ความคิดเห็นที่ 1 คำประกาศ     กรณีวัดพระธรรมกาย - ธัมมชโย  เป็นอีกปรากฏการณ์หนึ่งที่พิสูจน์ให้เห็นพลังแห่ง "ชาวพุทธ" ว่ามีความเข้มแข็ง  มีความชัดเจนในหลักะรรมคำสอนขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงพอที่จะสกัดกั้น  ขัดขวางพฤติกรรมนอกรีตนอกรอยของคนกลุ่มหนึ่งได้     ชาวพุทธในที่นี้ประกอบไปด้วย  สมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราช  สกลมหาสังฆปริณายก  พระเถระชั้นผู้ใหญ่  พระภิกษุ  กลุ่มองค์กรด้านพระพุทะศาสนา นักวิชาการ  พุทธศาสนิกชนทั่วไป     หนังสือพิมพ์ มติชน  และสื่อมวลชนอื่นๆทุกแขนงเป็นเพียงสื่อกลางที่สะท้อน "ความจริง" ที่ผู้รู้ทั้งหลาย  ผู้ห่วงใยในกิจการของสงฆ์และพระพุทธศาสนาทั้งปวงได้พูด  ได้แสดงออกเพื่อให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ ตลอดทั้งชาวไทยทั้งมวลได้รับรู้    ในกระบวนการสกัดกั้น  ขัดขวางพฤติกรรมของวัดพระธรรมกายมิให้บิดเบือนพระไตรปิฎกอย่างจงใจ  พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์  ปยุตโต) ได้ปฏิบัติตนสมกับเป็นสาวกของประศาสดา...   ...เขียนหนังสือชื่อ "กรณีธรรมกาย" เพื่อเสริมสร้างปัญญา  ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาโดยเฉพาะนิพพานเป็นอนัตตา  ไม่ใช่อัตตาตามที่ธรรมกายพร่ำสอนอบรม...     .....นอกจากนี้  ปัญหาธรรมกายได้ดำเนินมาตามลำดับจนกระทั่งถึงจุดสุดท้ายที่หลายฝ่ายเข้ามา"จัดการ"เพื่อให้เกิดความถูกต้อง  อันรวมถึง  สมเด็จพระญารสังวร  สมเด็จพระสังฆราช  สกลมหาสังฆปริณายก  ก็ทรงมีพระอักษรถึง 5 ฉบับที่แสดงพระวินิจฉัยส่วนพระองค์ว่า  ธัมมชโยต้องอาบัติปราชิกเพราะบิดเบือนพระพุทธธรรมคำทรงสอน  กล่าวหาพระไตรปิฎกบกพร่อง  เป็นการทำให้สงฆ์ที่หลงเชื่อคำบิดเบือนแตกแยกและยังถือเอาที่ดินอันเป็นสมบัติของวัดมาเป็นของส่วนตัว     อันแสดงว่า  นายไชยบูลย์  สุทธิผล  ขาดจากความเป็นพระไปแล้ว     ไม่ใช่พระธัมมชโยอีกต่อไป     .....หนังสือพิมพ์มติชนขอกราบนมัสการประมุขแห่งสงฆ์มาด้วยเช่นเดียวกัน  เพื่อให้หนังสือเฉพาะกิจเล่มนี้มีความครบถ้วนสมบูรณ์  หนังสือพิมพ์มติชน  จึงประมวลเรื่องราวมาบันทึกไว้.....     กองบรรณาธิการมติชน (หน้าคำประกาศ : กรณีธรรมกาย  โดย พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์  ปยุตโต)) จากคุณ : จขกท. (แอนนา วองก้า) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 15:30:23

ความคิดเห็นที่ 2 วัดญาณเวศกวัน  ต.บางระทึก อ.สามพราน  จ.นครปฐม 73210 23 กุมภาพันธ์  2542 เรื่อง      ขออนุญาตพิมพ์หนังสือ เจริญพร ผู้จัดการสำนักพิมพ์มติชน อ้างถึง   หนังสือลงวันที่ 22  กุมภาพันธ์ 2542     ตามหนังสือที่อ้างถึงแจ้งว่า  ทางสนพ.มติชนเห็นว่า  เอกสารเพื่อพระธรรมวินัยเรื่อง "กรณีธรรมกาย"เป็นหนังสือที่มีคุณประโยชน์  จึงของนำเนื้อหาในหนังสือนั้นไปจัดพิมพ์เผยแพร่ต่อไปดังความแจ้งแล้วนั้น     อาตมาภาพขอชี้แจงว่า  สืบเนื่องจากการที่ทางวัดพระธรรมกาย  ได้ลงบทความในหนังสือพิมพ์และตีพิมพ์หนังสือ  เจาะลึกวัดพระธรรมกาย  เป็นต้น  แล้วแจกจ่ายเผยแพร่ออกไปในหมู่พุทธศาสนิกชนตามที่ได้ทราบว่าเป็นจำนวนมากมาย  นับหมื่นนับแสน  น่าหวั่นเกรงอย่างมากว่า  เนื้อหาในหนังสือเหล่านั้นจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดพลาดสับสนต่อหลักธรรมในพระพุทธศาสนา  จนถึงขั้นที่เป็นอันตรายทั้งต่อพระพุทธศาสนา  และต่อสังคมไทย  จำเป็นจะต้องรีบป้องกันแก้ไขความเข้าใจผิด  และเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง  อาตมาภาพจึงได้เขียนหนังสือ "กรณีธรรมกาย"นี้ขึ้น  เพื่อนประโยชน์แก่การศึกษาของประชาชน.....   .....และเห็นว่าควรจะเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจนี้ออกไปให้กว้างขวางทั่วถึงเท่าที่จะเป็นไปได้  จึงยินดีอนุญาตแก่ทุกท่านไม่ว่าจะเป็นบุคคล  หรือองค์กรใด  ที่เห็นคุณค่าและจะช่วยกันเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง     ..... ขอเจริญพร พระธรรมปิฎก (หน้ารองปก : กรณีธรรมกาย โดย พระธรรมปิฎก) แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 52 15:39:34 จากคุณ : จขกท. (แอนนา วองก้า) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 15:38:31

ความคิดเห็นที่ 3 27 พฤศจิกายน 2541     นายอาคม  เอ่งฉ้วน รมต.ช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  นายอาทร  จันทวิมล  เลขาธิการสำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติ(สวช.)  นายพิภพ  กาญจนะ  อธิบดีกรมการศาสนา  เดินทางไปวัดพระธรรมกายเพื่อฟังคำชี้แจงกรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องวัดเผยแผ่ธรรมขัดต่อหลักศาสนา  และเชิญชวนทำบุญในลักษณะบังคับ  ให้ผ่อนชำระการสร้างวัตถุมงคล 2  ธันวาคม  2541     ภรรยานักธุรกิจเปิดเผยว่า  ชีวิตครอบครัวแตกสลายเพราะสามีคลั่งเข้าวัดพระธรรมกาย  บริจาคเงินจนสิ้นเนื้อประดาตัว 5  ธันวาคม  2541     นายเสฐียรพงษ์  วรรณปก  ราชบัณฑิต  ระบุหลักคำสอนในเรื่อง "นิพพานเป็นอัตตา"  ของวัดพระธรรมกายผิดเพี้ยนจากหลักของพระพุทธเจ้า 10 ธันวาคม  2541     นายธงชัย หรือ "เสี่ยเล็ก" เจ้าของภัตตาคารกังเจียมทู้  เปิดเผยว่าวัดสั่งอาหารในราคาเดือนละ 1 แสน  ส่งอาหารให้วัดเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว  อาหารโปรดสำหรับเจ้าอาวาสและรองเจ้าอาวาสคือ  ต้มขี้เมาปลาช่อน จากคุณ : จขกท. (แอนนา วองก้า) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 15:46:07

ความคิดเห็นที่ 4 11  ธันวาคม  2541     ร.ต.ท.สุเทพ  เรืองไพศาล  อง สวป.สภ.ต.กร่ำ  จับพระทวี  ชัยสุโร  และสามเณรวุฒิพันธ์  หงษ์พฤกษ์  พระและเณร  ลูกวัดพระธรรมกายเสพยาบ้าและดูหนังสือโป๊ที่โรงแรมซิลเวอร์บีช  จ.ระยอง 12  ธันวาคม  2541     ในขณะที่วัดถูกโจมตีจากสื่อมวลชน  นายวุฒิพันธ์  ได้หลบหนีออกจากวัดไปกับพระทวี  ชัยสุโร  กระทั่งเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น  ทางวัดให้ดำเนินคดีตามกฏหมาย  ส่วนพระทวี  ทางวัดให้ลาสิกขาทันทีในวันที่ 10 ธันวาคม     วันเดียวกัน มหาเถรสมาคม(มส.)จัดประชุมเรื่องของวัดพระธรรมกายและลงมติให้พระพรหมโมลี  เจ้าอาวาสวัดยานนาวา  ในฐานะเจ้าคณะภาค 1 รับหน้าที่สืบสวนกรณีวัดพระธรรมกายใน 3 ประเด็นคือ  การโฆษณาวัตถุมงคล  การก่อสร้างศาสนสถานที่ใหญ่โต(มหาธรรมกายเจดีย์)  การระดมเงินบริจาคทวนกระแสสังคม  และการกล่าวอ้างอภินิหารของหลวงพ่อสด  วัดปากน้ำ  ภาษีเจริญ 13  ธันวาคม 2541     ผู้ปกครองนักศึกษา กศน. ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอบางบัวทอง  ร้องเรียนว่า  ศูนย์สั่งนักศึกษาทั้งหญิง-ชายทุกระดับชั้นให้ไปร่วมบวชอุบาสกแก้ว  ในวันที่ 3 มกราคม  ที่วัดธรรมกาย  ซึ่งผู้ปกครองไม่เห็นด้วย 14  ธันวาคม  2541     เปิดตัวอดีตพระผู้ร่วมก่อตั้งวัดพระธรรมกาย  พระอดิศักดิ์  วิริยสโก  ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงความผิดเพี้ยนและความไม่ขอบมาพากลของพระธัมมชโย  เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย 15  ธันวาคม  2541     พระมโน  เมตตานันโท  อดีตนร.แพทย์จากออกซ์ฟอร์ด  พระผู้ร่วมก่อตั้งวัดพระธรรมกายอีกรูป  เปิดเผย  5  ปีแห่งความทุกข์ในวัดพระธรรมกาย  เหมือนสัตว์ที่ถูกกักขังในสวนสัตว์  และพฟติกรรมของพระในวัดไม่สอดคล้องและไม่เป็นไปตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา (หน้า 176-177  : กรณีธรรมกาย โดย พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์  ปยุตโต)) เดี๋ยวมาต่อจ้า v v v จากคุณ : จขกท. (แอนนา วองก้า) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 15:57:57

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณ จขก ที่ห่วงใยและพยายามช่วยกันดำรงไว้ ซึ่งศาสนาพุทธที่แท้จริง โพสต่อนะคะ เรื่องดีๆจะรออ่านจนจบ ใครเบื่อแล้วก็ไม่ต้องเข้ามา คนอื่นรออ่านเขาก็มี มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำไปทำไมกัน แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 52 16:26:45 จากคุณ : น้องต๋าว เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 16:25:27

ความคิดเห็นที่ 7 เบื่อก็ไม่ต้องอ่าน แต่ถ้าจะมาชี้แจงเหตุผลก็ยินดีครับ จากคุณ : ลำปาว เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 16:49:51

ความคิดเห็นที่ 8 หนังสือ  กรณีธรรมกาย   อ่านออนไลน์ได้ที่เว็บนี้ครับ http://dhammakaya.exteen.com/20050418/entry-48 จากคุณ : ลำปาว เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 16:51:51

ความคิดเห็นที่ 9 เบื่อก็ไม่ต้องมาอ่าน ตามนั้น จากคุณ : promp888 เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 17:13:14

ความคิดเห็นที่ 10 เดี๋ยวฉาวอีกรอบ เชื่อไหม จากคุณ : ไฟไฟ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 19:37:48

ความคิดเห็นที่ 11 ขออนุโมทนาเจ้าของกระทู้ ในความหวังดีในพระพุทธศาสนานะครับ แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 52 11:44:44 แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 52 11:44:26 จากคุณ : Gurebu เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 20:21:09

