ความคิดเห็นที่ 1 พระธาตุเจดีย์ เป็นเจดีย์ที่บรรจุพระธาตุ อินเดีย เรียกเจดีย์ประเภทนี้ว่า สรีริกสถูป พระธาตุเจดีย์ รวมถึง เจดีย์ที่บรรจุธาตุของพระอรหันต์สาวกด้วย ถ้าเป็นเจดีย์ที่บรรจุพระธาตุของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะก็จะเรียกว่า พระมหาธาตุ พระบรมธาตุ หรือพระบรมสารีริกธาตุ ถ้าเรียกพระธาตุส่วนหนึ่งส่วนใดของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะก็จะเรียกชื่อตามนั้น เช่น พระทันตธาตุ หรือพระทาฒธาตุ (ฟัน หรือ เขี้ยวของพระพทุธเจ้า) พระเกศธาตุ (เส้นพระเศาของพระพุทธเจ้า) พระอุรังคธาตุ (พระธาตุส่วนที่เป็นกระดูกหน้าอกของพระพุทธเจ้า ในประเทศไทย ได้แก่ พระปฐมเจดีย์ พระบรมธาตุดอยสุเทพ พระบรมธาตุดอยตุง พระธาตุลำปางหลวง พระธาตุหริกุญชัย พระธาตุพนม พระธาตุเชิงชุม พระธาตุนารายณ์เจงเวง พระบรมธาตุขามแก่น พระธาตุบังพวน พระธาตุแช่แห้ง พระธาตุช่อแฮ พระบรมธาตุเมืองนคร พระธาตุไชยา จากคุณ : ตักบาตรถามพระ - [ วันจักรี 01:36:53 ]

ความคิดเห็นที่ 2 บริโภคเจดีย์ เป็นพระเจดีย์ที่บรรจุของใช้ที่เกี่ยวกับเนื่องกับพระพุทธเจ้า ได้แก่ อัฐบริขาร มีบาตรและจีวร เป็นต้น นอกจากนั้นยังรวมไปถึงสถานที่อันเป็นสังเวชนียสถานทั้งสี่ คือ สถานที่ประสูติ (ลุมพินีวัน) ตรัสรู้ (พุทธคยา) แสดงปฐมเทศนา (ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน) และปรินิพพาน (เมืองกุสินารา) รวมพระแท่นที่บรรทมตอนปรินิพพาน อินเดียเรียกเจดีย์ประเภทนี้ว่า ปาริโภคสถูป จากคุณ : ตักบาตรถามพระ - [ วันจักรี 01:37:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พระธรรมเจดีย์ เป็นพระเจดีย์ที่บรรจุ หรือ จารึก พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เช่น หอพระไตรปิฎก และส่วนที่เป็นพระไตรปิฎกเอง ไม่ว่าจะจารึกในรูปแบบใด เดิมได้เลือกเอาหัวใจพุทธศาสนา จารึกเป็นตัวอักษร ประดิษฐานไว้สำหรับบูชา มีความว่า " เย ธมฺมา เหตุปปฺภวา เตสํ เหตุ ตถาคโต เตสญฺจ โย นีโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ จากคุณ : ตักบาตรถามพระ - [ วันจักรี 01:38:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อุเทสิกเจดีย์ เป็นเจดีย์ที่ทำเป็นพุทธบัลลังก์ พระแท่นพระพุทธเจ้า รวมถึงพระพุทธฉายด้วย อินเดียเรียกเจดีย์ ประเภทนี้ว่า อุทเทสิกสถูป สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา รวมความได้ว่า พระเจดีย์ เป็นที่ทำเป็นหรือบรรจุสิ่งที่เนื่องด้วยพระพุทธเจ้า อันเป็นสิ่งที่ควรแก่การสักการบูชา อุทเทสิกเจดีย์ คือ เจดีย์ที่เป็นรูปเคารพซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น พระธรรมกายประจำตัวที่เราสร้าง คือ อุทเทสิกเจดีย์บนมหาธรรมกายเจดีย์ อุเทสิกะเจดีย์ เป็นสถานที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสิ่งเคารพบูชา ได้แก่ พุทธบัลลังก์ ซึ่งเรียกว่าอาสนะบูชา เป็นสถานที่จัดเตรียมไว้ให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเวลาเสด็จไปโปรดเทศนาสั่งสอน ณ ที่นั้น ๆ จึงได้สร้างพุทธบัลลังก์เป็นที่เคารพบูชา และในวัตถุนิทานในคัมภีร์อรรถกถาว่ามีพระปุสสเทวเถระอยู่กลันทวารวิหารกวาดลานเจดีย์ประจำ วันหนึ่งได้เห็นรูปพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาปรากฏ ทำให้อารมณ์เป็นสุขแล้วเจริญวิปัสนาจึงเกิดบรรลุเป็นพระอรหันต์ ทำให้คิดสร้างพระพุทธรูปขึ้น เพื่อเป็นตัวแทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยวัสดุดังนี้ มีแก้ว มณี ศิลา โลหะ อัฐ ไม้ ประดิษฐ์ขึ้นเป็นพระพุทธรูป เพื่อให้เป็นปูชนียวัตถุไว้เป็นอนุสรณ์ เครื่องระลึกเตือนใจสำหรับผู้พบเห็น จึงเปรียบเสมือนตัวแทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้วได้เกิดสิ่งเคารพขึ้นแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้แก่ เจดีย์ จากเจดีย์ ๔ อย่างนี้ กลายเป็นสัญลักษณ์ พระพุทธศาสนา ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อให้ระลึกถึงพระพุทธองค์และเป็นวัตถุสำคัญ อุเทสิกะเจดีย์ เป็นสิ่งของสร้างขึ้นอุทิศแด่พระพุทธเจ้า มิได้กำหนดว่าเป็นอะไร ถ้ามิใช่พระธาตุเจดีย์ บริโภคเจดีย์ และพระธรรมเจดีย์แล้ว ถือว่าเป็นอุเทสิกะเจดีย์ทั้งสิ้น เช่น พุทธบัลลังก์ พระพุทธรูป รอยพระพุทธบาท พระธรรมจักรฯ เป็นอุเทสิกุเจดีย์ทั้งสิ้น จากคุณ : ตักบาตรถามพระ - [ วันจักรี 01:38:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เจดีย์ชเวดากอง สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 11-15 จนกระทั่งถึงรัชสมัยของพระเจ้าพินยาอู ในราวพุทธศตวรรษที่ 19 ได้ทรงพระกรุณาโปรดฯให้สร้างพระเจดีย์ใหม่ มีความสูง 9 วา (18 เมตร) และนับจากนั้นพระบรมธาตุก็ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ ตลอดจนการถวายเครื่องมหัคฆภัณฑ์อันได้แก่ ทองคำ รัตนชาติ และสิ่งมีค่าต่าง ๆ เป็นพุทธบูชาอย่างต่อเนื่อง ยาวนานครับ หลายร้อยปี พันปีทีเดียว ระหว่างนั้นองค์พระเจดียก็มีความสูงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเทียบเท่ากับความสูงปัจจุบัน คือ 49 วา (98 เมตร) ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 20 ครับ ระหว่างระยะเวลาที่ผ่านมานั้นมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างต่อเนื่อง แต่องค์พระบรมธาตุก็มิได้รับความเสียหายมาก กระทั่งถึงปี 2311 เกิดแผ่นดินไหวหนักมาก จนกระทั่งยอดพระบรมธาตุหักตกลงมา เรารู้ไหมครับว่า บนยอดพระบรมธาตุมีอะไรบ้าง เอาแค่รายการย่อย ๆ เท่านั้นนะครับ บนยอดสุดของพระบรมธาตุนั้น มีเพชรลูกอยู่ 5448 เม็ด ขนาดเท่าไข่นกพิราบบ้าง เท่าไข่นกกระทาบ้าง โดยเฉพาะที่ยอดฉัตรชั้นบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่อยู่เม็ดหนึ่งหนักประมาณ 72 กระรัต และทับทิมลูก ขนาดเท่าไข่ไก่บ้าง ไข่ห่านบ้าง ไข่นกพิราบบ้าง รวม 2317 เม็ด ใหญ่กว่าเพชรที่ยอดพระมหาพิชัยมงกุฏ ซึ่งเราไปซื้อมาจากอินเดีย ตั้งไม่รู้กี่เท่าแล้วครับ อีกอย่างของเราซื้อมาในสมัยร.4 แต่ของพม่า ถวายไว้นานมาก นานจนไม่รู้ว่าถวายมาตั้งแต่สมัยไหนด้วยซ้ำครับ แล้วอีกอย่างถ้าจะว่าเพชรนั้นมาจากสยามก็ไม่มีทางเป็นไปได้ครับ ในพระราชพงศาวดารของเราไม่เคยพูดถึงเพชรในเครื่องราชูปโภคสมัยอยุธยาเลย มีก็แค่ทับทิมสีแดงขนาดเท่าผลหมากสงทั้งเปลือกซึ่งห้อยคอม้าสมัยพระนารายณ์ มีแค่นั้นครับ อีกอย่าง ผลหมากสงทั้งเปลือก เล็กกว่าไข่ไก่ตั้งสองเท่าได้ จากคุณ : ตักบาตรถามพระ - [ วันจักรี 01:40:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 .. จากคุณ : ตักบาตรถามพระ - [ วันจักรี 01:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 . จากคุณ : ตักบาตรถามพระ - [ วันจักรี 01:42:38 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ... จากคุณ : ตักบาตรถามพระ - [ วันจักรี 01:43:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณเนื้อเรื่องและ รูปภาพ จากอินเตอร์เน็ต จากคุณ : ตักบาตรถามพระ - [ วันจักรี 01:44:51 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อนุโมทนานะครับ เจดีย์เป็นตัวแทนพระรัตนตรัย เผลอไปล่วงเกินไม่ได้นะครับ บาปมาก ล่วงเกินพระธรรมกายเจดีย์ก็ไม่ได้เช่นกันครับ จะบาปมาก จะอย่างไรควรระวังตรงนี้นะครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ วันจักรี 07:59:52 ]

