 |
ความคิดเห็นที่ 33 |
143. หญิงสาว ก่อนจะตัดสินใจรักเขา สังเกตให้มากกว่าเก่าอีก ๓ เท่า จึงจะปลอดภัย 144. การสร้างอนุสาวรีย์ที่แท้จริง มิใช่ความประสงค์ของเขา แต่เป็นของผู้ที่ได้รับประโยชน์จากเขา 145. ความกล้าที่ความกลัวหรือความจำเป็นบังคับให้เกิดขึ้น ก็คือความวิกลจริตชนิดหนึ่ง 146. เศรษฐีมีเงิน จะชั่วช้าสามานย์ปานใด ก็ยังมีคนนับถือ, แม้ผีเรือนบ้านเศรษฐีนั้นก็ตาม 147. สอนตัวเองให้ได้เสียก่อน จึงค่อนสอนท่าน จะไม่เป็นครูบาอาจารย์ที่สกปรก 148. อย่าทรยศขบถใคร เพราะทำไปก็เท่ากับ ทรยศขบถเกียรติยศของตนเอง 149. พอมีอำนาจราชศักดิ์ ก็มีโอกาสที่จะทุจริตได้ง่ายขึ้นอีกหลายเท่าตัว ต้องระวังให้ดี 150. ถ้าขายังไม่แข็ง แม้จะมีแรง ก็อย่าเพ่อลุกขึ้น มันจะเสียแรงเปล่า 151. การหลีกเลี่ยงเมื่อไม่มีหนทางสู้ นั่นก็คือการสู้อีกแบบหนึ่ง ซึ่งควรจะรู้จักไว้ 152. แม้จะมีเหรียญตราเต็มอก ก็รกเสียเปล่า ถ้าเขาไม่รู้จักรักศักดิ์ศรีของตนเอง แต่ก็ยังมีอยู่โดยมาก 153. ไม่มีอะไรน่าเกลียด เท่ากับการดัดจริตวางท่าทำให้น่ารัก ชนิดตบตาผู้อื่น 154. อาจหาญกับอาหาร ต่างฝ่ายต่างเป็นปัจจัยแก่กันและกัน สำคัญอยู่ที่ใช้มันให้ถูกต้อง 155. ยิ่งทำเด่น ยิ่งถูกคนเขาเขม่น และคอยสมน้ำหน้า เมื่อความเด่นพังทลายลง, ระวังไว้เถิดคนชอบเด่น 156. ผู้ชายแคล่วคล่อง ผู้หญิงว่องไว เป็นปัจจัยแห่งความก้าวหน้า ของครอบครัว โดยไม่ต้องขัดแย้งกัน 157. ดูจากจำนวนคนทำบุญอยากไปสวรรค์ ถ้าจริงตามนั้น ไม่เท่าไรสวรรค์ก็จะแน่นอัด ยิ่งกว่าปลาซาดีนในกระป๋อง 158. อย่าคิดว่า คนหน้าซื่อแล้วใจจะซื่อด้วย อาจจะเซ่อ หรือถึงกับทรามก็ได้ อย่าดูกันแต่เพียงเท่านั้น 159. คนเราต้องฉลาดแต่พอดี และในทางที่ถูกที่ควรเท่านั้น ที่จะเจริญและเอาตัวรอดได้, เรามันฉลาดกันจนเฟ้อ 160. ความกล้าหาญ ของคนมีสติสัมปชัญญะเท่านั้น ที่จะจัดเป็นวีรกรรมอันแท้จริง มิฉะนั้นก็เป็นเรื่องของคนบ้าบิ่น 161. เครื่องแต่งตัวและเนื้อตัวที่สะอาด มิได้หมายความว่าใจจะสะอาดด้วยเสมอไป ดังนั้นอย่าดูกันภายนอก 162. ผู้ที่ดีแต่คอยฉกฉวยยื้อแย่งทรัพย์สินของผู้สุจริตนั้น ไม่ควรมีสิทธิ์ที่จะอยู่ในโลกนี้ อีก ๓ เท่า 163. วันเวลาที่ท่านสามารถทำหน้าที่ของท่านได้ดีที่สุด นั่นแหละคือวันฤกษ์ดียามดีที่สุด สำหรับท่าน อย่าไปดูหมอให้เสียเวลา 164. ควรทุ่มเทสติปัญญามานะพยายามให้ถึงที่สุด ในเมื่อดำรงตนอยู่บนแนวทางที่ถูกต้องแล้ว 165. ในความเป็นคนกักขฬะหยาบช้าป่าเถื่อนนั้น จะหาอะไรดีแก่ตนเองและผู้อื่น แม้สักอณูเดียวก็ไม่ได้ 166. ถ้าอยู่ในฐานะที่จะหลีกทางให้ไม่ได้จริง ๆ ก็จงยินดีเผชิญหน้ากับทุกสิ่ง ที่ประดังกันเข้ามา 167. ในบ้านเมืองที่ยิ่งเจริญ ก็ยิ่งมีความโหดร้ายทารุณที่ซ่อนเร้นอยู่ ยิ่งกว่าในป่า ที่ไร้ความเจริญ 168. ลิงจะแต่งเนื้อแต่งตัวเท่าไรอย่างไร ใคร ๆ ก็ยังรู้ว่าลิง อยู่นั่นเอง แม้แต่เด็กทารก 169. ถ้าท่านเหยียบงู ก็เท่ากับท่านทำให้มันรู้สึกว่า