ความคิดเห็นที่ 1 * ผู้หญิงที่มาดูดวงส่วนใหญ่ชอบดูอะไรกัน             ความรัก (มากกว่าเรื่องงานเหรอ ?) มากกว่าเรื่องงาน แต่ทุกคนจะขึ้นต้นด้วยประโยคว่าจะดูเรื่องงานก่อน             * กรณีมีรักมีแฟนมีสามีแต่ยังทุกข์ ดั่งคำว่า ‘คู่เวรคู่กรรม’ หญิงแนะนำยังไงกับคนในเคสนี้             ถ้าเอาดวงสองคนมาเทียบกันและเห็นดาวบางอย่าง สองคนนี้เป็นคู่บุญกันด้วย อาจเคยทำบุญร่วมกันมาในบางเรื่อง ขณะเดียวกันก็เป็นคู่กรรมกันด้วย ‘คู่กรรม’ หมายความว่า อยู่ด้วยกัน 3 วันดี 4 วันทะเลาะ หรือแม้แต่ดูไพ่จะโชว์ออกมาเลยนะ ทั้งที่คู่นี้รักกันมากเลย แต่มีไพ่โชว์ให้เห็นว่าทะเลาะกัน มีปากเสียงกัน เครียด อะไรต่างๆ ทว่าที่สุดแล้วก็ทิ้งกันไม่ได้             หญิงมองเรื่องนี้ว่า ถ้าเราสามารถเคลียร์ให้เค้าชัดได้ว่า ในที่สุดโลกนี้มันไม่มีคู่แท้ถาวรจริงๆ หรอก ไอ้คู่ที่อยู่ด้วยกันนิ่งสงบราบเรียบ มันไม่มีหรอก มันเป็นไปไม่ได้ ทุกคนต้องมีสภาวะบางอย่างที่กระทบกระทั่งกัน ยกตัวอย่าง ผู้หญิงเป็นคนขี้น้อยใจ ขี้ระแวง ขี้อะไรต่างๆ นานา เห็นเค้าในดาวแล้ว เราสามารถเตือนเค้าให้ลดตรงนี้ลง ก็จะเตือนว่าไอ้นิสัยต่างๆ ของเค้านี่แหล่ะ มันจะทำให้การอยู่ร่วมเป็นครอบครัวเซ้นท์ซิทีฟได้ง่ายมากนะ เพราะถึงคุณจะรักสามีคุณมากก็ตาม แต่คุณเป็นคนอย่างนี้ ระแวงเค้าไปหมดทุกเรื่อง เอาเถอะถึงแม้คุณเป็นคู่บุญกัน แต่ว่าในกรรมปัจจุบันที่คุณทำอยู่ ถ้าคุณทำอย่างนี้มากขึ้นๆๆ ทุกวัน จาก 1 วันเป็น 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน นี่ก็คือ คุณกำลังทำกรรมปัจจุบันให้ไม่ดีมากขึ้น เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถามว่าแล้วแบบนี้ชีวิตครอบครัวจะไปรอดมั้ย             ดังนั้น คุณจะมาคาดหวังให้หมอดูบอกว่าสองคนนี้จะเป็นคู่บุญไปตลอดชีวิต เป็นไปได้มั้ย มันก็เป็นไม่ได้ สิ่งนี้คุณทำเองเป็นเองในปัจจุบัน ถ้าคุณไม่รู้จักตัวเองก่อนว่า นิสัยเสียๆ ของคุณเป็นยังไง นิสัยแย่ๆ ของคุณเป็นยังไง หรือนิสัยที่ดีที่ควรเพิ่มให้มากขึ้นเป็นยังไง คุณเคลียร์เข้าใจตรงนี้ และเข้าใจคู่ของคุณด้วย มันก็ปรับ             แม้ดวงดาวโชว์ว่าเค้าเป็นขี้น้อยใจขี้หงุดหงิด แต่มาพอ ณ ปัจจุบันเค้าปรับแล้ว เค้ารู้แล้วว่าความใจร้อนชอบน้อยใจของเค้าเป็นเรื่องไม่ดี เค้าก็ปรับแล้วว่าอยากให้ชีวิตครอบครัวครั้งนี้เป็นชีวิตที่ดีนะ จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 00:07:48