ความคิดเห็นที่ 12 จานบิน+คนโง่+ผลประโยชน์+ความโลภ จากคุณ : นพมาร - [ วันจักรี 08:22:42 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ลืมๆ   +ขายตรง จากคุณ : นพมาร - [ วันจักรี 08:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ปล.ถ้าบ้านคุณจักรแก้วเลิกทำอาชีพขายตรง จะยังสนับสนุนวัดธรรมกายอีกหรือเปล่า ใสใส จากคุณ : นพมาร - [ วันจักรี 08:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ....ขายตรง.... ........................................ เอาอีกแล้ว  หลอกแดก  แจกคำหวาน ลัทธิจาน  บินผี  หนีไปเถิด อิงพระธรรม  ทรามจิต  คิดละเมิด เล็งผลเลิศ  รูดทรัพย์  จอมสัปดน $$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$ จากคุณ : misery - [ วันจักรี 12:59:50 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สังเกตุดูศิษย์ธรรมกายจะเผยแพร่โดนเน้นวัถตุเป็นหลัก เขามักบูชาด้วยอามิส หาใช่บูชาด้วยการปฏิบัติ.. โย ธมฺมํ ปสฺสติ โส มํ ปสฺสติ ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ถ้าเรื่องบุญก็จะเน้นเรื่องการทำทานด้วยปริมาณมากๆ ทั้งๆที่รู้(หรือไม่รู้ก็ไม่แน่ใจ)ว่าการทำทานได้ผลบุญน้อยกว่าการรักษาศีล น่าเห็นใจชาวธรรมกายจริงๆ จากคุณ : zakai - [ วันจักรี 13:29:38 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ... จากคุณ : Kengmanny - [ วันจักรี 13:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ทำไมกระทู้ อวยวัดพระธรรมกายถึงขึ้นกระทู้แนะนำเสมอๆครับ ถึงไม่ตั้งใจจับผิด ก็รู้ว่ากระทู้นี้อวยวัดพระธรรมกาย ทั้งๆที่หลายๆครั้งมีกระทู้ที่น่าสนใจ แต่กลับไม่ได้ขึ้นกระทู้แนะนำ แต่กระทู้อวยวัดพระธรรมกาย มักจะได้ขึ้นกระทู้แนะนำเสมอๆ จากคุณ : Fluorine - [ วันจักรี 13:40:28 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คห.14  แล้วคุณจักรแก้ว เค้าสนับสนุนวัดพระธรรมกายตรงไหนอ่ะครับ  แค่บอกว่า การด่าเจดีย์มันเปงบาป ไม่ใช่รึ จากคุณ : จักรพรรดิสัมมาทิฐิ - [ วันจักรี 14:47:11 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เออ....เคยไปวัดนี้ไหมครับ..... ผมเพิ่งเคยไปมาไม่นาน  ก็ไม่เห็นเน้นวัตถุนิ เห็น  หลวงพ่อท่านเน้นนั่งสมาธิ  กะ  ถือศีลนะ   สักยันต์  ลงคาถา  เจ้าพ่อ  เจ้าแม่ก็ไม่เห็นมี  เหมือนวัดอื่น ผมทำ 10  20  ก็ไม่เห็นมีใครมาว่าอะไรเลย เท่าที่รู้เหตุผลเรื่องการทำทาน   หน่ะ  เหนท่านว่านะว่า เป็นการทำบุญที่ง่ายที่สุด  และตัดตระหนี่จากใจที่ง่ายที่สุด   เศรษฐีเขาจะทำกันกี่หมื่นล้านก็ช่างเขาเถอะ  เรื่องของเขา ผมไม่ค่อยมีตัง  ท่านก็ว่ามีบุญอย่างอื่นตั้งเยอะให้ทำไม่ต้องใช้เงิน นั่งสมาธิ  ถือศีล  พับผ้าไตร  แพ็คช้อนซ่อมให้พระ  ปัดกวาดเช็ดถูเก้าอี้ เหล่านี้ไม่เห็นใช้เงินเลยครับ  ใช้แต่ใจ กับแรง  ก็ได้บุญแล้ว . . . . . . เด๋วสักพักได้มีพวก  มาแถว่าหน้าม้าแหงๆ แค่อยากเล่าความจริงจากสิ่งที่ได้เห็นที่ได้สัมผัสมานะครับ เอวังด้วยประการเช่นนี้ จากคุณ : เขียวแอ๊บแบ๊ว - [ วันจักรี 15:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คห. 12 13 14 ชื่อคุณ  นพมาร  ชื่อแปลกดีนะคับ แปลว่า อะไรหรือคับ ผู้ขัดขวางความดี ทั้งเก้า  แปลอย่างนี้ ใช่ไหมคับ ? จากคุณ : นศ.วิชาชีวิต - [ วันจักรี 17:26:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 พระปฐมเจดีย์                      ไปนมัสการแล้ว พระบรมธาตุดอยสุเทพ               ไปนมัสการแล้ว พระบรมธาตุดอยตุง                    ไปนมัสการ  แล้ว พระธาตุลำปางหลวง พระธาตุหริกุญชัย พระธาตุพนม                           ไปนมัสการแล้ว พระธาตุเชิงชุม                          ไปนมัสการ   แล้ว พระธาตุนารายณ์เจงเวง พระบรมธาตุขามแก่น พระธาตุบังพวน พระธาตุแช่แห้ง พระธาตุช่อแฮ พระบรมธาตุเมืองนคร                   ไปนมัสการแล้ว พระธาตุไชยา  ยังไม่ได้ไปอีกหลายแห่งถ้ามีโอกาสจะไปสักการะให้ครบ จากคุณ : เป็นประธานกฐินปีละวัด - [ วันจักรี 17:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คำไหว้พระจุฬามณี ฯ www.84000.org อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธฯ        นะโม ข้าจะไหว้พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เมื่อข้าดับจิตลง อย่าให้ใหลหลง ขอให้จิตจำนง ตรงทางพระนิพพาน ขอให้พบดวงแก้ว ขอให้แคล้วหมู่มาร ขอให้ทันพระศรีอาริย์ ข้าจะไปนมัสการ พระเกษแก้ว พระจุฬามณี เจดีย์สถาน เป็นที่ไหว้ ที่สักการ กุศลสัมปันโน ฯ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธฯ        นะโม ข้าจะไหว้พระธรรมเจ้า ของพระพุทธองค์ เมื่อข้าดับจิตลง อย่าให้ใหลหลง ขอให้จิตจำนง ตรงทางพระนิพพาน ขอให้พบดวงแก้ว ขอให้แคล้วหมู่มาร ขอให้ทันพระศรีอาริย์ ข้าจะไปนมัสการ พระเกษแก้ว พระจุฬามณี เจดีย์สถาน เป็นที่ไหว้ ที่สักการ กุศลสัมปันโน ฯ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธฯ        นะโม ข้าจะไหว้พระสังฆเจ้า ของพระพุทธองค์ เมื่อข้าดับจิตลง อย่าให้ใหลหลง ขอให้จิตจำนง ตรงทางพระนิพพาน ขอให้พบดวงแก้ว ขอให้แคล้วหมู่มาร ขอให้ทันพระศรีอาริย์ ข้าจะไปนมัสการ พระเกษแก้ว พระจุฬามณี เจดีย์สถาน เป็นที่ไหว้ ที่สักการ กุศลสัมปันโน ฯ จากคุณ : Yacht Club - [ วันจักรี 18:46:32 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เราคุยเรื่องธรรมะอยู่คุณนศ.วิชาชีวิต คุณขัดใจที่อ่านความเห็นผม ผมก็ปวดใจที่ธรรมกายบิดเบือนคำสอนที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้ ผมก็ปวดใจที่เห็นคนไปสนับสนุนทางเสื่อมแห่งพุทธ จากคุณ : นพมาร - [ วันจักรี 19:04:51 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ไม้พระศรีมหาโพธิเป็น "อุเทสิกะเจดีย์"   ด้วยครับ อย่าลืมนะ อันว่านรชาติหญิงชายทั้งหลายจำพวกใดได้ถวายนมัสการกราบไหว้ซึ่งสมเด็จพระพุทธเจ้าทั้งสิบพระองค์กับทั้งไม้พระศรีมหาโพธิ ๑๐ ต้น ดังพรรณนามานี้ อันว่านรชาติหญิงชายจำพวกนั้นจะมีผลานิสงส์คือ มิได้ไปบังเกิดในนรกสิ้นกาลช้านานถึงแสนกัปป์ ด้วยกุศลเจตนาของอาตมาที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้าทั้งสิบพระองค์นั้นฯ พระองค์ได้ตรัสเป็นลำดับกันโดยนิยมดังนี้ อันว่าไม้พระศรีมหาโพธิอปราชิตบัลลังค์ที่นั่งทรงพิจารณาพระปฏิจจสมุปบาทธรรม แล้วตรัสรู้เป็นพระสัพพัญญูเจ้านั้น - พระศรีอาริยเมตไตรยเจ้า คือไม้กากะทิงเป็นที่ตรัส ๑ - พระรามเจ้า คือ ไม้แก่นจันทร์แดงเป็นที่ตรัส ๒ - พระธรรมราชาเจ้า คือ ไม้กากะทิงเป็นที่ตรัส ๓ - พระธรรมสามีเจ้า คือ ไม้รังใหญ่เป็นที่ตรัส ๔ - พระนารทะเจ้า คือ ไม้แก่นจันทร์แดงเป็นที่ตรัส ๕ - พระรังสีมุนีเจ้า คือ ไม้ดีปลีใหญ่เป็นที่ตรัส ๖ (บางคัมภีร์ว่าเป็นไม้เลียบ) - พระเทวเทพเจ้า คือ ไม้จำปาเป็นที่ตรัส ๗ - พระนรสีหะเจ้า คือ ไม้แคฝอยเป็นที่ตรัส ๘ - พระติสสะเจ้า คือ ไม้ไทรเป็นที่ตรัส ๙ - พระสุมงคลเจ้า คือ ไม้กากะทิงเป็นที่ตรัส ๑๐ อันว่าไม้พระมหาโพธิ ๑๐ ต้นนี้ เป็นที่ได้ตรัสรู้พระสัพพัญญู แห่งสมเด็จพระพุทธเจ้าทั้ง ๑๐ พระองค์ อันจะบังเกิดในอนาคตกาลเบื้องหน้าฯ พระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพยากรณ์เรื่อง พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑0 พระองค์ ในอนาคต ให้พระสารีบุตรเถระ มีความย่อดังนี้ องค์สมเด็จพระมหามุนีธิคุณเจ้าแห่งเราทั้งหลายตรัสพระสัทธรรมเทศนาแก่พระสารีบุตรว่า นานไปเบื้องหน้าพระโพธิสัตว์ทั้ง ๑๐ พระองค์นั้น จะได้ตรัสรู้แด่พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณเป็นลำดับกันฯ คือ - องค์พระศรีอาริยเมตไตรยเจ้าเป็นปฐมที่ ๑ - ถัดนั้นจึง พระรามโพธิสัตว์จะได้ตรัสที่ ๒ - ถัดนั้นจึง พระเจ้าปเสนธิโกศลจะได้ตรัสเป็นพระธรรมราชาที่ ๓ - ถัดนั้น พระยามาราธิราช จะได้ตรัสเป็นพระธรรมสามีที่ ๔ - ถัดนั้น อสุรินทราหู จะได้ตรัสเป็นพระนารทะที่ ๕ - ถัดนั้น โสณพราหมณ์ จะได้ตรัสเป็นพระรังสีมุนีที่ ๖ - ถัดนั้น สุภพราหมณ์ จะได้ตรัสเป็นพระเทวเทพที่ ๗ - ถัดนั้น โตไทยพราหมณ์ จะได้ตรัสเป็นพระนรสีหะที่ ๘ - ถัดนั้น ช้างธนบาลหัตถีนาฬาคีรี จะได้ตรัสเป็นพระติสสะที่ ๙ - ถัดนั้น ช้างปาลิไลยหัตถี จะได้ตรัสเป็นพระสุมงคลที่ ๑๐ ไม้พระศรีมหาโพธิเป็น  "อุเทสิกะเจดีย์"   ด้วยครับ อย่าลืมนะ จากคุณ : Yacht Club - [ วันจักรี 19:42:37 ]

ความคิดเห็นที่ 26 โอ้ววว จานบินนนนนน ฟิ้วววววว จากคุณ : ก็หนูไม่เชื่ออ้ะ (zabzab) - [ วันจักรี 23:24:27 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ความคิดเห็นที่ 11   อนุโมทนานะครับ เจดีย์เป็นตัวแทนพระรัตนตรัย เผลอไปล่วงเกินไม่ได้นะครับ บาปมาก ล่วงเกินพระธรรมกายเจดีย์ก็ไม่ได้เช่นกันครับ จะบาปมาก จะอย่างไรควรระวังตรงนี้นะครับ จากคุณ : จักรแก้ว  - [ วันจักรี 07:59:52 ]   ______________________________________________________ ^ ^ เรียน คุณจักรแก้ว ครับ ขึ้นอยุ่กับสิ่งที่บรรจุอยู่ใน หรือห้อมล้อม หรือเป็นเขต ใช่จริงหรือขอรับ ที่ต้องเรียกว่าเจดีย์ เป็นตัวแทนพระรัตนตรัย? ถ้าสิ่งเหล่านี้ บรรจุอยู่ ห้อมล้อมรอบ อยู่บนเขตบริเวณ เรียกว่าเจดีย์แล้วไซร้ สมมตินะสมมติ "รถถัง ฐานยิงขีปนาวุธ เป็นต้น" ที่มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ หรือ/และอื่นๆ ก็เรียกได้ว่า เจดีย์ เป็นตัวแทนพระรัตนตรัย ห้ามลบหลู่รถถัง ฐานยิงขีปนาวุธ ละสิ!!! ถ้าผมถือ กลืน นั่งอยู่ใกล้เขต พระบรมสารีริกธาตุเป็นต้น ผมคือตัวแทนพระรัตนตรัยใช่ไหมขอรับ ท่านจักรแก้ว???? แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 52 10:56:45 จากคุณ : จิตเปื่อยยุ่ยยย (JitZungkabuai) - [ 7 เม.ย. 52 10:53:06 ]

ความคิดเห็นที่ 28 พระบรมสารีริกธาตุ ทีท่านจักรแก้วได้รับมาประดิษฐาน อยู่ในบนจุดๆๆๆ ผมบอกได้ไหมว่าจุดๆๆ นั้น งาม หรือไม่งาม ฯลฯ เพราะอะไร??? อยู่ที่วัตถุประสงค์ต่างหาก คนเขาอาราธนาพระห้อยคอ เขากราบเขาไหว้ที่ระลึกถึง พระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ไม่ใช่ไหว้กรอบพระ ไม่ว่าจะเป็นแค่กรอบพลาสติก หรือทองคำฝังอัญมณีลูกโตเท่าส้มโอ ที่เรียกว่า ธรรมกายเจดีย์ ก็หมายถึงจุดๆๆ นั่นแหละ!!! แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 52 11:08:06 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 11:06:33 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อืม  คุณจิต พูดได้น่าคิด ใกล้ถึงวันปิดเจดีย์ของพวกเขาแล้ว กระทู้เจดีย์จึงมาตาม trend  ฮ่า ฮ่า ฮ่า จากคุณ : บุษกรจันทร์ - [ 7 เม.ย. 52 11:11:40 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อีกนิด ผมดูธรรมกายเจดีย์ ที่สักแต่เรียกชื่อว่าเจดีย์ ประกอบด้วยอะไรบ้าง ผมดูเห็นแต่ตัณหา ความมักมาก ของพวกโมฆบุรุษ ผู้ทำลายพระพุทธศาสนาก็เท่านั้นเอง เฮอะๆๆ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 11:15:19 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อนุโมทนาด้วยจ้ะ อานิสงส์การสร้างพุทธเจดีย์ ที่ปรากฏในพระไตรปิฏกมีอยู่มากมาย จะขอยกตัวอย่างของพระมหากัสสปะ มาเป็นตัวอย่าง จากคุณ : AYXC - [ 7 เม.ย. 52 13:14:44 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ต่อจากความเห็นที่ 30 จากคุณ : AYXC - [ 7 เม.ย. 52 13:16:34 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมว่า  สิ่งใดที่เกี่ยวเนื่องถึง พระรัตนตรัย พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าเป็น  ชาวพุทธจริงๆ แล้ว ละก็  จะต้องให้ความเคารพ อย่างสูงสุด แต่ พฤติกรรม ของคุณ  จิต คุณ บุษกร  อย่างนี้ เค้าไม่ใช่ชาวพุทธจริงๆ หรอกครับ  ต้องการมาล้มล้างพุทธศาสนามากกว่า จากคุณ : - (นศ.วิชาชีวิต) - [ 7 เม.ย. 52 15:05:20 ]

ความคิดเห็นที่ 34 กระทู้นี้ ขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อน พอแตกใบอ่อนเป็นบ้องกัญชา จากคุณ : DEDETE - [ 7 เม.ย. 52 16:08:31 ]

