ความคิดเห็นที่ 1 ประวัติพระธาตุ จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 00:01:09

ความคิดเห็นที่ 2 คำพยากรณ์ของหลวงปู่มั่น ว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นศูนย์อบรมกรรมฐานของโลก จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 00:05:00

ความคิดเห็นที่ 3 พระธาตุโลหิต ที่รู้ข่าวชุดแรกสุด ภาพนี้ถ่ายไว้ตั้งแต่ท่านพระอาจารย์โอภาส นำมาที่วัดเขาสุกิม ปัจจุบันไม่สามารถถ่ายใหม่ได้เพราะท่านได้นำบรรจุลงเจดีย์แก้ว พร้อมกับปิดกาวอีพ๊อกซี่กันขโมยเรียบร้อยแล้ว จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 00:12:58

ความคิดเห็นที่ 4 ที่รู้ข่าวว่าแปรสภาพเป็นพระธาตุต่อมาคือ ของท่านพระจารย์นรินทร์ รวินโท จ.มุกดาหาร จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 00:14:38

ความคิดเห็นที่ 5 ต่อมาได้ข่าวของ พระวิมลชัย วัดเขาสุกิม ซึ่งท่านเล่าว่า ทีแรกโลหิตหลวงปู่ที่ได้เก็บบูชาไว้เป็นสีดำ ต่อมาเริ่มเป็นสีขาว ๆ นึกว่าขึ้นรา เพราะที่วัดนั้นชื้นมาก ต่อมาจึงทราบว่าแปรสภาพเป็นพระธาตุสีส้ม คล้าย ๆพลอยดิบ องค์เล็ก ๆ แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 02:21:21 จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 00:18:11

ความคิดเห็นที่ 6 ปี ๒๕๕๒ นี้ ข่าวพระธาตุของหลวงปู่ร่ำลือในหมู่ลูกศิษย์มากขึ้น เนื่องจาก โลหิต เกสา เล็บ หนัง ของหลวงปู่ ที่พระอาจารย์วิสุทธิ์ วิสุทฺโธ ได้เก็บไว้นั้น แปรสภาพเป็นพระธาตุ มีหลายสัณฐาน(ลักษณะ) และพรรณะ (สีสัน)      โดยพระธาตุชุดที่เห็นนี้ ท่านได้รับมาจากพระอาจารย์ไพศาล อภิวิสาโล ซึ่งเป็นพระที่อุปัฏฐากหลวงปู่อย่างใกล้ชิด  และมีประวัติพอสมควร คือย้อนไปเมื่อปี ๒๕๔๘ ที่วัดเขาจันทา ที่พระอาจารย์วิสุทธิ์เป็นเจ้าอาวาสอยู่นั้น มีการหล่อพระ ท่านจึงได้นำแผ่นทองมาให้หลวงปู่อธิษฐาน เพื่อนำไปหล่อพระ แต่เมื่อถึงกำหนดวันหล่อพระจริง  ๆ หลวงปู่ได้ถามพระอุปัฏฐากว่า วันนี้มีหล่อพระไม่ใช่เหรอ ท่านบอกว่าท่านจะไป พระอุปัฏฐากจึงได้เตรียมตัวกันอย่างโกลาหล เพราะ ไม่คิดว่าหลวงปู่จะไป เพราะช่วงนั้นท่านป่วยหนัก ครั้งนั้นนับเป็นงานหล่อพระครั้งสุดท้ายในชีวิตของท่าน     วันนั้นเองที่พระอุปัฏฐากได้นำตลับซึ่งในนั้นมี โลหิต  เกสา  เล็บ หนัง ของหลวงปู่ ถวายให้พระอาจารย์วิสุทธิ์ เก็บไว้บูชา ต่อมาจึงได้แปรสภาพเป็นพระธาตุ ดังที่ปรากฎในรูปนี้ จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 00:27:24

ความคิดเห็นที่ 7 พระธาตุชุดนี้ มีลักษณะสีดำล้วน ๆ จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 00:29:04

ความคิดเห็นที่ 8 อนุโมทนา และขอบคุณครับ เป็นอีกหนึ่งหลักฐานว่า พระอรหันต์มีจริงนะครับ ปล.กระทู้แรกของปี และ give แรกของปีเช่นกันครับ 555+ จากคุณ : ever rich เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 00:30:54

ความคิดเห็นที่ 9 พระธาตุชุดนี้ แปรสภาพจากโลหิตหลวงปู่ ซึ่งท่านอาจารย์วิสุทธิ์ ได้มาจากพระณัฏฐ์นันท์ จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 00:31:13

ความคิดเห็นที่ 10 พระธาตุชุดนี้ แปรสภาพจากผ้าก๊อซโลหิตหลวงปู่ ซึ่งท่านอาจารย์วิสุทธิ์ ได้มาจากพระณัฏฐ์นันท์ องค์เดิม แต่แปลกที่ว่ามีโลหิตเกิดขึ้นได้ภายใต้ใยผ้ามากมาย ซึ่งมองจากลักษณะการเกิดขึ้นนั้น ซึ่งภาพนี้ได้นำมาขยายให้เห็นชัดเจน แสดงถึง การแปรสภาพออกมาจากภายในผ้าก๊อซแน่นอน เพราะไม่มีเค้าหรือร่องรอยให้เห็นว่ามีการยัดเข้าไปเลย ส่วนภาพเล็กเป็นภาพเดิม ๆ ไม่ได้ขยาย จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 00:36:17