ความคิดเห็นที่ 12 16  ธันวาคม  2541     พบว่าพระธัมมชโยกว้านซื้อที่ดินบริเวณรอบเขาพนมพา หมู่ 7 บ้านเขาพนมพา  จ.พิจิตร รวม 156 ไร่  เพื่อทำธุรกิจเหมืองทอง  โดยส่งพระรูปหนึ่งและฆราวาสเข้าไปซื้อที่ดินเป็นเงิน 870,000 บาท 17 ธันวาคม 2541     นายเสฐียร  วรรณปก  ราชบัณฑิตชี้  พระทำนิติกรรมหรือมีอาชีพอื่นไม่ได้  แม้ไม่ปาราชิก  แต่ก็จับสึกได้ 18  ธันวาคม 2541     พบว่าสีกาอี๊ดมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดพระธัมมชโย  และเกี่ยวข้องในการยื่นขอทำเหมืองหินแกรนิตและขออาชญาบัตรพิเศษทำเหมือนแร่ทองคำ 19  ธันวาคม  2541     นายชาญวิทย์  เปรมกมล  หนึ่งในคนขายที่ดินแก่วัดพระธรรมกายออกมายืนยันว่าขายให้จริง 21  ธันวาคม  2541     เปิดเผยชีวิตข้าราชการหญิงระดับผู้ช่วยศาสตราจารย์  มหาวิทยาลัยรามคำแหง  และน้องสาว  เข้าปฏิบัติธรรม 10 ปี  ในวัดพระธรรมกายจนคลั่งถึงขั้นพกมีด  ปืนไปสอน  ในที่สุดต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลโรคจิต 24 ธันวาคม 2541     นายเสฐียรพงษ์  วรรณปก  ราชบัณฑิต  มอบเอกสารและโฉนดที่ดิน จ.เพชรบูรณ์และข้อมูลอื่นๆแก่กรรมาธิการศาสนา  ชี้หลักธรรมกายผิดเพี้ยน  ยึดติดนิมิต  และมีวิธีหาเงินไม่เหมาะสม  พระอดิศักดิ์  วิริยสโก  เปิดเผยแม่ชีจันทร์คนปัจจุบันเป็นตัวปลอม 26 ธันวาคม 2541     นางสาลี่  เพชรชูดี  ชาวอ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี  แฉสาวกธรรมกายให้กินน้ำมนต์ทุกวันจนรู้สึกเคลิบเคลิ้ม  จนต้องถวายที่ดินให้วัดมูลค่า 15 ล้านบาท 27 ธันวาคม 2541     พบโฉนดที่ดินในชื่อนายไชยบูลย์(ชื่อก่อนบวชของพระธัมมชโย)เพิ่มอีก 16 แปลง 4 มกราคม 2542     นายมั่น  พัธโนทัย  ผช.เลขาธิการ  รมว.มหาไทย  เปิดเผยว่า  กรมที่ดินแจ้งว่าที่ดินในกรรมสิทธิ์ของพระธัมมชโยและในชื่อบริษัทที่เกี่ยวข้องมีจำนวน 2,000 ไร่  ประกอบไปด้วยที่ตั้งวัดพระธรรมกาย  ที่ดินในจ.ปทุมธานี จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.เชียงใหม่   6 มกราคม 2542     นายนรวัฒน์  สุวรรณ  อธิบดีกรมทะเบียนการค้า  กระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยข้อมูลบริษัทธุรกิจที่มีนามสกุลเดิมของเจ้าอาวาส "สุทธิผล" ถือหุ้นจำนวน 4 บริษัท  และนามสกุลเดิมของรองเจ้าอาวาส  "ผ่องสวัสดิ์" ถือหุ้นจำนวน 18 บริษัท 10 มกราคม 2542     พระพยอมจะหาวัดใหม่ให้พระอดิศักดิ์อยู่ซึ่งเป็นความลับเพื่อป้องกันการถูกรบกวน  คุกคาม  แต่ไม่ใช่วัดสวนแก้ว 11 มกราคม 2542    หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุให้สัมภาษณ์  ไม่กลัว  ยินดีรับพระอดิศักดิ์เข้าวัดชลประทาน  เพราะเป็นพระเรียบร้อย  เจตนาดี  และวิพากษ์การทำบุญแล้วเดือดร้อนไม่ใช่วิสัยคนดี  พระนำการตลาดมาใช้ไม่เหมาะสม  ขณะที่พระอดิศักดิ์ยังอยู่วัดปากน้ำถูกตัดกิจนิมนต์ทั้งหมด   20 มกราคม 2542     ด้านเอกสารกรมทะเบียนการค้าพบว่ามีชื่อนายณรงค์รัชต์  สุทธิผล  และ นางเณริศา  อังศุสิงห์  น้องต่างมารดาของพระธัมมชโย  ทำธุรกิจร่วมกับสีกาคนสนิท"สีกาอี๊ด" นางจิรวัฒน์ ศรีสัตนา 26 มกราคม 2542     เปิดตัวนางจุรี  ผโลประการ  แม่เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย  ในทาวน์เฮาส์เก่าสภาพทรุดโทรมที่สีกาอี๊ดซื้อให้  โดยเจ้าอาวาสส่งเงินให้ทุกเดือนและยื่นเงื่อนไขถ้าไม่วุ่นวายจะให้ทาวน์เฮาส์อีกหลัง  พบว่าไม่ศรัทธาแนวของวัดพระธรรมกาย  หันไปปฏิบัติธรรมที่วัดมหาธาตุแทน   10  กุมภาพันธ์ 2542     นายลิ่วละล่อง  บุนนาค  นักธุรกิจไฮโซชื่อดัง  ยื่นฟ้อง  นางประวาท  บุนนาค  ภรรยา  ข้อหานำสินสมรสไปบริจาคให้วัดพระธรรมกายกว่า 100 ล้านบาท  จนได้เป็นมหาอุบาสิกา     นักวิชาการกรมศาสนาชี้เด็กสาวโครงการ"อภิญญาธรรม"ของวัดพระธรรมกายเลียนแบบมาจากสามเณรีวัดฝอกวงซาง  ประเทศไต้หวัน  ซึ่งเป็นมหายาน  กระทรวงศึกษาธิการเปิดโปงวัดพระธรรมกายสมัครสมาชิกองค์กรพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก(พสล.)โดยไม่ผ่านมหาเถรสมาคม  และพยายามจัดตั้งมหาวิทยาลัยพุทธศาสนาแห่งโลก 13 กุมภาพันธ์ 2542     กรรมาธิการการศาสนา  ศิลปะและวัฒนธรรม  สรุปประเด็นปัญหาวัดพระธรรมกาย  หลายหน่วยงานยืนยันตรงกันว่าสิบปีให้หลังเจ้าอาวาสหลงตัวเองอย่างรุนแรง  รวบอำนวจเบ็ดเสร็จในการตัดสินใจ  โลภไม่มีที่สิ้นสุด  ทำตัวลึกลับ  และชอบคบหาผู้หญิงรูปร่างดี  มีฐานะทางเศรษฐกิจ  เปิดเผยผลสืบสวนนักเรียนอภิญญาธรรมของวัดพระธรรมกายส่วนใหญ่เป็นลูกสาวตระกูลดัง แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 52 21:05:52 จากคุณ : จขกท. (แอนนา วองก้า) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 20:37:34

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณ จขกท.  กิฟหมด  ขอโหวให้กระทู้นี้นะคะ   จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 20:59:22

ความคิดเห็นที่ 14 เข้ามาอ่าน                            เก็บเข้าคลังกระทู้                      "สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในเหล็ก"                                   -------- พระบรมศาสดา ยังทรงยังอยู่ ------------ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 21:15:19

ความคิดเห็นที่ 15 1  มีนาคม 2542     คนร้ายโยนระเบิดเพลิงใส่บ้านนายเสฐียรพงษ์  วรรณปก  ราชบัณฑิต ผู้เชี่ยวชาญพุทธศาสนา  ...มีใบปลิวออกมาโจมตีพระธรรมปิฎก(ประยุทธ์  ปยุตโต)อย่างรุนแรง 1 พฤษภาคม 2542     สมเด็จพระสังฆราช  ทรงมีพระอักษรฉบับที่ 3 ออกมาระบุชัดเจนมีชื่อวัดพระธรรมกาย  ว่าทำผิด  ทรงย้ำ  ทำในฐานะสมเด็จพระสังฆราช 10 พฤษภาคม 2542     มหาเถรสมาคม(มส.)มีมติออกมาอย่างคลุมเครือ  โดยนายพิภพ  กาญจนะ  อธิบดีกรมการศาสนา  เป็นผู้แถลงว่า  มส.มีมติ 2 เรื่องคือ 1. เรื่องการโอนที่ดิน...  ...  กรมการศาสนารับแจ้งจากวัดธรรมกายโอนที่ดินทั้งหมดให้เป็นของวัดตามหนังสือแสดงเจตน์จำนงของเจ้าอาวาสวัดธรรมกาย...   ... 2.กรณีอื่นๆให้กรมการศาสนาติดตามเพื่อให้เกิดผลทางปฏิบัติต่อไป  ซึ่งในที่สุดมส.ก็ยังไม่มีมติให้ธัมมชโยปาราชิกหรือพ้นจากความเป็นสงฆ์ (หน้า 177-192  : กรณีธรรมกาย  โดย พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์  ปยุตโต)) จากคุณ : จขกท.จ้ะ (แอนนา วองก้า) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 21:19:25

ความคิดเห็นที่ 16 อนุโมทนา...ครับ จากคุณ : Eikewsang เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 21:26:51

ความคิดเห็นที่ 17 การโกงสมบัติสมบัติผู้อื่นตั้งแต่ 5 มาสกขึ้นไป  คือประมาณไม่ถึง 300 บาทในปัจจุบัน  ภิกษุต้องอาบัติปาราชิก  ฐานผิดพระธรรมวินัย  พ้นจากความเป็นพระทันที  ในกรณีนี้  ไม่ว่าจะมีผู้รู้เห็นหรือไม่  ไม่ว่าจะมีการสั่งให้สึก  ไม่ว่าจะมีการจับสึก  หรือไม่ก็ตาม  ภิกษุผู้ละเมิดพระธรรมวินัยข้อนี้  ต้องอาบัติปาราชิก  พ้นจากความเป็นพระโดยอัตโนมัติ  ที่ประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรก็เพื่อเตือนให้รู้ทั่วกัน  ว่าผู้ต้องอาบัติปาราชิกนั้น  ไม่ใช่พระในพระพุทธศาสนา  เป็นเพียงผูนำผ้ากาสาวพัสตร์  ไปครอง  เป็นพระปลอม  ต่อจากนั้นย่อมเป็นหน้าที่โดยตรงของผู้รักษากฏหมาย  หรือของผู้มีหน้าที่ในการพระพุทธศาสนาจะต้องรักษาพระพุทธศาสนา  มิให้พระปลอมทำลาย  มาทำให้เสื่อมเสีย  เช่นที่ผู้รักษากฏหมายเคยทำมาแล้ว  เคยบังคับให้ผู้ปลอมเป็นพระถอดผ้ากาสาวพัสตร์ออกจากตัวแล้ว  การปฏิบัติต่อพระปลอมต้องไม่มีแตกต่างกัน  ต้องไม่มียกเว้นว่าคนนั้นปลอมได้  คนนี้ปลอมไม่ได้  เป็นพระปลอมมีอยู่พระพุทธศาสนาไม่ได้ทั้งนั้น     ประกาศนั้นเป็นคำบอกเล่า  เป็นคำเตือนให้รู้  เป็นเรื่องส่วนตัว  ไม่เกี่ยวกับมส.(มหาเถรสมาคม)  ไม่บังคับให้ใครเชื่อ  ไม่บังคับให้ใครทำอะไร  แสดงความถูกผิดให้ปรากฏอยู่เท่านั้น  ในฐานะที่เป็นประมุขแห่งสงฆ์ในพระพุทธศาสนา  จึงต้องทำหน้าที่ส่วนตนให้เรียบร้อยถูกต้อง     บอกความจริงด้วยความหวังดี  มิได้บังคับ  จงเข้าใจทั่วกัน     สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช  สกลมหาสังฆปรินายก (หน้า 177 : กรณีธรรมกาย  โดย  พระธรรมปิฎก  (ประยุทธ์  ปยุตโต)) จากคุณ : จขกท.จ้ะ (แอนนา วองก้า) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 21:31:40

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ จากคุณ : มังคุดม่วง เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 21:38:10

ความคิดเห็นที่ 19 โอ้ว เนี้ยล่ะ ที่มาชื่อผม ก็คือคนในรูปเนี้ยล่ะ (ใครถามฟร่ะ) จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 21:45:41

ความคิดเห็นที่ 20 ดาวน์โหลดไฟล์ PDF ของหนังสือ กรณีธรรมกาย - บทเรียนเพื่อการศึกษาพระพุทธศาสนา และสร้างสรรค์สังคมไทย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต) พิมพ์ครั้งที่ ๒๔ — มกราคม ๒๕๕๑ http://onk8.net/sites/onk8.net/files/mediareview/Dhammagaya_factsheet.pdf จากคุณ : ลำปาว เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 21:51:32

ความคิดเห็นที่ 21 สรุปว่า..  ข้อมูลทั้งหมดนั่น เป็นเรื่องไม่จริงใช่มั๊ยครับ  เพราะผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว  เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ก็ยังสุขสบายดี   วัดพระธรรมกาย ก็เจริญขึ้นทุกวันๆ  มีโครงการตักบาตร  บวชพระ  ออกมามากมายหลายโครงการ  เป็นที่ยอมรับจากวัดต่างๆ ทั่วประเทศ  และได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี แถมหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่เคยลงข่าวโจมตี  ก็ออกมาขอโทษซะอีกแหนะ  นี่ก็แสดงว่า  ข้อมูลทั้งหมดนั่น  ไม่เป็นความจริงเรยสินะ จากคุณ : จักรพรรดิสัมมาทิฐิ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 22:09:29

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยกับความเห็น 7 ครับ ีชี้แจงกันด้วยเหตุผล อย่าเอามาเป็นอารมภ์ทะเลาะกัน จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 22:14:14

ความคิดเห็นที่ 23 ที่น่าสงสาร  ก็คือ  คนที่กุเรื่อง สร้างข้อมูลเท็จ  มาใส่ร้ายพระ ใส่ร้ายวัด คงลงนรกไปยาวเชียว  บอกลาตอนนี้ ไม่รู้ทันรึป่าว  หรือลงไปแล้วก็ม่ะรุ จากคุณ : จักรพรรดิสัมมาทิฐิ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 22:18:22

ความคิดเห็นที่ 24 ที่แท้..  พระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช  ก็มีการปลอมออกมาเป็นว่าเล่น  แบบนี้นี่เอง... ------------------------------------------------------------------------------------------- จากกรณีที่มีผู้ปลอมแปลงร่างพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช เรื่องผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และวัดบวรนิเวศวิหารได้ดำเนินการแจ้งความเพื่อหาผู้ที่ดำเนินการต่อ สน.ชนะสงคราม แล้วนั้น       ความคืบหน้าเรื่องนี้ ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 10 พ.ย. พระเทพปริยัติวิมล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กล่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมว่า ได้เข้ารายงานเรื่องแถลงการณ์ของวัดบวรฯ เกี่ยวกับการแจ้งความดำเนินคดี การปลอมร่างพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช ต่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่ สมเด็จพระสังฆราช และที่ประชุมมหาเถรฯ แล้ว โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์และที่ประชุมก็รับทราบและไม่ได้ ติดใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น     ทางด้าน นางจุฬารัตน์ บุณยากร รักษาการ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กล่าวว่า คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ได้ทำหนังสือชี้แจงให้ที่ประชุมมหาเถรฯ ทราบว่า รัฐบาลไม่มีดำริในเรื่องการเปลี่ยนคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชแต่อย่างใด ส่วนที่ประชุมมหาเถรฯ ก็ไม่ได้มีการหยิบยกเรื่องร่างพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชขึ้นมาหารือในที่ประชุม สำหรับกรณีที่มีผู้ข่มขู่วางระเบิดวัดบวรฯนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ประสานกับวัดบวรได้รับรายงานว่า ขณะนี้สถานการณ์อยู่ในภาวะปกติ โดยจะเฝ้าติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป       ขณะที่ พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีผู้ไม่หวังดีโทรศัพท์ขู่วางระเบิดกุฏิคณะเหลืองรังษี วัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกับพระตำหนักคอยท่าปราโมช ของสมเด็จพระสังฆราช ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความระมัดระวังและสั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณวัดบวรฯอย่างเข้มงวดแล้ว ซึ่งจะมีการสืบสวนนำ ตัวมือมืดที่โทรศัพท์มาป่วน เพื่อดำเนินคดีต่อไป ส่วนกรณีที่วัดเข้าแจ้งความที่ สน.ชนะสงคราม กรณีมีคนแอบอ้างพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชนั้น ได้สั่งการให้ พล.ต.ต. มานิต วงศ์สมบูรณ์ ผบก.น.1 พ.ต.อ.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช ผกก.สน.ชนะสงคราม พ.ต.ท.ฉัตรา พาสุวรรณ รอง ผกก.สน.ชนะสงคราม และพนักงานสอบสวน เข้าไปหารือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากวัด หากวัดมีความประสงค์ ต้องการดำเนินคดีกับผู้ที่แอบอ้างพระบัญชา เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการดำเนินการอย่างทันท่วงที อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กับวัดกำลังหารือเรื่องนี้กันอยู่ว่าจะดำเนินการกับคนแอบอ้างพระบัญชาต่อไปอย่างไร ข่าว : ไทยรัฐ 11 พฤศจิกายน 2549 จาก http://www.alittlebuddha.com/html/News%202006/November%202006/18%20November%2006.html จากคุณ : จักรพรรดิสัมมาทิฐิ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 22:34:16

