ความคิดเห็นที่ 1 เรามาเริ่มดูกันเรื่องล่าสุดดีกว่า นั่นคือ login แมทท์ได้ ทำการกล่าวหา Dr. Muhammad Taqi-ud-Din Al-Hilali กับ Ph.D. & Dr. Muhammad Muhsin Khan ว่า ต้องการเปลี่ยนความเข้าใจของผู้อ่าน โดยเอาอรรถาธิบายไว้ข้างหน้าแล้วเอาชื่อตัวเองไว้ข้างหลัง ดังนี้ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 21:29:29

ความคิดเห็นที่ 2 ผมจึงอยากถามว่า Dr. Muhammad Taqi-ud-Din Al-Hilali กับ Ph.D. & Dr. Muhammad Muhsin Khan ทำอย่างที่ว่านั้น เมื่อไหร่ ที่ไหน อย่างไรครับ? ขอที่มา และรูปภาพประกอบด้วย เพื่อเป็นการอ้างอิง เพราะผมไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่า login แมทท์จะนับถือหรือให้เกียรติ Dr. Muhammad Taqi-ud-Din Al-Hilali กับ Ph.D. & Dr. Muhammad Muhsin Khan หรือไม่ เพราะคนอย่าง login แมทท์นั้น แม้แต่ท่านนบี login นี้ก็โจมตีมาแล้ว หรือกุรอ่าน login นี้ก็บอกว่าผิดพลาดมาแล้ว แต่ผมแค่อยากให้ทุกคนได้เห็นว่า การกล่าวหาของ login แมทท์นั้น เป็นการกล่าวหาพล่อยๆ หรือไม่นั่นเอง ส่วนที่บอกว่า บัญญัติการขว้างด้วยหินจนตายในกรณีคนที่แต่งงานแล้วแต่ยังละเมิดประเวณีอยู่นั้นไม่ใช่หลักการอิสลาม เพราะไม่มีในกุรอ่าน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ น่าประหลาดใจอย่างยิ่ง เพราะในความเป็นจริงแล้ว กุรอ่านได้บอกเราดังนี้ครับ "ดัง ที่เราได้ส่งร่อ ซูลผู้หนึ่ง  จากพวกเจ้าเองมาในหมู่พวกเจ้า ซึ่งเขาจะอ่านบรรดาโองการของเราให้พวกเจ้าฟัง และจะทำให้พวกเจ้าสะอาดบริสุทธิ์ และจะสอนคัมภีร์ และความรู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติให้แก่พวกเจ้า และจะสอนพวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าไม่เคยรู้มาก่อน" (กุรอาน 2:151) ทำให้เราทราบว่า ท่านนบีนั้นไม่ได้สอนเฉพาะกุรอ่านครับ แต่สอนเกี่ยวกับข้อปฏิบัติให้พวกเราด้วย และสอนสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน ดังนั้นแล้ว ฮะดีษจึงเป็นสิ่งที่เราจะสามารถหาความรู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติเหล่านั้นได้ และเป็นสิ่งที่กุรอ่านบอกอยู่ก่อนแล้วด้วยว่า นบีจะสอนกุรอ่าน และขอปฏิบัติอื่นๆ อีก และส่วนนึงจากข้อปฏิบัติเหล่านั้นที่ท่านนบีสอนเรานอกจากกุรอ่านก็คือการลงโทษประหารที่นักวิชาการได้อรรถาธิบายไว้แล้วนั่นเองล่ะครับ แล้วจะมาบอกว่านี่เป็นการบิดเบือนกุรอ่านหรือต่อเติมกุรอ่านได้อย่าง ในเมื่อกุรอ่านก็บอกแล้วว่า นบีจะสอนข้อปฏิบัติด้วย ไม่ใช่กุรอ่านอย่างเดียว ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ไม่มีในกุรอ่านแต่เป็นบัญญัตินั่นคือ เวลา ทั้ง 5 ของการละหมาดนั่นเอง กุรอ่านไม่ได้บอกจำนวนเวลาละหมาดมาว่า 5 6 7 8 9 ซึ่งเราทราบได้จากฮะดีษ หรือการละหมาด นั้น แต่ละเวลา มีจำนวนรอกาอัต หรือรอบครั้งในการ ยืน ก้ม กราบ นั่ง ไม่เท่ากัน และกุรอ่านก้ไม่ได้บอกไว้ว่า จำนวนเท่าไหร่ เรารับรู้ได้จาก การที่ท่านนบีสอนเราซึ่งบันทึกไว้ในฮะดีษ ดังนั้น การอ้างว่าบทลงโทษด้วยการปาหินเป็นการต่อเติมกุรอ่าน เพราะกุรอ่านไม่ได้บัญญัติบทลงโทษนี้ไว้ จึงเป็นการกล่าวอ้างที่ไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิงนะครับ และเราสามารถเห็นได้ชัดจากทั้งฮะดีษ และกุรอ่าน เหมือนการละหมาดนั่นแหละ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 21:38:56