ความคิดเห็นที่ 35 พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๕ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก ว่าด้วยผลแห่งการก่อเจดีย์ทราย             [๗๗] เราเป็นดาบสชื่อเทวละ อาศัยอยู่ที่ภูเขาหิมพานต์ ที่จงกรมของเรา                          เป็นที่อันอมนุษย์ เนรมิตให้ ณ ภูเขานั้น ครั้งนั้นเรามุ่นมวยผม                          สะพายคนโทน้ำ เมื่อจะแสวงหาประโยชน์อันสูงสุด ได้ออกจากป่า                          ใหญ่ไป ครั้งนั้น ศิษย์ ๘,๔๐๐๐ คน อุปัฏฐากเรา เขาทั้งหลาย                          ขวนขวายเฉพาะกรรมของตนอยู่ในป่าใหญ่ เราออกจากอาศรมก่อ                          พระเจดีย์ทรายแล้วรวบรวมเอาดอกไม้นานาชนิดมาบูชาพระเจดีย์นั้น                          เรายังจิตให้เลื่อมใสในพระเจดีย์นั้นแล้ว เข้าไปสู่อาศรม พวกศิษย์                          ได้มาประชุมพร้อมกันทุกคนแล้ว ถามถึงความข้อนี้ว่า ข้าแต่                          ท่านผู้ประเสริฐ สถูปที่ท่านนมัสการก่อด้วยทราย แม้ข้าพเจ้า                          ทั้งหลายก็อยากจะรู้ ท่านอันข้าพเจ้าทั้งหลายถามแล้วขอจงบอกแก่                          ข้าพเจ้าทั้งหลาย.                          เราตอบว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายผู้มีพระจักษุ มียศใหญ่ ท่านทั้งหลาย                          ได้พบแล้วในบทมนต์ของเรามิใช่หรือ เรานมัสการพระพุทธเจ้าผู้                          ประเสริฐสุดมียศใหญ่เหล่านั้น.                          ศิษย์เหล่านั้นได้ถามอีกว่า พระพุทธเจ้าผู้มีความเพียรใหญ่รู้                          ไญยธรรมทั้งปวง ทรงเป็นผู้นำโลกเหล่านั้น เป็นเช่นไร มีคุณเป็น                          อย่างไร มีศีลเป็นอย่างไร พระพุทธเจ้าผู้มีพระยศใหญ่เหล่านั้นเป็น                          ดังฤา.                          เราได้ตอบว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลาย มีพระมหาปุริสลักษณะ                          ๓๒ ประการ มีพระทนต์ครบ ๔๐ ทัศ มีดวงพระเนตรดังตาแห่ง                          โคและเหมือนผลมะกล่ำ อนึ่ง พระพุทธเจ้าเหล่านั้นเมื่อเสด็จดำเนิน                          ไป ก็ย่อมทอดพระเนตรดูเพียงชั่วแอก พระชานุของพระองค์ไม่                          ลั่น ใครๆ ไม่ได้ยินเสียงที่ต่อ อนึ่ง พระสุคตทั้งหลาย เมื่อ                          เสด็จดำเนินไป ย่อมไม่รีบร้อนเสด็จดำเนินไป ทรงก้าวพระบาท                          เบื้องขวาก่อน นี้เป็นธรรมดาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย และ                          พระพุทธเจ้าเหล่านั้น เป็นผู้ไม่หวาดกลัว เปรียบเหมือน                          ไกรสรมฤคราช ฉะนั้น พระพุทธเจ้าเหล่านั้น ไม่ทรงยกพระองค์                          และไม่ทรงข่มขี่สัตว์ทั้งหลาย ทรงหลุดพ้นจากการถือตัว และดู                          หมิ่น ท่านเป็นผู้มีพระองค์เสมอในสัตว์ทั้งปวง พระพุทธเจ้า                          ทั้งหลายเป็นผู้ไม่ทรงยกพระองค์ นี้เป็นธรรมดาของพระพุทธเจ้า                          ทั้งหลาย และพระพุทธเจ้าทั้งหลายเมื่อเสด็จอุบัติขึ้นพระองค์                          ทรงแสดงแสงสว่าง ทรงประกาศวิการ ๖  ทั่วพื้นแผ่นดินนี้ทั้งสิ้น                          ทั้งพระองค์ทรงเห็นนรกด้วย ครั้งนั้น ไฟนรกดับ มหาเมฆยังฝนให้                          ตก นี้เป็นธรรมดาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระพุทธเจ้าผู้มหานาค                          เหล่านั้น เป็นเช่นนี้ พระพุทธเจ้าผู้มียศใหญ่เหล่านั้น ไม่มีใคร                          เทียมเท่า พระตถาคตทั้งหลาย เป็นผู้มีพระคุณหาประมาณมิได้ ใครๆ                          ไม่เกินพระองค์ไปโดยเกียรติคุณ.                          ศิษย์ทุกคนเป็นผู้มีความเคารพ ชื่นชมถ้อยคำของเรา ต่างได้ปฏิบัติ                          เช่นนั้น ตามสติกำลัง พวกเขามีความเพลิดเพลินในกรรมของตน                          เชื่อฟังถ้อยคำของเรา มีฉันทะอัธยาศัยน้อมไปในความเป็น                          พระพุทธเจ้า พากันบูชาพระเจดีย์ทราย ในกาลนั้น เทพบุตรผู้มียศ                          ใหญ่ จุติจากชั้นดุสิต บังเกิดในพระครรภ์ของพระมารดา หมื่น                          โลกธาตุหวั่นไหว เรายืนอยู่ในที่จงกรมไม่ไกลอาศรม ศิษย์ทุกคน                          ได้มาประชุมพร้อมกันในสำนักของเรา ถามว่า แผ่นดินบันลือลั่น                          ดุจโคอุสภะ คำรณดุจมฤคราช ร้องดุจจระเข้ จักมีผลเป็นอย่างไร.                         เราตอบว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดที่เราประกาศ ณ ที่ใกล้                          พระสถูปคือกองทราย บัดนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้มีโชค เป็น                          ศาสดา พระองค์นั้น เสด็จลงสู่พระครรภ์พระมารดาแล้ว.                          เราแสดงธรรมกถาแก่พวกศิษย์เหล่านั้นแล้ว กล่าวสดุดีพระมหามุนี                          ส่งศิษย์ของตนไปแล้ว นั่งขัดสมาธิ ก็เราเป็นผู้สิ้นกำลังหนอ                          เจ็บหนัก ระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ทำกาลกิริยา ณ                          ที่นั้นเอง ครั้งนั้น ศิษย์ทุกคนพร้อมกันทำเชิงตะกอนแล้ว ยกซาก                          ศพของเราขึ้นเชิงตะกอน พวกเขาล้อมเชิงตะกอน ประนมอัญชลี                          เหนือเศียร อันลูกศรคือ ความโศกครอบงำ ชวนกันมาคร่ำครวญ                          เมื่อศิษย์เหล่านั้นพิไรรำพันอยู่ เราได้ไปใกล้เชิงตะกอน สั่งสอน                          พวกเขาว่า เราคืออาจารย์ของท่าน แน่ะท่านผู้มีปัญญาดีทั้งหลาย                          ท่านทั้งหลายอย่าได้เศร้าโศกเลย ท่านทั้งหลายควรเป็นผู้ไม่                          เกียจคร้าน พยายามในประโยชน์ของตน ทั้งกลางคืนและกลางวัน                          ท่านทั้งหลายอย่าได้ประมาท ควรทำขณะเวลาให้ถึงเฉพาะ เราพร่ำ                          สอนศิษย์ของตนแล้วกลับไปยังเทวโลก เราได้อยู่ในเทวโลกถึง                          ๑๘ กัป ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๕๐๐ ครั้ง และได้เสวยราช                          สมบัติในเทวโลกเกินร้อยครั้ง ในกัปที่เหลือ เราได้ท่องเที่ยวไป                          อย่างสับสน แต่ก็ไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการก่อเจดีย์ทราย                          ในเดือนที่ดอกโกมุทบาน ต้นไม้เป็นอันมากต่างก็ออกดอกบานฉันใด                          เราก็เป็นผู้อันพระศาสดาผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ให้บานแล้วในสมัย                          ฉันนั้นเหมือนกัน ความเพียรของเรานำธุระน้อยใหญ่ไป นำเอา                          ธรรมที่เป็นแดนเกษมจากโยคะมา เราตัดกิเลสเครื่องผูก ดังช้างตัด                          เชือกแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่ ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราได้                          สรรเสริญพระพุทธเจ้าใด ด้วยการสรรเสริญนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย                          นี้เป็นผลแห่งการสรรเสริญ เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... พระพุทธ-                          ศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.             ทราบว่า ท่านพระปุฬินุปปาทกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล. จบ ปุฬินุปปาทกเถราปทาน.             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓  บรรทัดที่ ๑๖๘๘ - ๑๗๖๑.  หน้าที่  ๗๔ - ๗๗. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=33&A=1688&Z=1761&pagebreak=0             ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33&i=77 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 16:23:03 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แน่ใจหรือว่า ที่พวกคุณทุ่มเทสร้าง เป็นเจดีย์ หือ? อะไรคือเจดีย์? ชาวธรรมกาย จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 16:28:48 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมว่า#17 แสดงตัวของวัดธรรมกายได้ชัดเจนมากนะครับ ส่วนใครจะบอกว่าธรรมกายก็มีข้อดีเหมือนกัน ธรรมะของพระพุทธเจ้าต่างหากที่มีข้อดี แล้วเจอวัดธรรมกายเอาความโลภมาสอดแทรกทำให้เสียหาย คุณนศ.วิชาชีวิตจะต้องไตร่ตรองให้มากนะครับ จากคุณ : นพมาร - [ 7 เม.ย. 52 16:36:15 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ^ ^ คห.37 คุณตักบาตรถามพระ (จขกท. )  ก็บอกไว้ ใน คห.6 แล้วนี่คับ แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 52 16:55:36 แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 52 16:55:21 จากคุณ : - (นศ.วิชาชีวิต) - [ 7 เม.ย. 52 16:54:14 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ถึง คุณ (นศ.วิชาชีวิต)  - [ 7 เม.ย. 52 16:54:14 ] ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง   บ้านของน้องเรเดี้ยนฯ ก็เป็นเจดีย์ ที่คุณควรไปกราบ สักครั้งหนึ่งในชีวิต!!! :D แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 52 17:15:53 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 17:14:15 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ไม่รู้จัก เจดีย์ แล้วสักแต่พูด ว่าต้องเคารพยังงี้ยังงั้น เพราะอะไร มีพระบรมสารีริกธาตุอยู่ข้างในบ้าง และอื่นๆบ้าง สรุปว่าเป็นตัวแทนพระรัตนตรัย คิดได้อย่างไร ผมแรงไปบ้างก็ขออภัยคุณๆด้วย แต่ต้องการให้ได้คิดกันบ้าง คิดให้ถูกให้เป็น ใช่ว่าจะให้ไปทำลายจานบินทิ้งเสียเมื่อไหร่เล่า จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 17:26:57 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เจดีย์ทรายมีอะไรอยู่ข้างในอยู่ข้างนอกบ้าง ในคาถาที่ผมใส่เกล้ายกมานั้น ขอรับท่านๆ???? ไม่เห็นมีอะไร นอกจากจุดๆๆ คุณมีจุดๆๆ คุณก็เรียกว่าเป็นเจดีย์ได้ อ่านให้ดีล่ะ ไม่ใช่ตามคห.หก แต่ไม่ปรากฎจุดๆๆในใจ เข้าใจ๋ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 17:34:13 ]

ความคิดเห็นที่ 43 จริงๆ  มหาธรรมกายเจดีย์   ก็สร้างจากทราย นะครับ (ถูกต้องตามพระไตรปิฏก  ใน คห.35  ชัดเจน) แต่ว่า  เป็นทราย ที่ผสมกับ คอนกรีต ที่วิจัย มาแล้วจากสถาบันชั้นนำระดับโลก   ว่าจะอยู่ได้ ยาวนานอย่างน้อย 1 พันปี คงทน ต่อ แผ่นดินไหว  ลมพายุ ฯลฯ (ก็ถ้าสร้างจากทราย  อยู่ได้ไม่นานนี่ครับ) ในทุกยุค ทุกสมัย  ชาวพุทธเรา ก็เลือกที่จะสร้างเจดีย์  ด้วยวัสดุที่ดีที่สุด ให้คงทนถาวรที่สุด อยู่แล้วนี่ครับ พร้อมกับ  องค์พระ ที่สร้างจากโลหะ พิเศษ  ที่จะสามารถอยู่ได้ 1 - 4 พันปี (เป็นที่บุญที่น่าทำ นะครับ  สร้างองค์พระ สร้างเจดีย์  วันละ 4 สตางค์  หรือ ปีละแค่ 15 บาท)  1 พันปี  =  15,000 บาท จากคุณ : - (นศ.วิชาชีวิต) - [ 7 เม.ย. 52 17:37:56 ]

ความคิดเห็นที่ 44 นศ.วิชาชีวิต ขอรับ ศรัทธาในใจคุณน่ะ เล็กกว่าลูกมดเสียอีก คุณไม่เข้าใจหรือครับ เจดีย์ทรายนั้นฝนตกลมพัดก็พังราบลงไป เป็นดินกับทรายเหมือนเดิมแหละ กี่วัน กี่เดือน กี่ปี ไม่ประมาณหรอกว่า ดีกว่าเลวกว่า สำคัญแต่ว่า เป็นเจดีย์ หรือเปล่า อย่างไรเท่านั้น จะได้กราบไหว้สบายใจ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 17:45:38 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ผมอาจหัวโบราณนะคุณจิต แต่ผมก็ว่า พระธรรมกายเจดีย์ เป็นเจดีย์แน่ๆ เพราะเขาตั้งใจสร้างมาให้เป็นเจดีย์นะสิ เจดีย์องค์นี้เป็นความตั้งใจมากนะครับ คนร่วมสร้างนี้เขามานั่งสมาธิกันตรงนี้เลย มาร่วมกันตอกเสาเข็มอันเล็กๆ ด้วยนะ แล้วก็สร้างพระมาบรรจุไว้ สรุปว่า เป็นเจดีย์ แน่ๆ หนะ อย่าไปลบหลู่เรื่องนี้เลยครับ คุณจิต ไปดูที่คำสอน หรือเรื่องอื่นดีกว่า มีให้ดู ให้เห็นอีกมากมาย ที่ไม่ตรง ไม่ควรตามพระธรรมวินัย ถ้าเราคิดว่า อะไรมันผิด เราก็ให้ความรู้ที่ถูก ผมว่า จะปลอดภัย กว่า ไปโจมตี เรื่อง ว่าเป็น เจดีย์หรือไม่เจดีย์ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 7 เม.ย. 52 17:50:51 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ผู้มีสัมมาทิฏฐินี่ ทำดีเล็กน้อยก็เป็นบุญใหญ่ ทำไม่ดีมากก็เป็นบาปน้อย ดุจผู้รู้จักถ่านร้อน ว่าจะจับจะปล่อยอย่างไรให้เป็นประโยชน์   ไปศึกษาให้ดี ท่านนักศึกษา จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 17:51:25 ]

ความคิดเห็นที่ 47 สร้างเจดีย์ให้อลัชชี หรือพระพุทธเจ้าในฝันหรือขอรับ ท่านจักรแก้ว ผมพูดถึงจุดมุ่งหมายที่แท้จริง ว่าสร้างด้วยความศรัทธาในพระศาสนา หรือไม่ ก็เท่านั้น ศรัทธาที่ผิด ผลเป็นอย่างไร ก็เห็นอยู่แล้ว จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 17:55:57 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ทำลายพระพุทธศาสนาหรือไม่? ก็ดูที่คำสอนสิ ดูที่ธรรมสิ เจดีย์นั่นก็ตามคำสอน ตามศรัทธานั่นแหละ รู้หรือไม่รู้ก็จับถ่านร้อนไป เคยสนทนากับคุณจักรแก้วแล้ว แต่นี้ไม่ซ้ำเรื่องวัตถุ จึงมาคุยกับท่านอีก จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 18:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 49 แหม อยู่พอดีเลย ผมหลงไปตามมาจากกระทู้โน้น เจดีย์นี้ไม่ได้สร้างให้พระพุทธเจ้าในอนาคตครับ  คุณจิต สร้างบูชาพระรัตนตรัย จริงๆ เจดีย์นี้ เกิดเพราะตอนนั้น อาจารย์ท่านต้องการ โปรเจค มหาบุญ เพื่อเป็นเสบียง ที่จะเดินทางไกลไปที่สุดแห่งธรรม เลยคิดการสร้างพระเจดีย์เพื่อเป็นบุญใหญ่ครับ แม้ที่มา  ที่ไป  จะเกิดจากการ สร้างเพื่อเอาบุญ จากคนที่เห็นผิดพลาดพลั้งแต่อย่างใด ก็ยังเป็นเจดีย์นะครับ เช่น พระปฐมเจดีย์อย่างไร   คนสร้าง ได้ทำอนัตริยกรรมก่อน จึงสร้างเจดีย์ เพื่อหวังบุญ เจดีย์นั้นก็เป็นเจดีย์ เป็นเนื้อนาบุญ แก่คนไปกราบไหว้นั่นเองครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 7 เม.ย. 52 18:00:42 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ก็ยังเป็นเจดีย์ที่จุดๆๆอยู่ดี ไม่ใช่หรือขอรับ ท่านจักรแก้ว จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 18:06:45 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คำว่าเสบียง ก็คือบุญนั่นแหละไม่ใช่หรือ แต่บุญไม่ต้องแบกเหมือนเสบียง เรื่องบุญที่ท่านจักรแก้วเข้าใจ มีปัญหาหนัก จึงไม่สามารถยืนได้มั่นคงบนเท้าของท่าน กลับไปกลับมาอยู่ตลอด จริงหรือไม่ ผมเห็นก็แล้วกัน จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 18:10:29 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ผมผิดหวังอย่างยิ่งที่คุยกับท่านในครั้งที่สามนี้ ในกระทู้อื่นข้างล่างท่านก็กล่าวเช่นนี้ เอวังฯ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 18:14:51 ]

