ความคิดเห็นที่ 1 ส่วนอีกข้อความที่ ชอบ คือ ทรัพย์สมบัติอยู่ที่ใด ใจเราก็อยู่ที่นั่น For  where  your   treasure  is, there  will  your   heart   be  also. ( Matt  6:21) ตอนตั้งกระทู้แกว่งปากหาเท้า เกี่ยวกับ การเผยแผ่พุทธศาสนา ใครคนหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นพุทธตามทะเบียนบ้าน เคย ให้เกียรติ โพสเล่าให้ฟัง ในกระทู้นั้น ประมาณว่า " ผมเองก็เคารพหลักธรรมคำสอนในพุทธศาสนา นะครับ แต่ พุทธอ่านยาก ไม่เหมือน คริสต์ที่เข้าใจง่ายกว่า และมีกิจกรรมซึ่งทำร่วมกับครอบครัวได้ ทำให้ผมลูก ๆ ได้มีอะไรทำร่วมกัน มากกว่า การสวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิ ที่ต่างคนต่างทำ  " อิฉันก็เลยเอาข้อความบทนี้ไปเปรยในกระทู้  ให้เขาฟัง ว่า --------------------------------------------------------- ทรัพย์สมบัติอยู่ที่ใด ใจเราก็อยู่ที่นั่น For  where  your   treasure  is, there  will  your   heart   be  also. ( Matt  6:21) สิ่งล้ำค่าของพ่อแม่ คือ ลูก   ใจของพ่อแม่ ก็จดจ่ออยู่กับลูก เป้าหมายของนักเดินทาง คือ ปลายทาง ใจเขาก็จดจ่อ อยู่ที่ปลายทาง แล้วสำหรับคุณล่ะ ? อะไรคือสิ่งล้ำค่า ที่สุดของคุณ ? และ  วิธีใดล่ะ ที่เหมาะสมกับคุณที่สุด ในการ แสวงหาสิ่งล้ำค่านั้น อย่าให้น้ำลายของชาวบ้านมาบงการชีวิตคุณเลย ^ - ^ ขอพระเจ้าอวยพร / เจริญในธรรม ^ 0 ^ ------------------------------------------------------- ถึงตอนนี้ แม้ อิฉันจะต้องตบตี กับชาวบ้าน เรื่องกรณีพิพาท ใบลานในตระกร้าสามใบ กับ ทุเรียน และ มะกอกเน่า อยู่บ่อย ๆ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y7843155/Y7843155.html แต่ข้อความในไบเบิ้ล ของแมทท์ ที่ว่า ทรัพย์สมบัติอยู่ที่ใด ใจเราก็อยู่ที่นั่น ก็ทำให้อิฉันรู้สึกดีเสมอนะ เจ้าคะ เฮ้อ จริงด้วยแฮะ "ทรัพย์สมบัติอยู่ที่ใด ใจเราก็อยู่ที่นั่น" และที่สำคัญ อิฉันรู้สึกเสมอว่า ทรัพย์ที่มีค่ายิ่งของอิฉัน มิใช่  ทุเรียน หรือ มะกอกเน่า และก็ มิได้ อยู่ในตระกร้าสามใบ หรืออยู่ กับ ตะกวด สามตัว เป็นแน่แท้ ^ - ^ . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 12 พ.ค. 52 18:11:27 ]

ความคิดเห็นที่ 2 และอีกข้อความที่ชอบ คือ อย่าคิดว่าเรามาเพื่อนำสันติภาพมาให้โลก เรามิได้มาเพื่อนำสันติภาพ แต่มาเพื่อนำดาบมาให้ มัทธิว 10:34 อืม...เคยได้อ่าน ข้อความนี้ ในหนังสือเล่มหนึ่งสมัย ม.ต้นมั้ง และ มาได้ยินอีกครั้ง เมื่อ ใครคนหนึ่ง แว้ด ๆ ให้ฟัง ในกระทู้ ศึกลูกแก้วอภินิหาร แถวนี้ ว่า ----------------------------------------------------- ศึกษาคัมภีร์คริสต์นั้น มีหลายบท หลายสถานการณ์ รู้จักเลือกอ่าน ไม่ศึกษาแบบซื่อบื้อ ต้องรู้เขารู้เรา มีบทที่พระเยซูตรัสว่า อย่าคิดว่าเรามาเพื่อนำสันติภาพมาให้โลก เรามิได้มาเพื่อนำสันติภาพ แต่มาเพื่อนำดาบมาให้ มัทธิว 10:34 --------------------------------------------------- ฟังแล้ว ก็ทั้งขำ ทั้งประทับใจข้อความบทนี้มาก อืม... อย่าคิดว่าเรามาเพื่อนำสันติภาพมาให้โลก เรามิได้มาเพื่อนำสันติภาพ แต่มาเพื่อนำดาบมาให้ ก็ไม่รู้ ว่า อิฉันจะแปลความหมาย ข้อความเหล่านี้ ถูกไหมนะ ( วานผู้รู้ช่วยชี้แนะ ด้วยเจ้าค่ะ ^ 0 ^ ) แต่ก็ชอบ ข้อความในไบเบิ้ลของมัทธิว นี้นะ เพราะอ่านแล้ว รู้สึกว่า ได้เห็นนัยยะแฝง ที่พระเยซูต้องการจะเตือนเหล่าคริสตชน ของพระองค์ ว่า ให้ระวังกับ ความศรัทธา และ การคาดหวังที่มีต่อผู้อื่น ที่ตนตั้งไว้มากจนเกินไป ฟังดูจริงใจ  ไม่เสแสร้ง และ ให้ข้อคิดเตือนสติตัวเอง อย่างแรงเลยแฮะ อ่านแล้วรู้สึกดีกว่า ตอนอ่าน ตถาคตโพธิสัทธา แยะเละแฮะ อิอิ อืม...ทั้งหมดที่เล่ามานี้ คือ ข้อความในไบเบิ้ล ที่ทำให้อิฉันประทับใจเจ้าค่ะ แล้วคุณล่ะ คุณ รู้สึก ประทับใจ ข้อความไหน ? ใน ไบเบิ้ล เล่าสู่กันฟัง ถึงประสบการณ์ ของคุณ เป็นวิทยาทาน มั่งจิค๊ะ ^ - ^ . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 12 พ.ค. 52 18:12:37 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เขียนไว้ท้ายกระทู้... ก่อนอื่นต้องขอ ออกตัว ไว้ก่อน ว่า อิฉันนั้น มิใช่ ลูกแกะ ของพระเจ้า อิฉันมันก็แค่ บัวเหล่าที่ 5 สหายสนิทของเจ้างูร้ายในสวนอีเดน และ เป็นแฟนคลับของ ยูดาส ผู้ทรยศ บอกไว้เฉย ๆ น่ะเจ้าค่ะ ไม่อยากให้ ลูกหลานคนไหนของอดัมกับอีวา มาหลงคารมอิฉันมากเกินไป แหะ ๆ ^ - ^ จริง ๆ กระทู้ที่ตั้งขึ้นมานี้ มิได้ อยู่ใน โปรเจค แกว่งปากหาเท้า ของอิฉันเลยนะเจ้าคะ แต่ที่ตั้งขึ้นมาก็เพราะ ช่วงนี้ ไปจิกตีกับนกฮูกตัวหนึ่งอยู่ เลยเกิดอาการร้อนรูหูขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อได้ยิน เสียงนกเสียงกา มาแว้ด ๆ  ใส่เรื่องตระกร้าสามใบ ของมันอ่ะ เก๊าะเลย แวะมา ตั้งกระทู้ที่คิดว่า อ่านแล้วจะสบายรูหู ขึ้นมาหน่อย ฟังชาวบ้านพร่ำเพ้อ ถึงตะกร้า สามใบ มาก ๆ ขี้หูอิฉันมันชักจะละลาย เจ้าค่ะ แหะ ๆ แต่ก็ชักไม่แน่ใจแล้วจิ ว่า กระทู้นี้ จะ เย็นเจี๊ยบ ๆ ได้อย่างที่หวังไว้ไหม หนอ? ไง บัวนอกคอกดอกนี้ ก็ขอ อิงอาศัยใต้ร่มต้นแอ๊ปเปิ้ล ณ สวนอีเดน ชั่วคราว นะเจ้าคะ หายคอแห้ง ให้น้ำให้ท่า ระหว่างพักยกเสร็จเมื่อไร ค่อยเต้นฟุตเวิร์ค อีกสักหน  ^ - ^ อย่าคิดว่าเรามาเพื่อนำสันติภาพมาให้โลก เรามิได้มาเพื่อนำสันติภาพ แต่มาเพื่อนำดาบมาให้ มัทธิว 10:34 . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 12 พ.ค. 52 18:13:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อ้อ ภาพข้างล่างนี้ อิฉันชอบ เลย แวะ เอามาโพสแปะไว้ สัตว์เลี้ยงตัวใหม่ ใน ฮาเร็ม ของอิฉัน ชื่อ คุณ จิวแป๊ะทง  เก็บตกได้แถว ๆ โต๊ะนี้แหล่ะ อืม...เมื่อพระเจ้าสร้างสรรพสัตว์ขึ้นมาในโลกนี้ พระองค์ทรงรัก และ ให้ความเมตตา ต่อทุกชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ลูกแกะ  แพะ ไก่ กระต่าย ควาย ตะกวด หรือ ผู้ชายมีหนวดที่ไหน พระเจ้าที่รักเรา คือเราที่รักตัวเอง ^ - ^ Think   possitive    Think  BSC นะเจ้าคะทุก ๆ คน ^ - ^ ว้าาาาาาาอิฉันไม่ชอบ แต่งหน้าทาปาก แบบสาวๆสมัยนี้ซะด้วยดิ เลยไม่มี เครื่องสำอาง BSC ติดบ้านซักชิ้นอ่ะ แล้วงี้ อิฉัน จะเป็น ผู้หญิง คิดบวก ยิ่งสวยขึ้น แบบนาตาลีได้ไง ล่ะเนี่ย อิอิ . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 12 พ.ค. 52 18:16:11 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ... จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 12 พ.