ความคิดเห็นที่ 3 ต่อมาเรื่องการกล่าวหา สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ว่าไม่ยอมแปลบางประโยคในโองการที่  25:68 ซึ่งในความจริงแล้วก็ไม่ใช่อีก เพราะจริงๆ แล้วทีมงานที่ทำเว็บไซต์ พิมพ์ตกครับ ผมจึงอยากให้แสดงด้วยว่า  มาคมนักเรียนเก่าอาหรับไม่ยอมแปลอย่างไร ขอที่มาด้วย ว่าเล่มไหน เวอร์ชั่นไหนครับ? ส่วนที่เป็นเว็บไซต์นั้นทางผู้จัดทำเขาก็แจ้งชื่อ และบอกแล้วนะครับว่า ไปเอาข้อมูลมาจากสมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ไม่ใช่สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับมาแปลลงเว็บเอง ดังนั้นเมื่อมีการกล่าวหาว่า สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับละเว้นไม่กล่าวถึงบางประโยคในโองการ 25:68 แถมยังบอกว่ามีหลายเวอร์ชั่นอีกด้วย ก็ขอแหล่งอ้างอิงด้วย หรือจะยอมรับว่า ตัวเอง มั่วเอง? จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 21:45:19

ความคิดเห็นที่ 4 เอาเท่านี้ก่อนนะครับ ผมอยากจะดู และให้ทุกท่านได้ดูว่า คนประเภทนี้ มีการรับผิดชอบอะไรกับคำพูดตัวเองบ้าง เพราะที่ผ่านมา http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/05/Y7896299/Y7896299.html http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/07/Y8054683/Y8054683.html http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/05/Y7858640/Y7858640.html http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/04/Y7794379/Y7794379.html http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/04/Y7711101/Y7711101.html http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/04/Y7806659/Y7806659.html http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/06/Y7977963/Y7977963.html http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/02/Y7541721/Y7541721.html http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/02/Y7497398/Y7497398.html http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2008/12/Y7312016/Y7312016.html http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2008/12/Y7289891/Y7289891.html http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/01/Y7478463/Y7478463.html http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/11/Y8607066/Y8607066.html http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/11/Y8606149/Y8606149.html http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/10/Y8451016/Y8451016.html http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/11/Y8521431/Y8521431.html http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y8657211/Y8657211.html http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y8813031/Y8813031.html ก็ชอบหนี ไปตั้งกระทู้ใหม่อยู่เสมอ ตั้งแต่เรื่องละหมาดมาแล้ว ที่ล่าสุดก็ตั้งหัวเรื่องว่าละหมาดแต่เข้าไปดันไม่ตอบเรื่องละหมาด แต่ไปกล่าวหาโจมตีฮะดีษแทน ซึ่งก็ไม่ได้มีสาระอีกเช่นกัน ดังนั้น ถ้า login นี้ยังไม่มีความรับผิดชอบ แล้วจะสนทนาวิชาการได้อย่างไร เพราะสนทนาไปก็ไม่จบ ไม่เด็ดขาดซะที เอาแต่เลี่ยงตลอด ผมจะรอดูนะครับ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 21:52:33