ความคิดเห็นที่ 53 คุณจิตอย่าไปยุ่งกับคนนี้เลย เค้าเรียกคนทำร้ายทำลายพุทธศาสนาว่าอาจารย์ เค้าได้ไปตามอาจารย์เค้าแน่ๆเลย จากคุณ : นพมาร - [ 7 เม.ย. 52 18:15:18 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุณจิตรักษาใจไว้ก็พอ ภาวนาไปด้วยแบบที่ภรรยาคุณรู้ ทำให้พ้นๆไปทำให้มากที่สุด อีกหน่อยจะไม่มีคำสอนไว้ให้ภาวนามากนัก ธรรมกายจะพาบิดเบี้ยวไปหมด คนที่ทำอะไรเค้ามีเหตุผลบิดเบี้ยวไว้รองรับตามประสาคนหนา เราพูดพอประมาณก็พอ จากคุณ : นพมาร - [ 7 เม.ย. 52 18:19:25 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขออภัยที่ทำให้คุณจิตผิดหวังครับ พอดีผมจะต้องออกไปทำงาน จะกลับก็ดึกมากจะดูอีกที ครูอนุบาลผมฆ่าคนตาย ท่านติดคุกอยู่ ผมจะไปเยี่ยมท่านในคุก และเอาข้าวน้ำไป ให้ ท่าน และยังเรียกท่านว่าอาจารย์เหมือนเดิมครับ แต่ไม่ได้สนับสนุนให้ท่านทำผิด ผมจะไม่ทำอย่างนั้น แต่คงเรียกว่าอาจารย์ เคยสอนผมแล้ว เป็นอาจารย์ของผมทุกคนครับ ขอให้คุณจิตเจริญในธรรมนะครับ แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 52 23:03:44 จากคุณ : จักรแก้ว - [ 7 เม.ย. 52 18:23:59 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เอ่อ ขอออกนอกเรื่องนิดนะคะ คห 55 คงรีบเลยพิมพ์ผิด ผมจะไปเยี่ยมท่านในคุก และเอาข้าวน้ำไป...ท่าน เปลี่ยนเป็น" ให้ " ก็พอมั๊ง จากคุณ : oor_dt - [ 7 เม.ย. 52 19:41:11 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ทำงานกันเป็นทีมจริงๆ สำนักนี้ เจ้าสำนักเพิ่งพูดออกDMC เมื่อคืนนี้เอง แล้วมาทำเนียนว่าข้อมูลจากอินเทอร์เนท พอดีวันไหนว่างๆผมก็ชอบดูท่านเจ้าสำนักนะ อยากรู้ว่าพูดอะไร + ชอบท่าจับปากกาโบกไปมามากเลย เท่ห์อะ นะจ๊ะ โปรโมทกันไปนะจ๊ะ เด๋วจะได้รวยสวนกระแสนะจ๊ะ ใ:-)ก็ไม่รู้ละจ๊ะ แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 52 20:36:02 แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 52 20:35:13 จากคุณ : NakinSoCute - [ 7 เม.ย. 52 20:28:29 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ทำไมพิมพ์ ใคร รวย ไม่ได้อ่ะ จากคุณ : NakinSoCute - [ 7 เม.ย. 52 20:36:56 ]

ความคิดเห็นที่ 60 พระองคุลีมาล ยังไม่ทำอย่างที่คุณจักรแก้วทำ คุณจักรแก้วคงยิ่งใหญ่ในธรรมมากกว่าพระองคุลีมาล เพราะแม้แต่คนชั่ว คุณก็ยังนับถือเป็นอาจารย์ของตนได้อยู่ เขาทำลายพระศาสนาอย่างไรก็ให้ความเคารพ จนได้ในท้ายที่สุดเสมอ ในเรื่องสงเคราะห์สังขารเก่า ผมไม่เถียงหรอกคุณ พระสูตร หลายท่านยกมาให้คุณอ่าน ก็มากมาย คุณจักรแก้วยังทำเหมือนเดิม เคารพว่าเป็นครูเหมือนเดิมทั้งๆที่รู้อยู่ว่าครูมันชั่ว เหมือนครูขององคุลีมาล สมแล้วที่เขากล่าวหาว่า คุณจักรแก้ว Fake มีปัญหาอย่างไร สิบปีก็ยังมีปัญหาที่แก้ไม่ตกอยุ่อย่างนั้น ใช่ไหม !!? จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 20:38:07 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ... พระองคุลิมาลเปล่งอุทาน             [๕๓๔] ครั้งนั้น ท่านพระองคุลิมาลไปในที่ลับเร้นอยู่ เสวยวิมุติสุข เปล่งอุทานนี้ใน เวลานั้นว่า                          ก็ผู้ใด เมื่อก่อน ประมาท ภายหลัง ผู้นั้น ไม่ประมาท เขา                          ย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง ดังพระจันทร์ซึ่งพ้นแล้วจากเมฆ ฉะนั้น                          ผู้ใด ทำกรรมอันเป็นบาปแล้ว ย่อมปิดเสียได้ด้วยกุศล ผู้นั้น                          ย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง ดุจพระจันทร์ซึ่งพ้นแล้วจากเมฆ ฉะนั้น                          ภิกษุใดแล ยังเป็นหนุ่ม ย่อมขวนขวายในพระพุทธศาสนา                          ภิกษุนั้น ย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง ดุจพระจันทร์ซึ่งพ้นแล้วจากเมฆ                          ฉะนั้น ขอศัตรูทั้งหลายของเรา จงฟังธรรมกถาเถิด ขอศัตรูทั้ง                          หลายของเรา จงขวนขวายในพระพุทธศาสนาเถิด ขอมนุษย์ทั้ง                          หลายที่เป็นศัตรูของเรา จงคบสัตบุรุษผู้ชวนให้ถือธรรมเถิด                          ขอจงคบความผ่องแผ้วคือขันติ ความสรรเสริญคือเมตตาเถิด                          ขอจงฟังธรรมตามกาล และจงกระทำตามธรรมนั้นเถิด ผู้ที่เป็น                          ศัตรูนั้น ไม่พึงเบียดเบียนเราหรือใครๆ อื่นนั้นเลย ผู้ถึงความ                          สงบอย่างยิ่งแล้ว พึงรักษาไว้ซึ่งสัตว์ที่สะดุ้งและที่มั่นคง คนทด                          น้ำ ย่อมชักน้ำไปได้ ช่างศร ย่อมดัดลูกศรได้ ช่างถาก ย่อมถาก                          ไม้ได้ ฉันใด บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมทรมานตนได้ ฉันนั้น คน                          บางพวก ย่อมฝึกสัตว์ ด้วยท่อนไม้บ้าง ด้วยขอบ้าง ด้วยแส้                          บ้าง เราเป็นผู้ที่พระผู้มีพระภาคทรงฝึกแล้ว โดยไม่ต้องใช้อาญา                          ไม่ต้องใช้ศาตรา                          เมื่อก่อน เรามีชื่อว่าอหิงสกะ แต่ยังเบียดเบียน                          สัตว์อยู่ วันนี้ เรามีชื่อตรงความจริง เราไม่เบียดเบียนใครๆ เลย                          เมื่อก่อน เราเป็นโจร ปรากฏชื่อว่าองคุลิมาล ถูกกิเลสดุจ                          ห้วงน้ำใหญ่พัดไป มาถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะแล้ว เมื่อก่อน                          เรามีมือเปื้อนเลือด ปรากฏชื่อว่า องคุลิมาล ถึงพระพุทธเจ้า                          เป็นสรณะ จึงถอนตัณหาอันจะนำไปสู่ภพเสียได้ เรากระทำ                          กรรมที่จะให้ถึงทุคติเช่นนั้นไว้มาก อันวิบากของกรรมถูกต้อง                          แล้ว เป็นผู้ไม่มีหนี้ บริโภคโภชนะ                          พวกชนที่เป็นพาลทราม                          ปัญญา ย่อมประกอบตามซึ่งความประมาท ส่วนนักปราชญ์                          ทั้งหลาย ย่อมรักษาความไม่ประมาทไว้ เหมือนทรัพย์อัน                          ประเสริฐ ฉะนั้น ท่านทั้งหลาย จงอย่าประกอบตามซึ่งความ                          ประมาท อย่าประกอบตามความชิดชมด้วยสามารถความยินดี                          ในกาม เพราะว่าผู้ไม่ประมาทแล้ว เพ่งอยู่ ย่อมถึงความสุข                          อันไพบูลย์                          การที่เรามาสู่พระพุทธศาสนานี้นั้น เป็นการมาดีแล้ว                          ไม่ปราศจากประโยชน์ ไม่เป็นการคิดผิด บรรดาธรรมที่พระผู้                          มีพระภาคทรงจำแนกไว้ดีแล้ว เราก็ได้เข้าถึงธรรมอันประเสริฐ                          สุดแล้ว (นิพพาน) การที่เราได้เข้าถึงธรรมอันประเสริฐสุดนี้                          นั้น เป็นการถึงดีแล้ว ไม่ปราศจากประโยชน์ ไม่เป็นการคิด                          ผิด วิชชา ๓ เราบรรลุแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าเรากระทำ                          แล้วดังนี้. จบ อังคุลิมาลสูตร ที่ ๖. -----------------------------------------------------             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓  บรรทัดที่ ๘๒๔๑ - ๘๔๕๑.  หน้าที่  ๓๕๘ - ๓๖๗. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=13&A=8241&Z=8451&pagebreak=0             ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=13&i=521 แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 52 20:52:31 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 20:50:42 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คุณจักรแก้วจะเป็นตัวอย่างที่ดีแก่น้องๆ ในบอร์ดนี้ได้อย่างไรครับ พูดอย่างทำอย่าง อ้างครูอาจารย์เก่าบ้าง แผลบเดียวก็ห้ามเรื่องเจดีย์บ้าง เรื่องวัด อะไรไม่ทราบได้ของคุณ ชีวิตที่ผ่านมาของคุณ คุณหลอกตัวเองเพราะเต็มใจให้เขาหลอกใช่ไหม? คุณยอมได้เพราะคุณเอง   ผมไม่ยอมให้คุณเอาปมของคุณมาทับคนอื่นหรอกครับ ปมของคุณ ผมอาจจะพูดแรงไป แปลว่าที่คุณไม่เข้าใจตัวเอง เรียกว่าปม ขอให้เข้าใจเป็นกลางในจิตในใจของคุณจักรแก้ว ชีวิตมันก็แค่นี้ ไม่ไปขัดขวางอะไรหรอก อยากเติบโตก็ต้องยืนบนเท้าบนรากของตนเอง ก็เท่านั้น จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 21:09:32 ]

ความคิดเห็นที่ 63 คุณจิตฯ นี่พึลึกจิงๆ  เถียงแค่ขอให้ชนะ  เหตุผลอะไรก็ไม่ได้เรื่อง เป็นอาจารย์วันเดียว  ก็เป็นอาจารย์ไปตลอดชาติน่ะแหละ สมมติกรณี อาจารย์คนหนึ่งของคุณจิตฯ สอนผิด อาจจะเพราะเข้าใจผิด หรือตำราผิด  ต่อมาคุณจิตฯ รู้ว่าความรู้บางส่วนที่อาจารย์คนนั้นสอนมามันผิด ก็จะไม่เรียกคนนั้นว่าอาจารย์อีกต่อไปเรยรึ  หรือเกียดขี้หน้าเค้าไปเรยรึ หรือ  อาจารย์คนหนึ่งของคุณจิตฯ เกิดทำผิดอะไรซักอย่าง  โดนไล่ออกจากงาน  คุณจิตฯ ก็จะเลิกนับถือ เลิกเรียกคนนั้นว่าอาจารย์ไปเรยรึไง  แล้วความรู้ที่เค้าเคยสอน เคยเมตตา ให้สิ่งดีๆ กับคุณมา  ก็พลอยหมดคุณค่าไปด้วยเรยรึไง จากคุณ : จักรพรรดิสัมมาทิฐิ - [ 7 เม.ย. 52 21:54:13 ]

ความคิดเห็นที่ 64 อาจารย์คุณจักรพรรดิสัมมาทิฐิ  สอนอะไรคุณล่ะ อาจารย์สอนคุณไปลงนรก คุณจะกตัญญูตามไปลงนรกด้วยหรือ ช่วยได้ก็ช่วย อ่านไม่เข้าใจหรือคุณ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 21:59:35 ]