ค. 52 18:16:44 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อืม อีก 2 รูปนี่ แถม เผื่อจะบรรเทาความระคายเคืองสายตา จาก ภาพคุณจิวแป๊ะทง  คห.5 . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 12 พ.ค. 52 18:22:22 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อันนี้ ก็ชอบ ^ - ^ . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 12 พ.ค. 52 18:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แวะมาบอกอีกนิด แม้ว่า กิตติศัพท์ความ ฉาวโฉ่ เอ๊ย น่าร้าก กกกของอิฉันจะกระฉ่อน โต๊ะนี้ ในเรื่องการ ตบจูบ กับ เจ้าพวกบัวสามเหล่า แต่กระทู้นี้ ตั้งเพื่อ คลายร้อน และ เล่าสู่กันฟังจริ๊ง จริง..... ขอสาบานว่า กระทู้นี้  ไม่มีตบ เจ้าค่ะ ( มีแต่ จูบบบบบบบ ! ) ^ - ^ . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 12 พ.ค. 52 18:36:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 10:34 อย่าคิดว่าเรามาเพื่อจะนำสันติภาพมาสู่โลก เรามิได้นำสันติภาพมาให้ แต่เรานำดาบมา(มัทธิว) จากคุณ : kekzo - [ 12 พ.ค. 52 20:03:04 ]

ความคิดเห็นที่ 11 10:35 เรามาเพื่อจะให้ลูกชายหมางใจกับบิดาของตน และลูกสาวหมางใจกับมารดาและลูกสะใภ้หมางใจกับแม่สามี จากคุณ : kekzo - [ 12 พ.ค. 52 20:09:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 10:36 และผู้ที่อยู่ร่วมเรือนเดียวกัน ก็จะเป็นศัตรูต่อกัน จากคุณ : kekzo - [ 12 พ.ค. 52 20:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 10:37 ผู้ใดที่รักบิดามารดายิ่งกว่ารักเราก็ไม่สมกับเรา และผู้ใดรักบุตรชายหญิงยิ่งกว่ารักเรา ผู้นั้นก็ไม่สมกับเรา แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 20:18:10 จากคุณ : kekzo - [ 12 พ.ค. 52 20:16:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 http://software77.com/onlinebibles/thai/40_010.htm จากคุณ : kekzo - [ 12 พ.ค. 52 20:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 15 บอกตามตรง ว่าไม่อยากเข้ามาในกระทู้นี้เลย... เพราะหนึ่งไม่ค่อยสันทัดในศาสนาคริสต์เหมือนจขกท.แม้เคยอ่านคัมภีร์ ใบเบิลทั้งพันธสัญญาทั้งเก่าและใหม่จบแล้วหรือเคยร่วมโบสถ์กับเพื่อน ชาวคริสต์ในบางครั้งก็ตาม...ก็ยังกลัวความคลาดเคลื่อนที่จะเสวนาด้วย สองเพราะไม่ชอบรูปประกอบบางรูปของจขกท.แม้จะรู้ว่าความชอบหรือไม่ชอบเป็นกิเลสเหตุเศร้าหมองของจิตใจก็ตาม แต่ถึงกระนั้นภาพจิวแปะทง คห.๕ก็ยังทำให้ไม่สบายตาและใจด้วยอดคิดถึงมารยาททางสังคมไม่ได้... หากเหตุทั้งสองอย่างนี้ทำให้จขกท.รู้สึกยังไงหรือไม่รู้สึกก็ตามแต่ ก็ขออภัยไว้ตรงนี้เลย... ส่วนเหตุที่เข้ามาเพราะอ่านเห็นคำเปรียบเทียบของจขกทบางคำแล้วไม่สบายใจ เพราะอาจเป็นสาเหตุทำให้บางคนเข้าใจผิดหรือยิ่งกว่านั้นอาจทำให้เสื่อมจากคุณธรรมอันพึงมีพึงได้ไป ส่วนการเปรียบเทียบพรหมวิหารและอื่นๆนั้นชอบแล้ว คำเปรียบเทียบนั้นคือ... "........อย่าคิดว่าเรามาเพื่อนำสันติภาพมาให้โลก เรามิได้มาเพื่อนำสันติภาพ แต่มาเพื่อนำดาบมาให้ แต่ก็ชอบ ข้อความในไบเบิ้ลของมัทธิว นี้นะ เพราะอ่านแล้ว รู้สึกว่า ได้เห็นนัยยะแฝง ที่พระเยซูต้องการจะเตือนเหล่าคริสตชน ของพระองค์ ว่า ให้ระวังกับ ความศรัทธา และ การคาดหวังที่มีต่อผู้อื่น ที่ตนตั้งไว้มากจนเกินไปฟังดูจริงใจ  ไม่เสแสร้ง และ ให้ข้อคิดเตือนสติตัวเอง อย่างแรงเลยแฮะ อ่านแล้วรู้สึกดีกว่า ตอนอ่าน ตถาคตโพธิสัทธา แยะเละแฮะ อิอิ............" ซึ่งอ่านดูแล้วแม้ด้วยเหตุด้วยผลธรรมดาก็เป็นการเปรียบเทียบผิดหลัก แม้เอาตรรกวิทยามาจับยิ่งไม่สมเหตุสมผลไปกันใหญ่ เสมือนการเปรียบเทียบ แก่นกับเปลือก เปรียบเทียบนายกกับส.ส. เปรียบเทียบหัวใจกับใส้ติ่ง หรือกระทั่งเปรียบจิวแปะทงคห.๕กับนาตาลีคห.๖  ฉะนั้น คำว่า "ตถาคตโพธิศรัทธา" คือ ศรัทธาหรือเชื่อในการตรัสรู้ของพระตถาคตซึ่งก็คือพระพุทธเจ้า ซึ่งชาวพุทธทุกคนต้องเชื่อในเรื่องนี้ จึงยอมนับถือพระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่ง เสมือนพระเยซูยอมให้ตึงไม้กางเขนเพราะเชื่อมั่นศรัทธาในพระเจ้าหรือพระบิดา เสมือนสานุศิษย์ผู้ศรัทธาในพระเยซูยอมยื่นแก้มซ้ายอีกข้างให้ศัตรูตบ...นี่คือศรัทธาที่สมเหตุสมผล ดังนั้นการเปรียบนี้จึงผิดหลัก ที่ถูกคือควรเปรียบเทียบคำสอนกับคำสอน เปรียบเทียบหัวใจกับหัวใจ นายกกับนายก  ฯลฯ เช่น “ตุมเหหิ  กิจจัง  อาตัปปัง  อักขาตาโร  ตะถาคะตา การบำเพ็ญเพียรเป็นหน้าที่ของท่านทั้งหลาย พระตถาคตเจ้าเป็นแต่เพียงผู้ที่ ชี้ทาง” กับ " เราจะไว้วางใจในพระองค์' ด้วยปรารถนาดี....ครับ ปล.แก้คำผิดและข้อความเพื่อความสมบูรณ์ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 21:17:58 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 21:05:50 จากคุณ : มีนัดกับผู้รู้ - [ 12 พ.ค. 52 21:03:48 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ..........พอเห็นกระทู้คุณคิดถึงเรื่องหนึ่งที่นานมาแล้ว  คุณพ่อของดิฉันท่านเป็นคนชอบศึกษาชอบอ่านมาก วันหนึ่งท่านเชิญบาทหลวงมาสอบถามเรื่องพระคัมภีร์ที่ท่านอ่านแล้วว่าไม่เข้าใจ อย่างเช่นคำว่าศัตรู ก็ไหนว่าพระบุตรรักมนุษย์เล่า ทำไมมีคำนี้ อะไรทำนองนี้ บาทหลวงอธิบายให้คุณพ่อฟังอย่างสุภาพอ่อนน้อม ดิฉันยังรู้สึกชื่นชมบาทหลวงท่านนั้น เพราะเจตนาคุณพ่อเป็นอย่างไรดิฉันก็ทราบอยู่           ตอนนั้นดิฉันยังเด็กมาก แต่ดิฉันก็รู้สึกว่าคุณพ่อไม่ควรทำเช่นนั้นต่อศรัทธาของผู้อื่นเลย แต่ด้วยยังเด็กดิฉันจึงไม่สามารถพูดอะไรได้ เมื่อดิฉันสามารถพูดได้ท่านก็เสียไปเสียแล้ว          เมื่อดิฉันศึกษาศาสนา จึงได้ทราบว่า เวลาเราอ่านพระคัมภีร์หรือพระไตรปิฏกนั้น ต้องอ่านบริบททั้งหมด ว่าเรื่องนั้นกล่าวกับใครที่ไหนอย่างไร เมื่ออ่านไม่เข้าใจก็ต้องอ่านอรรถกถา หรือปรึกษาผู้รู้ ไม่ใช่ตีความไปเองและการปรึกษาผู้รู้ก็เป็นไปด้วยความสุภาพอ่อนน้อม เพราะความเชื่อศรัทธาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน          ในการสนทนาของคุณพ่อกับบาทหลวงท่านนั้น คิดว่าผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดกับเป็นดิฉันเอง ความสุภาพอ่อนน้อม ถ่อมตัว ของบาทหลวงท่านนั้น ที่ได้แสดงและอธิบายให้คุณพ่อฟังด้วยความเมตตา ทำให้ดิฉันประทับใจ และถือเป็นตัวอย่างในการประพฤติปฏิบัติต่อผู้อื่นตลอดมา ..........