้นเสีย เถียงพ่อ ด่าทอแม่ ตายายแก่ ก่นว่า น่าอดสู อย่าเป็นศิษย์ คิดร้าย ทำลายครู อย่าลบหลู่ คุณคน จำจนตาย จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:22:14 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถึงถิ่นหนึ่ง พวกหนุ่ม มือกุมอก ฝนเหล็กตก ต้องตัว ทั่วถึงผม เป็นโจรป่า ฆ่าคน ปล้นสดมภ์ ถูกฝนคม ครางครวญ ซวนซบเซา บาปฆ่าเจ้า เอาของ จ้องปืนจี้ ให้บอกที่ ซ่อนทรัพย์ บังคับเขา หากขัดขืน ปืนตี ไม่มีเบา รุมชำเรา นารี ไม่มีอาย เกรงเจ้าทรัพย์ จำหน้า ฆ่าปิดปาก ซ้ำเผาซาก ศพเสร็จ นำเพชรขาย เผาบ้านเรือน เกลื่อนรอย ไม่น้อยราย ตอนตัวตาย ตกนรก หน้าอกกลวง จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:22:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นชายหนึ่ง ลำบาก ปากเหมือนหมู จมูกหู วิ่นแหว่ง เลือดแดงฉาน นัยน์ตาพอง หนองเน่า เท้าพิการ ก้มลงคลาน สี่ขา เหมือนหมาจู บาปปากกลบ้า ด่าพระ ไม่ละโกรธ เที่ยวยกโทษ โพนทะนา น่าอดสู ชอบรานระ พระสงฆ์ องค์เจ้ากู ปากเหมือนหมู เหม็นเน่า โฉ่เฉ่านาน จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:22:57 ]

ความคิดเห็นที่ 8 หญิงหนึ่งนอน เปลือยร่าง กลางป่าปก กินทารก ลูกรัก เป็นภักษา กลิ่นเหม็นคลุ้ง นุ่งลม ห่มนภา เหลือบลิ้นมา ไต่ตอม ตัวมอมแมม อดข้าวน้ำ ลำบาก ปากเป็นหนอน รุมไชชอน ทั่วท้อง ร้องเสียงแหลม ไฟลวกร่าง ย่างยับ แสงวับแวม ทั้งขึ้นแรม ร้อนรน เหลือทนทาน บาปทำแท้ง ยามท้อง ต้องทนทุกข์ เวรกรรมรุก ไล่ล่า น่าสงสาร ฆ่าลูกตน จนตาย คล้ายยักษ์มาร กรรมบันดาล เดือดร้อน ยามตัวตาย จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:23:15 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นชายหญิง คู่หนึ่ง ต่างขึ้งโกรธ ใจเหี้ยมโหด ตบตี ไม่มีหนำ ค้อนเหล็กใหญ่ ไล่รัว หัวคะมำ เข้ากอดปล้ำ ทุบถอง ร้องครวญคราง เนื้อหนังน่วม บวมเป่ง ปมเป่งแตก เป็นแผลแยก หนองเยิ้ม เริ่มเหม็นสาง มีหมู่หนอน ชอนไช ไปทุกทาง ทั้งนายนาง เนื้อเน่า เศร้าโศกา ผลัดกันดูด เลือดหนอง กินคล่องปาก ด้วยอดอยาก อาหาร นานนักหนา มีร่างกาย ผ่ายผอม ตรอมอุรา ทุกทิวา วิวาท เฝ้าฟาดฟัน ชาติก่อนเป็น ผัวเมีย ละเหี่ยจิต คอยจับผิด พูดเผย เยาะเย้ยหยัน ชอบทะเลาะ เบาะแว้ง แข่งดีกัน ไม่ยึดมั่น ในรัก สามัคคี บ่มบาปลืม บุญทาน การกุศล กรรมส่งผล เพิ่มทุกข์ สิ้นสุขศรี ร้องโหยหวน ครวญคราง พลางตบตี หากน้องพี่ มาเห็น คงเป็นลม จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:23:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ชายหนึ่งนั่ง ยิ้มร่า ท่าผยอง กุมกระบอง เหล็กแดง แสงสุกใส ตีหัวตน จนแตก น่าแปลกใจ เลือดหลั่งไหล เป็นทาง พลางร้องพลาง ชาติก่อนโกรธ บิดา ว่าไม่รัก เพียงแต่ตัก เตือนหา ว่าข่มเหง ฉวยไม้ตี ที่หัว พ่อตัวเอง ไม่กลัวเกรง บาปกรรม ทำลงคอ บาปตีพ่อ ตอนตาย กลายเป็นเปรต แสนทุเรศ ลำบาก อ้าปากหวอ ต้องตีหัว ตัวเอง เก่งเกินพอ ไม่รีรอ กระหน่ำ ตีร่ำไป จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:24:18 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นชายหนึ่งกาย เน่าหัว เท่าบาตร แลประหลาด รูปร่าง ช่างน่าขัน สูงใหญ่พ้น ต้นตาล ผิวกร้านดำ อดข้าวน้ำ นานกว่า ห้าร้อยปี ผมแข็งหยาบ ยามยล เหมือนขนเม่น เที่ยววิ่งเล่น ลานทราย คล้ายภูตผี หิวกระหาย หมายหา แหล่งวารี มองไม่มี หมดหวัง หลั่งน้ำตา ชาติก่อนเป็น เศรษฐี มั่งมีทรัพย์ แต่ใจกลับ เห็นผิด ชอบอิจฉา ใครทำทาน การบุญ  อุ่นอุรา ทักท้วงว่า ไร้ผล เลิกสนใจ รื้อสวนสระ ตะพาน การกุศล ปิดถนน หนทาง ถางป่าใหญ่ ด่าพระสงฆ์ หลงตัว มิกล้วใคร บุญทานไม่ สร้างสม บ่มแต่ทราม จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นช้างเผือก เชือกใหญ่ ในเนาป่า หนามไผ่อ้า ปากงับ รับทุกข์เข็ญ หนามตำลิ้น ดิ้นรน ทนลำเค็ญ เลือดกระเซ็น โทรมกาย ปิ้มวายปราณ ชาติก่อนตัด สินความ ตามสินจ้าง ละทิ้งทาง เที่ยงธรรม ประจำศาล ไม่เทิดทูน คุณค่า ตุลาการ กรรมบันดาล เดือดร้อน นอนระทม จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:25:09 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ชายหนึ่งนอน ตัวงอ ในหม้อเหล็ก มิใช่เล็ก ราวภู ต้มผู้พลาญ ไฟร้อนรน ก้นหม้อ ทรมาน น้ำเดือดพล่าน ลวกร่าง ร้องระงม ชาติก่อนจับ ปลาเป็น เห็นสนุก จี่จนสุก คาเตา เผาหอยขม จับเป็ดไก่ ไปย่าง ต่างนิยม จับเต่าต้ม ทั้งเป็น เวรตามทัน จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:25:24 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ภูเขาใหญ่ ไฟติด สี่ทิศถ้วน กลิ้งบดมวล ชายหญิง เพลิงฉายแสง ร่างบี้แบน แล่นไป เลือดไหลแดง ถูกทวนแทง ทุกข์ทับ ดับชีวัน มิช้าฟื้น คืนชนม์ ผจญทุกข์ ภูเขารุก ไล่ล่า บดหน้าหัน กระดูกแตก แหลกลง เป็นผงพลัน เป็นตายผัน ผกซ้ำ แรงกรรมดล บาปกดขี่ บีฑา ประชาราษฎร์ ใช้อำนาจ ปกครอง สยองขน ข่มขู่เขา เอาทรัพย์ สำหรับตน จิตมืดมน มิมี ปราณีใคร จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:26:10 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอพักฉากอบายภูมิ ก่อนนะครับ นอกจากความสามารถของผู้ประพันธ์ ที่พร่ำพรรณนาความโหดร้ายน่าสะพรึงกลัวแล้ว ภิกษุรูปนี้ยังพรรณนาในบทชมนกชมไม้ได้อย่างไหลลื่น จนผู้อ่านเคลิบเคลิ้มตามอารมณ์สุนทรีของท่าน ที่ชมนกชมไม้งามไปก็เกี่ยวกระหวัดใจถึงคู่รัก ซึ่งดูเหมือนเป็นมาตราฐานที่นักประพันธ์ ดำเนินตามกวีโบราณหลายๆท่าน ที่ชมธรรมชาติไปก็ยิ่งคิดถึงนางในดวงใจ   ใส่เสน่ห์ด้วยการเล่นคำ สัมผัสอักษร สัมผัสสระ สัมผัสเสียงพ้องได้รื่นรมย์   และยังได้เรียนรู้พฤษศาสตร์พืชพันธุ์ไม้ นับร้อยชนิด และมีมากมายที่เราไม่รู้จัก คุ้นเคยด้วยครับ ดังตัวอย่างนี้ จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:26:52 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ออกจากกรุง มุ่งหน้า สู่ป่าเปลี่ยว เดินลัดเลี้ยว แลนก เจ้าผกผิน นั่นค้อนทอง มองค้อน เร่ร่อนบิน เพียงยุพิน ค้อนพี่ ยวนยีใจ นกกวักกล น้องรัก กวักมือเรียก พี่สำเหนียก สำเนียง นกเสียงใส คล้ายเสียงครวญ นวลหา มาแต่ไกล นกกระไน ในอก วิตกตรม แซงแซวสา ลิกา เรียกหาคู่ กระลุมพู ร้องพา อุราหวาม มยุรี ทีท่า สง่างาม ราวนงราม ร่ายรำ เชี่ยวชำนาญ นกแก้วเกาะ กิ่งแก้ว งามแพร้วเพริศ กะปูดเปิด ปากร้อง ซองประสาน โผระดก ผกผิน บินทะยาน จับกิ่งจาน กระจาบ คาบหญ้าคา ต้อยตีวิด เบญจวรรณ ประจันเสียง อ้ออี๋เอียง เอี้ยงพลอด อยู่ยอดผา ยูงกระยาง กางเขน กระเต็นกา แสกกระสา เกาะมะสัง ระวังไพร นกขมิ้น เหลืองอ่อน ร่อนถลา กดกระทา ขุนทอง ร้องเสียงใส จากพราก จากคู่ หดหู่ใจ เหมือนพี่ไกล จากนุช สุดระทม เปล้าปรอดเรื่อย ร้องก้อง ไพรพฤกษ์ หมู่มฤค คึกคะนอง ร้องขรม โน่นโนรี อีลุ้ม ชุมชวนชม ช้อนหอยงม หาหอย ลอยลำธาร นกเป็ดน้ำ ดำด้น ค้นมัจฉา สัตวา ดุเหว่า เค้าขับขาน เขาขันคู อยู่ใกล้ ใจร้าวราน เพียงนงพาล เพรียกหา ให้อาวรณ์ จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:27:53 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โอ้แดนดิน ถิ่นนี้ มีมนต์ขลัง แรกพบยัง หลงใหล เกินไถ่ถอน งามบุปผา ป่าไม้ ในดงดอน ภูเขาซ้อน สูงลิ่ว เป็นทิวไป หากน้องน้อย กลอยตา มากับพี่ จะชวนชี้ ชมดง พงไศล ภูมิประเทศ เขตเขา ลำเนาไพร ธารน้ำใส ไหลเย็น เห็นฝูงปลา พรรณผิดแผก แวกว่าย มาหลายหมู่ คลอเคลียคู่ เคล้ากัน สุขหรรษา ปลายังรู้ สู่สม ภิรมยา แต่พี่มา จากน้อง หมองฤดี ตะเพียนทอง งามดั่งทอง มองพิสลาส เหมือนนุชนาฎ เนื้อทอง งามผ่องศรี นวลจันทร์เช่น เพ็ญพัตรา ยอดนารี ปลาสร้อยนี้ ดุจสร้อยน้อง ที่คล้องกัณฐ์ แก้มช้ำชอก หลอกช้ำ ใครหลอกกล้ำ แก้มน้องช้ำ เพราะชม ภิรมณ์ขวัญ เนื้ออ่อนแต่ แค่ชื่อ ลือโจษจัน เนื้อน้องนั้น นิ่มสนิท น่าชิดชม ปลาทุกเจ้า ทุกข์ใจ ใครคามคุก พี่ทนทุกข์ เพราะจาก นุชสุดขื่นขม เห็นปลากราย ว่ายมา พาตรอมตรม เกรงระทม เพราะรักกลาย คล้ายชื่อปลา ปลาหมอเหมือน หมอยา รักษาไข้ ส่วนไข้ใจ ใครจัก ช่วยรักษา เห็นแต่น้อง ของพี่ มีเมตตา ช่วยพยา บาลใจ ให้คงคืน จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:28:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เหลียวแลดู หมู่ไม้ กลางไพรสณฑ์ จำปีปน จำปา เกดกาหลง โมกมะปริง ชิงชัน แซมคันทรง หอมลินจง ในบึง ติดตรึงใจ บุษบง จงกล มณฑาทิพย์ งามระยิบ ผลิดอก ออกไสว เลียบลั่นทม นมวัว ขึ้นทั่วไป อโศกไทร ชงโค โยทะกา เยียงยางยูง สูงเสียด ขึ้นเบียดสัก เต็งรังรัก เรียงราย ทั้งซ้ายขวา ชะมังยิน กลิ่นแรง เหมือนแมงดา ชะมวงหนา แน่นดง ทรงบาดาล กากะทิง กระท่อม ล้อมกระถิน อินทนิล คางแค แสมสาร เคี่ยมตะครอง ตองแตก ตะแบกบาน ติ้วแต้วตาล ตะคร้อ ยอประยง ช้องนางเช่น ช้องนุช สุดสลวย ตะโกกรวย ก้ามปู พู่ระหง สนสุกรม นมแมว แก้วกระพง พะยอมดง สะเดา กันเกราไกร ประดู่แดง แจงจาน ลางลานเลี่ยน ข่อยตะเคียน ครามคร้า เป็นป่าใหญ่ จามจุรี สีเสียด เบียดลำใย สลัดได ใดสลัด พลัดยุพา สายหยุดหยุด หอมพลัด ตะวันสาย รักมิวาย สักวัน ใฝ่ฝันหา นางแย้มดุจ นุชยิ้ม พริ้มพรายตา กรรณิการ์ กลิ่นตลบ กลบอรัญ กะตังใบ ตะบูน คูนมะค่า กร่างมะกา มะยม นมสวรรค์ ตะลิงปลิง ชิงชี่ นี่อัญชัน ดงมะดัน มะดูก ลูกดกดี สารภี โพใบ แน่นในเถื่อน มะเกลือเกลื่อน ตะกู ดูสดสี กุ่มพิกุล บุนนาค ดอกมากมี มะลุลี มะลื่น ดื่นอรัญ แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 52 17:29:22 จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:29:12 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กอกล้วยไม้ ชูช่อ ลออสี เกาะขึ้นที่ คบไม้ กลางไพรสณฑ์ ชมนาด คัดเค้า ถ่อนเถาวัลย์ เล็บนางพัน เป็นพง กลางดงดอน เล็บนนางราว เล็บนวล หยิกข่วนพี่ ยามยวนยี หยอกเย้า เคล้าสมร รอยเล็บยัง ฝังเนื้อ เหลืออาวรณ์ จำใจจร จากมา สุดอาลัย ยินชะนีโหยหวน ชวนเศร้าโศก เสียงสุโนก กู่ร้อง ก้องไศล คล้ายเสียงนวล ครวญหา ว้าเหว่ใจ ทำฉันใด เล่าหนอ กรรมก่อมา เที่ยวร่อนเร่ พเนจร นอนป่าเขา ต่างหมอนเอา ไม้หนุน อุ่นเกศา เสียงหริ่งหรีด กรีดร้อง ก้องพนา แทนเสภา กล่อมขับ คราวหลับนอน เพลินชมดง พงไพร ใจระทึก ยิ่งยามดึก คะนึง ถึงสมร พินิจจันทร์ เพ็ญเด่นฟ้า ดารากร นึกหน้าอร อิ่มปราง หมางดวงมาน จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:30:07 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จบจากการชมธรรมชาติอันตระการ ผู้ประพันธ์พาไปเที่ยวสวรรค์ บรรยายความอลังการ มโหฬารในทิพยสมบัติอันน่ารื่นรมณ์ได้อย่างเจิดจรัส   อีกทั้งยังบอกด้วยว่า ถ้าอยากได้สมบัติทิพย์ สุขทิพย์  ใครๆก็ทำได้ ออกแบบชีวิตให้ตนเองได้ ด้วยการประกอบเหตุ  ได้แก่ การละชั่ว  ( อกุศลกรรมบท ๑o) ทำดี (อกุศลกรรมบท ๑o , บารมี ๑o )   ทำใจให้ใส บริสุทธิ์ หลุดพ้นกิเลส อาสวะ ว่าโดยย่อคือ หมั่นบำเพ็ญทาน  รักษาศีล  เจริญสมาธิภาวาน ด้วยการสร้างการพรรณาสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ซึ่งมีท้าวสักกเป็นจอมเทพของสวรรค์ชั้นนี้ ทั้งยังมีจุฬามรีและธรรมสภาและช้างเอราวัณที่มีลักษณะสุดประหลาดงามเกินจินตนาการของมนุษย์ ดังอย่างนี้ จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:30:41 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถึงเมืองฟ้า น่าอยู่ ดูกว้างใหญ่ วังเวียงชัย ชวนแล แผ่ไพศาล ล้วนแก้วเก้า เนารัตน์ ชัชวาล มโหฬาร ลอยฟ้า ลงมาดิน ปาริชาติ ช่อชู ดูสวยสม ใต้ต้นร่ม รื่นดี มีแท่นหิน สระสวรรค์ นันทา เปี่ยมวาริน มีเทวิน ประจำ ธรรมสภา ปราสาทสูง เสียดสรวง งามช่วงโชติ รุ่งไพโรจน์ พิไล ไตรตรึงษา มีวน อุทยาน ตระการตา จิตรดา ไม้ดื่น หอมชื่นใจ กำแพงแก้ว กั้นกรุง เรืองรุ่งโรจน์ หลายล้านโยชน์ ยลสล้าง กว้างยาวใหญ่ ประตูถึง หนึ่งพัน วรรณวิไล ยอดสดใส สีสุก ทุกทวาร คราเปิดไข ทุกครั้ง เสียงดังเพราะ พริ้งไพเราะ เพลงร้อง ซ้องประสาน สีทองพราว วาววาม งามตระการ ทั่วทุกบาน บรรเจิด เลิศลวดลาย จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:31:03 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไพชยนต์ ปราสาท งามหยดย้อย สูงไม่น้อย พันโยชน์ โชติช่วงฉาย ล้วนแก้วเก็จ เจ็ดประการ ซ่านประกาย ร้อยชั้นพราย พราวสว่าง พร่างโสภี เรือนยอดเจ็ด ร้อยหลัง ตั้งสลอน ทุกชั้นห่อน ขาดหาย หลากหลายสี เจ็ดอัปสร นอนนั่ง หลังหนึ่งมี นาฏนารี เจ็ดร้อย คอยบำเรอ เสาธงแก้ว ธงทอง ผ่องไพโรจน์ สูงร้อยโยชน์ ยอดย้วย สวยเสมอ หลายร้อยต้น คนเห็น เป็นละเมอ เมื่อยามเจอ ซึ้งจิต ภาพติดตา ผืนธงทอง ธงแก้ว พริ้งแพร้วเพริศ ลวดลายเลิศ หลายร้อย รอยเรขา เสาแก้งคง ธงทอง ผ่องวิภา เสาทองหา ธงแก้ว ติดแพรวพรรณ พระปิ่นสรวง สักก เทวราช สึงปราสาท สวยสะ เกษมสันต์ รัมภารำ บำเรอ เธอทุกวัน พระกายนั้น สีเดียว เขียวขจี จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นช้างเอ ราวัณ พรรณผุดผ่อง พร้อมกระพอง สามสิบสาม งามสดสี มณฑปแก้ว แวววาม งดงามดี สถิตที่ ฐานกลาง วางกระพอง ธงแก้วเก็จ เจ็ดเสา เสลาสูง หนึ่งโยชน์จูง จิตหวาม ยามแลจ้อง ชายธงดี มีกริ่ง กระดิ่งทอง ลมโลมร้อง ไพเราะ เพราะจับใจ จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:32:09 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ทุกกระพอง มีงา โสภาเจ็ด ทุกงา เผล็ดเจ็ด สระชละใส ทุกสระศรี มีบัว ทั้งหัวใบ นับดูได้ เจ็ดกอ ครบพอดี ทั่วทุกกอ มีดอก ออกเจ็ดครบ ทุกดอกพบ อัปสร ประอรศรี เจ็ดนางกราย ร่ายรำ ทำยวนยี มโหรี ไพเราะ เสนาะกรรณ ช้างนี้ใช่ ช้างจริง ทุกสิ่งแฝง เทพจำแลง ร่างฤทธิ์ ประสิทธิ์สรรค์ พาหนะ สหัสนัย วิไลพรรณ สูงหนึ่งพัน ห้าร้อย โยชน์ลอยลม จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:32:38 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ชาติก่อนท้าว โกสีย์ มีศีลสัตย์ จิตจำรัส รู้คุณ บุญสั่งสม เพียรทำทาง ถางเถื่อน เกลื่อนเปลือกตม กลบหลุมหล่ม ลอกลำราง สร้างสะพาน เลี้ยงพ่อแม่ แก่เฒ่า เอาใจใส่ เชื่อผู้ใหญ่ สั่งสอน พูดอ่อนหวาน ไม่ส่อเสียด เกลียดโกรธ โจษประจาน ชอบทำทาน ทำจริง ทุกสิ่งไป รวมสามสิบ สามคน เพื่อนตนด้วย ร่วมใจช่วย ก่อการ งานน้อยใหญ่ ปลูกทองหลาง วางตั่ง นั่งหย่อนใจ ชีพบรรลัย ลุแถน แดนสำราญ จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:33:26 ]

ความคิดเห็นที่ 26 พระเกศจุฬา มณี เจดีย์เด่น เบื้องบนเป็น ทองฉาย ประกายฉาน ล่างเป็นอินท์ นิลรัตน์ ชัชวาล สูงประมาณ แปดหมื่น วายื่นยาว บรรจุเกศ โมลี ศรีสุคต ปางทรงพรต บรรพชา ลอยมาหาว ผอบทอง รองรับ วะวับวาว เป็นบุญชาว สวรรค์ น้อมวันทา บรรจุพระ บรมธาตุ นาถสุคต นามปรากฏ เขี้ยวแก้ว แนวเบื้องขวา พระอินทร์องค์ ทรงธรรม์ อัญเชิญมา จากภูษาโพก เศียรเธียร โทณพราหมณ์ กำแพงทอง สี่ทิศ พิศยาวโพด สี่ร้อยโยชน์ ยรรยง ทิวธงหลาม เขียวเหลืองแดง แข่งขาว แวววาววาม ปักไปตาม ระยิบ ระยับตา ทวยเทพถือ เทียนธูป บุปผชาติ อภิวาท ภควันต์ สุขหรรษา ร่วมดีดสี ตีเป่า เฝ้าบูชา ก้มวันทา พระธาตุ ยาตรจรัล จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:34:44 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ลุศาลา หลังใหญ่ พิไลลักษณ์ ลายจำหลัก เลอเลิศ ฉายเฉิดฉัน ผลึกหรู ปูพื้น ขัดขึ้นมัน แก้วเก้าพรรณ ประดับ ระยับตา กำแพงทอง ล้อมรอบ เป็นขอบเขต ไม้วิเศษ ขึ้นสวย ด้วยสาขา ครบพันปี มีดอก บานออกมา ชื่ออสา พติ เทพนิยม ศาลานี้ มีนาม งามคุณค่า สุธรรมา เมืองแมน แสนสวยสม เป็นเทว สภา น่าภิรมณ์ เทพชื่นชม ฟังธรรม ฉ่ำฤทัย ภายในมี ธรรมาส พิลาสลักษณ์ พร้อมพนัก พิงทอง แผ้วผ่องใส พระอินทร์องค์ ทรงแสดง แจ่มแจ้งใจ เทพพรหมใด อื่นบ้าง เป็นลางกาล ทวยเทพนั่ง เหนืออาสน์ ผุดผาดผ่อง เป็นแถวถ่อง ฟังธรรม ซึ้งคำขาน เรียงตามยศ ลดหลั่น บุญบันดาล กลิ่นกำยาน พะยอม หอมยวนใจ จากคุณ : deedang - [ 25 ก.พ. 52 17:37:43 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เทวราช ทรงรถ สดสวยสี รัศมี กระจ่าง สว่างไสว ดุจสูรย์ส่อง  ห้องหาว พราวประไพ ธวัชชัย ทองชู คู่อาชา ทั่วทุกส่วน ล้วนแล้ว ด้วยแก้วเก้า ลายเครือเถา อ่อนช้อย ร้อยเลขา เกี่ยวกระหวัด รัดกัน พรรณโสภา มาศมุกดา เงินงาม แวววาววาม สินธพชาติ อาชาไนย ว่องไววิ่ง พารถพริ้ง พราวพร่าง เหาะกลางหาว แล่นลอยล่อง ฟ่องฟ้า ดาราพราว ดูดวงดาว ล้อมเดือน เกลื่อนนภดล สึงปราสาท สีแสด สูงแปดโยชน์ รุ่งไพโรจน์ ลอยคว้าง กลางเวหน เทพนารี สี่แสน เฝ้าแหนตน ดนตรีอล อึงวัง ก้องกังวาน ทุกเวลา นาที ไม่มีทุกข์ เสวยสุข อิ่มเอม เกษมศานต์ ยืนนั่งนอน หย่อนใจ ในวิมาน แก้วประพาฬ ผ่องใส พิไลตา ชาติก่อนถือ ศีลห้า อุตสาหะ ทำสังฆทาน ถวาย หลายพรรษา ฝึกจิตนั่ง ฟังธรรม ล้ำปัญญา วายชีวา สู่สวรรค์ ในทันที จากคุณ : deedang - [ 26 ก.พ. 52 11:16:58 ]

