ความคิดเห็นที่ 1 ความรู้เรายังน้อย ไม่ยุ่งดีกว่า และไม่อยากทราบแล้ว... แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 00:15:50 จากคุณ : โคนันน้อย - [ 9 พ.ค. 52 21:36:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คุณ ย.ยิ้มแย้ม ลองตอบกระทู้คุณจักรแก้วดูซิครับ จากคุณ : อิทธิบาทสี่ - [ 9 พ.ค. 52 21:50:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก็เข้าไปตอบคำถาม ในกระทู้นั้นๆ สิครับ จริงๆคำถามมันก็เดิมๆ จากคุณ : Panda-baker - [ 9 พ.ค. 52 22:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สุดยอด จากคุณ : Dr Don Mega - [ 10 พ.ค. 52 01:39:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คดีโลก ..แย่งชิงเนื้อที่ข่าว ทางสื่อ คดีธรรม ..ก็ย่อมต้องมี การแย่งชิงเนื้อที่ข่าวทางสือ (ดอม คอมนี้) เช่นกัน ดอม คอมนี้ ....ไม่ใช่ สนามของ "ธรรมกาย" อีกต่อไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้อง "เอาหางแห่ยน้ำ" เพื่อ หวังตกเหยื่อ รุ่นใหม่ๆ หรือไม่ก็ เพื่ออยากดัง หรือ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่า ท่าน จขกท กระทู้นี้ ตั้งกระทู้ ด้วย ภูมิปัญญาอันยิ่งของท่านเอง เพราะ ท่านเป็นทั้งนักปริยัติธรรม แบบธรรมกาย และหรือ นักปฏิบัติธรรม สมาธิแบบเพ่งลูกแก้ว หรือ สมาธิแบบธัมมกาย ก่อนอื่น ขอเรียนถามว่า คำว่า หลวงพ่อ  นั้น ท่าน จขกท หมายถึง รูปใดครับ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) - [ 10 พ.ค. 52 09:57:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 พอดีความรู้ไม่แก่กล้า เลยไม่กล้าแสดความคิดเห็น แต่แวะมาทักทาย มิตรสหายเก่า น้อง ยิ้มแย้ม ณ ดอยนรก ทำหนังสือไปถึงไหนแล้วครับ อยากอ่านจริงๆ ตอนนี้กลับมาอยู่เมืองไทยแล้วใช่ไหมครับ เรียนจบหรือยัง จากคุณ : นายวุ้นกะทิ - [ 10 พ.ค. 52 11:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมยังเป็นผู้มาใหม่ ครับ  ต้องปรับปรุงตัวอีกเยอะครับ บางอย่างก็ กำลัง สำนึกผิดอยู่ครับ มาช่วยกัน ก็ดีครับ  แต่ควรระวัง อย่าขาดสติ แบบผมก็ล่ะกันนะครับ จากคุณ : นศ.วิชาชีวิต - [ 10 พ.ค. 52 12:27:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y7834561/Y7834561.html#21 เอาอันนี้ไหมครับ ... จากคุณ : นศ.วิชาชีวิต - [ 10 พ.ค. 52 12:33:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเห็นคำว่า ธรรมกาย เยอะจังและมีหลายคนที่เข้าใจผิด ธรรมกายแปลว่า ผู้ทรงธรรมทรงวินัย ไม่ใช่พลังอะไรใดๆทั้งสิ้น ท่านพุทธทาสบอกว่า ธรรมะคือธรรมชาติ นะครับ คิดให้อยู่ในกรอบของความถูกต้องกันหน่อย... จากคุณ : Mr.Maximum - [ 10 พ.ค. 52 15:42:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เราเคารพวัดที่คำสอนค่ะ ทุกที่ที่ดีเราเคารพหมด รวมถึงวัดธรรมกายด้วยค่ะ^^ จากคุณ : หนูแป้ง (มารร้ายลูกกวาด) - [ 10 พ.ค. 52 16:47:04 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีครับ พี่วุ้นกะทิ ตอนนี้ผมกำลังทำทีสิสอยู่นะครับ จบเทอมนี้แหละครับ ส่วนดอยนรกก็แต่งเรื่อย ๆ ตามที่เวลาและอารมณ์จะอำนวยนะ ตอนนี้เขียนบท 10 อยู่ครับพี่ มี 14 บท เทอมที่แล้วผมกลับไทยไป ได้ศึกษาธรรมะบ้างนิดหน่อยน่ะครับ แต่ไม่เกี่ยวอะไรกับบอร์ดนี้นะ ผมเพิ่งเข้ามา ให้กีฟชาวบ้านไปเรื่อย ผมก็ยังคิดกาพย์คิดกลอนอะไรของผมไปเรื่อยน่ะครับ ที่มาอยู่ในห้องศาสนา เพราะตอนนี้ประเด็นธรรมกายกำลังร้อนและสนุกมากเลยนะ ทำให้ผมได้รับความรู้เยอะด้วย ตอบท่าน เซนเถรวาทนะครับ หลวงพ่อของผมที่จะแก้ต่างให้หมายถึง หลวงพ่อธัมมชโยนะครับ ขอโทษท่าน นศ.วิชาชีวิต ด้วยที่ผมไม่สามารถไปตอบอะไรในกระทู้นั้นได้ เพราะท่านพลาดไปแล้ว หลวงพ่อไม่ปลื้มนะครับ ไปเพ่งลูกแก้วใหม่นะครับ ลูกหลวงพ่อจะต้องสงบเย็น ตอบคำถามก็ให้ตรงประเด็น ไปค้นหากระทู้เก่า ๆ คุณ foox นี่หลวงพ่อค่อนข้างปลื้ม ตอนนี้มีภาระกิจใหญ่กว่านี้นะ ยอมรับครับว่าศิษย์ธรรมกายรุ่นนี้หลวงพ่อไม่ค่อยปลื้มเท่าไร ยังไงญาติธรรมก็ช่วยกันหน่อยละกัน ผมไม่ใช่ศิษย์ธรรมกาย แต่อยู่ใกล้ชิดกับคนที่หลวงพ่อปลื้ม และหลวงพ่อก็ปลื้มข้าพเจ้าด้วย (คิดว่านะ) ก็โอเคน่ะ กะจะมาช่วยศิษย์รุ่นนี้ แต่จะให้ผมไปเล่นกับพวกท่านในกระทู้ที่เดือดไปแล้ว ก็คงไม่ เพราะศิษย์หลวงพ่อก็ทำพลาดเองไปเยอะ จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 10 พ.ค. 52 17:02:11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ' จากคุณ : อิทธิบาทสี่ - [ 10 พ.ค. 52 17:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตอบท่าน เซนเถรวาทนะครับ หลวงพ่อของผมที่จะแก้ต่างให้หมายถึง หลวงพ่อธัมมชโยนะครับ หลวงพ่อที่คุณย.ยิ้มแย้ม  ตอบคำถามผมนั้น ผมเรียนถามต่อว่า (๑) หลวงพ่อ ของคุณย.ยิ้มแย้ม ได้ เคยกล่าวไว้ว่า ..นิพพาน คือ แหล่ง แห่งที่  ที่ พระอรหันต์ (ที่มี ท่านใดเป็นจอมศาสดา?) จะไปสถิตย์อยู่ที่ แหล่งแห่งที่นั้น หลังจากตายแล้ว ......ใช่ไหมครับ ข้อนี้ คุณย.ยิ้มแย้ม  ตอบได้ไหมครับ (๒) นิพพาน ตามข้อความข้างบน (๑) นั้น คือ นิพพานตามพุทธวจนะ หรือ นิพพานตาม ปัญญาของหลวงพ่อครับ ข้อนี้ คุณย.ยิ้มแย้ม  ตอบได้ไหมครับ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) - [ 10 พ.ค. 52 20:10:04 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตอบ คุณเซนเถรวาทนะครับ 1. หลวงพ่อได้กล่าวเช่นนั้นครับ 2. เป็นนิพพานตามปัญญาของหลวงพ่อครับ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 20:43:28 จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 10 พ.ค. 52 20:43:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เอ่อ แวะมาอ่านแล้วกลั้นหัวเราะไม่ไหว คุณเจ้าของกระทู้คงมีอารมณ์ขันมากเลยนะคะ จากคุณ : oor_dt - [ 10 พ.ค. 52 21:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เพิ่งได้รู้ว่า มี ศิษย์รุ่นหลวงพ่อไม่ค่อยปลื้มด้วย ฮามั่กๆ จากคุณ : oor_dt - [ 10 พ.ค. 52 21:20:14 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มารับคำทักทายกลับครับ คุณน้องยิ้มแย้ม ขอให้ทำวิทยานิพนธ์เสร็จ เรียนจบแล้วกลับมาบ้านไวๆ นะครับ แต่พอพี่นึกถึงชื่อหนังสือของน้อง แล้ว อืม อ่านแล้วมันจะลงนรกไหมเนี้ย พี่ว่าเปลี่ยนเป็นนิทานดอยอื่นดีกว่าครับ :) ดูมันไม่ค่อยเหมาะกับการเข้าถึงธรรมะของน้องด้วย นอกเรื่องต่ออีกนิด มาอ่านพันทิป และโพสหลายห้อง พอสรุปได้ว่า แต่ละห้องจะมีกระทู้ที่ลุกเป็นไฟได้แตกต่างกัน เช่น ห้องศาสนา จะมีกระทู้ธรรมกายเป็น อาทิ ห้องสวนลุม จะมีกระทู้ คนไข้ฟ้องหมอเป็น อาทิ ห้องเฉลิมไทย จะมีกระทู้ รายการทีวีเอ๋อๆ หรือไม่ก็เรื่องดาราทำตัวไม่เหมาะสมเป็นอาทิ ห้องไกลบ้าน จะมีกระทู้ หญิงไทยโดนทำร้าย เป็นอาทิ พันทิปเหมือนต้มยำ ส้มตำ ผัดเผ็ด ที่ครบรสเสียจริง จากคุณ : นายวุ้นกะทิ - [ 10 พ.ค. 52 21:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คคห 14 .. 1. หลวงพ่อได้กล่าวเช่นนั้นครับ 2. เป็นนิพพานตามปัญญาของหลวงพ่อครับ เรียนถามต่อ (๑) ตอนหลวงพ่อคุณย.ยิ้มแย้ม .....ขานนาค ขอ บรรพชา นั้น หลวงพ่อคุณย.ยิ้มแย้ม ได้อาศัย "ธรรม วินัย แห่งศาสดาพระองค์ใด ขานนาคครับ (๒) ขานนาค ด้วยคำขึ้นต้นว่า อุกาสะ หรือ เอสาหัง ครับ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) - [ 10 พ.ค. 52 21:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ^^ จากคุณ : Yogi Playgirl - [ 10 พ.ค. 52 22:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตอบคุณเซนเถรวาทครับ หลวงพ่อ ก็คง จะบวชเหมือนกับภิกษุรูปอื่น ๆ นั่นล่ะครับ อาศัย ธรรมของพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ส่วนคำขานนาค ผมก็ไม่ทราบว่าท่านขึ้นต้นว่าอะไร คิดว่าท่านบวชแบบฝ่ายมหานิกายนะ ก็ต้องขึ้นต้นด้วย อุกาสะสิ ตามนั้น ปล. หลวงพ่อปลื้มข้าพเจ้าอย่างแรง ณ ตอนนี้ ^^ จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 00:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ค.ห.๑๑ ขอโทษท่าน นศ.วิชาชีวิต ด้วยที่ผมไม่สามารถไปตอบอะไรในกระทู้นั้นได้ เพราะท่านพลาดไปแล้ว หลวงพ่อไม่ปลื้มนะครับ ไปเพ่งลูกแก้วใหม่นะครับ ลูกหลวงพ่อจะต้องสงบเย็น ตอบคำถามก็ให้ตรงประเด็น ไปค้นหากระทู้เก่า ๆ คุณ foox นี่หลวงพ่อค่อนข้างปลื้ม ตอนนี้มีภาระกิจใหญ่กว่านี้นะ ยอมรับครับว่าศิษย์ธรรมกายรุ่นนี้หลวงพ่อไม่ค่อยปลื้มเท่าไร ยังไงญาติธรรมก็ช่วยกันหน่อยละกัน ผมไม่ใช่ศิษย์ธรรมกาย แต่อยู่ใกล้ชิดกับคนที่หลวงพ่อปลื้ม และหลวงพ่อก็ปลื้มข้าพเจ้าด้วย (คิดว่านะ) ก็โอเคน่ะ กะจะมาช่วยศิษย์รุ่นนี้ แต่จะให้ผมไปเล่นกับพวกท่านในกระทู้ที่เดือดไปแล้ว ก็คงไม่ เพราะศิษย์หลวงพ่อก็ทำพลาดเองไปเยอะ จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม    - [ 10 พ.ค. 52 17:02:11 ] ถ้า จขกท. ใกล้ชิดหลวงพ่อ ก็ฝากหลวงพ่อช่วยลากศิษย์ที่หน้าด้าน-แกล้งโง่-ตะแบง-หยาบคาย จนสร้างความเสื่อมเสียแก่วัดเหล่านี้ กลับไปอบรมในวัดให้หมด ได้มั้ยคะ แล้วส่งคนที่สงบเย็น ตอบคำถามตรงประเด็นมาแทน ก็จะเป็นประโยชน์แก่ทุกๆ ฝ่ายอย่างยิ่งค่ะ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 11 พ.ค. 52 00:45:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เรียนคุณหนอนดาวเรือง ทำไม่ได้หรอกครับ ศิษย์รุ่นก่อน ๆ จะได้รับภาระหน้าที่ที่ใหญ่กว่านี้ ลูกศิษย์รุนนี้เหล่านี้หากได้รับการอบรมต่อไปก็จะเก่งและดีขึ้นเองครับ ต้องใช้เวลานะ สนทนาธรรมหรือถามกับผมก็ได้นะ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 03:38:30 จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 03:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ความคิดเห็นที่ 20   ตอบคุณเซนเถรวาทครับ หลวงพ่อ ก็คง จะบวชเหมือนกับภิกษุรูปอื่น ๆ นั่นล่ะครับ ทำไมใช้คำว่า คงจะ ละครับคุณย.ยิ้มแย้ม ไหนเสนอว่า ...ผมว่าผมแก้ต่างให้ธรรมกายได้ทุกข้อนะ คำว่า คงจะ  แปลว่า ไม่แน่ใจ มิใช่หรือ ถ้าไม่แน่ใจ ก้ยังไม่สมควร ตอบ ซิครับ เพราะ ขัดกับ ข้อความที่เสนอแล้ว มาถึง คำว่า อาศัย ธรรมของพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ถามคุณย.ยิ้มแย้ม  ต่อนะครัยว่า คำว่า พระพุทธ ของหลวงพ่อคุณ   หลวงพ่อคุณ ท่านหมายถึง พระพุทธไหนครับ? ใช่ พระมหาสมณโคตม พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมศาสดาของ พระปัญจวัคคีย พระสารีบุตร ฯลฯ  พระเถาะครั้งปบมสังคายนา ฯลฯ ตลอดจน พระบรมศาสดาของ หลวงปู่มั่น ฯลฯ ท่านพุทธทาส ฯลฯ ตอบไหมครับ คำว่า พระธรรม ของหลวงพ่อคุณ หลวงพ่อคุณ หมายถึง  ธรรม "จากพระโอษฐ์" คือ พระพุทธวจนะในพระไตรปิฎก เถรวาท และ มหาปิฎกฝ่ายมหายาน ที่ตรงกับ พระพุทธวจนะฝ่ายเถรวาท ...ใช่ไหมครับ เช่น พระธรรม ตามที่ตรัสไว้ว่า ...ความสิ้นไปแห่งราคะ ความสิ้นไปแห่งโทสะ  ความสิ้นไปแห่งโมหะ อันใด อันนั้นคือ นิพพาน พระธรรม ที่หลวงพ่อคุณ กล่าวนั้น ..ใช่ พระรรมนี้ ไหมครับ คำว่า พระสงฆ์ ของหลวงพ่อคุณ หลวงพ่อคุณ หมายถึง  พระสงฆ์ "จากพระโอษฐ์" คือ (๑) โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล / สกิทาคามิมรรค  สกิทาคามิผล  /  อนาคามิมรรค  อนาคามิผล  / อรหัตตมรรค  อรหัตตผล ...ใช่ไหมครับ (๒) และ สงฆ์ตามข้อที่ ๑ คือ พระสงฆ์ที่ แสดงธรรม ตรงกับ พระพุทธเจ้า โดยเฉพาะ ธรรม ที่ชื่อ ปฏิจจสมุปบาท  ตามที่ตรัสไว้ว่า "ศาสดาและสาวกย่อมกล่าวตรงกันในเรื่องปฏิจจสมุปบาท" ถาม ๓ ข้อ นะครับ คุณย.ยิ้มแย้ม จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) - [ 11 พ.ค. 52 09:24:47 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณย.ยิ้มแย้ม รู้ได้ยังงัยเหรอครับว่าหลวงพ่อปลื้มหรือไม่ปลื้มใคร แล้วตัวหลวงพ่อท่านสนใจกับการตอบกระทู้ในห้องนี้ด้วยเหรอครับ สงสัยจริงหน่ะครับ... จากคุณ : mammord072 - [ 11 พ.ค. 52 09:33:50 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ต้นธาตุต้นธรรม แปลว่าอะไร หลวงพ่อของท่านเคยพูดหรือไม่ว่าเป็นต้นธาตุต้นธรรม? ที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ พูดเรื่องวัดวรณีฯ เป็นเรื่องจริง หรือเป็นเรื่องโกหกใส่ความ? เรื่องการอัดธรรมกายบนดอย เป็นเรื่องจริงหรือไม่? หลวงพ่อของท่าน ใส่เสื้อยืดจริงหรือไม่ ซื้อเองหรือใครจัดหาให้? จีวรเป็นผ้าอะไร เมตรละเท่าใด เคยใส่กางเกงบ้างหรือไม่? หลวงพ่อของท่าน เคยแต่งหน้าทาปากหรือไม่? อาบน้ำใช้อะไรประกอบบ้าง ยี่ห้ออะไร? วันหนึ่งๆ หลวงพ่อคิดกี่เรื่อง เรื่องอะไรบ้าง? เมื่อตอนถ่ายปัสสาวะอุจจาระเมื่อวานนี้ 10/05/2009 ปัสสาวะกี่หน ครั้งละกี่ซีซี.? อุจจาระหรือเปล่า กี่ครั้ง ปริมาณอุจจาระมีน้ำหนักเท่าใด? นานเท่าใดในแต่ละเรื่อง โปรดระบุเวลาเริ่มต้น และสิ้นสุด เป็นวินาทีพร้อมจุดทศนิยมสองตัว!!! จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 11:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมโหวตกระทู้นี้ให้นะครับ อยากฟังคุณ ย ยิ้มแย้มตอบมาก จากคุณ : จักรแก้ว - [ 11 พ.ค. 52 11:49:36 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมสงสัยเรื่องธรรมกาย รวมถึงหลวงพ่อของคุณด้วย อ่านจับใจความได้ว่า คุณ ย ยิ้มแย้ม แก้ต่างได้ทุกข้อ ผมสงสัยว่าหลวงพ่อของคุณไม่ได้ปัสสาวะอุจจาระเลยเมื่อวานนี้ครับ คุณข่วยแก้ต่างให้ด้วยว่า หลวงพ่อถ่ายปัสสาวะอุจจาระเมื่อวานนี้ 10/05/2009 จริงๆ   คุณต้องแก้ต่างได้แน่นอน เพราะเรื่องราวของวัดธรรมกายนั้น คุณรู้หมด แม้แต่หลวงพ่อของคุณคิดอย่างไรคุณก็รู้ ใช่ไหมจ๊ะ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 12:03:02 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตอบให้ดีๆล่ะครับ  ท่าน จขกท. เดี๋ยวจะกลายเป็น รุ่นหลวงพ่อไม่ปลื้มอีกรุ่นหนึ่ง หลวงพ่อก็ไม่ปลื้มคุณจักรแก้วเท่าไหร่หรอก ผมเดาเอานะ ผมไม่รู้จริงหรอกครับ เคล็ดวิชาเข้ากางในกางนั่น พาเอานักเข่าลอยเด้อ อ้วกแตกไปหลายคนแล้ว จากคุณ : บันนาทิกาน สำนักเข่าลอยเด้อ (JitZungkabuai) - [ 11 พ.ค. 52 12:22:16 ]

