ความคิดเห็นที่ 34
ผมพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่กล่าวถึงเรื่องการเรียนหรือความรู้ไม่ว่า ในเรื่องใดๆก็ตาม ที่ผมกล่าวว่าผุ้รู้ในทางนิคิศาสตร์อิสลามนั้น เพราะว่า คุณว่าจะมีผู้รู้ในทางนี้มาตอบ...จาก "ความคิดเห็นที่ 25 ของคุณ" คุณกล่าวว่า
"ผมตอบขัดตาทัพไปก่อน รอผู้รู้เรื่องกฎหมายอิสลามมาตอบ จากคุณ : Carroth"
เมื่อคุณกล่าวเช่นนี้แสดงว่าคุณไม่มีความรู้ในเรื่อง "กฎหมายอิสลาม" แต่มากล่าวตอบแสดงความเห็น ซึ่งผมก็ไม่ได้ รังเกียจที่จะอ่าน เพราะ ถ้าจะเปรียบ คุณก็เหมือน ตัวตลกสลับฉากการแสดง เท่านั้นเอง ซึ่งจะเห็นได้ว่า เวลาคุณออกมาแสดง กองเชียร์ของคุณ ก็ แจกของขวัญพวงมาลัย กัน ซึ่งผมก็ขอแสดง ความยินดีด้วยไปกับคุณ
แต่เมื่อคุณมาอ้างว่าคุณก็มีความรู้เพียงพอสามารถที่จะลดตัวมา ตอบคำถามผม ผมก็ขอขอบคุณ เมื่อเป็นเช่นนั้น แล้ว คุณช่วย อธิบายและตอบคำถามผมเป็นข้อๆไป อย่าง ผู้ที่มีความรู้ ไม่ใช่นักเลงประจำซอย
.............
ผมจะอธิบายให้คุณเข้าใจ อย่างย่อๆที่สุด ว่า ตามความเรื่องราวในอัลกุรอาน
และจากโองการที่ท่าน ASTB ได้นำมาว่า
[5 : 44] แท้จริงเราได้ให้อัต-เตารอตลงมา โดยที่ในนั้นมีข้อแนะนำและแสงสว่าง ซึ่งบรรดานบีที่สวามิภักดิ์ได้ใช้อัต-เตารอตตัดสินบรรดาผู้ที่เป็นยิว และบรรดาผู้ที่รู้แล้วในอัลลอฮ์ และนักปราชญ์ทั้งหลายก็ได้ใช้อัต-เตารอต ตัดสิน(*1*)ด้วย เนื่องด้วยสิ่งที่พวกเขาได้รับมอบหมายให้รักษาไว้ (นั่นคือ) คัมภีร์ของอัลลอฮ์(*2*) และพวกเขาก็เป็นพยานยืนยันในคัมภีร์นั้นด้วย ดังนั้นพวกเจ้า(*3*) จงอย่ากลัวมนุษย์แต่จงกลัวข้าเถิด และจงอย่าแลกเปลี่ยนบรรดาโองการของข้ากับราคาอันเล็กน้อย(*4*) และผู้ใดที่มิได้ตัดสินด้วยสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาแล้ว ชนเหล่านี้แหละคือผู้ปฏิเสธการศรัทธา (อัลมาอิดะห์ 5 : 44)
จะยกมาแต่เพียง อายะเดียวไม่ได้
ถ้าคุณจะเรียนรู้อัลกุรอาน ซึ่งผมกล่าวมาหลายครั้งแล้วว่า ให้อ่านตั้งแต่ต้น ซูเราะห์ และซูเราะห์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกัน กับเหตุผลในอายะที่อ้างอิงแล้วมันจึงจะมีความหมายที่ถูกต้อง, และ ถ้าจำเป็นจะต้องค้นคว้าถึงหลักฐานจาก เตารอดหรือ อินจิล, (หรือ คัมภีร์ จาก ยิว หรือ คริสเตียน) ก็จำเป็นต้องทำเพื่อ ให้ได้คำอธิบายได้ถูกต้อง
ในซูเราะห์นี้ ถ้าทำความเข้าใจให้ถูกต้อง จะเห็นว่าเป็นเรื่องราว ทีกล่าวถึง ข้อตกลงใน การล้างแค้นกัน ระหว่างชาวยิว แห่งกรุงมะดินะสอง เผ่า ซึ่งฆ่าล้างแค้นกันอย่างโหดเหี้ยม และไม่มีความยุติธรรม
เมื่อท่านศาสนทูตมูฮัมมัด มาถึงกรุงมะดินะ มีผู้นำกรณีพิพาทที่กล่าวนี้มาให้ท่านศาสนทูตตัดสิน บัญญัติ ซึ่ง พระเจ้าได้ส่งหลักการในการตัดสินให้เหมาะสมกับ สังคมและสถานะการในสมัยนั้น เป็นการให้ความยุติธรรมระหว่าง คู่พิพาทที่ฆ่าล้างโครตกันมาแต่ดึกดำบรรพ์,
ซึ่งไม่ใช้กฏหมายที่บังคับใช้ในสังคมมุสลิม ระหว่าง รัฐกับ ประชาชนมุสลิม ด้วยเหตุนี้ รัฐจะตั้งตัวเป็นคู่แค้นกับประชาชนในสังคมมุสลิมไม่ได้
การลงโทษโดยการล้างแค้น ในสมัยนั้น บัญญัติต้องการชี้ให้เห็นว่า ท่านได้มีบัญญัติ เหล่านี้มาก่อนแล้ว เช่น
Refer to: Exodus 21, vs. 23-26: "Wherever hurt is done, you shall give life for life, eye for eye, tooth for tooth, hand for hand, foot for foot, burn for burn, bruise for bruise, wound for wound."