ท่านท้าทายให้มันกัดท่าน ดังนั้นระวังไว้ดีกว่า 170. เหรียญตราเต็มหน้าอก ก็ควรจะเป็นเครื่องราง ป้องกันการฉ้อราษฎร์บังหลวง ได้มากยิ่งขึ้นไปเท่านั้น 171. ข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ ที่ถ่ายทอดกันมาผิด ๆ ก็มีมาก ไม่น้อยกว่าข่าวลือ 172. ไม่ได้กิน กับ กินไม่ได้ นั้นมีอาการและความหมายต่างกันมาก แต่ก็มีผลเท่ากัน คือ ตายด้วยกัน 173. ภายในครอบครัว มีความเป็นกันเองมากเกินไป จนความสุภาพเหลืออยู่น้อยที่สุด, ทำไมไม่สังเกต 174. หลีกทางให้เขา ก็คือหลีกทางให้เราพ้นจากอันตรายที่เกิดขึ้น ในที่สุดก็ได้รับผลดีร่วมกัน มิใช่หรือ? 175. พี่เกรงกลัวกฎหมาย น้องไม่กลัว ก็เป็นอันว่า คลานตามกันมาเพื่อรับผลต่างกัน 176. เขาพูดกันว่า คนค้าขายต้องพูดเท็จ, แต่เราก็เห็นคนไม่ค้าขายบางคน พูดเท็จมากกว่าเสียอีก 177. เขาเป็นสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี แต่มีความประพฤติเป็นอันมาก ที่ผู้อื่นทนได้ยาก และทนสุภาพตอบไม่ไหว 178. ในสนามกีฬานั่นแหละ มีน้ำใจแห่งความเป็นนักกีฬา น้อยไปกว่าตามถนนหนทาง ไปเสียอีก, ดูให้ดี 179. มีโมหะในทางความร่าเริง ดูจะดีกว่ามีในทางโศกเศร้า, ดังนั้นควบคุมทิศทางของโมหะ กันเสียบ้างเถิด 180. กินไม่อิ่ม หรือกินจนท้องแตก เหล่านี้เรียกว่า กินไม่เป็น โดยเสมอกัน, โดยมากมักเลือกเอาอย่างหลัง 181. เพียงแต่คิดจะเป็นคนดี นั้นยังไม่พอ, ต้องพยายามเป็นคนดีให้ได้ด้วย จึงจะพอ 182. เงินนั้นสร้างได้ ทั้งสร้างความดีให้คนดี และสร้างความชั่วให้คนชั่ว, อย่าไปโทษเงินเสียท่าเดียว 183. ความกล้าหาญของคนป่าเถื่อน มาจากความหวาดกลัว ดังนั้นจึงมีความดุร้ายเข้าไปปนอยู่ด้วย 184. การฟังความข้างเดียว อย่างดีที่สุดก็ได้ความเพียงครึ่งเดียว, หรืออาจไม่ได้ความเสียเลยก็มี 185. ถ้ามันเป็นความสกปรก ลามกไม่น่าดู ก็อย่าไปพยายามทำให้เป็นสิ่งที่น่าดู, มันจะเปลืองเปล่าไปเสียทุกอย่าง 186. คนบ้ากับคนเมา มีลักษณะเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือประเดี๋ยวดีประเดี๋ยวร้าย 187. แม้จะมีดีอวด ก็อย่าไปอวดให้หมดดี, แต่ที่พูดไม่ดี ถึงจะฟังดี ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย 188. ความรู้ครึ่ง ๆ กลางๆ ทำความเสียหายให้ มากกว่าความไม่รู้ มิใช่เสียหายเพียงครึ่งเดียว 189. การสมรสแต่งงานเพื่อความมีหน้ามีตา กับเพราะความเห็นประโยชน์อันแท้จริง นั้นมีผลต่างกันอย่างตรงกันข้าม 190. แม้มันจะแสดงว่าหมดหวัง หรือทำไมได้ คนเราก็ยังหวัง จะให้มันกลายเป็นสิ่งที่มีหวัง แทนที่จะเลิกหวัง 191. สิ่งที่เราทุกคน จะต้องระมัดระวังกันอย่างที่สุด นั้นคือภาวะของความ โง่เท่าเดิม 192. สิ่งที่ต่างกันยิ่งกว่าฟ้ากับดินนั้นคือ ภาวะของ คน กับ มนุษย์ : พวกหนึ่งเดินลง พวกหนึ่งเดินขึ้น 193. คนมีใจเดินลงต่ำ มนุษย์มีใจเดินขึ้นสูง แล้วจะไม่ต่างกัน ยิ่งกว่าฟ้าและดิน ซึ่งหยุดอยู่เฉย ๆ ได้อย่างไร 194. เมื่อมือทั้งสองข้องยังใช้งานได้อยู่ แล้วก็ยังไม่มีอะไรจะกินอีก นั่นคือภาวะ คนสิ้นคิด 195. สมัยที่ต้องตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงานั้น คนเขารู้จักหน้าตาของตัวเอง ดีกว่าสมัยมีกระจกเงาของเรา 196. ระวัง! ตัวเองหลอกตัวเอง เสียหายกว่าผู้อื่นหลอก ตั้งร้อยเท่าพันเท่า, แต่ก็ไม่มีใครระวัง 197. แม้คูข้างถนน ก็อาจกลายเป็นเหวลึก ของคนเมาหรือคนประมาท ขึ้นมาเมื่อไรก็ได้, ดังนั้นอย่าประมาท 198. ผู้ที่ถูกจองจำในคุกในตาราง ก็มิได้เป็นคนผิดเสมอไปในชาตินี้, แต่ต้องคิดถึงชาติก่อน ๆ ของเขาด้วย 199. จำสิ่งที่ควรจำ ลืมสิ่งที่ควรลืม ทำสิ่งที่ควรเลิก เลิกสิ่งที่ควรเลิก, มิฉะนั้น จะเป็นคนจมอยู่ในนรกตลอดเวลา 200. สูเจ้าก็เหมือนใครอื่น ใครอื่นก็เหมือนสูเจ้า ในการที่จะต้องไต่เต้า ไปตามผลแห่งกรรมของตน, รู้จักรักกันไว้เถิด 201. การแสดงบทบาทแห่งละครในสมาคมชั้นสูง ล้วนแต่เป็นผู้แสดงในระดับดาราด้วยกันทั้งนั้น 202. การสวมหน้ากากเข้าหากัน กลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญไปแล้ว ในโลกแห่งสังคมปัจจุบัน 203. คนทั่วไป สมัครใจจะเชื่อว่า ตายแล้วเกิดใหม่ โดยไม่ต้องการการพิสูจน์, ก็ยังดีกว่า เชื่อว่าตายแล้วสูญ 204. การทำผิดโดยมิได้ตั้งใจ เป็นสิ่งที่ควรได้รับอภัยตามสมควรแก่กรณี 205. เพราะโง่งมงาย ไม่ว่าหญิงหรือชาย ก็เท่ากับตายแล้วทั้งเป็น 206. เพราะโง่งมงาย ทำดีมากมาย ก็จะกลายเป็นบาปสิ้น 207. เพราะโง่งมงาย มรดกมากมาย ก็จะกลายเป็นขาดวิ่น 208. เพราะโง่งมงาย มั่งมีเหลือหลาย ก็ต้องกลายเป็นยาจกสิ้น 209. เพราะโง่งมงาย ถือดีจนตาย ไม่มีใครฟังได้ยิน 210. ความงมงายของเขาเอง เป็นบ่อเกิดแห่งโชคร้าย ที่ทำให้ต้องประกอบพิธีทางไสยศาสตร์ 211. ความโง่งมงาย เป็นบ่อเกิดแห่งโชคร้าย มิใช่ดวงดาว หรือเทพเจ้าผีสางที่ไหน มาบันดาล 212. ในโลกนี้ อะไรจะเป็นของสำคัญหรือไม่สำคัญ อยู่ที่การสมมติของมนุษย์ 213. เมื่อชาวโลกสมมติใครว่าเป็นเทวดา เขาก็กลายเป็นเทวดาไป โดยอัตโนมัติ ในโลกของคนเหล่านั้น 214. ยิ้มแย้มกับแขก แต่แยกเขี้ยวกับภรรยาเมื่อลับหลังแขก อย่างกะเป็นยักษ์เป็นมาร 215. บางคนยกยอใคร เพียงเพื่อให้เขายกยอตัว เป็นผลตอบแทนกลับมา 216. ชีวิต นี้เมื่อดูเล่น ๆ ก็เป็นของเล่น เมื่อดูจริง ๆ ก็เป็นของจริง, จงใช้มันให้ถูกต้องตามสมควรแก่กรณี 217. สามี สนองได้ตามที่ภรรยาเสนอ, ถ้าได้ดังว่า ก็เรียกว่าเป็นเทวดาอุ้มสม 218. หญิงสาวทั้งงามและงอน จนกลายเป็น:-)ามงอนนั้น เพราะสวรรค์ให้พรมากกว่าให้งามเฉย ๆ อย่างอนเกินงาม 219. ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ ก็ยิ่งสนใจผู้น้อย นั่นแหละคือผู้ใหญ่ที่แท้จริงสมชื่อ 220. ถ้าเป็นผู้น้อยที่นอบน้อมผู้ใหญ่ ก็ไม่ต้องมีเทวดาที่ไหน มาช่วยอีกแรงหนึ่ง 221. ความสวยกินไม่ได้ แต่มันยิ่งกลายเป็นอาหารตา ที่แพงกว่าอาหารปาก
จากคุณ |
:
โชติช่วงชัชวาล
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ต.ค. 52 13:23:22
|
|
|
|
 |