ความคิดเห็นที่ 34 หลวงพ่อก็ไม่ปลื้มคุณจักรแก้วเท่าไหร่หรอก ผมเดาเอานะ ผมไม่รู้จริงหรอกครับ ผมขำคุณจิตจริงๆ นานๆ จะได้ขำจากคุณจิตสักที จะมาปลื้มผมได้ยังไง แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 13:26:34 จากคุณ : จักรแก้ว - [ 11 พ.ค. 52 13:24:52 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตอบคุณเซนเถรวาท ที่ใช้คำว่า คงจะ ก็ผมไม่ได้ทราบเรื่องของท่านทุกเรื่องไงครับ งั้นก็หมายความว่า ถ้าผมไม่แน่ใจ ผมก็ต้องไม่ตอบ และก็แสดงว่า ข้อความที่เสนอมานั้นผิด ผมไม่สามารถแก้ต่างอะไรได้ รึเปล่า คือผมต้องไปถามท่านเลยหรือ ว่า เอ๊ะ หลวงพ่อขึ้นต้นขานนาคว่าอย่างไรเนี่ย เศร้า T_T มาแก้ต่างกันต่อ จากคำทรงจำในหนังสือกัลยาณมิตรเล่มที่เท่าไรไม่รู้จำไม่ได้ อ่านที่บ้านศิษย์เอก คำว่าพระพุทธ ท่านหมายถึง พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันครับ พระสมณโคดม ชัดเจน ตอนท่านถวายข้าวพระพุทธ ท่านก็ถวายข้าวให้พระสมณโคดม ชัดเจน คำว่าพระธรรม ท่านก็หมายถึง ธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน แต่จากที่ผมเช็คข้อธรรมจากหนังสือแล้ว ถ้าตีความตามอักขระนั้น ก็ผิดแผกไปจากทั้งเถรวาทและมหายาน แต่ถ้าตามภาษาธรรมแล้ว ก็เป็นธรรมอันเดียวกัน คือ นิพพาน และชาวธรรมกายก็เชื่อว่าธรรมนั้นจะพาเราไปนิพพานเหมือนกันครับ เพราะดูเหมือนจะใช้ภาษาให้เหมาะกับศิษย์ในโรงเรียนอนุบาลในฝันของท่านเองครับ คำว่าพระสงฆ์ นั้น ก็ตรงกับที่ท่านเซนถามนั่นเลยครับ ว่าแต่หลวงพ่อท่านกล่าวถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อะไรเพี้ยน ๆ เหรอครับ ....................................................................................................... ตอบท่าน mammord072 เรื่องกระทู้ในห้องพันทิป เอิ่ม ท่านอย่ากล่าวให้ข้าพเจ้าโดนรุมสิ ผมกล้าการันตีว่าหลวงพ่อปลื้ม กล้าลงมาตั้งกระทู้ให้ชาวบ้านเขาด่า กล้าตอบคำถามเพื่อวัด เพราะอะไรอย่าให้กล่าว เอาเป็นว่าครอบครัวผมเคยบำรุงวัด จนชาวธรรมกาย ตะลึงอึ้งค้าง ถึงขนาดกับอุทานว่า "พี่...ได้บุญมากจริง ๆ พี่...ได้บุญมากจริง ๆ" มาแล้ว ผมนั่งดู DMC กับเพื่อน มันก็ชอบนั่งหัวเราะหลวงพ่อเวลาเครียด ๆ ผมยังต้องเตือนมันว่า ไม่ดี ๆ เพราะผมรู้สึกว่ามันไม่ดี เลยมาทำหน้าที่ให้ ในขณะที่ห้องศาสนากำลังร้อน ก็แค่นั้น ความสงสัยเป็นนิวรณ์อย่างหนึ่ง จะทำให้ไม่เห็นดวงแก้วใสนะครับ ลูกหลวงพ่อ หลานคุณยาย ....................................................................................................... ตอบท่านจิต นะครับ ต้นธาตุต้นธรรม แปลว่าอะไร หลวงพ่อของท่านเคยพูดหรือไม่ว่าเป็นต้นธาตุต้นธรรม? ต้นธาตุต้นธรรม ก็แปลว่า ธาตุและธรรมที่มีอยู่มาแต่เดิม ก็มี นามรูป ธาตุ 4 ขันธ์ 5 อายาตนะ 6 อาการ 32 ส่วนธรรมนั้นก็เป็น ธรรมที่เป็นกุศล เป็นอกุศล และทั้งที่เป็นและไม่เป็นกุศลทั้งหลาย โดยส่วนตัวแล้ว ไม่เคยได้ยินหลวงพ่อและลูกศิษย์พูดว่าท่านเป็นต้นธาตุต้นธรรม แต่เห็นชาวธรรมกายได้กล่าวถึงในเวบบอร์ดน่ะครับ แต่ถ้าจะถามว่าท่านเป็นต้นธาตุต้นธรรมรึเปล่า ผมก็คงต้องตอบอิงคำตอบของผมว่าเป็น อุปมาดั่ง ต้นไม้หากท่านถามว่า ต้นคะน้าเป็นต้นไม่หรือ ก็ต้องตอบว่าใช่ เพราะมีลักษณะแห่งต้นไม้อยู่ และถ้าถามว่าหลวงพ่อเป็นต้นธาตุหรือ เราก็คงต้องตอบว่า ก็เช่นนั้น เพราะมีลักษณะแห่งธาตุและธรรมอยู่ ฉะนั้น ที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ พูดเรื่องวัดวรณีฯ เป็นเรื่องจริง หรือเป็นเรื่องโกหกใส่ความ? ผมคงต้องขอย้อนถามก่อนว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านพูดจริงหรือ เพราะท่านเป็นพระอริยบุคคล ไม่มีใส่ความเด็ดขาด เรื่องการอัดธรรมกายบนดอย เป็นเรื่องจริงหรือไม่? อันนี้ไม่ทราบ ไม่เคยได้ยินคนธรรมกายพูดถึง ใครพูดถึง งงเหมือนกันว่าอัดอะไร อัดไปทำไม ไม่ใช่เพ่งจนได้หรอกเหรอ ท่านจิตเคยไปถามคนดอยมาหรือ เคยไปอัดกะเขามาด้วยหรือ ครอบครัวผมคนธรรมกายยังต้องสาธุ ๆๆๆ ไม่เห็นต้องไปอัดอะไร อัดยังไง ไปอัดด้วยท่าจะดี แต่จะอัดไปเพื่อ.. อัดแล้วได้อะไร หลวงพ่อของท่าน ใส่เสื้อยืดจริงหรือไม่ ซื้อเองหรือใครจัดหาให้? ท่านสวมใส่ผ้าชิ้นหนึ่ง มีลักษณะคล้ายเสื้อยืดภายใต้จีวรจริง เพื่อกันหนาว ศิษย์ผู้ใกล้ชิดจะเป็นคนถวายสิ่งเหล่านี้ให้ อยากให้ท่านลองพิจารณาอังสะหรือเสื้อไม่ยืดของพระเป็นปริศนาธรรม จีวรเป็นผ้าอะไร เมตรละเท่าใด เคยใส่กางเกงบ้างหรือไม่? หลวงพ่อของท่าน เคยแต่งหน้าทาปากหรือไม่? อาบน้ำใช้อะไรประกอบบ้าง ยี่ห้ออะไร? วันหนึ่งๆ หลวงพ่อคิดกี่เรื่อง เรื่องอะไรบ้าง? เมื่อตอนถ่ายปัสสาวะอุจจาระเมื่อวานนี้ 10/05/2009 ปัสสาวะกี่หน ครั้งละกี่ซีซี.? อุจจาระหรือเปล่า กี่ครั้ง ปริมาณอุจจาระมีน้ำหนักเท่าใด? คำตอบนี้ผมไม่ทราบ เพราะว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวเกินไป ผมไม่ใช่คนรับใช้ท่านนะ และถึงใกล้ชิดยังไงก็ไม่สามารถตอบคำถามได้หรอก และถ้าผมตอบไม่ได้ หมายถึงผมแก้ต่างให้ธรรมกายไม่ได้หรือเปล่าครับ คำถามพวกนี้หากผมย้อนถามคุณจิตเองว่า ท่านจิต...ท่านจิตเองก็คงตอบไม่ได้หรอก ทำไปได้ และถ้าผมธาตุอ่อนแบบศิษย์ที่ไม่น่าปลื้ม ต้องมาทุ่มเถียงกับท่านจิตว่า หลวงพ่อขรี้นะเฟร้ย คนอื่นมาอ่าน เราสองคนจะไม่เป็นตลกคาเฟ่ไปเหรอครับ และผมก็ไม่บ้าบอพอที่จะเอานรกมาขู่คุณ ใจท่านจิตโน้มไปทางไหน ท่านจิตย่อมรู้นะครับ ....................................................................................................... ถามมาต่อละกัน จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 15:55:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ... ที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ พูดเรื่องวัดวรณีฯ เป็นเรื่องจริง หรือเป็นเรื่องโกหกใส่ความ? ผมคงต้องขอย้อนถามก่อนว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านพูดจริงหรือ เพราะท่านเป็นพระอริยบุคคล ไม่มีใส่ความเด็ดขาด ... ถามมาต่อละกัน จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม    - [ 11 พ.ค. 52 15:55:31 ] _________________________________________________ ^ ^ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านพูดจริง ครับ เพราะท่านเป็นพระอริยบุคคล ไม่มีใส่ความเด็ดขาด จำไว้นะครับ ถ้าคุณไม่ทราบ ก็อย่า สู่รู้ !!! แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 16:09:59 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 16:03:17 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อย่าไปไหนนาน ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ จะมาแน่นอน อย่าหนีไปไหน และที่คุณตอบมา แสดงว่า คุณไม่รู้เรื่องอะไรที่ควรทราบ หลวงพ่อของคุณจึงปลื้มคุณ ว่าคุณใช้ได้ เหอะๆๆๆ จากคุณ : จิตโคดๆ (JitZungkabuai) - [ 11 พ.ค. 52 16:07:21 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คุณถอยกลับไป แล้วกลืนน้ำลายที่ถ่ม:-)ว่า "ผมว่าผมแก้ต่างให้ธรรมกายได้ทุกข้อนะ" จะดีกว่า สิบปีที่แล้ว คุณไปอยู่ที่ไหนมา หรือเพิ่งรับรู้ความได้ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 16:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เร็วจริง ท่านจิต ผมรออยู่นี่แหละ นั่งเฝ้ากระทู้ เรื่องหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ผมไม่ทราบจริง ๆ ส่วนเรื่องเครื่องประดับชาวสวรรค์ ท่านก็คงให้สาธุชนชาวธรรมกายมีจิตศรัทธาในการทำบุญ เหมือนกับว่าเด็กดี ทำดีจะได้กินขนมอร่อย ๆ นะจ๊ะ ชาวธรรมกายยังอยู่ในโรงเรียนอนุบาลในฝันอยู่นะครับ และอีกอย่าง หลวงพ่อฤาษีลิงดำเทศน์อะไรจะมีเทปไว้หมด ขอแบบนั้นให้ผมฟังเลยนะครับ และอีกอย่างผมจะสู่รู้ เพราะผมอยากรู้ เพราะหลวงพ่อปลื้มผม ฮ่า ๆ จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 16:28:47 ]

ความคิดเห็นที่ 43 จะลบภาพเครื่องประดับไปทำไมล่ะท่านจิต เอาขึ้นมา ฮ่า ๆ ผมจะถอยกลับไปกลืนน้ำลายที่ผมถ่มรดแน่นอน หากผมทำไม่ได้อย่างที่พูด แต่เกรงว่ากระทู้นี้จะตกไปก่อน ไม่ต้องห่วง ผมแค่มาทำหน้าที่ ตามประสาทคนที่หลวงพ่อปลื้ม ท่านจิต ท่านไม่ต้องกลัว เหอ ๆ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 16:34:52 จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 16:29:33 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เคยเห็นแล้วละสิ จะยกมาทำไมให้โหลดช้า คนเก่าจริงหรือ น่าจะคุยกันยาวตามเวลาที่มีให้ อืมมม จากคุณ : 555 (JitZungkabuai) - [ 11 พ.ค. 52 16:34:11 ]

ความคิดเห็นที่ 45 โอเค งั้นกาลครั้งนี้ ท่านจิตไม่ต้องใส่ภาพอะไรให้โหลดช้า ว่ามา จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 16:36:30 ]

ความคิดเห็นที่ 46 นานแล้ว ไม่ได้พบไม่ได้เห็น น่าสนุกเหมือนเดิม คุณไม่เคยเห็นข้อความดังกล่าวจริงหรือ? จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 16:37:01 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ผมจะคุยเป็นเพื่อนคุณ เหมือนที่ควรจะเป็นในห้องศาสนานี้ คุณอาจจะยิ้มไม่หุบอีกเลยก็ได้ หรือจะหุบไม่ยิ้มอีกเลยดีเล่า? จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 16:41:03 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ข้อความอะไรครับท่าน ถ้าของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ผมไม่เคยเห็น จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 16:41:29 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ผมกล้าการันตีว่าหลวงพ่อปลื้ม กล้าลงมาตั้งกระทู้ให้ชาวบ้านเขาด่า กล้าตอบคำถามเพื่อวัด เพราะอะไรอย่าให้กล่าว เอาเป็นว่าครอบครัวผมเคยบำรุงวัด จนชาวธรรมกาย ตะลึงอึ้งค้าง ถึงขนาดกับอุทานว่า "พี่...ได้บุญมากจริง ๆ พี่...ได้บุญมากจริง ๆ" มาแล้ว เชื่อแล้วว่าหลวงพ่อปลื้ม คุณ ย.ยิ้มแย้มจริงๆ แต่ขอถามว่า "ท่านทำชอบสิ่งใดนา วานบอก" ทำอย่างไงถึงได้บุญ ตะลึง ตึง ตึง แบบนั้นได้ จากคุณ : ผู้เห็น - [ 11 พ.ค. 52 16:41:38 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ผมจำได้ว่า ตอนที่มีกระทู้เรื่องนี้ของหลวงพ่อฤาษี ท่านมีพูดอยู่ในเรื่องปกิณกะธรรม มีหลักฐานเป็น file mp3 อยู่ แต่ผมจำไม่ได้ว่าอยู่ที่ web ไหน ยังไงรอให้ท่านที่ตั้งกระทู้คราวนั้นมาบอก link อีกที งั้นผมถามเรื่องอื่นแล้วกันนะครับ ผมสงสัยมานานแล้ว ว่าทำบุญด้วยส้มตำมันได้สร้อยส้มตำจริงหรือเปล่า ยังไงช่วยตอบด้วยนะครับ เพราะอยากรู้ว่ามันจริงหรือเปล่า จากคุณ : ผ่านมา (หลงสิง) - [ 11 พ.ค. 52 16:46:41 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ผมก็ถามไปอย่างนั้นแหละ ถ้าคุณทราบ แค่ว่าคุณฉิ้งฉ่องกี่ทีเมื่อวานนี้ได้ก็เก่งแล้ว ผมไม่คาดหวังเรื่องในห้องน้ำหลวงพ่อของคุณหรอก ว่าแต่เรื่องธรรมกายเหนือลูกสะดือจุ่นของคุณ ไม่สามารถรำลึกถึง จำนวนครั้งของการเยี่ยวของคุณ ย ได้เลยหรือครับ วันนี้คุณเยี่ยวกี่หนครับ? โอ...  อย่าโกหก จำได้หรือจำไม่ได้ ขอรับ? แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 16:47:30 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 16:46:54 ]

ความคิดเห็นที่ 52 จะให้ผมถามคุณ เรเดี้ยนฯ เอาไหมครับ คุณ ย ยิ้ม คุณจะง่อยรับประทาน หลักฐานมีอยู่ หาเองไม่ดี เพราะต้องให้เกียรติน้องเรเดี้ยนฯ และผมไม่ใช่สายตรงหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ผมไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ ถ้าผมทำได้ คุณตายฮาไปตั้งแต่คำตอบแรกของคุณตอบให้ผมแล้ว ย ยิ้ม จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 16:53:33 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ตอบท่านผู้เห็น....ก็ให้เงินวัดไง ให้เยอะมาก...ชนิดที่ชาวธรรมกายต้องอ้าปากค้าง ว่าเยอะมากกกกกกกกก ตอบท่านผ่านมา.....ดีใจนะครับที่มี mp3 ของหลวงพ่อท่านจริง ๆ จะรอฟังนะครับ ส่วนเรื่องสร้อยส้มตำนั้นสำหรับเด็กอนุบาลในฝันเท่านั้นครับ เป็นอุบายธรรม อุปมาผมบอกกับลูกผมว่า สอบให้ได้ที่หนึ่งนะลูกนะ พ่อจะให้ท้อฟฟี่ ท่านคิดเหรอครับว่า ผลของการสอบได้ที่หนึ่ง คือ ท้อฟฟี่ สำหรับผมแล้ว บุญที่ทำมา คือ เหตุและปัจจัย ที่จะส่งเสริมการไปสู่พระนิพพานเท่านั้นครับ แต่ครับแต่ ถ้าสมมติท่านจะไปบอกลูกท่านว่า สอบได้ที่หนึ่งนะลูก วิริยะ ขันติ สติ และปัญญา จะอยู่ในตัวลูกไปตลอด ใครมันจะไปขยันล่ะครับ ท้อฟฟี่นี่ง่ายดี ตอบท่านจิต...จำไม่ได้ว่าเยี่ยวไปกี่ครั้ง รู้แค่ว่าตื่นนอนตอนเช้าหนึ่งครั้งแน่ ๆ และธรรมกายเหนือสะดือก็ไม่สามารถทำให้รู้ได้ว่า เราเยี่ยวไปแล้วกี่ครั้งครับผม จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 16:56:13 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ตอบคุณจิต ผมจะไปตายฮา อะไร สมมตินะ ว่าคุณลิงค์ไฟล์ mp3 มาผมก็คงตอบว่า เป็นเรื่องจริงครับ ก็แค่นั้น ฮ่า ๆ จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 16:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 57 จะฟลัดทำไมท่าน ประวัติหลวงพ่อ ผมก็เคยอ่านแล้ว จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 17:04:17 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ก็คือทำบุญด้วยส้มตำ ไม่ได้สร้อยส้มตำใช่มัยครับ คือการหลอกล่อให้ทำบุญอย่างเดียวใช่หรือเปล่าครับ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 17:13:24 จากคุณ : ผ่านมา (หลงสิง) - [ 11 พ.ค. 52 17:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ประวัติพระพุทธองค์ ผมก็เคยยกใส่เกล้ามาอ่านแล้ว ว่าแต่ ทำไมคุณต้องมาถกเถียงเรื่องธรรมกายกับผมละ ในเมื่อคุณตอบผมไม่ได้ ทำไมหน้าคุณด้านหนามากขนาดนี้ ไหนว่าตอบได้ทุกข้อ อัดกันที่ดอยยังไม่รู้ คุณจะเอาหน้าของคุณไถมาซบตีนของผมอีกหรือครับ? จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 17:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คคห 36 ... คำว่าพระพุทธ ท่านหมายถึง พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันครับ พระสมณโคดม ชัดเจน ตอนท่านถวายข้าวพระพุทธ ท่านก็ถวายข้าวให้พระสมณโคดม ชัดเจน คำว่าพระธรรม ท่านก็หมายถึง ธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน แต่จากที่ผมเช็คข้อธรรมจากหนังสือแล้ว ถ้าตีความตามอักขระนั้น ก็ผิดแผกไปจากทั้งเถรวาทและมหายาน แต่ถ้าตามภาษาธรรมแล้ว ก็เป็นธรรมอันเดียวกัน คือ นิพพาน และชาวธรรมกายก็เชื่อว่าธรรมนั้นจะพาเราไปนิพพานเหมือนกันครับ เพราะดูเหมือนจะใช้ภาษาให้เหมาะกับศิษย์ในโรงเรียนอนุบาลในฝันของท่านเองครับ คำว่าพระสงฆ์ นั้น ก็ตรงกับที่ท่านเซนถามนั่นเลยครับ แล้วที่คุณ ย.ยิ้มแย้ม  เสนอใน ความคิดเห็นที่ 14   ตอบ คุณเซนเถรวาทนะครับ 1. หลวงพ่อได้กล่าวเช่นนั้นครับ 2. เป็นนิพพานตามปัญญาของหลวงพ่อครับ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 20:43:28 จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม โดยเฉพาะ คำว่า ...2. เป็นนิพพานตามปัญญาของหลวงพ่อครับ คุณ: ย.ยิ้มแย้ม  ทราบไหมครับว่า พระพุทธองค์ ฯ ตรัสว่า นิพพาน ได้แก่ ความสิ้นไปแห่งราคะ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่งโมหะ (-สฬา สํ ๑๘/๔๕๒/๗๔๑) ย้ำนะครับ คุณ: ย.ยิ้มแย้ม  ทราบไหมครับว่า นิพพาน จากพระโอษฐ์ คือ ความสิ้นไปแห่งราคะ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่งโมหะ (-สฬา สํ ๑๘/๔๕๒/๗๔๑) ตกลง ที่คุณย.ยิ้มแย้ม  ยอมรับ  (คคห 13) ว่า  .....เป็นนิพพานตามปัญญาของหลวงพ่อครับ ได้แก่ข้อความคือ  ....นิพพาน คือ แหล่ง แห่งที่  ที่ พระอรหันต์ (ที่มี ท่านใดเป็นจอมศาสดา?) จะไปสถิตย์อยู่ที่ แหล่งแห่งที่นั้น หลังจากตายแล้ว ถ้าผม เอา นิพพานจากพระโอษฐ์ ที่ผมอ้าง แทนคำนิพพาน ตามปัญญาของหลวงพ่อ คุณย.ยิ้มแย้ม ดังนี้ ความสิ้นไปแห่งราคะ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่งโมหะ  คือ แหล่ง แห่งที่  ที่ พระอรหันต์ (ที่มี ท่านใดเป็นจอมศาสดา?) จะไปสถิตย์อยู่ที่ แหล่งแห่งที่นั้น หลังจากตายแล้ว หลวงพ่ออ จะเอา ข้าวไปถวาย ที่ไหนครับ ....เมื่อ ที่ คือ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่งโมหะ   คือ นิพพาน จากพระโอษฐ์ คุณย.ยิ้มแย้ม ทราบ ที่ นั่นไหมครับ ...........คำถามที่ ๑ คุณย.ยิ้มแย้ม ทราบ ตามคำถามที่ ๑ เพราะ คุณย.ยิ้มแย้ม ลุ อรหัตตผล แล้ว ใช่ไหม? .............คำถามที่ ๒ ถ้า ยังไม่ บรรลุ ....คำถามที่ ๑ คุณย.ยิ้มแย้ม อาศัย ปัญญา ท่านใดครับ ระหว่าง พระบรมศาสดา หรือ หลวงพ่อนั้น ...........คำถามที่ ๓ ที่สำคัญ หลวงพ่อนั้น ..บวชเรียน ในธรรม วินัยของ พระพุทธเจ้า ตรัส พระรรม คือ นิพพานว่า คือ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่งโมหะ ไม่ตรัสไว้ว่า ...แหล่ง แห่งที่  ที่ พระอรหันต์ จะไปสถิตย์อยู่ที่ แหล่งแห่งที่นั้น หลังจากตาย หลวงพ่อของคุณคุณย.ยิ้มแย้ม  เป็นพระสงฆ์แบบไหนครับ คุณคุณย.ยิ้มแย้ม..............คำถามที่ ๔ ถามต่อ อีก ๔ คำถามนะครับ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) - [ 11 พ.ค. 52 17:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 61 มารอฟังคำตอบจากน้อง ย  ยิ้มแย้ม ด้วยความบันเทิงเหลือจะกล่าว นับเป็นเกียรติแก่ผมจริงๆ ที่ได้ร่วมโหวตกระทู้นี้ ขอเป็นกำลังใจให้น้อง นะครับ พี่มอบถ้วยให้ ด้วยความรัก จากคุณ : จักรแก้ว - [ 11 พ.ค. 52 17:38:52 ]

