ความคิดเห็นที่ 1 เหมือนกินผักนั่นแหละ อย่าไปหมกมุ่นหรือเจาะจงนักเลย จากคุณ : เผอิญผ่านมา เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 07:43:35

ความคิดเห็นที่ 2 ทานมังสวิรัติได้ก็ดีครับ สนับสนุนให้ทุกคนทาน แต่ทานเนื้อสัตว์ก็ไม่บาปหรอกครับ กินได้ถ้าไม่ได้ไปสั่งฆ่า หรือมีส่วนรู้เห็นเป็นใจในการฆ่า http://www.84000.org/tipitaka/book/nana.php?q=22 ที่มา อ้างอิง และแนะนำ :-          พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗          ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต          อามคันธสูตร http://www.84000.org/tipitaka/book/v.php?B=25&A=7747&Z=7809          พระไตรปิฎก เล่มที่ ๗  พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๗          จุลวรรค ภาค ๒          เรื่องวัตถุ ๕ ประการ                    พระเทวทัตทูลขอวัตถุ ๕ ประการ                    พระเทวทัตโฆษณาวัตถุ ๕ ประการ http://www.84000.org/tipitaka/book/v.php?B=7&A=3770&Z=3863          พระไตรปิฏก เล่มที่ ๕  พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๕          มหาวรรค  ภาค ๒          พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อมนุษย์ เป็นต้น http://www.84000.org/tipitaka/book/v.php?B=5&A=1372&Z=1508          เรื่องสีหะเสนาบดี http://www.84000.org/tipitaka/book/v.php?B=5&A=1924&Z=2100 แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 14:27:37 แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 14:27:11 จากคุณ : KornM เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 08:16:27

ความคิดเห็นที่ 3 แนะนำศึกษาสองสูตรนี้ครับ             ๕. ชีวกสูตร             เรื่องหมอชีวกโกมารภัจจ์             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓  บรรทัดที่ ๙๕๐ - ๑๐๔๓.  หน้าที่  ๔๒ - ๔๕. http://www.84000.org/tipitaka/book/v.php?B=13&A=950&Z=1043&pagebreak=0             ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=13&i=56             อามคันธสูตรที่ ๒             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕  บรรทัดที่ ๗๗๔๗ - ๗๘๐๙.  หน้าที่  ๓๓๙ - ๓๔๒. http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=7747&Z=7809&pagebreak=0             ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=315 จากคุณ : Kengmanny เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 08:23:40

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณครับ จากคุณ : kenjiwinness เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 08:27:48

ความคิดเห็นที่ 5 จะว่าบาปก็บาปค่ะ เพราะเป็นการทำให้เขาเสียชีวิต ถ้าว่าไม่บาปก็ได้เพราะถือว่าเขาเป็นอาหารของคนเรา เป็นวัฏจักรของชีวิตค่ะ  เขาเกิดมาเพื่อเป็นอาหาร แต่เราเกิดมาเพื่อเป็นผู้บริโภคค่ะ สำหรับหมูอ้วนว่าบาปค่ะ เพราะไม่อยากกินเนื้อใคร แต่ว่าเลี่ยงไม่ค่อยได้น่ะค่ะ....แต่จะทำบุญให้มากกว่าค่ะ ถ้าคุณทานมังสวิรัติได้ก็ดีค่ะ เป็นกุศลอย่างแรงค่ะ จากคุณ : หมูอ้วนอยากไปเที่ยว เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 08:47:14

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้ากินเนื้อแล้วบาป พระพุทธเจ้าคงอนุญาตตามคำขอของท่านเทวทัตไปแล้ว จากคุณ : ชาล้นถ้วย เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 09:24:38

ความคิดเห็นที่ 7 สมัยนี้กินผักก็เบียดเบียนสัตว์ไม่แพ้กับกินเนื้อเลยครับ กว่าจะได้ผักมากินแต่ละต้น หนอน แมลงถูกกำจัดไปมากน้อยเพียงใด การทานผัก 1 ต้นอาจทำลายชีวิตมากกว่าการทานเนื้อ 1 ชิ้นก็เป็นได้ ครูบาอาจารย์ท่านสอนไว้ว่า อาหารที่บริสุทธิ์โดย 3 ส่วน คือ ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่สงสัยว่าเขาฆ่าเพื่อเจาะจงให้เรา และได้มาด้วยความบริสุทธิ์แล้ว ก็ไม่ผิดธรรมผิดวัยแต่ประการใด จากคุณ : wasansem เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 09:46:26