ความคิดเห็นที่ 11 ภาพนี้ประวัติยาวหน่อยนะครับ คือนายเพชรกองทองนี้ เป็นโยมอยู่ที่วัดเขาชำปรง ซึ่งเป็นสาขาของวัดเขาสุกิม คือวัดเขาสุกิม วัดเขาชำปรง วัดเขาจันทานี้อยู่ใกล้ ๆ กัน พระอาจารย์บุญรัง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดเขาชำปรง ได้ชวนโยมเพชรไปที่วัดเขาจันทา เพื่อไปดูพระธาตุของหลวงปู่ แต่เมื่อโยมเพชรไปดูแล้วกลับไม่เชื่อ หาว่าพระอ.วิสุทธิ์อยากโปรโมต ตัวเอง เพื่อต้องการได้ชื่อเสียงและลาภสักการะ พระอ.บุญรัง และโยมเพชร จึงได้ถกกันอยู่พักใหญ่ พอดีโยมเพชรนึกขึ้นมาได้ว่า เอ้อ..ผมก็มีเกศาและโลหิตของหลวงปู่เหมือนกัน พระครูบาจ๊อด(สุวพันธ์)ให้ไว้ ผมจะไปดูของผม ถ้าของผมเป็นพระธาตุผมถึงจะเชื่อ เมื่อนายเพชรไปดู จึงได้พบว่าเกิดพระธาตุขึ้นในผอบมากมาย ยังความปิติยินดีศรัทธาให้เกิดขึ้น ในใจมากมาย ซึ่งผู้เขียนได้ไปสอบถามได้ความว่าภายในผอบที่พระครูบาสุวพันธ์ให้นายเพชรไปนั้น ประกอบไปด้วย เกสาประมาณ ๑๐ เส้น  เล็บประมาณ ๑ องค์ และมีโลหิตหลวงปู่ จำนวนหนึ่งซึ่งไม่มาก ซึ่งทีแรกผู้เขียนได้ไปถามนายเพชรว่าก่อนแปรสภาพเป็นพระธาตุนั้นมีอะไรบ้าง แกก็ตอบไม่ได้ ว่ามีอะไรบ้าง เพราะไม่เคยสนใจเลย ได้มาก็เก็บไว้ที่หิ้งพระอย่างเดียว รู้แต่ว่าเป็นเกสาหลวงปู่ เท่านั้นเอง ปัจจุบันก็ยังงงกันไม่หายว่า เกสา เพียง ๑๐ เส้น โลหิตนิดหน่อย สามารถแปร สภาพเป็นพระธาตุมากขนาดนี้ได้ยังไง จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 00:49:10

ความคิดเห็นที่ 12 ส่วนนี้เกิดขึ้นในผอบของโยมเพชรเหมือนกัน ทีแรกพิจารณาว่าน่าจะเป็นข้าวก้นบาตร แต่ได้ถามพระที่ท่านได้ให้มา ท่านบอกว่า ในผอบที่ให้ไปนั้น ไม่มีข้าวก้นบาตรมีแต่เล็บท่าน และคงจะมีเพียงชิ้นเดียว จึงสันนิษฐานว่าเป็นพระธาตุที่เกิดจากเล็บ แต่ทุกวันนี้ก็ยังสงสัยว่า เล็บชิ้นเดียวแปรสภาพ เป็นกลุ่มแบบนี้ได้ยังไง จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 00:53:05

ความคิดเห็นที่ 13 พระธาตุหลวงปู่ชุดนี้ แรกเดิมที คุณละมัยพิมพ์ยาง เป็นพนักงานขับรถของวัดเขาสุกิม ในช่วงที่หลวงปู่เข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธนั้น แกก็อยู่กับหลวงปู่ประจำตลอดระยะเวลาถึง ๕ ปี ในช่วงที่หลวงปู่ก่อนจะทำการผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจนั้น ประมาณปี ๒๕๔๕ ช่วงนั้นมีการเจาะเลือดบ่อยมาก แกจึงได้ขอโลหิตหลวงปู่จากพระอุปัฏฐากมาบูชา โดยเก็บไว้รวมกับถุงซึ่งใส่พระจนลืมไปเลย ไม่เคยนำมาดูเกือบ ๗ ปีได้ เมื่อได้ข่าวว่าโลหิตหลวงปู่เริ่มแปรสภาพเป็นพระธาตุแล้ว จึงได้ค้นหาอยู่หลายวัน จึงได้พบว่าอยู่ที่ถุงห่อพระ  เมื่อเปิดดูจึงได้รู้ว่าโลหิตหลวงปู่ได้แปรสภาพ เป็นพระธาตุ ดังที่เห็นในรูปนี้ จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 00:59:15