ความคิดเห็นที่ 2 * กรณีที่พยายามขนาดไหนก็ไม่สามารถปรับตัวให้อยู่ร่วมกันได้..มีมั้ย             มีเหมือนกัน มีคู่หนึ่ง จากเดือนเป็นปี ในที่สุด เค้าไม่ปรับแล้ว ก็ตัดสินใจแยกทางกันไป แต่ในช่วงระหว่างที่เค้าปรับ ถามว่าต่างคนต่างปรับและพร้อมทำให้ดีขึ้นมั้ย เค้าก็พยายาม แต่ในดาวของผู้ชายมันมีอะไรซ้อนเข้ามาเป็นวิบากที่เค้าต้องใช้ ถ้าเป็นอย่างนี้วิบากเดิมมีอยู่แล้ววิบากใหม่ซ้อนเข้ามา ก็ขอให้จบ อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน             หญิงถือว่านี่ก็เคลียร์คัทในระดับหนึ่งนะ มันไม่ต้องผูกเวรไปในอนาคตข้างหน้า เอาเถอะ อย่างน้อยที่สุด เค้าได้พยายามแล้ว และได้กล่าวคำอโหสิกรรมกันแล้ว ไม่ต้องผูกเวรกันไปในอนาคต ยังดีกว่าที่ว่ายังไงชั้นก็ไม่ปรับ และก็จะผูกเวรจองเวรกันต่อไปอีก มีถึงขนาดไม่ว่ากี่ภพกี่ชาติ อันนี้หนักหนาสาหัส เห็นแล้วสงสาร แบบนี้ก็มีเหมือนกัน             * แล้วเคสที่ดูยังไงก็ไม่มีเรื่องคู่ออกมา หญิงคุยกับเค้ายังไง             คำว่า ‘คู่’ ในความเป็นจริงไม่ใช่หมายความว่า ต้องเป็นคู่รักที่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา บางคนมาเจอกันเพราะเป็นคู่บารมีในเรื่องงาน มาเจอกันเพื่อ support กันในเรื่องงาน และคุณก็ใช้ความสัมพันธ์ในเรื่องงานตรงนั้นดูแลกันไป แต่ว่าต้องทำใจให้ชัดเจนด้วยว่า มันไม่มีความสัมพันธ์แบบชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้องนะ ก็ถ้าเข้าใจได้ มันก็ไม่มีอะไร             ในดวงใครก็แล้วแต่ 4 เรื่องหลัก การเงิน การงาน สุขภาพ และความรัก มันจะโชว์มาแบบนี้ว่า เรื่องไหนของใครเป็นเรื่องเด่นที่สุด ที่คุณควรจับไว้ให้เป็นประเด็นหลักของชีวิต และเรื่องไหนที่ควรดูให้มันน้อยนะ ประเด็นนี้อย่าไปคิดเลย เลิกเหอะ ยิ่งคิดยิ่งทุกข์ บอกเค้าไปว่า เรื่องทุกเรื่องในชีวิตเค้าประสบความสำเร็จหมดเลย ไม่ว่าเรื่องงาน เงิน สุขภาพ เค้าจะเป็นหนึ่งในทุกเรื่อง แต่ว่าในเรื่องความรัก อยากให้เค้าคิดเป็นเรื่องสุดท้าย เพราะว่าไม่งั้นเค้าก็จะเจอแต่ความทุกข์ตลอดชีวิต             ช่วงแรกที่เค้าฟัง เค้าก็คงจะอึ้งไป ถามใจเราที่เป็นผู้หญิง ถ้าเราได้ฟังแบบนี้ เราก็คงจะอึ้ง แต่พอเวลาผ่านไป เค้าไปเจอด้วยตัวเอง 3 ครั้ง 4 ครั้ง..อะไรก็แล้วแต่ พิสูจน์แล้วมันจริง เปลี่ยนแฟนไปกี่คนก็แล้วแต่ มันก็เจอสภาพเดิมๆ ทีนี้เค้าจะเริ่มเข้าใจแล้ว             ยิ่งเค้าเดินเข้าไปหาสิ่งนี้ ไขว่คว้าอยากได้มา อยากเติมเต็มเรื่องความรัก เค้าก็จะนิ่ง เพราะเจอแต่ความทุกข์ความเศร้า เหตุเพราะในอดีต เขาอาจทำเรื่องนี้ไว้มาก เค้าถึงไม่สามารถลงตัวลงเอยกับใครสักที ครั้นเค้าเข้าใจ เค้าก็จะเบนเข็มไปประสบความสำเร็จของชีวิตในเรื่องอื่น อย่างเช่น เรื่องงาน อะไรเหล่านี้เป็นต้น ไปปฏิบัติบ้าง พอเข้าใจเรื่องทางธรรม เค้าก็จะเข้าใจชีวิตตัวเองมากขึ้น             เคสนี้ก็ไปปฏิบัติธรรม 7 วัน กลับมาส่ง sms มาว่า ตอนนี้เค้ารู้แล้วล่ะว่า ชีวิตเค้าตอนนี้สนใจเรื่องนี้ดีกว่า และจริงๆ แล้ว ชีวิตเค้าสามารถมีความรักได้ในมุมอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องชู้สาว นำความรักตรงนี้ไปแปรเป็นความรักที่อื่นๆ เยอะแยะมากมาย จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 00:08:07

