ความคิดเห็นที่ 1 โปรแกรมต้านชราแนวพุทธ ในสมัยพุทธกาลครั้งหนึ่งพระพุทธองค์ได้ประทานโอวาทแก่พระเจ้าปเสนทิโกศลในเรื่องธรรมะที่ทำให้อายุยืนว่า คนที่มีสติอยู่ตลอดเวลา รู้จักประมาณในการบริโภค ย่อมมีเวทนาเบาบาง แก่ช้า ครองอายุอยู่ได้นาน พระเจ้าปเสนทิโกศลฟังแล้วไม่รอช้ามีรับสั่งให้มหาดเล้กท่องจำพุทธโอวาทนี้ไว้และคอยกล่าวขึ้นมาขณะที่พระองค์เสวยทุกมื้อไม่ช้าไม่นานผลดีก็บังเกิดขึ้นแก่พระองค์ทำให้ร่างกายแข็งแรงจนหาผู้ใดเทียบได้ยาก นอกจากนั้นพระพุทธองค์ยังได้เคยตรัสกับพระอานนทืไว้ด้วยว่า อานนท์ผู้อบรมอิทธิบาทสี่มาอย่างดีและทำจนแคร่วคล่องแล้วอย่างเรานี้ หากปราถนาจะมีชีวิตอยู่ถึง1กัลป์ก้สามารถมีชีวิตอยู่ได้ จากคุณ : อิทธิบาทสี่ - [ 22 มี.ค. 52 16:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมโปรดพระเจ้าปเสนทิโกศล ให้เห็นภัยในการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ความว่า    ความแก่ ความเจ็บ ความตายนั้น เป็นเสมือนภูเขาก้อนใหญ่ หรือหินก้อนใหญ่ที่กลิ้งลงมาจากยอดภูเขา แล้วก็บดทับสัตว์ให้แหลกลาญไปวัน ๆ หนึ่ง ฉะนั้นชีวิตของเรานั้นแหลกไปกับเกิด ไปกับแก่ ไปกับเจ็บ ไปกับตาย ซึ่งก้อนหินนั้นกำลังกลิ้งเข้ามา    ท่านทั้งหลายอย่าได้ประมาท ที่ยังอยู่ตรงนี้เพราะว่าหินก้อนใหญ่มันยังไม่กลิ้งมาข้างหลังเรา ความแก่มันกลิ้งจะทับเราอยู่ทุกวัน ความเจ็บกำลังกลิ้งจะทับเราอยู่ทุกวันและมันก็กลิ้งทับเพื่อน ญาติพี่น้อง สัตว์ต่าง ๆ ตายไปวันละศพสองศพ เรายังไม่ตกใจ จะคิดที่จะวิ่งหนีหรือ คือวิ่งไปหาพระธรรมคำสอนที่สอนให้พ้นเกิด แก่ เจ็บ ตาย พระองค์บอกว่า ใครได้เราเป็นกัลยาณมิตรแล้วจะพ้นเกิด แก่ เจ็บ ตาย เพราะฉะนั้นจงวิ่งหาพระธรรมคำสอนของพระองค์ เพื่อให้พ้นหินก้อนใหญ่ที่มันจะทับเราให้แหลกลาญ จากคุณ : อิทธิบาทสี่ - [ 22 มี.ค. 52 16:54:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พระองค์ทรงแสดงธรรมกับภิกษุทั้งหลายว่า อย่าเห็นแก่ปากแก่ท้อง โดยแสดงอุปมาอุปมัยว่า เสมือนกับหญิงชายหญิงชายคู่หนึ่งมีลูกน้อยเดินทางไปกลางทะเลทราย เสบียงอาหารเกิดหมด เลยปรึกษากันว่าจะต้องฆ่าใครสักคนหนึ่งเพื่อให้ชีวิตอยู่รอดด้วยการกินเนื้อของลูกเพื่อประทังชีวิตไปพระพุทธองค์แสดงให้รู้ว่าการที่จะกลืนกินก้อนข้าว น้ำ อะไรๆเข้าไปไม่ใช่กินง่ายๆ ให้มีความรู้สึกว่าเหมือนกับกินเลือดกินเนื้อผู้อื่นทีเดียว เราจะได้กินข้าวของชาวบ้านเนี่ย ก็ต้องนึกว่าชาวบ้านเขาเสียเลือดเสียเลือดเสียหยาดเหงื่อไป จะเป็นการทำบาปเพราะเห็นแก่กิน จากคุณ : อิทธิบาทสี่ - [ 22 มี.