ความคิดเห็นที่ 5 คงต้องรอจนถึงวันตัดสิน พี่แกถึงจะตอบ ตรงประเด็นครับ จากคุณ : ghanee.s เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 12:26:47

ความคิดเห็นที่ 6 ยังมีอีกหลายเรื่องรออยู่นะครับ เอาออเดิฟไปก่อน แมทท์บอกว่า จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : วันมาฆบูชา 53 08:17:07

ความคิดเห็นที่ 7 แต่จริงๆ ในกุรอ่านเองบอกว่า อัลเลาะฮ์ตะอาลาได้ระบุไว้ในซูเราะฮ์ อัลมุซซัมมิล และการวายิบละหมาดครั้งแรกนั้น  ก็ได้ระบุไว้ในช่วงแรกของซูเราะฮ์ดังกล่าว  ซึ่งพระองค์ได้ทรงตรัสว่า  "โอ้ผู้ห่มผ้า (หมายถึงนบีมุฮัมมัดซึ่งกำลังห่มผ้า) - 1 - เจ้าจงตื่นกลางคืน(เพื่อทำละหมาด)เถิด  ยกเว้นเพียง(เวลา)เล็กน้อย (เพื่อใช้ในการพักผ่อน) - 2 - (นั่นคือ) ครึ่งคืน  หรือจงลดลงจากนั้นลงมาสักเล็กน้อย - 3 - หรือจงเพิ่งขึ้นกว่านั้นอีก  และเจ้าจงอ่านอัลกุรอานให้ถูกต้องชัดเจน - 4 - " นี่เป็นหลักฐานจากกุรอ่านชัดเจนครับว่า จงตื่นขึ้น เพื่อละหมาด ครับ ในเวลาละหมาด ของมุสลิม ที่มี 5 เวลานั้น มีเวลา 1.ซุบฮิ เช้ามืดก่อนพระอาทิตย์จะขึ้นครับ 2.ดุฮริ เวลาที่ดวงอาทิตย์คล้อยไปจากเวลาเที่ยงตรงแล้ว ซึ่งบางพื้นที่ คือเวลา เที่ยงกว่าๆ หรือบ่ายโมง 3.ฮัศริ คือเวลา บ่ายคล้อย ซึ่งจะเป็นเวลา 3-4 โมงเย็น แล้วแต่พื้นที่ และฤดูกาล 4.มัฆริบ คือเวลา พลบค่ำครับ 5.อิชา คือเวลากลางคืน แต่หลังจาก พลบค่ำเล็กน้อย ไม่ใช่กลางดึก หรือเวลาที่ตื่นขึ้นหลังจากนอนไปได้ระยะนึงแล้ว ดังนั้นคำว่าจงตื่นขึ้นเพื่อละหมาดนั้น จึงไม่ใช่ทั้ง 5 เวลา ที่มุสลิมละหมาดเป็นภาคบังคับ แต่อย่างใด แล้วแมทท์กลับบอกว่า ละหมาด 5 เวลา มีมาอยู่แล้วมีประสบการณ์แล้วหมายความว่าไง ในเมื่อ ในระยะแรกของอิสลาม ละหมาดไม่ได้มี 5 เวลา เหมือนกับที่ login แมทท์ว่า จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : วันมาฆบูชา 53 08:19:16

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วจะรับผิดชอบการโกหกนี้อย่างไร? จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : วันมาฆบูชา 53 08:19:32