ความคิดเห็นที่ 29 วิมานทอง ไพฑูรย์ สมบูรณ์แบบ ราวฟ้าแลบ รังสี มณ๊ใส ยอดสูงเสียด เบียดหาว พราวอำไพ เทพไท นั่งแท่น แสนสำราญ เทพอัปสร สามแสน แห่แหนห้อม คอยขับกล่อม ให้สุข สนุกสนาน ตะโพนพิณ ยินก้อง ห้องวิมาน เกษมศานต์ สุขสม ภิรมย์ทรวง รอบวิมาน มีสวน มวลแมกไม้ ยอดไสว เนืองแน่น ในแดนสรวง บ้างผลิดอก ออกผล จนเป็นพวง มิหล่นร่วง ลงมา น่าชท่นใจ เทพเจ้า ของสวนศรี มีสุขสม นั่งรถชม พฤกษ์พลิ้ว ทิวไศล เทพอัปสร ฟ้อนรำ นำหน้าไป เพลินฤทัย ทุกทาง กลางอรัญ ชาติก่อนเทพ ที่เห็น เกิดเป็นม้า พร้อมจอมฟ้า สิทธัตถะ จากสวรรค์ ผิวเผือกผ่อง ยองใย พิไลพรรณ นามว่ากัณ ฐกะ มโนมัย พาพระองค์ออก ผนวช รวดเร็วโข ลุอโน  มานที วารีใส จึงหยุดยัง ฝั่งธาร เบิกบานใจ ให้ อัศวะ คืนนคร แลบลิ้นเลีย พระบาท ราชโอรส แสนกำสรด เสียใจ เกินไถ่ถอน พระประทับ ลับตา สุดอาวรณ์ ชีพม้วยมรณ์ มาแมน แดนสำราญ โฆษก เทพบุตร ผิวผุดผ่อง เสียงดังก้อง หมื่นโยชน์ เทพโจทย์ขาน สาวสวรรค์ พันเก้า เฝ้าอยู่งาน เนาวิมาน ทองคำ ผ่องอำไพ ชาติก่อนเกิด เป็นหมา ของตาเหมา บ้านเห่า คนมา ที่อาศัย ยามเช้าตา พาเจ้า เข้าวัดไป นิมนต์ให้ พระฉัน ทุกวันมา ไม่ว่างตา ส่งตน นิมนต์พระ อุสาหะ เห่าฮ่ง ส่งภาษา พระครองพัสตร์ ยาตรเต้า ลุเหย้าตา ฉันแบ่งอา หารให้ เจ้าได้กิน วันหนึ่งท่าน บอกลา ตาไปลับ วิ่งฉับฉับ ส่งพระ ใจถวิล พระลับตา อาลัย หัวใจภิณ วายชีวิน มาสวรรค์ เสียงบันลือ จากคุณ : deedang - [ 26 ก.พ. 52 11:20:47 ]

ความคิดเห็นที่ 30 พบพิมาน มณี เทพมีฤทธิ์ ก่อนชีพปลิด ปลงเพียร เรียนหนังสือ ทนตรากตรำ ชำนาญ การฝีมือ ไม่ดึงดื้อ ชื่อเด่น เป็นเด็กดี คราวเจ็บไข้ นอนเตียง ระเบียงบ้าน มีอาการ เพียบหนัก จักเป็นผี พระพิสุทธิ์ พุทธองค์ ทรงปราณี แผ่รังสี ให้เห็น เป็นบุญตา เหลียวพบพระ พุทธองค์ ทรงพระภาค เลื่อมใสมาก ใจมั่น จิตหรรษา ปีติซ่าน ผ่านตัว ทั่วกายา วายชีวา มาสวรรค์ สุขสันต์ดี จากคุณ : deedang - [ 26 ก.พ. 52 11:21:15 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เทพนารี มีศักดิ์ พักตร์พิลาศ เนาปรางค์มาศ วิมาน แสงฉานฉาย สูงสิบโยชน์ โดดเด่น เป็นประกาย สุขสบาย บันเทิง รื่นเริงใจ เทพอัปสร ฟ้อนรำ บำเรอจิต รุ่งโรจน์ฤทธิ์ เรืองรอง ผิวผ่องใส ภูษาทรง นงราม งามวิไล หอมดอกไม้ มากมี ที่วิมาน ชาติก่อนเลี้ยง พ่อแม่ วัยแก่เฒ่า เอาอกเอา ใจใส่ ให้อาหาร กตัญญู รู้คุณ บุญบันดาล ปางวายปราณ ปรีดิ์เปรม อิ่มเอมใจ คุณพ่อแม่ มากมี ปราณีบุตร รักลูกสุด ชีวิต พิสมัย เฝ้ากล่อมเกลี้ยง เลี้ยงดู ยิ่งผู้ใด พลีชีพให้ ลูกตัว ไม่กลัวตาย เห็นช้างเผือก โสภา สูงห้าโยชน์ มณีโชติ ช่วงแสง แดงสุกสี ประดับยศ คชทิพย์ ระยิบไป เดินว่องไว ตาวาว ตาราวมณี ปะดับด้วย ดอกบัว งามทั่วร่าง สองสีข้าง ฆ้องห้อย ร้อยเชือกสี กระหึ่มดัง กังวาน ปานดนตรี บนหลังมี ที่นั่ง บัลลังก์ทอง หอมเกสร โกสุม ปทุมมาศ บุปผชาติ สดสี ไม่มีหมอง เทริดมาลา ผ้าตาด ลาดระพอง มาลัยคล้อง คอคชา สง่างาม     เทพธิดา ขึ้นนั่ง บัลลังก์รัตน์ เหนือหลังหัต ถีย่าง กลางสนาม เลื่อนลอยล่อง ฟ่องฟ้า สู่อาราม ระบือนาม นันทวัน อันรื่นรมณ์ ชาติก่อนนาง ฟังธรรม จำขึ้นจิต ผลบุญติด ตามไป ให้สุขสม ประสงค์สิ่ง ยิ่งใหญ่ ได้เชยชม คนควรบ่ม บุญไว้ หมั่นให้ทาน สร้างธรรมาสน์ อาสน์สงฆ์ เกิดวงศ์สูง แข็งแรงจูง จับไหว ให้อาหาร ประสบสุข ทุกไร้ ให้ยวดยาน ให้อาคาร มั่นคง สมตั้งใจ ให้แหวนสร้อย เสื้อผ้า เกิดมาสวย รูปสำรวย น่ารัก พักตร์ผ่องใส นัยน์ตางาม วามวาว พราวประไพ ให้โคมไฟ ส่องสว่าง กลกลางวัน นางจึงเตรียม ตักบาตร ตั้งอาสน์สงฆ์ ปูผ้าลง ขาวเรียบ เทียบจังหัน ดอกปทุม กุมกำ นำมาพลัน วางลดหลั่น รอบอาสน์ พิลาสตา มาลัยร้อย ห้อยยาน เพดานหอ ดกไม้กอ แจกัน จัดสรรหา รบจัดแจง แต่งร่าง เยื้องย่างมา ยืนอยู่หน้า เรือนรอ พ่อแม่ตน พบพระสงฆ์ ผ่านมา เวลารุ่ง จิตหมายมุ่ง ทำทาน การกุศล ศิโรราบ กราบเท้า กล่าวนิมนต์ เชิญนั่งบน อาสน์สงฆ์ ชงน้ำชา ถวายข้าว ยาคูผู้ ทรงศีล ขนมจีน จับใหญ่ ไก่ต้นข่า แกงคั่วส้ม ต้มยำ หนมน้ำยา พริกปลาร้า รสอร่อย คอยประเคน ฉันคาวเสร็จ น้อมกาย ถวายหวาน ขนมตาล ปลากริม ม่วงพิมเสน ตักบาตรเต็ม เปรมใจ ไว้ฉันเพล มหาเถร โมทนา ลาลุกไป ให้นำบาตร อาสน์สงฆ์ ไปส่งวัด พลางตั้งสัตย์ อธิษฐาน มานผ่องใส เดชกุศล ผลบุญ คุณอำไพ ขอให้ได้ วิมาน ปานคชา ชีวิตสิ้น สู่สรวง งามช่วงโชติ ปราโมทย์ เมืองสวรรค์ สุขหรรษา วิมานทอง รองรับ ระยับตา มองเหมืองมา ตงค์แต่ง แข็งแรงดี ลุวิมาน หลังหนึ่ง ตลึงจ้อง เสียงขับร้อง ดังมา เวลาสาง เทพอัปสร ฟ้อนรำ แสนสำอาง ภาพต่างต่าง ตามผนัง ล้วนรังรอง ฝูงวิหก ผกผิน บินถลา สัตวา ดุเหว่า มีเจ้าของ กระเรียนหงส์ พงศ์สูง ยางยูงทอง เร่ร่อนร้อง ไพเราะ เพราะจับใจ มวลมาลี คลี่คลาย ขยายกลีบ จำปาปีบ จำปี สีสดใส จำปูนปราง นางรำ ระบำใบ หอมกระไร กุหลาบ กำซาบทรวง เทพเทวี ขี่หงส์ สรงสนาน กลางลำธาร ถิ่นแถน ดินแดนสรวง เคลื่อนวิมาน ผ่านเมฆ สีเงินยวง ล่องลอยล่วง ลุริม หิมพานต์ ชาติเจ้า จงรัก ภักดีผัว ยำเกรงกลัว ไม่กล้า จะว่าขาน รักเหมือนลูก ผูกจิต สนิทนาน รับทำงาน ทุกอย่าง มิร้างรา ไม่เห็นผิด พูดยั่ว ให้ผัวโกรธ ยามเอ่ยโอษฐ์ อ่อนหวาน ขานคะขา กรุณา ปราณี มีเมตตา ซื่อต่อสา มีตน จนวันตาย เพราะพูดดี มีนก ช่วยปกป้อง ร่วมขับร้อง ให้ฟัง กระทั่งสาย จิตจงรัก ภักดี ไม่มีคลาย ชีวาวาย สู่สวรรค์ บันเทิงใจ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 11:23:36 จากคุณ : deedang - [ 26 ก.พ. 52 11:23:12 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ภรรยา เจ็ดอย่าง วางไว้แน่ เมียเหมือนแม่ รักมั่น มิหวั่นไหว รักราวลูก ผูกพัน มั่นฤทัย พลีชีพให้ ผัวตัว ไม่กลัวตาย เมียเหมือนน้องสาวตัว รักผัวยิ่ง นับถือจริง เชื่อฟัง คำทั้งหลาย เช่นน้องสาว เคารพ นบพี่ชาย รู้ละอาย ไม่คิด นอกจิตใจ เมียเหมือนเพื่อน เตือนผัว ให้กลัวผิด ให้กลับจิต จากชั่ว ตัวหลงใหล รักเพียงเพื่อน เตือนตน ให้พ้นภัย ทำการใด ปรึกษา หารือกัน เมียเหมือนบ่าว เอาใจ ไม่โกรธผัว รับใช้ชั่ว ชีวิต มิบิดผัน ถูกดุด่า น่าชื่น ทุกคืนวัน ไม่หุนหัน ขึ้นเสียง เถียงสามี เมียเหมือนนาย ร้ายนัก มักข่มผัว ขู่ให้กลัว ใช้งาน ปานทาสี ตัวเกียจคร้าน พาลว่า ดุด่าตี ไม่ยินดี กิจบ้าน การเรือนตน เมียเหมือนโจร ปล้นผัว ชั่วช้านัก ทรัพย์สินยัก ยอกใช้ ไม่เป็นผล ผัวเพียรหา มามอบ ทำชอบกล นำไปปรน เปรอชู้ ผัวรู้ตี เมียเหมือนเพช ฌฆาต  ทาสตัณหา ทำชั่วช้า คบชู้ หลู่ศักดิ์ศรี คิดฆ่าผัว ตัวตาย ร้ายเหลือดี อยากจะมี ผัวใหม่ ใจทมิฬ จากคุณ : deedang - [ 26 ก.พ. 52 11:24:06 ]

