ความคิดเห็นที่ 1 ... อ้างอิง http://www.dhammathai.org/dhammapada/dp18.php จากคุณ : เพราะเราคือ.... เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 18:32:51

ความคิดเห็นที่ 2 a จากคุณ : เพราะเราคือ.... เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 18:36:47

ความคิดเห็นที่ 3 b จากคุณ : เพราะเราคือ.... เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 18:37:57

ความคิดเห็นที่ 4 c จากคุณ : เพราะเราคือ.... เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 18:39:03

ความคิดเห็นที่ 5 d จากคุณ : เพราะเราคือ.... เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 18:40:57

ความคิดเห็นที่ 6 จาก พลังจิต.com " พระนิพพานบรมสุข องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้าทั้งหลาย ณ เวลานี้ ทรงสถิตอยู่ ณ ที่ใด บางท่านว่า พระองค์ดับสูญ หมดความนึกคิด ไม่เหลืออะไรเลย ความสงสัยนี้ ยากที่ปุถุชน ผู้ศึกษา จะทำให้กระจ่างได้ เว้นแต่พระสงฆ์ผู้มีญาณ ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตามพระธรรมคำสั่งสอน จึงพออธิบาย พระนิพพาน ให้กระจ่างได้ ขอท่านจงเว้นการถกเถียง จนเกิดความหมอง เร่าร้อน ในดวงใจ โปรดจงสงบจิต ตั้งสติ อ่านคำสอนของพระครูอาจารย์ทั้งหลาย ที่มีจารึกลงในตำราหรือหนังสือ เป็นหลักฐาน ไว้ชัดเจนแล้ว ใช้ปัญญา พินิจพิจารณา ไม่มีอคติ ใน คำสอนของครูอาจารย์ " อนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ... ขอขอบคุณ... http://board.พลังจิต.com/f4/พระนิพพาน-จากคำครูอาจารย์-12108.html ( เปลี่ยน พลังจิต เป็น palungji t ) แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 52 18:43:59 จากคุณ : เพราะเราคือ.... เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 18:42:33

ความคิดเห็นที่ 7 ต่ออีกนิด...ครับ จากคุณ : เพราะเราคือ.... เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 18:53:45

ความคิดเห็นที่ 8 อนุโมทนาสาธุ จากคุณ : sydneyboy เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 19:50:52

ความคิดเห็นที่ 9 เอ... ทำไมตัวสีแดงนี่ อ่านๆ ดูไม่ค่อยเหมือนข้างบนเลย หรือว่าเราโง่เกินไป ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าท่านพูดอย่างเดียวกัน หรือว่า 26 องค์ ข้างบน พูดไม่ตรง ไม่ถึงนิพพานจริง หรือว่า... 3 องค์ข้างล่างจะ เข้าใจนิพพานผิดไป เอ...หรือว่า ไม่มีใครพูดถูกเลย เอ...แล้วพระพุทธเจ้าท่านว่าอย่างไรล่ะ เอ...ถามใคร ก็ ตอบไปอย่างที่ตัวเองเชื่อ ตัวเองเข้าใจ เอาพระพุทธพจน์มาสนับสนุน ความเชื่อฝ่ายตัวเองทั้งนั้น ให้เราไปอ่าน พระบาลีเอง เราก็ตีความเข้าข้างมิจฉาทิฏฐิของตัวเองอีก ถ้าอย่างนั้นอย่าไปคิดให้มากเรื่อง มากความดีกว่า พยายามปฏิบัติให้ถึงก่อนแล้วค่อย สนใจว่านิพพานมีสภาพอย่างไร  รู้อย่างเดียวว่าเป็นทาง"ดับทุกข์สิ้นเชิง" ก็เพียงพอ มหาศาลแล้ว ปล. กระผมไม่ได้มีเจตนาปรามาสพระรัตนตรัย   หากเป็นกระทำอะไรผิดไปขอขมาไว้ ณ ที่นี้ ขอได้โปรดอดโทษให้กระผมด้วยเถิด จากคุณ : Cazear เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 22:08:51

ความคิดเห็นที่ 10 ขออนุโมทนาบุญในทุกๆบุญด้วยนะครับ สาธุ... สาธุ... สาธุ... เรายังเป็นปุถุชนเราก็รับฟังไว้ มันเป็นของละเอียดเราจึงไม่ควรนำมาถกกันจะดีที่สุด สิ่งที่ควรทำคือทำตัวเราเองให้ถึงเองก็จะเห็นเองครับ ขอบคุณครับ ปล.ชัดเจนเลยครับ กับคำว่า "ยึดมั่นถือมั่น" และ "ปล่อยวาง" จริงๆครับ แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 52 11:34:07 จากคุณ : กรรไกรรัตนะ เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 11:27:07