ความคิดเห็นที่ 65 คุณจิตฯ เคยดูหนังจีนชุด  กระบี่เย้ยยุทธจักร(เดชคัมภีร์เทวดา) รึป่าว ดู เล่งฮู้ชง สิ เหงมะ  เค้าเรียก งักปุ๊กฮุ้ง ว่าอาจารย์ตลอดเรย จากคุณ : จักรพรรดิสัมมาทิฐิ - [ 7 เม.ย. 52 22:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ครูที่ดี     ดูกรอานนท์ บุคคลผู้ไม่รู้ ไม่แจ้งไม่เข้าใจในพระ นิพพาน ไม่ควรจะสั่งสอนพระนิพพานแก่ท่านผู้อื่น ถ้าขืน สั่งสอนก็จะพาท่านหลงหนทาง จะเป็นบาปเป็นกรรมแก่ตน ควรจะสั่งสอนแต่เพียงทางมนุษย์สุคติ สวรรค์สุคติ เป็นต้นว่า สอนให้รู้จักทาน ให้รู้จักศีล ๕ ศีล ๘ ให้รู้กุศลกรรมบถ ให้รู้จักปฏิบัติมารดาบิดา ให้รู้จักอุปัชฌาย์อาจารย์ ให้รู้จัก ก่อสร้างบุญกุศลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ตนและผู้อื่น เพียงเท่านี้ก็อาจจะได้มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติพอสมควร อยู่แล้ว ส่วนความสุขในโลกุตตรนิพพานนั้น ผู้ใดต้องการจริง ต้องรักษาศีล ๕ ศีล ๑0 ศีลพระปาติโมกข์เสียก่อนจึงชื่อว่า เข้าใกล้ทาง มีโอกาสที่จะได้จะถึงโลกุตตรนิพพานโดยแท้ แม้ผู้ที่จะเจริญทางพระนิพพานนั้น ก็ให้รู้จักท่านผู้เป็นครู ว่ารู้แจ้งทางพระนิพพานจริง จึงไปอยู่เล่าเรียน ถ้าไปอยู่ เล่าเรียนในสำนักของท่านผู้ไม่รู้ไม่แจ้ง ก็จะไม่สำเร็จ โลกุตตรนิพพานได้ เพราะว่าทางแห่งโลกุตตรนิพพานนี้ เล่าเรียนได้ด้วยยากยิ่งนัก ด้วยเหตุสัตว์ยินดีอยู่ในกามสุข อันเป็นข้าศึกแก่พระนิพพานโดยมาก ภนฺเต อริยกสฺสป ข้าแต่พระอริยกัสสปะ ผู้มีอายุ พระพุทธเจ้าได้ตรัสเทศนา แก่ข้าฯ อานนท์ด้วยประการดังนี้ ขอให้พระสงฆ์ทั้งหลาย จงทราบด้วยผลญาณแห่งตน ดังแสดงมานี้เถิด.     ตทนนฺตรํ ลำดับนั้นพระพุทธเจ้าจึงตรัสเทศนา ต่อไปอีกว่า อานนฺท ดูกรอานนท์ อันว่าบุคคลทั้งหลาย ผู้ปรารถนาซึ่งพระนิพพาน ควรแสวงหาซึ่งครูที่ดีที่อยู่เป็นสุข สำราญมิได้ประมาท เพราะพระนิพพานไม่เหมือนของสิ่งอื่น อันของสิ่งอื่นนั้นเมื่อผิดไปแล้วก็มีทางแก้ตัวได้ หรือไม่สู้ เป็นอะไรนัก เพราะไม่ละเอียดสุขุมมาก ส่วนพระนิพพาน นี้ละเอียดสุขุมที่สุด ถ้าผิดแล้วก็เป็นเหตุให้ได้รับความทุกข์ เป็นนักหนา ทำให้หลงโลกหลงทางห่างจากความสุข ทำให้ เสียประโยชน์เพราะอาจารย์ ถ้าได้อาจารย์ที่ถูกที่ดี ก็จะได้ รับผลที่ถูกที่ดี ถ้าได้อาจารย์ที่ไม่รู้ไม่ดีไม่ถูกไม่ต้อง ก็จะได้ รับผลที่ผิดเป็นทุกข์ พาให้หลงโลกหลงทาง พาให้เวียนว่าย ตายเกิดอยู่ในวัฏฏสงสารสิ้นกาลนาน เปรียบเหมือนผู้จะ พาเราไปในที่ตำบลใดตำบลหนึ่ง แต่ผู้นั้นไม่รู้จักตำบลนั้น แม้เราเองก็ไม่รู้ เมื่อกระนั้น ไฉนเขาจึงจะพาเราไปให้ถึง ตำบลนั้นได้เล่า ข้ออุปมานี้ฉันใด อาจารย์ผู้ไม่รู้พระนิพพาน และจะพาเราไปพระนิพพานนั้น ก็จะพาเราหลงโลกหลงทาง ไป ๆ มา ๆ ตาย ๆ เกิด ๆ อยู่ในวัฏฏสงสาร ไม่อาจจะถึง พระนิพพานได้ เหมือนคนที่ไม่รู้จักตำบลที่จะไปและเป็น ผู้พาไป ก็ไม่อาจจะถึงได้ มีอุปไมยฉันนั้น ผู้คบครูอาจารย์ ที่ไม่รู้ดีและได้ผลที่ไม่ดี มีในโลกมิใช่น้อย เหมือนดัง พระองคุลิมาลเถระไปเรียนวิชาในสำนักครูผู้มีทิฏฐิอันผิด ได้รับผลที่ผิด คือเป็นมหาโจรฆ่าคนล้มตายเสียนับด้วยพัน หากเราตถาคตรู้เห็นมีความสงสารเวทนามาข้องในข่าย สยัมภูญาณ จึงได้ไปโปรดทรมานให้ละเสียซึ่งพยศอันร้าย เป็นการลำบากมิใช่น้อย ถ้าไม่ได้พระตถาคตแล้ว พระ องคุลิมาลก็จักได้เสวยทุกข์อยู่ในวัฏฏสงสารสิ้นชาติเป็น อันมาก     ดูกรอานนท์ บุคคลผู้ไม่รู้พระนิพพานไม่ควรเป็นครู สั่งสอนท่านผู้อื่นในทางพระนิพพานเลย ต่างว่าจะสั่งสอนเขา จะสั่งสอนว่ากระไรเพราะตัวไม่รู้ เปรียบเหมือนบุคคลไม่เคย เป็นช่างเขียนหรือช่างต่างๆมาก่อน แล้วและอยากเป็น ครูสั่งสอนเขา จะบอกแก่เขาว่ากระไร เพราะตัวเองก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจจะเอาอะไรไปบอกไปสอนเขา จะเอาแต่คำพูด เป็นครูทำตัวอย่างให้เขาเห็นเช่นนั้นไม่ได้ จะให้เขาเล่าเรียน อย่างไร เพราะไม่มีตัวอย่างให้เขาเห็นด้วยตาให้รู้ด้วยใจ เขาจะทำตามอย่างไรได้ ตัวผู้เป็นครูนั้นแลต้องทำก่อน ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ควรเป็นครูสอนเขา ถ้าขืนเป็นครูก็จะพาเขา หลงโลกหลงทาง เป็นบาปเป็นกรรมแก่ตัวนักหนาทีเดียว พระพุทธเจ้าตรัสแก่ข้าฯ อานนท์ดังนี้แล     ตทนนฺตรํ ลำดับนั้น พระพุทธเจ้าตรัสเทศนา ต่อไปอีกว่า อานนฺท ดูกรอานนท์ อันว่าบุคคลผู้จะสอน พระนิพพานนั้นต้องให้รู้แจ้งประจักษ์ชัดเจนว่า พระ- นิพพานมีอยู่ในที่นั้น ๆ มีลักษณะอาการอย่างนั้น ๆ ต้อง รู้ให้แจ้งชัด จะกล่าวแต่เพียงวาจาว่านิพพาน ๆ ด้วยปาก แต่ใจไม่รู้แจ้งชัดเช่นนั้นไม่ควรเชื่อถือเลย ต้องให้รู้แจ้งชัด ในใจก่อน จึงควรเป็นครูเป็นอาจารย์สอนท่านผู้อื่นต่อไป จะเป็นเด็กก็ตาม ผู้ใหญ่ก็ตาม ถ้ารู้แจ้งชัดซึ่งพระนิพพาน แล้ว ก็ควรเป็นครูเป็นอาจารย์และควรนับถือเป็นครูเป็น อาจารย์ได้ แม้จะเป็นผู้ใหญ่สูงศักดิ์สักปานใดก็ตาม ถ้า ไม่รู้ไม่เข้าใจแล้วไม่ควรนับถือเป็นครูเป็นอาจารย์เลย ... คิริมานนทสูตร http://thai.มindcyber.com/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=271&page=7 เปลี่ยน ม เป็น m จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 22:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 67 อาจารย์สอน   เราจะเชื่อ  หรือ  ไม่เชื่อ   ทำตาม  หรือ  ไม่ทำตาม   ก็เป็นเรื่องของเรา  แต่ยังไง ก็ยังเป็นอาจารย์อยู่ดี จากคุณ : จักรพรรดิสัมมาทิฐิ - [ 7 เม.ย. 52 22:13:53 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ตามสบายของ คุณจักรพรรดิสัมมาทิฐิ ผมไม่สนใจคุณ รวมทั้งคุณจักรแก้วแล้ว เชิญตามสบายศิษย์อาจารย์ จะพากันไปไหนก็ไปเถิด จากคุณ : JitZungkabuai - [ 7 เม.ย. 52 22:17:27 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ยังไง ก็นะครับ มหาธรรมกายเจดีย์  อย่างไรก็ตาม  เป็นเจดีย์ สร้างถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  มีพระปฎิมากรแทนพระองค์ 1 ล้านองค์ เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา  ใครก็มาเอาไปเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเองไม่ได้  เพราะอีกไม่กี่ สิบปี  พระ เณร อุบาสก อุบาสิกา สาธุชน  วัดพระธรรมกาย  ผู้บริจาค ก่อสร้าง สถาปนา   ก็จะละโลก กันไปแล้ว จากนั้น อีก เป็นร้อย เป็นพันปี  ก็เป็นสมบัติพระศาสนา  สืบอายุพระศาสนาต่อไป ใครยังมีอารมณ์  เรียกว่า จานผี จานบิน   ก็ ควรหยุด ซะเถอะนะครับ เพราะมัน ไม่เป็นผลดีกับตัวท่านเอง  ไม่ใช่กับใคร (จริงๆ ก็รู้อยู่  เห็นอยู่  ว่ามีพระพุทธรูป อยู่  ก็ยังไม่วาย) จากคุณ : - (นศ.วิชาชีวิต) - [ 7 เม.ย. 52 22:28:21 ]

ความคิดเห็นที่ 70 คุณจิต ไม่เข้าใจ ผมจะเล่าให้ฟัง องคุลีมาล ท่านนับถือพระพุทธเจ้าเป็นอาจารย์ ผมก็เช่นกัน อาจารย์เก่าเคยสอนผมมา ผมก็นับถือว่า ท่านเป็นอาจารย์คนหนึ่งเช่นกัน ไม่มีตรงไหนนี่ ที่บอกว่า ท่านองคุลีมาล ไม่เคารพ อาจารย์เก่า ผมก็เคารพนับถือ ที่เคยสอนผมมา แต่ไม่ใช่นับถือ เป็นสรณะ ผมไม่ได้ตามไปลงนรกด้วยนี่ ผมมีพระพุทธเจ้าเป็นอาจารย์อยู่แล้วนี่ และนับถือเป็นสรณะเลย ผมยังมีอาจารย์อีกเป็น พัน ครูอนุบาล ครูประถม ครูมัธยม บางท่านก็ดื่มเหล้า บางท่านก็เป็นคริสต์ เพราะผมเรียนโรงเรียนคริสต์มา บางท่านก็ไม่ชอบพุทธ ผมนับถือเป็นอาจารย์ของผมทุกคนแหละครับ ก็ท่านเคยมีบุญคุณสอนผมมานี่ ก็นับถือเป็นอาจารย์ เจอกันผมก็ไหว้ท่านได้ ในฐานที่เป็นอาจารย์ผมมาก่อน ผมไม่ดื่มเหล้าไปกับท่าน  ไม่ทำตามที่ท่านสอน อีกแล้ว ( ถ้าผมรู้ว่าผิดนะ ) เท่านั้นแหละครับ ผมไม่เคยกลับไปกลับมาเรื่องนี้เลยนะ เรื่องอาจารย์เป็นอาจารย์ มั่นคงเสมอมา แต่ผมไม่ได้เป็นสาวกท่านแล้ว ลาออกมาแล้ว เท่านั้นเอง แต่อาจารย์ก็เป็นอาจารย์  อยู่วันยังค่ำ เรื่องเจดีย์ ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร ให้คุณจิตเข้าใจ ไปตำหนิ พระเจดีย์ ก็ต้องบาปสิคุณจิต พระเจดีย์ ต่อให้คน ฆ่าพ่อตัวเองมาสร้าง เขาก็สร้างถวายพระรัตนตรัย เราจะไปลบหลู่ก็ไม่ได้ บาป ก็เท่านั้นเองครับ ไม่มีอะไรครับ เบื่อมาก คุณจิตก็ไม่ต้องเสวนากับผมอีกก็ได้ ไม่รบกวน คุณจิตมีธรรมอยู่แล้ว ขอให้เจริญในธรรมนะครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 7 เม.ย. 52 23:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 71 สัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่จะตัดสินได้จากภายนอก ว่าสิ่งก่อสร้างใดเป็นสถูปเจดีย์หรือไม่ เค้าให้ดูกันที่ฉัตร หรือปล้องไฉน หรือส่วนบนสุดที่เป็นยอดแหลม สถูปเจดีย์ไม่ว่าแห่งใดย่อมต้องมีฉัตรอยู่ข้างบนเสมอค่ะ เพราะสถูปเจดีย์พัฒนามาจากสุสาน ซึ่งพูนดินขึ้นเป็นโคกตรงที่จะฝังอัฐิธาตุ บนยอดมีการปักร่มหรือฉัตร ฉัตร หรือ ร่ม เป็นเครื่องสูง ซึ่งชาวอินเดียโบราณใช้เป็นเครื่องหมายของสิ่งศักดิ์สิทธิ์-บุคคลศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่ก่อนพุทธกาล จึงได้นำไปตกแต่งกองดินเหนือหลุมศพกษัตริย์ หรือบุคคลสำคัญ เมื่อพัฒนาสุสานนั้นขึ้นเป็นสถูปเจดีย์ ก็จึงยังรักษารูปทรงที่ดูเหมือนกองดินเอาไว้ และยังคงปักฉัตรเอาไว้เพื่อแสดงฐานะของสถูปเจดีย์นั้นๆดังกล่าวแล้ว ต่อมา ฉัตรที่ว่านี้จึงได้เปลี่ยนรูป กลายเป็นปล้องไฉนของสถูปเจดีย์ในพุทธศิลป์ของประเทศต่างๆ ที่รับศาสนาพุทธจากอินเดีย ดังนั้น สุสานใดที่มีเพียงกองดินข้างบน ไม่มีฉัตร ย่อมไม่ใช่สุสานของบุคคลสำคัญ ฉันใด สิ่งก่อสร้างที่คล้ายสถูปเจดีย์ แต่ไม่มีฉัตรข้างบน ย่อมไม่ใช่สถูปเจดีย์ ฉันนั้น และความจริง มีสิ่งก่อสร้างที่คล้ายสถูปเจดีย์อยู่หลายแห่งทั่วโลกค่ะ เพียงแต่สิ่งก่อสร้างเหล่านั้นไม่มีฉัตร หรือปล้องไฉน หรือยอดแหลม จึงเห็นได้ชัดว่าเป็นสิ่งก่อสร้างในศาสนาอื่น ไม่ใช่สถูปเจดีย์ในศาสนาพุทธ สิ่งที่วัดพระธรรมกายเรียกว่า มหาธรรมกายเจดีย์ เป็นสิ่งก่อสร้างซึ่งขาดองค์ประกอบสำคัญของเจดีย์อันเป็นสัญลักษณ์ที่รับรู้ร่วมกันทั่วทั้งโลก เมื่อจงใจสร้างสิ่งที่แตกต่างจากความรับรู้ของสาธารณชน โดยไม่มีคำอธิบายที่เหมาะสม ก็ไม่ควรจะแปลกใจที่จะมีใครเรียกสิ่งก่อสร้างนั้นว่า จานผี จานบินค่ะ ประติมากรรม ที่คล้ายพระพุทธรูปนั้นก็เช่นกัน ลองเอามาโพสต์สิคะ จะได้ดูกันว่า เป็นพระพุทธรูปแน่หรือไม่ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 7 เม.ย. 52 23:06:56 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เอามาให้ดูค่ะ คุณหนอน จากคุณ : บุษกรจันทร์ - [ 7 เม.ย. 52 23:14:19 ]

ความคิดเห็นที่ 73 นี่คือ พระพุทธรูป ที่เราๆ คุ้นเคยและเคารพกราบไหว้ เป็นตัวแทนพระพุทธองค์ จากคุณ : บุษกรจันทร์ - [ 7 เม.ย. 52 23:15:31 ]

ความคิดเห็นที่ 74 คห.35  คุณ จิต เอาพระไตรปิฎกมาลง   ไม่เห็นมี ฉัตร เลยล่ะครับ (เราออกจากอาศรมก่อ พระเจดีย์ทรายแล้วรวบรวมเอาดอกไม้นานาชนิดมาบูชาพระเจดีย์นั้น) ในรูป ก็ไม่เห็นมีฉัตร แล้วชาววัดพระธรรมกาย  คงไม่มีใคร แปลกใจที่พวกคุณเรียกอย่างนั้นหรอกครับ   เพราะไม่มีใครเดือดร้อน   (ส่วนใหญ่เขารู้สึก สงสารพวกคุณมากกว่าครับ) จากคุณ : - (นศ.วิชาชีวิต) - [ 7 เม.ย. 52 23:53:31 ]

ความคิดเห็นที่ 75 พรุ่งนี้มาต่อ จากคุณ : - (นศ.วิชาชีวิต) - [ 8 เม.ย. 52 00:04:54 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ตอบ คุณ นศ.วิชาชีวิต แล้วคุณรู้หรือเปล่าล่ะคะ ว่าเจดีย์ทรายในพระไตรปิฎก รูปร่างหน้าตาเป็นยังไง? เกิดเค้าเอาทรายมาถมเป็นกองดินขึ้นมา แล้วปักฉัตรไว้ข้างบน พระไตรปิฎกก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงฉัตรข้างบนหรอกค่ะ เพราะพระไตรปิฎกตอนนั้นพูดถึงอานิสงส์ของการก่อเจดีย์ทราย ไม่ได้พูดถึงลักษณะทางสถาปัตยกรรมของเจดีย์ทรายค่ะ ส่วนรูปพระธัมเมกขสถูป เดิมก็มีฉัตรอยู่ข้างบนเหมือนกันค่ะ ไม่เชื่อคุณไปที่กรมโบราณคดีอินเดียแล้วไปหาภาพ reconstruction ของพระสถูปดังกล่าวมาดูสิคะ คุณบุษกรจันทร์ หรือชาวธรรมกายท่านใดก็ได้ ขอภาพสิ่งที่วัดพระธรรมกายบอกว่าเป็นพระพุทธรูปเต็มๆ องค์หน่อยค่ะ จะได้มาดูกันว่า นอกจากที่อ้างว่าเป็นเจดีย์จะไม่ใช่เจดีย์ตามนิยามของพุทธศิลป์ทั่วโลกแล้ว สิ่งที่อ้างว่าเป็นพระพุทธรูปนั้น จะเป็นพระพุทธรูปตามนิยามของพุทธศิลป์ทั่วโลกด้วยหรือไม่ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 8 เม.ย. 52 00:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 77 รูปมาแล้วจ้ะ จากคุณ : บุษยมาศ - [ 8 เม.ย. 52 00:22:04 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ต้นโพธิ  ก็  ถือเป็น เจดีย์  ครับ จากคุณ : ข้าวต้มเปล่าชามเดียว - [ 8 เม.ย. 52 00:27:45 ]