ความคิดเห็นที่ 8 เบื่อพวกทิฐิมาก เที่ยวบอกกินเนื้อสัตว์บาป ๆ บลาๆ น่าจะกลับไปอ่าน ศีลข้อ ปานาติบาต ซะก่อน...... โดยเฉพาะพวกลัทธิกินเจทั้งหลาย เจอมาเยอะมาก... . . ที่จริงใครทำได้ เราก็ว่าดี อนุโมทนาบุญด้วย สำหรับคนที่กินแต่มังสวิรัติ หรือเจ ได้ตลอดชีวิต . . แต่พวกมีทิฐิมาก บางประเภท เห็นตนเองกินเจ กินมังฯ แล้วเกิดทิฐิ เที่ยวแต่มีจิตคิดมาดมุ่งว่า คนที่กินเนื้อสัตว์บาป แย่กว่าตนเอง ... อืม!! เก่งกว่าพระพุทธเจ้าซะอีก จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 10:17:19

ความคิดเห็นที่ 9 ขอใช่้ความคิดโต้แย้งหน่อยนะครับ ถ้าเราใช้เงินซื้อ เนื้อสัตว์ ... มันก็คล้ายๆกับ จ้างวานฆ่า หรือเปล่าครับ เพราะ เราไม่ได้ลงมือทำ ไม่ได้เ้ห็นตอนทำ ... แต่ จ่ายเงิน ตอนได้ผลงาน เพราะ การที่เราซื้อ ทำให้คนขายต้อง หาสินค้ามาตอบสนองตลาด ก็คือ การเลี้ยงสัตว์จำนวนมาก มา ฆ่า ... ดังนั้น การที่เรา กินเคเอฟซี ชิ้นนึง  ระบบตลาดจะเป็นการสั่งการโดนอัตโมัติว่า ต้อง  เลี้ยงไก่ เพื่อนำมาทอด อีกหนึ่งตัวเลยนะครับ ดังนั้น   ถ้าไม่ได้ฆ่า ไม่เห็นการฆ่า ... ไม่บาป   ก็แปลว่า มือปืนผิด ผู้จ้างวานไม่ผิดสิครับ   ปล. ไม่ได้ นำเสนอเพื่อ ยียวน นะครับ แต่อยากรู้ความเห็นของผู้รู้หลายๆท่าน จากคุณ : รถไฟสายใต้ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 10:21:05

ความคิดเห็นที่ 10 ขอเสนอแนะแต่เพียงว่า กระทู้แบบนี้ จะวนเวียนมาบ่อยๆ พอคุยกันเสร็จลืมๆ กันแล้ว เดี๋ยวก็จะมีคนถามเข้ามาอีก ตอบคุณ คห.9 ความรู้ที่ได้จากคนอื่นก็ดีครับ แต่จะใช้ได้เฉพาะเรื่องทางโลกเท่านั้น เรื่องนี้ฟังแล้วลองถามใจตัวเองดูว่าเชื่อหรือไม่....สังเกตุดูสิ พออ่าน คห.จะคิดตามทันที แล้วก็เริ่มเอียง ไปทางเชื่อหรือไม่เชื่อ คำถามแบบนี้ ต้องเรียนแล้วรู้เอาเองครับ รู้ด้วยใจของตัวเองเท่านั้น จากคุณ : norapob เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 10:29:44

ความคิดเห็นที่ 11 #9 เราไม่ได้ซื้อ เขาก็ฆ่าอยู่แล้วครับ คุณต้องดูว่ากรรมไหนมันเกิดก่อน ระหว่างการซื้อหรือการฆ่า การฆ่ามันเกิดขึ้นมาก่อน ถึงคุณไม่ซื้อ สัตว์ตัวนั้นก็ตายไปแล้วไม่มีวันฟื้นขึ้นมาได้ ถ้าเราไม่กิน เนื้อสัตว์ก็เหมือนท่อนไม้ไร้ค่า ไร้ประโยชน์ รอวันเน่าเปื่อยย่อยสลายกลับสู่ธาตุทั้ง 4 ไม่มีประโยชน์เลย จะมาอ้างว่าถ้าไม่ซื้อเขาก็ไม่ฆ่า มันไม่เกี่ยวกันครับ คุณไม่ซื้อคนอื่นก็ซื้อ และจุดสำคัญอยู่ที่ว่าอาชีพอื่นมีเยอะแยะทำไมเขาไม่ทำหล่ะครับ ตรงนี้เขาเลือกที่จะทำของเขาเอง ถ้าบอกว่าเพราะเขาอยากได้เงินเลยฆ่า ก็นั่นหน่ะสิ เพราะเขาโลภอยากได้เงินโดยที่ต้องทำบาป แล้วจะเกี่ยวอะไรกับเราอีก แต่ถ้าเขายังไม่ฆ่าแล้วเราไปสั่งซื้อ อันนี้ผิดศีลแน่ ๆ หรือไปสั่งจองล่วงหน้า "เฮีย พรุ่งนี้เอาไก่สองตัวน่ะ" อันนี้ก็ผิดแน่ ๆ ถ้าไม่มีขายก็ไม่ต้องซื้อ จบเรื่องของเรา บางคนอ้างว่าพระพุทธเจ้าสอนให้อยู่ง่ายกินง่าย แล้วระหว่างอาหารที่มีเนื้อสัตว์กับอาหารมังสวิรัติ อันไหนหาง่ายกว่ากัน จากคุณ : RadiS เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 11:53:54