ความคิดเห็นที่ 33 วิมานสวย สีทอง ผ่องพิลาศ อนงค์นาฏ นั่งใน พิไลศรี บุษบง ธงฉัตร พัชนี หลากล้วนมี สีเหลือง เรืองวิไล ลอยล่องฟ้า มานาน ผ่านหมู่เมฆ รุจิเรข เหลืองอร่าม งามไสว ลุจุฬา มณี ศรีอำไพ อรทัย ถือธง ลงวันทา ชาติก่อนนาง ยากจน คนบ้านนอก เพียรเก็บดอก บวบขม สะสมหา ตั้งจิตไปไหว้พระธาตุ ศาสดา ศรัทธากล้า แกร่งนัก ใจภักดี ถือดอกบวบ รื่นเริง บันเทิงจิต โคบ้าขวิด ตรงตา ตายคาที่ ผลบุญพา มาสวรรค์ อันรุจี วิมานสี เหลืองเลิศ เกิดแก่อร จากคุณ : deedang - [ 26 ก.พ. 52 11:24:47 ]

ความคิดเห็นที่ 34 วิมานทอง ผ่องใส รุ่งไพโรจน์ งามช่วงโชติ ชัชวาล ไพศาลศรี ดุจสายฟ้า จ้ากระจ่าง กลางเมฆี เทพผู้มี ฤทธา มาครอบครอง พิศเพียงรูป พระราม งามสง่า ทรงภูษา สดสี ไม่มีหมอง เครื่องประดับ นับไม่ถ้วน ล้วนเพชรทอง อัปสรร้อง ร่ายรำ เฝ้าบำเรอ ทุกวันคืน ชื่นชม ทิพย์สมบัติ โสมนัส สนุก สุขเสมอ วิมานหมู่ ดูเกลื่อน พวกเพื่อนเกลอ ไม่เคยเจอ ทุกข์ใจ ไร้กังวล ชาติก่อนเป็น พวกพระ เลิกละชั่ว คิดบวชตัว จนตาย หมายมรรคผล มีศรัทธา กล้าแกร่ง แข็งทุกคน พากเพียรจน สมใจ ได้โสดา บุญบันดาล ดลสรวง ล่วงทุกข์โศก มาอยู่โลก สวรรค์ แสนหรรษา ปลื้มปรีดิ์เปรม เกษมสุข ทุกเวลา มีนางฟ้า เฝ้าแหน แสนอนงค์ จากคุณ : deedang - [ 26 ก.พ. 52 11:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เทพบุตร เหาะมา กลางอากาศ รังสีสาด สุกใสไม่มีหมอง ถึงสวนขวัญ พลันนั่ง บัลลังก์ทอง เขม้นมอง มะม่วง เป็นพวงพราว กะล่อนลู่ ลมบน ลูกล้นหลาม แก้มแดงงาม แฉล้ม กลแก้มสาว ทองปลายแขน แหงนยล เห็นผลยาว อกร่องราว ร่องอุระ ยอดพธู พราหมณ์ขายเมีย หวานมัน ชอบกันมาก ตลับนาก นวลใย วิไลหรู ตาตีหลาน หวานเลิศ คนเชิดชู ทองดำคู่ ขี้ไต้ รสไม่ดี หนังกลางวัน เขียวเสวย เคยลิ้มรส หนองแซงสด พิมเสน เด่นที่สี แก้วกลแก้ว แววตา ยอดนารี พรวนผลพี สะพรั่ง ลูกบังใบ นางนวลน้ำ ดอกไม้ ใบเขียวสด ตับเป็ดรส มันหวาน เกินขานไข เจ้าคุณทิพย์ หยิบนิด ต้องติดใจ หัวช้างใหญ่ รสเยี่ยม ใดเทียมทัน สาวกระทืบ หอเห็น เป็นพวงห้อย ระย้าย้อย อยู่ถ้วน สวนสวรรค์ พิกุลทอง ผ่องศรี มีรสมัน แลฟ้าลั่น ลูกใหญ่ ใครนิยม น้ำตาลจีน ลิ้นงู เห่าชูช่อ เหลือลออ สายฝน ผลสวยสม ศาลายา งาช้าง ชนต่างชม หมอนทองบ่ม บังใบ พิไลพรรณ เสร็จชมสวน หวนกลับ พร้อมอัปสร เหินอัมพร พักปรางค์ กลางสวรรค์ ล้วนแก้งเก้า วาววับ นับอนันต์ ทุกคืนวัน เสวยสุข สนุกใจ ชาติก่อนเคย เฝ้าสวน มวลมะม่วง พบพระล่วง ลุมา น่าเลื่อมใส เปลวแดดเปรี้ยง เที่ยงวัน นั้นเหมือนไฟ ร้อนเหงื่อไหล ไคลย้อย ไม่ค่อยเย็น กราบนิมนต์ ให้นั่ง เหนือตั่งใหญ่ ใต้ร่มไม้ มะม่วง ล่วงทุกข์เข็ญ ให้สรงน้ำ ฉ่ำกาย คลายลำเค็ญ คั้นม่วงเป็น ปานะ ถวายพลัน รับประเคน ของโยม โสมนัส ท่านนั่งขัด สมาธิ นิมนต์ฉัน ยามเย็นโข โมทนา ลาจรัล ผลบุญบัน ดาลให้ ได้วิมาน จากคุณ : deedang - [ 26 ก.พ. 52 11:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เทพธิดา วารุณี มีปราสาท ห้ายอดหยาด ลำยอง สวยผ่องใส เรือนล้วนแล้ว แก้วมณี ศรีอำไพ กว้างยาวใหญ่ สูงเยี่ยม เทียมอัมพร ทรงภูษา สดสี ไม่มีหมอง นั่งแท่นทอง ท่ามกลาง นางอัปสร ดุริยางค์ พรั่งพร้อม กล่อมบังอร เปิดบัญชร ชมดาว พราวนภา ดาวลูกไก่ เป็นกลุ่ม มุมปรางค์มาศ แลพิลาศ งามสล้าง กลางเวหา ดาวคันฉัตร จรัสแสง แข่งดาวปลา หมู่ดาวหมา ดาวหมี สีทองคำ ดูดาวไถ ไขแสง แดงระเรื่อ งามอะเคื้อ ดาวปู ดูคมขำ นั้นดาวธง ตรงหน้า ดาวม้านำ ดาวประจำ เมืองใส วิไลตา ดาวเพดาน สองดวง งามช่วงโชติ รุ่งไพโรจน์ ลอยคว้าง กลางเวหา ดาวดวงแก้ว แวววาว พราวนภา นั่นดาวปลา ตะเพียน ลอยเวียนวน ดาวช้างใหญ่ ช้างน้อย ลอยเคว้งคว้าง สัปคับช้าง งาช้าง กลางเวหน ดาวช้างพัง ช้างพลาย พรายอำพน ดาวไซปน ปุยฝ้าย เรืองรายดวง ดาวหลักชัย ไม้เท้า เต่าจระเข้ ลอยร่อนเร่ พิไล ในแดนสรวง ดาวพิมพ์ทอง ผ่องผุด ดุจเงินยวง พิศดาวพวง ดอกไม้ วิไลตา ดาวศอกคู้ แตรงอน กาก้อนเส้า ตาสำเภา ดาวเรือน เกลื่อนเวหา สำเภาทอง ผ่องเพ็ญ เด่นนภา โลงดารา อะเคื้อ หัวเนื้อทราย ดาวสมอ สำเภา ดาวคางหมู ขึ้นเคียงคู่ วาววาม งามเฉิดฉาย ดาวดอกบัว หัวเนื้อ อะเคื้อพราย ดาวแรดราย เรืองเรียง เคียงดาวยม ดาวประจำ ฉัตรฉาย แสงพรายพร่าง เห็นดาวหาง พุ่งพวย แสงสวยสม ดาวจระเข้ เหหา งูน่าชม ดาวเหนือคม เฉียบขาด แสงบาดตา ชาติก่อนเป็น ทาสี มีศีลสัตย์ จัดแจงภัต พร้อมสรรพ รับอาสา ตักบาตรสงฆ์ ทรงศีล อภิญญา ผลบุญพา มาแถน แสนสุขใจ จากคุณ : deedang - [ 26 ก.พ. 52 11:29:12 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอพักเรื่องเมืองสวรรค์ไว้เท่านี้ ครับ เมื่อพาชมเมืองฟ้าเมืองสวรรค์แล้ว มาพบมารดาของตนที่วายชนม์ มาเป็นเทพธิดา   ได้สนทนาซักถามบุพพกรรมของมารดาว่าได้ทิพย์สมบัติ เพราะประกอบเหตุอะไรบ้างก็มีจิตยินดี ใฝ่การทำกุศลจากนั้นเทพธิดามารดา ก็แนะให้กลับเมืองมนุษย์เพราะบุตรยังไม่หมดอายุขัย และให้เร่งทำความดีให้มากที่สุด   ดังบทประพันธ์ต่อไปนี้ จากคุณ : deedang - [ 26 ก.พ. 52 11:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เห็นเนาแม่ ในปรางค์ ร่างสดสวย ชีพมอดม้วย นานมา น่าสงสาร นั่งแท่นทอง ผ่องใส ในพิมาน ก้มกราบกราน โศกา สุดอาลัย ไม่พบแม่ มานาน ทางบ้านห่วง แม่อยู่สรวง เป็นสุข ทุกข์ไฉน แม่ตอบว่า มานี่ มีสุขใจ ทุกข์โศกไม่ กรายกร้ำ ไร้ลำเค็ญ มีเสื้อผ้า อาหาร ที่อาศัย ผู้รับใช้ มากมี ที่ลูกเห็น เพราะแม่ทำ ความดี ปางที่เป็น ทุกเช้าเย็น ไหว้พระ เป็นประจำ หมั่นทำบุญ ตักบาตร ไม่ขาดสาย มิตรสหาย บอกบุญ หนุนจนหนำ ทอดผ้าป่า กฐิน ยินดีทำ บวชทิดดำ พี่เจ้า เมื่อเก้าปี ลูกแม่มา ทำไม ในสวรรค์ รีบกลับพลัน เพราะเขา จะเผาผี พ่อของเจ้า เขาบ่น ถึงคนดี จนป่านนี้ ทำไม ยังไม่มา จากคุณ : deedang - [ 26 ก.