ความคิดเห็นที่ 25 ถาม.. คห.  # 23 ข้อความในความเห็น >>> "ที่น่าสงสาร  ก็คือ  คนที่กุเรื่อง สร้างข้อมูลเท็จ  มาใส่ร้ายพระ ใส่ร้ายวัด" <<< v v v.................................................v v v "คนกุเรื่อง" ,  "สรางข้อมูลเท็จ"    คุณจักรพรรดิฯ  หมายถึง   ท่านเจ้าคุณ พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์  ปยุตโต) ผู้เขียนหนังสือ.....  ตามที่ จขกท.  อ้างอิงถึง  ....  หรือเปล่าครับ....? แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 52 22:49:16 จากคุณ : Eikewsang เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 22:41:58

ความคิดเห็นที่ 26 ถามความเห็น # 24 ข้อความในความเห็น >>>"ที่แท้..  พระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช  ก็มีการปลอมออกมาเป็นว่าเล่น  แบบนี้นี่เอง..."<<< คำว่า "ปลอมกันเป็นว่าเล่น"  หมายถึงมีการปลอมกันกี่ครั้งครับ...? และ   พระลิขิตสมเด็จขพระสังฆราช  ตามที่ จขกท. อ้างถึง "เป็นของปลอม"......ด้วยหรือครับ....? จากคุณ : Eikewsang เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 22:47:47

ความคิดเห็นที่ 27 ท่านเจ้าคุณ พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์  ปยุตโต)  ท่านก็เขียนหนังสือขึ้น จากข้อมูล และข่าวสาร ที่ได้รับรู้มาในขณะนั้น  ซึ่งท่านอาจจะไม่รู้  ว่าข้อมูลนั้นเป็นเรื่องเท็จทั้งหมด   ซึ่งข้อมูลเท็จทั้งหลายนั้น  แน่นอนว่า  ผู้ที่กุเรื่องขึ้นมา ย่อมเป็นผู้ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนา   แล้วคนๆ นั้น  จะเป็น ท่านเจ้าคุณ พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์  ปยุตโต) ไปได้อย่างไร  ต้องเป็นคนอื่นแน่ๆ อยู่แล้ว  แต่จะเป็นใคร  เราก็ไม่รู้เหมือนกัน จากคุณ : จักรพรรดิสัมมาทิฐิ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 22:53:31

ความคิดเห็นที่ 28 เป็นเรื่องน่าหดหู่อย่างยิ่ง ... เมื่อผู้ที่ออกมาปกป้องศาสนา  ถูกคุกคาม  โดยวิธีการต่างๆ นาๆ ทั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผิดศีลธรรม ในน่าเชื่อเลยว่า  มีบางคนสนันสนุน  ฝ่ายที่กระทำการ คุกคามนั้นด้วย ---------------------------------- อย่ากลัวคนอื่นเลย  คนในศาสนาเดียวกันนี่แหละที่จะมาทำลายกันเอง จากคุณ : Eikewsang เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 22:56:04

ความคิดเห็นที่ 29 คห.24  ผมจะไปรู้ได้ไงล่ะครับ  ว่าจะมีการปลอมทั้งหมดกี่ครั้ง   แต่ถ้ามีการปลอมขึ้นมาแล้ว  ฉบับไหนจริง  ฉบับไหนปลอม  ก็คงแยกแยะลำบากล่ะ จากคุณ : จักรพรรดิสัมมาทิฐิ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 22:57:51

ความคิดเห็นที่ 30 ท่านเจ้าคุณ พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์  ปยุตโต)  ถูกหลอก...! คุณกำลังจะบอกอย่างนั้นใช่มั๊ย...ครับ ? จากคุณ : Eikewsang เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 22:58:26

ความคิดเห็นที่ 31 ถาม ๒ 29 แล้วพระลิขิตที่ จขกท. อ้างถึงในกระทู้ล่ะ  ปลอมหรือเปล่า...? จากคุณ : Eikewsang เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 22:59:49

ความคิดเห็นที่ 32 กระทู้ลบให้หมดเลยนะ แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 52 03:48:30 แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 52 03:45:47 จากคุณ : jamtaay (jamtaay) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 23:04:52

ความคิดเห็นที่ 33 หรืออาจจะแยกแบบนี้  ก็น่าจะได้.. พระลิขิต  ของแท้  ต้องไม่มีเนื้อหาที่เป็นผลเสียต่อพระพุทธศาสนา แต่ฉบับปลอม  เค้าก็ต้องแกล้งทำให้เนียน ให้จับผิดยากอยู่แล้ว  อาจจะอ้างนู้นอ้างนี่  หรือใช้คำกำกวม  แต่สุดท้ายแล้ว  ก็คือมีเจตนาให้มีผลเสียต่อพระพุทธศาสนา  โดยอาจจะค่อยๆ บ่อนทำลาย ทีละนิดๆ เพื่อไม่ให้ดูผิดสังเกตุ  ไม่งั้นเด๊วคนจะรู้ทันได้ง่ายๆ จากคุณ : จักรพรรดิสัมมาทิฐิ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 23:06:29

ความคิดเห็นที่ 34 ส่วนฉบับไหนจริง  หรือฉบับไหนปลอม  ผมก็ไม่อาจไปรู้ได้  เพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้  จึงไม่ได้คอยไปตามจับผิดอยู่ จากคุณ : จักรพรรดิสัมมาทิฐิ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 23:09:57

ความคิดเห็นที่ 35 http://www.dmc.tV/forum/index.php?showtopic=5885&st=0 ลองฟังความอีกฝ่ายนะ จากคุณ : KornM เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 23:14:31

ความคิดเห็นที่ 36 . จากคุณ : KornM เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 23:21:10

ความคิดเห็นที่ 37 เรื่องหมิ่นประมาท ในวงการนักกฎหมายเขามีคำว่า "ยิ่งจริง ยิ่งผิด" ยกตัวอย่าง ถ้าเราไปพบไอ้ชั่ว "ข่มขืนลูกตัวเอง" แล้วก็เอาเรื่องมาพูดในที่สาธารณะ ไอ้ชั่วมันฟ้องหมิ่นประมาท รู้มั้ย เราต้องยอมลงหนังสือพิมพ์ขอโทษ "ไอ้ชั่ว" ไม่งั้นเราก็ติดคุก! การที่เรา "ผิด" กฎหมายหมิ่นประมาท มันไม่ได้แปลว่า "ไอ้ชั่ว" มันบริสุทธิ์ มันไม่ได้ "ชั่ว" อย่างที่เราพูด จำเอาไว้ "ยิ่งจริง ยิ่งผิด" ไม่แปลกเลยที่หนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ ต้อง "จำใจ" ออกมาประกาศขอโทษ "ไอ้ชั่ว" กันเป็นแถว ก็เพราะพวกหัวหมอมันรู้หลักข้อนี้ คคห 21 พยายามจะเอาข่าวมติชน มาทำทีลงไว้เพื่อผูกตรรกะ ก็รู้ไว้เถอะครับ "ยิ่งจริง ยิ่งผิด" การอ้างประกาศขอโทษขอขมาอะไรนั่น มันไม่ทำให้ดำกลายเป็นขาวหรอกครับ จากคุณ : ระนาดเอก เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 00:01:47

ความคิดเห็นที่ 38 คห.ที่ 27 "ท่านเจ้าคุณ พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์  ปยุตโต)  ท่านก็เขียนหนังสือขึ้น จากข้อมูล และข่าวสาร ที่ได้รับรู้มาในขณะนั้น  ซึ่งท่านอาจจะไม่รู้  ว่าข้อมูลนั้นเป็นเรื่องเท็จทั้งหมด   ซึ่งข้อมูลเท็จทั้งหลายนั้น  แน่นอนว่า  ผู้ที่กุเรื่องขึ้นมา ย่อมเป็นผู้ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนา " เข้าใจว่าท่านผู้โพสต์เรพคงไม่เคยอ่านหนังสือ "กรณีธรรมกาย" จึงมีความคิดว่าหนังสือดังกล่าวเขียนโดยอ้าง "ข้อมูล ข่าวสาร" ในขณะนั้นตามที่พูด ซึ่งในที่นี้ ผมอยากเรียนให้ทราบว่ากรณีธรรมกาย เป็นหนังสือน่าอ่านสำหรับผู้เยี่ยมชมกระทู้นี้ทุกท่าน เขียนขึ้นโดยพระเถราจารย์ผู้ชำนาญในพระไตรปิฎกบาลี เนื้อหาทั้งหมดที่เขียนขึ้นอ้างอิงจาก "พระไตรปิฎก" ล้วนๆ มีการอธิบาย ยกตัวอย่างชัดเจน ชี้ชัดว่าวัดพระธรรมกายมีการทำสัทธรรมปฏิรูปอย่างไร พระอาจารย์ชั้นผู้ใหญ่แบบท่านพระพรหมคุณาภรณ์คงไม่ตู่พระธรรมไปว่าร้ายคนอื่น วัดอื่นให้เสียหายจาก "ข้อมูล ข่าวสาร" เลื่อนลอยดังที่คุณว่าหรอกครับ ดังนั้นคิดดีๆก่อนโพสต์นะครับ ไม่ใช่พระอาจารย์ หรือวัดที่คุณนับถือศรัทธาจะดีเด่นไปเสียทุกเรื่อง ดีเสียจนใครก็แตะต้องไม่ได้ ผิดถูกไม่สนใจ ใครมาว่าศรัทธาของฉัน คนนั้นมันถูกหลอก หรือไม่ก็โง่เองหมด พูดพล่ามพล่อยๆแบบนี้ สร้างแต่ความเสื่อมศรัทธาให้แก่วัดของท่านนะครับ ด้วยความปรารถนาดี จากคุณ : อย่าทะเลาะกัน (greenflash) เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 00:02:56

ความคิดเห็นที่ 39 ตอบ คคห.7 ให้ชี้แจง ผมก็การันตีว่าเด๊วก็มีคนธรรมกายมาชี้แจงเองนั่นแหละ แล้วเด๊วรับรอง มีลากยาวเป็นมานั่งเถียงกันแบบเอาความรู้ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนกันมาใช้วาจาถากถาง พูดข่มกันในที่สุดเหมือนทุกกระทู้ธรรมกายนั่นแหละ ไม่เชื่อคอยดู...ฟันธง กระทู้ธรรมกายทุกทีอ่านแล้วมันก็จบลงที่สงครามศาสนายังไงยังงั้น เวลาคริสต์เค้ารบเพื่อศาสนาเค้าเรียกว่า"ครูเสด" อิสลามเค้ารบเพื่อศาสนาเค้าเรียกว่า"ญีฮาด" แล้วพุทธรบกันในห้องศาสนาเพื่อพระพุทธเจ้าเนี่ย จะเรียกว่าไรดีล่ะ น่าจะบัญญัติศัพท์หน่อยก็ดีนะครับ ตอบ คคห.11 เอ่อ...ขอให้ถอนคำพูดว่าผมเป็นสมุนธรรมกายนะครับ ข้อหายัดเยียดเนี่ยมันแรงนะขอบอก อย่าตัดสินคนซี๊ซั๊ว เพราะคนตัดสินคนซี๊ซั้วจากประโยคแค่สองสามประโยค เนี่ยมันส่อวุฒิภาวะการศึกษาและทางปัญญานะขอรับ แล้วสำหรับลิงค์ที่ผมให้มันเปิดไม่ได้นะครับ เพราะคุณไม่สังเกตเองว่ามีการเปลี่ยนตัวอักษรภาษาอังกฤษให้เป็นตัวหนังสือไทย คุณจะเปิดก็ต้องแก้กลับเป็นภาษาอังกฤษสิครับ เพราะไอ้ลิงค์ทีผมโพสน่ะ ทางพันทิพเค้าเปลี่ยนชื่อเวปลิงค์เป็น "ลิควิด" ให้อัตโนมัติน่ะสิ ผมเลยต้องแก้ตัวหนังสืออังกฤษเป็นไทย เอาเป็นว่าคคห.ก็โดนลบไปแล้ว เด๊วผมแปะให้คุณเบิ่งตาดูอีกรอบละกัน แล้วทีนี้ก็แก้ภาษาให้มันถูกต้องก่อนจะกดลิงค์ มันจะต้องแก้จากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษอีก 5 ตัวมีตัง p a j i t ...โอเค๊ http://board.พีเอlungเจไอที.com/f36/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99-%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2-1046.html ปล.ปกติผมไม่ได้แวะมาห้องนี้เท่าไหร่หรอก แต่พอดีเพราะไปโพสทิ้งคำถามเอาไว้เรื่องตบยุง, ยูทูป และเรื่องญีฮาด ก็เลยแวะมาโพสกระทู้นี้เข้านะ ไม่คิดว่าจะโดนตัดสินเป็นธรรมกายไปฉิบ...เฮ้อ คนเรา จากคุณ : เกี๊ยวหมี่แห้ง เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 00:07:30

ความคิดเห็นที่ 40 ผมจำภาพในไทยรัฐติดตาเลยครับกับการที่สำนักนี้ ตอนเตรียมการก่อสร้างสำนักในปีแรก มีการไล่ที่ และยกพวกปะทะ ไล่ตี ไล่ทุกไล่ถองกันกลางทุ่งกับ ชาวบ้านที่เป็นชาวนาแถวนั้น ... จะสร้างวัดบนความ ไม่อารีอารอบ เห้นแล้วเสื่อมศรัทธา...ยิ่งมีข่าวว่า มารดาของเจ้าอาวาสเองยังไม่ศรัทธาในแนวทาง ของพระลูกชายซึ่งเป็นเจ้าอาวาส ก้อยิ่งไปใหญ่ สีกา อิ๊ดอะไรนั่นก้ออีก...จานบินอีก โกบิ๊กเลย แม่ชีปัด ระเบิดอีก...หมดกัน จากคุณ : เต๋านีโอ เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 00:19:52