ความคิดเห็นที่ 79 จาก คุณ Yacht Club ไม้พระศรีมหาโพธิเป็น "อุเทสิกะเจดีย์"   ด้วยครับ อย่าลืมนะ อันว่านรชาติหญิงชายทั้งหลายจำพวกใดได้ถวายนมัสการกราบไหว้ซึ่งสมเด็จพระพุทธเจ้าทั้งสิบพระองค์กับทั้งไม้พระศรีมหาโพธิ ๑๐ ต้น ดังพรรณนามานี้ อันว่านรชาติหญิงชายจำพวกนั้นจะมีผลานิสงส์คือ มิได้ไปบังเกิดในนรกสิ้นกาลช้านานถึงแสนกัปป์ ด้วยกุศลเจตนาของอาตมาที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้าทั้งสิบพระองค์นั้นฯ พระองค์ได้ตรัสเป็นลำดับกันโดยนิยมดังนี้ อันว่าไม้พระศรีมหาโพธิอปราชิตบัลลังค์ที่นั่งทรงพิจารณาพระปฏิจจสมุปบาทธรรม แล้วตรัสรู้เป็นพระสัพพัญญูเจ้านั้น - พระศรีอาริยเมตไตรยเจ้า คือไม้กากะทิงเป็นที่ตรัส ๑ - พระรามเจ้า คือ ไม้แก่นจันทร์แดงเป็นที่ตรัส ๒ - พระธรรมราชาเจ้า คือ ไม้กากะทิงเป็นที่ตรัส ๓ - พระธรรมสามีเจ้า คือ ไม้รังใหญ่เป็นที่ตรัส ๔ - พระนารทะเจ้า คือ ไม้แก่นจันทร์แดงเป็นที่ตรัส ๕ - พระรังสีมุนีเจ้า คือ ไม้ดีปลีใหญ่เป็นที่ตรัส ๖ (บางคัมภีร์ว่าเป็นไม้เลียบ) - พระเทวเทพเจ้า คือ ไม้จำปาเป็นที่ตรัส ๗ - พระนรสีหะเจ้า คือ ไม้แคฝอยเป็นที่ตรัส ๘ - พระติสสะเจ้า คือ ไม้ไทรเป็นที่ตรัส ๙ - พระสุมงคลเจ้า คือ ไม้กากะทิงเป็นที่ตรัส ๑๐ อันว่าไม้พระมหาโพธิ ๑๐ ต้นนี้ เป็นที่ได้ตรัสรู้พระสัพพัญญู แห่งสมเด็จพระพุทธเจ้าทั้ง ๑๐ พระองค์ อันจะบังเกิดในอนาคตกาลเบื้องหน้าฯ พระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพยากรณ์เรื่อง พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑0 พระองค์ ในอนาคต ให้พระสารีบุตรเถระ มีความย่อดังนี้ องค์สมเด็จพระมหามุนีธิคุณเจ้าแห่งเราทั้งหลายตรัสพระสัทธรรมเทศนาแก่พระสารีบุตรว่า นานไปเบื้องหน้าพระโพธิสัตว์ทั้ง ๑๐ พระองค์นั้น จะได้ตรัสรู้แด่พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณเป็นลำดับกันฯ คือ - องค์พระศรีอาริยเมตไตรยเจ้าเป็นปฐมที่ ๑ - ถัดนั้นจึง พระรามโพธิสัตว์จะได้ตรัสที่ ๒ - ถัดนั้นจึง พระเจ้าปเสนธิโกศลจะได้ตรัสเป็นพระธรรมราชาที่ ๓ - ถัดนั้น พระยามาราธิราช จะได้ตรัสเป็นพระธรรมสามีที่ ๔ - ถัดนั้น อสุรินทราหู จะได้ตรัสเป็นพระนารทะที่ ๕ - ถัดนั้น โสณพราหมณ์ จะได้ตรัสเป็นพระรังสีมุนีที่ ๖ - ถัดนั้น สุภพราหมณ์ จะได้ตรัสเป็นพระเทวเทพที่ ๗ - ถัดนั้น โตไทยพราหมณ์ จะได้ตรัสเป็นพระนรสีหะที่ ๘ - ถัดนั้น ช้างธนบาลหัตถีนาฬาคีรี จะได้ตรัสเป็นพระติสสะที่ ๙ - ถัดนั้น ช้างปาลิไลยหัตถี จะได้ตรัสเป็นพระสุมงคลที่ ๑๐ ไม้พระศรีมหาโพธิเป็น  "อุเทสิกะเจดีย์"   ด้วยครับ อย่าลืมนะ จากคุณ : ข้าวต้มเปล่าชามเดียว - [ 8 เม.ย. 52 00:30:00 ]

ความคิดเห็นที่ 80 หาก  ไป ตั้ง กระทู้ใหม่ จะดีไหม ครับ ท่านหนอน จริงแล้วอยากสนทนาด้วยครับ เป็นการส่วนตัว ช่วยไปตั้งกระทู้ใหม่เถอะครับ แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 52 00:34:02 จากคุณ : ข้าวต้มเปล่าชามเดียว - [ 8 เม.ย. 52 00:31:51 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ขอบคุณค่ะ คุณบุษยมาศ และสำหรับคุณข้าวต้มฯ ไม่จำเป็นต้องไปตั้งกระทู้ใหม่ค่ะ เพราะ ๑) กระทู้นี้พูดถึงเจดีย์ เราก็เลยมาช่วยเสริมข้อมูลว่า ในทางพุทธศิลป์จริงๆ แล้ว อะไรจึงควรเรียกว่า สถูปเจดีย์ ส่วน เจดีย์ชนิดอื่นๆ ที่พระไตรปิฎกกล่าวไว้ ไม่จำเป็นต้องนำมาอภิปรายค่ะ ประเด็นก็คือเมื่อวัดพระธรรมกายก่อสร้างสถาปัตยกรรมชนิดหนึ่ง แล้วอ้างว่าเป็นพระมหาธรรมกายเจดีย์ ซึ่งถ้าเป็นจริง ก็ต้องตรงกับ สถูปเจดีย์ ไม่ใช่อุเทสิกะเจดีย์จำพวกไม้พระศรีมหาโพธิ์ ตามที่คุณข้าวต้มฯ นำมาอ้าง เพราะ พระมหาธรรมกายเจดีย์ ดูยังไงก็เหมือนจานบิน ไม่เหมือนต้นโพธิ์หรือต้นไม้ชนิดไหนๆ ค่ะ ๒) เมื่อมีผู้อ้างใน ค.ห.๖๙ ไว้ว่า มหาธรรมกายเจดีย์  อย่างไรก็ตาม  เป็นเจดีย์ สร้างถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  มีพระปฎิมากรแทนพระองค์ 1 ล้านองค์ เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา  ใครก็มาเอาไปเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเองไม่ได้  เพราะอีกไม่กี่ สิบปี  พระ เณร อุบาสก อุบาสิกา สาธุชน  วัดพระธรรมกาย  ผู้บริจาค ก่อสร้าง สถาปนา   ก็จะละโลก กันไปแล้ว จากนั้น อีก เป็นร้อย เป็นพันปี  ก็เป็นสมบัติพระศาสนา  สืบอายุพระศาสนาต่อไป ใครยังมีอารมณ์  เรียกว่า จานผี จานบิน   ก็ ควรหยุด ซะเถอะนะครับ เพราะมัน ไม่เป็นผลดีกับตัวท่านเอง  ไม่ใช่กับใคร (จริงๆ ก็รู้อยู่  เห็นอยู่  ว่ามีพระพุทธรูป อยู่  ก็ยังไม่วาย) จากคุณ : - (นศ.วิชาชีวิต)  - [ 7 เม.ย. 52 22:28:21 ] ก็ต้องมาดูกันสิคะ ว่าสิ่งที่กล่าวว่าเป็นพระพุทธรูป หรือพระปฏิมากรแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ ซึ่งจากที่คุณบุษยมาศนำภาพมาให้ดูใน ค.ห.๗๗ ก็หวังว่า คุณข้าวต้มฯ และชาววัดพระธรรมกายคงไม่ปฏิเสธนะคะ ว่าประติมากรรมในรูปนั้น ไม่ใช่พระพุทธรูปตามแบบของวัดพระธรรมกาย เรื่องที่เราจะโพสต์ต่อไปนี้ จึงยังคงอยู่ในขอบเขตของกระทู้นี้ทุกประการค่ะ ^ ^ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 8 เม.ย. 52 01:26:44 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ขออธิบายคร่าวๆ นะคะ พระพุทธรูปรุ่นแรกของโลก เกิดขึ้นในศิลปะคันธาระ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย ในราวๆ พุทธศตวรรษที่ ๖-๗ เกิดขึ้นโดยช่างฝีมือกรีกที่เข้ามาอยู่ในอินเดียและนับถือศาสนาพุทธ ศิลปะคันธาระคือศิลปะกรีก-โรมัน การสร้างพระพุทธรูปก็ใช้หลักประติมานวิทยา (Iconography : ศาสตร์ที่ว่าด้วยการสร้างรูปเคารพ) เดียวกับเทวรูปกรีก- โรมัน แต่มีข้อแตกต่างสำคัญที่ทำให้เห็นว่าเป็นพระพุทธรูป ไม่ใช่เทวรูปกรีก-โรมัน อยู่ ๖ ลักษณะใหญ่ๆ ๑) พระพุทธรูปมักแสดงออกด้วยการหันหน้าตรงสู่ผู้มอง มีการแสดงออกของโครงร่างเป็นเส้นตรง ไม่มีการบิดเบี้ยว ซึ่งไม่ใช่ลักษณะที่นิยมของศิลปะกรีก-โรมัน ๒) พระพุทธรูปมักแสดงอาการสงบนิ่ง สะอาดบริสุทธิ์ ไม่แสดงท่าทางเคลื่อนไหวและไม่แสดงอำนาจอย่างเทวรูป ๓) พระพุทธรูปแสดงภาพบุคคลที่ไว้พระเกศามวยตามแบบโยคีอินเดียในสมัยคันธาระ ซึ่งแตกต่างกับนักบวชและเทพเจ้ากรีก-โรมัน ๔) พระพุทธรูปมีพระกรรณยาว ตามแบบชาวอินเดียสมัยพุทธกาลและเรื่อยมาจนถึงเมื่อไม่กี่ร้อยปีมานี้ ซึ่งนิยมใช้ตุ้มหูหนักๆ ถ่วงติ่งหูให้ยาว เป็นแฟชั่นที่ไม่เหมือนชาวกรีก-โรมัน ๕) พระพุทธรูปแสดงอาสนะ (ท่านั่ง) และมุทรา (ท่ามือ) เพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในพุทธประวัติ ซึ่งเป็นภาษาท่าทางที่เกิดขึ้นในอินเดียแท้ และเป็นที่เข้าใจกันเฉพาะในอินเดีย ไม่เคยใช้กันในศิลปะกรีก-โรมัน ๖) พระพุทธรูปห่มจีวรเลียนแบบพระสงฆ์อินเดียสมัยคันธาระ ซึ่งไม่เหมือนกับผ้านุ่งของนักบวชลัทธินิกายอื่น ตลอดจนนักบวชกรีก-โรมัน ๖ ข้อใหญ่ๆ นี่แหละค่ะ คือสิ่งที่เกิดมาพร้อมกับพระพุทธรูปตั้งแต่สมัยแรก และสืบทอดต่อๆ กันมาจนปัจจุบัน จนผู้เชี่ยวชาญทางศาสนาทั่วโลกใช้ตัดสินว่า ประติมากรรมชนิดไหนที่ควรจะเรียกว่าพระพุทธรูปหรือไม่ ทีนี้ หลังจากเกิดพระพุทธรูปแล้ว ก็ปรากฏว่ามีการทำรูปเคารพของศาสดาในศาสนาเชน คือ มหาวีระ คู่แข่งกับพระพุทธศาสนานี่แหละค่ะ รูปเคารพของมหาวีระ ทำเหมือนพระพุทธรูปแทบทุกอย่างใน ๖ ข้อที่กล่าวมาแล้ว ขาดเพียงข้อเดียวที่ไม่อาจจะเลียนแบบได้ คือ จีวร เพราะพระมหาวีระเป็นนักบวชเปลือย หรือที่คนไทยเราเรียกกันว่า ชีเปลือย นั่นเองค่ะ รูปเคารพของพระมหาวีระจึงต้องเป็นรูปเปลือย ใส่จีวรไม่ได้ ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่นอาสนะ คือการนั่งขัดสมาธิ มุทรา การวางมือในท่าสมาธิ รวมทั้งทรงผม และองค์ประกอบอื่นๆ ทำเลียนแบบพระพุทธรูปทุกประการ ผู้เชี่ยวชาญในทางพุทธศิลป์จึงจำแนกข้อแตกต่างระหว่างพระพุทธรูป (ปฏิมากรรมแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) และรูปเคารพของพระมหาวีระออกจากกันได้อย่างง่ายๆ โดยดูแค่ว่า ประติมากรรมนั้นสวมจีวรหรือไม่ ถ้าไม่สวมจีวร หรือไม่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าสวมจีวร ไปถามคนที่รู้จักศาสนาพุทธทั่วโลกที่เค้ารู้จริง ทุกคนก็ต้องบอกว่าเป็นพระเชนค่ะ ภาพข้างล่างนี้ คือ พระเชน หรือพระมหาวีระค่ะ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 8 เม.ย. 52 01:51:40 ]

ความคิดเห็นที่ 83 พระมหาวีระ อีกรูปหนึ่ง ลองเปรียบเทียบกับรูปในค.ห.๗๗ ดูค่ะ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 8 เม.ย. 52 01:53:40 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว ศาสนาเชนสร้างรูปเคารพที่ดูคล้ายพระพุทธรูป เพื่อลวงให้คนที่ไม่มีการศึกษา นึกว่าเป็นพระพุทธรูป พากันไปกราบไหว้ และกลายเป็นสาวกของศาสนาเชน ด้วยความเข้าใจผิดว่าเป็นผู้สืบทอดพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วเหตุใด ชาวพุทธสมัยนี้จึงสร้างสิ่งที่เรียกว่า "พระพุทธรูป" ขึ้นในรูปแบบเช่นเดียวกันนี้ งงมากๆ ค่ะ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 8 เม.ย. 52 01:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 85 สิ่งที่ดูคล้ายพระพุทธรูป แต่ไม่สวมจีวร วงการศิลปะทั่วโลกเรียกว่า พระเชน หรือ มหาวีระ ทีนี้วัดพระธรรมกายจะอธิบายยังไงกับสิ่งที่ทางวัดเรียกว่า พระพุทธรูป แบบในค.ห.๗๗ คะ? ไม่มีประโยชน์ที่จะลบค่ะ เพราะทุกข้อความที่เราโพสต์ เราจะเซฟเก็บไว้ทั้งหมด ลบเมื่อไหร่ก็โพสต์ใหม่เมื่อนั้นค่ะ ^ ^ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 8 เม.ย. 52 02:01:16 ]

ความคิดเห็นที่ 86 พระพุทธ จะเป็นแบบไหน  หรือ พระเชน จะเป็นแบบไหน ไม่ทราบว่ามันไปเกี่ยวอะไรกะพวกฮินดูด้วยครับ กราบไหว้พระพุทธ หรือพระเชน ก็ยังดีกว่าพวกที่กราบไหว้ตัวประหลาดเป็นเทพเจ้าล่ะครับ จากคุณ : จักรพรรดิสัมมาทิฐิ - [ 8 เม.ย. 52 03:05:31 ]

