PANTIP.COM : Y7848232 สอบถามการให้อาหารรูปปั้นกุมารทองกับให้อาหารองค์เทพ []

ความคิดเห็นที่ 1

๑) จขกท.กินข้าววันละกี่มื้อก็ต้องให้กุมารทองตามนั้นค่ะ และกอ่นจะกินทุกมื้อก็ต้องจัดสำรับไว้ให้เค้าก่อน ทั้งข้าว กับ และน้ำ ตามที่ จขกท.กินทุกอย่างค่ะ

๒) ของถวายเจ้าแม่กาลี ถ้า จขกท. มีเวลาว่างเพียงพอ จะถวายทุกวันก็ได้ค่ะ แต่โดยปกติมีหลักว่าไม่ควรถวายน้อยกว่าเดือนละ ๒ ครั้ง โดยทั่วไปถือว่าอาทิตย์ละครั้ง กำลังดี

การถวายของไหว้องค์เทพโดยทั่วไป ควรถวายก่อนเที่ยง แต่กรณีของเจ้าแม่กาลี จะถวายก่อนเที่ยงหรือช่วงหัวค่ำก็ได้ค่ะ

๓) สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะอยู่ปกปักรักษาคุณหรือไม่ ขึ้นอยู่กับวัตรปฏิบัติในการบูขาที่สม่ำเสมอก็จริง แต่ไม่ใช่ทุกวัน สม่ำเสมอหมายถึงบูชาตามอัตภาพแต่ทำเป็นประจำ

นอกจากนั้นยังขึ้นอยู่กับจิตของคุณที่ระลึกถึงท่านอย่างสม่ำเสมอหรือไม่ด้วยค่ะ แต่ไม่ใช่ระลึกแบบนี้

^{ผมอยากให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวคุ้มครองผมทุกวัน แล้วถ้าผมให้ความสำคัญแค่วันพระวันเดียวคือให้อาหารแล้ววันอื่นๆ สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะอยู่ไหม กลัวว่าจะไม่อยู่ ประมาณนั้นคับ}

นี่คือวิธีคิดในการบูชาที่ผิดค่ะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นท่านมิได้มาคอยปกป้องคุณเพียงเพื่อจะแลกกับอาหารที่คุณให้ ถ้าแบบนั้นไม่เรียกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วค่ะ เค้าเรียกร็อตไวเลอร์ค่ะ

ถ้าคิดแบบนี้ รับรองค่ะว่าจะไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ มาคุ้มครองคุณเป็นอันขาดค่ะ

เหตุที่คุณจะได้รับการคุ้มครองจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น นอกจากที่กล่าวมาแล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับคุณมีทัศนคติต่อท่านที่ถูกต้อง คือมองว่าท่านเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ สูงส่ง ไม่ใช่ภูตผีปีศาจ หรือตัวอะไรที่ถ้าคุณไม่เลี้ยงดูให้อิ่มแล้วก็จะไม่สนใจหรือปกป้องคุณ

ท่านจะปกป้องคุ้มครองคุณก็ด้วยความเมตตาเท่านั้น ไม่ใช่เพราะว่าต้องการอะไรจากคุณ สิ่งที่คุณจัดถวายบูชาท่านแต่ละครั้งมันเป็นการแสดงถึงความเคารพนับถือที่คุณมีต่อท่านเท่านั้นเอง ไม่ใช่ว่าท่านต้องการสิ่งนั้นจริงๆ

ทุกครั้งที่คุณถวายของไหว้ท่านจึงไม่เคยรับของเหล่านั้นไปเสวย แต่ท่านจะทรง"เจิม" ของเหล่านั้นให้เป็นสิริมงคล ให้คุณนำกลับมากินเป็นการรับปราณดีๆ และพรจากองค์เทพเข้าตัว