ความคิดเห็นที่ 62 มันไม่มีทางตอบได้ขอรับ ท่านF จะจัดการก็ไม่ยากเกินกำลังคนเดียว เรเดี้ยน ออกมาเถอะ !!! จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 17:41:32 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ตอบท่านหลงสิง... คือมันจะได้หรือไม่ได้ไม่สำคัญหรอกครับ สำคัญอยู่ที่ทานนั้นมากกว่า แต่ผมฟันธงไม่ได้หรอกนะว่ามันจะได้ไม่ได้ แต่สำหรับผมไม่ได้ หรือได้ถ้าจิตท่านถวิลหาสร้อยเส้นนั้น มันก็คงจะเกิดจากอำนาจจิตของท่านนั่นล่ะ .............................................................................................................. ตอบท่านจิต...ข้าพเจ้าไปทำอะไรให้ท่านโกรธ พิมพ์อะไรออกมาแรง ๆ ได้ขนาดนี้เนี่ย ถ้าผมทำอะไรไม่ถูกใจก็ขอโทษด้วยละกัน ผมก็แค่ตอบคำถามไปเรื่อย ๆ ท่านก็โกรธ ยังไม่ได้เถียงซักคำ และผมก็เป็นฝ่ายรับให้ท่านชกอยางเดียวด้วยนะ ^^ ส่วนเรื่องอัดกันบนดอย ผมไม่ทราบจริง ๆ ผมก็บอกท่านแล้วว่ามันไร้สาระมาก มันอัดกันยังไง ดอยไหน เพื่ออะไร อัดให้ใคร แล้วผมจะเอาหน้าไปไถซบตีนคุณทำไมเนี่ย คุณโมโหอะไรเหรอครับ ค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จากัน ใจร่ม ๆ ถ้าคุณคิดว่าผมทำหน้าที่ไม่ดีพอ คุณก็ด่าไปก็ได้นะ บลา ๆๆ แต่หลวงพ่อปลื้มผมมากนะ .............................................................................................................. ตอบท่านเซน...คำถามแรก ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าแดนนิพพานอยู่ไหน แต่ว่าตอนผมบวชเณะ (ไม่ใช่วัดธรรมกายนะ) มันก็มีการถวายข้าวพระพุทธเหมือนกันนะ ลาเสร็จค่อยฉัน ผมเองไม่กล้าพูดเต็มปากว่ามันเป็นอุบายธรรม เพราะชาวธรรมกายจะว่าเอา เพราะหลายคนเขาคิดว่า นิพพานมันเป็นแดนจริง ๆ คำถามที่สอง...ผมไม่บรรลุบรมธรรมขั้นใดเลยครับ ไม่ทราบว่านิพพานอยู่ที่ใด และเป็นสภาวะใด แต่พระพุทธองค์ก็ทรงชี้ทางให้เราเดินไปครับ ก็เดิน ๆ หยุด ๆ น่ะครับ ตอบจากใจจริง คำถามที่สาม....ผมก็อาศัยพระบรมศาสดา พระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึกนั้นครับ คำถามที่สี่...หลวงพ่อก็ยังเป็นพระสงฆ์ผู้ยังต้องศึกษาอยู่ครับผม .............................................................................................................. ท่านจักรแก้ว ขอบคุณสำหรับถ้วยนะครับ แต่ถ้วยของหลวงพ่อ มันจะต้องไม่สวยแบบนี้ หะ ๆ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 17:45:56 จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 17:43:34 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ผมไม่ได้โกรธ เอ้าเณรเก่า รู้จัก จุลศีล ไหม? คุณรู้จักพระลิขิต ดีพอหรือไม่? น่าสงสารนัก ทำไปเพื่ออะไรนะคุณ ผมปัดทีสองทีคุณก็ร่วงลงหลุมแล้ว ทีที่หนึ่ง อัตตาคุณอยู่ที่ใด ชี้ออกมาหน่อยนะ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 17:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ที่ที่สอง อนัตตา ไม่มีอยู่ที่ใด ชี้มาหน่อยนะ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 17:57:03 ]

ความคิดเห็นที่ 66 อนัตตา และ อัตตา ไม่มีอยู่ที่ใด เป็นทีที่สาม และอธิบายด้วยว่าทำไมมี ทำไมไม่มี อะไรเป็นสาเหตุ? แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 18:00:18 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 17:58:58 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ตอบท่านจิต 1. จากใจจริง จุลศีลก็อยู่ในพระไตรปิฎกเล่มเก้า แต่ รักษากายวาจาใจให้ดีก็เป็นศีลแล้วครับ 2. ผมรู้จักพระลิขิตสิ 3. ผมก็เห็นว่า เออเนอะ จริง ๆ ธรรมกายเขาก็มีอุบายธรรมของเขานะ เห็นศิษย์ธรรมกายในบอร์ดร้อนรุ่มเป็นไฟ ดูแปลก ๆ ก็เลยคิดว่าจะมาแก้ต่างให้ ถ้าผมจะร่วงลงหลุดเพราะมือท่าน ก็โอเค ไม่ว่ากัน 4. อัตตาของข้าพเจ้าอยู่ที่อุปาทานครับ อุปาทานเกิดขึ้นที่ใด อัตตาก็เกิดขึ้นที่นั่นครับผม จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 17:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ในฐานะ รุ่นพี่ พี่แนะนำว่า ค่อยๆตอบไปด้วยความใจเย็น อะไร ตอบไม่ได้ก็ไม่ต้องตอบ กลืนน้ำลายตัวเองไปเหอะ ไม่เสียหายหรอก คิดดู ไม่กลืนน้ำลายตัวเองจะให้ไปกลืนน้ำลายใครจริงมั้ย เวลากินข้าวปลา ทุกคนก็ต้องกลืนน้ำลายตัวเองกันทั้งนั้นแหละ เอา...  สู้เขา น้อง จากคุณ : จักรแก้ว - [ 11 พ.ค. 52 18:00:19 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เร็วไปครับ ตอบแค่ข้อหนึ่ง เหลืออีกสองข้อ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 18:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ศีลน่ะบังคับพระลิขิต เรียกว่า พระวินัย คุณตอบใหม่ดีไหม อุบายธรรมไม่มีหรอก เพราะสีหราชย่อมไม่หลอกลวง ดูพรหมอาราธนา แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 18:05:52 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 18:05:25 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ตอบอีกสองข้อผิด จักโดนมิใช่น้อย คนเดียวก็เหลือเฟือเกินพอ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 18:07:09 ]

ความคิดเห็นที่ 72 คำตอบที่ 2 กับ 3 ตอบยากจัง เพราะว่ากล่าวถึง ปรมัตถสัจจะ อัตตา กับ อนัตตา และสมมติสัจจะที่ว่า มีหรือไม่มี ทำให้บรรยายได้ยาก แต่ท่านจิตเคยได้ดูภาพมะพร้าวนาฬิเกร์ของท่านพุทธทาสรึเปล่าครับ มันตอบคำถามข้อ 1-3 ได้เลยนะ คือมันมีความมีในความไม่มี และมีความไม่มีในความมี มีอัตตาอยู่ในอนัตตา และมีอนัตตาอยู่ในอัตตา แต่ผมก็ไม่สมารถบอกได้ว่า ไม่มีอนัตตาในอัตตาและอนัตตา และไม่มีอัตตาในอนัตตาและอัตตา ธรรมชาติมันเป็นอยู่ไหลเลื่อนเปลี่ยนแปลง จะว่าอะไรมี มันก็มี ณ ขณะนั้น แต่มันก็ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของมัน เหตุที่ทำให้ไม่มีอัตตา ก็เพราะมันถูกวางไป เหตุที่ทำให้ไม่มีอนัตตา ก็เพราะอนัตตามันถูกบดบังด้วยอำนาจอวิชชานั้น หรืออัตตาถูกยกมา ทำให้ไม่เห็นในไตรลักษณ์ แต่มันไม่มี ณ ที่ใดเหรอ อืม ตอบไม่ถูกนะ เพราะพอจิตบอกว่า เฮ้ย มี มันก็อุปาทานว่ามี พอวางตรงนั้นก็เหมือนว่าไม่มี แต่ธรรมชาติก็มีอยู่ แต่มันก็เหมือนไม่มีเพราะมันเปลี่ยนไป อา ตอบยากจังครับผม แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 18:19:49 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 18:14:12 จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 18:12:54 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ผมก็ตอบได้แค่นี้แหละท่านจิต ท่านจะให้ผมตอบอะไรใหม่หรือครับ จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 18:15:03 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ... เหตุที่ทำให้ไม่มีอัตตา ก็เพราะมันถูกวางไป เหตุที่ทำให้ไม่มีอนัตตา ก็เพราะอนัตตามันถูกบดบังด้วยอำนาจอวิชชานั้น ... จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม _____________________________________________________ ^ ^ โดนกล่อมมาเยอะละสิ        เขาเรียกว่า สัญญา วางหรือไม่วาง                   เขาเรียกว่าสังขาร คิด ไม่ใช่มีมือมีเท้า เหตุที่ไม่มี                        เพราะไม่มีเหตุ หาผลไม่เจอ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 18:22:28 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 18:21:26 ]

ความคิดเห็นที่ 75 แล้วตอนนี้ผมร่วงลงไปรึยังครับ ท่านจิต หะ ๆ จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 18:23:21 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ธรรมกายมีลูกเล่นเยอะมาก จนผมแยกไม่ออกว่าอะไรที่พวกคุณเรียกว่า "ธรรม" อะไรที่เรียกว่า "อุบาย" แล้วถ้าใช้ "อุบาย" มากๆโดยไม่บอกให้ผู้รับมาปฏิบัติทราบว่าเป็น "อุบาย" ท้ายที่สุดจะทำให้พวกเขาต้องหลงทางอีกนานแค่ไหน จุดนี้น่าเป็นห่วงมาก อยากได้คำถามทีุ่่มุ่งตรงไปยัง "คำสอน" สำคัญๆ ของธรรมกายที่เป็นปัญหาที่ต้องทำความเข้าใจครับ จากคุณ : 44SFA1 - [ 11 พ.ค. 52 18:28:43 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ที่ที่สอง อนัตตา ไม่มีอยู่ที่ใด ชี้มาหน่อยนะ อนัตตา และ อัตตา ไม่มีอยู่ที่ใด เป็นทีที่สาม และอธิบายด้วยว่าทำไมมี ทำไมไม่มี อะไรเป็นสาเหตุ?   _______________________________________________ อย่าให้เสียเปล่า ฟังและจำไว้ให้ดี ปราศจากมีตัณหาสาม จึงไม่มี ธรรมกายสอนให้หรือเปล่า? จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 18:31:05 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เรียนท่าน 44SFA1 - ก็นานมากน่ะครับ จนกว่าสัตว์ทั้งหมดจะนิพพาน ก็ในเวบเห็นลูกศิษย์ลูกหากล่าวขานกันว่า ท่านจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย ลูกศิษย์ท่านก็ต้องรอไปกับท่านด้วย นานมากกกกกกกก ขอบคุณท่านจิตครับ สำหรับคำเฉลย จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 18:36:18 ]

ความคิดเห็นที่ 79 มันไม่มีอยู่ ก็ไม่มีจริงๆ เขาถามว่าได้อะไร มีอะไร ก็เฉยเสีย จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 18:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 80 คคห 60 ที่สำคัญ หลวงพ่อนั้น ..บวชเรียน ในธรรม วินัยของ พระพุทธเจ้า ตรัส พระธรรม คือ นิพพานว่า คือ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่งโมหะ ไม่ตรัสไว้ว่า ...แหล่ง แห่งที่  ที่ พระอรหันต์ จะไปสถิตย์อยู่ที่ แหล่งแห่งที่นั้น หลังจากตาย หลวงพ่อของคุณย.ยิ้มแย้ม  เป็นพระสงฆ์แบบไหนครับ คุณย.ยิ้มแย้ม..............คำถามที่ ๔ คคห 63 คำถามที่สี่...หลวงพ่อก็ยังเป็นพระสงฆ์ผู้ยังต้องศึกษาอยู่ครับผม เป็นแบบไหน มีหลายความหมาย นะครับ (๑) แบบ ที่ยังศึกษาอยู่ ตามที่คุณย.ยิ้มแย้ม ตอบ ศึกษากับ ภิกษุไหนครับ จึง สอนเอาเองว่า ..นิพพานคือ แหล่ง แห่งที่  ที่ พระอรหันต์ จะไปสถิตย์อยู่ที่ แหล่งแห่งที่นั้น หลังจากตาย (๒) แบบที่ ๑ นี้ ....คุณย.ยิ้มแย้ม  จะเข้าว่า หลวงพ่อคุณย.ยิ้มแย้ม เป็นภิกษุ รู้แบบงูงู ปลาปลา ไหมครับ เพราะ รู้ไม่ตรงตามที่พระบรมศาสดาตรัสไว้ ...............คำถามที่ ๑ (๒) แบบที่ ๒ เมื่อหลวงพ่อคุณย.ยิ้มแย้ม  รู้ว่า พระพุทธองค์ตรัสว่า ..นิพพานว่า คือ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่งโมหะ แต่กลับ ไม่ ยอมรับ พุทโธวาทนั้น คุณย.ยิ้มแย้ม  จะเข้าว่า หลวงพ่อคุณย.ยิ้มแย้ม เป็นภิกษุ แบบ ดื้อรั้น อวดดี มีมานะ ไหมครับ ...........คำถามที่ ๒ (๓) ในทางกลับกัน ถ้า ไยงไม่รู้ว่า พระพุทธองค์ตรัสว่า ..นิพพานว่า คือ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่งโมหะ ศิษย์คือคุณย.ยิ้มแย้ม   รู้แล้ว ตามที่ผมอ้าง ศิษย์ที่ดีเช่นคุณย.ยิ้มแย้ม   จะไปบอกหลวงพ่อของตนเองไหมครับ ....เป็นคำถามที่ ๓ ๓ คำถามนะครับ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) - [ 11 พ.ค. 52 18:46:46 ]

ความคิดเห็นที่ 81 1.  ท่าน ย ยิ้มแย้ม เชื่อจริงๆหรือครับว่าสัตว์ทั้งมวลจะไปสู่นิพพาน? ท่านมีอะไรที่ใช้อ้างอิง/ยืนยันความเชื่อนี้หรือไม่? อย่างไร? และเช่นนี้แล้วแม้สรรพสัตว์จะไม่ปฏิบัติธรรมเลยในชาตินี้ หรือในชาติใดๆ แต่ในชาติสุดท้าย (ที่ท่านอาจเชื่อว่ามี) ก็จะได้รู้ธรรมเข้าถึงนิพพานทุกตัว ทุกตน ทุกคน ทุกองค์ใช่หรือไม่? 2. ที่ท่านว่า "ท่าน(พระอาจารย์ของท่าน)จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย ลูกศิษย์ท่านก็ต้องรอไปกับท่านด้วย" ท่านกล่าวด้วยความเชื่อที่ว่า "สัตว์ทั้งมวลจะมุ่งไปสู่นิพพาน" ใช่หรือไม่ครับ? 3. เท่าที่ผมทราบสังสารวัฏตามที่พระพุทธเจ้าตรัสนั้น "หาต้นไม่ได้ หาปลายไม่เจอ" การที่ "พวกท่าน" จะรอเข้าถึงนิพพาน ณ ที่สุดสายปลายสังสารวัฏนั้น ท่านไม่คิดเลยหรือว่าเป็นความประมาทอย่างที่สุด? ขอโทษที่ถามโง่ๆซื่อๆ เพราะผมไใ่เข้าใจความหมายที่ท่านต้องการบอกจริงๆครับ จากคุณ : 44SFA1 - [ 11 พ.ค. 52 18:53:39 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ตอบท่านเซนครับ คำถามที่สองก่อนนะ...หลวงพ่อท่านก็มีมานะในระดับหนึ่งนะครับ เพราะจากพระลิขิตแล้ว คงไม่มีใครกล้าฝ่าฝืนได้ แต่หลวงพ่อก็ฝ่าฝืนเพื่อที่จะบำเพ็ญสมณเพศ บำเพ็ญบารมีอย่างหนัก เพื่อเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายครับผม แต่ผมไม่ทราบนะ ว่าทำไมท่านถึงไม่สึก แต่ชาวธรรมกายก็ไม่ยี่หระอะไรนะ เพราะเห็นว่าท่านบำเพ็ญประโยชน์เยอะมากกกกกก คำถามแรกตามมา...ก็บอกไปแล้วไงครับว่า ยังต้องศึกษาอยู่ ท่านบำเพ็ญบารมีเพื่อที่จะไปเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายโน่นนนนนนนนแน่ะ พวกลูกศิษย์ก็เต็มใจจะไปกับท่าน โดยชาวธรรมกายจะพักที่ดุสิตบุรีเฟสสองระหว่างทางครับ เราจะบรรลุกัน ณ เสี้ยววินาทีสุดท้ายครับผม ท่าน ๆ น่าจะเห็นนะครับว่า ชาวธรรมกายบำเพ็ญบารมีกันมากและก็กับธรรมกายเป็นส่วนใหญ่ด้วย เพราะจะได้อยู่ใกล้ ๆ หลวงพ่อไง 3. ผมเป็นแค่คนที่หลวงพ่อปลื้มเท่านั้นเอง บอกท่านก็ไม่ปลื้มสิครับ จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 18:55:44 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เรียนท่าน 44SFA1 1. เชื่ออย่างนั้นจริง ว่าสัตว์ทั้งมวลจะไปสู่พระนิพพาน ผมอ้างอิงจากรูปภาพมะพร้าวนาฬิเกร์ ก็นิพพานมันอยู่ในตัวสัตว์นั่นล่ะ เพียงแต่อำนาจอวิชชามาบังไว้ เหมือนว่านิพพานมันอยู่ไม่ไกลนะ แต่ผมคิดว่าสุดท้ายมันจะมีเหตุและปัจจัย เกื้อหนุนให้สัตว์นั้นบำเพ็ญบุญบารมี จนมีศีล สมาธิ และปัญญาแกร่งกล้า จนเข้าพระนิพพานได้ ได้ได้หมายความว่าจะมีเวลาหนึ่งซึ่งเป็นเวลาสุดท้าย แต่นั่นหมายถึง เวลาหนึ่งที่สัตว์ทุกตัวมีบุญบารมีพอที่จะเห็นพระนิพพานได้ครับ 2. ท่านอธิษฐานจิตไว้เช่นนั้น จะพูดว่าเป็นความเชื่อได้ไหมเอ่ย 3. ก็ไม่เชิงนะ เพราะเราทำบุญบารมีมาก ๆ และจะแวะพักกันที่ดุสิตบุรีเฟสสองครับ ไม่ตกนรก บำเพ็ญกันไปเรื่อย ๆ จนถึงเวลานั้นตามที่บอกตามด้านบน แต่ว่าไอ้เวลาสุดท้ายนั่น มันเกินจินตนาการผมจริง ๆ นะ ผมนึกไม่ออกเลยว่าจะมีเวลาไหนหนอที่หมู่สัตว์ทั้งเทวดา มาร พรหม มนุษย์ สัตว์ เปรต บลา ๆๆ จะไปนิพพานพร้อม ๆ กันหมด คนที่คิดได้นี่ก็แสดงว่ากล้ามาก ๆ และต้องอาศัยบารมีอย่างมาก ในการจะไปถึงตรงนั้นนะครับผม แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 19:23:18 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 19:22:01 จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 19:18:00 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ตามที่คุณยิ้มแย้มบอก ชาติสุดท้ายคงต้องอีกนานมาก ไปอยู่ดุสิตจริงก็ต้องหมดบุญก่อนแน่ๆ ขนาดเทวดาชั้นดุสิตนี้ยังต้องวนเวียนลงนรกขึ้นสรรค์กันเป็นว่าเล่นนับครั้งไม่ถ้วน นาน นานนนนนนนนนนนนนน มากกกกกกกกกกกกกกกจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราะพระพุทธเจ้าว่าวัฎสงสาร นี้หาเบื้องต้นและปลายไม่เจอ โอ้ ฝันให้ไกล แต่ไปไม่ถึง จากคุณ : ผู้เห็น - [ 11 พ.ค. 52 19:28:21 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เรียนที่ผู้เห็น ใช่สิ นานมากกกกกกกกกกก และพวกเราก็จะไปกับหลวงพ่อแม้จะนานมากกกกกกกกกกก หลวงพ่อก็เลยปลื้มมากกกกกกกกกกกกไงคุณและชาวธรรมกายก็รักหลวงพ่อมากกกกกกด้วย ชาวธรรมกายทุกคนเชื่อว่าจะไปถึงครับผม ปล. คห.นี้มันอาจจะดูพิลึก ๆ ไปหน่อย แต่ให้พิจารณาโดยแยบคายว่ามันมากจริง ๆ นะครับผม จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 19:33:57 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ผมก็ปลื้มในศรัทธาของคุณ รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลงงงงงงงงงงงงงง เย เย้ แต่อย่างไรก็ไม่ควรเป็นชาวพุทธเลย พุทธะคือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ไม่ใช่เอาแต่ศรัทธา ที่คุณเล่ามานี้ ไม่ประกอบด้วยปัญญาเลย สมณโคดมและพระพุทธเจ้าทุกๆองค์ คงไม่ปลื้มแน่นอน จากคุณ : ผู้เห็น - [ 11 พ.ค. 52 19:44:20 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เรียนท่านผู้เห็น ผมไม่ต้องการให้คุณมาปลื้มในศรัทธาในตัวผม เพราะของผมมันน้อย และผมก็จะไม่รอหลวงพ่อด้วย แต่หลวงพ่อปลื้มผมแน่นอน มั่นใจ ผมอยากจะไขข้อข้องใจให้ทุก ๆ ท่าน เพราะคิดว่า ธรรมกายก็มีเหตุผลของธรรมกายเอง ดุจดั่งกัลยาณมิตร ที่ช่วยเหลือกัลยาณมิตร และดุจเป็นเพื่อนเก่า ฉันนั้น แต่จะให้ไปช่วยญาติมิตรในกระทู้อื่นก็ไม่ไหว แต่ละคนศรัทธาจนกลายเป็นอีโก้ กระทู้เดือดดาลเปล่า ๆ นี่ถ้าผมเดือดก็คงทะเลาะกับหลาย ๆ คนไปแล้ว และสุดท้ายผมก็เชื่อว่า ชาวธรรมกาย ซักวันก็จะต้องไปถึงนิพพาน (เมื่อไรก็เมื่อนั้น) และก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไร ถ้าพลวงพ่อปราราถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าจริงและบำเพ็ญบารมีมาอย่างหนักหน่วง ผมเชื่อว่าพระพุทธเจ้าทั้งหลายท่านปลื้มแน่นอนครับผม แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 20:04:49 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 19:53:39 จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 19:51:33 ]