ความคิดเห็นที่ 14 พระธาตุองค์นี้ เกิดจากแรงอธิษฐาน เนื่องจากพระครูบาเตชินท์ ได้ทราบว่า โลหิต เกศา ที่โยมเพชรเก็บไว้นั้น ได้แปรสภาพเป็นพระธาตุจำนวนมาก จึงได้ลองอธิษฐานขอพรหลวงปู่ อยากให้พระธาตุของหลวงปู่มาเพิ่มขึ้นเอง โดยมีข้อแม้ว่าจะทำงานสำคัญถวายหลวงปู่สักชิ้นหนึ่ง พระครูบาเตชินทร์ท่านมีพระธาตุอยู่แล้ว ๕ องค์ โดยได้มาจากคุณทิวา ซึ่งคุณทิวาได้มาจากพระอาจารย์วิสุทธิ์ อีกทีหนึ่ง เมื่อท่านได้อธิษฐานแล้ว หลังจากนั้นไม่กี่วันจึงได้พบว่าพระธาตุหลวงปู่มาเพิ่มจริง ๆ และลักษณะของพระธาตุนี้เมื่อนำมาขยายชัด ๆ จะเห็นลักษณะเหมือนคราบโลหิตสีม่วง ๆ เกาะอยู่ แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 02:26:02 แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 01:08:18 จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 01:05:00

ความคิดเห็นที่ 15 พระครูบาบุญฤทธิ์ ท่านได้เก็บรักษาโลหิตหลวงปู่ไว้ในหลอดแก้ว ซึ่งมองดูคล้าย ๆ จะเป็นหลอดใส่ตะกรุด ซึ่งท่านไม่เคยแกะออกดูเลย เพราะทากาวไว้แกะไม่ได้กลัวจะกระเด็นออกหมด เมื่อได้ข่าวว่าโลหิตของหลวงปู่เริ่มแปรสภาพเป็นพระธาตุแล้ว ท่านจึงนำโลหิตหลวงปู่มาดูบ้าง แต่ก็ไม่ปรากฎว่าแปรสภาพเป็นพระธาตุเหมือนคนอื่น พอดีมีการถ่ายพระธาตุหลวงปู่จึง ได้นำมาถ่ายบ้าง และเมื่อนำมาขยายดู จะเห็นเป็นพระธาตุ ลักษณะคล้ายเม็ดทราย เม็ดเล็ก ๆ สีแดง มากมาย ซึ่งเมื่อได้ไปค้นคว้าหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเพิ่มเติมจึงได้ความรู้ว่า ชิ้นส่วนของสรีระครูบาอาจารย์ที่มีอนุภาคที่เล็ก ๆ นั้น สามารถเป็นพระธาตุได้ไวกว่าชิ้นใหญ่ จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 01:17:07

ความคิดเห็นที่ 16 ภาพสุดท้ายแล้ว ภาพนี้สำคัญที่สุดครับ ผมชั่งใจอยู่นาน ถ้าไม่มีภาพนี้ผมไม่กล้าโพสต์เรื่องพระธาตุครับ จะขอเล่าประวัติย่อ ๆ ดังนี้ คือ เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. ๒๕๒๐- ๒๕๒๕ คุณโยมบุญ มติยาภักดิ์ ซึ่งมีศักดิ์ เป็นอาของหลวงปู่ ธรรมดาแกจะขึ้นไปช่วยงานที่วัดเป็นประจำ พอดีวันนั้นเป็นวัน ปลงผมพอ โยมบุญนี้ก็นั่งรอที่กุฏิหลวงปู่ เมื่อปลงผมเสร็จแล้ว พระอุปัฎฐากจะนำ เกศาของท่านเก็บไว้ แต่หลวงปู่ปรารภให้พระอุปัฏฐากมอบเกศาชุดนี้ให้กับ โยมบุญ        โยมบุญดีใจมากจึงได้นำไปเลื่ยมกรอบพลาสติกห้อยคอไว้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไม่เคยห่างตัวเลย  ต่อมาโยมบุญนี้ได้เสียชีวิตลง เกศาชุดนี้จึงได้ตกทอดมายัง พระณัฏฐ์นันท์ ซึ่งเป็นพระลูกชาย ซึ่งพระท่านก็เก็บรักษาบูชาไว้อย่างดีไม่ให้ ห่างตัวเหมือนกัน      เมื่อประมาณ ปี ๒๕๕๐ พระเณร ก็ยังดูกันอยู่ ก็เห็นเพียงเกศาที่เลี่ยมกรอบไว้เท่านั้น แต่ตกมาปีนี้ ปี ๒๕๕๑-๒๕๕๒ พบว่า เกสาได้แปรสภาพเป็นพระธาตุ ภายในกรอบ พลาสติกที่เลี่ยมไว้ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งกรอบพลาสติกนี้ไม่มีรอยเจาะรอยแกะใด ๆ ทั้งสิ้น และยังมีลักษณะการแตกลายงาซึ่งเป็นสิ่งยืนยันว่า ได้เลี่ยมมานานหลายสิบปีแล้ว แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 02:04:19 จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 01:28:41