พ. 52 11:31:25 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ตอบมารดา ว่าฉัน ชีวันวอด ต้องนอนทอด ทิ้งร่าง กลางเคหา วิญญาณพราก จากกาย หลายเวลา ให้บุญพา มาพาน พบมารดร แม่เอื้อมือ ลูบผม ก้มกล่าวถ้อย ว่าลูกน้อย จงฟัง แม่สั่งสอน ชีวิตเจ้า เยาว์วัย ยังไม่มรณ์ เพียงแต่นอน สลบไป เพราะไข้แรง กุศลหนุน บุญช่วย ไม่ม้วยมอด ลูกรักรอด ตายมา อย่ากินแหนง หมั่นทำบุญ หนุนนำ ดังสำแดง แม่ชี้แจง จงจำ ใส่น้ำใจ สั่งสอนเสร็จ แม่ส่ง ลงปราสาท อภิวาท มารดา น้ำตาไหล โอ๋แม่จ๋า ลาก่อน จำจรไกล สะอื้นไห้ โหยหา แสนอาวรณ์ แม่หายวับ ลับตา หาไม่เห็น เวลาเย็น ย่ำทาง ข้างสิงขร ไม่ชักช้า มาถึง ครึ่งนคร บทจร กลับบ้าน พบกานดา จากคุณ : deedang - [ 26 ก.พ. 52 11:33:19 ]

ความคิดเห็นที่ 40 รู้สึกตัว ตื่นนอน ตอนตีหนึ่ง หวนคิดถึง ความหลัง สิ้นกังขา บาปบุญนี้ มีแน่ แท้ทำมา เห็นกับตา ต้องเชื่อ แม่เนื้อนวล ขอน้ำน้อง หนึ่งจอก กรอกใส่ปาก ระงับอยาก ไข้หย่อน นอนยิ้มสรวล ใจสดชื่น ฟื้นไข้ โรคไม่กวน หายดีชวน งามขำ ทำบุญทาน ไปปล่อยนก เต่าปลา เท่าอายุ เลี้ยงภิกษุ ทั้งวัด จัดอาหาร คนเจ็บไข้ ให้ค่า พยาบาล บุญบันดาล มารดา ข้าอยู่ดี กรวดน้ำแผ่ ผลบุญ เจือจุนญาติ วายชีวาตย์ ตามวัย ไปเมืองผี พ้นโศกเศร้า เนาสวรรค์ ในทันที ขอให้มี สันติ สุขทุกเวลา จากคุณ : deedang - [ 26 ก.พ. 52 11:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 41 กวีวรรณ วงษ์ประเสริฐ เหมือนเกิดใหม่ ฟื้นจากไข้ หายเจ็บ เทพรักษา เดชกุศล ชนนี ช่วยชีวา รอดตายมา เมืองคน พ้นลำเค็ญ เล่าเรื่องราว คราวสลบ พบบุญบาป บรรยายภาพ เหตุการณ์ ผ่านไปเห็น ทั้งดีชั่ว ที่ดู รู้ประเด็น ประพันธ์เป็น กลอนไว้ ใช่อวดดี พระไตรรัตน์ คุ้มครอง จิตผ่องใส จดจำได้ ทุกเรื่อง ในเมืองผี นรกกะ สวรรค์ เชื่อมั่นมี วายชีวี พบทั่ว ทุกตัวคน ตัวฉันได้ ไปเห็น เป็นความสัตย์ นำประวัติ มาเล่า เอากุศล เป็นตัวอย่าง สร้างดี มีในตน หลีกชั่วพ้น พบสุข ทุกทิวา เรื่องโลกหน้า บุญนำ กรรมเก่าซัด ผจงจัด พจี ศรีภาษา ฝากโลกบรรณ กันเลือน เตือนอุรา ให้ประชา ชนอ่าน สำราญเอย. จากคุณ : deedang - [ 26 ก.พ. 52 11:36:00 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อนุโมทนากับนิราศปรโลกด้วยจ้ะ ปรโลก แบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ ปรโลก ฝ่ายสุคติ  และ ฝ่ายทุคติ ปรโลกฝ่ายสุคติ คือสถานที่ที่ใคร ได้อยู่แล้ว ย่อมเป็นสุข มี 27 ภูมิ ได้แก่ 1. มนุสสภูมิ เป็นภูมิที่อยู่อาศัย ของมนุษย์เรา และเป็นที่อยู่ของผู้ที่มีใจสูง เพราะมนุษย์มีความรู้จักผิดชอบชั่วดี ถ้า ทำดีก็จะได้ถึงดีที่สุด หากทำชั่วก็จะถึงชั่ว ที่สุด 2. เทวภูมิ หรือ สวรรค์(มี 6 ชั้น) คือ จาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดี และปรนิมมิตวสวัตดี 3. รูปภูมิ(พรหม 16 ชั้น) 4. อรูปภูมิ(อรูปพรหม 4 ชั้น ปรโลก ฝ่ายทุคติ ปรโลกฝ่ายทุคติ คือสถานที่ที่เต็ม ไปด้วยความทุกข์เรียกว่าอบายภูมิมี 4 แห่ง การแบ่งภูมิต่างๆ ในทุคติอาจเปรียบได้กับ การแบ่งแดนต่างๆ ในเรือนจำ ซึ่งแบ่งแดน กักขังนักโทษตามความหนักเบาของแต่ละคนดังนี้ 1. นรก หรือ นิรยภูมิ จัดอยู่ใน อบายภูมิอันดับที่ 1 เป็นดินแดนที่ปราศจาก ความสุขสบาย สัตว์ที่ตกลงไปสู่นรก เพราะ บาปกรรมชั่วที่ตนกระทำไว้เป็นอาจิณกรรม เมื่อตกลงไปแล้วจะได้รับทุกข์ทรมานอย่าง แสนสาหัส ไม่มีเวลาว่างเว้นจากการทัณฑ์ ทรมาน นรก มีที่ตั้งอยู่ใต้เขาตรีกูฏ มีทั้งหมด 8 ขุมใหญ่ ที่เรียกว่า มหานรก และยังมีขุม บริวาร เรียกว่า อุสสทนรก อีก 128 ขุม มี นรกขุมย่อย ที่เรียกว่า ยมโลก อีก 320 ขุม 2. ภูมิ เปรต หรือ เปตติวิสยภูมิ จัดอยู่ในอบายภูมิอันดับที่ 2 เป็นดินแดนที่ มีแต่ความเดือดร้อนอดอยาก หิวกระหาย เปรต แบ่งออกเป็นหลายประเภท แต่ที่นิยม แบ่งกันมาก คือ เปรต 12 ตระกูล ที่อยู่ของ เปรต นั้นอยู่ที่ซอกเขาตรีกูฏ และมีปะปน อยู่กับมนุษย์โลกด้วย แต่เป็นภพที่ละเอียดกว่า เหตุที่ทำให้มาเป็น เปรต เพราะได้ทำ อกุศลกรรมประเภทตระหนี่ หวงแหนทรัพย์ เป็นหลัก การเกิดเป็นเปรตนั้นมี 2 ลักษณะ คือ ผ่านมาจากมหานรก อุสสทนรก และยมโลก หรือเกิดจากมนุษย์ผู้กระทำอกุศลกรรม ละโลกแล้วไปเกิดเป็น เปรต 3. อสุรกาย ภูมิ จัดอยู่ในอบายภูมิ อันดับที่ 3 เป็นดินแดนที่ปราศจากความ ร่าเริง อสุรกายมีลักษณะคล้ายกับเปรตมาก แยกแยะได้ยาก และอยู่ในภพภูมิเดียวกัน กับเปรต คือ ที่ซอกเขาตรีกูฏ มีรูปร่าง ประหลาดพิลึกกึกกือ เช่น มีหัวเป็นหมู ตัวเป็นคน มีความเป็นอยู่ที่แสนยากลำบาก เช่นเดียวกับเปรต คือ อยู่ด้วยความหิว กระหาย แต่หนักไปทางกระหายน้ำมากกว่าอาหาร ที่ต้องเกิดมาเป็นอสุรกายเพราะ ความโลภอยากได้ของผู้อื่นในทางมิชอบ   4. ติรัจฉานภูมิ เป็นอบายภูมิอันดับสุดท้าย ที่ มีความทุกข์ทรมานน้อยกว่าสัตว์ที่เกิดใน นรก เปรต และอสุรกาย ที่ชื่อ เดียรัจฉาน เพราะมีลำตัวไปทางขวาง อกขนานกับพื้น และจิตใจก็ขวางจากหนทางพระนิพพาน ด้วย ที่อยู่ของสัตว์เดียรัจฉานนี้ อยู่ปะปน กับมนุษย์ทั่วไป จากคุณ : AYXC - [ 27 ก.พ. 52 18:48:42 ]