ดิฉันเคยโพสท์ความคิดเห็นนี้เมื่อนานมาแล้ว เมื่ออ่านกระทู้นี้ดิฉันยังคงระลึกถึง สำหรับดิฉันแล้วข้อพระคัมภีร์ที่รู้สึกประทับใจคือ มัทธิว 5: 43-44 ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า `จงรักเพื่อนบ้าน และเกลียดชังศัตรู'  ฝ่ายเราบอกท่านว่า จงรักศัตรูของท่าน จงอวยพรแก่ผู้ที่สาปแช่งท่าน จงทำดีแก่ผู้ที่เกลียดชังท่าน และจงอธิษฐานเพื่อผู้ที่ปฏิบัติอย่างเหยียดหยามต่อท่านและข่มเหงท่าน โรม 13:8 อย่าเป็นหนี้อะไรใคร นอกจากความรักซึ่งมีต่อกัน เพราะว่าผู้ที่รักคนอื่นก็ทำให้พระราชบัญญัติสำเร็จแล้ว .........สำหรับ มัทธิว 10:34 -37 ดิฉันพออธิบายได้ แต่ขอให้เพื่อนๆ ที่นับถือคริสต์ศาสนา อธิบายข้อธรรมนี้ด้วยเมตตาจิตเถิด จากคุณ : rtid - [ 12 พ.ค. 52 21:23:56 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คงยังเมาหมัดอยู่กระมัง จากคุณ : JitZungkabuai - [ 12 พ.ค. 52 21:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ในบรรดา พระวรสาร(Gospel)ทั้งสี่ มัทธิว จะรวบรวมคำสอนของพระเยซูเจ้าไว้มากที่สุดครับ ซึ่งบทหนึ่งที่ผมชอบก็ มัทธิว 9:10-13 พระเยซูเจ้าเสวยพระกระยาหารร่วมกับคนบาป ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงร่วมโต๊ะเสวยพระกระยาหารที่บ้านของมัทธิว คนเก็บภาษีและคนบาปหลายคนeมาร่วมโต๊ะกับพระองค์และบรรดาศิษย์   เมื่อเห็นดังนี้ ชาวฟาริสีจึงถามศิษย์ของพระองค์ว่า “ทำไมอาจารย์ของท่านจึงกินอาหารร่วมกับคนเก็บภาษีและคนบาปเล่า”   พระเยซูเจ้าทรงได้ยินดังนั้น จึงตรัสตอบว่า “คนสบายดีย่อมไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บไข้ต้องการ   จงไปเรียนรู้ความหมายของพระวาจาที่ว่า  ‘เราพอใจความเมตตากรุณา มิใช่พอใจเครื่องบูชา’fเพราะเราไม่ได้มาเพื่อเรียกคนชอบธรรม แต่มาเพื่อเรียกคนบาป” _________________ พระเจ้าปรารถนาความดีครบบริบูรณ์ แต่ความดีครบบริบูรณ์นั้นมิใช่เพื่อจองหองและดูหมิ่นผู้อื่น แต่เป็นความเมตตาและแบ่งปันแก่ผู้อื่นครับ จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี - [ 12 พ.ค. 52 22:06:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อันแรกพระเยซู พูดถึง อวิชชา ครับ Then said Jesus, "Father, forgive them; for they know not what they do ..." ~Luke 23:34~ อันนี้พระเยซู กล่าวถึง กฎแห่งกรรม "Judge not, and ye shall not be judged: condemn not, and ye shall not be condemned, forgive, and ye shall be forgiven." ~Luke 6:37~ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 52 23:56:53 จากคุณ : Johny - [ 12 พ.ค. 52 23:54:05 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นบอกว่าเป็นคนไม่มีศาสนา ขอแนะนำว่า เห็นว่าศาสนาไหน เหมาะสมกับตัว จขกท มากที่สุด แล้วเลือกมาสักศาสนา ศึกษาอย่างจริงจัง ให้ถึงแก่น จะมีประโยชน์มากกว่า เอาข้อดีของศาสนานั้นศาสนานี้ มาเปรียบเทียบ นั่นป็นข้อดีข้อหนึ่ง ทำให้เห็นจุดร่วม ว่าแต่ละศาสนามีจุดร่วมที่คล้ายๆ กัน แต่ การเรียนรู้เรื่องศาสนานั้น -ไม่ผิดที่ตั้งสงสัยหรือตั้งคำถาม แต่ผิดถ้าเรียนรู้ด้วยอคติ -ถ้าเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆจะพบว่าทุกศาสนาชี้ให้เห็นว่า การให้อภัย การลดตัวเราของเรา หรือสันติภาพเกิดขึ้นในใจ นั้นเป็นทางที่ควรจะเดิน ไม่ใช่ตาต่อตาฟันต่อฟัน -ศาสนาไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ต้องปีนกะได เพื่อจะไปถึง สิ่งที่ทำให้ยากนะคือคน ไม่ใช่แค่คนอื่น แต่ตัวเราก็ด้วย ตัดทิ้งไปซะบ้างก็ง่ายขึ้นเยอะ ทั้งพวกรู้มาก พวกพิธีกรรมจ๋า พวกงมงาย พวกไร้สติ พวกคลั่งไปแล้ว รวมถึง อคติในใจ EGOว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตัดมันทิ้งไป -มองศาสนาอย่างที่เป็น มองให้ถึงหัวใจของศาสนา อะไรดีก็เอามาปฏิบัติ อะไรไม่ดีก็รู้ไว้เป็นความรู้ประดับกาย ดีอย่างไร ไม่ดีอย่างไร เท่านั้นก็พอ ขอให้เจริญในธรรม ................................................................................................ ขออภัย ที่ตอบไม่ตรงคำถาม จขกท แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 52 04:40:35 จากคุณ : promp888 - [ 13 พ.ค. 52 04:36:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่ชอบอ่านไบเบิ้ล เคยเรียนโรงเรียนคริสต์ตอนเด็กๆก็นับถือคริสต์ พอมาเรียนโรงเรียนพุทธก็เห็นว่าพุทธดีกว่าคริสต์ นับถือพุทธเหมือนได้เพชร นับถือคริสต์เหมือนได้ทอง  (มันคล้องจองกันไหมเนี่ย) แต่ก็ชอบประโยคนี้นะนู๋บี " ถ้าท่านถูกศัตรูตบ แก้มขวา จงเอียงแก้มซ้ายให้ศัตรูตบด้วย " คิดว่าน่าจะดีกว่า " ถ้าท่านถูกนู๋บีจูบแก้มขวา จงเอียงแก้มซ้ายให้นู๋บีจูบด้วย " อ่ะนะ ใครจะให้นู๋บีจูบเป็นคนแรก จากคุณ : dcm - [ 13 พ.ค. 52 07:05:05 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผู้ที่เห็นความจริง ความศรัทธานั้นไม่จำเป็น จำไม่ได้ครับว่าหน้าไหน จากคุณ : koknam - [ 13 พ.ค. 52 13:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณสำหรับ ทุก ๆ ความคิดเห็นที่เข้ามาเพิ่มเรทติ้ง เจ้าค่ะ แหม๊ ? นี่ถ้า ไม่ติด พันธสัญญา ว่าด้ายเรื่อง กระทู้นี้ไม่มี ตบ อ่ะนะ คงได้ น้ำลายกระจาย เป็นแน่แท้ แต่ช่างมันเหอะ ไว้ครึ้ม ๆ ค่อยไปตั้งกระทู้ ทำสงครามน้ำลาย ต่อวันหลังก็ได้นิ ( โปรเจค แกว่งปากหาเท้า ยังมีในสต๊อคอีกเพียบบบบบบ หุหุ ^ - ^ ) # 10 เจ้าการ์ฟิลล์ ขอบคุณนะจ๊ะหลานร้ากกก ที่เข้ามา กวนซ่งตีน เอ๊ย เปิดดดซิง ให้ กระทู้ป้า แม้ว่า ภาพตะล่ะอันที่เอ็งเอามาโพส จะชวนขนพองสยองเกล้า ก็ตาม ขอบใจสำหรับ ไบเบิ้ลออนไลน์ กะลังอยากได้ อยู่พอดี ^ - ^ และไหน ๆ เอ็ง ก็ เสนอตัว เอ๊ย เสนอหน้า มาโพส ในกระทู้ ป้าแล้ว เอา ข้อความที่เหน็บเอ็ง ในกระทู้ ตระกร้าสามใบ มาโพส ในนี้ดีกว่า แฮะ แถวนั้นเจ้าที่มัน แรง โพส ไม่ได้ ว่ะ ป้าโพสในกระทู้ตัวเองก็ได้ฟะ เอิ๊ก ๆ ( อืม..ถ้าโพสแล้ว เดี้ยงอีก เด๋วจะเอาลงใน blog ตัวเอง ให้ชาวบ้านขุ่นมัวเล่น ๆ ก็ไม่เลวแฮะ อิอิ ) เฮ้อ ที่ป้า พล่าม ให้ฟัง เนี่ยเจตนา ป้า เป็นไง ใครจะมารู้ดีกว่า ป้า ส่วน เอ็ง อ่านแล้ว จะ ปรุงแต่ง ไปทางใด ก็สุดแล้ว แต่ ขี้เลื่อย เอ๊ย จริตในหัว เอ็ง แล้วกันนะจ๊ะ พ่อหลานการ์ฟิลล์ ลองอ่านดูแล้วกัน อิอิ . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 13 พ.ค. 52 20:32:47 ]