ความคิดเห็นที่ 17 สำหรับผมนั้น เกิดที่กรุงเทพมหานคร เมืองฟ้าอมรแผ่นดินสยาม ได้มาน้อมตัวถวายเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ เมื่อปี ๒๕๔๐ จึงได้พบว่าความอัศจรรย์ของจิตหลวงปู่นั้น มีมากมายเหลือคณานับ ความเย่อหยิ่งในวิชาทางโลกนั้น ต้องมายอมสยบแทบเท้ากับวิชาทางจิต ซึ่งในหมู่ของลูกศิษย์ของหลวงปู่นั้นถึงขนาดกล่าวกันว่า ความอัศจรรย์ของจิตหลวงปู่ฯนั้น เล่ากัน ๓ วัน ๓ คืน ก็ไม่จบ สามารถฟังคร่าว ๆ ได้โดยไปตามลิ้งค์นี้ครับ http://www.watkhaosukim.com/sara/page2.html คลิ๊กฟังธรรม  คลิ๊กเรื่องปาฏิหาริย์ ต้องโหลดเอานะครับ แต่คำสอนที่ท่านเน้นหนักเสมอคือ ให้ทำทาน รักษาศีล และหมั่นภาวนา ซึ่งพระธาตุของหลวงปู่ที่นำมาแสดงนี้ เพื่อเพิ่มศรัทธาปสาทะ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าพระธาตุนั้นมีจริง ไม่ใช่สิ่งหลอกลวง เป็นสิ่งที่ควรแก่การบูชามานานแล้วตั้งแต่สมัยพุทธกาล พุทธศาสนาได้ประดิษฐานลง ณ ที่แห่งใด มักจะมีการก่อสร้างเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุควบคู่กันไปเสมอ ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย ศรีลังกา ทิเบต จีน อินโดนีเซีย พม่า ไทยฯลฯ ธัมมะ วัตถุ ขนบธรรมเนียม ประเพณีนั้น ต้องอยู่คู่กันเสมอ ไม่อย่างนั้น พระพุทธศาสนาจะตั้งอยู่ได้ไม่นาน กระบวนการที่อัฏฐิ โลหิต หรือส่วนใดของร่างกายพระอริยสงฆ์ แปรสภาพเป็นพระธาตุนั้น จะอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์นั้นผมไม่ทราบ แต่ผมทราบได้ว่าเป็นไปได้จริง เปรียบเหมือนดังที่ผมใช้คอมพิวเตอร์อยู่ตอนนี้ คอมพิวเตอร์ทำงานยังไงผมก็ไม่ทราบ แต่ผมสามารถใช้คอมพิวเตอร์ เป็นตัวแทนในการสื่อกับท่านได้ ครูบาอาจารย์ท่านสอนผมมาว่า เราอย่าเพิ่งไปด่วนสรุปอะไรง่าย ๆ ในโลกนี้ ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เรายังไม่รู้ แต่เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ทุกเรื่อง เหมือนดังที่พระพุทธองค์ท่านทรงสอนไว้ว่า "ใบไม้ทั้งป่านั้นเราไม่จำเป็นต้องเอามาทั้งหมด พระพุทธองค์ท่านทรงคัดมาแค่ใบไม้ในกำมือ" ซึ่งก็เพียงพอแล้วที่จะสอนหมู่ชนผู้มีวาสนาบารมีให้บรรลุธรรมได้ ขอให้ผู้ที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้มีความสุขตลอดปีใหม่นะครับ ขอให้รวย ๆ ๆ  ครับ จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 02:00:19

ความคิดเห็นที่ 18 สาธุ จากคุณ : RadiS เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 02:54:23

ความคิดเห็นที่ 19 สาธุ กิฟแรกของปี 53 มอบให้ทานค่ะ จากคุณ : หญ้าสีเขียว เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 04:52:14

ความคิดเห็นที่ 20 สาธุ จากคุณ : mabot เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 09:05:06

ความคิดเห็นที่ 21 หากกาย วจีกรรม มโนกรรม อันอันหนึ่งอันใดประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อองค์พ่อแม่คูจารย์ โปรดอดโทษล่วงเกินอันนั้นเถอด.. _______________________________________________________ นโมวิมุตตานัง นโมวิมุตติยา กาย  วาจา  จิต ขอน้อมถวาย บูชาต่อพระรัตนตรัยในกาลทุกเมื่อในทุกๆขณะจิตเถอด.....   พุทธังสรณังคัจฉามิ ธัมมังสรณังคัจฉามิ สังฆังสรณังคัจฉามิ แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 10:32:35 จากคุณ : Theratham เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 10:26:11

ความคิดเห็นที่ 22 สาธุค่ะ จากคุณ : smoothly เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 12:38:43

ความคิดเห็นที่ 23 ขอนอกเรื่องหน่อยครับ รูปนี้ จขกท ทำเองรึเปล่าครับ คืออยากทราบว่า Font ใน คคห 2 ชื่ออะไรครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : หวาก เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 13:01:27