ความคิดเห็นที่ 41 คคห 27 ท่านเจ้าคุณ พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์  ปยุตโต)  ท่านก็เขียนหนังสือขึ้น จากข้อมูล และข่าวสาร ที่ได้รับรู้มาในขณะนั้น  ซึ่งท่านอาจจะไม่รู้  ว่าข้อมูลนั้นเป็นเรื่องเท็จทั้งหมด ซึ่งข้อมูลเท็จทั้งหลายนั้น  แน่นอนว่า  ผู้ที่กุเรื่องขึ้นมา ย่อมเป็นผู้ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนา   แล้ว คนๆ นั้น  จะเป็น ท่านเจ้าคุณ พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์  ปยุตโต) ไปได้อย่างไร  ต้องเป็นคนอื่นแน่ๆ อยู่แล้ว  แต่จะเป็นใคร  เราก็ไม่รู้เหมือนกัน - - - - - - - - คำปรารภ          หนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นด้วยปรารภเหตุเฉพาะหน้า คือในปลายปี ๒๕๔๑ เมื่อเกิดกรณีปัญหาวัดพระธรรมกายขึ้นไม่นาน ได้มีเอกสารของวัดพระธรรมกาย ที่พยายามสร้างความชอบธรรมแก่คำสอนและกิจกรรมของสำนัก เผยแพร่ออกไปจำนวนมากมายอย่างกว้างขวาง เมื่อได้อ่านแม้เพียงบางส่วน ก็เห็นเนื้อหาที่จะก่อความเข้าใจผิดพลาดสับสนแก่ประชาชนถึงขั้นทำให้พระศาสนาสั่นคลอนได้ จึงได้เร่งเขียนคำชี้แจงขึ้นมาจนเสร็จไปขั้นหนึ่ง          นอกจากเหตุเฉพาะหน้านั้นก็มีเหตุผลระยะยาวว่า ไม่ว่าจะเกิดกรณีปัญหาเช่นนี้ขึ้นก็ตาม ไม่เกิดขึ้นก็ตาม การสร้างเสริมปัญญาด้วยการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ย่อมมีความสำคัญในตัวของมันเอง เพราะความรู้เห็นถูกต้องเป็นฐานของพฤติกรรม จิตใจ และกิจการทุกอย่าง ที่จะดำเนินไปได้โดยถูกต้อง และปลอดโปร่งโล่งเบา เกื้อกูลต่อการแก้ปัญหาและการสร้างสรรค์ทั้งปวง          หลังจากงานเร่งเฉพาะหน้าเสร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว จึงได้เขียนแทรกเสริมเพิ่มความต่อมาให้ชัดเจนและครอบคลุมยิ่งขึ้น ดังปรากฏเป็นหนังสือเล่มขยายในบัดนี้ ซึ่งแม้จะพยายามเขียนให้สั้น ก็ยังยาวเกินคาดหมายไปมาก แม้หากการแก้ปัญหาของส่วนรวมในบัดนี้ไม่ลุล่วง สาระที่จัดรวมไว้ก็อาจช่วยเอื้อแก่คนรุ่นหลัง หรือปัจฉิมาชนตา ผู้มีปัญญา ที่จะมีโอกาสมาแก้ปัญหาหรือฟื้นฟูกู้พระศาสนา อย่างน้อยก็ช่วยให้รู้เข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่ง เนื้อหาที่นำมาเสนอไว้ มุ่งที่ข้อมูลความรู้และหลักการตามหลักฐานที่ยอมรับกันว่าเป็นมาตรฐานกลางของพระพุทธศาสนาเถรวาท พร้อมทั้งคำอธิบายพอเชื่อมโยงระหว่างฐานข้อมูล โดยแยกทัศนะหรือความคิดเห็นออกไว้ต่างหาก และให้มีเพียงแต่น้อย          ด้วยเหตุที่เป็นหนังสือเล่มขยาย ซึ่งเขียนเพิ่มเติม โดยแทรกเข้าในหลายแห่งของเล่มเดิม มิใช่เขียนต่อเนื่องในคราวเดียว จึงอาจมีเนื้อความที่ลักลั่นและซ้ำซ้อนบ้าง          เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกรณีปัญหาเฉพาะ แม้มิจงใจให้กระทบกระทั่ง แต่เมื่อจะให้เกิดความชัดเจน ก็จำเป็นต้องมีคำและความบางส่วนที่พาดพิงถึงสำนักพระธรรมกาย และท่านผู้เกี่ยวข้อง จึงขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย โดยขอให้ถือว่ามาช่วยกันทำประโยชน์เพื่อพระศาสนาและสังคมส่วนรวม          หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นส่วนร่วมอย่างหนึ่ง ที่จะให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เป็นสัมมาทัศนะ ที่จะเป็นฐานแห่งความมั่นคงยั่งยืนของพระธรรมวินัย และความเจริญแพร่หลายแห่งประโยชน์สุขของประชาชน สืบต่อไป พระธรรมปิฎก ๑๐ เมษายน ๒๕๔๒ - - - - - - - - "เอกสารของวัดพระธรรมกาย" ที่เป็นต้นเรื่องให้พระธรรมปิฎกเขียนหนังสือกรณีธรรมกายขึ้น .. ก็คือ บทความเรื่อง “สายตรงจากธรรมกาย นิพพานเป็นอัตตาหรืออนัตตา” โดย พระสมชาย านวุฑฺโฒ (หนังสือพิมพ์มติชนรายวันฉบับวันพุธ ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๔๒ หน้า ๑๒ “สุขสรรค์” บทความเรื่อง “สายตรงจากธรรมกาย นิพพานเป็นอัตตาหรืออนัตตา” โดย พระสมชาย านวุฑฺโฒ) จาก คคห 27 จึงสรุปได้ว่า ข้อมูลที่พระธรรมปิฎกได้รู้มานั้น เป็นเรื่องเท็จทั้งหมด ผู้ที่กุเรื่องขึ้นมาก็คือ พระสมชาย านวุฑฺโฒ ย่อมเป็นผู้ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนา !!! แต่ คคห 27 ทำเป็นไก๋ บอกว่า ผู้ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนา(ชั่วชาติจริงๆ) จะเป็นใคร เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ให้ร้าย พระสมชาย านวุฑฺโฒ ว่าเป็นผู้ที่กุเรื่องขึ้นมา เป็นผู้ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนา!! นี่ทำกันถึงขนาดนี้ได้ลงคอ!! ทำได้ยังไง?! มาจากวัดเดียวกันแท้ๆ !? ที่น่าสงสาร ก็คือ คนที่กุเรื่อง สร้างข้อมูลเท็จ มาใส่ร้ายพระ ใส่ร้ายวัด คงลงนรกไปยาวเชียว  บอกลาตอนนี้ ไม่รู้ทันรึป่าว  หรือลงไปแล้วก็ม่ะรุ ตกลงว่า พระสมชาย ที่กุเรื่อง สร้างข้อมูลเท็จ เป็นผู้ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนา ฯลฯ จนกระทั่ง พระธรรมปิฎก ต้องออกหนังสือกรณีธรรมกาย เพราะ "เมื่อได้อ่านแม้เพียงบางส่วน ก็เห็นเนื้อหาที่จะก่อความเข้าใจผิดพลาดสับสนแก่ประชาชนถึงขั้นทำให้พระศาสนาสั่นคลอนได้" หรือจะเป็นคุณท่าน คคห 27 ที่ใส่ร้ายพระสมชาย เพราะ "ที่พระธรรมปิฎกเขียนหนังสือขึ้นจากข้อมูลที่ได้รับรู้มาในขณะนั้น  ท่านไม่รู้ว่าข้อมูลนั้นเป็นเรื่องเท็จทั้งหมด" ??!? ใครจะไปลงนรกก่อนใคร ?? หรือจะลากกันไปนรกทั้งคู่ ห๊ะ !! จากคุณ : ระนาดเอก เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 00:41:03

ความคิดเห็นที่ 42 ^ ^ ฮ่าๆๆๆ  เอ่อๆๆ.. เข้าท่าแฮะคนนี้  ลูกเล่นไม่ใช่ย่อยนะเราอ่ะ  แถกแถได้ไม่ธรรมดาเรยเชียว   เก่งๆๆ จากคุณ : จักรพรรดิสัมมาทิฐิ เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 01:04:50

ความคิดเห็นที่ 44 ^ ^ ฮ่าๆๆๆ แถกแถไม่ออก เหงื่อกาฬแตก หัวเราะแก้เกี้ยวเป็นลิงตีฉาบไปเลย ว่างั้น จากคุณ : ระนาดเอก เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 01:16:33

ความคิดเห็นที่ 45 หู๊ยยย.. ไม่หรอกจ้า  เราเซียนแถกแถอยู่แล้ว  ยังมีทีเด็ดอีกเพียบ แต่ขอพักไปกินบะหมี่เกี๊ยวก่อนนะ  หิวแระ  อิอิ จากคุณ : จักรพรรดิสัมมาทิฐิ เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 01:40:25

ความคิดเห็นที่ 46 มาฟังครับ จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 01:41:52

ความคิดเห็นที่ 47 ขออนุญาต ถาม ในกระทู้นี้ก็แล้วกันนะครับ ศิษย์สำนักธรรมกาย รวมทั้ง เจ้าสำนักด้วย คุณมั่นใจได้อย่างไรว่าคุณจะสามารถเลือก ไปอยู่ที่ ดุสิตบุรี ได้ตามที่คุณต้องการหลังจากที่หมดลมหายใจแล้ว ตราบเท่าที่คุณๆ ทั้งหลาย ไม่ใช่พระโสดาบัน ก็หมายความว่า คุณ ๆ ทั้งหลาย มีโอกาสสูงมาก ที่จะลงสู่อบาย หรือ ไปเป็นสัตว์เดรัจฉาน และที่สำคัญ หากแม้ว่าคุณได้ไป ดุสิตบุรี แล้ว สุดท้ายคุณ ๆ ทั้งหลาย ก็ต้องเปลี่ยนสถานที่ ไปอยู่ที่อื่นอีกอยู่ดี จากสิ่งเหล่านี้ แสดงว่า สิ่งทั้งหลายที่สำนักธรรมกายได้ทำ โดยการประชาสัมพันธ์ชวนเชื่อเกี่ยวกับ  ดุสิตบุรี เป็นการล่อลวงผู้อื่น ให้หลงทาง หรือไม่ครับ เผอิญไปเจอกระทู้นี้ ซึ่งขอยืนยันว่า เป็นไปได้ยากมาก ที่คุณ ๆ ทั้งหลายจะเลือกไปอยู่ ที่นั่นที่นี่ ตามที่คุณต้องการ ตราบเท่าที่คุณ ๆ ทั้งหลาย ไม่ใช่ พระโสดาบัน ครับ http://www.ดีเอ็มc.tv/forum/index.php?showtopic=21361 (เปลี่ยนภาษาไทยเป็นตัวภาษาอังกฤษ นะครับ ) ผมรอคำอธิบาย จาก สมาชิกวัดธรรมกาย อยู่นะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : ever rich เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 01:47:26

ความคิดเห็นที่ 48 จากคห.ที่21,24และ27 1.สรุปว่า..  ข้อมูลทั้งหมดนั่น เป็นเรื่องไม่จริงใช่มั๊ยครับ  เพราะผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว  เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ก็ยังสุขสบายดี   - การที่เจ้าอาวาสวัดธรรมกายยังสุขสบายดีนั้น ไม่ไ้ด้หมายความว่าสิ่งที่วัดธรรมกายทำนั้น..ถูก  คนเปิดโรงเหล้าเป็นสิบๆปี...แล้วยังสุขสบายดีก็มีให้เห็น  คนฆ่าสัตว์มาเป็นสิบๆปี...แล้วยังสุขสบายดีก็มีให้เห็น  ที่ยังสุขสบายนั้น...อาจจะเป็นเพราะกรรมเก่า  ดังนั้นการอ้างว่าเจ้าอาวาสวัดธรรมกายสอนถูก...เพราะท่านยังสุขสบายดีนั้น...ไร้เหตุผล ----------------------------------------------------------------- 2.วัด พระธรรมกาย ก็เจริญขึ้นทุกวันๆ มีโครงการตักบาตร  บวชพระ  ออกมามากมายหลายโครงการ  เป็นที่ยอมรับจากวัดต่างๆ ทั่วประเทศ  และได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี - การที่วัดธรรมกายเจริญขึ้นทุกวัน...ก็ไม่ได้หมายความว่าวัดธรรมกาย...ดี  ถ้าสิ่งไหนเจริญขึ้นทุกวันหมายความว่าสิงนั้นดี...pub bar ลานเบียร์มันก็ต้องดีด้วย...เพราะpub barก็เจริญขึ้น มีจำนวนร้านมากขึ้นทุกวันเหมือนกัน  การที่ทางวัดธรรมกายมีโครงการที่ดีต่างๆ...ก็ไม่ได้หมายความว่าวัดธรรมกายสอนถูกเช่นกัน  บริษัทเหล้าบางยี้ห้อก็มีกิจกรรมเพื่อชุมชนเช่นกัน..แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทเหล่านั้นดี --------------------------------------------------------------- 3.แถมหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่เคยลงข่าวโจมตี  ก็ออกมาขอโทษซะอีกแหนะ  นี่ก็แสดงว่า  ข้อมูลทั้งหมดนั่น  ไม่เป็นความจริงเรยสินะ - การที่หนังสือพิมพ์มาขอโทษนั้น...เกิดได้จากหลายกรณี  เช่น หลักฐานไม่พอ หรือจำเลยไม่ผิดจริง ---------------------------------------------------------------- 4.ที่แท้..  พระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช  ก็มีการปลอมออกมาเป็นว่าเล่น  แบบนี้นี่เอง... - หนังสือเรื่อง"กรณีธรรมกาย"แสดงให้เห็นว่า "วัดธรรมกายสอนผิดไปจากพุทธเถรวาท"  ไม่ว่า "พระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช"จะปลอมหรือไม่ก็ตาม...วัดธรรมกายก็สอนผิดไปจากพุทธเถรวาท อยู่ดี ---------------------------------------------------------------- 5.การที่บางท่านเสนอความคิดว่า "ท่านเจ้าคุณ พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์  ปยุตโต)  ท่านก็เขียนหนังสือขึ้น จากข้อมูล และข่าวสาร ที่ได้รับรู้มาในขณะนั้น  ซึ่งท่านอาจจะไม่รู้ ว่าข้อมูลนั้นเป็นเรื่องเท็จทั้งหมด" - ความคิดนี้ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ เพราะ  1.เนื้อหาในหนังสือค้อนข้างรุนแรง...ถ้าหลักฐานไม่แน่นหนาจริง...พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์  ปยุตโต)คงไม่กล้าเขียน    2.หลักฐานเรื่องคำสอนที่ผิดปกติของวัดธรรมกาย นั้นมีอยู่จริง  เช่น สร้อยส้มตำปู นิพพานเป็นอัตตา พระพุทธเจ้าร่างขาวร่างดำ เป็นต้น  3.ทางลูกศิษย์วัดธรรมกายไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมทางวัดธรรมกายจึงสอนไม่ตรงกับพระไตรปิฏก ---------------------------------------------------------------- ปล.ขอโหวดให้กระทู้นี้เป็นกระทู้แนะนำครับ แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 52 01:50:53 จากคุณ : ขยันและอดทน เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 01:49:16

ความคิดเห็นที่ 49 เรียนคุณ ever rich #47 คำถามของคุณน่าสนใจมาก ผมเองก็อยากรู้ด้วยเช่นกัน มาซ่อนอยู่ในกระทู้คนละประเด็นกัน , อาจทำให้สมาชิกไม่สนใจประเด็นของคุณเข้ามาอ่าน น่าจะแตกประเด็นดีกว่า ผมขออนุญาตจัดการเอง...ครับ จากคุณ : Eikewsang เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 02:22:14

ความคิดเห็นที่ 50 เลิกทะเลาะกันได้แล้ว.. สามัคคีกันได้แล้ว.. พวกเราอาจต่างกันที่ความคิดปลีกย่อย.. แต่ก็ชาวพุทธเหมือนกัน.. ถึงเวลาแล้วหรือยัง.. ก่อนที่พวกเราจะกลายเป็นประชากรชั้น 2 ของประเทศ.. จากคุณ : disappear.. เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 10:02:46