ความคิดเห็นที่ 90 เรียนถามท่าน "ย.ยิ้มแย้ม" 1. ถ้าท่านเชื่อว่า "สัตว์ทั้งมวลจะต้องเข้าสู่นิพพาน" แต่กล่าวว่า "ไม่ได้หมายความว่าจะมีเวลาหนึ่งซึ่งเป็นเวลาสุดท้าย (ปลายสังสารวัฏของหมู่สัตว์)" แล้วจะมี "สัตว์หมู่สุดท้ายที่จะเข้าสู่ินิพพาน" ได้อย่างไรครับ 2. หากท่านไม่เรียกว่าเป็น "ความเชื่อ" แสดงว่าท่านหรือท่านอาจารย์ของท่านเห็น/เข้าใจว่า "ปลายสังสารวัฏมีอยู่" เป็น "ความจริง" หรือ "ข้อเท็จจริง" ใช่หรือไม่? ท่าน/อาจารยฺของท่านทราบ/รู้/เห็นด้วยวิธีการใด อย่างไร? 3. ดุสิตบุรี phrase II ที่ท่านกล่าวนี้พ้นจากการดับสูญของจักรวาลหรือครับ ท่านถึงตั้งใจจะไปพักกัน? 4.ที่ท่านกล่าวว่า "ไม่ตกนรก" ไม่ทราบว่าใช้ธรรมใดเป็นเครื่องประกัน เพราะพระพุทธเจ้าท่านยังตรัสว่าพระโสดาบัน (ขึ้นไป) เท่านั้น คือผู้ปิดอบายโดยสิ้นเชิง หรือท่านจะกล่าวว่าการทำบุญมากๆจะทำให้ไม่ตกนรก? 5. ขนาดพระพุทธเจ้าสมณโคดมบรมศาสดาของพระพุทธศาสนาในปัจจุบันยังต้องบำเพ็ญบารมีหลายภพหลายชาติ จุติสู่ภพภูมิหลากหลาย แม้กระทั่งเดรัจฉานภูมิ แล้วเหตุใดท่านจึุงเชื่อว่าอาจารย์ของท่านจะไปบำเพ็ญบารมีที่ดุสิตบุรีจนบารมีพอที่จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง? 6. บารมีในความเข้าใจของท่านคืออะไร เหตุใด "ธรรมกาย" จึงให้ความสนใจกับการบำเพ็ญบารมีเหล่านั้นมากกว่าการภาวนาเพื่อทำที่สุดแห่งกองทุกข์ให้สิ้นไป และท่านเชื่อว่าบารมีที่จำเป็นต่อการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าสามารถบำเพ็ญให้บริบูรณ์ได้โดยไม่ต้องเวียนว่ายสู่ภพอื่นๆ นอกจากเสวยสุข และบำเพ็ญอยู่ที่ดุสิตบุรี phrase II อย่างนั้นหรือ? 7. ทั้งๆที่ศาสนาพุทธปัจจุบันยังทรงอยู่ซึ่งพระรัตนตรัย และคำสอนที่บริบูรณ์ เหตุใดท่านทั้งหลายจึงหวังน้ำบ่อหน้า ทั้งๆที่ไม่อาจบ่งบอกได้แน่ชัดว่าพวกท่านทุกคนจะไปถึงจุดที่ตั้งจิตไว้หรือไม่? แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 19:57:00 จากคุณ : 44SFA1 - [ 11 พ.ค. 52 19:53:06 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เรียนท่าน 44SFA1 1. ตอบไปแล้วครับ ว่า มันเกินจินตนาการของผม แต่ไม่ใช่ของชาวธรรมกายผู้ที่มีศรัทธาแกร่งกว่าผม รบกวนท่านอ่านคห ที่ 89 อีกทีนะ 2. ตามตรรกะที่ท่านพิมพ์แล้ว เป็นความจริงครับ 3. ผมไม่ทราบรายละเอียด แต่ตามตำราที่ผมเช็คมาให้ท่าน ไม่มีพ้นครับผม 4. ทาน ศีล และภาวนา ครับผม 5. ไม่ใช่อย่างนั้นครับ หลวงพ่อจะบำเพ็ญบารมีที่ดุสิตบุรี และก็มาบำเพ็ญต่อที่โลกมนุษย์และก็กลับไปบำเพ็ญต่อที่ดุสิตบุรี และก็.... ไปเรื่อย ๆ ครับ 6. บารมีในความเข้าใจของผม คือ การบำเพ็ญความดีสะสมไว้ในตัว จะเป็นพระพุทธเจ้าได้ก็บำเพ็ญบารมีสิบแบบนั้นน่ะครับ คือชาวธรรมกายสนใจบำเพ็ญ เพราะตามหลวงพ่อนั่นล่ะ อยากจะไปดุสิตบุรี บำเพ็ญไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงเวลานั้นครับ 7. ก็ท่านทั้งหลายมีศรัทธาในหลวงพ่อน่ะครับ บางคนอยากพบพระศรีอริยเมตตรัย ก็อธิษฐานไว้ อย่างพระพุทธสมณโคดม ก็เคยเจอพระพุทธเจ้า ท่านก็ยังจะบำเพ็ญให้ครบเพื่อที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลยนี่ครับ จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 20:03:42 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ผมเองไม่เคยรังเกียจหรือไม่พอใจชาววัดธรรมกายเลยนะครับ ชาววัดธรรมกายนิสัยดีๆก็มีมาก แต่ผมค้านเรื่องคำสอนที่ขัดกับพระไตรปิฎก และการทำทานที่ดูเหมือนจะส่งเสริมให้ทำเกินตัว ทั้งๆที่ทานที่ดีกว่าเงิน มีตั้งหลายอย่าง จะเคารพครูอาจารย์ความจริงเป็นเรื่องที่ดี แต่รู้สึกว่ามันเกินไปจนเหมือนไม่เคารพคำสอนของพระพุทธเจ้า ทั้งที่เรียกตัวเองว่าชาวพุทธ ในเมื่อคุณ ย.ยิ้มแย้ม ไม่รอหลวงพ่อ ผมก็ขอให้คุณประสบความสำเร็จได้ไปนิพพานสมปราถนาเร็ววันนะครับ ขออโหสิกรรมด้วยครับ ถ้าล่วงเกินอะไรไป จากคุณ : ผู้เห็น - [ 11 พ.ค. 52 20:11:57 ]

ความคิดเห็นที่ 93 5. ไม่ใช่อย่างนั้นครับ หลวงพ่อจะบำเพ็ญบารมีที่ดุสิตบุรี และก็มาบำเพ็ญต่อที่โลกมนุษย์และก็กลับไปบำเพ็ญต่อที่ดุสิตบุรี และก็.... ไปเรื่อย ๆ ครับ จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม    - [ 11 พ.ค. 52 20:03:42 ] จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 20:17:52 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ท่าจะเหนื่อยมาก จากคุณ : :D (JitZungkabuai) - [ 11 พ.ค. 52 20:54:18 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เรียนท่านจิต ก็หลวงพ่อท่านมีควมมกรุณาและความเพียรสูงไงคุณ ปล. ตอนนี้หลวงพ่อปลื้มข้าพเจ้ามากขึ้นอีก แต่ถ้าทุกคนสิ้นความสงสัยแล้ว กระทู้นี้ก็ตกไป หลวงพ่อท่านก็จะอนุโมทนาสาธุด้วยนะ แต่ผมคงจะไม่ได้มาช่วยท่านอีก T___T รักหลวงพ่อจริง ๆ เลยจอร์จ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 21:10:44 จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 21:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 96 กรรม.... ไม่ไรจะพูดละ ใครเชื่ออะไรก็ทำๆ ไปนะครับ จะได้ถึงจุดมุ่งหมายที่ต้องการ แต่อย่าบอกว่านกเป็นไม้ ไม้เป็นนก ยังไงผมก็เชื่อในแนวทางของธรรมกาย....ไม่ลง โทษที จากคุณ : แมงกุ๊ดจี่ - [ 11 พ.ค. 52 21:35:34 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ความคิดอย่างนี้ไม่เข้าขั้น วิปลาส!!เลยหรือครับ จากคุณ : in_my_metal - [ 11 พ.ค. 52 21:44:11 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ***ถอดคำต่อคำจากบางส่วนของเทปพระธรรมเทศนาของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เทศน์สอนพระแล้วอ้างถึงวัดหนึ่งเป็นตัวอย่างประกอบ*** .....ที่เราปฏิบัติสมาธิกันเพื่ออะไร เพื่อตัดกิเลส เนี่ยเราก็ ลองมาซ้อมใจกัน สมมติว่าเราไปพบกิเลสตัวสำคัญ กิเลสตัวนั้นได้แก่โทสะ เมื่อ วันก่อนนี้ผมได้พูดถึงพราหมณ์ ซึ่งหวงลูกศิษย์ ในเมื่อลูกศิษย์ทำของหล่นหรือพลาดไป เธอก็เปล่งวาจาถึงองค์สมเด็จพระจอมไตรว่า พุทโธ ธัมโม สังโฆ เป็นต้น พราหมณ์หน้ามลเธอก็โกรธว่า อีหญิงถ่อย เธอกล่าวพรรณา คุณงามความดีของสมณะโล้น ไม่เลือกที่ ในที่สุดท่านพราหมณ์คนนี้ก็ไปจู่โจม รุกรานองค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่พราหมณ์คณะนี้ก็ยังมีด้วยกัน หลายคน ผมจะนำมาเล่าให้ท่านฟังตามลำดับ ว่าองค์ สมเด็จพระผู้ทรงสวัสดิโสภาคทรงโต้ตอบกับเขาว่ายังไง แต่วันนี้ผมไม่เอาเรื่องของพราหมณ์มาพูด เอาเรื่องที่ผมกระทบ มาพูดให้ท่านฟัง ที่มาพูดนี่ไม่ใช่มาอวด สมมติว่าท่านโดนอย่างผมบ้าง แต่ความจริงเนี่ย ผมโดนมา กระบุงใส่ กระพ้อมใส่มันก็ไม่หมด ไอ้เรื่องกระทบแบบนี้ ท่านฟังไปแล้วก็ลองคิดดูด้วย สมมติว่าท่านเองโดนเข้าน่ะ ความรู้สึกของท่านจะเป็นยังไง ผมจำเดือนไม่ได้ เพราะไม่ได้บันทึก ดูเหมือนว่าจะเป็นระยะตอนต้นๆปี เมื่อปีพ.ศ.2517 ปีนั้นเราก็เริ่มจะทำพระอุโบสถ อ้อใช่แล้วครับต้นปี เพราะว่าอากาศยังหนาวๆ นิดๆ เห็นจะเป็นเดือนกุมภา หรืออะไร มกรา จำไม่ได้ อาจารย์วรณี สุนทรเวช กับคณะของท่านมาที่วัดนี้บ่อยๆ ในการมาวัดนี้ของท่านก็ถูกคณาจารย์เดิมโกรธ เช่นเดียวกับสาวกของเอ้อ อีตาปริพาชก ตาพราหมณ์คนนั้นแหละ เป็นอันว่าเรื่องนี้ผมก็ขอยกไว้ที่อาจารย์โกรธ ผมไม่เห็น เป็นแต่เพียงท่านเล่ากันให้ฟัง ที่นี้เรื่องมาชนกับผมเองบ้าง คือว่าอาจารย์วรณี นี่ถวายที่ไว้แก่พระชุดหนึ่งที่คลองสามรังสิต จะเป็นเนื้อที่กี่ไร่นี่ผมจำไม่ได้ เนื้อที่มากและก็กำลังจะสร้างพระอุโบสถ เอาช่างเขียนแปลนเสร็จ เอาช่างไปแล้ววางผังขุดหลุมจะเทรากฐานกำลังจะตอกเข็มแล้ว ก็มีความประสงค์จะวางศิลาฤกษ์ สำหรับวัดนี้ อาจารย์วรณีนอกจากให้ที่แล้ว ให้การก่อสร้างทั้งหมด ทะนุบำรุงวัดนั้นทั้งหมด ที่หมดไปแล้วจำไม่ได้เนื้อที่ เพราะว่าคิดว่าจะเกินกว่าร้อยไร่ แล้วก็ยังจะให้ เมื่อก่อ สร้างแล้วก็ยังไม่พอ ยังจะให้เงินเป็นมูลนิธิสำหรับวัดนั้น อีกซักประมาณ สิบล้านหรือสิบล้านเศษผมจำไม่ได้ ก็สิบล้านน่ะสิบล้านแน่ แต่ว่าจะเศษเท่าไรนี่ผมจำไม่ได้ ทีนี้การจะวางศิลาฤกษ์ของท่าน ไม่ทราบว่าท่านมีความรู้สึกยังไง จะนิมนต์ผมไปในฐานะ เป็นผู้วางศิลาฤกษ์ ทีนี้ความจริงพระที่วัดนั้นก็เคยมาหา ผม ท่านทำท่าเหมือนว่าจะเป็นบัณฑิต ตามที่ทราบมาว่า เป็นนิสิตเกษตร สำเร็จปริญญาจากเกษตรฯ เวลาท่านมา หาท่านบอกว่าท่านต้องการอภิญญา แต่ผมเองเรื่อง อภิญญาสมาบัตินี่ ใครอย่ามายุ่งกับผม ผมไม่เอาด้วย ผมไม่ได้เห็นชอบด้วย ผมก็คุยให้ท่านฟังว่า ท่านต้องการ อภิญญาก็ปฏิบัติตามนั้น ตามแบบฉบับ หรือว่าแบบปกติ ท่านทำท่าเหมือนว่าจะเลื่อมใส แต่คนอย่างผมนี่ใครจะเลื่อมใสหรือไม่เลื่อมใสผมก็ไม่ สนใจถามมาผมก็บอกไป เป็นอันว่าเมื่อถึงเวลาที่จะวางศิลาฤกษ์ ผมก็ไม่ทราบเหตุมาก่อน แต่ไปได้ทราบที่หลัง เขาบอกว่ามีข่าวไปที่นั่น ว่าผมกับเจ้ากรมสื่อสารทหารอากาศคือเวลานั้น ได้แก่ พลอากาศตรีหม่อมราชวงศ์เสริม สุขสวัสดิ์ เวลานี้ท่านเป็นพลอากาศโทเป็นเจ้ากรมสื่อสารทหาร จะ ยกกำลังไปยึดวัดเอามาเป็นวัดของตน นี่ต้องคิด ข่าวนี้ต้องคิด ทำเหมือนกะว่ามันทำง่ายๆ เจ้าของเขาก็มี ไอ้ที่ดินเขาก็มีโฉนด พระก็มีปกครอง ผมจะย่องไปยึดวัดของเขานี่ข่าวล่วงหน้าไปก่อน ก็ไม่ทราบ ว่าข่าวไปจากไหน แต่เนื้อแท้จริงๆ ท่านเจ้าภาพนิมนต์ไปวางศิลาฤกษ์ ไอ้เรื่องนี้สนุก คุณ พวกคุณฟังกันแล้วก็ ทำกำลังใจให้ดีนะ ลองคิดว่าถ้าถูกเขาแบบนั้นบ้างคุณจะวางใจแบบไหน นี่ไม่ใช่พราหมณ์หวง ลูกศิษย์เฉยๆ เป็นพราหมณ์หวง สมบัติด้วย เมื่อเวลาไปถึงตอนเช้าผมก็แปลกใจที่มีนิสิต นักศึกษาของเกษตรเป็นกลุ่มใหญ่ ยืนอยู่หน้าทาง มีวิทยุติดต่อกัน ผมน่ะอยู่ไกลฟังไม่รู้เรื่อง ผมก็เดินเรื่อย เข้าไปตามเรื่อง มีคนนำ แต่ที่นี้คนที่อยู่ใกล้ๆกับพวกนิสิต นักศึกษาเกษตรเขามาเล่าให้ฟัง ว่าผมกับเจ้ากรมสื่อสารทหาร กับคณะเดินลงไป เข้าเขต เขาวิทยุถามกันไปว่า เวลา นี้พระมหาวีระมาแล้ว จะอนุญาต.. ยอมให้เข้าหรือไม่ยอมให้เข้า ไอ้ความจริงผมไม่รู้เรื่อง กับเขาเลย เขายอมหรือไม่ยอมก็ไม่รู้ มันเรื่องอะไรผมก็ไม่รู้ แต่ว่าคงได้รับคำตอบมาจากทาง โน้นบอกว่ายอมให้เข้า เมื่อยอมให้เข้าไปแล้ว ยอมหรือไม่ยอมก็ไม่มีใครเข้ามาห้ามผม ผมก็เดินไปตามคนเขานำ เมื่อเข้าไปถึงข้างในแล้วก็มีอาการแปลก แต่ผมก็มองดูเฉยๆ เหมือนกับว่าไม่มีใครเขาสนใจ เจ้าภาพเองเนี่ยให้เงินตั้งสิบล้านเป็นมูลนิธิแล้วบริจาคที่อีกนับราคาหลาย ล้าน และให้เงินอีกหลายล้านในการก่อสร้าง กำลังจะตอกเข็ม ทั้งพระ ทั้งเจ้าหน้าที่ในนั้นก็ไม่ได้สนใจ นี่ผมก็แปลก ไปเกือบจะหาที่นั่งจะไม่ได้ เวลานั้นเจ้าคุณวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ปัจจุบัน เจ้าคุณเจ้าอาวาส และพระที่นั่นก็มา จากวัดปากน้ำภาษีเจริญ แล้วท่านเป็นเจ้าอาวาสด้วย กำลังเป็นเจ้าคณะตรวจการภาควัดภาษีเจริญด้วย เป็นเจ้าคณะตรวจการภาคสาม แล้วก็ตอนที่ผมไป ย้ายไปอยู่ภาคสิบห้าแล้ว ท่านมานั่งสวดมนต์อันดับแรก ที่พวกเราเข้าไปกันเกือบจะหาที่นั่งไม่ได้เป็นอันดับแรก ในระยะต่อมา ท่านเจ้าคุณ ท่านก็บอก นิมนต์ ท่านมหานิมนต์นั่งที่นี่สิขอรับ มาสวดมนต์ด้วยกัน ท่านก็ขยับที่ให้ในฐานะที่ผมอาวุโสมากกว่าท่าน ผมก็ เรียนกะท่านว่า เขาไม่ได้นิมนต์ผมมาสวดมนต์ ก็ไม่จำเป็นหรอกครับ ผมก็นั่งตามที่ที่เขาจัดให้ ต่อจากนั้นไปเรื่องมันก็เกิด โอละพ่อกันขึ้น เป็น อันว่าพระที่ ที่เจ้าภาพยกที่ให้ ตั้งท่า ตั้งท่าพิเศษ บอกว่าขอให้มาทำเงื่อนไขกันก่อน อันดับแรกเขาเชิญพวกเดียวกันมาประชุมต่อหน้าเจ้าคุณ แล้วก็เธอเชิญท่านเจ้าภาพ ท่านเจ้าของที่ผู้ให้เงินในการก่อสร้างนับล้าน และก็จะให้เงินเป็นมูลนิธิอีกสิบล้าน คือ         อาจารย์วรณี สุนทรเวช เข้าไปร่วมประชุมกันต่อหน้าแขกทั้งหมด อันดับแรกเขาก็ยื่นเงื่อนไขว่า ขอให้พระองค์นี้ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดนี้ พูดกับท่านเจ้าคุณใหญ่ หรือว่าอาจารย์วรณี สุนทรเวช ผมก็แปลกใจว่า เอ๊ะ สำนักนี้เขาสอนพระกรรมฐานกันนี่ ทำไมอยากเป็นเจ้าอาวาส เป็น หรือไม่เป็นมันก็เป็นอยู่แล้ว อาจารย์วรณี สุนทรเวช ก็บอกไม่เป็นไร ถ้าท่านต้องการเป็นเจ้าอาวาสก็สุดแล้ว แต่ท่านเจ้าคุณใหญ่ อีกองค์หนึ่งบอกว่า ถ้าอย่างนั้นเมื่อ ตกลงแล้วก็ต้องให้อาตมาเป็นรองเจ้าอาวาส นี่ยื่นเงือนไขกันแปลกๆ ความจริงอาการอย่างนี้พระในพระพุทธศาสนาเขาไม่ทำกัน ผมก็นั่งดู อาจารย์วรณี สุนทรเวช ท่านก็ไม่คัดค้าน บอกว่าตามใจ วัดนี้ฉันถวายพระพุทธศาสนา ก็สุดแล้วแต่ท่านเจ้าคุณใหญ่ จากคุณ : อัสสุชลแห่งตารา - [ 11 พ.ค. 52 21:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ถ้าหากว่าผมฟังไม่ผิดนะ นั่งไกล แล้วต่อไปก็มีการวาง เงื่อนไขอีก ว่าการวางศิลาฤกษ์วันนี้ต้องไม่ใช่มหาวีระวาง ขอให้ท่านเจ้าคุณใหญ่วางศิลาฤกษ์ ตอนนี้รู้สึกว่าคณะของท่านเจ้าภาพ จะหน้าไม่ดี แต่ผมก็บอกไปว่าการวางศิลาฤกษ์ไม่สำคัญ มาวันนี้ท่านเจ้าภาพนิมนต์มา แต่ถ้าว่า ถ้า ไม่ให้วางก็ไม่เป็นไรหรอก ผมก็ไม่อยากวาง ไ อ้วางศิลาฤกษ์ เอาหินไปวางๆ ผมไม่เห็นมันมีประโยชน์ ไม่เห็นมันมีอะไร แต่ขณะนั้น คนที่ฟังๆกันเขารู้สึกว่า เขาสงสารผม แต่ผมไม่เคยสงสารตัวผมเองเลย เพราะว่าไอ้เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ผมโดนมาหนักกว่านั้น แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่า ท่าน เจริญพระกรรมฐานกันยังไง ทำไมถึงแบกกิเลสต้องการลาภ ต้องการยศกัน นี่ผมนั่งปลงธรรมสังเวชของผมคนเดียว แต่ ว่าคนอื่นนั่นน่ะเขาสงสารผม เขาคงจะสงสารในฐานะที่ผมนี่ถูกนิมนต์ไปให้วางศิลาฤกษ์ ฃแต่ว่าทางวัดนั้นไม่ต้องการให้ผมวางศิลาฤกษ์ ไอ้คนอื่นเขาสงสารผม ผมกลับไปสงสารพระที่วัดนั้น และท่านเจ้าคุณวัด.. เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เพราะว่าท่านในฐานะ เป็นผู้ใหญ่ ท่านคงจะอายมาก แล้วผมก็ไปสงสารเจ้า ภาพ ว่าเจ้าภาพทุ่มเทเนื้อที่ไป ผมเข้าใจว่าถึงร้อยไร่น่ะ ครับ ผมจำไม่ได้ เนื้อที่มากจริงๆแล้วก็ทุ่มเทงานก่อสร้าง เข้าไปเป็นล้านแล้ว แต่ทว่าพระที่ให้ไปอยู่ที่นั่น กลับเป็น ฝ่ายยื่นโนติ๊ส จะเอาอย่างนั้นอย่างนี้ พอท่านบอกว่าต้อง ยอมให้องค์นั้นเป็นเจ้าอาวาส และต้องยอมให้องค์นี้เป็น รองเจ้าอาวาส อันนี้ผมอายชาวบ้านเขาเกือบตาย เพราะ ว่าชาวบ้านที่นั่งอยู่ที่นั้นนับร้อย ผมรู้สึกอายจริงๆขอรับ ไม่ได้อายชาวบ้านเขาในฐานะที่ผมไม่ได้วางศิลาฤกษ์ อันนี้ไม่เกี่ยว ผม ไม่มีความรู้สึก อายเขาไม่คิดเลยว่าพระสงฆ์ใน พระพุทธศาสนาจะเป็นอย่างนั้น และก็อายแทนท่านเจ้า คุณใหญ่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ที่ลูกศิษย์ของท่าน สามารถยื่นโนติ๊สกับท่านแบบนั้น และก็อายแทนท่านเจ้าภาพผู้บริจาคทรัพย์ ว่าท่านบริจาคทรัพย์เนื้อที่มาก ราคานับล้าน และก็บริจาคทรัพย์ในการก่อสร้างไปแล้ว นับล้าน กำลังจะสร้างพระอุโบสถอีกราคานับล้าน นายช่างก็วางผังแล้ว กำลังจะตอกเข็ม มาเกิดยุ่งกัน ตอนนี้ แม้แต่ข้าวพวกเราก็เกือบจะไม่มีกินกัน นี่ สมมติว่าเป็นกำลังใจของท่าน ถ้าไปโดนเข้าแบบนี้ ท่านจะนึกโกรธใครสักคนมั๊ย นี่เอาเรื่องจริงๆกันมาพูดนะ ท่านทั้งหลายที่กำลังศึกษาอยู่เวลานี้ก็เหมือนกัน ต้องเตรียมตัวเตรียมใจ ในอาการอย่างนี้ไว้ด้วย ว่าการที่เราถูกเชิญไปในที่ต่างๆ นี่เราต้องระมัดระวังไว้ ว่าดีไม่ดี งานที่เขามอบหมายให้เราน่ะ มัน อาจจะกลายเป็นประเภทผม แต่ผมโดนมาซะเยอะ มันช่ำ โดนมาจนหนังชา ชาจนถึงที่สุด จนเวลานี่ไม่ชาแล้ว มันหมดความรู้สึก เมื่ออาการอย่างนี้ปรากฏ ผมก็สงสาร แทนที่ผมจะอาย แต่ผมไม่อายใครเลย ท่านรู้สึกมั๊ย ว่าผมหน้าด้านมาก ใจของผมเวลานั้น มันสบายๆ ชอบกล ไม่มีความรู้สึกอะไร แต่กลับไปสงสารคนอื่น คนอื่นเขาสงสารผม คงจะสงสารในฐานะที่เสียหน้าที่ เขาไม่ยอมให้วางศิลาฤกษ์ แต่ท่านเจ้าภาพก็พยายาม กระทั่งสุดท้ายก็ให้เอา ไปพรมน้ำมนต์แล้วก็โปรยข้าว ตอก ดอกไม้ ผมสงสารท่านเจ้าภาพ แล้วก็ไปสงสาร พระชุดนั้น สงสารท่านเจ้าคุณใหญ่วัดปากน้ำภาษีเจริญ มา มองดูหน้าท่านแล้ว รู้สึกว่าท่านสลดมาก เพราะท่าน เป็นผู้ใหญ่ ท่านคาดไม่ถึง ว่าลูกศิษย์ของท่านจะทำอย่าง นั้น ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ แต่ว่าท่านจะมีความรู้สึกอย่างผม หรือไม่นี่ผมไม่ทราบ นี่ผมคิดเอาเอง แล้วผลงานต่อไป ที่มันจะพึงเกิดขึ้นกับพระประเภทนั้น นั่นก็คือเจ้าภาพจะ ทำการสร้างโบสถ์ราคาเป็นล้าน ช่างก็ไปแล้ว เข็มเขิมไปแล้วเสร็จ งานสร้างโบสถ์หลังนั้นถูกงด คือไม่มีการสร้างต่อไป เจ้าภาพท่านตัดสินใจว่า ส่วนใดที่เสีย เสียแล้วเสียไป แต่ของใหม่ไม่ให้ ก็คือบอกเลิกการก่อสร้างพระอุโบสถกับช่าง แล้วในการต่อมาทราบว่าเงินมูลนิธิสิบล้าน ที่ท่านจะให้ ท่านก็ถอนใจไม่ยอมให้เสียเลย เอาเงินจำนวนนี้ไปก่อสร้างถาวรวัตถุใหม่ที่อื่น คือเป็นศาลาการเปรียญที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ กับวัดอะไรอีกวัดหนึ่งที่ เจ้าคุณวิเชียรไปเป็นเจ้าอาวาส เป็นอันว่าพระคณะนั้นที่มีความมุ่งมาด อยากจะได้ ทรัพย์สินประมาณสักสิบล้านบาทมูลนิธิ ก็ไม่ได้ แต่ก่อนที่ไม่ได้นั่นน่ะมันมีอย่างนี้อีก คือท่านเจ้าภาพมาบอกให้ผมฟัง บอกว่า พระวัดนั้นนั่นแหละ ที่เป็นวัดของท่านสร้างให้ เมื่อท่านถอน อ้าเมื่อท่าน เรียกว่าในระยะแรกที่เป็นการตกลงว่า ใครต้องเป็นเจ้าอาวาสกันมาแล้ว หลังจากนั้นงานเสร็จผ่านไป ก็มาขออนุญาต เงินที่เขาฝากไว้ที่ธนาคารใด ธนาคารหนึ่ง จะขอย้ายจากธนาคารนี้ไปธนาคารโน้น อันนี้ผมก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมจะต้องการแบบนั้น มาทราบจากเจ้าหน้าที่ธนาคารคนหนึ่งบอกว่า ถ้าย้ายเงินจากธนาคารนี้ไปธนาคารโน้น มันได้อะไรค่าคอมมิชชั่น ค่ารางวัลอะไรก็ไม่ทราบ ได้เงินเป็นกรณีพิเศษ ก็อย่างนั้น ผมก็ไม่รู้.. เป็นอันว่าเงินสิบล้าน ท่านเจ้าภาพก็ไม่ให้ ในการก่อสร้างต่อไปท่านเจ้าภาพท่านก็ไม่สร้าง แล้วเจ้าภาพก็ตัดญาติขาดมิตร กับพระคณะนั้นทั้งหมด ส่วนที่เสียไปแล้วกี่ล้าน บอกให้ผ่านไป แต่เรื่องใหม่ไม่มี นี่ไอ้เรื่องอย่างนี้นี่เราพูดกันถึงเรื่องของโทสะ ผมคิดว่าถ้าท่านทั้งหลายไปโดนเข้าแบบผม ดีไม่ดีท่านจะมานึกคิดว่า ที่เขานิมนต์เรามานี่งานวางศิลาฤกษ์ ถ้าเราไม่มาเราก็จะอาย และก็จะเสียกำลังใจ ดีไม่ดี จะไปโกรธเขา ถ้าหากอาการอย่างนั้นปรากฏล่ะก็ ทำใจให้สบาย แล้วก็จงเตรียมตัวเตรียมใจไว้ตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไป ว่าอาการอย่างที่ผมพูดมานี่ แล้วก็อาการอีกตั้งหลายอย่าง ท่านทั้งหลายที่ยังมีชีวิตจะต้องผ่านไปอีกมาก จะต้องประสพพบเห็น และอาจจะได้กะตัวเองของท่าน ถ้าอาการอย่างนั้นปรากฏ ถ้ามีใครเขามานิมนต์ไปก็ดี เชิญไปในกิจการงานอย่างใดอย่างหนึ่งก็ดี ขอให้ไปตามหน้าที่ของพระ ทำใจให้สบายๆ คิดว่างานนี้เขาให้เราทำ เราก็ทำ ถ้าไปแล้วเขาไม่ให้เราทำเราก็ไม่ทำ อย่าทำกำลังใจให้มันเสีย อย่าไปโกรธคนนั้น อย่าไปคิดว่าคนนี้ ถ้าไปโดนอาการอย่างนั้นขึ้น ก็อย่าไปคิดว่าเขาหักหน้าเรา ความจริงหน้าเราใครหักไม่ได้ หักไม่ลงหรอก มันแข็ง มีกระดูก เราก็ควรจะปรารถพระธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าโลกนี้มันไม่เที่ยง คนก็ไม่เที่ยง วัตถุก็ไม่เที่ยง อารมณ์ก็ไม่เที่ยง ถ้าอาการอย่างนั้นเกิดขึ้นกับเรา เราก็ควรจะเกิดสังเวชใจ สงสารเขา ว่าเขาผู้นั้นไม่น่าจะเสียสัจจะ เขาผู้นั้นไม่น่าจะทิ้งจริยาของพระสงฆ์ ในพระพุทธศาสนา ก็การอยากเป็นเจ้าอาวาส การอยากเป็นรองเจ้าอาวาส นี่มันเป็นเรื่องของความโลภในยศ มันไม่ใช่ของดี แล้วอีกประการหนึ่ง การไปยืนหยัดให้ บังคับให้การสร้างพระอุโบสถเป็นไปไม่ได้ นี่เป็นการทำลายทรัพย์สินของพระพุทธเจ้า ทำลายศรัทธา เราควรจะสงสารเขา ว่าเขาทำตัวผิด ไม่ใช่สงสารเรา และก็ควรจะสงสาร ท่านเจ้าของทรัพย์ว่าพระถมเถไป กรรมอะไรของท่านหนอ ที่ไปเจอะเอาพระ[^_^]แบบนี้เข้า นี่เป็นอันว่าทำให้ใจท่านเศร้าหมอง แต่ต่อมาผมก็พยายาม ประโลมให้ใจท่านสบาย และก็ควรจะสงสารท่านผู้ใหญ่ ท่านที่เป็นผู้ปกครอง ที่ลูกศิษย์ของท่าน หักหน้าท่าน ไม่ใช่หักหน้าเรา ทำเอาท่านเสียกำลังใจจนเห็นชัด นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัท และพระโยคาวจรทั้งหลาย ตอนนี้องค์สมเด็จพระจอมไตร เล่าเรื่องความโกรธ ผมเลยเอาเรื่องของความโกรธมาพูด ว่าพระพุทธเจ้าถูกความว่า พระพุทธเจ้าก็ไม่โกรธ ไอ้ความจริงผมไม่ใช่พระพุทธเจ้า วันนั้นไม่ทราบว่ากำลังใจมายังไง มันเฉยๆ ปกติ ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลย เมื่อเขาค้าน ผมก็ดีใจ บอกไม่ต้องทำงาน แต่อีตอนที่เขาไปยื้อแย่งตำแหน่งเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส กันนี่สิ ผมอายแทนเหลือเกิน ในฐานะที่เป็นพระเหมือนกัน และก็สงสารท่านเจ้าภาพ ว่าท่านลงทุนขนาดนั้น ยังไม่มีคนรักท่าน มีคนทำลาท่าน สงสารท่านเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ในฐานะที่เป็นเจ้าอาวาสด้วย เป็นพระราชาคณะด้วย เป็นเจ้าคณะตรวจการภาคด้วย แต่ลูกศิษย์ของท่านไปทำอย่างนั้น น่าสงสารมาก.....เอาล่ะต่อจากนี้ไป ขอบรรดาท่านทั้งหลาย จงพยายามรักษากำลังใจ เตรียมตัวเตรียมใจไว้อย่างนี้ ว่าถูกใครเขาขัดคอขัดใจ ที่ไม่ประกอบด้วยเหตุผล ก็อย่าทำกำลังใจของตนให้มันขึ้นๆลงๆ วางใจเป็นอุเบกขา ที่เรียกว่า สังขารุเปกขาญาณ จิตใจของท่านจะมีความสุข เพราะถ้าเราโกรธ ใจเราทุกข์ ใจเราเร่าร้อน ถ้าเราไม่โกรธ ใจสบาย จากคุณ : อัสสุชลแห่งตารา - [ 11 พ.ค. 52 21:46:30 ]