ค. 52 16:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พระองค์ทรงแสดงธรรมสอนภิกษุว่าอย่าทำตัวเหมือนตัวกังสรกะ อย่ามีจิตฝักใฝ่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องพร่ำสรรเสริญในเรื่องการได้กินได้อยู่อย่างสบาย เล่าง่าย ๆ ว่า มีภิกษุองค์หนึ่งไปบิณบาตบ้านญาติโยม ได้มาแล้วเกิดอร่อย ติดใจในรสอาหาร ก็มานั่งพูดกันว่า แหม เมื่อไรจะได้ไปบิณฑบาตบ้านนั้นอีก บ้านนั้นจะใส่อย่างนั้นอย่างนี้อีก    พระองค์ก็ว่า ภิกษุเอ๋ย ถ้านั่งพูดกันอย่างนี้ก็เหมือนตัวกังสรกะที่ชอนไชอยู่ในกองอุจจาระปัสสาวะ ไม่ได้พ้นไปจากเรื่องกิน ซึ่งเมื่อย่อยเข้าไปก็เป็นอุจจาระ ที่ว่าเลิศว่าประเสริฐก็กลายเป็นของเน่า เพราะฉะนั้นอย่าให้จิตไปนั่งคิดนั่งนึกแต่เรื่องอย่างนี้ นี่ก็เรียกว่าเลวพอ ๆ กับไอ้ตัวกังสรกะชอนไชอยู่ นึกถึงอยู่แต่เรื่องกิน จากคุณ : อิทธิบาทสี่ - [ 22 มี.ค. 52 16:59:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 การบวชครั้งนั้น ก็บวชอย่างเรียบร้อย แต่ได้ผลดีที่สุด ได้สุขสงบเย็น ได้สติปัญญา ได้ศีล ได้สมาธิ ได้อริยสัจ ได้โพธิญาณ   ฟ้าชายสิทธัตถะออกบวชใหม่ ๆ นั้น ท่านยังยินดีในรสอาหาร จึงได้น้อมนึกไปถึงอาหารในวัง เพราะบิณฑบาตได้อาหารที่ไม่ดี น้อมนึกว่า ถ้าเราไม่ไปออกบวช ก็จะได้ฉันของที่ดีกว่านี้ ในบาตรนี่มันปนเปไปหมด นั่งนึกอยู่พักใหญ่ แต่สติอันฉับไวของพระองค์จึงได้ยั้งเตือนใจตนเองขึ้นว่า สิตธัตถะ แกนี่จะมานั่งพิรี้พิไรถึงอาหารในรั้วในวังอยู่ได้ยังไง บัดนี้ออกบวชเพื่อปรารถนาโพธิญาณแล้ว จะมาหลงใหลในเรื่องการกิน ขัดขวางโพธิญาณของเราทำไม เท่านั้นเองพระองค์ก็ทรงเสวยอาหารที่ได้มานั้นลงคออย่างสะดวก จากคุณ : อิทธิบาทสี่ - [ 22 มี.ค. 52 17:01:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สูตรลับจากพระไตรปิฎก ฉันทะ  ทำให้มีความพึงพอใจในการกระทำต่างต่างคนเราถ้าชอบใจพอใจสิ่งใดแล้วก็ย่อมรุ็สึกว่าการนั้นไม่เหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใดทำงานไปก็เหมือน ได้พักผ่อนสบายใจ วิริยะ คือความเพียร ความสม่ำเสมอในการปฎิบัติตัวให้เป็นไปตามแนวทางทีควร จิตตะ คือความเอาใส่ใจซึ่งจะทำให้เกิดสมาธิและความสงบขึ้นชีวิตจึงไม่ร้อนรนว้าวุ่นไปตามกระแสของโลก วิมังสาคือการใคร่ครวญใช้เหตุผลและสติปัญญนำทางชีวิต จากคุณ : อิทธิบาทสี่ - [ 22 มี.ค. 52 17:11:19 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โปรแกรมต้านชราในพระไตรปิฎก สัปปายการี   ให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่สบายและเกื้อกูลแก่สุขภาพ เช่นทำงานในที่อากาศปลอดโปร่ง ไม่ครียดกับงาน สัปปาเย มัตตัญญู  ต้องรู้จักพอดีในสิ่งที่สบายนั้นด้วยไม่ใช่ว่าสบายมาก จนกลายเป้นนอนหงายขี้เกียจอยู่ทั้งวัน ปริณตโภชี   รับประทานอาหารที่ย่อยง่ายเช่นเนื่อปลา ไข่ขาว ผักผลไม้ หลีกเลี่ยงสิ่งที่ย่อยยากเช่นเนื้อแดง กาลจารี  ใช้ชีวิตให้เหมาะสมในเรื่องเวลา ไม่เคร่งเครียดบังคับตัวเองเกินไป รู้จักจัดเวลาให้พอดี ไม่หักโหมเหินกำลัง พรหมจารี  ถือพรหมจรรย์ตามความเหมาะสมรู้จักปล่อยวางบ้าง อย่าเคร่งเครียดเบียดตัวเองจนตกขอบปฎิบัติธรรมสม่ำเสมอ ถือศีลกินเจตามควรและหมั่นขัดเกลาจิตใจให้กิเลสเบาบางลลง จากคุณ : อิทธิบาทสี่ - [ 22 มี.