ความคิดเห็นที่ 51 ต่อ.. จากคุณ : disappear.. เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 10:06:09

ความคิดเห็นที่ 52 ต่อ... จากคุณ : disappear.. เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 10:07:48

ความคิดเห็นที่ 53 เลิกวางอุเบกขาได้แล้ว.. ก่อนที่จะตกอยู่ในสภาพเดียวกับอดีตเมืองพุทธทั้งหลาย.. ที่ชาวพุทธกลายเป็นประชากรชั้น 2 ของประเทศ.. รู้ไหม.. ประเทศอดีตเมืองพุทธทั้งหลาย.. ชาวพุทธต้องเจออะไรบ้าง.. ? => ไม่สามารถรับราชการในตำแหน่งสำคัญได้.. เพราะเค้าสงวนไว้ให้พวกเดียวกันเอง.. หมายความว่า.. ประเทศนั้นๆตกเป็นของเค้าเบ็ดเสร็จ..!! => ชาวพุทธต้องนั่งกินข้าวกับพื้น.. นั่งเก้าอี้ไม่ได้..!! => กินน้ำอย่างอื่นไม่ได้.. กินได้แต่น้ำก๊อกเท่านั้น..!! => สิทธิประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย.. ที่สงวนไว้ให้คนที่เป็นพวกเค้าเท่านั้น.. คนพวกนี้เขาวางแผนมาดีมาก.. แทรกซึมอยู่ทั่ว.. และทำงานเป็นทีม.. กว่าพวกเราจะรู้ตัว.. ก็อย่างที่เห็นแหละ.. อย่าตกเป็นเบี้ยเป็นหมากให้เขาเดิน.. เขามองดูพวกเราทะเลาะกันเองด้วยความสมเพช.. ในด้านนึง.. สร้างความวุ่นวายให้เกิดในหมู่ชาวพุทธ.. ให้หวาดระแวงกันเอง.. อีกด้านนึง.. ขับเคลื่อนด้านกฎหมาย เศรษฐกิจ สังคม.. เพื่อให้มีผลต่อศาสนา..!! สุดท้ายเป็นไฟล์เสียง.. คำบรรยาย.. ไป Download มาฟังกันนะ.. เตือนเท่านี้แหละ.. ถ้ายังไม่เลิกทะเลาะกันเอง.. อะไรจะเกิด.. มันก็ต้องเกิด.. !! http://www.sendspace.com/file/8wn92y จากคุณ : disappear.. เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 11:25:51

ความคิดเห็นที่ 54 ตอบ คห. 39 เกี๊ยวหมี่แห้ง - เอาเป็นว่าผมลบข้อความนั้นออกให้แล้วกันนะครับถ้าคำพูดที่ใช้เป็นภาษาที่รุนแรงและคุณไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าว  ผมก็ขอโทษคุณด้วย มีประสบการณ์ตรงกับกรณีประเด็นนี้หลายอย่างตั้งแต่เด็ก โดยตรง กับครอบครัว  และ รับรู้เรื่องที่เกิดภายในหมู่สงฆ์ในวงกว้าง ซึ่งส่งให้เห็นถึงความอันตรายของเรื่องที่เกิดขึ้นต่อสังคม  จึงตัดสินใจแจ้งลบ อย่างไรก็ตามจุดยืนผมชัดเจน  ไม่มีวันเปลี่ยน ขออนุโมทนากับ จขกท. ขอบคุณในความหวังดีของเจ้าของกระทู้อีกครั้งครับ  ที่นำเอาประเด็นนี้มาโพสเพื่อความเจริญยั่งยืนของพระศาสนา แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 52 11:45:18 จากคุณ : Gurebu เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 11:43:31

ความคิดเห็นที่ 55 ตอบ คคห.54 คุณ Gurebu ขอบคุณครับที่ช่วยแก้ไขลบข้อกล่าวหาที่ว่าผมเป็น"สมุนธรรมกาย"ที่มอบมาให้ตรงนี้ด้วยครับ เอาเป็นว่า ไม่มีติดใจซึ่งกันและกันแล้วครับ สำหรับเรื่องแจ้งลบก็ช่างหัวมันเหอะครับ ผมรับได้ ขอบคุณอีกทีครับ จากคุณ : เกี๊ยวหมี่แห้ง เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 11:55:47

ความคิดเห็นที่ 56 สามัคคีคือพลัง ชาวพุทธ มาร่วมกันร้องเพลงนี้กันดีกว่าครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : กรรไกรรัตนะ เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 15:59:12

ความคิดเห็นที่ 57 ถึงคห.50-53 ถ้าท่านคิดว่า..การนำเสนอข้อมูลแบบนี้เป็น"การทำร้ายศาสนาพุทธ"ละก็ ถ้า..ชาวพุทธด้วยกันทำผิด ก็ไม่ต้องตักเตือน...อย่างนั้นหรือ? ถ้า..พระที่ทำผิดวินัยสงฆ์ ก็ไม่ต้องปรับอาบัติ...อย่างนั้นหรือ? จุดประสงค์ของการนำเสนอข้อมูลแบบนี้ เป็นการรักษาศาสนา ไม่ใช่ทำลายศาสนา เป็นการบอกให้คนรู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด ถูกยังไงและผิดยังไง..ไม่ได้กล่าวหาลอยๆ แบบไร้หลักฐานซักหน่อย การปล่อยให้พระธรรมถูกบิดเบือน การสนับสนุนให้บิดเบือนพระธรรมต่างหากที่เป็น"การทำร้ายศาสนาพุทธ" ---------------------------------------------------------------- ปล.โปรดใช้ปัญญาพิจารณา อย่าใช้แต่ศรัทธาเชื่ออย่างเดียว สิ่งที่ผมเขียนอาจจะผิดก็ได้ ขอให้ศึกษาพระไตรปิฏกคู่ไปด้วย ว่าศาสนาพุทธนั้นสอนอะไร และมีจุดหมายคืออะไร จากคุณ : ขยันและอดทน เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 18:20:46

ความคิดเห็นที่ 58 วันนี้ยอมรับกันเถอะว่ามหาเถรสมาคมล้มเหลวเพราะสิ่งที่เห็นคือความยิ่งใหญ่ของยานอวกาศที่ใหญ่โตขึ้นทุกวัน จากคุณ : บ้านน้ำ (บ้านน้ำ) เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 20:57:44

ความคิดเห็นที่ 59 ทีจริงธรรมกายก็มีลูกศิษย์ลูกหามาก น่าจะถกในข้อธรรม ได้ชัดเจนนะครับ ลองถกกันเป็นข้อๆ ไป อย่าพึ่งไปสนว่า ธรรมกาย หรือ ไม่ธรรมกาย เอาข้อธรรมเป็นข้อๆ เป็นที่ตั้ง อย่า ใช้อารมภ์ใส่กัน ก็ได้ปัญญากันทั้งสองฝั่ง จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 22:24:51

ความคิดเห็นที่ 60 และถ้าทางธรรมกายเอง ตอบข้อธรรม ต่างๆได้หมด คิดว่าคงไม่มีใครสงสัย หรือด่าทอธรรมกายอีกแน่นอน เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีครับ แต่ถ้าตอบไม่ได้ก็ต้องพิจารณาว่าฝั่งตรงข้ามนั้นพูดถูกหรือไม่ เพราะถ้าเค้าพูดถูก ก็แสดงว่าเค้ามาช่วยดึงท่านออกจากเส้นทางที่ผิด  ได้กับได้ ไม่ว่าจะเลือกทางไหน ดีออก จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 22:27:06

ความคิดเห็นที่ 61 พิมพ์ซ้ำ ลบทิ้ง ^^ แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 52 22:27:57 จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 22:27:21

ความคิดเห็นที่ 62 ต้น(ไม้)............มีพิษ ผล.....ก็ย่อม.....มีพิษ จากคุณ : Eikewsang เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 00:47:07

ความคิดเห็นที่ 63 ตอบ คุณเกี๊ยวหมี่แห้ง  คห55 ขอบคุณครับ  และสวัสดีปีใหม่เพื่อนสหธรรมิกทุกท่าน ขอให้ทุกท่าน เจริญในธรรม หมั่นสร้างเหตุปัจจัยเพื่อนำพาเราไปสู่ทางแห่งพระรัตนตรัยที่ประกอบพร้อมด้วยศรัทธา สัมมาทิฏฐิ และปัญญา ขอสัมมาทิฏฐิ ในคำสอนของพระพุทธองค์จงบังเกิดแก่ทุกท่าน  สำหรับท่านที่ยังเป็นมิจฉาทิฏฐิโดยไม่รู้ตัวก็ขอได้สร้างเหตุและปัจจัยเพื่อเปลี่ยนกลับมาเป็นสัมมาทิฏฐิด้วย - เรื่องนี้จักทำได้ถ้ารู้จักเปิดใจ และใช้โยนิโสมนสิการ ผ่านทางพระไตรปิฎกโดยตรง รวมถึง คำสอนของครูบาอาจารย์ทั้งหลายนอกเหนือจากคำสอนของกลุ่มที่เป็นประเด็น อย่าได้ยึดติดอยู่สำนักเดียว   อย่าได้ยึดติดอยู่กับภาพอลังการ ความประทับใจที่ตนเห็นเพราะภาพที่ท่านเห็นเกิดจาก  ความพยายาม กับการคิดวางแผนเป็นระบบเพื่อจะสร้างอาณาจักรขึ้นมาโดยผ่านการวางแผนอย่างแยบคายมานับสิบปีแล้ว ผู้ไม่ได้ใช้โยนิโสมนสิการ หรือผู้ไม่ได้ศึกษาพระธรรมอย่างถี่ถ้วนจะตกหลุมได้ง่าย  ...  แน่นอนบุญย่อมเกิดขึ้นกับคนที่มีจิตเป็นกุศล  แม้เขาจะพลาดไปอยู่ในสำนักที่เป็นประเด็นอยู่ ...  แต่เขาย่อมไปได้ไม่ถึงที่สุดแห่งทุกข์  ... เพราะคำสอนทั้งหลายที่นั่นล้วนสอนให้ยึดติด  อยากได้สวรรค์ก็ต้องแลกมาด้วยบุญ  อยากไปดุสิตบุรีก็แลกมาด้วยบุญ  อยากได้เครื่องประดับไก่ย่าง ... ก็ต้องถวายไก่ย่าง ...  กระทั่งนิพพานเอง ท่านจะพบด้วยความอยากอันเกิดจากโลภะได้อย่างไร สำนักนี้ไม่ได้สอนให้ลด ละ เลิก กิเลส แต่กลับสอนให้คนพอกพูนกิเลสหนักกว่าเดิม ... โลภะ โทสะ โมหะ ... หากธรรมะเป็นของจริงท่านย่อมสามารถประกาศให้ผู้อื่นทราบได้โดยไม่มีข้อกังขา  เพราะพระธรรมของพระพุทธเจ้า งดงามในเบื้องต้น  งดงามในท่ามกลาง  และ งดงามในที่สุด   แล้วไฉนคำสอนหลายอย่าง (แม้ไม่ใช่ทุกอย่างเพราะเรื่องพื้นฐานก็มีส่วนถูกอยู่ เช่น การรักษาศีล) ของสำนักนี้จึงเป็นที่กังขา  เป็นที่ไม่ยอมรับ  และไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำต่อสาธารณชน  เช่น เรื่องนิพพาน ลองเปิดใจอย่างเป็นกลางอ่านบทความ คำสอนของครูบาอาจารย์อื่นบ้าง   ท่านจะเริ่มเห็นได้ว่าอะไรคือแก่นของพระพุทธศาสนา  อะไรคือของแปลกปลอม .... ด้วยความสัตย์จริง  ผมเชื่อว่าเหตุปัจจัยทั้งหลายย่อมนำพาเราไปสู่สิ่งที่เป็นไปตามเวลาอันสมควร  ดังนั้นสัมมาทิฏฐิจึงสำคัญยิ่งนัก ชีวิตและเวลาของเราแต่ละคนน้อยนัก ลองลดความยึดมั่นดูมั้ยครับ? เปิดใจรับคำสอนที่แท้จากพระพุทธองค์ผ่านทางพระไตรปิฎก  เปิดกว้างตนเองต่อคำสอนจากหลายแหล่ง แล้วลองให้สติที่มีความเป็นกลางพิจารณาดูอย่างถี่ถ้วน  ผมเชื่อว่าเมื่อท่านทำด้วยโยนิโสมนสิการเช่นนี้แล้ว ก็จักเกิด สัมมาทิฏฐิ และมีความเห็นอันถูกต้อง ด้วยท่าทีที่ถูกต้องครับ อนุโมทนา จขกท. อีกหนึ่งครั้งครับ   ขอให้ทุกท่านได้เดินในทางที่ตรง  ทางสายเอก  ทางที่พระพุทธเจ้าทรงประทานไว้ให้ ด้วย สัมมาทิฏฐิ  ด้วยสติ  ด้วยสัมปชัญญะ  ด้วยโยนิโสมนสิการ  และ ด้วยปัญญา สวัสดีปีใหม่ 2553 ครับ :) แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 11:50:10 จากคุณ : Gurebu เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 11:48:38

ความคิดเห็นที่ 64 น้องนัทกลายเป็นหมี่เกี๊ยวแล้วววววววว... ดูดีกว่าเยอะ... จากคุณ : Muyan เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 11:49:53

ความคิดเห็นที่ 65 อืมมม...อันนี้เรียกว่า "ธรรมมะกายครูเสด" รึเปล่าฮะ... จากคุณ : Muyan เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 11:52:51

ความคิดเห็นที่ 66 พึ่งเห็น พึ่งได้อ่านเรื่อง แม่ชีปัดระเบิด - -" เคลียร์ข้อกังขา แล้วครับ จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 14:01:32