ความคิดเห็นที่ 100 หลวงพ่อฤาษีลิงดำให้ความเคารพต่อหลวงพ่อสดมาก แต่ไม่เคยกล่าวถึง “วัดพระธรรมกายเลย” ยกเว้นข้อความต่อไปนี้ http://www.qvvo.com/link/f5b40ece เสียงที่ต้องการครับ จากคุณ : อัสสุชลแห่งตารา - [ 11 พ.ค. 52 21:47:54 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ขอบคุณ ท่านอัสสุชลแห่งตารา จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 21:53:35 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ไม่มี ก็กลับเป็นมี ใช่หรือไม่ ย ยิ้มแย้ม? จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 21:58:20 ]

ความคิดเห็นที่ 103 คุณยิ้มแย้ม จะเล่นอะไรก็อย่าให้เลยเถิด หลักฐานจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านสมาชิกก็ยกมาแล้ว ท่านอย่าแถกไถไปเลย ถ้าท่านตอบได้หมด กล้าหรือไม่ว่าที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำกล่าวนั้นเป็นเท็จ หือ? จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 22:03:17 ]

ความคิดเห็นที่ 104 คุณคิดหรือ ว่าผมจะกล่าวร้ายหลวงพ่อสดท่าน? ฝันกลางวันแสกๆ แถมฝนตกฟ้าคำรามด้วย มันคุ้มหรือที่คุณทำอย่างนี้ครับ? จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 22:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 105 พัดที่สาม กลับไป!!! จากคุณ : JitZungkabuai - [ 11 พ.ค. 52 22:09:44 ]

ความคิดเห็นที่ 106 คดห.100 เปิดลิ้งไม่ได้ เปิดเสียงยังไงครับ จากคุณ : ผู้เห็น - [ 11 พ.ค. 52 22:23:00 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เรียนท่าน อัสสุชลแห่งตารา เสียงที่ท่านให้มานั้น เปิดไม่ได้น่ะครับ มัน 404 Not found อนุโมทนาสำหรับถอดเทศน์ของท่านนะครับ อ่านดูแล้วก็นะ ผมไม่เคยได้อ่านเทศน์ของท่านครับ ผมเคารพหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาก ดังนั้นจึงไม่ขอโต้เถียงในข้อนี้ ถ้าได้ยินเสียงท่านเอง ก็จะเชื่อ 100% ว่ากรณีวัดฯ สมควรตำหนิจริง สรุปหลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ตำหนิพระองค์นั้น ระดับพระอภิญญาอย่างท่าน คงได้แต่ตอบท่านจิตว่า หลวงพ่อท่านตำหนิจากเรื่องจริงครับผม แต่ผมก็ยังไม่เห็นไฟล์เสียงนะ ตอบท่านจิตล่วงหน้าก่อนนะครับ ได้ยินไฟล์เสียงจากหลวงพ่อเมื่อไร ก็ตามนั้น ตอบท่าน in_my_metal ผมว่าก็ไม่น่าจะวิปลาสนะครับ คนที่ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าก็น่าจะเป็นคนที่มีเจตนาดีนี่ครับ อย่างไรก็ตาม จนกว่ากระทู้จะตกไป ผมก็จะยังช่วยหลวงพ่ออยู่นะครับ ถามมาละกัน เรียนท่าน แมงกุ๊ดจี่...ท่านก็เชื่อในสิ่งที่ถูกที่ควรแล้วครับ ส่วนเรื่องชี้นกเป็นไม้ ชี้ไม้เป็นนกเนี่ย ผมก็เห็นหลวงพ่อพูดอะไร ๆ ไว้ชัดเจนตามนั้นนะครับ เพื่อเปิดทางให้ลูกศิษย์ของท่าน แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 22:30:58 จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 22:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ท่าน ย ยิ้มแย้ม เอากรณีของพระพุทธเจ้าสมณโคดม ไปเทียบกับพระอาจารย์ท่านได้อย่างไร? ครั้ง ที่พระพุทธเจ้าสมณโคดมทรงเป็นพระโพธิสัตว์ได้ปฏิบัติธรรมที่ได้ฟังจากพระ พุทธเจ้า จนจิตแก่รอบ (1) จิตพร้อมที่จะบรรลุอรหันต์ในวันนั้น แต่จิตใจที่มีความเมตตากลับพลิกไปสู่พุทธภูมิ (ไม่ยอมบรรลุ) และเมื่อได้พบกับพระพุทธเจ้า(ในพระชาตินั้นเอง) (2) พระองค์ก็ได้ตั้งจิตอธิษฐานหลังใส่บาตรกับพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นหยั่งรู้ถึงกระแสจิต และ(3) ทำนายไว้ว่าพระองค์จะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในกาลต่อมมา ดังนั้นไม่ใช่ใครที่อยากจะได้พุทธภูมิก็อธิษฐานเอาๆ แล้วพระอาจารย์ของท่านเข้าเกณฑ์กี่ข้อหรือครับ??? ขนาด พระพุทธเจ้าสมณโคดมครั้งยังทรงเป็นพระโพธิสัตว์ยังต้องคลำผิดคลำถูกอยู่นาน บางครั้งก็พลาดพลั้งไปเป็นพรหมบ้าง เดรัจฉานบ้าง ลองบำเพ็ญบารมีต่างๆไปเรื่อยๆ จนพระชาติสุดท้ายจึงจะพบทาง แต่ท่านกล่าวว่าพระอาจารย์ของท่านจะ "บำเพ็ญบารมีที่สวรรค์ที ที่โลกมนุษย์ที" สลับไปมา ฟังดูแล้วพระอาจารย์ของท่านท่าทางจะเก่งกว่าพระพุทธเจ้าเสียอีก เพราะปรารถนาภูมิใดก็ได้ แถมยังตระเตรียมสาวกส่วนตัวไว้หลายแสนอีก ผม ข้องใจในประเด็นที่ท่านประกาศกับสาวกของท่านว่าท่านปรารถนาจะเป็น "พระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย" ? ซึ่งอย่างน้อยผมเห็นว่าไม่สมควร และไม่มีความจำเป็นใดๆทั้งสิ้นที่จะทำเช่นนี้ อย่าว่าถึงขนาดเป็นพระพุทธเจ้าเลยครับ หากมีพระมาประกาศว่า "ฉันจะเป็นพระอรหันต์" ผมก็ว่าไม่สมควร หรือท่านเห็นต่างประการใด? แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 23:18:05 จากคุณ : 44SFA1 เอ๋า ท่าน 44SFA1 ก็คนเขาอธิษฐานจะเป็นพระพุทธเจ้าก็จะเอาไปเทียบกับใครล่ะครับ ก็ต้องเทียบกับพระพุทธเจ้าสิ และก็ต้องเทียบกันองค์ปัจจุบันก็เพราะมีหลักฐานในตำรากล่าวไว้ละเอียดที่สุดเนอะ ^^ เรื่องพระโพธิสัตว์ ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะทำนายพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ก็ต้องมีการอธิษฐานจิตก่อนว่าฉันจะเป็นพระพุทธเจ้ามิใช่เหรอครับผม ถ้าไม่เริ่มจากการอธิษฐานจะเริ่มจากตรงไหนล่ะ และพระสมณโคดมในสิบชาติสุดท้าย ท่านก็จุติมาเพื่อนบำเพ็ญปรมัตถบารมีโดยเฉพาะเลยไม่ใช่เหรอครับ มิใช่คลำทาง ผมไม่มีเจโตนะ ว่าหลวงพ่อไปได้พระพุทธเจ้าองค์ใดในชาติก่อนบ้าง ทราบเพียงว่า หลวงพ่อปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย ปรารถนาน่ะครับ และจะพยายามเดินไปให้ถึง เหมือนกับท่านปรารถนาจะเรียนให้จบด๊อกเต้อ และก็พยายามพากเพียรเรียนไปฉะนั้น ส่วนในประเด็น เรื่อง ถ้ามีพระประกาศว่า ฉันจะเป็นพระอรหันต์ เออ ก็ดีซิ อนุโมทนา เพื่อนผมมันก็บอกว่า Gu จะต้องเป็นโสดาบันในชาตินี้เป็นอย่างต่ำ ปิดทางอบาย ผมก็อนุโมทนา เอางี้ ผมปรารถนาจะเกิดมาในชาตินี้ชาติสุดท้าย ท่าน 44SFA1 อนุโมทนาผมรึเปล่าครับ แต่ถ้ามีพระมาประกาศว่าฉันเป็นอรหันต์แล้วนี่สิแปลก ๆ ส่วนพระฝ่ายมหายานและวัชรญาณท่านก็ปรารถนาพุทธภูมิกันก็มาก ก็บำเพ็ญกันไปเพื่อจะเป็นพระพุทธเจ้าโปรดสัตว์ แต่หลวงพ่อนี่บอกเลยว่า พระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย ผมว่าไม่แปลกนะ แต่ผมไม่รอด้วยน่ะครับ อย่างผมได้นานสุดก็แค่เจอพระศรีอาริย์เท่านั้น อย่างเร็วก็ขอภายในเจ็ดวัน (ปฏิบัติเอกายนมรรค สติปัฏฐานเข้ม ๆ ไปเลย) มันขึ้นอยู่กะว่า คุณจะไปกับหลวงพ่อด้วยรึเปล่าตะหากเล่า แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 23:35:26 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 23:34:24 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 23:09:22 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 23:00:14 จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 11 พ.ค. 52 22:58:30 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ท่าน ย ยิ้มแย้ม เอากรณีของพระพุทธเจ้าสมณโคดม ไปเทียบกับพระอาจารย์ท่านได้อย่างไร? ครั้งที่พระพุทธเจ้าสมณโคดมทรงเป็นพระโพธิสัตว์ได้ปฏิบัติธรรมที่ได้ฟังจากพระพุทธเจ้า จนจิตแก่รอบ (1) จิตพร้อมที่จะบรรลุอรหันต์ในวันนั้น แต่จิตใจที่มีความเมตตากลับพลิกไปสู่พุทธภูมิ (ไม่ยอมบรรลุ) และเมื่อได้พบกับพระพุทธเจ้า(ในพระชาตินั้นเอง) (2) พระองค์ก็ได้ตั้งจิตอธิษฐานหลังใส่บาตรกับพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นหยั่งรู้ถึงกระแสจิต และ(3) ทำนายไว้ว่าพระองค์จะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในกาลต่อมมา ดังนั้นไม่ใช่ใครที่อยากจะได้พุทธภูมิก็อธิษฐานเอาๆ แล้วพระอาจารย์ของท่านเข้าเกณฑ์กี่ข้อหรือครับ??? ขนาดพระพุทธเจ้าสมณโคดมครั้งยังทรงเป็นพระโพธิสัตว์ยังต้องคลำผิดคลำถูกอยู่นาน บางครั้งก็พลาดพลั้งไปเป็นพรหมบ้าง เดรัจฉานบ้าง ลองบำเพ็ญบารมีต่างๆไปเรื่อยๆ จนพระชาติสุดท้ายจึงจะพบทาง แต่ท่านกล่าวว่าพระอาจารย์ของท่านจะ "บำเพ็ญบารมีที่สวรรค์ที ที่โลกมนุษย์ที" สลับไปมา ฟังดูแล้วพระอาจารย์ของท่านท่าทางจะเก่งกว่าพระพุทธเจ้าเสียอีก เพราะปรารถนาภูมิใดก็ได้ แถมยังตระเตรียมสาวกส่วนตัวไว้หลายแสนอีก ผมข้องใจในประเด็นที่ท่านประกาศกับสาวกของท่านว่าท่านปรารถนาจะเป็น "พระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย" ? ซึ่งอย่างน้อยผมเห็นว่าไม่สมควร และไม่มีความจำเป็นใดๆทั้งสิ้นที่จะทำเช่นนี้ อย่าว่าถึงขนาดเป็นพระพุทธเจ้าเลยครับ หากมีพระมาประกาศว่า "ฉันจะเป็นพระอรหันต์" ผมก็ว่าไม่สมควร หรือท่านเห็นต่างประการใด? แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 23:18:05 จากคุณ : 44SFA1 - [ 11 พ.ค. 52 23:16:42 ]