ความคิดเห็นที่ 43 นี่เป็นแค่ --- ส่วนหนึ่งของแผนการตลาด  --- ของสำนักธรรมกายครับ -- ดูดีๆ จะเห็น โลโก้ แบรนด์ identity หลายๆจุด --    ทำไม่แนบเนียน พอให้จำได้ ............................... สำนักธรรมกาย เป็นองค์กร บิดเบือนคำสอนพุทธศาสนา เพื่อเอามาหาเงิน จากสาวก เข้าองค์กร ครับ (โคตร เลว เลย) จากคุณ : tanakeme - [ 28 ก.พ. 52 22:00:09 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คิดมากไปหรือป่าวครับ คุณ tanakeme ที่จริงผมอยากจะใช้ภาพประกอบ จาก dmc เพราะสัมพันธ์กับ เนื้อหา ใน นิราศปรโลก แต่ไม่อยากให้ใครมาเพ่งโทษ จึงใช้ภาพอื่นแทน มีบางภาพ ที่ต้องใช้ เพื่อให้มีภาพสอดคล้องกับเนื้อหา นิราศฯ บ้างครับ และที่มาของกระทู้นี้ ผมได้บอกไว้ในต้นกระทู้ ชัดเจนแล้ว คุณ tanakeme ไม่ได้อ่านหรือครับ ? ที่จริงถ้า คุณ tanakeme คิดว่าความเชื่อ ความคิด ความเข้าใจ ในกรณีธรรมกาย ของคุณ tanakeme ถูกต้อง แล้วทำไม ไม่ไปเป็นโจทย์ แจ้งความ , ร้องเรียน กับสถานีตำรวจและหน่วยงานที่ปกครองการคณะสงฆ์ ด้วยตัวคุณ tanakeme เองล่ะครับ ที่กล่าวแบบนี้ ไม่ได้ท้าทาย แต่เสนอแนวทางที่ถูกต้อง ในการแก้ไขปัญหา ที่คุณ tanakeme ตั้งข้อสังเกต ข้อกล่าวหาไว้ น่ะครับ ถ้าคุณ tanakeme คิดว่า วัดพระธรรมกาย ทำผิดคดี ทางโลก ข้อไหน ก็ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ถ้าคุณ tanakeme คิดว่า วัดพระธรรมกาย ทำผิดคดีทางธรรมวินัย ข้อไหน ก็ไปร้องเรียน ที่หน่าวยงานที่ปกครองการคณะสงฆ์ ได้นะครับ ที่กล่าวแบบนี้ ไม่ได้ท้ายทาย แต่เสนอให้ คุณ tanakeme แก้ไขด้วยวิธีที่ถูกต้อง ตามกฎกติกาสังคม เ่ช่น กฎหมาย , พ.ร.บ.สงฆ์ ฯล ที่จริงผมว่า จะจบกระทู้นี้แล้ว ทั้งที่ ยังมี เนื้อหา ในนิราศปรโลก อยู่อีกมาก แต่ตอนนี้ คิดว่า คืนนี้ จะนำเนื้อหา มาเสริมกระทู้ อีกสักนิด ภาพประกอบอีกสักหน่อย เื่พื่อการเรียนรู้สาระธรรม เกี่ยวกับกฎแห่งกรรม การกระทำที่ต้องเป็นไป ควบคู่สุนทรีย์ในภาษาศาสตร์ เพื่อนำไปเป็นข้อคิดในการดำเินินชีวิต เพื่อหลอมหลอม หิริ โอตัปปะ ของเรา ให้เข้มข้นมากขึ้น เพื่อจะได้ไม่ ไปก่อกุศลกรรมบท กับเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ ที่ยังอยู่ในสังสารวัฎ เดียวกับเรา  ครับ เชิญคุณ tanakeme แวะมาศึกษานิราศปรโ ลก บทประพันธ์ โดย พระมหา กวีวรรณ ( วงษ์ประเสริฐ )   อีกนะครับ จากคุณ : deedang - [ 2 มี.ค. 52 12:22:35 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เนื่องจากมีบทกวีอีกมากนัก จึงขอนำมาฝากอีกบางส่วนครับ เื่พื่อการเรียนรู้สาระธรรม เกี่ยวกับกฎแห่งกรรม การกระทำที่ต้องเป็นไป ควบคู่สุนทรีย์ในภาษาศาสตร์ และ เพื่อนำไปเป็นข้อคิดในการดำเินินชีวิต อันดีงาม เพื่อหลอมหลอม หิริ โอตัปปะ ของเรา ให้เข้มข้นมากขึ้น เพื่อจะได้ไม่ ไปก่อกุศลกรรมบท กับเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ ที่ยังอยู่ในสังสารวัฎ เดียวกับเรา  ครับ จากคุณ : deedang - [ 2 มี.ค. 52 20:56:32 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ถึงบ้านหนึ่ง น่าขาม ไฟลามลุก เผาคนทุกข์ ถมทับ ทรัพย์สูญเสีย ร้อนหนังเนื้อ เหลือหลาย กายอ่อนเพลีย ไหม้ลูกเมีย แม่ผัว ทั่วทุกคน กายเกรียมดำ ด่าวดิ้น สิ้นทางหนี เหล็กแดงจี้ จ่อหน้า ตาถลน ถูกย่างสด หมดสุข รับทุกข์ทน ดิ้นทุรน ทุราย ปิ่มวายปราณ บาปวางเพลิง เผาบ้าน ร้านตลาด เพื่อพิฆาต ขับไล่ ไม่สงสาร ลอบเผาเหย้า เอาประกัน อันธพาล วางเพลิงพลาญ ซ่องสาว โสเภณี สงสารเหล่า นารี ที่ถูกกัก หล่อนสำลัก ควันไฟ ไม่อาจหนี เพลิงลุกลาม งอนงาม ร้อนเหลือดี เพียรหลบลี้ สิ้นแรง กำแพงกัน โซ่เหล็กคล้อง สองขา กานดาแน่น ไฟโลดแล่น เร็วรุด สุดผายผัน ย่างสดสาว ด่าวดิ้น สิ้นชีวัน ญาติสุดกลั้น โศกา น้ำตาพรู กลางถ่านเถ้า ขาวผ่อง กองกระดูก สายโซ่ผูก ล่ามขา น่าอดสู ชามข้าวนาง วางไว้ ใกล้โฉมตรู ถูกตะปู ตอกหลัง หล่อนนั่งตาย ใจโหดร้าย ทารุณ บุญไม่รับ เพลิงเผายับ ประยูร สูญสลาย ผลทำผิด คิดคด หมดยางอาย ชีพวางวาย เวรสนอง หมองอุรา จากคุณ : deedang - [ 2 มี.ค. 52 20:57:58 ]

ความคิดเห็นที่ 47 หญิงหนึ่งฝี เต็มตัว หัวเป็นเป็ด แกะสะเก็ด ฝีกิน แลบลิ้นหรา กินเลือดหนอง ของตน ก่นโศกา น้ำเหลืองทา ทั่วร่าง ร้องครางฮือ ร่างสั่นเทิ้ม คันทั่ว ตัวผื่นผุด จมูกหลุด ตาถลน กลกระสือ ปากเหม็นฉู่ หูเน่า ถึงเท้ามือ วิกลคือ ปีศาจ น่าหวาดกลัว บาปทรงเจ้า เข้าผี วจีเท็จ ให้บนเป็ด ไก่หมู พร้อมหูหัว เรียกขวัญข้าว เงินทอง เป็นของตัว ให้ฆ่าวัว ควายใหญ่ ไหว้บูชา จัดหมากพลู ใส่พาน บนบานบอก พูดลวงหลอก ให้หลง พะวงหา เงินผูกคอ หม้อดิน รินสุรา ขับโรคา หายห่าง มิวางวาย อ้างตนคือ ผีปู่ ผู้เป็นใหญ่ ใครเจ็บไข้ บนตู สูจะหาย ถูกกระทำ ย่ำเยีย ไม่เพลียตาย เคราะห์ร้ายกลาย เป็นดี ไม่มีภัย จากคุณ : deedang - [ 2 มี.ค. 52 20:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ชายหนึ่งนั่ง ยิ้มร่า ท่าผยอง กุมกระบอง เหล็กแดง แสงสุกใส ตีหัวตน จนแตก น่าแปลกใจ เลือดหลั่งไหล เป็นทาง พลางร้องพลาง ชาติก่อนโกรธ บิดา ว่าไม่รัก เพียงแต่ตัก เตือนหา ว่าข่มเหง ฉวยไม้ตี ที่หัว พ่อตัวเอง ไม่กลัวเกรง บาปกรรม ทำลงคอ บาปตีพ่อ ตอนตาย กลายเป็นเปรต แสนทุเรศ ลำบาก อ้าปากหวอ ต้องตีหัว ตัวเอง เก่งเกินพอ ไม่รีรอ กระหน่ำ ตีร่ำไป จากคุณ : deedang - [ 2 มี.ค. 52 21:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ชายหัวเท่า เขาใหญ่ ไฟลวกร่าง ร้องครวญคราง เจ็บขา น่าเกรงขาม เหล็กแดงร้อน ก้อนใหญ่ ไฟลุกลาม ตกต้องตาม เนื้อตัว หัวหูตน หกหมื่นก้อน ตกค้าง กลางศีรษะ เพลิงเผากระ หม่อมหาย เจ็บหลายหน ประเดี๋ยวงอก ออกใหม่ ถูกไฟลน ร้อนเหลือทน ทุกข์ถม วิ่งซมซาน หลบไม่พ้น ผายผัน สั่นสะทก ก้อนเหล็กตก ต้องตา น่าสงสาร กองซับซ้อน ร้อนรน บนกบาล ทรมาน กายใจ ผมไหม้เตียน ชาติก่อนก่อ กรรมชั่ว ยิงหัวพระ ลูกปืนกะ เก็งแม่น แล่นถูกเศียร เลือดโทรมกาย วายวาง ใกล้ทางเกวียน ผลกรรมเวียน วนสนอง หมองอุรา *** นำมาฝากให้ศึกษาธรรมะ กรณี กฎแห่งกรรม ควบคู่สุนทรียภาษาศาสตร์ พอสังเขป และขอจบบทกวี นิราศปรโลก ภาคอบายภูมิ เพียงเท่านี้ครับ *** แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 21:01:55 จากคุณ : deedang - [ 2 มี.ค. 52 21:01:02 ]