ความคิดเห็นที่ 12 สัตว์กินพืช สัตว์กินสัตว์ มนุษย์กินพืช มนุษย์กินสัตว์ สัตว์กินมนุษย์ มันเป็นวงจรโลกหรือธรรมชาติ ถ้าไม่อยากทำบาปหรือเบียดเบียนอะไร ก็เพียรปฏิบัติไปจนกว่าจะนิพพาน โดยส่วนตัวไม่ซีเรียสหรือคิดว่าจะเป็นบาปกรรมอะไร เพราะไม่มีเจตนา 3 อย่างนั้นอยู่แล้ว ที่สำคัญเมื่อเรากินอาหารใดๆแล้ว พลังงานย่อมมี เราเอาพลังงานนั้นไปทำความดี อานิสงส์จากการทำความดีเราขอแผ่ ให้สรรพสัตว์ทั้งปวงที่ให้พลังงานเรามา ไม่ใช่ว่ากินอิ่มมีแรง แล้วเอาแรงนั้นไปฆ่าคน ไปวิ่งราว ไปทำชั่วมั่วกาม มนุษย์กินมนุษย์น่ากลัวกว่าอีก ไม่ว่าจะพฤตินัยหรือนิตินัย จากคุณ : ning JFK. เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 12:24:08

ความคิดเห็นที่ 13 พระธุดงษ์ รอนแรม มาไกลๆ สังขารใหญ่ ในมวลท้อง ร้องว่าหิว อรหันต์ นิ่งพระองค์ ทรงงามทิว ใจไม่หิว แต่สังขาร อาหารต้องเติม ตายายเห็น พระธุดงค์ ทรงกดนั่ง ก็ร้องสั่ง ว่าลูกหลาน งานต้องเพิ่ม เย็นนี้ต้อง ทำอาหาร นานกว่าเดิม ต้องทำเพิ่ม ถวายสงฆ์ ผู้ทรงธรรม เอ้าว่าเฮ้ย! เชือดไก่ หลายตัวหน่อย พระท่านคอย ท่านจะหิว ท่านจะช้ำ มีแค่ไก่ ก็แกงไก่ ให้รีบทำ ไปฟังธรรม ไปฟังเทศน์ เหตุท่านมา อาหารตก ถึงท้อง อรหันต์ มหัศจรรย์ จิตสดชื่น ฟื้นผวา สอนพระธรรม ทั้งคุญยาย ทั้งหลาน,ตา งามสง่า ก่อนเดินหาย ตามสายลม พระต้องอยู่ กินงาย ไม่หลายเลือก คนมัวเลือก อาหารหลาย หมายไม่สม สิ่งใกล้ตัว ให้พระฉันท์ กันไม่ล้ม คนจะล้ม มัวช่างเลือก เชือกตึงไป จากคุณ : ธนะรัตน์ เอ็กโซติก เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 12:52:53

ความคิดเห็นที่ 14 อาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมี5หมู่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ผัก ผลไม้ ถ้าเราขาดหมู่ใดหมู่หนึ่งก็จะเกิดโทษต่อร่างกายสุดๆมันเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตไม่บาปมีพี่สาวคนหนึ่งกินมังสวิรัสมากๆร่างกายแย่สุดๆจนหมอห้ามกินต้องกลับมากินอย่างเดิมการเดินสายกลางดีที่สุดจำเป็นกินเพื่อสุขภาพ จากคุณ : ยากัล เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 15:54:54

ความคิดเห็นที่ 15 วัวกับควายกำลังจะไปสวรรค์ ส่วนพระเณรคงตกนรกกันหมด จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 16:07:10