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามากราบหลวงปู่สมชายและโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ กับคุณไก่แดงค่ะ อยากฟังเรื่องเกี่ยวกับหลวงปู่สมชายอีกค่ะ ดิฉันรักท่านมาก ทั้งที่แทบไม่รู้จักท่านเลย.. มีเรื่องจะเล่าให้คุณจขกท. ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ฟัง และรบกวนคุณช่วยวินิจฉัยด้วยจะเป็นพระคุณค่ะ เนื่องจากมีวันหนึ่งได้ฝันถึงหลวงปู่ เป็นฝันที่แปลกประหลาดมาก คือฝันว่าไปหาบ้านเช่ากับเพื่อนในห้องศาสนา  และได้เจอชายสองคนที่เป็นคนดูแลบ้าน (บ้านไม้ทรงโบราณ) ฉันถามเขาว่าราคาเท่าไหร่ เขาบอกราคามา 8600 คิดในใจว่าถูกมาก บ้านใหญ่มากที่จริงต้องราคาเป็นหมื่นๆ  สงสัยจะมีผีแน่ๆ ฉันก็ถามชายคนนั้นว่าบ้านนี้มีผีหรือเปล่า เขาบอกว่าผีเรอะ มีเยอะแยะ ที่ไหนก็มี ลองดูซี  ว่าแล้วก็เอามือกดหัวดิฉันอย่างแรงให้ดูที่ฝาผนัง ซึ่งเป็นความมืดและมีดวงๆ เป็นแสงเหมือนหิ่งห้อย.. พอฉันเงยหน้าขึ้น มือเขายังจับหัว แล้วเขาก็บอกว่าจะเป่ามนต์ให้ ฉันก็คิดในใจขณะนั้น(ในฝัน)  ว่าเฮ้ย..ไม่เอา กลัว ใครก็ไม่รู้ ก่อนนอนยังอ่านที่เขาว่าไม่ให้รับขันธ์  ในฝันนั้นก็เลยปฏิเสธไว้ก่อน   ก็เอามือปัดมือชายคนนั้น ปรากฏว่าเงยหน้าขึ้นกลายเป็นพระ.. พอเห็นว่าท่านเป็นพระก็ตกใจ รีบขอโทษ แล้วถามท่านว่า หนูปัดมือพระจะเป็นอะไรไหมนี่ ไม่ได้ตั้งใจค่ะ แต่กลัว ท่านก็ยิ้มอย่างใจดี โยมน่ะไม่เป็นไรอาตมาสิแย่.. แล้วจากนั้นก็จำไม่ได้ว่าคุยอะไรกับ จำได้แต่ว่าราคา 8600(กะซื้อเลขท้ายไง จำแม่น) และท่องได้แต่คำว่าวัดป่าเขาสุกิม.. เหมือนท่านบอกจำไว้นะ วัดป่าเขาสุกิม จำให้ดีนะ..เราก็ท่องๆๆๆๆๆ จนตื่น โดยที่ไม่รู้จักวัดนี้มาก่อนเลย (คงเคยผ่านหูก็นานมากกกกกกก) ตื่นมาก็รีบเข้าอากู๋เลย  ปรากฏว่ามีวัดนี้จริงๆ ชื่อวัดเขาสุกิม  อยู่ที่จันทบุรี และก็ลิ้งก์ไปจนเจอภาพหลวงปู่สมชายค่ะ ท่านรูปร่างท้วมและยิ้มอย่างใจดีมาก ท่านจริงๆ ด้วย ที่มาในฝัน และเรามันก็บุญพอจะมีแต่กรรมบังจริงๆ ล่าสุดได้แสวงหาไฟล์เสียงของท่านมาฟัง ก็ฟังออกยากสักหน่อย เพราะว่าเป็นไฟล์เก่าแก่..และก็รู้สึกว่าท่านจะดุเวลาสอนธรรม หมายถึงจริงจัง เข้มข้นมาก ไม่รู้จริงหรือเปล่า ยังไงก็ตามได้มาอ่านกระทู้ของคุณ และกราบพระธาตุของท่านหน้ากระทู้ก็รู้สึกว่าปิติมากค่ะ   ก้อกราบขอขมาท่านอีกครั้งนึงด้วย ขอโหวตให้ด้วยความขอบคุณค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 14:46:52

ความคิดเห็นที่ 25 สาธุ จากคุณ : น้ำเต้าหู้นมสด เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 15:58:09

ความคิดเห็นที่ 26 #๒๓ รูปนี้ผมเป็นคนทำเองครับ ชื่อฟอนต์ TH Charmonman ครับ ดาวน์โหลดได้ที่นี่ครับ http://www.f0nt.com/release/13-free-fonts-from-sipa/ จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 21:17:48

ความคิดเห็นที่ 27 #๒๔ เรื่องที่คุณ chaosy เล่ามา ก็แปลกดีเหมือนกันนะครับ ซึ่งเมื่อประมาณเดือนที่แล้วก็มีเหตุการณ์คล้าย ๆ อย่างนี้เกิดขึ้นเหมือนกัน ว่าง ๆ จะมาเล่าสู่กันฟัง ครับ ถ้าอยากฟังธรรมมะของหลวงปู่ให้ไปที่ คห.17 ดูนะครับ จะมี ๑. บทธัมมะของหลวงปู่ สำหรับการปฏิบัติ จะมีในเรื่อง ทาน ศีล ภาวนา ประมาณ ๕ เรื่องครับ ๒. วีดีโอประวัติของท่าน ๓. เรื่องปาฏิหาริย์ ซึ่งลูกศิษย์ของท่านคนนึงได้เล่าไว้ น่าสนใจมากครับ ซึ่งเว็ปอยู่ในระหว่างปรับปรุง อาจจะต้อง ต้อง save มาเก็บที่เครื่องก่อน จึงจะฟังได้นะครับ จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 21:33:32