ความคิดเห็นที่ 25 #15 คุณ : มีนัดกับผู้รู้ อืม....บรรดา สัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย ล้วนเป็น ผู้มี คุณูปการ ต่อ โต๊ะศาสนา แห่ง นี้ นะจ๊ะ อย่าไปรังเกียจรังงอนมันนักเลยจ้า เด๋ว คุณน้อง เอี้ย...ก้วย  กับ คุณ จิวแป๊ะทง เค้าจะ น้อยอกน้อยใจได้นะจ๊ะ ไม่เชื่อ ไปอ่าน กระทู้ http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2007/10/Y5935863/Y5935863.html ที่ คห. 16 กะ  คห. 31 ดูได้จ้า ยืนยันโดยเหล่า ก๊วน ตัวพ่อ ณ โต๊ะ ศาสนา 555 อ้อ ขอบคุณ เจ้าโหงพราย ด้วยนะเจ้าคะ ที่( อุตส่าห์ )ส่งลิงค์อันนี้ มาหั้ย ที่หลังไมค์   ทำให้อิฉันมีเอกสารอ้างอิง อิอิ ปกติ อิฉัน ปรุงแต่งตัวหนังสือ มากระแทกสายตาชาวบ้านเนี่ย อิฉันไม่ค่อยใช่หลักกู เอ๊ย หลักการ กะ เหตุผลนักหรอกเจ้าค่ะ อิฉันใช้ เฉพาะ อารมณ์ กับ ความรู้สึกล้วน ๆ และก็คิดว่า ถ้า คุณ ไม่โยนไม้บรรทัด ทุกอันที่แบกไว้บนหัว ทิ้ง ต่อให้ นัดกินช้าวกับผู้รู้ เป็นร้อยคน ก็คงเปล่าประโยชน์อ่ะ อย่ามัวแต่ไปออกเดท เอ๊ย มีนัดกับ กูรู อย่างเดียวดิ น้ำพริกถ้วยเก่าน่ะ มัน น่าเบื่อจะตาย หัด มีนัดกับ กูรู้  และ กูไม่รู้ ซะบ้าง ก็ดีนะคุณ จะได้เปลี่ยนรส เปลี่ยนชาด ซะมั่ง อืม....ถ้าข้าพเจ้า รู้จัก คนสิบคน ก็เหมือนข้าพเจ้ามีครูให้เรียนรู้ สิบคน แล ครูของข้าพเจ้า มีทั้ง กูรู  กูรู้ และ กูไม่รู้ แต่ ข้าพเจ้าก็ให้ความเคารพ ครูเหล่านั้น อย่างเท่าเทียมกัน เพราะ ครูทุกท่าน สอนให้ข้าพเจ้า รู้ว่า ในโลกนี้ ยังมี เรื่องราว อีกหลาย ๆ อย่าง ที่ข้าพเจ้า ไม่รู้ ด้วยความปารถนาดี เช่นกัน ( แค้ก...แค้ก... ) ปล. ขอบคุณ ที่หั้ยกิ๊บ ใน คห. 63 ข้อความล่าสุด ที่อิฉันไปโพส ในกระทู้ ตระกร้าสามใบ ( แต่ถ้าคุณเข้ามาอ่านข้อความในนี้ จะทวง กิ๊บ คืนไหมเนี่ย อิอิ ) อย่าคิดว่าเรามาเพื่อนำสันติภาพมาให้โลก เรามิได้มาเพื่อนำสันติภาพ แต่มาเพื่อนำดาบมาให้ มัทธิว 10:34 . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 13 พ.ค. 52 20:36:11 ]

ความคิดเห็นที่ 26 #17 คุณ : rtid อ่านข้อความที่คุณให้เกียรติมาโพส แล้วก็ มีรอยยิ้ม แฮะ ^ - ^ คุณช่างเป็น ผู้หญิงปัญญาดีที่เต็มไปด้วย ความอ่อนโยน ชะมัด นี่ถ้า อิฉัน มีความอ่อนโยนในหัวใจสักขี้เล็บของคุณ อิฉันคงหว่านเสน่ห์ได้เก่งกว่านี้ แหง๋ ๆ แหะ ๆ น่าเสียดายที่ อิฉันชอบเล่นบท ลิ่มเซียนยี้ มากกว่า พระแม่มารี ไม่รู้สินะ อิฉันคิดว่า เมื่อ คุณอ่าน คำว่า ตถาคตโพธิสัทธา ที่ อิฉันเขียนไว้ในนี้ คุณคงมองเห็น อะไร บางอย่างที่อิฉันอย่างจะบอกคุณนะ เพราะตอนที่ อิฉั พิพพ์คำนี้ อิฉันก็ยิ้ม แล้วคิดถึงคุณ น่ะเจ้าค่ะ และเมื่อ เขียนถึง มัทธิว 10:34 อิฉันก็นึกถึง คุณ กับ นกฮูกบางตัว และ พระวิทยากร ที่ อิฉันไปพล่ามเรื่องเดินแคทวอล์ค ให้ฟังอ่ะ อยากจะบอกกับคุณว่า อย่าคาดหวังอะไร กับบัวเกินเหล่า อย่างอิฉันนักเลยเจ้าค่ะ ปัจเจกอย่างอิฉันขี้เกียจเกินกว่า จะเป็น กำลังสำคัญ ให้ใคร อ่ะ ขออย่าได้ ตั้งความหวังอะไร กับอิฉันนักเลย ^ - ^ แล้ว มีโอกาส อิฉัน จะตั้งกระทู้ " คุณรู้สึกประทับใจ ข้อความไหน ใน ตะกร้าสามใบ " นะเจ้าคะ ไงก็ให้เกียรติเข้ามาแจม เป็นหน้าม้า ให้กระทู้ในอนาคต ของอิฉัน มั่งนะเจ้าคะ ^ - ^ #17 นี่แหน่ะ คุณ เฒ่าทารก   ใครว่า อิฉัน เมาหมัด มวยรอง อย่างคุณจ๊ะ คุณซังฯ แค่ ฟังเสียงนกเสียงกา มาแว้ด ๆ ใส่ อิฉันก็แค่ ขี้หูเต้นระบำ แค่นั้นแหล่ะ อิอิ ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาน่ะ ก็แค่อยาก แหย่ตะกร้าสามใบ"ของคุณ" เล่น ๆ แค่นั้นแหล่ะจ้า เห็น เปลืองน้ำลาย พยามตักน้ำรดหัวตอ พยาม เบิกเนตรให้อิฉันเห็นดวงตาธรรม นักนิ ครั้นพอ ไม่ได้ดั่งใจก็ ขุ่นมัว มาจิกมาทึ้งอิฉันอีก เฮ้อ จิง ๆ มันผิดกติกานะ ที่ มวยอาชีพรุ่นเฮฟวี่เวท อย่าง คุณ จะมาชกข้ามรุ่น กับมวยวัด อย่างอิฉัน น่ะ พ่อนกฮูกขี้โมโห เด๋วฉันก็ตั้งกระทู้ แนว " คุณรู้สึก ประทับใจอะไร ใน แก้วกลางกาย " ซะเลยเป็นไง จะได้เข้าทาง เอ๊ย เข้าคอนเซปท์ คุณ อิอิ . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 13 พ.ค. 52 20:37:47 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อ้อ พี่ แอ๊ด คาราบึ้ม เคยแหกปากร้องไว้ คุณว่า ค.คน กับ ค.ควาย ในเพลงของพี่แก อะไร เข้าท่า กว่ากัน จ๊ะ พ่อเฒ่าชรานัยน์ตาทารก ? หาก หัวใจ ยังร้ากกกกกก ควายยยยยยยย นะจ๊ะ พี่น้อง ค้าบบบบบ เย้ ๆ . จากคุณ : จิต คือ ควาย เพราะพอใจจะเป็น ! (นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5) - [ 13 พ.ค. 52 20:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ : koknam ผู้ที่เห็นความจริง ความศรัทธานั้นไม่จำเป็น อ่านแล้วชอบจังแฮะ เฮ้อ อยากให้ผู้มี สัทธาทั้ง 4 มาได้อ่านข้อความนี้จัง ^ - ^ คุณ : dcm นับถือพุทธเหมือนได้เพชร นับถือคริสต์เหมือนได้ทอง   แหม ? เจ้ก็ ช่างเข้าใจเปรียบเทียบนะเจ้าคะ แล้วเพชรกะทอง ต่างกัน ไงรู้ป่ะ เพชรน่ะ ถ้าเจอไฟร้อนๆ ก็กลายเป็น ถ่านกระสอบละไม่กี่บาท ได้นะเจ้ ส่วน ทองแท้ ไง ก็เป็น ทองแท้ และ ไม่ว่าไง อิฉัน ก็จะพยามหาประโยชน์ จากทั้ง ทอง และ เพชร ที่มีไว้ในครอบครอง ทุกเม็ดแหล่ะน่า ก็ทั้ง น้องทองม้วน และ น้องเพชรแท้ ย่อมมีค่า แน่นอนกว่า ดาวโจนส์ แหล่ะเนอะ อิอิ มีเงินเรียกน้อง  มีทองเรียกพี่  มีเพชร ( ซาอุ ) เรียกตำรวจ ชะเอิงเอย ปล. ว่าง ๆ อิฉันจะมาประมูลขาย จูบการกุศล แถวนี้ดีกว่าแฮะ จูบแรกในชีวิตสาวเชียวน้าาาา เราจะเริ่มประมูลที่ หนึ่งสลึง ! ใครให้ราคาสูงกว่านี้มั่งจ๊ะ หุหุ . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 13 พ.ค. 52 20:44:18 ]

ความคิดเห็นที่ 29 #25 ...เข้ามา "ขอบคุณ"  สำหรับคำแนะนำที่ให้โยนไม้บรรทัดทุกอันทิ้ง รวมทั้งบอกให้นัดกินข้าวกับกูรู กูรู้ และกูไม่รู้  เพราะต่างก็เป็นครู เช่นเดียวกัน (คำสอนของขงจื้อ คนดีกับคนไม่ดีต่างก็เป็นครูสอนเช่นเดียวกัน)... จะรับพิจารณาก็แล้วกันครับ แต่ถามนิด รากฐานของตึกคืออิฐ รากฐานของชีวิตคือการศึกษา ไฟที่ส่องทาง ประภาคารที่ส่องแสง จะให้โยนทิ้งหรือ ถ้าเราไร้รากทิ้งหลักคือไม้บรรทัดที่คุณว่าเสียแล้ว เราจะมั่นคงได้อย่างไร ลูกที่กตัญญูต่อพ่อแม่ แล้วบอกให้ทิ้งพ่อแม่ จะเป็นลูกกัญญูกตเวทีได้หรือ ส่วนล็อคอิน "มีนัดกับผู้รู้" นั้นบางทีก็เป็นจุดด้อยที่ทำให้ใครหลายคนได้เห็น ก็มักตัดบทว่า "ไม่ใช่ผู้รู้"ทุกทีไป ทำให้พลาดที่จะได้สิ่งดีดีไป   แต่ลองคิดดู ถ้าผมตั้งว่า"มีนัดกับผู้ไม่รู้"  ก็คงไม่มีใครอยากคุยกับผม บางทีเขาอาจไล่ออกก่อนด้วยซ้ำฐานไปดูถูกเขา  หรือบ้าจี้ไปตั้งว่า "มีนัดกับผู้รู้และผู้ไม่รู้" ก็ออกจะยาวไปต้องมานั่งอธิบายอีกว่าใครรู้ใครไม่รู้ สำหรับผมนั้น ความหมายต่างออกไป เพราะทุกคนทุกสิ่งคือผู้รู้ที่น่าเรียนรู้ สำหรับผม...