ความคิดเห็นที่ 9 ประเด็นจากหัวข้อ ไม่ได้ ตามมาโต้แย้งเพราะไม่รุ้เรื่อง ดังนั้นผมไม่ขอ แทรกแซง การโต้เถียงในหัวข้อนี้ ไม่ค่อยมีเวลานานๆ ได้เข้ามาอ่าน แต่คุณ Carroth ครับ คุณจะแปล อัลกุรอานเข้าข้างตัวเองอีกนานไหมครับ ไปว่าเค้าปาวๆไม่เข้าตัวบ้างหรือครับ คุณเล่นโยง  อายะห์ กุรอาน 2:151 เข้ากับ ฮาดิษ ได้อย่างแนบเนียนจนหน้าเกลียดเลยครับ จริงอยู่นบี ท่านไม่ได้แค่ สอนอัลกุรอานอย่างเดียว สอนอย่างอื่นด้วย แล้วฮาดิษ เป็นที่บันทึก แต่มันคนละเรื่องว่า ฮาดิษจะถูกต้องเสมอ คุณจะเอาอายะห์นี้มาบอกว่า ฮาดิษคือทั้งหมดที่นบีสอนและปฏิบัติไม่ได้ เพราะฮาดิษ ก็คือ ฮาดิษ จะเอาฮาดิษ มาเป็นนบี มาเทียบเท่าอัลกุรอานอีกนานไหม ขุดทุกอายะห์ เรื่องความชอบธรรม มาปกป้องฮาดิษ จนหน้าแหกกันไปกี่รอบแล้ว   สุดท้ายก็เหลือเรื่องเดียว ไม่มีฮาดิษจะละหมาดยังงัย แค่นั้นที่คุณเหลืออยู่ สำหรับ ปกป้องแนวคิด บิดเบือนของคุณ เรื่องง่ายๆแค่นี้ ยังไม่เข้าใจ  อ่านไทยไม่เป็นไทย แล้วยังมาบิดเบือนอัลกุรอานอีก เซงจิตจริงๆ จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : วันมาฆบูชา 53 23:06:12

ความคิดเห็นที่ 10 คนเค้าก็บอกหลายที่แล้วนะครับว่า ฮะดีษเป็นทางเดียว ที่จะสืบสายไปถึงนบีได้อย่างถูกต้องที่สุด ถ้าไม่เอาทางนี้ก็เท่ากับปฏิเสธแบบอย่างนบี แล้วล่ะครับ เพราะจะบรรพบุรุษ ก้ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน เพราะฉะนั้นไม่เอาฮะดีษก็คือปฏิเสธกุรอ่านโองการที่ใช้ให้ตามนบีนั่นแหละครับ บอกไปไม่รู้กี่รอบ คุณอ่านไม่รู้เรื่องเองแล้วมาทำสู่รู้ แล้วไปยก ข้อความผมมาเลยนะครับว่าผมบอกตอนไหนว่าเอาฮะดีษเทียบเท่ากุรอ่าน? แล้บอกหน่อนซิว่า หน้าแหกตอนไหน? ขอกระทู้นั้นด้วย และความเห้นไหนครับที่ มุสลิมหน้าแหกเพราะคุยเรื่องฮะดีษ เอามาให้ดูให้ได้นะครับ เพราะผมรำคาญพวกปากพล่อยแล้วหาหลักฐานมายืนยันไม่ได้ แย่แล้วเนี่ย ตั้งแต่ login แมทท์ มายัง Yaoharee ปากพล่อยเหมือนกันหมด แต่พอถามหาที่มา ก็เงียบเอามาให้ได้นะจะรอ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 00:34:19

ความคิดเห็นที่ 11 แล้วบอกหน่อยซิ ผมอ้างกุรอ่าน ผิดตรงไหนอย่างไร? จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 00:34:56

ความคิดเห็นที่ 12 จะรอดูจุดจบคนปากพล่อย ทั้งสอง login จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 00:35:10