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณ จขกท มากครับ Font ตัวนี้มีในเครื่องแล้ว ถึงว่าคุ้นๆ จากคุณ : หวาก เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 21:58:38

ความคิดเห็นที่ 29 ขอตอบคุณ chaosy  ถ้าชอบฟัง ผมก็ชอบเล่าครับ     แต่ถ้าอ่านแล้วไม่ค่อยรู้เรื่องก็ต้องขออภัยนะครับ เพราะไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพ เมื่อเดือนที่แล้ว คุณสุเทพ ได้ประสบกับสิ่งที่ทำให้เสียใจมากที่สุดในชีวิต คือภรรยานั้นได้เสียชีวิตลง ด้วยความรักและผูกพันธ์กันมานาน จึงสุดที่จะหักห้ามใจ ไว้ได้ จึงได้ตัดสินใจว่า จะฆ่าตัวตายตาม เมื่อคิดดังนั้นแล้ว จึงได้วางแผนการโดย จะบอกให้ลูกสาวไปใส่บาตรให้พระที่หน้าบ้าน แล้วบอกว่า ให้เตรียมอาหารไว้ จำนวน ๖ ชุด เมื่อใส่บาตรครบชุดที่ ๕ แล้ว ให้มาเรียก พ่อจะไปใส่เอง แล้วต่อจากนั้นจึงได้ซื้อลูกอมมาปั้นเป็นก้อนใหญ่ กะว่าจะกลืนเข้าลำคอให้หายใจ ไม่ออกตายตามภรรยาไป ซึ่งแผนการทั้งหมดก็ได้ดำเนินมาเป็นขั้นตอน จนถึงขั้นสุดท้าย เหลือแต่รอเวลาเท่านั้น แต่ทำไมคืนนี้มันช่างช้านัก ระหว่างรอ แกจึงเปิดคอมพ์ดูว่า งานที่ได้สั่งลูกน้องไปทำนั้นเสร็จเรียบร้อยหรือไม่ เมื่อเช็คดูแล้วก็ปรากฏว่าเสร็จเรียบร้อยดี จึงเกิดความสบายใจขึ้นมา เมื่อความสบายใจมาแทนที่แล้ว ความนึกอยากฆ่าตัวตายก็ได้หายไป อยู่ ๆ ความรู้สึกก็เปลี่ยนไปเฉยเลย จึงได้เปลี่ยนแผนใหม่ขึ้นมาทันที คิดว่าไปสงบจิตสงบใจอยู่ที่วัดดีกว่า จึงได้ ค้นหา ในกูเกิ้ล หาคำว่า สถานที่ปฏิบัติธรรม จึงได้พบถึง ๔๐ แห่ง ซึ่งมีวัดเขาสุกิมอยู่ประมาณลำดับที่ ๕ จึงได้เตรียมตัวตั้งแต่คืนนั้นเลย เตรียมเสื้อผ้า ข้าวของ พร้อมโน๊ตบุ๊คด้วย เสร็จแล้วจึงเรียก แท๊กซี่ และในระหว่างที่นั่งอยู่นั้นนึกขึ้นมาว่าลองหาสถานที่ ในกูเกิ้ลใหม่ดูที่ใกล้ ๆ ดีกว่า แต่อย่างไรก็หาไม่เจอ หรือติดต่อแต่ละวัดก็มี เหตุอันไม่เหมาะสมทุกวัดไป จึงได้ตัดสินใจมาวัดเขาสุกิมอย่างเดิม แกมาอยู่ที่วัดได้ประมาณ ๑๕ วัน เพิ่งกลับไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว บอกว่าตอนนี้ สบายใจ ที่วัดเขาสุกิมนี้พระเณรเป็นกันเองดี ไม่ถือตัวมาก และได้ฟังเรื่อง ของหลวงปู่จากคนโน้นทีคนโน้นที ก็ยิ่งเพิ่มความศรัทธามากยิ่งขึ้น แกเห็นผม สนใจทำเรื่องพระธาตุของหลวงปู่ก็เกิดความศรัทธาในองค์หลวงปู่มากยิ่งขึ้น ถึงขนาดซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ให้ ๑ เครื่อง เอาไว้สำหรับทำงานที่เป็นประโยชน์ กับทางวัด ซึ่งผมก็นับถือน้ำใจของแกมาก