ค. 52 17:21:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พรสี่ประการ เมื่อพระให้พรมักจะลงเอยด้วย อายุ วัณโณ สุขัง พะลังเพราะพรสี่ประการนี้ เป็นสมบัติอันประเสริฐเลิศยิ่งกว่าทรัพย์ใดใด อายุ  ท่านมุ่งหวังให้เรามีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพเพื่อให้อายุที่ยืนยาวนี้ มีส่วนสร้างปัญญาหาทางพ้นทุกข์ให้แก่ตัวไม่มัวเมากับสิ่งเร้าภายนอก จากคุณ : อิทธิบาทสี่ - [ 22 มี.ค. 52 17:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 9 วัณโณ  หรือผิวพรรณนั้นมีรากฐานสำคัญมาจากการเป็นผู้มีศีล หากมีศีลเป็นวัตรประจำใจผิวพรรณย่อมดีอยู่เสมอเพราะเมื่อปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ ทุกข์ร้อนจะไม่มากล้ำกลาย เลือดลมจึงเดินสะดวก ทำให้ผิวพรรรผ่องใส จากคุณ : อิทธิบาทสี่ - [ 22 มี.ค. 52 17:30:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณครับ  สาธุๆๆ จากคุณ : Mankei - [ 22 มี.ค. 52 17:32:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สำหรับสุขัง การที่บุคคลจะมีสุขไดนั้น จำต้องมีองค์ประกอบคือ มีปัจจัยสี่พร้อมรวมทั้งมีสติและปัญญารู้ตัวทั่วพร้อมตลอดเวลา ไม่ปรุงจิตให้ขึ้นลงตามสิ่งที่มากระทบและหาทางแก้ไขปัญหาต่างต่าง ได้ในทางที่ถูกที่ควร ส่วน พะลัง  มีอยู่สองอย่างคือกำลังกายและกำลังใจที่ต้องหมั่นฝึกฝน เตรียมพร้อมไว้รับมือกับความเปลี่ยนแปลงด้วยการหมั่นออกกำลังกาย และหมั่นฝึกจิตให้เข้มแข็งอยู่เสมอ แม้เราจะพยายามต้านความแก่ความตายไว้เพียงใดแต่สุดท้ายแล้ว เราทุกคนก็ต้องเดินทางไปบนเส้นทางเดียวกันการใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาทหมั่นดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอทั้งกายและใจจะช่วยให้เราเป็นผู้มีอายุยืนอย่างมีความสุขและสามารถสร้างประโยชน์ให้สังคมได้อย่างยาวนาน ที่สุด จากคุณ : อิทธิบาทสี่ - [ 22 มี.ค. 52 17:51:39 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อนุโมทนาบุญค่ะ จากคุณ : รัตนมาลี - [ 22 มี.ค. 52 18:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สาธุ ... พระดำรัสของพระพุทธองค์ เปรียบเสือนแสงทองส่องทางให้กับทุกชีวิตมนุษย์อย่างเรา ขอบพระคุณที่นำสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์มาบอกกัน ... โหวตค่ะ จากคุณ : แม่หนูดี (kantakart) - [ 22 มี.ค. 52 19:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อนุโมทนาและมาโหวดด้วยจ้ะ จากคุณ : AYXC - [ 22 มี.ค. 52 21:02:30 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อนุโมทนาครับ จากคุณ : ณัฐกร - [ 22 มี.ค. 52 21:11:31 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณครับ จากคุณ : Dr.Snake - [ 23 มี.ค. 52 01:15:17 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อนุโมทนาค่ะ ^^ จากคุณ : p (pangjang) - [ 23 มี.ค. 52 01:19:06 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อนุโมทนา    ขอบคุณครับ    มี อิทธิบาทสี่  จึงมี อายุ      มี ศีล            จึงมี วัณณ    มี ฌาณ         จึงมี สุข    มี วิมุต           จึงมี พละ จากคุณ : P2wichai - [ 23 มี.ค. 52 05:57:34 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณครับ จากคุณ : ธรรมชาติไพศาล - [ 23 มี.ค. 52 08:27:48 ]

ความคิดเห็นที่ 20 โหวตและเก็บเข้าคลังกระทู้เรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ .. จากคุณ : neilarm - [ 23 มี.ค. 52 13:21:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 รูปวาดใน เจ้าของกระทู้ สวยงามมากครับ อยากทราบที่มา จากคุณ : TrialWare - [ 24 มี.ค. 52 01:47:52 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อนุโมทนา ครับ สาธุ จากคุณ : deedang - [ 24 มี.ค. 52 07:34:10 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อนุโมทนาครับ จากคุณ : KyBlueSky - [ 25 มี.ค. 52 09:10:10 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขออนุโมทนาบุญเป็นอย่างยิ่งคะ จากคุณ : nu_aorr - [ 27 มี.ค. 52 12:14:24 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อนุโมทนาค่ะ ^^ จากคุณ : sarawadee - [ 27 มี.ค. 52 13:13:43 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ปล่อยปลาก็ดี  นะครับ จากคุณ : ตักบาตรถามพระ - [ 30 มี.ค. 52 01:35:05 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขออนุโมทนาค่ะ จากคุณ : แก่ม แก๊ม - [ 8 เม.ย. 52 08:16:20 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สาธุ.....อนุโมทนาค่ะ จากคุณ : sorceressnt - [ 8 เม.ย. 52 09:38:12 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อนุโมทนาค่ะ ตามมาโหวตให้คะ จากคุณ : มีแต่ลูกสาว - [ 8 เม.ย. 52 11:58:06 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อนุโมทนา จากคุณ : ชินจัง..ชักจะชินแล้ว - [ 8 เม.ย. 52 19:56:06 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อนุโมทนาค่ะ ตามมาโหวตให้คะ จากคุณ : ต้มข่า - [ 8 เม.ย. 52 21:00:33 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สาธุ โหวตให้ค่ะ จากคุณ : แม่หนูดี (kantakart) - [ 9 เม.ย. 52 22:36:51 ]