ความคิดเห็นที่ 13 เพราะฉะนั้นไม่เอาฮะดีษก็คือปฏิเสธกุรอ่านโองการที่ใช้ให้ตามนบีนั่นแหละครับ ............................................................................................... อายะห์ไหนครับ  เด่วก็ลากกลับไป loop เดิม แล้วก็จบที่ไม่ตาม ไม่มีฮาดิษแล้วจะละหมาดยังงัยอีก ถ้าจะพิมพ์ซ้ำ ก็อย่าเสียเวลาพิมพ์ครับ พิมพ์เยอะๆให้ดุน่าเชื่อถือไม่มีประโยชน์  อ่อ ผมไม่ค่อยว่างมาต่อความยาวนะ ช่วงนี้งานเยอะ ขอสาระ ไม่เอาการ์ตูน เพิ่มเติม ไม่อยากดูการ์ตูนรอบสอง ของ เก็บรายละเอียดมุขที่คุณจะใช้ก่อน 1. อายะห์ อัลกุรอานให้ตามนบี 2. อายะห์ เรื่องผู้รู้ 3. อายะห์ ข้างบนเนี่ยะ ว่านบีไม่ได้สอนแค่ อัลกุรอาน แต่สอนอย่างอื่นด้วย ขอสาระนะ สาระ รุ้จักไหม สาระหนะ ไม่เอา หนังวนซ้ำๆ  แบบแผ่นตกร่องแล้วนะครับเป็นการเป็นงานหน่อย แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 53 00:58:21 จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 00:53:52

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าขอสาระก็ต้องรู้จักคุยแบบคนมีปัญญานะครับ ประเภทปากพล่อยอยากกล่าวหาอะไรก็กล่าว มันพวกเกรียนครับ ไม่ใช่จะคุยวิชาการ 4 : 80. ผู้ใดเชื่อฟังร่อซูล แน่นอนเขาก็เชื่อฟังอัลลอฮฺแล้ว และผู้ใดผินหลังให้ เราก็หาได้ส่งเจ้าไปในฐานะเป็นผุ้ควบคุมพวกเขาไม่ 24 : 54. จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “พวกเจ้าจงเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮฺ และจงเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลร่อซูล  หากพวกเขาผินหลังให้  แท้จริงหน้าที่ของเขา (ร่อซูล) คือสิ่งที่ได้ถูกมอบหมาย  และหน้าที่ของพวกเจ้าคือสิ่งที่ได้ถูกมอบหมายเช่นกัน  และหากพวกเจ้าเชื่อฟังปฏิบัติตามเขาแล้ว พวกเจ้าก็จะอยู่ในทางที่ถูกต้อง (ฮิดายะฮฺ) และหน้าที่ของอัลร่อซูลไม่มีอื่นใด นอกจากการเผยแพร่อันชัดแจ้ง 4 : 64. และเรามิได้ส่งร่อซูลคนใดมานอกจากเพื่อ ให้เขาได้รับการเชื่อฟังด้วยอนุมัติ ของอัลลอฮฺเท่านั้น และแม้ว่าพวกเขานั้นขณะที่พวกเขาอธรรมแก่ตัวเอง ได้มาหาเจ้า แล้วขออภัยโทษต่ออัลออฮ์และร่อซูลก็ได้ขออภัยโทษให้แก่พวกเขาด้วยแล้วแน่นอน พวกเขาก็ย่อมพบว่าอัลลอฮฺนั้นคือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ เท่านี้ก็พอแล้วครับ ที่จะทำให้รู้ว่าเราต้องตามนบี และทางเดียวที่จะตามนบีได้ถูกต้องที่สุดคือฮะดีษครับ ถ้าละทิ้งฮะดีษก็หาแบบอย่างนบีที่ถูกต้องไม่ได้แล้วล่ะครับ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 00:59:34

ความคิดเห็นที่ 15 ก็นี่แหละครับ คำสั่งให้ตามนบี แล้วถามว่า จะปฏิเสธอย่างไร? ในเมื่อ ไม่สามารถหาสิ่งที่จะทำตามอายะห์เหล่านี้ได้ถูกต้องไปกว่าฮะดีษ? จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 01:00:34