อย่างน้อยก็รู้จักชื่อตัวเองละน่า จึงมีนัดกับผู้รู้ ฟันธง ปล. กิฟท์ที่ให้นั้น เพราะชอบเรื่องที่เล่านั้นไม่เคยได้ยินมาก่อนและชอบรูปประกอบในคห.นั้นเท่านั้นครับ ไม่ได้ยึดกับคห.อื่นๆ ปล.เรื่องสัตว์เลื้อยคลานนั้น ก็อย่างที่อธิบายไว้ ผมทำได้แค่สนับสนุนสื่อดี    แต่ก็ไม่เสนอลบ เพราะไม่นิยมล้าง...ส้วมให้ใคร ปรารถนาดี (พูดบ่อยบ่อยครับ แล้วจะไม่ติดคอ) จากคุณ : มีนัดกับผู้รู้ - [ 13 พ.ค. 52 23:08:03 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แหมนู๋บีก็ เพชรกับทองเป็นของที่มาจากดินเหมือนกัน อาศัยเวลานานสะสมบารมีมากพอก็กลายเป็นเพชรเป็นทองอันมีค่า แต่คุณค่าสำหรับแต่ละคนมันต่างจิตต่างใจ บางคนชอบเพชรบางคนชอบทอง แต่ดิฉันชอบเพชรมากกว่าทอง เพราะคิดว่ามันสวยกว่า แพงกว่า ดูดีมีคลาสกว่า  ถ้านู๋บีชอบทอง เห็นทองดีกว่า (แต่คนอย่างนู๋บีคงไม่ยึดติดทั้งทองทั้งเพชรละมั้ง  ว่าแต่ว่าตอนนี้ทองแท่งราคาลงไปแล้วบาทละ50บาท ขายไปยัง หวังว่าคงไม่ติดดอยนะจ๊ะ )  และวัดคุณค่าว่าใครดีกว่าตรงที่ว่าเอาไฟมาเผาแล้วเพชรมันจะกลายเป็นเถ้าธุลีกลับไปเป็นดินเหมือนเดิม ไม่เหมือนทองที่เผาเท่าไรก็ยังเป็นทอง ก็เป็นเรื่องความชอบส่วนตัวอ่ะนะ......แหม เขามีเพชรมีทองเขาก็ต้องถนอม ไม่เที่ยวเอาไฟมาลนมาเผา แต่เผอิญจะต้องโดนเผา มันก็ต้องเสียหาย เสื่อมไป ดับไปตามกฎของไตรลักษณ์ มันอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็เป็นสัจจธรรมนะจ๊ะ ไม่ต้องไปคิดอะไร นู๋บีบอกว่าทองนี่ถ้าเอาไฟเผาเท่าไรมันก็ยังเป็นทองเหมือนเดิม ก็ถูกนะ เผาจนมันละลายกลายเป็นทองเหลวๆแล้วเอาไปใส่บล๊อกก็กลับไปเป็นทองแท่ง จากทองแท่งเอาไปเผาก็กลายเป็นทองเหลวๆๆอีกเวียนว่ายตายเกิดอย่างนี้ไปเรื่อยๆก็ดีอีกแบบสำหรับคนชอบแบบนี้ ชอบใครชอบมันเนาะ ตอบดีๆนะ ไม่เอาตบจูบๆ จะได้เข้ามาคุยด้วยบ่อยๆไง เอาภาพ เพชร ทอง เงิน มาฝาก แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 52 13:29:22 จากคุณ : dcm - [ 14 พ.ค. 52 06:50:54 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คนนี้เขาอยากจูบนู๋บีล่ะ จากคุณ : dcm - [ 14 พ.ค. 52 08:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ทีแรกผมนึกว่า คุณเป็นพุทธที่ไม่มีศรัทธาเสียอีก หนูบี แต่ไม่ใช่... อย่างนั้นก็ต้องขออภัยคุณมากๆแล้ว จากคุณ : จิตซังกาบ๊วย (JitZungkabuai) - [ 14 พ.ค. 52 09:19:28 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุณหนูบีไม่ใช่พุทธ ผมก็เคารพในความเห็นของคุณ ผู้ไม่มีศาสนาครับ ชาวห้องศาสนาพันทิปนี่มีข้อดีมากมายหลายข้อ และข้อหนึ่งก็คือ ไม่สร้างความขัดแย้งระหว่างศาสนิก ของศาสนาต่างๆ รวมถึงผู้ที่ไม่มีศาสนาด้วย ซึ่งผมก็ถือปฏิบัติมาตลอด และจะไม่ก้าวล่วงถ้าทราบ ความจริงใจของผม คุณหนูบีสามารถสอบถามจากท่านใดก็ได้ที่พอรู้จักผมบ้าง ไม่ว่าท่านจะเป็นอิสลามิกชน หรือคริสตศาสนิกชน ฯลฯ ในบอร์ดนี้ หรืออื่นๆ เว้นแต่...ครับ ขออภัยอีกครั้งหนึ่ง Chuck แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 52 14:07:55 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 52 14:06:53 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 14 พ.ค. 52 14:00:01 ]

ความคิดเห็นที่ 36 การไม่มีศาสนา สำหรับผม ถือเป็นเรื่องปกติ คุณหนูบีก็ทราบดีว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ควรเป็นเรื่องของศาสนิกผู้ศรัทธาในพระศาสนา เช่นศาสนาอิสลาม คริสต์ พุทธ ซิกข์ ฮินดู ฯลฯ เป็นต้น เป็นเรื่องที่ควรให้ความเคารพต่อศรัทธายิ่งของท่านเหล่านั้น รวมทั้งควรเคารพในพระศาสดาในพระศาสนานั้นด้วย การที่คนผู้หนึ่งไม่มีศาสนา ดังนั้นจักกล่าวลบหลู่ศรัทธาศาสนาใดอย่างไรก็ได้ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับศาสนานั้นเลย มันไม่ใช่เรื่องถูกต้องหรอกขอรับ โปรดพิจารณา แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 52 14:24:59 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 14 พ.ค. 52 14:23:11 ]

ความคิดเห็นที่ 37 # 29 คุณมีนัดกับกูรู้ เอ๊ย ผู้รู้ อ้าง *********************************** ถามนิด รากฐานของตึกคืออิฐ รากฐานของชีวิตคือการศึกษา ไฟที่ส่องทาง ประภาคารที่ส่องแสง จะให้โยนทิ้งหรือ ถ้าเราไร้รากทิ้งหลักคือไม้บรรทัดที่คุณว่าเสียแล้ว เราจะมั่นคงได้อย่างไร ลูกที่กตัญญูต่อพ่อแม่ แล้วบอกให้ทิ้งพ่อแม่ จะเป็นลูกกัญญูกตเวทีได้หรือ ************************************ หาก เราไร้รากทิ้งหลัก เราก็จักไม่ยึดติดกับสิ่งใด   และ ปล่อยวาง สรรพสิ่งได้ง่ายขึ้น ไง เจ้าคะ สิ่งนี้แหล่ะ ที่เหล่า ศรัทธาจริตชนผู้เปี่ยมล้น ไม่ค่อยจะมี และ ฟังแล้วทนไม่ค่อยจะได้ อิอิ นี่อิฉันไปคุ้ยเรื่องนี้ มาจากตะกร้า สามใบ มาเล่าให้คุณฟังเชียวนะ   เอาบาลีมาสอนเปรียญ 9 ซะล่ะมั้ง นู๋บีเอ๊ย 555 ลูกที่กตัญญูต่อพ่อแม่ แล้วบอกให้ทิ้งพ่อแม่ จะเป็นลูกกัญญูกตเวทีได้หรือ อืม...บัวนอกคอก อย่างอิฉันน่ะ ไม่เคยสน รางวัลชวนป๋วยปี่แป่กอ หรอกจ้า คุณเลี้ยงดูปูเสื่อ พ่อกับแม่ เพียงเพราะ ยึดติดกับคำว่า ลูก กตัญญู กับคำว่า ได้บุญ แค่นั้นหรือ ? ขงจื้อ กล่าวว่า จงมองด้วยตา แล้วปล่อยให้ปัญญาเป็นผู้วินิจฉัย http://www.saengthong.ac.th/stArticleGet.do?id=3 คุณเห็นด้วยกับเขาไหมล่ะเจ้าคะ อิอิ . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 14 พ.ค. 52 19:55:56 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ปล. อ่ะ เอา ข้อความ ที่ เด็กอายุ 12 ขวบ คนหนึ่ง เคยโพสไว้ที่ ลานธรรมมาหั้ยอ่าน ตามประสา คนชอบฟุ้งไปเรื่อย ๆ ดีกว่าแฮะ  อิอิ ------------------------------------------- เรียน คุณน้อง...doyjaar ที่เคารพ ? ขออนุญาต ยึดติด และเรียกตามลำดับอาวุโส ในฐานะที่ คุณพี่บัวฯ ลืมตามาดูโลกก่อนคุณน้อง ก็หลายปีอยู่ ^ 0 ^ ตอนแรก อ่านข้อความที่คุณน้อง โพส แล้ว คุณพี่ก็มาทั้งขำ แล้วก็ฟุ้งซ่านวิตกจริต ต่อ ประมาณว่า " ตายแหล่ว  นี่ อาจารย์ " Bio-chem" ตามเลคเชอร์เรื่องโมเลกุล และ เซลพื้นฐานให้ฟังเชียวหรือนี่? หรือว่า วิบาก ของการโดดเรียน วิชานี้สมัยละอ่อน จะตามมาเลคเชอร์สอนตูอีกรอบล่ะเนี่ย เฮ้อ...? " อย่างเรื่อง เซล ที่คุณน้องพยายามจะบอกนั้น คุณพี่เคยตั้งคำถาม และ คุยกับ หนูปูเป้ ( รูมเมท ) ตั้งแต่สมัยอยู่ปี หนึ่งแล้วจ้า ตอนนั้นคุณน้องคงยังใส่ขาสั้น เดินหัวเกรียนไปเรียน ม . 