ความคิดเห็นที่ 110 เมื่อหลวงพ่อคุณย.ยิ้มแย้ม  รู้ว่า พระพุทธองค์ตรัสว่า ..นิพพานว่า คือ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่งโมหะ แต่กลับ ไม่ ยอมรับ พุทโธวาทนั้น คุณย.ยิ้มแย้ม  จะเข้าว่า หลวงพ่อคุณย.ยิ้มแย้ม เป็นภิกษุ แบบ ดื้อรั้น อวดดี มีมานะ ไหมครับ ...........คำถามที่ ๒ ความคิดเห็นที่ 82   ตอบท่านเซนครับ คำถามที่สองก่อนนะ...หลวงพ่อท่านก็มีมานะในระดับหนึ่งนะครับ เพราะจากพระลิขิตแล้ว คงไม่มีใครกล้าฝ่าฝืนได้ แต่หลวงพ่อก็ฝ่าฝืนเพื่อที่จะบำเพ็ญสมณเพศ บำเพ็ญบารมีอย่างหนัก เพื่อเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายครับผม แต่ผมไม่ทราบนะ ว่าทำไมท่านถึงไม่สึก แต่ชาวธรรมกายก็ไม่ยี่หระอะไรนะ เพราะเห็นว่าท่านบำเพ็ญประโยชน์เยอะมากกกกกก ประเด็น.....เพื่อเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายครับผม .... ข้อความนี้ ขัดกับ ที่ตอบว่า ความคิดเห็นที่ 20   ตอบคุณเซนเถรวาทครับ หลวงพ่อ ก็คง จะบวชเหมือนกับภิกษุรูปอื่น ๆ นั่นล่ะครับ อาศัย ธรรมของพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ส่วนคำขานนาค ผมก็ไม่ทราบว่าท่านขึ้นต้นว่าอะไร คิดว่าท่านบวชแบบฝ่ายมหานิกายนะ ก็ต้องขึ้นต้นด้วย อุกาสะสิ สรุป คุณย.ยิ้มแย้ม  เมื่อเสนอว่า...ผมว่าผมแก้ต่างให้ธรรมกายได้ทุกข้อนะ การแก้ต่าง แก้ไม่ได้ ทุกข้อ คุณย.ยิ้มแย้ม  จึงสมควร พิจารณาตัวเองว่า ควรทำอย่างไร? เกี่ยวกับ ภิกษุรูปนั้น ที่เป็นหลวงพ่อของ คุณย.ยิ้มแย้ม แล้ว ปลื้ม คุณย.ยิ้มแย้ม ที่ แสดงให้ เห็น ด้วย ข้อความที่เสนอว่า ทั้งคุณคุณย.ยิ้มแย้ม  และหลวงพ่อนั้น  เป็นอย่างไร? สรุปว่า (๑) วาทะกรรม เช่นที่ปรากฎ ในกระทู้นี้ นั้น  ไม่ถูกฝาถูกตัว ชนิดที่ วิญญูชนปัญญาชน ควรรู้ว่า ควรทำอย่างไร กับ บุคคล ที่มี วาทะกรรมเช่นที่ปรากฎ (๒) วาทะกรรม ชนิดนี้ หวังผล อะไรบ้าง เช่น ทำให้ กระทู้ธรรมกาย ยังคงปรากฎใน ห้องนี้ หรือ ฯลฯ (๓) วาทะกรรม เช่นนี้ ไม่สมควรที่ วิญญูชนปัญญาชน จะให้ ความสนใจ  เฉกเช่น อดีตนายก ที่ต่างชาติไม่ให้น้ำหนัก อีกต่อไป ฯลฯ ....ไม่มีคำถามอะไรอีก เท่าที่ถาม ก็เพียงพอแล้ว ที่จะทำให้ เห็นเห็นว่า อะไรเป็นอะไร? หมายเหตุ ไม่มีพระพุทธวจนะพระสูตรไหน ในพระไตรปิฎกเถรวาท ที่ทั้งคณะธรรมยุติ และ คณะมหานิกายไทย เคารพ ฯลฯ ....ตรัสสอนให้ สาวก มี ราคะ มีตัณหา มีอุปาทาน คือ ...อยากเป็นพระพุทธเจ้า เพราะ อวิชชา เป็นปัจจัย จึงมี ตัณหา อุปาทาน ดังนั้น ... ผู้ใด ใครก็ตาม ที่ กล่าวว่า ....เพื่อเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายครับผม  ต่อจาก ใครใดนั้น จึงเป็น เรื่อง "หลอกลวงปุถุชนที่ศึกษาพระพุทธวจนะไม่เพียงพอ" ..... ทั้งนี้เพราะ พระบรมศาสดา ทรงเป็น ศาสดาไม่มีกำมือของอาจารย์  คือไม่ทรงปิดบังธรรมไรๆ พระเถระครั้งปฐมสังคายนา จึงไม่มี มุขปาฐะ พระสูตร ว่า.... ..ตรัสสอนให้ สาวกพุทธบริษัท มีราคะ มีตัณหา มีอุปาทาน คือ ...อยากเป็นพระพุทธเจ้า โบราณมีคำว่า "กินบนเรือน อย่าขี่บนหลังคา" .....ขอให้ช่วยกันพิจารณาว่า โบราณท่านหมายความอย่างไร? จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) - [ 12 พ.ค. 52 00:19:58 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ถามคุณ ย.ยิ้มแย้มบ้างค่ะ คุณย.ยิ้มแย้มมีความเห็นยังไง ถ้าหลวงพ่อ และวัดพระธรรมกาย จะแยกไปเป็นอีกนิกายหนึ่งต่างหากที่ไม่ใช่เถรวาท เพราะแม้แต่พระลิขิต หลวงพ่อก็ฝ่าฝืนได้ เพื่อปณิธานคืออยากเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย ซึ่ง ค.ห.ข้างบน กล่าวแล้วว่า ไม่มีพระพุทธวจนะพระสูตรไหน ในพระไตรปิฎกเถรวาท ที่ทั้งคณะธรรมยุติ และ คณะมหานิกายไทย เคารพ ฯลฯ ....ตรัสสอนให้ สาวก มี ราคะ มีตัณหา มีอุปาทาน คือ ...อยากเป็นพระพุทธเจ้า และพระลิขิตนั้นก็เป็นของประธานสูงสุดของคณะสงฆ์ฝ่ายเถรวาทของไทย คุณ ย.ยิ้มแย้ม เห็นด้วยหรือไม่ว่า ถ้าวัดพระธรรมกายแยกไปเป็นอีกลัทธินิกายต่างหาก ที่ไม่ใช่เถรวาทแล้ว จะตัดปัญหาการถกเถียงกันทั้งในด้านหลักธรรม ความเชื่อ การขายบุญ หรือวัตถุสิ่งก่อสร้างต่างๆ ได้หมดเลยทีเดียว เพียงแต่ว่า เมื่อแยกไปแล้ว ต้องไม่แสดงตัวว่าเป็นเถรวาทแบบพระสงฆ์มหานิกายและธรรมยุติของไทย หรือเป็นตัวแทนคณะสงฆ์ไทยไปทำกิจกรรมต่างๆ ในระดับโลกอย่างที่ทำอยู่ ให้เน้นว่าเป็นอีกลัทธินิกายหนึ่งที่เกิดขึ้นในเมืองไทยเท่านั้นน่ะค่ะ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 12 พ.ค. 52 01:25:40 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ถาม คุณ ย.ยิ้มแย้ม 1.ทักกี้เป็นศิษย์ ที่หลวงพ่อปลื้มหรือเปล่า 2.ทักกี้ปลื้มหลวงพ่อขนาดสมัยเป็นนายกใช้อํานาจซิกแซ็ก และล๊อปบี้เถรสมาคมให้บวชใหม่ได้    ทั้งๆที่เคยปราชิกจริงรึเปล่า 3.ใครวางแผนการตลาดให้ทางวัด 4.ทางวัดมีแผนจะครอบวัดเล็กทั้วประเทศเพื่ออะไร แค่เพิ่มมูลค้าสินค้า(บุญ)เวลามีพระมารวมกันเยอะๆ   ดูหน้าเชื่อถือ หรือคิดขยายตลาดลงรากหญ้า หรือคิดไกลกว่านั้น มีแผนยังไง 5.ในวัดใช้นักจิตวิทยาบ้างรึเปล่า เคยอ่านกระทู้ของน้องคนนึงบอกว่าเวลาทําสมาธิ    มีคนกอกหู ให้ทําบุญ ๆๆๆ เหมือนสะกดจิต แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 01:36:12 จากคุณ : Yogi Playgirl - [ 12 พ.ค. 52 01:35:04 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ตอบท่านเซนเถรวาทครับ ถ้าเช่นนั้นแล้วการตอบคำถามแทนหลวงพ่อ ทำให้ท่านตัดสินผมว่า ผมไม่สามารถแก้ต่างแทนธรรมกายได้ ท่านเซนถามแบบใด ผมก็ได้ตอบไปแบบนั้น ซึ่งคิดว่าน่าจะตรงประเด็นที่สุดแล้ว ดังนั้นแล้ว ผมจึงต้องขอขมาหลวงพ่อ ชาวธรรมกาย ท่านเซน และท่านที่เกี่ยวข้องมา ณ ที่นี้ด้วยครับผม จากข้อสรุปของท่านเซน ถ้าจะให้ถูกฝาถูกตัว มิควรให้ความสนใจ และมิควรให้ปรากฎ ผมก็ขอชวนเชิญให้จิ้มไฟแดงเอานะครับ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ส่วนท่านอื่น ๆ ก็กดมันต่อไป เพื่อลบสิ่งที่ท่านคิดว่าไม่สมควรออกจากกระทู้ แต่ถ้าหากยังมีคนถามคำถามอีก ผมพร้อมที่จะแก้ต่างให้หลวงพ่อ ถือว่าทำบุญใหญ่น่ะครับ ปล. แต่ผมก็ไม่เข้าใจนะว่า ท่านตัดสินอย่างไรว่าคห. ที่ 82 ขัดแย้งกับความเห็นที่ 20 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 02:21:10 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 02:09:12 จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 12 พ.ค. 52 02:06:22 ]

ความคิดเห็นที่ 114 เรียน คุณหนอน ผมว่าถ้าแยกแบบคุณหนอนว่าแล้ว ลดความขัดแย้งได้ก็โอเคนะครับ แต่มันจะเป็นไปตามที่คุณหนอนตัดสินแน่เหรอครับ เมื่อแยกไปแล้ว ต้องไม่แสดงตัวว่าเป็นเถรวาทแบบพระสงฆ์มหานิกายและธรรมยุติของไทย หรือเป็นตัวแทนคณะสงฆ์ไทยไปทำกิจกรรมต่างๆ ในระดับโลกอย่างที่ทำอยู่ ให้เน้นว่าเป็นอีกลัทธินิกายหนึ่งที่เกิดขึ้นในเมืองไทยเท่านั้นน่ะค่ะ ในเมื่อวัดธรรมกายเขามีศักยภาพมากขนาดนั้น เราห้ามได้เหรอครับ เรียนคุณ Yogi Playgirl 1. ก็เป็นคนที่หลวงพ่อปลื้มครับ แต่ไม่ใช่ลูกศิษย์และลูกหา 2. เรื่องนี้ไม่ทราบนะครับ ว่าแต่ข่าวปาราชิกของหลวงพ่อ มันตั้งนานมากแล้วไม่ใช่เหรอครับ จำได้ว่าประมาณปี 2541 น่ะครับ สมัยไหนหว่า ไม่เกี่ยวกับทักกี้นี่ครับ 3. ใช้คำว่าแผนการตลาดคงไม่ดีมั้ง เรียกว่ากุศโลบายของหลวงพ่อดีกว่า หลวงพ่อเป็นคนวางกุศโลบายนี้ครับผม 4. ทางวัดมิได้ครอบวัดเล็กนี่ครับ วัดเล็กก็ยังเป็นวัดเล็ก ๆ ต่อไปนี่ครับ ผมก็ชอบไปวัดเล็ก ๆ นะ ไม่เห็นมีธรรมกายนี่ครับ 5. คิดว่าไม่ใช้นะครับ ผมไม่ค่อยถูกจริตกับการทำสมาธิแบบธรรมกายเท่าไร เลยพูดไม่ได้มากนะครับ จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 12 พ.ค. 52 02:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 115 บทสรุปสำหรับ ท่านเซนเถรวาท คือ ผมไม่สามารถแก้ต่างให้หลวงพ่อได้ ผมต้องขอขมาหลวงพ่อและท่านเซนด้วยละกัน เฉพาะความเห็น ปล. ถ้าใครจะฟันธงไปแบบนี้ ผมก็พร้อมที่จะยอมรับนะครับ เพราะผมถือว่าได้ทำหน้าที่ให้หลวงพ่ออย่างดีแล้ว จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 12 พ.ค. 52 02:18:51 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ไปฟังเสียงหลวงพ่อฤๅษีลิงดำเทศน์เล่าเรื่องอาจารย์วรณี สุนทรเวช กับกรณีวัดวรณีย์ธรรมกายารามดูสิครับ เป็นไฟล์เสียงของหลวงพ่อฤาษีลิงดำเองเลยนะครับ เริ่มประมาณนาทีที่ 4 ฟังและอ่านเทียบเคียงกับการถอดเทปที่มีคนถ่ายทอดเป็นตัวอักษรไว้แล้วข้างต้นไปด้วย http://luangpor.com/audio/SaveTheWorld/18_1B_Pakinaka.mp3 แล้วท่านจะรู้ว่า พระบัณฑิตจากเกษตร ปรารถนา อ ภิ ญ ญ า  มาตั้งแต่ปี 2517 พอปี 2541-2 ก็สร้างปรากฏการณ์ “อัศจรรย์ตะวันแก้ว” ขึ้นที่คลอง 3 รังสิต เครดิตให้  คุณ mr.poj จากกระทู้ Y6366486 ข้อเท็จจริงกรณี ล็อกอิน จันทร์กลางใจ และ AYXC แอบอ้างสถาบันฯ ...... !!!!!! http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2008/02/Y6366486/Y6366486.html#205 และคุณ กะหล่ำปลีลวกกินกับขนมจีนน้ำยา   จากกระทู้  Y6632829 แท้จริงแล้ว “มหาลดาปสาธน์” ก็คือชุดเจ้าสาวของมหาอุบาสิกาวิสาขา http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2008/05/Y6632829/Y6632829.html#580 หวังว่า คุณ ย.ยิ้มแย้มได้ฟังแล้ว คงจะตอบได้นะครับว่า จะเลือกเชื่อใครดี ระหว่าง หลวงพ่อธัมมชโย ของคุณ ย.ยิ้มแย้ม และชาวธรรมกายทั้งหลาย กับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และเพื่อนสมาชิกทั้งหลายล่ะครับ  จะเลือกเชื่อใครดี  ระหว่าง สานุศิษย์ธัมมชโย กับหลวงพ่อฤาษีลิงดำ จากคุณ : ทวนทอง - [ 12 พ.ค. 52 02:24:42 ]

ความคิดเห็นที่ 117 คุณ ย.ยิ้มแย้ม  เห็นโวว่าหลวงพ่อ (ของคุณ แต่ไม่ใช่ของเรา)  ปลื้ม  งั้นฝากกระซิบให้หน่อยสิคะ  ว่าช่วยดูแลเรื่องการใช้ภาษาของลูกศิษย์ลูกหาบ้าง  ภาษาไทยสวยงามอยู่แล้วค่ะ  อย่าไปทำให้มันผิดเพี้ยนเหมือนที่กระทำในเรื่อง อัตตา และ อนัตตา เลยค่ะ ========= ความคิดเห็นที่ 26   บัดนี้ข้อเท็จจริงในการเผยแพร่คำสอนปรากฏจาก อธิการบดีกรมศาสนา ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เลขาธิการมหาเถระสมาคม และ เจ้าคณะภาค 1 ว่า ปัจจุบันจำเลยที่ 1 กับพวกได้เผยแผ่พระพุทธศาสนาตรงตามพระไตรปิฎก และนโยบายของคณะสงฆ์ ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้เป็นที่ยอมรับทั่วไปทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งได้ให้ความร่วมมือช่วยเหลือกิจการของศาสนา ทั้งของคณะสงฆ์ ภาครัฐ และเอกชนจำนวนมาก ตรงนี้เชื่อสุดๆ เรยคับ จากคุณ : นศ.วิชาชีวิต =========== เรยคับ  ===>  เลยครับ จากคุณ : Smiling-girl - [ 12 พ.ค. 52 02:30:31 ]

ความคิดเห็นที่ 118 เรียนท่านทวนทอง เป็นเสียงของหลวงพ่อฤาษีลิงดำจริงครับ ดังนั้น ก็เป็นสิ่งที่น่าละอายครับ ถ้าหลวงพ่อฤาษีลิงดำกล่าวไว้เช่นนั้น ต้องขอโทษชาวธรรมกายด้วยจริง ๆ ครับ เรื่องกรณีวัด ผมคงไม่โต้แย้งอะไร แต่ยังไง นั่นก็เป็นอดีตที่น่าตำหนิ ส่วนปัจจุบันก็ขอให้ทำความดีกันต่อไปครับ ผมยังยืนยันเหมือนเดิม ว่าตราบเท่าที่กระทู้ยังไม่ตก ก็จะแก้ต่างให้หลวงพ่อไปเรื่อย ๆ เป็นบุญใหญ่ จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 12 พ.ค. 52 02:33:59 ]

ความคิดเห็นที่ 119 เรียนท่าน Smiling-girl, เรียนท่าน นศ.วิชาชีวิต ขอเตือนเรื่องการใช้ภาษาไทยครับ เรย -> เลย ก้อ -> ก็ คับ -> ครับ เปง -> เป็น ใช้ผิดกันบ่อย ผมไม่ปลื้มครับ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 02:37:46 จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 12 พ.ค. 52 02:35:57 ]

ความคิดเห็นที่ 120 สงสัย คุณ ย.ยิ้มแย้ม จะตามแก้ ตามตอบคำถาม จนเบลอ หรือ ง่วงนอน เรามิได้ขอให้คุณเตือนนะคะ   แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 02:59:33 จากคุณ : Smiling-girl - [ 12 พ.ค. 52 02:46:06 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ตามพระธรรมวินัย เมื่อพระภิกษุสงฆ์ล่วงอาบัติ ปาราชิก 4 แล้วจะขาดจากการเป็นพระทันทีที่ล่วงละเมิด  ไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้ และต่อกรณีธัมมชโยเพิกเฉยเย็นชาต่อพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกในอันที่จะคืนทรัพย์สินให้กับวัดพระธรรมกายมาตั้งแต่ ปี 2542 ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมาจวบจนกระทั้งปี 2549 นับเป็นการแสดงเจตจำนง ยืนยันในการยักยอกทรัพย์ของวัดพระธรรมกายตามพระลิขิตของพระองค์ท่าน  นับเป็นการยอมรับสถานะปาราชิกครั้งแรก จากคุณ : ทวนทอง - [ 12 พ.ค. 52 03:37:12 ]

ความคิดเห็นที่ 122 และยอมจำนนต่อคดียักยอกทรัพย์วัดพระธรรมกาย ด้วยการโอนทรัพย์สินคืนให้กับวัดพระธรรมกายตามหลักฐานการร้องขอให้อัยการยื่นขอถอนฟ้องนั้น  นับเป็นยอมรับสถานะปาราชิกครั้งที่สอง ท่านธัมมชโยได้ยอมรับสถานะการยักยอกทรัพย์ของวัดพระธรรมกายไปจริง ถึง 2 ครั้ง  อันเป็นการยอมรับสถานะปาราชิกถึง 2 หน อย่างนี้  คุณ ย.ยิ้มแย้มยังจะยอมรับนับถือธัมมชโยเป็นพระภิกษุอีกหรือไม่ ? Y4808472 ธรรมกาย กับ กรณีถอนฟ้องหลังจากคืนเงินยักยอกวัดไป 900 กว่าล้าน http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2006/10/Y4808472/Y4808472.html จากคุณ : ทวนทอง - [ 12 พ.ค. 52 03:39:58 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ตอบท่านทวนทอง ไม่ค่อยมีใครอ่านที่ผมพิมพ์ข้างบนเท่าไร ผมสงสัยมานานแล้ว เรื่องพระลิขิต แต่ชาวธรรมกายก็ไม่มีใครให้คำตอบผมได้เช่นกัน เขาว่าเป็นการเข้าใจผิดกัน แต่ตอนนั้นผมก็บ้าฟังเทศน์ของพระพยอม อ่านหนังสือท่าน ป.ปยุตต์มาก ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจนักว่าภาพข้างนอกกับภาพที่เกิดภายในวัดทำไมมันถึงขัดกันนัก แล้วผมก็สงสัยมากด้วยว่า หลวงพ่อท่านฝ่าฝืนพระลิขิตได้อย่างไร พวกคุณไม่สงสัยบ้างหรือ สมมติเป็นหลวงพี่ทวน ท่านก็คงจะสึกไปแล้วอย่างเร็วไว ผมไม่เข้าใจ ทำไมพระลิขิตถึงไม่มีผลต่อหลวงพ่อล่ะ และหากมีผล ทำไมหลวงพ่อถึงยังลอยนวลอยู่ได้เล่า แล้วมหาเถระ หรือใครก็ตามในประเทศทำอะไรไม่ได้เลยหรือ ถ้าหลวงพ่อต้องปาราชิกและพระลิขิตทรงเป็นผลเด็ดขาด ท่านไม่ลอยนวลให้ประชาชนเรือนแสนมาวัดหรอก แถมนับวันยิ่งมากันเยอะด้วย ท่านทวนดูอย่างพระยันตระ หรือสมี อะไรก็ตามสิ สึกแล้วหมดกันเลยนะ ไม่เหลืออะไรเลย อย่างไรก็ตามผมก็เคารพในสิ่งที่หลวงพ่อได้กล่าวไว้ จึงไม่ขอล่วงเกิน และถ้าถามผมตามด้านบน ผมก็คงต้องตอบว่า ท่านก็เป็นพระรูปหนึ่งครับ และที่ตั้งกระทู้มานี่ ก็เพราะเข้าใจในกุศโลบายและคำสอนของหลวงพ่อทั้งหมด เห็นว่าโต๊ะเดือด ๆ ก็ตั้งกระทู้หวังว่าจะได้ตอบสิ่งที่ท่านสงสัยในคำสอนของหลวงพ่อน่ะครับ แต่ไม่ค่อยอยากจะพิมพ์ยาว พิมพ์ไปก็ไม่มีใครอ่านเท่าไรหรอก แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 05:32:35 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 03:57:18 จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 12 พ.ค. 52 03:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 124 อดทนกันถึงตีสามกว่า สงสารน้องเขาจริงๆ ตอนนี้คงหลับไปแล้ว ดูแล้วก็น่าปลื้มแทนหลวงพ่อ และชาววัดจริงๆ นะครับ สู้จน ชาวกระทู้ ยอมแพ้ ไปนอนกันหลายคน สุดท้ายทุกคนนอนกันหมดแล้ว ผมจะบอกอะไรให้ ชาววัด จะรักหลวงพ่อของเขา ยิ่งกว่า พ่อบังเกิดเกล้าอีกครับ และรักพระพุทธเจ้าในอนาคต องค์นี้  (ของเขา ) ยิ่งกว่าพระองค์ใด เพราะเขาเชื่อว่า พระองค์นี้แหละครับ มีบารมียิ่งกว่าพระองค์ใด อดทนกว่า ยอมทุกอย่าง เพื่อรื้อวัฏฏะ นะครับ พระลิขิต เขาก็ยอมรับ แต่บอกว่า หลวงพ่อ ยอมฝ่าฝืน เพื่อสร้างบารมี เออ ดูสิ  มุขนี้ ตะลึงตึงตึงไปตามกันเลย ดังนั้น ไม่ต้องไปไล่เขากลับไป หรอกครับ คุณ จิต คุณ เซน ฟังเขาตอบ เราจะได้รู้มากขึ้น และให้ความรู้เขา เขาก็จะได้รู้มากขึ้น ไว้ ให้ตื่นก่อน และผมว่าง ผมจะถามให้เอง ตอนนี้ในฐานะรุ่นพี่ ผมว่ายกนี้น้องเขาชนะใจนะ ขอให้หลับให้สบาย มีแรง ไว้สร้างบารมีต่อในวันพรุ่งนี้นะครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 12 พ.ค. 52 06:02:39 ]