จึงได้นำมายกเป็นตัวอย่างบอกเล่าให้ฟัง          และมีอีกตัวอย่างที่น่าสนใจ คล้าย ๆ ของคุณ chaosy คือ ชายคนนึงวัยกลางคน ผมจำชื่อได้เคยพบกันที่วัดเขาสุกิม ช่วงที่หลวงปู่ท่านมรณภาพใหม่ ๆ  แกเล่าประวัติของแกให้ฟังดังนี้ แกเป็นคนน่าน ได้ไปทำงานที่ไต้หวัน เคยฝันเห็นพระมาหาที่หน้าต่าง ก็แปลกใจมาก ต่อมามีโอกาสได้กลับมาเมืองไทย พบรูปหลวงปู่ฯในหนังสือ   จึงระลึกได้ว่า ที่ฝันเห็นนั้น คือหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม และคิดในใจว่าต้องมาหาท่านสักครั้งหนึ่ง ต่อมาจึงมีโอกาสได้มาที่วัด ก็ได้พบหลวงปู่ ซึ่งตอนนั้นกำลังรอท่านลงมาจากกุฏิ ซึ่งในระหว่างที่หลวงปู่ เดินมานั้น ก็นั่งพนมมือไหว้เหมือนลูกศิษย์ทั่วไปที่ทำกัน หลวงปู่เห็นหน้า จึงทักแล้วจับไม้จับมือและมองเห็นนิ้วที่โดนเครื่องจักรตัดไปทั้ง ๕ นิ้วเลย หลวงปู่ท่านจึงสอบถามว่าไปโดนอะไรมาและ ได้ค่าทำขวัญเท่าไหร่ ก็ตอบไปว่า ๑ ล้าน หลวงปู่บอกว่า น่าจะได้ ซัก ๒-๓ ล้านนะ  ต่อมาไม่นาน ชายคนนั้นก็ถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ ๑         ซึ่งหลวงปู่มักจะพูดเหตุการณ์ล่วงหน้าทำนองนี้ที่เราคาดไม่ถึงบ่อย ๆ ต่อเมื่อเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแล้วจึงได้เข้าใจ ซึ่งผมได้เจอกับตัวเองได้อยู่ ในเหตุการณ์  ๒-๓ ครั้ง         มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านถามพระอุปัฏฐากว่าวันนี้วันที่เท่าไหร่ พระท่านก็ตอบว่า วันที่ ๒๙ ครับ หลวงปู่บอกว่า อื้ม....ผมนึกว่าวันที่ ๒๓ ซึ่ง ตอนนั้นผมมาวัดใหม่ ๆ ยังไม่ค่อยรู้เรื่องครับ ผลปรากฏว่า หวยออก ๒๓  หึ...หึ.... มีอยู่ครั้งหนึ่งหลวงปู่ถามหลวงพ่อองค์หนึ่งว่าอายุเท่าไหร่แล้ว  ท่านก็ตอบว่า อายุ ๕๕ หลวงปู่ก็บอกว่า ใกล้เกษียณแล้วนะ ต่อมาไม่ถึงปีพระองค์นั้นก็เป็นมะเร็งตับและได้มรณภาพลง และมีอีกมากมายครับ ซึ่งผมเคยคิดไว้ว่าน่าจะไปสอบถามประวัติ จากผู้ที่ประสบการณ์จริง  เพราะบางทีเล่าไปคนก็ไม่ค่อยเชื่อ แล้วยิ่งเวลาผ่านไป ก็ คนจะยิ่งไม่เชื่อหนักเข้าไปอีก แต่ยังไม่ได้ทำจริง ๆ จัง ๆ สักทีหนึ่งครับ เท่านี้ก่อนนะครับ ขออภัยที่มาตอบช้าไปหน่อย ประมวลเรื่องราวอยู่นานครับ เพราะเป็นเรื่องของครูบาอาจารย์ ที่ละเอียดอ่อนมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหลวงปู่ท่ายเคยอธิษฐานไว้ว่า “ขอให้ผู้ที่เคยมีบารมีร่วมกันมา  ได้กลับมาสร้างบารมีร่วมกันอีก” จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 18:54:50