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าทำใจได้ ก็เออ..ชาตินี้อยู่เป็นโสดไป หมั่นทำดีด้วยหวังว่าชาติหน้าจะมีคู่เหมือนคนปกติทั่วไป             ใช่ มีเคสแบบนี้มา หญิงก็จะคอยแนะนำว่า ถ้าเห็นใครมีความสุข เราก็ยินดีกับเค้าไปด้วย ยินดีด้วยจริงใจ ใครที่มีเรื่องบาดหมางใจกันอยู่ เราอาจเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเคลียร์ให้สถานการณ์ของคนนั้นดีขึ้น นี่คือ กุศลนะ             ทั้งหมดเป็นกุศลทั้งหมดแหล่ะ ในการที่จะดิว เพื่อให้ครั้งหน้าต่อไป ชีวิตจะลงตัวมากขึ้น             * ชีวิตคนเราเกี่ยวโยงกับ ‘กรรม’ อย่างไร             เวลาหญิงดูดวง หญิงจะพูดกับทุกคนเป็นแพทเทิร์นให้รู้ก่อนเลยว่า ดาวทั้งหลายทั้งปวงนี้ มันคือการประมวลผลของกรรมเก่าในอดีตที่คุณทำมาไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ แต่กรรมใหม่คือ ปัจจุบันนี้ที่คุณทำ นั่นคือ คุณเลือกได้ คุณจะทำอะไรให้เป็นกรรมใหม่ในชีวิตนี้ และแม้ในชีวิตต่อไป             แล้วพูดเป็นแพทเทิร์นอีกว่า แท้จริงแล้วในดวงดาว ไพ่ หรือเครื่องมืออะไรก็แล้วแต่ ที่บอกชะตาล่วงหน้า ควรจะมีการกำกับไว้หนึ่งเรื่อง นั่นคือ สิ่งที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย นั่นคือ ทุกข์ของการเกิดแก่เจ็บตาย ถ้าคนเราตระหนักตรงนี้ก่อนให้ได้ มันก็จะได้เคลียร์ชัด พอเคลียร์ตรงนี้ได้ปุ๊บ อะไรที่เป็นเรื่องปัจจุบัน ทุกคนก็ทำหน้าที่ตรงนี้ไปให้ดีที่สุด ตามเวลาที่เหมะสม ไม่ว่าตามเวลานั้นจะเกิดขึ้นกับคนที่เรารัก สิ่งที่เรารัก หรืออะไรก็แล้วแต่ จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 00:08:23