ความคิดเห็นที่ 16 ขอเดาก่อนละกันว่า Yaharee ก็บอกว่า เรื่องเดิม ไม่อยากอ่านเหมือนเดิม แต่ก็ไม่บอกว่าจะเีถียงอย่างไรปฏิเสธอย่างไร สรุปแล้ว Yaoharee ไม่มีเหตุผลจะมาปฏิเสธฮะดีษนั่นแหละ ก็แค่มาโชว์เกรียน จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 01:02:01

ความคิดเห็นที่ 17 เพราะฉะนั้นจำไว้นะครับ ถ้าอยากจะอ้างสาระ อยากจะถามหาสาระ แต่ให้สำรวจตัวเองด้วยว่า มีสาระแค่ไหน? ไม่ใช่อีกฝ่ายมีทั้งกุรอ่าน และฮะดีษมาอ้างแต่ตัวเองไม่ได้มีสาระอะไรสักอย่าง มีเพียงแค่คำพูดพล่อยๆ คำกล่าวหาลอยๆ และคำพูดเพ้อเจ้อมา เหมือน คคหที่ 9 น่ะ มาถึงก็หาวาเอาฮะดีษเทียบเท่ากุรอ่าน แล้วหามาได้หรือยังว่ามุสลิมเอาฮะดีษเทียบเท่ากุรอ่านตอนไหน? จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 01:04:15

ความคิดเห็นที่ 18 เอ้าเร็ว สละเวลามาคุยแล้ว อย่าให้รอนาน จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 01:05:08

ความคิดเห็นที่ 19 เท่านี้ก็พอแล้วครับ ที่จะทำให้รู้ว่าเราต้องตามนบี และทางเดียวที่จะตามนบีได้ถูกต้องที่สุดคือฮะดีษครับ ถ้าละทิ้งฮะดีษก็หาแบบอย่างนบีที่ถูกต้องไม่ได้แล้วล่ะครับ --------------------------------------------------------------------- ทางเดียวที่จะตามนบีได้ถูกต้องที่สุดก็คือฮะดีษ ทางเดียวที่จะตามนบีได้ถูกต้องที่สุดก็คือฮะดีษ ทางเดียวที่จะตามนบีได้ถูกต้องที่สุดก็คือฮะดีษ ทางเดียวที่จะตามนบีได้ถูกต้องที่สุดก็คือฮะดีษ ทำไมไม่เพิ่มลงในอัลกุรอานซะเลยละครับ ประโยคนี้ จะได้สมใจเสียที ยกอายะห์ที่ให้ตามนบี  มาเป็น อายะห์ที่ให้ตามฮะดิษ เพิ่มลงไปเลยนะครับ  ในเป็น  ส่วนขยายก็ได้ เช่น (1)เนื่องจากนบีเสียชีวิตแล้วจึงใช้ฮะดิษแทนนบี เป็นต้น คงจะสมใจ จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 20:29:08

ความคิดเห็นที่ 20 สรุปว่า ไม่มีเหตุผลจะมาคุยแล้วสินะครับ มีแต่พ่นคำไร้สาระออกมาแบบนี้ เอาล่ะถ้า ไม่มีหลักฐานมารับผิดชอบความปากพล่อยของตัวเองแล้วล่ะก็ นั่งอ่านเฉยๆ ก็แล้วกันนะ เพราะพูดอะไรมาก็ไม่มีหลักการอะไรสักอย่าง จะหาเหตุผลมาปฏิเสธฮะดีษก็ไม่มีอีก หมดประเด็นแล้วสินะ และไม่จำเป็นต้องเพิ่มประโยคอะไรลงในกุรอ่านแล้วล่ะครับ เพราะกุรอ่านให้ตามนบี และทางเดียวที่ตามนบีได้ถูกต้องที่สุดคือฮะดีษ ดังนั้นจะทำตามนบีก็ต้องใช้ฮะดีษครับ ไม่ใช่บรรพบุรุษ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 20:49:38