1 อยู่เลยมั้ง ^ - ^ ก็อย่างว่า ล่ะนะ นานาจิตตัง น่ะคุณน้อง สงสัยสมัยเรียน คุณพี่คงโดดมากไปหน่อย เลย  เรียนต่าง และ รู้ต่าง จากคุณน้อง ในบางเรื่อง คุณพี่จึงมองว่า ทุกอย่างล้วนอนิจจัง ที่ไม่ควรจะยึดมั่นถือมั่น สุดท้ายเก๊าะเลยกลายมาเป็น คนไร้ซึ่งศรัทธาจริตโดยสิ้นเชิง งี้ไง วิชาคณิตศาสตร์ สมัย ม. 4 สอนให้คุณพี่กลายเป็นคนที่ มองว่า ความโศกเศร้า  เสียใจ  แความน่ารำคาญ เล็ก ๆ น้อย ๆ ฯลฯ คือ Sub  Set  ของ ความทุกข์ อ่ะ และ ไม่ว่า ทุกข์หยาบ หรือ ทุกข์ละเอียด ล้วนเป็นสิ่งที่คุณพี่จะต้องเขี่ยทิ้งออกจากชีวิต วิชาเคมี สมัย ม.ปลาย สอนให้คุณพี่เรียนรู้เรื่อง อะตอม ควอนตัม การเสถียรของธาตุ สเปคตรัม และ การคายพลังงานของ อิเลคตรอน คุณพี่เลยรู้จัก ที่จะนำ ก๊าซเฉื่อย และ กัมตรังสี มาใช้ประโยชน์ โดยระมัดระวังไม่ให้มันเกิดโทษ กับตัวเอง และ วิชา ตรรกศาสตร์ ที่น่าเบื่อ สมัย ม.ปลาย อีกเช่นกัน ที่สอนให้พี่ รู้ถึง ความเหมือนที่แตกต่าง และ ความแตกต่างที่เหมือนกัน ดร. พระมหา......  เอ ไม่เอ่ยชื่อดีกว่า เน๊าะ เดี๋ยวพระอาจารย์สมัยมัธยมของคุณพี่จะขายขี้หน้า ที่หลวมตัวรับ คุณพี่ เป็น ลูกศิษย์ก้นกุฏิ แต่ พระ'จารย์ คงไม่ตำหนิ พี่หรอกมั้ง เพราะท่านมีความอดทนอดกลั้นกะพี่ เป็นอย่างยิ่ง ขนาด คุณพี่ถามไปว่า " พระ'จารย์ขาาาาาาาาาาาา ถ้า พระพุทธเจ้าเคยเกิดเป็น นกกระจาบ เป็น ลิงเป็นช้าง แล้ว ท่านเคยเกิดเป็น อะมีบา-พารมีเซียม ไหมคะ " ท่านยังไม่ว่าสักคำเล๊ยยยย คุณน้องเอ๋ย ^ - ^ เอาเป็นว่า พระ'จารย์ ของคุณพี่ ท่านสอนให้ โยนไม้บรรทัดทุกอันในโลกทิ้ง แล้วมองทุกอย่างตามความเป็นจริง โดยไม่ยึดติด กับ อุปทาน....ขัน ทั้ง 5 ( ใบ ) ...อ่ะ คุณพี่จึงเรียนรู้ว่า หมากับคน เหมือน ๆ กัน พระกับหมา ก็เหมือน ๆ กัน นิพพานกับก้อนหินก็มีความเหมือนกัน แต่ในความเหมือน ๆ ของทุก ๆ สิ่งนั้น ย่อม มีความแตกต่างเสมอ แหะ...แหะ...เพราะคุณพี่  พอจะมั่วนิ่มเรื่องนี้ได้บ้างน่ะ พระ' จารย์ ท่านเลยรับคุณพี่เป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิ ไม่งั้น ท่านคงไม่กล้าเอ่ยปากถามความเห็น ให้คุณพี่เป็นคนตัดสิน ชีวิตเด็ก ม.ปลาย ที่ติด ร.  คนหนึ่ง ว่าจะให้เขา ตอบคำถามสอบผ่าน วิชา พุทธศาสน์ หรือไม่ หรอกนะ แต่คงเพราะ ขันธจริต และ ขันธสันดาน ของคุณพี่ มันไม่ค่อยจะได้ มาตราฐานกระมัง คุณพี่เลยใช้ชีวิตเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ และ ไม่เคย...โอดครวญ....กับทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ( แต่อาจจะมีบ่นเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง ตามประสา ผู้หญิงปากมาก ^ - ^ ) . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 14 พ.ค. 52 19:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อย่างตอนที่ ถูกชักนำเข้าสู่วงการ...ปฏิบัติธรรม คุณพี่ก็ไม่เคยจะต้อง โอดครวญ เลยนิ ตอนถูกขอร้อง( แกมบังคับ ) ให้ไป ปฏิบัติธรรม ในโครงการ "ทำมาทำไม" เบื่อหน่ายคำคำเทศนา กับศรัทธาจริตคน มาก ๆ คุณพี่เก๊าะหาเรื่อง...ทดสอบ ภูมิรู้... พระวิทยากร แก้เซ็ง พอท่านสอนให้เดินจงกรม คุณพี่เก๊าะหัดเดินแคทวอล์คในวัด จนได้ สมถะกรรมฐานติดตัวมานิดหน่อย และครั้นพอถูกพระคุณเจ้า คาดคั้นให้รับปากเรื่อง ถือศีล 8 มาก ๆ คุณพี่เก๊าะ เข้าสู่ ฏิบัติการแหกค่ายปฏิบัติธรรม แต่พระวิทยากร ท่านคงสงสาร อยากกระเตง...บัวเหล่าที่ 5 ...ให้โผล่พ้นน้ำมั้ง เลยสั่งให้ โต้โผที่จัดงาน โทรมาตามคุณพี่ถึง โรงบาล เพื่อให้คุณพี่ ถ่อสังขารไปปฏิบัติธรรมต่อ อืม....ตอนนั่งสมาธิ พอง่วงคุณพี่ก็หลับ เบื่อ ก็เลิก ตอนเดินจงกรมรอบโรงบาลครั้งแรกในชีวิต ก็มีบ่นนิด ๆ ว่า เจ็บตีน ช่วง หนึ่งนาทีแรก แต่จากนั้น ทุกอย่างมันก็นิ่ง เพลินกับการเดินจนลืมเจ็บ เพราะถ้า ตีนมันเล่นตัว มาก ๆ คุณพี่คงเลิก การปฏิบัติธรรม เหมือน สลัด รองเท้าเก่า ๆ ทิ้งไปแล้วมั้ง เพราะ สำหรับคุณพี่แล้ว ธรรม ต้องปฏิบัติ เพื่อพ้นทุกข์ ไม่ใช่ปฏิบัติแล้วยิ่งจมปลักอยู่กับความทุกข์ อันนี้มิใช่คอนเซปท์ ของคุณพี่ฮ่ะ เจ้าหิริโอตะปะ ผู้จัดการส่วนตัวของคุณพี่ มันคงรู้สันดานคุณพี่ดีมั้ง เลยวิ่งไปล็อบบี้  เจ้าจริตทั้งหลาย แหล่ ไม่ให้งอแง เวลาคุณพี่ปฏิบัติธรรม ดังนั้น พญามาร จึงไม่เคยเป็นอริกับคุณพี่ อย่างมากมันก็เป็น แค่ ไอ้เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดที่น่าเอ็นดู Possitive Thinking แบบนาตาลี ในโฆษณา บีเอสซี ไง ถ้าเราคิดบวก มโนกรรมเราก็จะบวก แล้วชีวิตแบบ บวก ๆ มันก็จะตามมา ไม่ต้องผวาตื่นมาแบบหวาดระแวง ว่ามีผีชัตเตอร์มาล้อมเตียง อืม....คุณพี่ไม่เคยคิดจะเปลี่ยน โคตรของกิเลส หรอกนะ แต่ คุณพี่พยามเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน แบบ คู่เวรคู่กรรมด้วยความชื่นมื่นน่ะ ประมาณ โกโบริ กับ อังศุมาลิน ไงไอ้น้อง ถ้าเรามอง พญามาร เป็นศัตรู รบกี่ครั้ง อย่างมากมันก็แค่ เสมอ หรือ ชนะแบบสะบักสะบอม แถมต้องมีชีวิตอยู่ด้วยความระแวงว่า รอบ ๆ ตัวมีแต่ผู้ปองร้าย ไม่เอาละ คุณพี่ไม่ชอบ อยู่แบบนั้นมันไม่สงบ คุณพี่ เลยไม่มอง พญามาร เป็นศัตรู อ่ะ แต่ เลือกที่จะมอง พญามาร เป็น คุณพ่อของพี่ ถ้าเราสวมรอยเป็น  ธิดาพญามาร ปีศาจคงขยาดไม่กล้าทำอะไรเราหรอกมั้ง เฮ้อ คุณพี่ชอบกินอาหารร้านเดิม ๆ ที่คุ้นลิ้น อ่ะค่ะ จึงไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงไปกินอาหารร้านอื่น หรือเอาเงินไปลงทุนที่บริษัทอื่น แต่ ลูกค้าอย่างคุณพี่จะเข้าแทรกแซง และ เทคโอเวอร์( ฮุบกิจการ) ของมันอ่ะ อืม....เป้าหมายในชีวิตของพวกเรามันต่างกันน่ะ คุณน้องน่ะขวนขวายเลือก ที่จะมุ่งไปสู่ โลกแห่งโลกุตระ ( Super Ego ) ไง เหนื่อย ไหมล่ะ ที่เต้นไปตาม ความอยาก ไม่อยากน่ะ ไง หนักไหมล่ะ กับ ไม้บรรทัดที่แบกบนหัวน่ะ อืม....คนขี้เกียจอย่างคุณพี่ คงแก่เกินกว่า จะวิ่งตามทางสายนฤพานแล้วล่ะ เฮ้อ แล้วก็ขี้เกียจเกินกว่าจะแบกไม้บรรทัดไว้บนหัว ด้วย คุณพี่เลยเลือกที่จะรักษา สมดุลของ โลกียะ และ โลกุตระ แทนอ่ะ . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 14 พ.ค. 52 19:57:38 ]