ความคิดเห็นที่ 4 * เมื่อเป็นเช่นนี้ หน้าที่ของหมอดูคืออะไร             ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมืออะไรต่างๆ ของการดูดวง โหราศาสตร์ไทย ยูเรเนียน หรือกระทั่งไพ่ ฯลฯ จริงๆ แล้ว ทุกอย่างคือ เครื่องแสดงกรรมเก่า ทีนี้ถ้าหมอดู โหราศาสตร์ คนที่ทำหน้าที่ตรงนี้ สามารถอธิบาย หมายถึงกรรม ให้อยู่ในศีล 5 ให้อยู่ในกรอบตรงนี้ ไม่ต้องไประลึกชาติหรอกว่า อดีตคุณเคยไปนู้นนี่นั่น ชนิดที่สร้างเรื่องราวเป็น story ขึ้นมา เอาแค่ว่าคุณมีแนวโน้มว่าในอดีตชาติคุณเคยยักยอกของคนอื่นเค้ามานะ เคยไปแย่งชิงคนรักเค้ามานะ แค่นี้ก็พอ             ที่สำคัญ ทำตรงนี้ในกรรมปัจจุบันให้มันดีขึ้น แค่นั้นก็พอแล้ว หมอดูควรมีหน้าที่แบบนี้             คือ ‘แค่เตือน' เพราะถ้าถามจริงๆ หมอดูคนไหนสามารถชี้กรรมได้ 100% มั้ย มันเป็นไปไม่ได้ ชีวิตคนเกิดมาเป็นร้อยพันชาติ แม้กระทั่งชีวิตหมอดูเอง ซับซ้อนจะตาย ใครจะไปรู้บ้างว่าตัวเองเกิดเป็นอะไรบ้าง และเคยไปทำกรรมประเภทไหนบ้าง             * เรื่อง ‘แก้กรรม’ ที่ฮิตกันนักหนา หญิงมีความคิดเห็นอย่างไร             แก้ที่ไหนมันไม่สำคัญเท่ากับแก้ที่ตัวเอง ใช้ตัวเองนี้แหละเป็นเครื่องมือแก้กรรมด้วยตัวเอง หญิงมักแนะนำให้ไปปฏิบัติธรรม วิธีนี้ก็คือ สิ่งที่พระพุทธเจ้าบอก ทาน ศีล ภาวนา เพื่อให้มีศีล สมาธิ และปัญญา ถ้าตั้งใจทำจริงๆ ในเวลาที่ไม่นานก็สามารถทำให้ชีวิตตัวเองสว่างขึ้นได้ ไม่ยากเลย เอาแค่สวดมนต์แค่นั้นเอง จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 00:08:41