ความคิดเห็นที่ 50 นิราศปรโลก  ภาค สวรรค์ เื่พื่อการเรียนรู้สาระธรรม เกี่ยวกับกฎแห่งกรรม การกระทำที่ต้องเป็นไป ควบคู่สุนทรีย์ในภาษาศาสตร์ เพื่อนำไปเป็นข้อคิดในการดำเินินชีวิต เพื่อหลอมหลอม ฉันทะในการใฝ่บำเพ็ญกุศล ของเราครับ เทพธิดา หน้านวล ผิวชวนพิศ สิงสถิต วิมานทอง สวยผ่องใส มีบัลลังก์ ตั่งสุวรรณ อยู่ชั้นใน ล่องลอยไป กลางหาว ราวเมฆี รัศมี รุ่งเรือง เหลืองประหลาด บุปผชาติ ประดับ สลับสี ภูษาทอง รองนั่งเปล่งปลั่งดี แก้วมณี วาววับ ระยับตา เทพอัปสร สามพัน พากันเฝ้า เอาใจเจ้า แจ่มจันทร์ สุขหรรษา ปฏิบัติ พัดวี ศรีสุดา ทุกเวลา อยู่เย็น เป็นสุขใจ ชาติก่อนนาง พบพระ บิณบาต มารยาท งามตา น่าเลื่อมใส เชิญเจ้ากู สู่เหย้า เข้าข้างใน นิมนต์ให้ ขึ้นนั่ง เหนือนั่งเตียง นำผ้าเหลือง ราวทอง ปูรองรับ น้อมคำนับ รับศีล สุดสิ้นเสียง ถวายทาน หวานคาว กล่าวเผดียง จัดลำเลียง จังหัน ฉันจนพอ ไหว้รับพร ตอนพระ ท่านยถาฯ แผ่ผลา นิสงส์ ส่งพ่อแม่ มิตรสหาย วายชนม์ ทนทุกข์รอ รวมเหล่ากอ ไกลใกล้ ให้ส่วนบุญ วายชีวา มาสวรรค์ สันติสุข ไม่มีทุกข์ เพราะผล กุศลหนุน คุณความดี ที่ทำ ช่วยค้ำจุน ชีพอบอุ่น อ้อมสรวง สิ้นห่วงใย จากคุณ : deedang - [ 2 มี.ค. 52 21:02:35 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ถึงสระใหญ่ น้ำเย็น เป็นระลอก ดาษด้วยดอก บัวทิพย์ ระยิบสี เรือทองคำ ลำน้อย ลอยวารี เทพเทวี วาดพาย ตามสายชล รอบสระมี มะม่วง เป็นพวงห้อย ระย้าย้อย ยูงยาง ไกรกร่างสน ราชพฤกษ์ ซึกซาก กระบากปน สะตอต้น ตะแบก ดอกแรกบาน คำแคฝอย ป่านฝ้าย หว้าหวายสวย กันเกรากรวย สุกรม นมแมวหวาน เข็มข่อยขู่ พลูพลวง จิกจวงจาน ตานเสี้ยนตาล โตนด โรดทะนง น้อยหน่าเนียง เหียงมะหาด พาดไฉน พุทราไทร จำปา แก้วกาหลง มะกอกกุม ตุมกา สาประยงค์ ปีบเป้งปรง จำปี หอมดีจริง วิมานน้อย ลอยน้ำ งามล้ำลึก กัลปพฤกษ์ พราวพร่าง นางสู่สิง ผ่องประภัสร์ รัศมี ที่พึ่งพิง บังอรอิง อาศัย ใจเบิกบาน ชาติก่อนเพียร หาบชล ทนทุกข์ยาก แสนลำบาล ลุบ่อ ก็สนาน เสร็จสรงร่าง นางชัก ถังตักธาร ยกไม้คาน ขึ้นบ่า หาบมาเรือน ถึงกลางทาง พบพระ หิวกระหาย ลำบากกาย ทุกข์กล้า หาใครเหมือน เดินทางไกล กันดาร นานนับเดือน ร่างกายเปื้อน ผ้าปอน ร้อนทั้งวัน ปลงหาบน้ำ จากบ่า วันทาพระ คารวะ ถวายชล นิมนต์ฉัน รับหม้อกรอง ของเก่า เอามาพลัน กรองน้ำนั้น ถวาย หมายบุญมี พระธุดงค์ ดื่มน้ำ ชำระหน้า ล้างแขนขา ลูบขนอง ผ่องฉวี ดับทุกข์เข็ญ เย็นกาย สบายดี ให้พรศรี สุดา ลุกลาไป ตอนตัวตาย บุญตาม ให้ความสุข แสนสนุก สนิท จิตแจ่มใส ลงเรือทอง ล่องธาร เบิกบานใจ สระกว้างใหญ่ ไพรประดับ ระยับตา จากคุณ : deedang - [ 2 มี.ค. 52 21:03:19 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เทพธิดา สวยดี เป็นศรีสรวง แสงโชติช่วง ชวลิต ทั่วทิศา ล้ำเทพอื่น หมื่นแสน แดนนภา ดุจดารา ประกายพรึก ระทึกใจ ชาติก่อนถือ ศีลมั่น ทุกวันพระ ไม่เลยละ เข้าวัด ดัดนิสัย สติตั้ง ฟังธรรม ฉ่ำฤทัย มิช้าไย เย็นลง ตรงไปเรือน ถือประทีป ธูปเทียน เวียนมาวัด รีบเร่งจัด จุดไฟ ตั้งไว้เกลื่อน จุดบูชา หน้าธรรมมาสน์ ประกาศเตือน พาพวกเพื่อน ฟังธรรม มิร่ำไร สำรวมร่าง ตั้งใจ ใคร่ครวญคิด กระแสจิต จดจ่อ ต่อคำไข ให้โคมไฟ ดุจให้ตา ปัญญาไว อิ่มเอมใจ โสมนัส เสริมศรัทธา ชีวาวาย เนาสวรรค์ บันเทิงจิต รังสีติด ตามร่าง กระจ่างหล้า แสงเรืองรุ่ง พุ่งพ้น บนนภา ผลบุญมา พูนเพิ่ม ส่งเสริมนาง จากคุณ : deedang - [ 2 มี.ค. 52 21:03:54 ]

ความคิดเห็นที่ 53 วิมานหนึ่ง เลิศหรู อยู่ยอดเขา สูงเสลา สล้าง กลางถิ่นแถน เสาแปดเหลี่ยม เยี่ยมยอด ตลอดแดน ประดับแผ่น สุวรรณ อัญมณี ฝาผนัง หลังคา หน้าต่างสวย งามคันทวย ทองคำ จำรัสศรี เอี่ยมลออ ช่อฟ้า บราลี บันไดมี สี่ทิศ ชิดประตู เพิงพะไล ไพจิตร ติดกระจก ลายกนก หน้าบัน นั้นเลิศหรู บัลลังก์แก้ว แผ้วผ่อง ธงทองชู พรมเงินปู พื้นปรางค์ สำอางตา ข่ายทองคำ คลุมครอบ รอบปรางค์มาศ ยอดปราสาท เสียดสรวง ห้วงเวหา เสียงกระดิ่ง กรุ่งกริ่งดัง บนหลังคา ห้อยระย้า หยดย้อย ลอยลมบน อุทยาน กว้างใหญ่ ไม้ร่มรื่น   ดูดกดื่น บุปผา ผลาผล หอมตลบ อบอวล ถ้วนมณฑล ไม่ร่วงหล่น แลลาน ตระการตา เทพไท ครอบครอง ผ่องรังสี สถิตที่ บัลลังก์ นั่งหรรษา ดูอัปสร ฟ้อนรำ ฉ่ำอุรา เทพธิดา เฝ้าแหน สองแสนนาง ชาติก่อนสร้าง กุฏิ ที่ประทับ ใกล้ชิดกับ ภูเขา เฝ้าถากถาง ปรับพื้นดิน สิ้นเสี้ยน เตียนทุกทาง ขุดลำราง โดยรอบ ขอบอาราม ปลูกไม้หมาก หลากหลาย ในที่สงฆ์ บุษบง อุบล แลล้นหลาม ระฆังฆ้อง กลองมี ตีย่ำยาม โคมไฟตาม ส่องสว่าง กลางราตรี นิมนต์พระ พุทธเจ้า เข้าประทับ จัดสำรับ ถวาย มิหน่ายหนี ถือศีลนั่ง ฟังธรรม ก่อกรรมดี จึงได้มี วิมาน ตระการตา จากคุณ : deedang - [ 2 มี.ค. 52 21:06:30 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เทพเจ้า ใจดี มีศักดิ์ใหญ่ สถิตใน วิมานทอง ผ่องไพศาล เสาพันถ้วน ล้วนแล้ว แก้วประพาฬ หน้าต่างบาน ประตู ดูโสภา ลูกกรงกั้น บันได วิไลลักษณ์ มีห้องพัก พื้นแผ้ว แก้วกั้นฝา รุ่งเรืองรอง ทองคำ ทำหลังคา พวงมาลา ห้อยลง ตรงเพดาน ในสระศรี มีปลา กุ้งอาศัย บัวบังใบ งามสล้าง กลางละหาน บุษบง จงกล อุบลบาน ปทุมาลย์  โกมุท บุษบัน บุณฑริก ลินจง เบียดบงกช สีใสสด แดงขาว พราวสวรรค์ สัตตบรรณ สัตตบุษย์ สุดรำพัน กลิ่นหอมรัญ จวนใจ ไปทุกทาง อัปสรแสน แหนแห่ แซ่ซ้องเสียง แจ้วจำเรียง รำร้องไม่หมองหมาง ปรนนิบัติ พัดวี ไม่มีจาง ดุริยางค์ บรรเลง เพลงเพลินใจ ชาติก่อนปลูก โพธิ์ไทร เพื่อให้ร่ม พระจงกรม ทำกิจ จิตผ่องใส ท่านนั่งตรึก ฝึกกมล ใต้ต้นไทร ยามเช้าใช้ นั่งฉัน จังหันดี ถือศัลฟัง เทศน์ธรรม  ชื่นฉ่ำจิต ทานอุทิศ ทำไว้ ไม่ตระหนี่ พากเพียรทำ กรรมฐาน นานนับปี วายชีวี มาสวรรค์ บันเทิงใจ *** นำมาฝากให้ศึกษาธรรมะ กรณี กฎแห่งกรรม ควบคู่สุนทรียภาษาศาสตร์ พอสังเขป และขอจบบทกวี นิราศปรโลก ภาค สวรรค์ เพียงเท่านี้ครับ *** จากคุณ : deedang - [ 2 มี.ค. 52 21:09:08 ]