ความคิดเห็นที่ 67 ดูก่อน.. Yaoharee ชาวพุทธไม่แตะต้องเรื่องศาสนาคุณ.. ใยคุณต้องเข้ามายุ่งย่ามศาสนาพุทธด้วย.. ถ้าอะไรมันจะดี จะชั่ว อะไรมันจะถูก จะผิด.. ขอให้ชาวพุทธเค้าจัดการกันเองจะดีไหม..? มันก็คงไม่ต่างจากการที่ศาสนาคุณ.. พยายามต่อสู้มาตลอด เพื่อเรียกร้องให้มีการจัดการเรื่องของศาสนาคุณ ด้วยพวกคุณเอง.. ไม่อยากให้ใครมายุ่งย่าม.. ตั้งแต่ยกประเด็น.. ถกประเด็น.. ดำเนินการจัดการอะไรใดใด.. ดูก่อน.. Yaoharee หากอยากสนใจศาสนาพุทธ.. ท่านควรทิ้งศาสดาของท่านเสีย.. แล้วปาวารนาตนเป็นพุทธมามกะตลอดชีวิตเสียก่อน.. เราชาวพุทธจึงคู่ควรที่จะตอบประเด็นของท่าน.. ดูก่อน.. Yaoharee หากอยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของชาวพุทธ.. ท่านควรทิ้งศาสดาของท่านเสีย.. แล้วปาวารนาตนเป็นพุทธมามกะตลอดชีวิตเสียก่อน.. เราชาวพุทธจึงคู่ควรที่จะตอบประเด็นของท่าน.. และอยากจะเตือนชาวพุทธแท้ๆเอาไว้.. ระวังอย่าตกเป็นเบื้ยเป็นหมากให้ศาสนิกอื่นเขาเชิด.. ทีเรื่องศาสนาของเขา.. เขาพอใจไหม.. ถ้าศาสนิกอื่นจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว.. ? คำตอบก็ชัดอยู่แล้ว.. ที่เขาพยายามผลักดันกฎหมายดังกล่าวออกมา.. เตือนได้แค่นี้แหละ.. อยากให้พวกเราชาวพุทธไปศึกษาดูความเป็นไปของประเทศอินเดีย.. หลังจากเป็นอดีตเมืองพุทธ แล้วเป็นอย่างไร.. ? แล้วอินโดนีเซีย.. อดีตเมืองพุทธ.. ต้องเป็นอย่างไรบ้าง..? ยังมีอีกมากมาย.. ศึกษาข้อมูลให้ลึกก่อน.. ดูให้ชัดว่าเขาต้องการอะไร.. แล้วค่อยมาทะเลาะกันเอง.. หากอยากทะเลาะกันเอง.. ยังมีเวลาอีกเยอะ.. แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 20:56:58 แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 20:55:38 จากคุณ : disappear.. เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 20:55:06

ความคิดเห็นที่ 68 #67 ที่พยามสร้างกระแส ให้คนพุทธเห็นมุสลิมเป็นศัตรูนี่ครับ เห็นไปโพสเอกสารสร้างกระแสหลายกระทู้ละ^^ จะดูว่ายุ่งอย่างไร ต้องดูว่า เค้ามาแตะแบบไหน มาแตะทักทายหรือมาเหยียบ แตะอย่างผมแตะอย่างทักทายลองหามาสักกระทู้ที่ผม  หรือ สักโพสก็พอ ที่ไม่ได้แตะแบบทักทายหรือตอบอะไรที่เป็นการเหยียบย่ำพุทธ แตะแบบทักทายเพราะคนบ้านเดียวกันสังคมเดียวกันผิดอย่างไร? แต่แตะแบบคุณ ที่คุณแตะอิสลาม เรียกว่าแตะแบบเหยียบหน้า แถมรุมหาเพื่อนมาเหยียบหน้ามุสลิมอีก ก็ตรองดูว่าใคร ควรพิจารณาตัวเอง แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 21:56:08 แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 21:54:26 แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 21:34:55 แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 21:32:24 แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 21:29:57 แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 21:29:22 จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 21:29:11

ความคิดเห็นที่ 69 #67 เจตนาสร้าง ศาสนานิยมแบ่งแยกแบบนี้ เจตนาอะไรครับ จะทำร้ายคนต่างศาสนิกให้สิ้นใช้หรือไม่ ผมไม่เห็นข้อธรรมอะไรที่คุณนำมาตอบกระทู้ให้เจริญปัญญาเลย ตอบคำถามด้วยครับว่าเจตนาทำแบบนี้เพื่ออะไร จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 21:33:21

ความคิดเห็นที่ 70 #67 คุณเป็นใครว่าผมไม่มีสิทธิ ศึกษาธรรมอันเป็นของพระพุทธเจ้าครับ มีสิทธิอะไรมาอ้างว้า ต้องบวชเป็นพระถึงศึกษาธรรมของพระพุทธเจ้าได้ครับ ธรรมของพระพุทธเจ้านั้นต้อง มีทะเบียนบ้านศาสนาพุทธหรือบวชเป็นพระหรือครับ ถึงจะใช้ได้ ไม่งั้นแล้วใช้แล้วจะร้อน จะไม่สบาย ทำไมถึงไม่ยินดีว่าผู้สนใจในธรรมของพระพุทธเจ้าแม้จะเพียงหลักชีวิตเบื้องต้น แต่เอามาอ้างว่า ต้องละทิ้งศาสนา แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 21:41:55 จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 21:41:33

ความคิดเห็นที่ 71 #67 ผมยินดีอย่างยิ่งเลยครับ ถ้ามีคนจะสอบถามเรื่องอิสลามอย่างใจเป็นกลาง สอบถามในข้อธรรมไม่ใช่ศรัทธา หรือ เข้ามาเพื่อเหยียบศรัทธา ถามสิครับ อยากรุ้อะไรถ้าตอบได้ก็จะตอบ ถ้าตอบไมไ่ด้ก็ให้ท่านอื่นตอบ ยินดีครับ ผมเองก็มีเรื่องต้องถามผู้รู้ศาสนาผมอีกเยอะ เพียงแต่มีเรื่องให้ถามน้อยกว่า เพราะมีประเด็นน้อยกว่า ถ้าอยากรุ้ก็ถามมาครับ ยินดี แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 21:46:57 จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 21:46:11

ความคิดเห็นที่ 72 #67 แต่คุณตอบให้ได้ก็พอ ว่าเจตนาของคุณที่ทำแบบนี้ คืออะไร ทั้งที่ผมก็เสวนากับพุทธะ ท่านอืี่นไม่มีปัญหา จะมีบ้างก็สองประเภท พวกอกุศลจิต กับ คนเข้าใจผิด ตอบคำถามมาครับ หรือให้ผมไปเปิดประเด็นใหม่ให้เลย แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 21:52:19 จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 21:47:49

ความคิดเห็นที่ 73 จัดให้เลย ^^ จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 22:03:28

ความคิดเห็นที่ 74 ดูก่อน.. Yaoharee ความจริงคืออย่างไร.. ไม่มีใครกลบได้.. แม้จะใช้คำสวยหรูดูดีมากมายมาเรียงถ้อยร้อยความอย่างไรก็ตาม.. #71.. "ถ้ามีคนจะสอบถามเรื่องอิสลามอย่างใจเป็นกลาง" ในกรณีของชาวพุทธแท้ๆนั้น.. คงไม่มีสนใจศาสนาของคุณหรอก.. หยุดเข้าใจผิดเสียที.. ยกเว้นพุทธแต่ในทะเบียนบ้านเท่านั้น.. หยุดเข้าใจผิดเสียที.. หยุด.. เป็นตัวสำเร็จ.. จำไว้.. เมื่อไหร่หยุดใจได้.. ก็จะรู้เรื่องราวทั้งหมด.. ลองหาเวลาทำดูนะ.. จะได้ไม่มานั่งถามบ่อยๆ.. จากคุณ : disappear.. เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 22:24:24

ความคิดเห็นที่ 75 อาการหนัก จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 22:42:03

ความคิดเห็นที่ 76 ดูก่อน.. Yaoharee หากอยากสนใจศาสนาพุทธ.. ท่านควรทิ้งศาสดาของท่านเสีย.. แล้วปาวารนาตนเป็นพุทธมามกะตลอดชีวิตเสียก่อน.. เราชาวพุทธจึงคู่ควรที่จะตอบประเด็นของท่าน.. ^ ^ ^ บร้าป่าวฟระ... ปล.ผมพุทธ จากคุณ : Muyan เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 01:12:52

ความคิดเห็นที่ 77 ดราม่าไปกันใหญ่ กระทู้หลุดประเด็น.. หนังสือเล่มนั้น ของท่านพระธรรมปิฎก ผมได้อ่านในช่วงที่บวชครับ มีการนำข้อมูลจาก หลายๆ แหล่ง รวมทั้งของธรรมกายเอง มาวิเคราะห์เทียบเคียงกับคำสอนของศาสนาพุทธเถรวาทจริงๆ ซึ่งทางธรรมกายไม่เคย ออกมาตอบในประเด็นต่างๆ ที่ขัดแย้ง อย่างชัดเจน มีแต่การอ้างว่า พระลิขิตนั้น ปลอม สมัยนั้นจากความจำผมจำได้ว่ามีถึงขั้น อ้างว่าพระลิขิตเป็นแค่การแสดงความเห็นไม่ใช่คำสั่ง ซึ้งก็ถูกครับแต่อย่างไรก็คิดเอาเองนะ... ส่วนตัวใครศรัทธาอะไร สิ่งใดก็แล้วแต่ครับ แค่อยากให้ทุกท่าน ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน เท่านั้น ... ถ้าจะมีศาสนาพุทธนิกายธรรมกาย ก้ไม่ผิดอะไร ถ้ามีคนเชื่อตามศาสดาของนิกายนั้นๆ เพราะปัจจุบัน เถรวาท กับ มหายาน ก็ต่างกันแทบจะสุดกู่แล้ว จะแยกอีกสักนิกายเป็นไรไป ถ้าสุดท้ายก็สอนให้เป็นคนดี (ถ้าเอาหลักพุทธเถรวาท แบบเนื้อแท้ไม่ใช่กระพี้ คงต้องบอกว่า ชื่อนิกายต่างๆ นั้น ก็เป็นเพียงสิ่งสมมุติ ไม่ได้มีตัวตนใดๆ เราไม่ควรไปยึดติดกับชื่อ หรือ กลุ่มความเชื่อใด  พระตถาคต สอนให้เรพิจารณาไตร่ตรองกระทั่งคำสอนของพระองค์ ยังให้คิดพิจารณาไตร่ตรองเอาเอง ไม่ให้เชื่อโดยงมงาย ธรรมะ ก้มาจากคำว่า ธรรมดา คือเป็นสิ่งพื้นๆ ที่ทุกคนเข้าใจได้ แต่ไม่พยายามเข้าใจ  เกิด ขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป สุดท้ายสรรพสิ่งก็เป็นเช่นนั้น) นอกเรื่องไปเยอะยังไงก็สวสัดีปีใหม่ครับ จากคุณ : bbee_blue เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 01:47:39

ความคิดเห็นที่ 78 นั่นซิ  มีเกิด มีแก่ มีเจ็บ มีตาย สุดท้ายก็เอาอะไรติดตัวไปไม่ได้เลย  นอกจากผลกรรมของการทำความดีเท่านั้น                  สวัสดีปีใหม่ 2553 กันทุกๆ ท่านครับ... จากคุณ : naytee เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 03:26:44

ความคิดเห็นที่ 79 ถกเถียงกัน.. มากความ.. เสียเวลา.. แกผิด.. ฉันถูก.. ไร้สาระ.. แท้จริงแล้ว.. ต่างคนต่างเดินไปหาความตายด้วยกันทั้งนั้น.. ชนะ.. ก็ตาย.. แพ้.. ก็ตาย.. ธรรมะ.. ไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยการพูดคุย.. ท่องจำ.. หยุดเป็นตัวสำเร็จ.. จบนะ.. จากคุณ : disappear.. เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 22:13:47

ความคิดเห็นที่ 80 ดูก่อน.. Yaoharee ชาวพุทธไม่แตะต้องเรื่องศาสนาคุณ.. ใยคุณต้องเข้ามายุ่งย่ามศาสนาพุทธด้วย.. แล่วๆๆๆ เวลา บางท่าน สับ ศาสนาคริสต์ ซะป่น ทำมั้ยยย ไม่ไปดู ก่อน บ้างล่ะท่าน แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 53 01:07:46 จากคุณ : nueroe เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 01:07:13

ความคิดเห็นที่ 81 แนะนำให้ฟังกันที่นี่บ้างนะครับ http://ววว.dhammathai.org/sounds/dhammapidok.php เปลียน ว เป็น w นะครับ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 53 13:54:24 จากคุณ : Retrojazz60s เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 13:49:55

ความคิดเห็นที่ 82 วัดธรรมกาย เป็นวัดในศาสนาพุทธตามกฎหมาย พระธัมมชโย เป็นนักบวช(พระ)ในศาสนาพุทธตามกฎหมาย แต่ไม่ได้เป็นวัด และ เป็นพระตามหลักพระพุทธศาสนาครับ จากคุณ : monkeygig เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 16:23:28

ความคิดเห็นที่ 83 ดูก่อน disappear.. ศาสนาพุทธ มันไม่เสื่อมง่าย ๆ หรอก ถึงแม้จะมีศาสนาอื่นมาโจมตี สาเหตุที่เสื่อม ส่วนใหญ่เกิดจาก สนิท เน่าใน อย่างเช่น เรื่องราวที่ จขกท กล่าวมา เพราะฉะนั้น ถึงแม้คุณ จะโพสรูปกล่าวหาศาสนา อื่นอย่างไรก็ตาม ก็หนีความจริงไม่พ้นว่า สนิทเน่า กองนี้มันรุนแรงยิ่งนั้น โบราณว่า ก็จะไป รบรากะคนอื่นให้ ปัดกวาด ในบ้านเราให้สะอาดก่อน หรือ คุณจะให้ผมไปสามัคคีกะ คนที่ไม่ใช้ พุทธตามหลักพระพุทธศาสนานั้นหรือ ปล ผมเป็นพุทธเต็มตัวครับ ปลล ผมได้อ่านหนังสือที่ จขกท กล่าวมาได้พอควรแล้ว แต่อยากหาเป็นเล่มๆ  มากกว่า ตอนนี้ เจอแค่ที่ห้องสมุดวัด ญาณฯ  มีโอกาสไปนั่งอ่านเป็นพัก ๆ เท่านั้น ไม่ทราบว่าผู้อื่นจะทราบว่ามีขายที่ไหนอีกไหม ปลล ผมเป็นคนกดไฟแดงรูปที่คุณdisappear.. โพสนะครับ จากคุณ : handghost เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 17:21:52