ความคิดเห็นที่ 40 # 30 อาเจ้ ddt เอ๊ย  dmc อ้าง ดิฉันชอบเพชรมากกว่าทอง เพราะคิดว่ามันสวยกว่า แพงกว่า ดูดีมีคลาสกว่า   ถ้านู๋บีชอบทอง เห็นทองดีกว่า แต่คนอย่างนู๋บีคงไม่ยึดติดทั้งทองทั้งเพชรละมั้ง   ว่าแต่ว่าตอนนี้ทองแท่งราคาลงไปแล้ว บาทละ50บาท ขายไปยัง หวังว่าคงไม่ติดดอยนะจ๊ะ ---------------------------------------- แหม ? เข้ามาแจกลูกยอกะอิฉัน อีกแย้ว ^ -^ แล้วบัวอเหล่าที่ 5 ย่าง อิฉัน จะ หนีน้ำ พ้นไหมน๊อออออ อิอิ ก็อย่างที่ เคยพล่าม ไว้ แหล่ะ ว่า คนอย่างอิฉันมันชอบที่จะ " มองหา สีขาว ในสีดำ  และ มองเห็น สีดำ ในสีขาว" ถ้าเจ้ บอกว่า ชอบเพชร มากกว่า ทอง อิฉันก็จะแหกปากร้องว่า ทองดีกว่า เพชรยังไง แต่ถ้า เจ้บอกว่า ทองดีกว่า เพชร อิฉันก็พร้อมที่โต้แย้งเบ็ดเสร็จ ว่า เพชรดีกว่าทอง ยังไง แต่ พอ เจ้ มาบอกว่า " จากทองแท่งเอาไปเผาก็กลายเป็นทองเหลวๆๆอีก เวียนว่ายตายเกิดอย่างนี้ไปเรื่อยๆก็ดีอีกแบบ สำหรับคนชอบแบบนี้ ชอบใครชอบมันเนาะ " แหม ? ฟังแล้ว อิฉันเก๊าะ เถียงไม่ออกอ่ะดิ เจ้นี่ก็ยังตอบได้สมกับเป็น เจ้ เหมียนเคยแฮะ ^ - ^ แล้วงี้ ิฉันหรือจะกล้าไปตบจูบ กะซ้อใหญ่ใจดี อย่าง อาเจ้ ddt ล่ะเจ้าค่ะ อิฉัน มิช่าย พิศาล อัครเศรณี ซะหน่อย นิ อีกอย่าง ยังอยากคุยกะคนสวยปัญญาดี บ่อย ๆ อ่ะ อิอิ นู๋บีไม่คิดจะ ตบจูบ กะเจ้หรอกจ้า อ้อ เรื่องน้องทองม้วน น่ะ โดดลงจากดอยตั้งแต่มัน แตะ พันดอลล์ เมื่อ มีนา แล้วอ่ะ ตอนนี้ กะลังเล็ง ๆ อยู่ ว่าเมื่อไร น้องเค้าจะโดนทุบบบบบ กินตามน้ำน่ะ อิอิ เฮ้อ บางที การเล่น กับความโลภ ของตัวเอง นี่มันก็เสี่ยงเหมือนกันนะเจ้ เวลาคลิ๊กเปิดดูกราฟน้องทองม้วน กะเวลาเหลือบมองป้ายราคา หน้าร้านขาย ทีไร มันเห็น ความโลภในหัว เพ่นพ่านเต็มไปหมดเลยแหล่ะ แต่ก็ดี จะได้ฝึกปรือทักษะการ ดูจิต ของตัวเองไง ถึงเวลา ทวนศีล ทวนการดูจิต ทีไร เจ้า หิริโอตตัปปะ ผู้จัดการส่วนตัว มัน เฉ่งใหญ่ อิฉันใหญ่เลย อิอิ ปล. มามะ ขอ กอด ซักทีนะเจ้  คิดถึง เจ้จัง นานเหลือเกิน ที่เจ้ไม่ได้เข้ามาโพส เสริม สิริมงคล ให้กับกระทู้ อิฉัน ^ - ^ . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 14 พ.ค. 52 20:01:03 ]

ความคิดเห็นที่ 41 # 32-36 คุณ จิวแปะทง เอ๊ย คุณจิตซังกะบ๊วย อิฉันมิใช่ อึ้งย้ง คนสวย นะ จ๊ะ อย่าหวาดกลัวอะไรกับน้ำลายอิฉันนักเล๊ย อืม...คุณเอาอะไรมาตัดสิน เจ้าคะ ว่า ใครเป็นตุ๊ด  หรือ เป็น พุทธ บัตร ปชช. อิฉันน่ะ มีคำว่า พุทธ หราเลยนะ ( แบ่บว่า แม่ให้มาาาาาา 5555 ) เฮ้อ ไม่ต้องมาขออภัย อิฉันหรอกจ้า เวลาอ่านตัวหนังสือ ที่คุณปรุงแต่ง มาฉอด ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ใส่ อิฉันก็แค่ เซ็งจิตนิดนึง เท่านั้นแหล่ะ ทั้งขำทั้งฉิว ประมาณว่า ไอ้หมอนี่ มันจะตามจิกทึ้งตู ไปถึงไหนเนี่ย รู้ทั้งรู้ว่า ตูเป็นพวก ปทปรมะ ยังจะมาเลคเชอร์ให้ฟังอยู่ได้ อิอิ เอ้า เอาคำขออภัยของคุณคืนไป คุณไม่ได้ทำอะไรผิด จะมาขอโทษทำไม มันก็แค่เรื่องของการ ปรุงแต่งจริต เท่านั้นแหล่ะ . ไม่มีอะไรผิดอะไรถูก   และ ไม่มีอะไรในตะกร้าสามใบ เอ๊ย ในกอไผ่ จิง ๆ จ้า^ - ^ และ อิฉัน ไม่คิดจะถ่อสังขาร ไปเร่ถามหาหัวใจ เอ๊ย ความจริงใจของใครหรอกจ้า เพราะอิฉัน ไม่เคยสงสัย ในความจริงใจของคุณหรอกนะ ส่วนใคร จะสงสัยในความจริงใจ ของอิฉันว่าเป็นอย่างไร อิฉันก็ไม่ใส่ใจเช่นกัน เจ้าค่ะ มโนปุพฺพํคมา   มโนมยา   มโนเศรษฐา ลืมแล้วหรือไง  คุณนกฮูกขี้โมโห ตอนอ่าน ข้อความที่คุณพยาม จิกทึ้ง เอ๊ย ปากเปียกปากแฉะ เลคเชอร์ ให้ฟังน่ะ อิฉันมองเห็นความหวังดี ที่คุณมีให้อิฉันนะ เพียงแต่ สิ่งที่คุณคิดว่า ดีที่สุด สำหรับคุณ มันอาจจะไม่ใช่ สิ่งที่ดีที่สุด ตามที่อิฉันคิดไว้ ปัจเจกอย่างอิฉัน ถึงได้บอกไง ว่า ตีนใครตีนมัน   ตัวใครตัวมัน ( ตูดใครตูดมัน )! . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 14 พ.ค. 52 20:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อ้าง ---------------------------- การที่คนผู้หนึ่งไม่มีศาสนา ดังนั้นจักกล่าวลบหลู่ศรัทธาศาสนาใดอย่างไรก็ได้ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับศาสนานั้นเลย มันไม่ใช่เรื่องถูกต้องหรอกขอรับ ----------------------------------- อืม...คงต้องเอา คำพูดที่ แว้ด ๆ ใส่ เจ้า วิด-สวะ บางคน มาบ่นให้ คุณฟัง อีกแล้วกระมัง "ผู้หญิงทั้งแท่งอย่างอิฉันน่ะ ตัดสินทุกสิ่งจากความรู้สึกเจ้าค่ะ ไม่ใช่ด้วยเหตุผล และ ความถูกต้อง ยุติธรรม อ่านแล้วก็ปลงซะเถิดเจ้าค่ะ อย่าพยามมาสอนไอ้เข้อย่างอิฉันเลย นะคุณ  " แล้ว คุณมี เจโต หรือไง ถึงได้รู้ ว่า ตอนปรุงแต่งตัวหนังสือออกมา โพส ในหัวอิฉัน มีเจตนาจะ ลบหลู่ ใคร อืม..(วจี ) กรรม บางทีมันก็เป็นเครื่อง ชี้วัด เจตนา ไม่ได้หรอกนะเจ้าคะ ตราบเท่าที่ ยังมีการ ปรุงแต่ง ของทั้งคนเขียนและ คนอ่าน "ตัวหนังสือ สิบห้าคำที่น่าเบื่อหน่าย นั้น ตอนเขียนอิฉันเป็นคนปรุงแต่ง มันขึ้นมาก็จริง เจตนาอิฉันเป็นอย่างไร ใครจะมารู้ดีกว่า อิฉัน แต่หลังจากที่ คุณอ่านมันจบ คุณนั่นแหล่ะที่เป็นคน ปรุงแต่ง มันต่อ ส่วนจะ ปรุงแต่ง ไปทางใด ก็สุดแล้วแต่กับ จริต 6 ในตัวนกฮูกหัวโต อย่างคุณ " เฮ้อ เคยเขียนไว้ ที่ คห. 40 ที่ กระทู้ http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/03/Y7616038/Y7616038.html แล้วนะ ว่า " ปกติอิฉันใช้ตัวหนังสือ ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของตัวเองนะ และความรู้สึกนึกคิดของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน มันจำเป็นต้องเหมือนกันหรือ ถ้าคุณศรัทธาในวัดร่องขุ่นแล้วอิฉันไม่ศรัทธา แต่กลับไปชื่นชมวิหารเซนต์ปีเตอร์ มันผิดหรือไม่ และถ้าสังเกต การตั้งและตอบ กระทู้ ของอิฉัน แม้อิฉันจะก้าวร้าว และ แกว่งปากหาเท้า แค่ไหน แต่ธรรมเนียมปฏิบัติในการเขียนกระทู้ของอิฉันคือ 1.ห้ามพูดโกหก เพราะมันไม่เพียงแต่ผิดศีลข้อ 4 เท่านั้น   แต่มันเหมือนเราดูถูกตัวเองด้วย ทำไม่ลง 2.ยอมรับ ความคิดต่าง เสมอ แม้ว่าจะไม่เห็นด้วย เพราะอิฉัน ไม่ใช่ศรัทธาจริตชนผู้เปี่ยมล้น ที่ชอบเจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตชาวบ้าน ให้เป็นไปตามตัณหา (ความอยาก) ของตน 3.ไม่พูดคำหยาบ(เกินกว่าที่จะยอมรับได้ ) แต่มักจะพูดให้คิด ส่วนคนอ่านจะคิดไปทางไหน ก็แล้วแต่ขันธจริตของเขา ล้วน ๆ   ที่สำคัญอิฉันไม่เคยประณาม sinv ตำหนิใคร ไม่ว่าจะ พระเยซู พระอัลเลาะห์ หรือ พระพุทธเจ้า ก็แค่พูดทุกอย่างตามที่รู้สึก และ เอา ตรรกะมาพูดให้คิด มันก็แค่นั้น ว่าแต่ อะไรคือบุญ อะไร คือบาปล่ะเจ้าคะ อิอิ? ถ้า บุญ คือ เครื่องชำระกิเลส ทำให้ จิตแจ่มใส งั้น บาป ก็คือ ตัวทำให้เกิดกิเลส ทำให้จิต ขุ่นมัวงั้นสิ ? แล้วถ้าตลอดเวลาที่อิฉันปรุงแต่งตัวหนังสือ ขึ้นมานั้น จิตของอิฉันมิได้ขุ่นมัว หรือ คิดอะไรชั่ว ๆ นอกจากมีอารมณ์ขันพิเรนทร์ เหลือเฟือ มากกว่า ชาวบ้านเล็กน้อย อย่างนี้อิฉัน จะสะสมบาปหรือ เปล่า หนอ ? แล้ว ถ้า ตัวหนังสือที่อิฉันเขียนขึ้นมานี้ ทำให้จริตคนอ่านปรุงแต่งไปในทางที่ขุ่นมัว ใครกันล่ะ ที่ต้องรับบาปนั้น อืม...