ความคิดเห็นที่ 87 นั่นสิคะ เกี่ยวอะไรกับพวกฮินดู ^ ^ ไม่เห็นมีฮินดูในบอร์ดนี้ซักคน มีแต่... ๑) พวกไร้การศึกษาที่พอเห็นใครเค้าไหว้เทพก็นึกว่าเป็นฮินดูไปหมด ๒) พวกที่เถียงไม่ออกแล้วแถไปประเด็นอื่น แต่ปรากฏว่ายิ่งแถยิ่งโง่น่ะค่ะ พวกนี้เยอะมากๆ เลยค่ะคุณจักรพรรดิสัมมาทิฐิ กราบไหว้เทพเจ้า ก็ยังดีกว่าพวกที่กราบไหว้มนุษย์ต่างดาว ตัวประหลาดหน้าเด้ง ใส่เสื้อแขนยาว+ถุงน่องใต้จีวร นะคะ หรือไม่จริงคะ คุณลูกพระธัมม์ หลานคุณยาย? จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 8 เม.ย. 52 03:37:27 ]

ความคิดเห็นที่ 88 อุ้ย... ขอโทษค่ะ จำผิดๆ ลืมไปว่า คุณลูกพระธัมม์ หลานคุณยาย เป็นคนละคนกับ จักรพรรดิสัมมาทิฐิ และ เป็นคนละคนกับ สมาชิกผู้ทรงเกียรติ ด้วย แย่เลยค่ะ รีบลบกระทู้นี้โดยด่วนเถอะค่ะ ก่อนที่คนอื่นๆ จะเข้าใจผิดไปกันใหญ่นะคะ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 8 เม.ย. 52 03:43:31 ]

ความคิดเห็นที่ 89 จะเป็นเจดีย์หรือไม่ขึ้นกับคนสร้างแล้วก็จุดมุ่งหมาย ถ้าคนรอบข้างไม่ได้มีธรรมที่ถูกต้อง มุ่งแต่จะหาประโยชน์ใส่ตัว โลภโมโทสัน วัตถุที่สร้างก็เป็นแค่สิ่งก่อสร้างเพื่อหวังเอาลาภผลประโยชน์ ต่างกันกับคนที่มีธรรมหรือคุณธรรม เมื่อไรที่กราบไหว้วัตถุโดยระลึกถึงคุณธรรมหรือธรรมของพระรัตนตรัย วัตถุนั้นย่อมมีความหมายด้วยจิตใจของผู้ที่กราบไหว้นั่นเอง คุณหนอนดาวเรืองเอาเรื่องพระมหาวีระมานี่ ทำให้ผมคิดได้อย่างนะว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร คนที่เคยเบียดบังหรือผู้ที่มุ่งร้ายต่อพระพุทธเจ้าเคยเป็นอย่งไรก็ยังเป็นอย่างนั้น ความคิดภายในจิตใจลึกๆมันปิดไม่มิด จากคุณ : นพมาร - [ 8 เม.ย. 52 06:28:54 ]

ความคิดเห็นที่ 90 พระมหาวีระ ท่านไม่สวมอะไรเลยจริงหรือเนี่ย จากคุณ : บุษกรจันทร์ - [ 8 เม.ย. 52 10:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เรียน คุณจักรแก้ว ธรรมกายเจดีย์ เป็นเจดีย์ในความหมายของชาวธรรมกาย แต่ไม่ใช่สำหรับผมครับ ผมไม่เห็นว่าจะเป็นเจดีย์ตรงไหนเลย ว่าด้วย เจดีย์ของพวกเดียรถีย์ กับ เจดีย์ในพระศาสนานี้ ที่ผมยกเรื่อง "บ้านน้องเรเดี้ยนก็เป็นเจดีย์ได้ละสิ" ก็ตามความหมายของคุณอะไรก็ไม่รู้ที่กล่าวใน คห. ข้างบน คุณจักรแก้วน่าจะเข้าใจ ถ้าไม่ ก็อ่านเรื่องฐานขีปนาวุธเพิ่มเติม เรื่องพระพุทธเจ้าในฝัน แปลก็คือคุณครูไม่ใหญ่ ของอนุบาลฝันในฝันวิทยา ไม่ใช่พระพุทธเจ้าในอนาคต แปลกแต่จริง คุณเคารพเดียรถีย์เป็นอาจารย์เมื่อก่อน ปัจจุบันและอนาคต คุณจักรแก้วก็ยังนับเขาเป็นอาจารย์ พร้อมทั้งเคารพพระพุทธเจ้าได้ด้วยพร้อมกัน ลูกศิษย์ที่ไม่เชื่อฟัง เขาเรียกว่า ลูกศิษย์ทรยศ อาจารย์ไม่ถือว่าเป็นศิษย์หรอก ที่คุณคิดว่าเป็นศิษย์อาจารย์นั้น คุณคิดเอาเองต่างหาก อย่าให้ผมต้องยกใส่เกล้ามาเรื่อง ปาราชิก ผู้ปาราชิกไม่ถือว่าเป็นศิษย์ของพระตถาคตหรอก!!! ดูอย่างครูอนุบาลที่ฆ่าคนตายของคุณเถิด คุณทำอย่างนี้เข้าใจว่ากตัญญู หรือคุณไปช่วยสงเคราะห์กันแน่ ญาติพี่น้องของคนตาย เขาเห็นคุณทำอย่างนี้กับฆาตรกร เขาจะรู้สึกอย่างไร มันก็เหมือนที่ผมรู้สึกนั่นแหละ ถ้าคุณครูไม่ใหญ่มีบุญคุณกับคุณจักรแก้ว ผมถามได้ไหมว่าเขามีบุญคุณมีเมตตาต่อคุณอย่างไร เขาให้ยาพิษและคุณดื่มด้วยความเต็มใจของคุณเอง เพราะถูกหลอกลวง คุณเรียกว่าความเมตตาหรือครับ? เรื่อง "ทำให้สงฆ์ยินดี" คุณจักรแก้วคงลืมไปแล้วที่ท่านฐานาฐานะใส่เกล้ามอบไว้ให้คุณ เป็นเกราะเป็นเครื่องป้องกันภัย ผมไม่มีอะไรปฏิฆะกับคุณจักรแก้วหรอก แค่ช่วยย้ำเตือนความจำของคุณ เท่านั้นเองครับ :) Chuck จากคุณ : JitZungkabuai - [ 8 เม.ย. 52 11:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 92 แก้แล้วครับ นี่ศาสนาเชน http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2007/10/Y5903371/Y5903371.html นิครนถนาฏบุตร คณาจารย์เจ้าลัทธิคนหนึ่งในจำนวนครูทั้ง ๖ มีคนนับถือมาก      มีชื่อเรียกหลายอย่าง เช่น วรรธมานบ้าง พระมหาวีระบ้าง      เป็นต้นศาสนาเชน ซึ่งยังมีอยู่ในประเทศอินเดีย แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 52 14:41:10 จากคุณ : นพมาร - [ 8 เม.ย. 52 13:06:05 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ขอบคุณที่ย้ำเตือนครับ ผมมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างดี ไม่ได้มีข้อกังขา หรือตะขิดตะขวงอะไร ขอบคุณนะครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 8 เม.ย. 52 13:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 94 คนที่ใช้ล็อคอิน  จักรพรรดิสัมมาทิฐิ  ในขณะนี้  เป็นคนละคนกับ สมาชิกผู้ทรงเกียรติ นะจ๊ะ แต่  ลูกพระธัมฯ นี่สิ  เป็นคนเดียวกันป่าวน๊า.. อิอิ จากคุณ : จักรพรรดิสัมมาทิฐิ - [ 8 เม.ย. 52 13:23:41 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ศาสนาเชนสอนเน้นหนักในการบำเพ็ญทุกรกิริยา คำว่า"เชน"  บางทีออกเสียงว่า  ไชน์  หรือ  ไยน์  มาจากคำว่า "ชินะ"  แปลว่า "ผู้ชนะ"   เพราะฉะนั้น  ศาสนาเชนจึงหมายความว่าศาสนาแห่งผู้ชนะ ( ชนะตนเอง ) http://www.eduzones.com/knowledge-2-3-43343.html ชิตังเมรวยถาวร http://:-)/merit/1/chitangmae1.html ชิตังเม ==> เราชนะแล้ว !! http://:-)/forum/index.php?showtopic=20278 ความคล้ายอย่างประหลาด แทนเจ้าหน้า :-) ด้วยคำว่า CMD จากนั้นให้สลับหน้าหลัง ไปทำงานก่อนดีกว่า แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 52 13:31:45 จากคุณ : นพมาร - [ 8 เม.ย. 52 13:29:07 ]

ความคิดเห็นที่ 96 แหม๋.. คุณผู้ขัดขวางความดีทั้งเก้า  นี่ เข้าใจตั้งข้อสังเกตุซะด้วยน๊า.. จากคุณ : จักรพรรดิสัมมาทิฐิ - [ 8 เม.ย. 52 13:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ส่วน คห.92 ของคุณผู้ขัดขวางความดีทั้งเก้า นั้น  เรียกว่าไม่รู้จริง แล้วยังเสล่อมาใส่ความ รูปปั้นหลวงพ่อสดน่ะ  อยู่ที่วิหารด้านหน้าวัดจ้ะ  ไม่ได้อยู่ในเจดีย์  ส่วนในเจดีย์น่ะ เป็นพระบรมพุทธเจ้า   ส่วนพระพุทธรูปน่ะ  จะเป็นรูปแบบไหน  จะไปเหมือนศาสนาอะไร  ก็ไม่สำคัญหรอก  เพราะยังไงก็ต้องเขมือบมันทุกศาสนาอยู่แล้ว   ฮ่าๆๆๆๆๆๆ  ๆๆๆๆๆๆๆ  ๆๆๆๆๆๆๆ  ๆๆๆๆๆๆๆ  ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ๆๆๆๆๆๆๆๆ  ๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : จักรพรรดิสัมมาทิฐิ - [ 8 เม.ย. 52 14:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 98                                                 ^                                                 ^                                                 ^ มิน่าล่ะ ถึงตั้งชื่อล้อคอิน "จักรพรรดิสัมมาทิฐิ" คิดจะครองชมพูทวีปนี่เอง แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 52 14:34:16 จากคุณ : รัตนมาลี - [ 8 เม.ย. 52 14:33:44 ]

ความคิดเห็นที่ 99 คุณอย่ามายุ่งกับชื่อผมเลย ชื่อคุณมันก็ประมาณว่าไม่รู้จะคิดอะไรดีแล้ว จากคุณ : นพมาร - [ 8 เม.ย. 52 14:47:25 ]

ความคิดเห็นที่ 100 แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 52 16:03:14 จากคุณ : NakinSoCute - [ 8 เม.ย. 52 16:02:07 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ยกอนิสงค์ของบุญมาอ้างตลอด ถ้าใส่หน่วยเป็นดอลล่าได้ คงใส่ไปแล้วล่ะ ใครจะเรียก วงกลมเรืองแสงนั้นว่าอะไรก็ช่าง เราไม่ทําบุญวัดนี้ไม่ชอบบิ๊กบุญ แค่อ่านสาวกวัดนี้ตอบกระทู้ก็รู้แล้วว่า ไม่ใช่คําสอนของศาสนาพุทธ แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 52 16:53:20 จากคุณ : Yogi Playgirl - [ 8 เม.ย. 52 16:51:09 ]

ความคิดเห็นที่ 102 คห. 85   สิ่งที่ดูคล้ายพระพุทธรูป แต่ไม่สวมจีวร วงการศิลปะทั่วโลกเรียกว่า พระเชน หรือ มหาวีระ แต่วงการคณะสงฆ์ไทย เป็นหมื่น เป็นแสน รูป   (รวมถึง พระภิกษุ จากนานาประเทศ เช่น ลาว พม่า เวียตนาม ธิเบต เกาหลี ไต้หวัน ออสเตรเลีย ฯลฯ) องค์กร ยุวพุทธสงฆ์โลก (WBSY) ประเทศศรีลังกา ก็มาร่วมพิธีทางพุทธศาสนา มากราบพระมหาธรรมกายเจดีย์ (ไม่เห็นมีใครว่า  เจดีย์เป็นศาสนาเชน  สักคน  มีแต่พวกคุณนั่นล่ะคับ) หรือคุณ เห็นว่า วงการศิลป์โลก  น่าเชื่อถือกว่า  วงการสงฆ์ไทย(โลก)  ละคับ ? ภาพการรวมตัวกันของ พุทธบริษัทสี่ นับแสนคน ที่มาประกอบพิธีทางพุทธศาสนา  ที่มหาธรรมกายเจดีย์  เป็นสิบๆ เป็นร้อยๆ ครั้ง  นี่แหละครับ ที่ทำให้  ชาวพุทธทั่วโลก   ประกาศให้  ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก เอารูปไหมคับ  มีรูป  (แต่ กลัวถูกลบ) แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 52 17:18:26 แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 52 17:08:38 แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 52 16:55:39 จากคุณ : - (นศ.วิชาชีวิต) - [ 8 เม.ย. 52 16:52:09 ]

ความคิดเห็นที่ 103 องค์กร ยุวพุทธสงฆ์โลก จากคุณ : - (นศ.วิชาชีวิต) - [ 8 เม.ย. 52 17:15:00 ]

ความคิดเห็นที่ 104 อันนี้แถม องค์กร ยุวพุทธสงฆ์โลก มอบรางวัล  ผู้นำสันติภาพระดับจักรวาล เป็นครั้งแรกของโลก  แด่ พระราชภาวนาวิสุทธิ์  (หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จากคุณ : - (นศ.วิชาชีวิต) - [ 8 เม.ย. 52 17:22:34 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ^^ เข้ามาให้ Giv เรื่องประติมานวิทยาครับ จากคุณ : Fluorine - [ 8 เม.ย. 52 18:34:38 ]

ความคิดเห็นที่ 107 กระทู้นี้ดิฉันได้ความรู้จากคุณหนอนดาวเรืองมากเลยค่ะ ขอบคุณและอนุโมทนาคุณหนอนฯ ด้วยค่ะ จากคุณ : oor_dt - [ 8 เม.ย. 52 19:23:36 ]

ความคิดเห็นที่ 108 เอาปริมาณเข้าว่าอีกตามเคย ไปดีกว่า จากคุณ : Yogi Playgirl - [ 8 เม.ย. 52 19:33:44 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ขอบคุณคุณหนอนดาวเรืองมากๆ เลยค่ะ ได้ความรู้มากมายเลยจากกระทู้นี้ บี ๒ เซฟเข้าคลังกระทู้เรียบร้อยแล้วค่ะ จากคุณ : บุษยมาศ - [ 8 เม.ย. 52 19:44:14 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ความคิดเห็นที่ 105   ... เหมือนว่า ความเป็นปึกแผ่น ของคณะสงฆ์ทั้งสองนิกาย  จะมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว อีกครั้ง   ถือเป็นการ  รวมสงฆ์  เป็น อนัตริยกรรม ฝ่ายดี จากคุณ : - (นศ.วิชาชีวิต)  - [ 8 เม.ย. 52 18:11:38 ] .......................................................................................... รบกวนพิจารณาคําพูดของคุณด้วยนะคะ เพราะการที่คุณพูดเรื่องไม่จริงแบบนี้ มันไม่ได้ทําให้ภาพพจน์วัดและ/หรือครูบาอาจารย์ของคุณที่ปรากฎต่อสาธารณชนดีเลยค่ะ ผู้คนที่ไม่ใช่คนในวัดของคุณเขาอาจโกรธและรังเกียจทั้งวัดทั้งครูบาอาจารย์ของคุณมากกว่าปัจจุบันอีกค่ะ จากคุณ : oor_dt - [ 8 เม.ย. 52 19:49:58 ]