พระเจ้าได้บัญญัติไว้ในคัมภีร์ ของพระองค์ คือ เตารอด และอินจีล ว่า ให้ใช้โทษโดยการแก้แค้นให้สมกับการกระทำ ของผู้กระทำความผิด ให้สมกับ ความรุณแรง ของโทษที่เขากระทำ
โดยใช้การเปรียบเทียบ ดังนี้, ชีวิตต่อชีวิต, นัยตาต่อนัยตา, จมูกต่อจมูก, ใบหูต่อใบหู และ ฟันต่อฟัน ซึ่งในอัลกุรอานมีบัญญัติไว้ใน ซูเราะฮฺ อัล-มาอิดะ อายะที่ 45
ในอายะนี้ พระเจ้า มีบัญญัติสอนในการตัดสินการ แก้แค้นต่อการกระทำของ คู่กรณีใดก็ตามต้องกระทำให้ยุติธรรมให้สมกับความหนักเบา ของ การกระทำ ที่ถูกกระทำ, ไม่ให้เกินกว่า การถูกกระทำโดยการเปรียบเทียบ ความหนักเบา ในการทำร้ายร่างกายบุคคลเป็นส่วนๆไป เป็นการ อธิบาย ถึงกฏแห่งการแก้แค้น สำหรับชนเผ่าต่างๆในสมัยท่านศาสดามูฮัมมัด โดยอ้างอิงถึง บัญญัติเช่นเดียวกันนี้ ใน คัมภีร์เตารอดและ อินจิล
ไม่ได้หมายความถึง ถ้าผู้ใดฆ่าคนตาย เขาจะต้องถูกประหารชีวิตเสมอไป, ถ้าทำให้ใครตาบอดจะต้องถูกทำโทษโดยการ แกะลูกตาออกจากเบ้า ซึ่งเป็นการทารุณและโหดร้าย โดยที่ผู้กระทำความผิดพลาดไม่มีโอกาสได้ กลับเนื้อกลับตัว
คำไขปัญหาของอายะนี้ อยู่ในประโยดที่ว่า,
แต่ถ้าผู้ใดก็ตามให้อภัยในความผิดโดยไม่คิดแก้แค้น ต่อการกระทำของคู่แค้น จะเป็นความดีที่จะทำให้พระเจ้าเมตตาต่อเขา(ลบล้างความผิดที่ได้กระทำต่อกัน) ตามที่พระองค์เห็นสมควร
บัญญัตินี้สอนให้เรารู้ว่าถึงคุณธรรมที่ดีที่มนุษย์พึงกระทำก็คือการให้อภัยต่อ คู่พิพาท ซึ่งการให้อภัย ถือเป็นคุณความดีที่จะลบล้างความผิดพลาดของเขาตามที่พระเจ้าทรงเห็นสมควร
เราจะเห็นว่า บัญญัติที่มีลักษณะเป็นกฏหมายในอัลกุรอานนั้น เป็นเรื่องของจริยาธรรมและคุณธรรมซึ่ง เราจะต้องอ่าน และทำความเข้าใจให้ถูกต้อง โดยการอ่านให้ตลอด ไม่ใช่ว่าอ้างเพียงแต่อายะห์เดียวว่า การกระทำของผู้ใดที่ทำให้ผู้อื่นตาบอด แล้วจะต้องถูกควักลูกตาออก ให้ตาบอดเช่นเดียวกัน โดยอ้างว่า พระเจ้ากำหนดบทลงโทษไว้ในอายะ5:45
อ่านให้จบซูเราะห์นี้ให้เข้าใจแล้วกลับมาคุยกับผมอีกครั้ง เพื่อให้ กองเชียร์ของคุณ ได้เข้าใจความลึกซึ้งของความรู้ในการเข้าใจอัลกุรอานและ เข้าใจกฏหมายอิสลามของคุณ
จากคุณ :
แมทท์
- [
16 ก.ค. 52 21:35:25
]
|
|
|