ถ้าคนที่ปรุงแต่งไม่อยาก รับบาป นั้น งั้นอิฉันก็ยินดีจะ รับบาป แทนเองก็ได้เจ้าค่ะ แต่ เอ...? จะทำยังไงให้อิฉัน รู้สึกบาป( ขุ่นมัว ) แทนคนเหล่านั้นได้ล่ะเจ้าคะ อิอิ น่าขำแฮะ  อิฉันนึกถึง คห.4   ในกระทู้ เมื่อ พุทธเทียม ...ถก... กับ พุทธแท้   http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y7447625/Y7447625.html จังเลยอ่ะ  ไม่น่าเชื่อเลยแฮะ ว่าข้อความล่อแหลมในนั้น จะยังมี คนหน้ามืด? มาถูกใจให้กิ๊ฟ ในขณะที่ ข้อความเดียวกันนี้ มักจะทำให้ศรัทธาจริตชนขุ่นมัว แล้วงี้ คุณคิดว่า ใครจะได้บุญ ( จิตแจ่มใส ) ใครจะ ได้บาป ( จิตขุ่นมัว ) กันหนอ ? คนอ่าน อย่าง ไอ้หมอนั่น หรือ เหล่าศรัทธาจริตชนผู้เปี่ยมล้น ล่ะเจ้าคะ ? ต่างคน ต่างจิต คิดต่าง ต่างคน ต่างความ ต่างเห็น ต่างคน ต่างโต ต่างเป็น ต่างคน จึงเห็น ต่างกัน " ------------------------------------------ จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 14 พ.ค. 52 20:04:40 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อุ๊ยต๊ายยยยย ขออภัย ที่พล่ามถึงแต่เรื่องในอดีต แบ่บว่า ขี้เกียจครีเอทข้อความใหม่อ่ะ ก๊อปของเดิมมาวงดีกว่า ง่ายดี ว่าแต่ พล่ามมาถึง แปดสิบคำ  หรือยังหว่าตู หุหุ อิฉันไม่คิดว่ากำลังสอน แต่กลับคิดว่า หากคุณ เปลี่ยนจาก คำว่า "ทำไมอิฉันไม่เข้าใจ " มาเป็น " ทำอย่างไร คุณจึงจะเข้าใจอิฉัน " คุณก็จะรู้ว่า ที่พูดมาร้อยคำ เหลือห้าคำ มันเพราะอะไร คุณจะฟังหรือไม่ฟังก็แล้วแต่คุณ ( แหม ? สำนวนค้น ๆ แฮะ อิอิ) เชิญตามสบายเช่นกันเจ้าค่ะ  คุณนกฮูกขี้โมโห อิฉันขอปิด กระทู้นี้ดีกว่าแฮะ รู้สึกว่า คำถามในกระทู้ นี้ ไม่ยักมี คนมาตอบให้ ชื่นสะดือ เลย ที่สำคัญ กระทู้นี้มันทำให้อิฉันติดเนต และ ไปเดินเตะฝุ่นรอบโรงบาล เลท บ่อยๆ แล้ว . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 14 พ.ค. 52 20:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 44 --------------------------ปิดกระทู้เจ้าค่ะทุกท่าน---------------------------- . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 14 พ.ค. 52 20:06:31 ]

ความคิดเห็นที่ 45 บ๊ายบาย "เอ็งโกว" ... จากคุณ : จิวแป๊ะทง (JitZungkabuai) - [ 15 พ.ค. 52 09:31:32 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ... แม่นางลิ้มเซียนยี้ ที่ใดกัน เอ็งโกว เราจะก่อกวนม่วยๆ เห็นเป็นเรื่องสนุก แน่จริงก็ตามเรามา  ฮาๆๆ จากคุณ : จิวแป๊ะทง (JitZungkabuai) - [ 15 พ.ค. 52 11:50:31 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ลิ้มเซียนยี้ น่ะ ถูกต้องที่สุด แล้วล่ะ ท่านเฒ่าทารก หุหุ ถึง หวานใจอิฉันจะชื่อ คุณ เอี้ย....ก้วย มิได้ ชื่อ จิวแป๊ะทง แต่อิฉันก็ยังคง ขี้เกียจเป็น หญิงโง่ผู้อาภัพ เฉกเช่น แม่นางเซียวเหล่งนึ่ง  กับ คุณป้าเอ็งโกว นะ อิฉันชอบเป็น นางฟ้าโฉมสะคราญ ที่จงใจพาบุรุษลงนรกอเวจี มากกว่าจ้า ประมาณว่า "...ข้าพเจ้าฆ่าคน มิเพียงไม่เห็นโลหิตเท่านั้น (หาก)แต่ยังไม่ต้องใช้มีด กระบี่อีกด้วย.." อย่าลืมนะ ว่า “สตรีพอจะไม่ถือคุณธรรมเลย นี่คือสิทธิของสตรีที่มีมาแต่กำเนิด ธรรมชาติของบุรุษเข้มแข็งกว่าสตรี ดังนั้น สมควรอ่อนข้อให้สตรีสักหลายส่วน” หวังว่า คงเข้าใจ แล้วยอม ล้มมวย ให้อิฉันฉกเข็มขัดแชมป์ ไปได้แล้วนะ คุณ นกฮูกตาถั่ว (เฮ้อ เป็นสตรี มันดี อย่างนี้เอง หุหุ ) เอาล่ะ ขอตัดริบบิ้น ปิดกระทู้ จิง ๆ แล้ว เด๋วจะหายหัวไปหมกตัว อ่าน เจ็ดเดือนทะลุธรรม..  เอ๊ย...  บรรลุธรรม   สักพัก ดองมาเกือบปี จนเจ้าของหนังสือเริ่มทวงถามแล้ว 555 อ่ะ เอารูป แม่นางลิ่มเซียนยี้ มาฝากไว้ให้ดูต่างหน้า นะจ๊ะทุกท่าน . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 15 พ.ค. 52 18:29:42 ]

ความคิดเห็นที่ 48 . อุ๊ยต้ายยยยยย โทษที ลงผิดรูป นั่นมัน รูป คุณ เอี้ย...ก้วย หวานใจ อิฉัน ตะหาก จิง ๆ มันต้องรูปนี้ ตะหาก อิอิ .............................ลิ่มเซียนยี้.................................................. “ อันสตรีเป็นเกาะแก่งกีดกั้นกระแสกุศล มีมัจฉริยะมืดมนคือตัวมาร ” . จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 15 พ.ค. 52 18:31:30 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ยอมแพ้แล้ว :) จากคุณ : JitZungkabuai - [ 15 พ.ค. 52 18:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อ้าว..มวยล้ม คุณจิตซัง..แกล้งแพ้เชือกกล้วยซะงั้น..?  ผมเสียดาย...แม่นางในรูป คคห 48 นี่นะ ชาตินี้ทั้งชาติ...ไม่ได้เห็นขาอ่อนผม ..หน้าตาดูเหมือนแม่นาง..ซีดเซียวนึ้ง จริงๆ...?  นู๋บี-บัวห้าเหล่า ..ศพยังสวยเลยมาให้กำลังใจ..ดันมาเจอมวยล้ม แพ้ด่านนางงาม นี่เองท่าไม้ตายซะด้วย.? จากคุณ : เกิดเป็นคนช่างยากแท้ - [ 15 พ.ค. 52 20:03:40 ]

ความคิดเห็นที่ 51 “สตรีพอจะไม่ถือคุณธรรมเลย นี่คือสิทธิของสตรีที่มีมาแต่กำเนิด ธรรมชาติของบุรุษเข้มแข็งกว่าสตรี ดังนั้น สมควรอ่อนข้อให้สตรีสักหลายส่วน” ^ ^ เราจะแกล้งโกวเนี้ยน้อยอย่างไรได้อีก สู้ยอมแพ้ เร่งฝีเท้าจากม่วยๆอำมหิตผู้นี้จะดีกว่า สามส่วนอ่อนข้อให้ ถึงแม้จะเอาชนะได้ ก็ต้องไม่กล้าเอาชนะอยู่ดี ไปล่ะ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 15 พ.ค. 52 20:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เรื่องบุรุษสตรี ชนทั่วไปย่อมเห็นว่าบุรุษย่อมเอาชนะสตรีได้ ด้วยสติปัญญาและกำลัง แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ผู้ชนะ ย่อมใส่ตรีนสุนัขโกยอ้าว จากคุณ : จิตดับไป... (JitZungkabuai) - [ 15 พ.ค. 52 20:52:06 ]

ความคิดเห็นที่ 53 จังได๋..ม่วยๆ นู๋บี..บัวห้าเหล่า..นี่อำมหิตนัก มาหลอกข่มขู่ ผู้คน ใช้ไม้ตาย "ผลักไสกฏเกณฑ์ ไม่เอาคุณธรรมต่อสู้ "...ใช้ป้ายวิญญาณมาหลอก ให้ผู้คนอดอยาก..แล้วก็จากไป..?    แม้กระบี่มือหนึ่งแห่งง้อไบ๋..ถึงกับจิตดับไป และยังมิอาจทนทานได้หรือนี่..โอว มีอานุภาพ เหนือกว่าอภิภรรยาแล้ว..?  อำมหิตนัก อำมหิตนัก ...แม่นาง ซีดเซียวนั้ง(เภสัชสาวซีดเซียว)..นู๋บี.คิดผิด คิดผิด เราเล่าฮู หลงกล ซ้อนกล ไว้ไมตรีซะแล้ว ! จากคุณ : เกิดเป็นคนช่างยากแท้ - [ 16 พ.ค. 52 07:50:51 ]