ความคิดเห็นที่ 111 เห็นด้วยกับคุณ oor_dt ค่ะ ปล่อยไว้คงไม่ดี ขอมอบถั่วแดงให้นะคะ คห ๑๐๕ จากคุณ : บุษยมาศ - [ 8 เม.ย. 52 20:02:37 ]

ความคิดเห็นที่ 112 อิอิ มาลบ 105 ด้วยอีกคน จากคุณ : oor_dt - [ 8 เม.ย. 52 20:15:49 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ตอบ คุณ (นศ.วิชาชีวิต) ค.ห.๑๐๒ แต่วงการคณะสงฆ์ไทย เป็นหมื่น เป็นแสน รูป   (รวมถึง พระภิกษุ จากนานาประเทศ เช่น ลาว พม่า เวียตนาม ธิเบต เกาหลี ไต้หวัน ออสเตรเลีย ฯลฯ) องค์กร ยุวพุทธสงฆ์โลก (WBSY) ประเทศศรีลังกา ก็มาร่วมพิธีทางพุทธศาสนา มากราบพระมหาธรรมกายเจดีย์ (ไม่เห็นมีใครว่า  เจดีย์เป็นศาสนาเชน  สักคน  มีแต่พวกคุณนั่นล่ะคับ) หรือคุณ เห็นว่า วงการศิลป์โลก  น่าเชื่อถือกว่า  วงการสงฆ์ไทย(โลก)  ละคับ ? คือพระท่านได้รับนิมนต์มาทำพิธีทางศาสนาที่จานบินลำนั้นน่ะค่ะ ท่านมิได้รับนิมนต์มาวิพากษ์วิจารณ์จานบินลำนั้นตามหลักพุทธศิลป์ค่ะ แล้วพระท่านเวลารับนิมนต์ไปทำพิธีอะไรที่ไหน ก็ไม่ใช่กิจของท่านด้วยน่ะค่ะที่จะไปแสดงความชื่นชมหรือตำหนิสิ่งใดๆ ที่ท่านพบเห็น ท่านจึงไม่พูดว่า นั่นคือเจดีย์หรือจานบิน, นั่นคือพระพุทธหรือพระเชน น่ะค่ะ ทีหลังถ้าจะนิมนต์ท่านมาอีกก็ถามท่านให้ท่านพูดออกไมค์ให้ได้ยินกันทั้งวัดสิคะ ว่าท่านเห็นว่าสิ่งก่อสร้างกับประติมากรรมนั้นควรเรียกว่าอะไร และถ้าจะให้ดี ก็กราบเรียนถามพระคุณเจ้าที่ท่านรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมในพระพุทธศาสนา และประติมานวิทยาในพระพุทธศาสนาซักหน่อยนะคะ เพราะพระภิกษุทั่วไป ท่านก็ใช่ว่าจะสนใจศึกษาในเรื่องเหล่านี้กันไปซะทั้งหมดทุกรูปค่ะ *แก้คำผิดค่ะ* แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 52 20:26:28 จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 8 เม.ย. 52 20:24:25 ]

ความคิดเห็นที่ 114 สาวๆแถวนี้เร่าร้อนจริงๆเลย จากคุณ : Dr Don Mega - [ 8 เม.ย. 52 20:30:12 ]

ความคิดเห็นที่ 115 Dr Don Mega ระวังปากค่ะ อย่าให้มันสกปรกนัก คำว่า"เร่าร้อน" สื่อความหมายไปในทางเซ็กซ์ ชาวสำนักจานบินคงชมกันอย่างนี้เป็นปกติใช่ไหมคะ จากคุณ : บุษยมาศ - [ 8 เม.ย. 52 20:43:25 ]

ความคิดเห็นที่ 116 อย่างว่า กล่าวอะไร ก็ขว้างงู ไม่พ้นคอ จากคุณ : บุษกรจันทร์ - [ 8 เม.ย. 52 20:46:02 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ^ ^ คุณ Dr Don Mega พูดภาษาอะไร กระสันอะไรนักหรือ? กระทู้ข้างล่างที่ยกมา คุณก็พูดอะไรแบบเดียวกันนี้ กับคุณบุษกรจันทร์มาครั้งหนึ่งแล้ว ท่านๆ โปรดอ่าน ครับ v v ความคิดเห็นที่ 71   คุณบุษโมโห อีกแล้วมาเต้นกันดีกว่า  ...ว่ามะ คนอย่างคุณบุษปากไวแล้วเท้าไฟด้วย  ผมรู้ จากคุณ : Dr Don Mega  - [ 8 เม.ย. 52 18:10:58 ] http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y7705357/Y7705357.html#71 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 8 เม.ย. 52 20:53:54 ]

ความคิดเห็นที่ 118 พฤติกรรมของ คุณDr Don Mega ต้องประจานไว้ที่นี่ ในกระดานสาธารณะ ห้องศาสนาว่า เป็นพฤติกรรมที่ เสื่อมสถุลย์ เหมือนหมาเดือนสิบสอง!!!! จากคุณ : JitZungkabuai - [ 8 เม.ย. 52 21:03:23 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ความคิดเห็นที่ 114   สาวๆแถวนี้เร่าร้อนจริงๆเลย จากคุณ : Dr Don Mega  - [ 8 เม.ย. 52 20:30:12 ] จากคุณ : จิตไม่อบรมเกิดดับ (JitZungkabuai) - [ 8 เม.ย. 52 21:04:50 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ความคิดเห็นที่ 39   จี๊ดจ๊าดจริงๆเลย  แม่มะดันดอง! จากคุณ : Dr Don Mega  - [ 8 เม.ย. 52 18:16:00 ] http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y7703492/Y7703492.html#39 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 8 เม.ย. 52 21:09:22 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ความคิดเห็นที่ 119   ความคิดเห็นที่ 114   สาวๆแถวนี้เร่าร้อนจริงๆเลย จากคุณ : Dr Don Mega  - [ 8 เม.ย. 52 20:30:12 ] จากคุณ : จิตไม่อบรมเกิดดับ (JitZungkabuai) ผมหมายถึง  นรก  ต่างหาก  ไม่get มุกเลย ดันไปคิดว่า ชมว่า  เซ็กซี่  ซะอีก  งงจริงๆเลย พวกเธอนี่ จากคุณ : Dr Don Mega - [ 8 เม.ย. 52 21:24:36 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ขอบคุณพี่ฮูกค่ะ จากคุณ : บุษยมาศ - [ 8 เม.ย. 52 21:25:21 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ขอบคุณ  นักธรรมะ  ชื่อก้องโลก JitZungkabuai จากคุณ : Dr Don Mega - [ 8 เม.ย. 52 21:34:34 ]

ความคิดเห็นที่ 125 คห. 110 ผมเขียนว่า   จะมา   คับ จะ  เป็นสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น  เรียกว่า ไม่จริง ได้ด้วยหรือครับ คห.113 ก็จริงนะคับ  ผมไม่เคยได้ยิน พระภิกษุ รูปใด  เรียกว่า  จานบิน  สักครั้ง  (มีแต่พวกคุณ นั่นล่ะคับ) แล้วในความเป็นจริง เมื่อพระท่านมาแล้ว  เห็นว่า ไม่ใช่พุทธสถาน  ท่านมีสิทธิ์ที่จะไม่ ร่วมพิธีกรรมใดๆ  ก็ได้  มีสิทธิ์ที่จะไม่ให้ความร่วมมือใดๆ ก็ได้นี่คับ   และที่สำคัญ พระท่าน ศีล 227 ข้อ  ท่านก็กราบไหว้ มหาธรรมกายเจดีย์ กันทุกรูปครับ  (ดูรูปไหมคับ) แต่ผมเห็นพระท่านก็มา ร่วมพิธีที่ มหาธรรมกายเจดีย์ทุกปี ครั้งๆละ เป็นหมื่น เป็นแสน รูป  เป็นประจำคับ อีกทั้ง พระภิกษุ นานาชาติ   องค์กรชาวพุทธระดับโลก  องค์กรย่อยเป็นสิบๆ ขององค์การสหประชาชาติ  ก็มาร่วมงานที่ มหาธรรมกายเจดีย์ เป็นประจำทุกปี  คับ     (ไม่เห็นเคยมีใครว่า  เป็น ศาสนาเชน สักทีคับ) ไม่งั้น พระราชภาวนาวิสุทธิ์  จะได้รับรางวัล ผู้นำสันติภาพระดับโลก หรือครับ จากคุณ : : (นศ.วิชาชีวิต) - [ 8 เม.ย. 52 21:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 126 124 ^ ^ นรก ถามหาก่อนเลย พวกจิตเสื่อม แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 52 21:41:07 จากคุณ : บุษกรจันทร์ - [ 8 เม.ย. 52 21:38:44 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ยินดีอิ๊บอ๋าย ที่ได้ด่า Dr Don Mega อย่าเซี่ยน  =    ซี้+งี+เอี้ยน ก็จบ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 8 เม.ย. 52 21:42:35 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ผมพวกจิตซังไม่ใช่จิตเสื่อม จากคุณ : Dr Don Mega - [ 8 เม.ย. 52 21:49:41 ]

ความคิดเห็นที่ 130 ^ ^ ไม่ต้อนรับ ไปไกลๆ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 8 เม.ย. 52 21:53:44 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ด่าเก่งกันจริงๆเลยพวกท่านนี่ จากคุณ : Dr Don Mega - [ 8 เม.ย. 52 21:54:35 ]

ความคิดเห็นที่ 132 จริงแล้วไม่ได้อยากคุยกะจิตซังเลยอยากคุยกับคุณบุษจันสนุกกว่าเยอะสมองไวกว่าคุณเยอะ จากคุณ : Dr Don Mega - [ 8 เม.ย. 52 21:58:35 ]

ความคิดเห็นที่ 133 Dr Don Mega ดูรูปนี้แล้ว น่าจะหายจากอาการหื่นน่าบัดสีที่เป็นอยู่ได้นะคะ นี่จัดเป็นภาพบำบัดอย่างหนึ่งค่ะ เมื่อคืนเพิ่งใช้รักษาชาวสำนักไปหยกๆ เลย ดูแล้วเกิดความปิติ หายเพ้อเจ้อเป็นปลิดทิ้ง จากคุณ : บุษยมาศ - [ 8 เม.ย. 52 22:01:48 ]

ความคิดเห็นที่ 134 เกมระดับสมอง   นักธรรมระดับโลก  ปัญญาระดับโลก   สติอยู่ไหน ไม่ได้เรื่องเลยต้องบุษจันเท่านั้นระดับสมอง   คนอื่นๆไม่ไหวไม่ไหว จากคุณ : Dr Don Mega - [ 8 เม.ย. 52 22:07:00 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ผมไม่ได้เข้ามบ่อยนะนานๆจะเจอกันที คิดถึงเสมอ จากคุณ : Dr Don Mega - [ 8 เม.ย. 52 22:08:53 ]

ความคิดเห็นที่ 136 สีกาอี๊ด อิอิอิ http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2008/02/Y6336930/Y6336930.html จากคุณ : บุษกรจันทร์ - [ 8 เม.ย. 52 22:10:14 ]

ความคิดเห็นที่ 137 นี่เร่าร้อนของจริง จากคุณ : Dr Don Mega - [ 8 เม.ย. 52 22:13:28 ]

ความคิดเห็นที่ 138 http://oldforum.serithai.net/index.php?topic=31147.0 บำบัดด้วย เรื่องเจ้าสำนัก จากคุณ : บุษกรจันทร์ - [ 8 เม.ย. 52 22:13:42 ]

ความคิดเห็นที่ 139 เห็นไหมสมชื่อ แม่มะดันดอง ปากจัดเท้าไฟ เร่าร้อน สุดยอดเลย จากคุณ : Dr Don Mega - [ 8 เม.ย. 52 22:15:25 ]

ความคิดเห็นที่ 140 จะรอดู เฮอะๆๆๆ จากคุณ : จิตเซน หรือมหายาน (JitZungkabuai) - [ 8 เม.ย. 52 22:17:35 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ทีหลังคนอื่นอย่ามายุ่งนะ จากคุณ : Dr Don Mega - [ 8 เม.ย. 52 22:18:07 ]

ความคิดเห็นที่ 142 ดีจัง ชาตินี้ได้เป็นผู้นำสันติภาพ แต่อันนี้เด็กๆนะ ชาติหน้าได้เป็นผู้นำมาร บริวารเพียบ อันนี้เจ๊งกว่าเยอะ ใหญ่ไปได้สองโลก (สวรรค์คงใหญ่ไม่ได้) จากคุณ : NakinSoCute - [ 8 เม.ย. 52 22:18:28 ]

ความคิดเห็นที่ 143 อ้าวจบแล้วไว้คุยกับคุณบุษหลังไมคแล้วกัน แล้วเจอกันครับ จากคุณ : Dr Don Mega - [ 8 เม.ย. 52 22:31:51 ]

ความคิดเห็นที่ 144 อืมๆ ดูรูปเจ้าสำนักแล้วยังไม่หาย แสดงว่าอาการรุนแรงมาก ขอเดาว่าคุณมีปมเรื่องเพศอย่างรุนแรง เพราะคุณพูดเรื่องนี้ไม่หยุดเลย มาคุยกันตรงๆ เถอะค่ะ เผื่อจะช่วยให้ความรู้สึกของคุณดีขึ้น บี ๒ เดาว่าสาเหตุคงมาจาก - จุ๊มุมีขนาดเล็ก ถูกคู่ขาหัวเราะเยาะครั้งแล้วครั้งเล่า - อ้วนเกินไป จุ๊มุหดสั้น - ทำไม่เป็น เนื่องจากหาคู่ซ้อมไม่ได้เพราะหน้าตาไม่ดีเอามากๆ เอางี้ค่ะ คุณไปตั้งกระทู้ที่ห้องสวนลุมก่อน คนที่นั่นใจดีค่ะ แถมใช้บัตรผ่านได้ ไม่ต้องอายด้วยค่ะ มาตอบกระทู้ห้องศาสนาแบบนี้ มันไม่ดีกับตัวคุณเองและสำนักของคุณนะคะ จากคุณ : บุษยมาศ - [ 8 เม.ย. 52 22:32:49 ]

ความคิดเห็นที่ 145 ความคิดเห็นที่ 121   ความคิดเห็นที่ 119   ความคิดเห็นที่ 114   สาวๆแถวนี้เร่าร้อนจริงๆเลย จากคุณ : Dr Don Mega  - [ 8 เม.ย. 52 20:30:12 ] จากคุณ : จิตไม่อบรมเกิดดับ (JitZungkabuai) ผมหมายถึง  นรก  ต่างหาก  ไม่get มุกเลย ดันไปคิดว่า ชมว่า  เซ็กซี่  ซะอีก  งงจริงๆเลย พวกเธอนี่ จากคุณ : Dr Don Mega  - [ 8 เม.ย. 52 21:24:36 ] ........................ มีตลกออกมาสลับฉากก็ดีค่ะ แต่เรื่องมหาธรรมกายจานบิน กับพระธรรมกายที่นึกว่าดีไซน์ได้ล้ำยุคสุดๆ แล้วดันไปเหมือนนิครนถ์นาฏบุตรเนี่ย ฮากว่าเยอะ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 8 เม.ย. 52 22:40:06 ]