ไม่เหมือนอาหารที่ให้กุมารทองกินแล้วก็ต้องเอาไปทิ้ง คนละอย่างกันเลยค่ะ

๔) ถ้าเป็นหมอดูที่มีพลังจิตหรือเป็นพวกร่างทรงที่มีผีแฝงร่างอยู่ แค่ผีระดับกระจอกเค้ามองตาคุณเค้าก็รู้แล้วค่ะว่าที่บ้านคุณมีอะไร ไม่ใช่ความเก่งกาจอะไรหรอกค่ะ

มันเป็นเรื่องที่ตัวคุณเองรู้อยู่แล้วเค้าก็แค่ดึงความทรงจำของคุณไปพูด ถ้าเค้ารู้เรื่องที่คุณไม่รู้ แล้วพิสูจน์ภายหลังได้ว่าเป็นเรื่องจริงสิคะ ถึงจะนับว่าเก่ง

๕) เรื่องมีวิญญาณเด็กตามมาข้างหลัง ถ้าจริงแล้วคุณไปเช่ากุมารทองมา นั่นก็เป็นการแก้ปัญหาที่ผิด เพราะกุมารทองที่ผ่านพิธีปลุกเสกแล้ว เค้ามีวิญญาณเด็กอื่นสิงอยู่แล้ว ไม่ใช่เด็กที่ตามหลังคุณอยู่หรอกค่ะ

หรือกุมารทองที่ไม่ผ่านพิธี วิญญาณเด็กที่ตามหลังคุณอยู่ก็ไม่แน่ว่าจะเข้าไปสิงเองได้หรอกค่ะถ้าคุณไม่ตั้งจิตเชิญเค้าเป็นกิจจะลักษณะจริงๆ

แต่การเลี้ยงกุมารทอง เป็นวิธีการที่ผิดตั้งแต่ต้น เพราะเป็นการเอาวิญญาณเด็กมากักขังไว้ในรูปปั้น ไม่ว่าจะเป็นการบังคับด้วยอาคม หรือล่อหลอกเค้ามาด้วยวิธีการใดๆ แทนที่วิญญาณเด็กเหล่านี้จะได้ไปผุดไปเกิดตามภพภูมิที่เค้าได้ไป คุณกลับเอาเค้ามากักขัง ใช้ให้เฝ้าบ้าน ใช้งาน

คุณลองนึกดูเถอะค่ะว่าใครมาทำอย่างงี้กับคุณ หรือลูกของคุณ คุณจะรู้สึกยังไง โลกเราที่เจริญแล้วทุกวันนี้ แค่เอาเด็กที่ยังมีชีวิตมาใช้งานหนัก หรือขอทาน ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่อุบาทว์มากแล้ว แต่นี่ไปทำกับผีเด็ก ยิ่งเท่ากับเป็นการสร้างบาปสร้างกรรมกับวิญญาณเด็กไม่ให้เค้าไปสู่สุคติ เป็นการขัดขวางการเกิดใหม่ของพวกเค้าเหล่านั้นไปไม่รู้กี่ภพชาติ

บาปหนักอย่างนี้ จะสนองคุณในไม่ช้าก็เร็ว และเจ้าแม่กาลีไม่มีทางช่วยคุณในเรื่องนี้ได้แน่นอนค่ะ เพราะงั้น เลิกซะเถอะค่ะ

เอากุมารทองนั้นไปให้พระท่านทำพิธีถอดถอนวิญญาณ แล้วส่งวิญญาณเด็กนั้นให้ไปเกิด ทำบุญให้เค้าไปด้วย จึงจะเป็นการกระทำที่ถูกต้องค่ะ และเจ้าแม่กาลีก็จะได้ไม่ต้องคอยมาช่วยปกป้องคุณจากบาปกรรมที่คุณก่อขึ้น จนไม่มีเวลาประทานพรด้านอื่นให้คุณด้วยค่ะ

หนอน
แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 01:23:20

จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 11 พ.ค. 52 01:20:43 ]