ความคิดเห็นที่ 125 อึ้ง........ จากคุณ : Hualon - [ 12 พ.ค. 52 06:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ตอนนี้ในฐานะรุ่นพี่ ผมว่ายกนี้น้องเขาชนะใจนะ ขอให้หลับให้สบาย มีแรง ไว้สร้างบารมีต่อในวันพรุ่งนี้นะครับ ทิ้งคำถามไว้ให้น้อง ลองตอบดู ตื่นมาจะได้มีการบ้าน คำถามมีสั้นๆว่า น้องรู้ไหมว่า ทำไม วัดดีถึงเพียงนี้ จึงมีคนต่อต้านเยอะ น้อง และชาววัด และหลวงพ่อ คิดอย่างไร เข้าใจเรื่องนี้ว่าอย่างไร ไม่ต้องรีบร้อนนะครับ ค่อยๆ พยายามตอบมาให้กว้างและมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 12 พ.ค. 52 06:05:58 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ผมสงสัยครับ ขอถามละกัน ถ้าตอนนี้ในโลกมีชาวพุทธซัก 2000 ล้านคน แล้วเกิดมีซัก 5 คน อธิฐานจิตว่า อยากจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย แล้วองค์สุดท้ายนี่มีได้ 5 เลยหรือเปล่า (สุดท้ายทั้ง 5 หรือเปล่า) ถ้ามีได้แค่ 1 แสดงว่า อีก 4 พร้อมด้วยสาวก ไปไหนครับ ถ้าอธิฐานว่า จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่เท่าไรก็ได้ ตรรกะก็ยังน่าจะเป็นไปได้ คิดไม่ออก ที่สุดท้ายนี่จะแบ่งกันยังไง ปล.ขอชมพฤติกรรมการตอบ ที่ไม่หัวชนฝา ปล่อยให้ชาวบ้านเป็นผู้ตัดสินเอาเอง แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 06:59:00 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 06:56:15 จากคุณ : Hualon - [ 12 พ.ค. 52 06:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 128 คำถามง่ายๆ ครับ คุณ Hualon ผมตอบแทนได้เลย น้องเขาจะตอบว่า เรื่องนี้ผมก็ไม่ทราบครับ รู้แต่ว่า หลวงพ่อ จะเป็นก็แล้วกัน คุณก็จะอึ้งกิมกี่ ผสม โค้วยู่ฮะ ไป หึหึ อันทีจริง ผมทราบมาว่า พระแม่กวนอิม ก็จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายเช่นกันนะครับ แต่เรื่องนี้เป็นปัญหาของ พระพุทธเจ้าในอนาคตท่านนู่น ไม่ใช่ปํญหาของเรา จริงมั้ยน้อง อันนี้แอบมาช่วยนะนี่ เห็นว่า ยังหลับอยู่ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 07:26:13 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 07:24:30 จากคุณ : จักรแก้ว - [ 12 พ.ค. 52 07:24:05 ]

ความคิดเห็นที่ 129 สนุกดี ผมว่ากระทู้นี้ไม่เคลียดและไม่ปวดหัวดีครับ ได้ความรู้ถึงแนวคิดของคนที่หลวงพ่อปลื้ม ถ้ากระทู้ยาววววววววววววมากน่าจะแยกประเด็นไปบ้างนะครับ ถามคุณย.ยิ้มแย้ม บ้าง........ ตอนนี้คนที่หลวงพ่อปลื้มมากกกกๆๆๆมีซักคนครับ พี่เผด็จนี่หลวงพ่อปลื้มมากใหมครับ.......... จากคุณ : ทิคัมพร (sueki) - [ 12 พ.ค. 52 08:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 130 ผมนับถือความมั่นคงต่อ "ความเชื่อ" ตามแนว "ธรรมกาย" ของพวกท่านมาก และทั้งคุณจักรแก้ว และคุณ ย ยิ้ม แย้มก็ได้พยายามตอบคำถามด้วยความใจเย็น แม้จะมองหาเห็นผลอันเป็นรูปธรรม หรือความสมเหตุสมผลได้ไม่มากก็ตามที ต้องขออภัยที่ผมได้จงใจยิงคำถามด้วยคำพูดแรงๆ ด้วยหวังว่าข้อบกพร่องทางความคิดความเชื่อที่พวกท่านเชื่อๆกันจะเป็นที่ปรากฏ และทำความเข้าใจกัน ทั้งนี้ผมไม่ได้หมายความว่าผมมีความเข้าใจถูกทุกประการ เพียงแต่บางประการถ้าไม่พูดคุยกันจะกลายเป็นปัญหา/ความเชื่อผิดๆให้กับชาวพุทธต่อไป ดังนั้นจึงต้องมาคุยกันบ้าง อย่างไรก็ตามผมยังยืนยันว่าการที่ใครออกมาประกาศว่าตนจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง หรือจะเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง แล้วเที่ยวสร้างศรัทธา/เชิญชวน/โน้มเน้าหมู่ชนให้ทำสิ่งนั้นทำสิ่งนี้ แม้จะเป็นไปเพื่อพระพุทธศาสนา แต่ดูอย่างไรเหตุผลของท่านก็ฟังไม่ขึ้น เพราะมันไม่เหมาะสมเลย การกล่าวว่า "ข้าพเจ้าจะเป็นพระอรหันต์ในชาตินั้นนี้" นั้นมี 2 แบบครับ 1. หมายความว่า "ข้าพเจ้าเป็นผู้เที่ยงต่อนิพพาน ข้าพเจ้ามีญานหยั่งรู้ คาดเดามรรคผลนิพพานของตนได้" ท่านเห็นว่าอย่างไร? 2. หมายความว่า "ข้าพเจ้าอยากเป็นพระอรหันต์ในชาตินั้นนี้ เพื่อ..." จุดประสงค์ที่ละไว้คืออะไร เพื่อบำเพ็ญบารมีช่วยเหลือหมู่สัตว์ก่อน(สาธุ)อย่างนั้นหรือ? (พระอรหันต์ก็ต้องบำเพ็ญบารมี) ผมไม่อาจวางใจเชื่อได้ว่าพระโพธิสัตว์องค์ใดจะปรารถนาปลายสังสารวัฏที่หาไม่เจอเป็นพุทธภูมิ แม้กระทั่งความเชื่อเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรในพบกันในหนังสือปัจจุบัน เรียกได้ว่าร้อยละ 80 เป็นการแต่งเติมด้วยศรัทธาของผู้นับถือเองทั้งสิ้น (แม้กระทั่งประวัติการประสูติยังไม่ตรงกัน) แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 08:50:09 จากคุณ : 44SFA1 - [ 12 พ.ค. 52 08:48:30 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ขอชื่นชมจิตใจที่เป็นกุศลของคุณ ย.ยิ้มแย้มครับ :) จากคุณ : mammord072 - [ 12 พ.ค. 52 08:55:28 ]

ความคิดเห็นที่ 132 เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณต่อคุณ ย ยิ้มแย้ม ผมคงไม่มีอะไรให้นอกจากธรรมะการปฏิบัติที่พระอาจารย์ปราโมทย์ประมวลจากครูบาอาจารย์หลายๆท่าน http://www.ideaforlife.net/dhamma/sound/pramote/book.html (ช่วยโปรโมทเว็บใหม่) เห็นว่าท่านจะไม่รอหลวงพ่อฯ ผมก็ขออนุโมทนาครับ จากคุณ : 44SFA1 - [ 12 พ.ค. 52 08:56:55 ]

ความคิดเห็นที่ 133 เอามาฝาก คุณแย้มยิ้ม คห 123 เปิดอ่านให้ได้นะจ๊ะ http://oldforum.serithai.net/index.php?topic=34881.0 http://rabob.tripod.com/daily179.htm แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 09:14:13 จากคุณ : dcm - [ 12 พ.ค. 52 09:12:37 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ใน คคห123 ทำไมถึงยังลอยนวลอยู่ได้.. เหมือนของเน่าล่องลอยอยู่เพื่อส่งกลิ่นปานนั้น.. จากคุณ : zakai - [ 12 พ.ค. 52 09:43:29 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ไม่มีอะไร "ฝ่าฝืนพระลิขิตสังฆราช" แค่ "บกพร่องโดยสุจริต" พูดหน้าตาเฉย แบบนี้ยังสู้คนมี ศีล 5 ยังไม่ได้เลย  ยังคิดเป็นพระพุทธเจ้า คงมีพระพุทธเจ้าองค์ไหนยอมพยากรณ์ให้เป็นหรอกนะ ในห้องนี้หลายๆคนยังน่าจะเป็นได้มากกว่าด้วยซ้ำ ปัญญาชาววัดธรรมกายมีแค่นี้จริงๆหรือ เสียเงินทองมากมาย ยังต้องรับมิจฉาทิฐิถาวรอย่างหน้าชื่นตาบานซะอีก  ออกมาโต้แย้งแก้ตัวแทนให้ทั้งๆที่รู้ว่าปกป้องคนที่ทำผิดอยู่อีก ไม่รู้ว่าจะสงสาร จะปลง จะสลดสังเวช อย่างไรดีจริงๆ คงอีกนานๆๆๆๆ จริงนั่นแหละ เพราะแม้ตัวอาจารย์เองยังไม่รู้จะระหกระเหินอยู่ที่ไหนต่อไปในอนาคตเลย คุณ ย.ยิ้มแย้ม คงเป็นคนวงในใกล้ชิดกับหลวงพ่อจริงๆ เพราะบริจาคเงินให้วัดจำนวนไม่ใช่มาก แต่เป็นมหาศาลเลยแหละ หลวงพ่อเลยปลื้มเป็นพิเศษ อย่างคุณ. นศ. วิชาชีวิตหรือ คุณ โชติช่วง นะหมดสิทธิ แต่คงฝึกธรรมกายไม่ได้ เลยไม่ถูกอัดวิชา ผมดูผมว่าแกไม่โกหกในเรื่องอัดวิชาว่าไม่รู้เรื่องหรอก ไม่อยากพูดแต่ก็ขอพูด วิชชาธรรมกายนี้ยิ่งฝึก กายสว่างขึ้น กายใหญ่ขึ้น อัตตาก็ใหญ่ขึ้น ปัญญาก็มืดลง มืดลง ไม่ควรฝึกและไม่ควรแนะนำให้ใครฝึก สมถะมีมากมายให้เลือก ผลของสมถะที่ถูกต้องก็คล้ายๆกันหมดนั่นแหละ วิชชาธรรมกายไม่มีในกรรมฐาน 40 กองที่พระพุทธเจ้าทรงแนะนำไว้ สมถะทุกอย่างไม่ใช่ว่าจะดี อย่าพยายามเทียบเคียงยัดเยียดลงในกรรมฐาน 40 กองเลย ใช่ วิชชาธรรมกาย เป็น สมาธิชนิดหนึ่ง แต่ไม่ใช่สมาธิที่ดี ที่เพื่อความลดกิเลส เพื่อความพ้นทุกข์ ไม่ใช่สมาธิแบบพุทธ ฝึกไปจะมีอาการ กูใหญ่เต็มโลก สังฆราชหรือ พระพุทธเจ้าหรือ ใครหน้าไหนก็แน่สู้กูไม่ได้ กูจะป้องโลก ครองจักรวาล เพ้อฝันแบบไม่มีสติ แถมเชื่อจริงๆจังๆซะอีก ฝึกแล้วจะมีผู้หลุดออกมาแต่ละคนก็แสนยาก น่ากลัวมากๆ คุณ ย.ยิ้มแย้มเองและชาววัดธรรมกายส่วนมากจะมีตรรกกะว่า กูจะเป็นแบบนี้ จะเอาแบบนี้แหละ แบบหน้าตาเฉย อยู่บ่อยๆ ไม่สนว่าความจริงเป็นอย่างไร อันนี้จริงหรือไม่ ลองพิจารณาดู จากคุณ : ผู้เห็น - [ 12 พ.ค. 52 09:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 137    ขอบคุณ คุณอัสสุชลแห่งตารา   ที่ทำให้ผมได้เห็นได้อ่านเป็นครั้งแรก ที่เป็นคำของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ.    คุณ ย. ยิ้มแย้ม ถามตอบอย่างนี้ก็เป็นเรื่องดีครับ แต่ชาวธรรมกายบางส่วนไม่ยอมทำความเข้าใจ บางส่วนก็ไม่เข้าใจ เพราะยังติดอยู่ตรง อัตตา (เป็นอัตตาพวกเดียวกัน)     ดังนั้นจึงขอชี้ให้เห็นในแนวคิดของผมว่า          ท่านทั้งหลายที่หลงเชื่อ ที่เข้าใจว่าเป็นความศรัทธาต่อท่านธัมมชโย อย่างยึดมั่นและถือมั่นจะติดตามไปโดยตลอด ก็จะไม่ยอมพลิกสติปัญญาเพื่อธรรมอันเป็นปัจจุบ้นของพระพุทธเจ้านามว่าพระสมนโคดม เพื่อประโยชน์เพื่อความสุขแก่ตนเอง ก็ย่อมทำให้เสียโอกาสอันดีเลิศนั้น(ทั้งการบรรลุธรรม ถ้ายังไม่บรรลุก็เป็นการสร้างสมบารมีที่ถูกต้องสมบูรณ์)ไปเปล่าๆ ชาติหนึ่ง          แต่โดยธรรมชาติแล้ว ย่อมไม่เที่ยง ย่อมยึดมั่นถือมั่นไม่ได้ คือตกอยู่ในไตรลักษณ์นั้นเอง ดังนั้นแม้แต่ความหลงเชื่อ ที่เข้าใจว่าเป็นความศรัทธาต่อท่านธัมมชโยอย่างมั่นคงแล้ว ก็ย่อมตกอยู่ในธรรมชาตินั้น ในวาระต่อไปหรือภพชาติต่อๆ ไป  แต่วาระปัจจุบันหรือชาติปัจจุบันนี้ได้เสียโอกาสไปเสียแล้วจากธรรมอันถูกต้องของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน.         ผู้ที่กระทำผิดธรรมหรือศีลธรรม แต่หวังจะได้รับผลแห่งธรรมหรือศีลธรรมอันมีฐานะเป็นกุศลนั้นในภายหน้า ย่อมเป็นผู้หวังหรือไขว่คว้าแต่ความว่างเปล่าเท่านั้น. แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 11:57:59 จากคุณ : P_vicha - [ 12 พ.ค. 52 11:53:21 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ขอถามแบบชาวบ้านหน่อยนะครับ 1. ช่วยแจกแจงรายรับ รายจ่ายของธรรมกายเดือน เม.ย ให้ทราบหน่อยครับ 2. รายรับทั้งหมด เข้าบัญชีธนาคาร ในชื่อใครบ้างครับ 3. ช่วยบอกกิจวัตรประจำวันของ ธัมมชโย ด้วยครับ (ตื่นนอนจนเข้านอน) ขอบคุณครับ จากคุณ : Seeing - [ 12 พ.ค. 52 12:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ตอนนี้กระทู้เริ่มเฉื่อยไปแล้ว ผมเองก็คงจะเฉื่อยบ้างเช่นกันนะครับ ตอบท่าน Hualon ผมน่ะคิดเหมือนท่านเดี๊ยะเลยครับ เคยได้ศึกษาทางวัชรญาณมาบ้าง ได้ความว่า พระโพธิสัตว์สายนั้นมีไม่น้อยที่จะบำเพ็ญบารมีเป็นพระพุทธเจ้าองค์ศุดท้าย ดังนั้นผมเชื่อมั่นว่าไม่ใช่มีแต่หลวงพ่อเป็นแน่ที่อธิษฐานเช่นนั้น แต่พระพุทธเจ้าผมเข้าใจว่ามีเพียงหนึ่งต่อหนึ่งยุค ตรรกะของหลวงพ่อจะเป็นไปได้ ก็ต่อเมือ ในยุคนั้นจะมีพระพุทธเจ้ามากมายก่ายกอง ซึ่งขัดกับพุทธวจนะ แต่ก็เป็นไปได้นะ ถ้าจะคิด แต่ผมไม่เอาด้วยน่ะครับ อีกอย่างเป็นพุทธวิสัย และผมก็ไม่ได้รอหลวงพ่อจึงจะต้องมานั่งกังวล ....................................................................................................... ตอบท่าน44SFA1 ขอบคุณครับที่เข้าใจแนวคิด จริง ๆ ที่ผมจะแก้ต่างมันก็มีเท่านี้เอง ผิดถูกแล้วแต่วิจารณญาณ ผมเองไม่ได้มั่นคงต่อหลวงพ่อเลยครับ ไม่มีใครอ่านเอง ผมพิมพ์ไปไม่รู้กี่ความเห็นแล้ว ส่วนเวบหลวงพ่อปราโมทย์ผมอนุโมทนานะครับ แต่ผมฟังเทศน์ของท่านมาก่อนหน้านั้นแล้วล่ะ ....................................................................................................... ตอบท่านผู้เห็น ผมเป็นคนที่หลวงพ่อปลื้มมาก ๆ น่ะครับ แต่มีปัญหาในการฝึกวิชาธรรมกายอย่างมาก เรื่องอัดธรรมกายขอโทษด้วยผมไม่อาจตอบได้ แต่ท่านตอบผมได้ไหมล่ะ ว่าเขาอัดกันบนดอยไหน อัดกันทำไม อัดกันเพื่ออะไร ท่านเคยไปอัดกับเขาหรือเปล่า ผมเองไม่รู้และไม่คิดอยากจะรู้อีก เพราะผมก็จะต้องแยกทางจากหลวงพ่อเหมือนกัน ตรรกะของท่านมันจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่วิจารณญาณท่านนะ แต่ที่คุณวิจารณ์มามันก็โอเค แต่ถ้ามันเลวร้ายจริง พวกท่านควรจะทำอะไรซักอย่าง ผมก็ขอติพวกท่าน ว่าแค่วัดวัดเดียวทำไมถึงไม่มีศักยภาพในการจัดการกันเล่าครับ ....................................................................................................... ตอบท่าน P_vicha ผมมาแค่ตอบคำถามแก้ต่างให้หลวงพ่อนะครับ ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงชาวธรรมกายได้ เพราะเห็นว่าหลวงพ่อถูกกล่าวถึงในทางที่ไม่ดีในนี้มาก เลยจะช่วยเท่าที่จะช่วยได้ ....................................................................................................... ตอบท่าน zakai ก็เหมือนกับที่ท่านว่าไว้ ของเน่าลอยอยู่ไฉนไม่มีคนตักออก มีแต่คนบอก อี๋เน่า อี๋เน่า ....................................................................................................... ขอบคุณ ท่านmammord072 มา ณ ที่นี้ด้วยครับ จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 12 พ.ค. 52 15:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 140 ขอบคุณ ท่าน dcm มากนะครับ แต่คงไม่โกรธกันถ้าผมจะบอกว่า การที่พวกท่านมาแปะข่าวอะไรเนี่ย มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ชาวธรรมกายก็ยังจะศรัทธาเหมือนเดิม คนที่อยู่นอกวัดตะหาก ที่จิตใจเต็มไปด้วยความไม่พอใจ หากจะแก้ปัญหาก็น่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้ ผมไม่ได้แยกทางกับหลวงพ่อเพราะว่าผมได้อ่านข่าวที่ไม่ดีของหลวงพ่อ แต่ผมกลับแยกทางกับหลวงพ่อ เพราะได้อ่าน มหาสติปัฏฐานสูตรในพระไตรปิฏกเล่ม 10 นะครับ กับ หนังสืออานาปานสติ ของพระอาจารย์มิตซูโอะ ซึ่งไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับธรรมกายนะครับ อยากให้ท่านเอาไปพิจารณาด้วย ไหน ๆ ก็พูดมาแล้ว จริง ๆ ผมมีหน้าที่แก้ต่างให้หลวงพ่อเท่านั้น ไม่ใช่หน้าที่ตำหนิใคร แต่ประโยคมันมาไป งั้นก็ขอตำหนิหลาย ๆ ท่านมา ณ ที่นี้เลยว่า การบำเพ็ญประโยชน์แต่เจือด้วยอุปกิเลสทั้ง 16 ไม่ได้ผลหรอกครับ ฝึกดูอุปกิเลส ดูจิต ที่ คห 132 นะครับ หลวงพ่อปราโมทย์ให้แนวทางไว้ดีมาก อันนี้ผมขอตำหนิโดยรวมนะครับ ไม่ได้ตำหนิแค่ท่าน dcm นะ เรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน ผมรู้ดี จากต้นกระทู้ยันปลายกระทู้น่าจะรู้นะครับ ว่าผมโดนไปมากมายก่ายกองเท่าไร ตอบท่าน ทิคัมพร (sueki) คนที่ใกล้ชิดและหลวงพ่อปลื้มมาก ๆ แบบข้าพเจ้านี่มีซัก 12 คน จริง ๆ หลวงพ่อก็ปลื้มลูกศิษย์หมดแหละ แต่บางคนเห็นแต่ลูกแก้วแต่ไม่สงบเย็นลง อันนี้หลวงพ่อท่านไม่ปลื้มน่ะครับ ....................................................................................................... ผมขอโทษท่าน Seeing ด้วยที่ผมไม่ได้ใกล้ชิดกับคนที่จัดการเรื่องเงินนะครับ ลูกศิษย์ท่านเป็นคนจัดการ หากท่านอยากทราบ เข้าไปตรวจสอบในวัดได้นะครับไม่ว่ากัน กิจวัตรประจำวันของหลวงพ่อ ตื่นมา เอาคร่าว ๆ นะ คือ ท่านก็มีทำวัตรเช้า วัตรเย็น เหมือนทั่ว ๆ ไปน่ะครับ แต่เรื่องงานวัด ท่านจะต้องเรียกลูกศิษย์เข้าพบอยู่ตลอด เพื่อพิจารณาความเรียบร้อยในวัด ซึ่งใหญ่มาก แต่หลวงพ่อก็จัดการได้นะครับ และท่านคิดกุศลกรรมหรือกุศโลบายอะไรได้ ท่านก็จะเรียกลูกศิษย์เข้ามาปรึกษา และเสนอสิ่งนั้น หากเห็นด้วยก็เป็นอันว่าทำได้ และท่านก็ยังจะต้องมาเทศน์ทุก ๆ วันในตอนเย็น และสอนวิชชาธรรมกายแก่ญาติโยมหลังจากนั้นครับ มีอะไรไม่เคลียร์รึเปล่าเอ่ย จะได้ตอบเพิ่ม แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 16:22:03 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 16:20:54 จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 12 พ.ค. 52 16:01:12 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ชื่นชม และนับถือ  คุณ  ย.ยิ้มแย้มในบางเรื่องครับ จากคุณ : goddance - [ 12 พ.ค. 52 16:06:45 ]