ความคิดเห็นที่ 5 * แต่หลายคนจมอยู่กับปัญหา เห็นทางออกแต่ไม่อาจเดินไปได้             ชีวิตคนเราโจทย์ไม่เหมือนกัน แต่ทุกคนมีโจทย์ที่จะทำอย่างไรในยามเมื่อชีวิตถึงคราวคับขัน มันต้องมีโจทย์ให้คลิกให้ได้             หญิงว่า มันอยู่ที่วิธีคิดในการจัดการตัวเองด้วย คนโดยมากมักรอคอยให้คนอื่นมาจัดการให้ตัวเอง ก็เลยต้องพึ่งพาคำพูดทั้งหลายของหมอดูว่า ชีวิตจะดำเนินไปอย่างนั้นนะ อย่างนี้นะ แล้วก็รอ และไม่ทำอะไร             คนจำนวนมากที่เคยเห็น เอาแต่ ‘รอ’ หรือกระทั่งหญิงเองในช่วงหนึ่ง เพราะเราก็ไม่ได้ดีกว่าใคร ในช่วงที่ผ่านมา เรามีวิบากกรรมมากมายกับเรื่องเหล่านี้ แรงกรรมมันบังตา ถ้าเรารอชนิดว่ารอแบบตาบอด ไม่มีสติ ไม่มีปัญญา ฉุดตัวเองขึ้นมาจากอะไรใดๆ ทั้งสิ้น ก็รอ แล้วในที่สุดก็ไม่เห็นได้อะไรกลับมา             * สังเกต สไตล์หญิงจะไม่ดูดวงให้ใครแบบฟันธง             ก็มันไม่จำเป็นเลย ถึงแม้ว่าในแง่การตลาดมันจำเป็น เช่น เปิดไพ่มาปุ๊บ ประโยคแรกมันควรเป็นประโยคที่ฟันธงไปเลย หญิงทำได้นะ แต่หญิงไม่เรียกมันว่าฟันธง และหญิงว่าในตลอดอาชีพนี้ ซึ่งหญิงทำมาเยอะแล้ว ไม่จำเป็นต้องเรียกมันว่าฟันธง             ในแง่อาชีพนะ เพื่อประโยชน์อะไร ในเมื่อคุณรู้ว่าใน 80% ของคนที่มาหาหมอดูคือ คนที่กำลังทุกข์ มีเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งมาดู เค้าถามถึงเพื่อนคนหนึ่งของเค้าที่ไม่สบายมาก เป็นมะเร็งมา 2 ปีแล้ว เราเห็นในดาว วิชานี้อาจารย์สอนมาให้สามารถดูเป็นวันได้ วันนี้ๆ มันจะเซ้นท์ซิทีฟขนาดไหน ทีนี้เราเห็นในดาวแล้วว่า ถึงเวลาพีคสุดๆ แล้วล่ะ เราก็เตือนเค้าวันนี้ๆ มันมีจุดที่เพื่อนพี่คนนี้จะอ่อนแอมาก ให้ระวังวันนี้ๆ แต่เราไม่พูดคำนั้นออกไป แล้วก็เปิดไพ่ประกอบ ทีนี้ไพ่โชว์ออกมาชัดมากเลยว่า ภายในไม่เกิน 3 เดือนนี้ พี่คนนี้จะต้องเดินทางไปหาศพ และเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นภายในเวลา 1 อาทิตย์ เค้าต้องลงไปงานศพที่กท.             ถามว่าในเคสแบบนี้ หญิงอยากดูมั้ย บอกตรงๆ ไม่อยากดูเลย เห็นไพ่โชว์แบบนี้ และดาวมันก็โชว์ ค่อนข้างชัดว่าทำอะไรไม่ได้ นอกจากเตือนให้เพื่อนรุ่นพี่คนนี้ตั้งสติ ทุกคนในบรรดาหมู่เพื่อนก็ช่วยกันสวดมนต์ภาวนาให้เค้าไปดี             หญิงทำหน้าที่เตือนให้ตั้งสติว่ามันกำลังจะเกิดขึ้น หรือว่ามันมีสิทธิจะเกิดขึ้น ซึ่งเราหนีมันไม่ได้             หญิงไม่บอกหรอกว่ายังไงคุณต้องไปแน่ๆ ถามใจตัวเองสิถ้าตัวเองเป็นคนที่ได้รับคำพูดแบบนี้แบบจะเป็นยังไง ไม่มีประโยชน์ ค่อยๆ พูดดีกว่ามั้ง เตรียมตัวนะ 1 2 3 4 อะไรก็ว่าไป แล้วหญิงก็ไม่แคร์นะถ้าใครจะบอกว่าหญิงชักแม่น้ำทั้งห้าร้อยสายมา             เมื่อก่อนตัวหญิงเองก็ไปดูหมอเข้าทรงคนเจ้ามาพอสมควร มีพี่ที่รู้จักพาไปหาคนทรงชื่อดัง คอมเฟิร์มว่าคนนี้ญาณทัศนะดี ไปแต่เช้ามืด เป็นตำหนักทรงใหญ่มาก มีคนมาเยอะมาก พี่ที่หญิงไปด้วยแกเส้นใหญ่ เลยได้เข้าคิวแรก พอเข้าไป คุณคนนี้แต่งชุดร่างทรง ดูมือหญิง เอาอะไรไม่รู้ขีดๆ แล้วพูดว่า อย่างนี้ตกต่ำตลอดชีวิต ชีวิตอย่างนี้เส้นอย่างนี้ล่มจมตลอดชีวิต ทำอะไรก็ไม่มีทางขึ้นหรอก แล้วทำงานอะไรล่ะ หญิงก็นึกในใจ เอ้า ! ถ้าเป็นร่างทรง เก่งจริง ต้องรู้สิว่าหญิงทำงานอะไร แต่พี่ที่พาไปนั่งอยู่ด้วย ตอบแทนไปว่าหญิงทำงานอะไร คุณร่างทรงก็ว่าหญิงทำงานแบบนี้ทำไมไม่มีขันทอง ไม่มีไอ้โน่นไอ้นั่นเลย ชีวิตก็เลยเอาตัวไม่รอด จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 00:09:45