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องนี้ ถกกันไปได้เรื่อยๆ ไม่เว้นแม้ใน ภิกษุต่างนิกาย พูดในชมรมเจก็คงว่า 'บาป พูดห้องนี้ก็คง 'ไม่บาป เพราะเชื่อและอ้างตามพระพุทธเจ้า 1.พูดในมุมมองของฆราวาส ไม่พูดถึง กรณีพระภิกษุนะครับ กรณี 'คนกิน คนซื้อเนื้อสัตว์ครับ เสมือนdemandของตลาด คนกินมีมาก ก็มีการจัดหามาก เป็นทอดๆ ไป อาจเป็นการส่งเสริม การจัดหาโดยทางอ้อม? เช่น ประเทศ A กินเจทั้งประเทศ จำนวนสัตว์ที่ต้องตายเพราะ ถูกฆ่าเป็นอาหาร ก็น่าจะลดลงด้วยหรือไม่? 2.พระพุทธเจ้าสอนว่า (ศีลข้อ1) 'พึงเว้นจากการฆ่าสัตว์ฯ ซึ่งถ้าหากมีคนทำตามทั้งหมด ผมมองว่าจะมีคนฆ่าสัตว์ เพื่ออาหารอีกหรือ? กรณีนี้เราจึงไม่ต้องพูดถึงว่า กินเนื้อบาปหรือไม่บาป เพราะตัดเหตุ คือการฆ่าไปแล้ว และเพราะ... 3.หากแม้นมีการกินเนื้อสัตว์ นั่นย่อมเป็นไปเช่นว่า -กินเนื้อ จากสัตว์ที่ตาย โดยปราศจากการฆ่า ของมนุษย์ -กินเนื้อ ที่อาจเพาะเนื้อเยื่อเอง (อนาคตมากๆ) โดยเนื้อนั้นไม่มีจิตครอง (เช่นหนังเรื่อง The Island) 4.ที่กล่าวมา โดยเฉพาะ ข้อ2 และ3 ฟังธงเลยว่า "ไม่บาป" ในการกิน ส่วนข้อ1 เก็บเอาไว้ถกกันต่อ ได้อีกนาน ส่วน คำว่า 'จองเวรนั้น อาจมีได้เช่นสมมติตัวอย่างว่า -1. มีคน10คนเข้าป่า คนนึงยิง 'กวางจนตายเพื่อ เอามากิน โดย9คนไม่ได้ยุยงให้ฆ่า ตกดึกล้อมวงกันกินกวาง การจองเวรเริ่มขึ้นโดย วิญญาณกวางอาฆาต แบบหมู่ทั้ง 10คน (เข้าข่ายนิสัยพาลนะเนี่ย) กวางเป็นนายเวรหรือไม่? -2. ไก่โต้ง10ตัวถูกแปรรูปเป็น 'ซุปก้อน 1000ก้อน 'ซุป10ก้อนใน1000ก้อน ถูกซื้อไปใส่ในหม้อโจ๊ก คนมากิน100คน วิญญาณไก่โต้งทั้งหลาย งงจะเลือก'จองเวร ใครดี? อันนี้ ขำขำครับ ส่วน "เจ้ากรรม" ยิ่งไม่ต้องพูดถึงครับ เพราะมันคือ กฎแห่งกรรม ที่เป็น "กระบวนการความจริง ของธรรมชาติ" ที่จะสนองผลกรรมเอง 5.กินเนื้อแล้วก็ภาวนาไป ทำความดี เพื่อตัวเอง และสังคมด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 21:53:55 จากคุณ : หน้ากาก ธรรมะ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 17:50:45

ความคิดเห็นที่ 17 การไม่กินเนื้อสัตว์ ย่อมประเสริฐกว่าอยู่แล้วครับ เพราะมีเจตนาว่าจะไม่เบียดเบียน แต่ปณิธานนี้ต้องระวัง เพราะถ้าทำไม่ได้ ใจจะเศร้าหมองหนักเข้าไปอีก ผมอนุโมทนากับผู้ที่มีเจตนาดีไม่ทานเนื้อสัตว์ แต่ผมทำไม่ได้ครับ สภาพแวดล้อมไม่เหมาะให้ทำแบบนั้น และอาจจะได้ชื่อได้ว่า ผู้ที่เลี้ยงยากด้วยครับ จากคุณ : เป็ดจิ๋ว เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 19:09:17