ความคิดเห็นที่ 142 ตอบท่าน ทิฆัมพรครับ กระทู้นี้กระทู้เดียวเท่านั้นครับ ตกลงกันไว้อย่างนี้ พี่เผด็จเพิ่งโดนชาวบ้านเขาตำหนิเอาเรื่องบุญนี่ครับ (รึเปล่า) ไปทำอย่างไรให้เขาตำหนิได้ ไม่ปลื้มน่ะครับ ตอบพี่จักรแก้ว รู้สึกทำหน้าที่ไม่ค่อยดีเลยนะ ชาวบอร์ดไม่ค่อยพอใจเท่าไร ฮะ ๆๆ หนีหายกันไปหมด แต่ทำเท่าที่ทำได้นะครับ น้องรู้ไหมว่า ทำไม วัดดีถึงเพียงนี้ จึงมีคนต่อต้านเยอะ น้อง และชาววัด และหลวงพ่อ คิดอย่างไร เข้าใจเรื่องนี้ว่าอย่างไร ไม่ขอตอบตรง ๆ นะ แต่จะเล่าเรื่องไรให้ฟัง คือลิงมันไม่ชอบกะปิ เวลาชาวบ้านจะแกล้งลิงเขาก็เอามือทากะปิ ลิงยิ่งไม่ชอบมันก็ยิ่งดม มันก็ยิ่งเกลียด และมันก็เอามือไปถู ๆๆ กับเปลือกไม้จนเลือดออก และมันก็ดมอีก มันไม่ชอบ มันก็เอามือไปถู ๆๆ อีกทั้งที่เลือดออกอยู่แล้ว คนหลายคนก็เหมือนกัน ฟัง ๆ กันมาแล้วไม่ชอบ ก็พยายามจะโจมตีให้อารมณ์มันพล่งพล่านก็เท่านั้น วัดก็อยู่ส่วนวัด หลวงพ่อ ชาววัด และผมก็ไม่เคยจะใส่ใจอะไร เรื่องอัดธรรมกาย ชาวบอร์ดก็ไม่มีใครตอบผมได้ มีแต่คำตอบที่เจือไปด้วยอุปกิเลส และมีใครบ้างที่รู้ทุกด้าน คนที่ว่าเคยไปวัดกันหรือไม่ ที่ต่อต้านกันเยอะเพราะกระแสมันเยอะก็แค่นั้น แต่เราก็ต้องยอมรับกันนะครับว่า วัดพระธรรมกายมีอะไรแปลก ๆ อยู่หลายอย่าง ซึ่งชาววัดเองชอบทำไม่รู้ไม่ชี้หาเหตุผลกันและเราก็มักจะตอบคำถามเบี่ยงประเด็นพวกนี้เสมอ ๆ แต่ผมก็ทราบแล้วล่ะว่าการตอบให้ตรงประเด็น ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ผมค่อนข้างมั่นใจนะ เพราะการตอบคำถามในครั้งนี้เป็นการตอบอย่างเดียวและไม่มีการเถียงแต่อย่างใด ผมถึงบอกไงว่าหลวงพ่อปลื้มกับการที่ผมมาแก้ต่างให้ครั้งนี้มาก และมันจะเป็นกรณีศึกษาให้กับหลวงพ่อและชาววัดได้ ก็โอเคน่ะ ได้รับอะไรไปหลายอย่าง บางประโยคผมก็พิมพ์ซ้ำ ๆ มาตอบนั่นล่ะ เพราะคงไม่มีใครเขาอ่านกัน คงจะลากปรี๊ดและก็แสดงความเห็นไปเลย บางท่านก็ต้องการเพียงแค่จะหักล้าง และก็อุปโลกกันไปเลยว่าผมร่วงแล้วผมแพ้แล้ว ก็ประหลาดดี แต่ที่แน่ ๆ ผมพอเข้าใจ ปริยัติวิปัสนูกิเลส แบบที่หลวงพ่อชาท่านว่าแล้วล่ะพี่ ว่ามันทำให้มนุษย์โง่มากถึงมากที่สุดได้ และอันตรายกว่าสิ่งใด ๆ ผมยังเชื่อว่า พระศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันจะยืนยงไปได้ถึง 5,000 ปีแน่นอน แม้จะมี หรือไม่มีหลวงพ่อก็ตาม ถ้าทางสายเอกจะมีคนเดินอยู่ตลอด แต่ศาสนานั้นจะหมดไปจากเมืองไทยรึเปล่านั่นอีกเรื่อง ไม่เกี่ยวกับโลก เพราะจากกระทู้นี้ทำให้ได้เห็นศักยภาพของชาวพุทธไทย และได้เห็นคุณธรรมในตัวบุคคลอย่างแท้จริง แต่ก็นะ คนเรามักแสดงออกใน cyberspace กับโลกแห่งความเป็นจริงคนละแบบกัน .............................................................................................................. ขอบคุณท่าน goddance มา ณ ที่นี้ด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 16:18:59 จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 12 พ.ค. 52 16:17:22 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ผมมาปิดท้ายให้ ขอให้น้องเจริญในธรรมนะครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 12 พ.ค. 52 16:35:56 ]

ความคิดเห็นที่ 144 คุณ ย.ยิ้มแย้ม แม้เป็นคนใกล้ชิด แต่อย่างไรก็ไม่ใช่ชาววัดธรรมกายโดยตรง คุณมาตอบคำถาม แต่ไม่ได้ตอบปัญหา แต่อย่างไรคุณก็มีความอดกลั้นดีมาก ถ้าเป็นชาววัดจริงๆก็น่าจะทำให้ชาวบอร์ดนี้มองชาววัดดีขึ้นแยอะ ชาวบอร์ดไม่มีหน้าที่ไปจัดการอะไรกับวัด แค่เห็นว่าแนวการสอนไหน  ดูแล้วน่าจะภัยต่อศาสนา ก็ช่วยกันออกมาเตือน ออกมาป้องกันเท่านั้น ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้หรอก คุณ ย.ยิ้มแย้ม คิดว่าชาวบอร์ดอคติกับทางวัดอย่างไม่มีเหตุผลหรือ ในเมื่อคุณเองก็พูดว่าชาววัดมีพฤติกรรม ความเชื่อ แปลกๆ ที่อธิบายไม่ได้ เมื่อมาเผยแพร่ พอสงสยแล้วถาม คำตอบที่ได้ อ่านแล้วยิ่ง งง ยิ่งรับกันไม่ได้ เพราะตรรกกะ มันแปลกจริงๆ บางทีก็ชอบเอานรกมาขู่เค้าบ่อยๆ เหมือนชอบมาบอกว่าให้ถาม แต่ถามไม่ถูกใจ หรือ ตอบไม่ได้ ก็ขู่โน้นนี่ไปเรื่อย อย่างไร คุณก็ทำหน้าที่ได้ดีพอควรทีเดียว ผมเองก็เชื่อว่าวัดธรรมกายน่าจะอยู่แค่หมดรุ่นหลวงพ่อของคุณ แล้วจะค่อยๆเสื่อมไปเอง แต่เพื่อความไม่ประมาท ผมก็ต้องแย้งคำสอนต่อไป เพื่อประโยชน์ของชาวพุทธจำนวนมากต่อไป ไม่ใชเพื่อความสะใจส่วนตัวหรือแค้นเคืองใคร คุณปกป้องหลวงพ่อ ผมก็ปกป้องพุทธศาสนา ส่วนตัวผมก็โอเคก็คุณนะ จากคุณ : ผู้เห็น - [ 12 พ.ค. 52 17:13:06 ]

ความคิดเห็นที่ 145 พอดีแวะมาอีกที แต่วันนี้แวะมาบ่อยไม่ได้นะครับ คงนั่งเฝ้ากระทู้แบบเมื่อวานไม่ได้ คุยกับท่านผู้เห็นเป็นการส่วนตัวนิดนะครับ นอกรอบ มากกว่าการแก้ต่าง จะแอบบอกว่า ผมรู้สึกดีจริง ๆ กับ log in นี้ ผมก็คิดว่าในคำถามมันมีปัญหาให้ตอบนะครับ เอางี้ดีกว่า ผมบอกเลยว่า ผมมาเคลียร์ปัญหาให้ถูกใจใครไม่ได้ น่าจะโอเคนะครับ ยอมรับครับ ว่าตอนนี้ไม่ได้เป็นชาววัด แต่ถ้าท่านอ่าน ๆ มา คงเข้าใจนะ ว่าอะไรเป็นอะไร ส่วนเรื่องชาวบอร์ดผมก็ขอสนับสนุนให้ท่านทำความดีกันต่อไปนะครับ ประเด็นของผมคือ ที่ทำไป มันเจือไปด้วยอุปกิเลส 16 รึเปล่า ทก ๆ คนมีเหตุผลของตัวเองน่ะครับ และมักจะมีอีโก้ว่า เหตุผลของตัวเองถูกเสมอ การที่แย้งคำสอนนั้นมันน่าจะมีผลลัพธ์อะไรที่เป็นรูปเป็นร่างดีกว่าการที่ทะเลาะกันในที่สุดมิใช่หรอครับ เช่น อาจทำให้ใครคนใดคนหนึ่งมีทิฎฐิที่เปลี่ยนไปบ้างก็ยังดี และอย่างครั้งนี้ผมก็เห็นประโยชน์ว่า บางคนก็ได้ทราบแล้วว่าชาวธรรมกายคิดแบบนี้ และผมก็ยังคิดว่า ท่านผู้เห็น กับพี่จักรแก้ว เป็นกัลยาณมิตรด้วย เวลามาแอบอ่าน ก็จะได้มาทักทายกัน และก็เห็นจริง ๆ จัง ๆ ว่าบุคคลใดมีความคิดเห็นประกอบไปด้วยอคติ ได้เห็นสาว ๆ ในห้องศาสนาที่มีความเห็นกุ๊กกิ๊กน่ารักและความหวังดี ได้ใช้กระทู้นี้ไปเป็นกรณีศึกษาแก่หลวงพ่อและชาววัด แต่กระทู้อื่นล่ะครับ อย่างเช่น กระทู้ พระลิขิตนี่เป็นของจริงมั้ยฟระ แหกตาดูซะ นศ.วิชาชีวิต หรือกระทู้วิชาการโชติช่วงชัชวาลเป็นต้น ท่านเห็นประโยชน์จากกระทู้นี้ไหมครับ ท่านผู้เห็นคงเข้าใจเจตนาของกระผมนะครับ ผมเองก็ขอตำหนิเลยนะครับว่า การเอานรกมาขู่เนี่ย มันเป็นเรื่องที่หลวงพ่อเองก็ไม่่ปลื้ม แต่เป็นเรื่องของบุคคลนะครับ เหมือนแมวที่พองขนฉะนั้น ผมเองยังไม่เอานรกมาขู่ใครเลยนะครับ เช็คในกระทู้นี้ได้ เพราะใจท่านโน้มไปทางไหน ท่านก็ไปทางนั้นนั่นแหละ กระทู้นี้ถ้าอ่านดูท่านจะเห็นเลยว่า ผมไม่ได้ออกมาปกป้องหลวงพ่ออะไรมากมายนัก เพียงแต่อยากจะทำความเข้าใจ แม้ว่าสิ่งที่ผมจะตอบคำถามหรือปัญหาออกไปอาจจะทำให้แต่ละท่านยิ่งส่ายหัว แต่มันก็คือ ธรรมกาย น่ะครับ ส่วนชาวบอร์ดจะมีอคติเรื่องใดนั้น อยู่เหนือวิสัยความคิดผมน่ะครับ เห็นคำตอบหลาย ๆ ความเห็นแล้วก็นะ ทุกคนไม่ได้เหมือนท่านผู้เห็นนี่ครับ ผมเห็นประโยคของท่านผู้เห็นถึงขนาดต้องมาคุยต่อเลยนะ พารากราฟก่อนรองสุดท้าย ผมจะบอกเลยนะครับว่า ธรรมกาย และหลวงพ่อไม่มีอะไรให้ปกป้อง ศาสนาเองก็ไม่มีอะไรให้ปกป้อง ท่านเชื่อรึเปล่าครับ ว่า "ศาสนาพุทธจะอยู่ได้ถึง 5,000 ปี แต่อีก 50-100 ปีข้างหน้าจะหมดไปจากประเทศไทย และอารยธรรมธรรมกายจักล่มสลายในอีก 50 ปีนี้" ตอนนีื้ทางธรรมกายกำลังเร่งบารมีให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ สังขารหลวงพ่อไม่ค่อยจะดีน่ะครับ เพื่อไปสร้างอารยธรรมที่ดุสิตบุรี  ฟังดูก็แปลก ๆ ดีนะครับ แต่ผมเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปตามกลไกลของมันนะครับ ลองเทียบเวลาที่ผมพิมพ์มาให้ท่านดูนะครับ อารายธรรมธรรมกายจักล่มสลายก่อนพระพุทธศาสนาในประเทศไทย ท่านลองคิดดูนะครับว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ถ้าคำทำนายนี่เป็นจริง ก็หมายความว่า พระพุทธศาสนาในประเทศไทยไม่ได้ล่มสลายเพราะธรรมกาย หากแต่อาจจะเป็นเพราะชาวพุทธด้วยกันเอง (รึเปล่า) ในทัศนคติของผม ผมไม่เชื่อว่ามันจะเป็นจริง เพราะผมก็ยังมีอุปาทานอยากให้พระพุทธศาสนาอยู่ในไทยไปตลอด ผมเชื่อว่าหลวงปู่เทพโลกอุดรยังอยู่ ทุกวันนี้ผมยังนั่งฟังเทศน์หลวงพ่อชา หลวงพ่อปราโมทย์ทางเนตอยู่ มันจะล่มสลายยังไง คิดไม่ออกและผมก็ยังไม่รู้เลยว่าอารยธรรมธรรมกายมันจะล่มสลายยังไง หะ ๆ ความเชื่อส่วนบุคคลน่ะครับ ผมเคยไปวัดอัมพวันมานะ เคยฟังเทศน์หลวงพ่อจรัล ตอนแรกก็แปลก ๆ ใจว่าพระในป่าทำไมถึงบอกว่า วิชาหนอที่หลวงพ่อสอนลูกศิษย์จะหายไปเมื่อหลวงพ่อละสังขารไปแล้ว พอไปแล้วก็เข้าใจกลไกเลยนะครับ อย่างไรก็อนุโมทนาในการปกป้องพระพุทธศาสนานะครับ และหวังว่าจะได้เจอกัลยาณมิตรเช่นท่านผู้เห็นอีก แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 18:10:59 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 17:59:46 จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 12 พ.ค. 52 17:52:49 ]

ความคิดเห็นที่ 146 ปุจฉา วิสัชชนา เข้ามาอ่านค่ะ จากคุณ : สาวสยาม - [ 12 พ.ค. 52 17:52:51 ]

ความคิดเห็นที่ 147 ไม่มีคำถามค่ะ แค่อยากจะเข้ามาบอกว่าคุณ : ย.ยิ้มแย้ม เป็นคนอารมณ์ดี จิตใจมั่นคงจริงๆ (ไม่เกี่ยวกับธรรมกายเด้อ ชื่นชมในแง่ที่ไม่มีโทสะเลย) จากที่อ่านมาตั้งแต่เช้า ยังคิดมาตลอดว่าคุณ : ย.ยิ้มแย้ม ไม่ใช่พวก ธมก. หรอกมั้ง แต่เป็นชาวพุทธอารมณ์ดีที่จะมาป่วน ธมก. เล่นมากกว่า อิอิ ก็คำตอบของคุณ ธัมมชโยมาอ่านเข้าไม่น่าจะปลื้มนา เอ !!! หรือว่าจะปลื้มจริงๆ จากคุณ : สุภวิโมกข์ - [ 12 พ.ค. 52 18:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 148 อย่าประมาทครับ หลวงพ่อปราโมทย์ก็เคยพูดว่า ถ้าชาตินี้ไม่จบ แล้วขอเจอศาสนาพุทธ อย่าอธิฐานว่าให้เกิดในประเทศไทยนะ มันไม่แน่หรอก ให้อธิฐานว่าให้เกิดในดินแดนที่ศาสนาพุทธยังอยู่สมบูรณ์ แต่ผมว่าคงไม่เร็วขนาด 100 ปีหรอก ผมคิดว่าต่อไปศาสนาพุทธน่าจะรุ่งเรืองในยุโรป จากสายหลวงพ่อชาไปเผยแพร่ เห็นความคิดของคนเดี๋ยวนี้ ผมก็กลัวว่าเมืองไทยจะรองรับพุทธศาสนาไม่ไหวเหมือนกัน อย่าประมาท เจริญสติดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด ขอให้เจริญในธรรมครับ จากคุณ : ผู้เห็น - [ 12 พ.ค. 52 18:27:38 ]

ความคิดเห็นที่ 149 ดิฉันนํากาแฟมาฝากคุณยิ้มแย้มนะคะ เนื่องจากคุณทําให้ดิฉันสนุกมากจนหัวเราะหน้าจอเวลาอ่านความคิดเห็นต่างๆของคุณ และคุณมีคุณสมบัติที่เจ๋งและน่าปลื้มจริงอย่างที่คุณจักรแก้วกล่าวไว้พร้อมกับมอบถ้วยให้ค่ะ ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะคะ จากคุณ : oor_dt - [ 12 พ.ค. 52 18:30:15 ]

ความคิดเห็นที่ 150 .........คุณ  ย.ยิ้มแย้ม น่ารักมากๆ เลย         ขอให้คุณเห็นความสุข และเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปนะคะ อยากมอบดอกไม้ให้แต่เกรงว่าจะทำให้โหลดช้า คุณไปดูที่กระทู้นี้นะคะ พี่มอบ Lady of Shalott ให้นะคะ สวยมากๆ เลย http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J7844077/J7844077.html จากคุณ : rtid - [ 12 พ.ค. 52 19:28:32 ]

ความคิดเห็นที่ 151 เริ่มกระทู้ก็พูดว่า แก้ต่างให้ธรรมกายได้ทุกข้อ ท้ายกระทู้กลับพูดว่า ออกมาแล้ว ยกหลวงพ่อรูปนั้นรูปนี้มากมาย เพ่งลูกแก้วไม่เป็น ซะอย่างนั้น พูดมาได้อย่างไร ว่าผู้ที่ไม่ชอบธรรมกายเปรียบเทียบได้กับลิงที่มือถูกกะปิ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 12 พ.ค. 52 19:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 152 เรื่องอัดธรรมกายน่ะ คุณต่างหากที่ตอบผมไม่ได้ โปรดทราบ ถ้าไม่มีอะไรต้องปกป้อง คุณจะมาแก้ต่างทำหอกอะไรขอรับ? อย่างนี้น่าเป็นเพราะอุปกิเลสของคุณเองใช่ไหม? จากคุณ : จิตเป็นห่วง (JitZungkabuai) - [ 12 พ.ค. 52 19:45:06 ]

ความคิดเห็นที่ 153 ผมจะสงเคราะห์คุณให้ว่า ที่ทำอยู่นี่ เพื่อสะท้อนและกระตุ้นให้คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบรู้จักสำนึก และมีความละอายบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้เข้าใจกันผิดๆว่า ธัมมชโยบริสุทธิ์ผุดผ่องเพราะอัยการถอนฟ้อง สิ่งที่สำคัญกว่า คือเนื้อหาของคำสอนของธรรมกายที่ผิด คุณอาจจะว่าถูกบ้างผิดบ้าง สงบได้หลวงพ่อก็ปลื้ม ตรรกะฟายอย่างนั้น ผมไม่ยอมรับ นะจ๊ะ ความสงบของคุณมันมีประโยชน์แค่ไหนกันเล่า พระอรหันต์ท่านยังลงมาจัดการเรื่องนี้ หัดดูพระลิขิตเสียบ้าง และอย่าบอกนะว่าท่านไม่รู้จักสงบถึงได้มายุ่งเรื่องนี้ คุณรู้จักหน้าที่ของพุทธบริษัทเพียงพอหรือเปล่า คำตอบนี้คุณน่าจะรู้อยู่แก่ใจดี แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 19:59:59 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 12 พ.ค. 52 19:57:24 ]

ความคิดเห็นที่ 154 กลับเข้ามาอ่านคําตอบคุณหลังจากโพสคําถามทิ้งไว้เมื่อคืน เห็นด้วยกับคุณจักรแก้วว่าว่าคุณน่าได้ถ้วยจริงๆ ใจเย็นดี ก็น่าที่หลวงพ่อคุณจะปลื้ม แต่คุณจะปลื้มหลวงพ่อคุณรึเปล่าชักไม่แน่ใจ เพราะลอง search ชื่อคุณในกระทู้เก่า (ขอโทษนะคะที่แอบsearch) ดูเหมือนว่าคุณจะปลื้มท่านพุทธทาสซะมากกว่า แอบไปปลื้มคนอื่น เดี๋ยวหลวงพ่อคุณไม่ปลื้มนะ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 20:08:34 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 20:06:32 จากคุณ : Yogi Playgirl - [ 12 พ.ค. 52 19:59:54 ]

ความคิดเห็นที่ 155 กระทู้นี้หลวงพ่อกับชาววัดพระธรรมกายอ่านแล้วไม่น่าปลืิมค่ะ จากคุณ : ไหงเป็นงั้นได้ล่ะ (dcm) - [ 12 พ.ค. 52 20:00:01 ]

ความคิดเห็นที่ 156 ลืมอนุโมทนาบุญด้วยคะ จากคุณ : Yogi Playgirl - [ 12 พ.ค. 52 20:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 157 อีกอย่างหนึ่ง คุณจขกท.จะปฏิบัติอะไรก็ปฏิบัติไป ถ้าถูกต้อง ก็ไม่มีสูงไม่มีต่ำ ไม่ต้องแสดงทดสอบตนกับผู้อื่น เข้าใจคำว่า ทดสอบตนกับผู้อื่นหรือเปล่า? หมายความว่า อย่าหลอกลวงตนเอง อย่าหลอกลวงผู้อื่น มันเป็นคุณธรรมพื้นฐานของมนุษย์ครับ เป็นศีล แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 20:10:54 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 12 พ.ค. 52 20:10:00 ]

ความคิดเห็นที่ 158 คห.145 และอารยธรรมธรรมกายจักล่มสลายในอีก 50 ปีนี้ ======================================== จะได้เร่งเติมเงินไงครับ มาร์เก็ตติ้งธรรมดาๆ (มาเติม) อุ๊ย ขออภัยครับ ต้องเรียกว่ากุศโลบายของหลวงพ่อ ถึงจะถูก แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 22:00:38 จากคุณ : NakinSoCute - [ 12 พ.ค. 52 21:41:26 ]

ความคิดเห็นที่ 159 ผมถาม คุณ ย.ยิ้มแย้ม บ้างได้ไหมคับ บอร์ดนี้ เค้าว่า   องค์พระบน เจดีย์  คือ จิ้งเขียด มหาธรรมกายเจดีย์  ไม่ใช่เจดีย์ของชาวพุทธ คุณ ย.ยิ้มแย้ม  ช่วยแก้ต่างให้ธรรมกายได้ไหมครับ จากคุณ : นศ.วิชาชีวิต - [ 12 พ.ค. 52 22:00:11 ]

ความคิดเห็นที่ 160 ^ ^ กลับไปเพ่งลูกใหม่มายัง^^ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 52 10:57:12 จากคุณ : Yogi Playgirl - [ 12 พ.ค. 52 22:12:10 ]