ความคิดเห็นที่ 6 * ขันทองไว้ทำอะไร             หญิงไม่สนใจ แต่เห็นที่โต๊ะเค้ามีขัน มีพานบายศรีใหญ่โต มีเทวรูปต่างๆ และเค้าก็บอกหญิงว่า วันศุกร์นี้ให้มาถวายสังฆทาน ของที่ใช้ในเครื่องสังฆทานมีดังนี้ พระพุทธรูป ข้าวสารอาหารแห้ง ฯลฯ แต่หญิงถามคำหนึ่งว่า คำว่า ‘สังฆทาน’ หญิงต้องเอามาถวายที่นี่เหรอคะ หญิงไปถวายที่อื่นได้มั้ย หญิงพูดกับเค้าแบบดีมากเลย เค้าบอกไม่ได้ ต้องถวายที่นี่เท่านั้น ก็นึกในใจคำว่า ‘สังฆทาน’ ที่เราเข้าใจ และเค้าพูดแบบนี้ แสดงว่าที่นี่ไม่ใช่แล้ว ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องที่ต้องทำแล้ว             หญิงมีชีวิตมาถึงขนาดนี้นะ ถ้าหญิงไม่แกร่งพอนะ ถ้าหญิงไม่มีข้างในที่เข้มข้นพอที่จะรับแบบนี้นะ และถ้าหญิงเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ชีวิตนี้หมดทางหมดความหวัง ไม่มีใครที่เป็นกัลยาณมิตรช่วยบอกช่วยเตือน การได้รับคำตอบจากร่างทรงคนนี้มันหนักหนามากเลยนะ มันเหมือนกับว่าคนนี้เป็นคนเดียวที่เป็นเจ้าชีวิต เป็นผู้ที่จะจัดการเปลี่ยนแปลงชีวิตเราได้             กลับมาจากที่นั่นหญิงถึงรู้เลยว่า ให้ตายยังไงหญิงก็ฟันธงให้ใครไม่ได้ ถ้าคำตอบแบบนี้คือ การฟันธง หญิงไม่ทำกับใครแบบนี้             * เพราะชีวิตไม่ใช่การฟันธง ทุกอย่างสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขได้             ใช่ เปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าสถานการณ์เลวร้ายขนาดไหน มันอยู่ที่ว่าเราจะมีปฏิกิริยากับสถานการณ์นั้นอย่างไร หรือแม้แต่ขณะนี้ที่มีคำทำนายมากมายว่าเดี๋ยวเกิดภัยพิบัติ เดี๋ยวน้ำท่วม เดี๋ยวแผ่นดินไหว เดี๋ยวโน้นนั่นนี่ หญิงเชื่อว่าถ้าคนทั้งหมดร่วมกันทำอะไรที่มันเป็นคลื่นดีๆ เป็นกระแสดีๆ ทำสิ่งดีๆ ให้กัน หรือว่าไปทำอะไรที่เป็นเรื่องดีทั้งหมด ไม่เฉพาะเจาะจงแค่ทานศีลภาวนา ทำอะไรที่เป็นกระแสกรรมดีๆ ช่วยเด็ก ช่วยสัตว์ ช่วยอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นกุศล ช่วยเหลือเอื้ออาทรกันและกัน แบ่งปันกัน หญิงก็เชื่อว่าเรื่องของภัยพิบัติต่างๆ มันเปลี่ยนได้             ทุกอย่างมันมีเหตุให้เกิดขึ้น ในเมื่อคุณตัดไม้ขนาดนี้ ทำลายธรรมชาติขนาดนี้ มันก็ต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา แต่ว่ากระแสที่รุนแรงถึงขนาดว่าโลกถล่มทลาย มันไม่ใช่หรอก แต่คำทำนายเหล่านี้ก็ทำให้คนหันมาตระหนัก ช่วยกันดูแล ทำให้เกิดกระแสคลื่นดีๆ พลังงานดีๆ กระแสกรรมดีๆ มากขึ้น             ก่อนออกมาจากวัดที่ไปปฏิบัติธรรมครั้งหลัง หญิงขอธรรมะจากหลวงตา บอกท่านว่าตอนนี้คนกลัวกันมากเลยเรื่องภัยพิบัติเรื่องโรคระบาดอะไรต่างๆ คนมีแต่ความกลัวในจิตใจ ไม่รู้จะใช้ชีวิตอยู่กันยังไง จะทำยังไงดีคะ หลวงตาบอกก็สวดมนต์สิ การสวดมนต์ช่วยได้จริง สวดไปมันก็เข้าจิตเข้าธาตุคุณ ทำให้จิตมันเข้มแข็งขึ้น เราจะมีกำลัง มีสติปัญญา แก้ไขเหตุการณ์ได้             คนสวดมนต์มากๆ หน้าจะอ่อนลงนะ หลับง่ายขึ้น เพราะมันไปปรับคลื่นสมอง จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 00:10:57