ความคิดเห็นที่ 84 ตกลงจะเอากันให้จมดินเลยหรอคะ เกลียดขนาดนั้นเลยหรอคะ แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่า เรื่องราวจริงๆเป็นยังไง แล้วที่ถูกต้องมันคืออะไรกันแน่ เพราะทุกคนก็ไม่ได้ตรัสรู้หนิ ก็ว่าตามหนังสือกันทั้งนั้น บอกตรงๆนะ เดิมทีเราเองก็เฉยๆกับวัดและไม่ได้อะไรมากมายตอนเด็กๆ ประมาณ มัธยมต้น เป็นคนธรรมดาที่ขี้เกียจมาวัด ไม่ว่าวัดไหนๆ แต่เนื่องจากน้าเราบวชที่นี่ เลยต้องจำใจมา พร้อมกับแม่ แต่เราไม่ได้สนใจอะไร มาก็มาหลับวัดร้อนมาก ตอนนั้นกำลังก่อสร้าง ช่วงนั้นมาบ้างไม่มาบ้าง จนประมาณเราอยู่ม.ปลายแม่เราเริ่มนับถือและทำบุญเยอะๆ เราเองก็เคยต่อว่าแม่ว่าทำไมทำเยอะขนาดนี้ โดยลืมไปว่าท่านหาเงินเองมีสิทธิ์ใช้ จนห้ามท่านไม่ได้และเลยต้องปล่อยวาง จนเรามาเข้ามหาวิทยาลัย แถวๆวัด และทะเลาะกับแม่ แม่จับมาอยู่วัดและได้มาอบรม ธทญ.ที่วัด (คนอาจจะมองว่าเราโดนล้างสมอง แต่ไม่ใช่หรอก เราหัวดื้อจะตาย ) เราเข้าไปอยู่ พระ เณร ทุกคนเค้าไม่ได้มีชีวิตสุขสบายเหมือนที่คุณๆคิดกันเลยนะคะ เงินที่ได้มาเอาไปก่อส้ราง + ให้ผู้ประสบภัยที่ต่างๆ หมด เราเองตอนนั้นร้องไห้อยากกลับบ้านหลายครั้ง เพราะอยู่ลำบากมาก กว่าจะได้นอนก็5 ทุ่ม ร้อนก็ร้อนไม่มีพัดลม ปักกลดนอนกับพื้นทราย แถมเราก็ไม่เห็นเค้าจะสอนให้บ่อนทำลายศาสนาตรงไหนเลย มีแต่บอกว่าอย่าให้วัดในประเทศกลายเป็นวัดร้าง ให้ช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา เราเสียใจจริงๆนะคะ จริงๆแล้วเราเป็นคนไม่ใช่คนดีหรอก เราก็ชอบเหวี่ยงด่าคนในกระทู้อื่นเพราะความเห็นต่างจากเราเหมือนกัน แต่เนื่องจากเราไม่อยากให้คนเกลียดวัดเพราะเห็นลูกศิษย์วัดทำตัวไม่ดี เลยอยากตอบดีดีในกระทู้นี้ ทุกวันนี้คนรอบข้างตัวเราก็ด่าวัดให้เราฟัง โดยที่ไม่เกรงใจเราเลย เราเองเสียใจนะคะ มันเหมือนมีคนมาด่าว่าพ่อแม่เราแต่เราทำอะไรไม่ได้เลย ปล่่อยวางกันเถอะนะคะ อย่าพยายามกระแนะกระแหน๋วัดอีกเลย เพราะเราเองก็ไม่ได้เกลียดวัดไหน ที่วัดก็เหมือนกัน ไม่ได้สอนให้เราเกลียดใครที่มาใส่ร้ายวัด อยากให้ประดองกัน  ประมาณต่างคนต่างอยู่ได้หรือเปล่า ส่วนว่าเรื่องเนื้อหาพระธรรม เราไม่ได้รู้อะไรมากมายขนาดนั้นหรอก เพราะไม่ได้ศึกษาในเชิงลึก แต่เราคิดว่า วัดก็ไม่ได้สอนให้คนกลายเป็นคนเลวหนิ มีแต่ให้คนเป็นคนดี เลิกเหล้า บุหรี่ เล่นการพนัน บวช เมื่อก่อนเราจะบอกว่าเราเลวกว่านี้อีก นี่เราดีขึ้นมาได้เพราะวัดเลยนะ ฉะนั้นเราจะบอกว่า วัดไม่ได้ทำร้ายใครหรอก อีกอย่างเราก็ไม่ได้อยากจะเถียงกับคนที่มาว่าวัดเหมือนกัน อยากปรองดองมากกว่า เพราะ เราอยู่ร่วมโลกเดียวกัน บางทีเราต้องไม่แสดงตัวมาเข้าวัดนี้เพราะไม่อยากให้คนมาด่าต่อหน้า เพราะเราจะเสียใจ พออธิบายไปเค้าก็ไม่รับฟัง ฉะนั้นให้เรื่องราวมันยุติลงเถอะค่ะ จากคุณ : dfh เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 21:33:52

ความคิดเห็นที่ 85 ^ ^ ^ ที่จริงเราไม่ต้องการจะเหยียบย่ำให้จมดินหรอกครับ ขอคัดส่วนหนึ่งมาจากหนังสือเจ้าคุณพระพรหมคุณาภรณ์นะครับ http://dhammakaya.exteen.com/20050418/entry-47 กรณีธรรมกาย ต้นเรื่อง กรณีธรรมกาย ถึงขั้นจ้วงจาบพระธรรมวินัย เมื่อ  9  วันที่ผ่านมานี้ คือวันที่ 11 มกราคม 2542  ได้มีผู้สื่อข่าว จากสื่อมวลชนต่าง ๆ มาถามปัญหา เกี่ยวกับเรื่องวัดพระธรรมกาย และมีผู้สื่อข่าวคนหนึ่งได้ถวายหนังสือ ชื่อว่า  "เจาะลึกวัดพระธรรมกาย ข้อมูลที่ไม่ เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อน ลับสุดยอด" ต่อมาได้เปิดอ่านดูบ้างบางส่วน และในตอนที่ว่าด้วยคำถามคำตอบที่น่าสน ใจ เมื่อพลิกดูผ่านๆ ไปจนจบ ปรากฏว่า 2 ข้อสุดท้ายเป็นคำถามเกี่ยวกับเรื่องนิพพานเป็นอัตตาหรืออนัตตา และ เรื่องธรรมกายในข้อเกี่ยวกับนิพพานนั้นตั้งเป็นคำถามว่า   "มีการถกเถียงกันว่า นิพพานเป็นอัตตาหรืออนัตตา ไม่ทราบจริง ๆ เป็นอย่างไร?" และข้อสุดท้ายว่า   "ธรรมกาย มีในพระไตรปิฎกหรือไม่?" สองข้อนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับหลักการ หรือหลักธรรมสำคัญ ของพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะข้อที่ว่าด้วย เรื่อง นิพพานเป็นอัตตา หรืออนัตตา เมื่ออ่านดูลักษณะการเขียนคำตอบเป็นไปในเชิงที่จะทำให้ผู้อ่านเกิดความ เข้าใจไปว่า หลักการสำคัญของพระพุทธศาสนา  โดยเฉพาะเรื่องนิพพานนั้น ไม่ชัดเจน ไม่แน่นอน ยังหาข้อสรุป ไม่ได้ เป็นเรื่องของความคิดเห็น การเขียนเช่นนี้ถือได้ว่าถึงขั้นที่จ้วงจาบต่อพระธรรมวินัย เป็นเรื่องสำคัญมาก และเป็นเอกสารซึ่งจะคงอยู่ยาวนาน อาจก่อผลกว้างไกล จึงสมควรรีบชี้แจงไว้เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูก ต้อง ต่อมาอีก  2-3  วัน ก็มีพระนำเอาหนังสือพิมพ์มติชนรายวันฉบับวันพุธ  ที่  13  มกราคม  2542  มาให้ดู   โดยเฉพาะหน้า 12 "สุขสรรค์" มีบทความเรื่อง "สายตรงจากธรรมกาย นิพพานเป็นอัตตาหรืออนัตตา"  โดย พระ สมชาย ฐานวุฑฺโฒ  บทความนี้เมื่ออ่านแล้วจะยิ่งสร้างความสับสนต่อหลักการสำคัญของพระพุทธศาสนาที่ กล่าวมานั้นยิ่งขึ้น อีก 2-3 วันต่อมาก็มีรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ มติชนรายวัน ฉบับวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2542 กล่าวถึงอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ซึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาวัดพระธรรมกาย ได้กล่าวถึง ปัญหาบางอย่างที่จะต้องแก้ไข ตอนหนึ่งได้กล่าวว่า  "เรื่องนิพพานเป็นความคิดที่หลากหลาย" การที่ท่านกล่าว อย่างนี้ จะเป็นผลจากการเผยแพร่เอกสารของวัดพระธรรมกาย หรือไม่ก็ตาม  แต่เป็นเรื่องที่ต้องเอาใจใส่อย่างยิ่ง ที่พูดนี้มิใช่จะว่ากล่าวข้าราชการผู้นั้น เพราะท่านไม่ได้ทำความผิดอะไร แต่คำพูดนั้นเท่ากับเป็นสัญญาณเตือน ภัยว่า อันตรายที่ร้ายแรงกำลังเกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนา เพราะความสับสนหรือเข้าใจผิดต่อหลักการสำคัญของ พระพุทธศาสนากำลังแผ่ขยายออกไปในหมู่ประชาชน ซึ่งจะนำไปสู่ความสั่นคลอนของพระพุทธศาสนาถึงขั้น รากฐานเลยทีเดียว   ที่จริงนั้น หลักการสำคัญของพระพุทธศาสนามีความชัดเจน แน่นอน และไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องของความ คิดเห็น แต่เป็นเรื่องของหลักฐานที่ชาวพุทธถือกันว่ามาจากพระพุทธเจ้าโดยตรง คือมาในพระไตรปิฎก และมี คัมภีร์อรรถกถาเป็นต้น อธิบายประกอบ ซึ่งชาวพุทธทุกยุคสมัย ถือว่าเป็นเนื้อเป็นตัวของพระศาสนา เป็นหลัก สำคัญที่สุด และได้เพียรพยายามอย่างยิ่งที่จะรักษาไว้ให้  แม่นยำ ด้วยการทรงจำ ศึกษาเล่าเรียน และมีการ สังคายนาเป็นงานใหญ่หลายยุคสมัยตลอดมา เมื่อมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นแก่พระศาสนา ชาวพุทธก็ควรตื่นตัวขึ้นมา ช่วยกันขจัดภัยและปกป้องรักษา พระศาสนาไว้ อย่างน้อยก็ใช้เป็นโอกาสที่จะได้ศึกษา สร้างเสริม หรือแม้แต่ชำระ     สะสางความรู้้ความเข้าใจใน พระศาสนาที่ตนนับถือ ทำความเห็นให้ถูกต้อง ให้ได้ชื่อว่าสามารถถือเอาประโยชน์จากสถานการณ์ที่ผ่านเข้ามา และผ่านพ้นปัญหาไปอย่างได้ปัญญา ในการชี้แจงต่อไปนี้ จำเป็นต้องพูดพาดพิง ถ้าข้อความที่กล่าวจะเป็นเหตุให้ท่านผู้เกี่ยวข้องไม่สบายใจ ก็ขออภัยไว้ก่อน แต่ขอให้ตั้งใจร่วมกันว่า เราจะทำการนี้เพื่อดำรงรักษาพระพุทธศาสนาให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพื่อให้พระพุทธศาสนาที่บรรพบุรุษได้รักษาสืบต่อตกทอดกันมาจนถึงเรา โดยอาศัยกำลังความ เพียรพยายาม เรี่ยวแรง ความอุตสาหะและศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง มิให้สูญเสียไป และเพื่อให้ประชาชนทั้งในบัดนี้ และเบื้องหน้า ยังสามารถได้รับประโยชน์ที่แท้จริงจากพระพุทธศาสนา คือ มุ่งเพื่อรักษาพระธรรมวินัยและ ประโยชน์สุขของประชาชน แก้ไขตัวหนาครับ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 53 23:08:26 แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 53 23:05:39 จากคุณ : handghost เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 23:05:00

ความคิดเห็นที่ 86 ธรรมกาย บวชพระฟรี หนึ่งแสนรูป ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม - 8 มีนาคม  พ.ศ. 2553 หากได้ครบตามนี้ รวมกับญาติพี่น้องของผู้บวช รวมแล้วคงเป็นล้านคนที่จะเข้ารับความเชื่อตามที่ทางธรรมกายจะถ่ายทอดออกไป  แล้วก็ขยายวงออกไปเรื่อยๆเป็นโดมิโน..........ท้ายสุดแล้ว........ไม่อยากจะคิดต่อแล้ว จากคุณ : คุณสำราญ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 23:34:18

ความคิดเห็นที่ 87 ทำไมต้องสร้างกระแส แตกแยก ระหว่าง พุทธ กับ มุสลิมด้วย มันเล่นกันแบบนี้แล้วเหรอ ทำโม๊ะชะย่ะ จากคุณ : Alien From Mars เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 14:23:55

ความคิดเห็นที่ 88 ง่วงนอน จากคุณ : Max_Man เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 21:52:17

ความคิดเห็นที่ 89 ตอนนี้วัดก็ สบายดีนี่ครับ ขยายโครงการ และผู้เข้าวัดและ สาขาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แปลกนะครับ...ว่า วัดและพระที่คุณคิดว่า "เสือม" ทำไมโตเอาโตเอา เข้ามาดูเลย ว่าทำไม อ่าน เค้ามา ฟังเค้ามาพูดน่ะ เป็นวิถีของคน ปัญญาน้อย เพราะเอาความคิดของคนอื่นมาพูด ไตรตรองจากตัวหนังสือ... ข้อเท็จจริงเกิดจากการสัมผัส และดูแบบ 360 องศาครับ... จากคุณ : FireDemon เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 09:46:35

ความคิดเห็นที่ 90 วัดที่นี่ เขาไม่จมดินเพราะ พวก "ก็อปลิ้งมาแปะ" หรอกครับ... คนที่เค้าปฏิบัติน่ะ เค้าไม่วิจารณ์กันหรอก ทางไปนิพพานน่ะมันมีหลายทาง เอาแค่ศีล5 พวกคุณก็ แหว่งรุ่งริ่ง แล้ว พูดจาส่อเสียด แดกดัน ฟังเค้ามาพูด ไม่เคยเข้าไปดูด้วยตัวเอง อยากนี้ อย่าไปวิจารณ์ ธรรมะที่ลึกกว่านี้เลย เอาไว้ รักษาศีล เจริญสมาธิ แล้วปัญญาเกิดเเล้วค่อยมาวิจารณ์ดีกว่านะ...แต่ถ้าบุคคลที่ปฏิบัติมากๆ เค้าก็จะไม่มานั่งทำวิจารณ์แบบนี้หรอก.. แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 53 21:56:01 จากคุณ : FireDemon เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 09:55:21