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณคุณไก่แดงมากค่ะ ดีใจที่ได้ฟังเรื่องเล่าค่ะ นึกขึ้นได้ก็มาเล่าอีกนะคะ ก็จะบอกรายละเอียดเพิ่มเติมว่า เรื่องที่ฉันฝันนั้น ได้ไปเล่าให้พระอาจารย์ที่นับถือฟัง  ท่านก็บอกว่าหลวงปู่อุตส่าห์มาให้ลาภให้เงินให้ทอง แต่ฉันดันปัดออกเสีย.. (สมน้ำหน้า) ดิฉันก็เฟลนิดๆ 5555 ซื้อเลขตามที่ฝันก็ไม่ถูกหรอกค่ะ.. แต่ก็ซื้อค่ะ แต่ที่ดีใจที่สุดคือ ได้ฝันถึงพระท่านค่ะ ไม่ถูกหวยก็ไม่เป็นไร ได้ฝันถึงพระสุปฏิปันโน ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ต่อมาได้ภาพของท่านจากคุณลี่มาบูชา แถมยังได้ทราบว่าร่างท่านยังอยู่ ต่อไปก็คงได้มีโอกาสไปกราบท่านค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 11:42:48

ความคิดเห็นที่ 31 เรื่องเลขเรื่องเบอร์นี้เป็นศาสตร์ที่ยากที่จะคาดเดา และมีกฎเกณฑ์ไม่ตายตัว ผมได้เคยได้ยินเรื่องเหล่านี้บ่อย ๆ ก็น่าสนใจดีเหมือนกัน ถ้าลองฟังเรื่องปาฏิหาริย์ซึ่งโหลดได้จากลิ้งค์ที่ให้ไว้ดู แกเล่า 2 ชั่วโมง ไม่มีหยุดเลย มีแต่เรื่องน่าสนใจทั้งนั้นครับ เช่น 1. ได้เหล็กไหล ของแท้ มีคนเดียวที่ได้จากหลวงปู่ และมีปาฏิหาริย์ของเหล็กไหลมากมาย 2. ถูกหวยบ่อยมาก จนสามารถซื้อที่ได้หลายแปลง 3. โดนดักยิง แต่รอดมาได้ กระสุดไปติดที่กรอบกระจกหน้ารถ    ฯลฯ      มีหลายเรื่องครับ ซึ่งเรื่องเกี่ยวกับเลขนั้น หลวงปู่คุยหยอกเล่น แกก็สามารถตีถูกและซื้อหวยถูกอย่างต่อเนื่องถึง 12 งวด ขาดไปงวดเดียว จนสามารถเอาเงินไปซื้อที่ได้หลายแปลง       แต่สำหรับลูกศิษย์ท่านบางคน  ท่านจะเรียกเข้ามาคุยเลยว่า เราไม่มีวาสนา บารมี ไม่เคยได้ทำมา ให้เลิกซื้อหวยซะ เก็บเงินทองไว้ใช้ดีกว่า ท่านบอกตรง ๆ อย่างนี้ก็มี     ผมว่าถ้าได้ฝันถึงหลวงปู่ ทั้งที่ไม่เคยรู้จัก คงได้เคยสร้างบารมีร่วมกับท่านมาแน่นอนครับ จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 01:44:51

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณคุณไก่แดง  ที่บอกว่า "ถ้าได้ฝันถึงหลวงปู่ ทั้งที่ไม่เคยรู้จัก คงได้เคยสร้างบารมีร่วมกับท่านมาแน่นอนครับ" อันนี้คิดว่าสำคัญกว่าถูกหวยค่ะ เรื่องหวยก็รู้ว่าไม่ถูก แต่ก็สนองกิเลสค่ะ ฉันคงไม่มีดวงทางนี้เลย มีคนมาบอกเลขบ่อย ถ้าซื้อก็ไม่ถูก ถ้าไม่ซื้อก็ถูก อย่าว่าแต่หวย จับสลากยังไม่ได้เลยค่ะ 555 ก็ได้ตามหาเวบที่มีไฟล์เสียงของท่านมากมาย และได้ฟังท่านเทศน์หลายไฟล์แล้วค่ะ  โมทนาสาธุกับคุณไก่แดงอีกครั้งค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 09:49:12

ความคิดเห็นที่ 33 อนุโมทนาสาธุค่ะ ขอบคุณมากที่นำภาพและเรื่องราวดีๆ มาเล่าสู่กันฟัง ดูแล้วรู้สึกทึ่งจัง แล้วก็รู้สึกดีด้วย เป็นบุญจริงๆ ค่ะที่ได้เห็น :) จากคุณ : snoopy21 เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 16:29:11

ความคิดเห็นที่ 34 ขออนุโมทนา สาธุๆๆ จากคุณ : Hado เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 23:21:01

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ chaosy ครับ เมื่อเย็นผมได้คุยกับพระ เรื่องของคุณให้ท่านฟัง ท่านจึงบอกว่า ช่วงนี้มีคนฝันเห็นถึงหลวงปู่บ่อย ทั้งที่ไม่เคยรู้จักหลวงปู่มาก่อน เมื่อมาถึงวัดก็มาถามถึงหลวงปู่หลายคน และท่านยังเล่าให้ฟังอีก เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งช่วงนั้นหลวงปู่ท่านยังมีชีวิตอยู่ มีผู้หญิง อยู่จังหวัดตราด จะโดนข่มขืน กลัวมาก จึงตะโกน หลวงปู่ช่วยด้วย ก็ปรากฎว่า โจรคนนั้นรีบวิ่งหนีหน้าตาตื่นออกไป เหมือนเห็นอะไรน่ากลัวซักอย่าง วันหลังแม่ได้พามาทำบุญที่วัดและเล่าเรื่องนี้ให้พระฟัง ซึ่งแปลกมากเหมือนกันครับ เรื่องปาฏิหาริย์เกี่ยวกับหลวงปู่มีเยอะมากครับ ทั้งที่พิสูจน์ได้และเกินกว่าที่คนธรรมดาจะพิสูจน์ได้ แต่ผมเคยได้ฟังเทปท่านบอกว่า คนที่มีอำนาจสติมาควบคุมจิตได้อย่างแล้วนั้น หากในเมื่อจะนำอำนาจสติมาใช้ในทางฤทธิ์เดชนั้น สามารถจะกระทำได้ เช่นสามารถทำให้คนมองเห็นเป็นอะไรก็ได้ ให้มองเห็นคนกลายเป็นหมีก็ได้ เดินผ่านแล้วมองไม่เห็นตัวก็ได้ อะไรอย่างนี้เป็นต้น ท่านบอกว่าต้องบำเพ็ญเข้าไปถึงอุปจารสมาธิให้ได้ก่อน (ซึ่งอุปจาระสมาธินั้น ครูบาอาจารย์แต่ละท่าน ก็อธิบายต่างกันไป) ถ้าสนใจตามแบบขององค์หลวงปู่ก็มีในบทเทศนาตามลิ้งค์ที่ผมให้ไปนะครับ เรื่อง "คุยกับหมอประยุทธ์เรื่องสมาธิ ๓ อันดับ" จากคุณ : ไก่แดง เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 19:19:46