ความคิดเห็นที่ 7 * หลังๆ มีกระทู้เข้ามาเยอะมากว่า หญิงดูแม่น มีเคล็ดลับอะไรมั้ยคะ             เมื่อก่อนหญิงไม่ได้ทำอะไรเลยเนอะ เพราะหญิงคิดว่าหญิงไม่ได้ก้าวล่วงอะไรใคร หญิงมีหน้าที่แค่การอ่าน ตรงนี้เป็นวิชาและเป็นแค่การอ่าน ไม่ว่าเป็นไพ่ หรือดวงดาว             แต่ระยะหลังๆ สิ่งที่หญิงต้องทำมากๆ คือ สวดมนต์ สวดมนต์จริงๆ สวดมนต์เยอะๆ ดีไม่ดีสวดมนต์ทั้งวัน บางคนเห็นหญิงนั่งเฉยๆ คือ หญิงกำลังสวดมนต์ และทำสมาธิมากขึ้น             ครูบาอาจารย์แนะนำว่า ขณะทำงานมันเหมือนเปิดจิตรับเอาเรื่องของคนอื่นเข้ามา อย่างหนึ่งที่คุณต้องทำมากๆ คือ พอกลับถึงบ้าน สวดมนต์ ทำสมาธิ วิปัสสนา และค่อยๆ คลายเรื่องนั้นออกไปทีละเรื่องๆ วันนั้นทั้งวันเราไปทำอะไรมาบ้างในแต่ละอย่าง ค่อยๆ เหมือนกับกรอเทป และค่อยๆ ปล่อยไปซะ ซึ่งหญิงรู้สึกว่าตรงนี้มันได้ผล เราไม่ต้องเก็บ เราไม่มีหน้าที่ต้องเก็บ             แต่เมื่อก่อนพอเราทำงานตรงนี้ เราเหมือนเป็นฟองน้ำ ไปดูดซับเอาทุกอย่างมามากเกินไป มันก็เลยทำให้บางช่วงในชีวิตเราซึ่งเราก็ยังมีกรรมของตัวเราเอง มีสติแตกบ้าง แต่เมื่อไรก็ตามที่กลับมาสวดมนต์ ทำสมาธิ และทำสิ่งนี้ให้เป็นกิจวัตร หญิงเชื่อว่ามันมีพลังบางอย่าง อานิสงส์ของการสวดมนต์ทำให้การทำงานตรงนี้มันราบรื่นมากขึ้น บางทีบางครั้งไม่ต้องดูดาวเลย ใครโทรมาสักคน มันรู้เลยว่าจะต้องพูดอะไรกับคนนี้             นี่แหล่ะค่ะ ตัวตนและความคิดของ ‘คุณหญิง’ หมอดูคนเขียนประจำคอลัมน์ “เปิดดวงสะเดาะใจ ! สาว 12 ราศี ” ของเรา จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 00:11:12

ความคิดเห็นที่ 8 http://www.manager.co.th/lady/viewnews.aspx?NewsID=9520000127074 ที่มาจาก เวบ เมเนเจ้อค่ะ ตามลิงค์ไปเลย จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 00:11:59

ความคิดเห็นที่ 9 เริ่ดมากค่ะ คุณบี 1 โดนใจ ^^ ปล. ไม่มี give แล้ว ต๊ะไว้ก่อนนะคะ จากคุณ : Buakeaw_ja เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 08:13:01

ความคิดเห็นที่ 10 ชอบกระทูนี้ค่ะ ^___^ จากคุณ : อมยิ้มสีฟ้า เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 08:26:10

ความคิดเห็นที่ 11 ชอบกระทู้นี้ค่ะ ^___^ จากคุณ : อมยิ้มสีฟ้า เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 08:26:24

ความคิดเห็นที่ 12 เพิ่งดูดวงความรักให้สาวบางตคนพอดีเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่เอามาโพสท์ จากคุณ : เทพบุตรหมัดดาวหาง เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 10:15:20

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณค่ะ โดนใจมากๆ ^^ ขออนุญาตเอาไปลงต่อนะคะ ^^ จากคุณ : Cd_HoLY-Sm เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 10:25:56

ความคิดเห็นที่ 14   ...เป็นแนวคิดที่ดีครับ จะนำไปปฏิบัตตาม จากคุณ : แวมไฟ (prapakanr) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 52 15:14:32