ความคิดเห็นที่ 91 พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์  ปยุตโต) อ่านจากมติชน และรวมรวมจากข่าวจากสื่ออื่นๆแล้วนำมาเขียน เนี่ยนะ... เพราะดูจาก ด้านบนเหมือนการ สรุปข่าว จากหนังสือพิมพ์ มิมีผิด...แต่ละหัวข้อขาดที่มาที่ไป อธิบายอะไรไม่ได้ ใครอ่านแต่หัวข้อข่าว แล้วตีความเรื่องราวได้ทั้งหมดเนี่ย น่าจะดูละครมาเยอะนะ .... ถ้าอยากจะชี้มูลนะต้องมี ใคร ชื่่อ นามสกุล ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ แรงจูงใจ ผู้เอาข่าวเอามาจากไหน ผู้ให้ข่าวพูดจริงหรือไม่ และอย่าลืมเด็ดขาดว่า "คำวิจารณ์ มิใช่คำวินิจฉัย" นะครับ ผมก็เลยคิดว่าท่าน พระธรรมปิฎกคงไม่ทำอย่างนั้น....แต่ถ้าทำ เอ่อ! ผมก็ไม่มีความเห็นครับ เชื่ออะไรๆง่ายๆอย่างนี้ก็ปิดกั้นตัวเองนะครับ...แต่ก็ช่างเถอะคงช่วยอะไรไม่ได้หรอกครับ -คุณรู้ไหมครับว่าปีที่ผ่านมา มีพิธีตักบาตร 76 จังหวัดทั่วประเทศ พระในจังหวัดต่างออกมาบิณบาตร จังหวัดละเป็นหลักพันหลักหมื่น -โครงการอบรบ คุณธรรม เยาวชน มีผู้เข้าร่วม กว่า 500000 คนทั่วประเทศ -จัดพิธี อุปสมบท 7000 รูป 7000 ตำบล บวชพร้อมกันมากที่สุด ตั้งแต่มีพุทธศาสนามา แต่มาบวชจริงๆ 10000 กว่า -กำลังจะมี บวช 100000 รูป อยู่ พระที่สึกออกมา ถ้า ถือศีล 5 กันหมด และเป็นผู้นำครับครอบครัว ผมไม่อยากจะคิดว่าดีแค่ไหน... และคงมีอีกหลายโครงการที่ดี พระมหาเถระสมาคมก็ร่วมมือ รวมทั้งทั่วสังฆมลฑล เออ! ก็แปลกนะ อาจจะมีคนที่โง่กว่า พวกคุณที่อยู่ในบอร์ด กำลังทำอะไรกันอยู่มากมาย ข้างนอก โดยมีความเจริญอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆที่ รัฐบาลไม่เข้ามาช่วยเลย เพราะ "กลัวและแสลง" กับคำว่าวัดพระธรรมกายอย่างพวกคุณอยู่.... อยากพูดอะไรก็พูดไปเถอะครับ...เพราะมันไม่มีผลอะไรหรอก.. ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นเป็นของดีจริง ผู้รู้ซึ้งในธรรมะและมีความเมตตา จะต้องเผยแผ่ธรรมะให้ได้เพื่อสืบสานพระพุทธศาสนาต่อไป ถ้ารักพุทธศาสนา และเป็นคนมีความเมตตา ก็ลงมาช่วยกัน ไม่จำกัดแนวทางครับ ขอให้ยึดมั่นใน ศีล สมาธิ ปัญญา ก็พอ เพราะพระพุทธศาสนา ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนตะวันที่มีดวงเดียว ครับ จากคุณ : FireDemon เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 10:31:18

ความคิดเห็นที่ 92 อีกอย่างพวกวิจารณ์ ว่า อัตตา อนัตตา คำว่า อัตตา หรือ อนัตตา เป็น แค่ "คำศัพท์" ในพจนานุกรม ที่ มนุษย์ตีความจากความรู้สึก ผมไม่รู้หรอกนะ ว่าท้านสุด นิพพานเป็น อัตตา หรือ อนัตตา ถ้าได้ไปก็คงจะรู้ ผู้ได้ไปเห็น อาจจะตีความออกมาเป็น ตัวหนังสือที่มีใน พจนานุกรม ที่แตกต่างกัน.. แต่ นิพพาน มีที่เดียวครับ แต่มีหลายทางไป คุณอยากไปก็ต้องปฏิบัติเอาเอง... มาวิจารณ์เรื่อยเปื่อย...เพราะ ตัวกูเป็นผู้ทรงภูมิอ่านพระไตรปิฎกมาเยอะก็ช่วยอะไรไม่ได้ ที่วัด เค้าไม่ได้เอาประเด็น อัตตา อนัตตา มาพูดหรอกไม่ใช่เป้าหมาย...รู้มากก็ไม่เกิดประโยชน์ มีแต่พวกที่คอยโจมตี เนี่ยแหละ จะเอาอะไรกันนักหนา ... อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ก็ไปนั่งสมาธิ มากๆ ตามแนวทางของคุณ สักวันก็จะเป็นนิสัยข้ามภพข้ามชาติ ติดตัวไปจะได้ไปนิพพานกันสักวัน แน่นอน...แต่ถ้าประมาทมันจะตกนรกเอา ไม่สร้างสรรค์เลย สงสัยทำงานพิสูจน์ตัวอักษร คือต้องหาที่ผิดตลอด ถึงจะมีผลงาน เฮ่อ! จากคุณ : FireDemon เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 10:49:03

ความคิดเห็นที่ 93 1.สรุปว่า..  ข้อมูลทั้งหมดนั่น เป็นเรื่องไม่จริงใช่มั๊ยครับ  เพราะผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว  เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ก็ยังสุขสบายดี   - การที่เจ้าอาวาสวัดธรรมกายยังสุขสบายดีนั้น ไม่ไ้ด้หมายความว่าสิ่งที่วัดธรรมกายทำนั้น..ถูก คนเปิดโรงเหล้าเป็นสิบๆปี...แล้วยังสุขสบายดีก็มีให้เห็น คนฆ่าสัตว์มาเป็นสิบๆปี...แล้วยังสุขสบายดีก็มีให้เห็น ที่ยังสุขสบายนั้น...อาจจะเป็นเพราะกรรมเก่า ดังนั้นการอ้างว่าเจ้าอาวาสวัดธรรมกายสอนถูก...เพราะท่านยังสุขสบายดีนั้น...ไร้เหตุผล ----------------------------------------------------------------- ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ *********************************************** แล้วแปลว่าผิดตรงไหนถ้าไม่มีการตัดสิน เค้ายกฟ้องกันไปหมดแล้วไม่รู้เรอะ ... ถ้าจับสึกได้ มหาเถรสมาคม จับสึกไปแล้ว เพราะวัดพระธรรมกายก็ยังขึ้นอยูกับมหาเถรสมาคมอยู่ ... ผมเห็นเจ้าคณะภาคที่ออกมาพูดตั้งหลายรูป ก็ยังให้การสนับโครงการของวัดอยู่ ถ้าผิดท่านไม่ปล่อยหรอก... สงสัยมหาเถรสมาคม จะโง่กว่าพวกคุณ... *********************************************** 2.วัด พระธรรมกาย ก็เจริญขึ้นทุกวันๆ มีโครงการตักบาตร  บวชพระ  ออกมามากมายหลายโครงการ  เป็นที่ยอมรับจากวัดต่างๆ ทั่วประเทศ  และได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี - การที่วัดธรรมกายเจริญขึ้นทุกวัน...ก็ไม่ได้หมายความว่าวัดธรรมกาย...ดี ถ้าสิ่งไหนเจริญขึ้นทุกวันหมายความว่าสิงนั้นดี...pub bar ลานเบียร์มันก็ต้องดีด้วย...เพราะpub barก็เจริญขึ้น มีจำนวนร้านมากขึ้นทุกวันเหมือนกัน การที่ทางวัดธรรมกายมีโครงการที่ดีต่างๆ...ก็ไม่ได้หมายความว่าวัดธรรมกายสอนถูกเช่นกัน บริษัทเหล้าบางยี้ห้อก็มีกิจกรรมเพื่อชุมชนเช่นกัน..แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทเหล่านั้นดี --------------------------------------------------------------- ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ *********************************************** เเล้วมันแปลว่าไม่ดีเหรอครับ สงสัยคนเป็นแสน จะโง่กว่าคุณเหมือนกัน เรื่องอย่างนี้คนหมู่มากเข้าตัดสินเองครับว่า อะไรดีกับชีวิตเขาหรือเปล่า...ยกตัวอย่างวัดที่อบรบคนมากมายขนาดนี้หน่อยสิครับ...ผมไม่เห็นนะ ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ดีจากการอบรมนี้เยอะมาก ไม่เห็นอะไรมันจะไม่ดีเลย คุณเคยมาวัด หรือเปล่ามาจับผิดวัดข้างในด้วยกันดีกว่า ยินดีพาไปเป็นไกด์เลยจะได้รู้และจะได้มาช่วยแก้ต่างให้ .... อย่ายกตัวอย่างเรื่องเหล้าเลยนะ ไม่เห็นจะเกี่ยวเลยครับ...คุณกินเหล้าหรือเปล่า ผมถือศีล 5 ก็เพราะวัดนี้นะครับ *********************************************** 3.แถมหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่เคยลงข่าวโจมตี  ก็ออกมาขอโทษซะอีกแหนะ  นี่ก็แสดงว่า  ข้อมูลทั้งหมดนั่น  ไม่เป็นความจริงเรยสินะ - การที่หนังสือพิมพ์มาขอโทษนั้น...เกิดได้จากหลายกรณี เช่น หลักฐานไม่พอ หรือจำเลยไม่ผิดจริง ---------------------------------------------------------------- ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ *********************************************** ก็หาหลักฐานไม่ได้ก็เลยไม่ผิดสิครับ เออแปลกนะครับ เป็นสิบปีแล้วยังหาหลักฐานไม่ได้ ทำไมไม่คิดว่าไม่มีบ้างล่ะครับ แต่ถ้าอยากช่วยหาผมยินดีพาไปทุกที่ของวัดเลย เข้าไปค้นดู พานักข่าวมาด้วย ไม่กลัวเลย กลัวไม่มามากกว่า เค้าไม่ห้ามใครอยู่แล้ว แฝงตัวมาเป็นนักสืบก็ได้ *********************************************** 4.ที่แท้..  พระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช  ก็มีการปลอมออกมาเป็นว่าเล่น  แบบนี้นี่เอง... - หนังสือเรื่อง"กรณีธรรมกาย"แสดงให้เห็นว่า "วัดธรรมกายสอนผิดไปจากพุทธเถรวาท" ไม่ว่า "พระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช"จะปลอมหรือไม่ก็ตาม...วัดธรรมกายก็สอนผิดไปจากพุทธเถรวาท อยู่ดี ---------------------------------------------------------------- ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ *********************************************** ตอบไปแล้วครับ ก็ให้มหาเถรสมาคม ที่ดูแลกฏระเบียบของคณะสงฆ์เค้า จัดการสิครับ คุณไปเกี่ยวอะไรด้วย....หรือคุณอยากบอกว่าพระผู้ทรงคุณวุฒิทั้งคณะ โง่กว่าคุณ!!!! *********************************************** 5.การที่บางท่านเสนอความคิดว่า "ท่านเจ้าคุณ พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์  ปยุตโต)  ท่านก็เขียนหนังสือขึ้น จากข้อมูล และข่าวสาร ที่ได้รับรู้มาในขณะนั้น  ซึ่งท่านอาจจะไม่รู้ ว่าข้อมูลนั้นเป็นเรื่องเท็จทั้งหมด" - ความคิดนี้ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ เพราะ 1.เนื้อหาในหนังสือค้อนข้างรุนแรง...ถ้าหลักฐานไม่แน่นหนาจริง...พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์  ปยุตโต)คงไม่กล้าเขียน   2.หลักฐานเรื่องคำสอนที่ผิดปกติของวัดธรรมกาย นั้นมีอยู่จริง เช่น สร้อยส้มตำปู นิพพานเป็นอัตตา พระพุทธเจ้าร่างขาวร่างดำ เป็นต้น 3.ทางลูกศิษย์วัดธรรมกายไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมทางวัดธรรมกายจึงสอนไม่ตรงกับพระไตรปิฏก ---------------------------------------------------------------- ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ *********************************************** เรื่องพระธรรมปิฎก (ประยุทธ์  ปยุตโต) ผมตอบไปแล้วที่กระทู้ด้านบน ไปดูได้ ส่วนข้ออื่นๆ 1.ผมก็ไม่เข้าใจท่านเล้ยยย..จริงๆว่าอ่านจากหนังสือพิมพ์มติชน เเล้วเอามเขียนเนี่ยนะ (ข้อความอ้างอิงจากเจ้าของกระทู้) เหมือนการรายงานข่าวมากว่า สำนวนยกมาทั้งดุ้น...ผมก็หวังว่าคงไม่ใช่ท่านเรียบเรียงหรอกนะ 2.เรื่อง อัตตา อนัตตา อธิบายไปแล้วด้านบน ^^ ... เรื่องอื่นๆถ้าคุณอ่านพระไตยปิฎกมากพอ ก็จะเห็น พุทธอภินิหาร มากมาย และรวมถึงสิ่งที่ไม่ได้เขียนไว้ด้วย ... แต่อย่าไปยึดติดเรื่องที่คุณถามเลยครับ ที่นั้นเค้าไม่เน้นหรอกครับ...ถ้าไม่เชื่อไม่ละเอียดก็ข้ามเรื่องนี้ไปเลย...แต่อย่าเอาสมองที่หล่อเลี้ยงด้วยเลือดเนื้อหยาบๆ ไปคิดตามภาวะวิสัยของตัวเอง คุณเชื่อหรือเปล่าล่ะ ว่าพระพุทธเจ้า ประสูติแล้วเดินได้ 7 ก้าว เชื่อไหมว่า พระพุทธเจ้าเหาะขึ้นไปบนสวรรค์ เชื่อไหม ว่าพระอรหันต์หลายรูปเหาะได้ หรือมีหูทิพย์ ตาทิพย์ ... เพราะฉะนั้นอย่าไปวิจารณ์อะไรที่ภาวะวิสัยเราคิดไม่ออกเลย...ไม่ได้ประโยชน์ เอาไว้ใจละเอียดจากการประพฤติปฏิบัติมากๆ แล้วจะเข้าใจเอง รวมถึงไม่ยึดติดด้วย 3.สอนอะไร ไม่ตรงพระไตรปิฎก บ้าง ครับ ที่วัดก็สอน แต่ เรื่อง ทาน ศีล ภาวนา / ศีล สมาธิ ปัญญา / สอนเรื่อง มงคลชีวิต 38 ประการ / สอน เรื่อง อิทธิบาท 4 อริยสัจ 4 ฯลฯ / สอน เรื่อง หลายเรื่องตามพระไตรปิฏกทุกอย่าง ผมมีหนังสือและ สื่อที่เป็นเสียง มากมาย ยินดี ให้ฟรี / ส่วนเรื่องสมาธินั้น ผมก็ว่า เป็นแค่ กสิณ อันหนึ่ง คุณ อยาก จะ อานาปาณสติ คุณอยากจะ ไปแนวไหน ใครจะไปว่าอะไร ... อีกอย่างนะ เค้าคิดไปไกลกว่านั้นอีกนะ คือส่งคนไปหาพระไตรปิฎก นิกายต่างๆ เพื่อเอามาวิเคราะห์ เปรียบเทียบด้วย เรียกว่าตรวจสอบตัวเองตลอด มีพระที่ไปได้ ดอกเตอร์ที่ญี่ปุ่นสาขา พุทธศาสตร์ที่มหาลัยโตเกียว และ มีทีมรวบรวมพระไตรปิฎกจากจีน ที่ถือว่าเป็นพระไตรปิฏหที่เก่าแก่ที่สุดอยู่ เพราะพระศาสนา มันต้องเป็นหนึ่ง ไม่ใช่แตกแยกกันแบบนี้ ... ไม่รู้อะไรก็อย่าพูดดีกว่า เค้าน่ะทำมากกว่าที่คุณคิด วิจารณ์มันง่ายเนอะ แต่นี่มันที่สาธารณะ ไม่รู้อะไร ก็อย่าพูดหรือแสดง ความคิดเห็นเหมือนว่า "ตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของความคิดมวลมนุษย์" อยากเป็นคนมีตรรกะมากๆ ก็มาพิสูจน์สิ (ด้วยตัวเองนะ) อนุโมทนา แล้วกัน *********************************************** ผมก็ขอโหวตให้กระทู้นี้เป็นกระทู้แนะนำเเล้วกัน.... จากคุณ : FireDemon เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 11:42:31