ความคิดเห็นที่ 11 ความขัดแย้งในใจ ไปศึกษาอะไรก็ขัดแย้งไปหมด มีแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งสูญแบ่งมีอยู่ ติดกับดักแห่งอักษรและนิยาม สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม คนหนึ่งตาแหลมคม มองเห็นดาวอยู่พราวพราย ความขัดแย้ง ความแตกต่างมันอยู่ที่ใจท่าน ศึกษาศาสนา ต้องปฏิบัติ วางใจให้กลาง จะไม่ติดนิยามขนาดนี้ จะโจมตี แบ่งแยก ทำลายให้ได้ ไปเพื่ออะไร พิจารณาธรรมให้ดีของหลวงพ่ออะไร องค์ไหนก็เหมาะแต่กาละแต่เทศะ แต่บุคคลไป ติดแบบนี้ก็จะติดไปเรื่อยๆ ไปไหนไม่ได้เพราะจิตมันไปสร้างความขัดแย้งไว้เสียนาน วันนึงจะแย่เอา แต่ก่อน ก็เคยเป็นแบบนี้ จนวันนึงใจมันทนความขัดแย้งไม่ไหว เลยศึกษาให้ละเอียดๆเข้า กลับไปอ่านได้ความรู้ว่า ถ้าใจเราแบ่งแยกขัดแยก เราก็จะเจอแต่อะไรๆที่มันชี้ไปในทางความขดแย้ง แล้วเราก็ติดแหงก อย่างออกมาไม่ได้ เรียกว่า ติดภพบางอย่าง วันที่ใจมันเริ่มคลายๆ ออกมา เริ่มลดอคติ พบว่า คำสอนของกี่องค์กี่หลวงพ่อก็กลืนกันไปหมด องค์นั่นอยู่ตรงนั้น องค์นี้อยู่ตรงนี้ กาละนี้ เทศะนี้ บุคคลนั้น นี่มันธรรมะ นี่มันสัจจะธรรมเดียวกันแท้ๆ แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 52 17:44:34 จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 17:40:07

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ สาธุครับ (ไม่มีกิฟ) จากคุณ : EvaAngelion เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 52 01:12:50

ความคิดเห็นที่ 13 ขอฝากอีกนิดนึง เรื่อง คำสอน ถ้า จะ หา ความ ขัด แย้ง ไม่ต้องหาในคำสอนของต่างครูต่างอาจารย์หรอก หาในคำสอนองค์เดิมแหละ ขัดแย้งกันเยอะแยะ เพราะมันต่างกาละ ต่างเทศะ ต่างบุคละ อย่างที่ว่า ลองกลับไปอ่านดูซิ ลองดู พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ที่คำตรัสสอนไม่เคยชนและค้านกันเอง เพราะพระองค์ 1. มีญาณที่รู้ในกาละและเทศะครอบคลุมท้งหมด 2. พระองค์ตรัสละเอียดยิบ บางคร้งซ้ำกันแล้วซ้ำกันอีกท้งประโยค พระองค์ก็ตรัส ก็เพื่อสิ่งนี้ละ นี่จะเอาอย่างนี้ในพระสาวก เหมือนควานหาหนวดเต่า ขัดที่ใจ ดีกว่าเนาะ จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 52 20:27:11

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณครับ สำหรับคำสอนดีๆ ขออนุโทนา ด้วยคนครับ (^ ^) จากคุณ : shame_of_sins เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 52 22:51:59

ความคิดเห็นที่ 15 ผมอ่านดูแล้ว พอจะสรุปได้ว่า จิตเมื่อตัดอสวกิเลส แล้วเข้าสู่นิพพาน เมื่อถึง คราวดับขันธ์ จิตก็ยังคงอยู่ในแดนนิพพาน จิตไม่สูญ ตามที่หลวงตามหาบัว ท่านได้กล่าวไว้ แต่ของท่านพุทธทาส กับท่านพุทธอิสระ จะบอกว่าสูญหมดรวมทั้งจิตด้วย ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 52 05:53:43 จากคุณ : gusta เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 05:52:43