Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ระลึกคุณท่านอาจารย์พุทธทาส

    วันนี้ ระลึกถึงท่านอาจารย์พุทธทาสเป็นพักๆ
    พรุ่งนี้แล้วจะครบวันล้ออายุท่านอีกครั้ง
    ดิฉันไม่ใช่ศิษย์ ในชีวิตเพียงแต่อ่านหนังสือท่าน
    หนังสือเหล่านั้น ส่งผลให้ดิฉันสมาทานพุทธ
    คือรับเอาพุทธธรรมมาปฏิบัติในชีวิต

    หนังสือเล่มแรกที่ได้อ่าน คือ “ตัวกู ของกู”
    สมัยนั้นคำนี้ยังแปลกใหม่  แต่กระทบใจดิฉันอย่างจัง
    ต้องวิ่งแล่นไปร้านหนังสือ “ธรรมบูชา” ริมคลองหลอด
    กำเงินค่าขนมที่รวบรวมได้ในแต่ละสัปดาห์
    ไปซื้อหาหนังสือของท่านมาอ่าน
    เจ้าของร้านใจดีมาก ทั้งแจกและแถมอยู่เป็นนิจ

    แต่ชีวิตมนุษย์ย่อมผกผันไปตามกระแสสังคม
    เกิดวิกฤตศรัทธาใหญ่หลวง
    ไม่เหลือที่จะเชื่อสิ่งใดได้อีกแล้ว
    อยากไปให้ถึงต้นธารแห่งความรู้และความคิดทั้งปวง
    วางหนังสือท่านพุทธทาส  หันไปอ่านพระไตรปิฎก
    แล้วก็ต้องกลับมาอ่านหนังสือท่าน รวมถึงครูอาจารย์อื่นๆ
    เพื่อความเข้าใจในพระไตรปิฎกนั้น

    แต่สุดท้ายกลับต้องถามตนเองว่า
    “พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร ทำไมจึงทรงเชื่อมั่นในมนุษย์มากนัก”
    ถามทั้งๆ ที่สองมือยังประคองพระไตรปิฎกอยู่นั่นเอง
    ก็อาศัยคำสอนของท่านอาจารย์พุทธทาสนั่นเองนำทาง
    ไปหาคำตอบโดยเจริญสมถะ- วิปัสสนา “อานาปานสติ”
    เปิดหนังสือของท่านพุทธทาสทีละหน้าๆ
    อ่านทีละคำๆ ทำตามที่ท่านแนะนำไป
    ทำไปงูๆ ปลาๆ แต่ก็ได้เรียนรู้ว่า
    ทางสายนี้มีจริง  เป็นทางอันสงบประณีต

    ต่อมาทดลองเจริญสติปัฏฐานตามแบบหลวงพ่อเทียน
    หนังสือต่างๆ ของท่านพุทธทาสยังคงเป็นกัลยาณมิตรที่ดีเสมอ
    ท่านสอนให้เข้าใจเงื่อนงำสำคัญมากมายในการพ้นทุกข์
    จนยากที่หาคำกล่าวใดๆ มาบรรยายได้หมดสิ้น

    แม้กระทั่งเมื่อกลายเป็นคนมีครูบาอาจารย์ด้านการปฏิบัติ
    ท่านอาจารย์พุทธทาสซึ่งล่วงลับไปหลายปีแล้ว
    ก็ยังคงเป็นกัลยาณมิตรให้ดิฉันผ่านหนังสือของท่าน
    โดยเดิม ดิฉันเป็นคนดื้อแพ่งไม่ยอมเข้ากรรมฐาน ชอบทำเอง
    ใคร สายไหน จะชวนไปปฏิบัติธรรม ไม่ไปทั้งนั้น
    แต่แล้วก็เกิดเหตุให้ดิฉันกลับต้องเป็นตัวตั้งตัวตี
    พาคุณแม่ซึ่งเจ็บหนักไปปฏิบัติธรรม

    ครูบาอาจารย์ของคุณแม่เป็นสายพอง-ยุบ
    ส่วนดิฉันไม่ชอบสายนี้เลย
    โดยเฉพาะคำว่า “หนอ” ไม่ชอบที่สุด
    จึงสองจิตสองใจว่า จะติดตามไปดูแลท่านเฉยๆ
    หรือจะเข้าอบรมกรรมฐานร่วมกับท่านด้วย
    จึงรื้อหนังสือเก่าๆ ที่เคยปฏิบัติธรรมเองออกมาอ่าน
    รวมทั้ง “สมาธิ-วิปัสสนา ระบบลัดสั้น สำหรับประชาชนทั่วไป”
    ซึ่งเป็นการบรรยายครั้งที่ 3 ของชุด
    “สมถะวิปัสสนาแห่งยุคปรมาณู” เมื่อปี พ.ศ.2527
    ท่านสอนเรื่อง “หนอ” นี่เอง
    สอนเป็นระบบ ละเอียด ทั้งอิริยาบถใหญ่และอิริยาบถย่อย
    ท่านให้ “เอาของจริงมาดู”
    ท่านให้ดูตัวความรู้สึกจริงๆ ขณะที่ว่าคำ “หนอ ..หนอ”
    ท่านว่า “หนอ” มี 3 ความหมาย คือ
        1. “หนอ”ของคนโง่
        2. “หนอ”ของสติ  และ
        3. “หนอ”ของปัญญา
    ท่านเน้นให้ “ทำความรู้สึก” ต่อสิ่งนั้นให้ชัดแจ้งเสียก่อน
    ท่านเน้นว่า “หนอ”ของวิปัสสนานั้น ไม่มีตัวบุคคล
    สักแต่ว่า อาการ หรือ อิริยาบถ เท่านั้น หนอ

    ดิฉันจึงติดตามไปดูแลคุณแม่
    พร้อมเข้ารับการอบรมกรรมฐานไปด้วย
    7 วันทั้งที่ดูแลคุณแม่ไปด้วย
    แต่กลับเข้าใจอะไรมากกว่า 20 ปีที่ปฏิบัติเอง
    กลายเป็นคนมีและเคารพครูบาอาจารย์
    กลายเป็นคนซาบซึ้งในพระรัตนตรัยขึ้นอีกมาก

    คำใดจะเอ่ยได้ดังใจเล่า
    ดิฉันไม่เคยพบท่านอาจารย์พุทธทาสเลยสักครั้ง
    แต่ดิฉันก็วางท่านไว้เหนือเศียรเหนือเกล้า
    และเรียกท่านเต็มปากเต็มคำว่า
    ท่านอาจารย์พุทธทาส

    จากคุณ : oDaineo - [ 26 พ.ค. 52 13:25:54 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป


Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com