ความคิดเห็นที่ 18 ท่านรู้รึยังครับว่าความหมายของคำว่าบาป คำว่าบุญ จริงๆแล้วมันคืออะไร ถ้าทางนิยามของพระพุทธศาสนาก็ลองไปหาดูนะครับ และมันเกี่ยวข้องกับจิตอย่างไร แล้วการกินเกี่ยวข้องกับจิตอย่างไร จะกินเนื้อหรือผักนั้นเกี่ยวข้องกับจิตอย่างไร ถ้าได้คำตอบเรื่องจิตแล้วคงย้อนไปเรื่องบาปไม่บาปได้มังครับ จากคุณ : ไข่น้อย เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 19:14:50

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่บาปค่ะถ้าสัตว์นั้นๆเกิดมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์ ถ้าสัตว์นั้นไม่ใช่เพื่อเป็นอาหารของมนุษย์แล้วทำกินก็บาปค่ะ จากคุณ : Chulapinan เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 19:17:20

ความคิดเห็นที่ 20 จะกินเจเพราะไม่อยากเบียดเบียนใคร จะกินสเต๊กชิ้นโตด้วยคำว่ากินง่ายเลี้ยงง่าย ก็คิดไว้ก่อนว่า พุทธแบ่งเป็นสี่ส่วน สองภาค สงฆ์และคราวาส อย่านำข้อปฏิบัติมาปนกัน และอาหารเป็นเพียงปัจจัยให้รักษารูปนี้ไว้ได้ ไม่ใช่สิ่งติดยึด แง่บๆ จากคุณ : itoursab เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 19:25:20

ความคิดเห็นที่ 21 ก็ ขอแชร์ หน่อย ก็แล้วกันครับ ........... ผมเอง เคยรับประทาน มังสวิรัติ... ติดต่อกัน มาเป็นเวลา 1 ปีแล้วครับ ... โดยไม่ได้ กิน ไข่ กับนมด้วยครับ ... แต่ตอนนี้ ทานเฉพาะ เช้า และกลางวัน ส่วนเย็น ก็ อาหารทะเล ... งดสัตว์ปก โดยเด็ดขาด.... เพราะว่า ไม่มีปัญญา รับประทาน อาหารมังสวิรัติ แบบ ครบ ๆ ได้ จึงทำให้ร่างกาย ขาดสารอาหาร และ ขาดภูมิต้านทานครับ ... ช่วงนั้น เลย ไม่สบายบ่อย ๆ หายยาก  พอนาน ๆ เข้าก็ ไปนอน โรงพยาบาล หลาย ๆ หน จึงคิดว่า ทำไม นะ เราเอง ก็ อุตส่าห์ ไม่สนับสนุน การฆ่าสัตว์ แล้ว ทำไม เราต้องมาป่วย ด้วย พอออกจากโรงพยาบาล มา ก็ เลย จึงจำเป็นต้องทานอาหารทะเล... เพื่อเสริมสารอาหารเพิ่ม ....ให้ครบ... ตอนแรก ก็ มีแนวคิด และทิฐิ เดียวกับ คนที่กินเจ แบบที่ บาง คห. ว่า มาเลยล่ะ ........ ถามว่า กินได้ น่ะ ดี มั๊ย (ถ้าสารอาหารครบ) ก็ดี นะ ....... เพราะโดยธรรมชาติ มนุษย์ ทางวิทยาศาสตร์ บอกว่า เป็นสัตว์กินพืช โดยอ้าง สำไส้ ที่ยาว 10 เท่า ... เหมือนกับ สัตว์ที่กินผักและผลไม้... และสัตว์ที่กินเนื้อสัตวฺ์ จะมีลำไส้ ยาว 3 เท่า ของลำตัว ........ ซึ่งก็คือ เสือ แมว หมา ... เพราะเนื้อสัตว์ เน่าเสีย ง่าย จึงต้องออกแบบ มา ให้ลำไส้ สั้น ... จะได้ถ่ายออกมาเร็ว ๆ และเนื้อสัตว์ ก็ มีความเป็นกรด มะเร็ง ชอบครับ ... เดี๋ยวนี้ คนไทย ตายด้วยโรคมะเร็ง 1 ใน 4 คนครับ .... ถ้าคุณได้เป็นมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ หมอ จะห้ามคุณรับประทานเนื้อสัตว์ ทันที ... หวังว่า คุณคงจะรู้จัก ดร.สาทิส ที่ เป็นเจ้าของหนังสือ ชีวจิต นะครับ .......... ที่เป็นมะเร็ง ระยะสุดท้าย แล้ว หายจากมะเร็งได้ น่ะ  เพราะงด เนื้อสัตว์ ประเภท สัตว์บก ครับ ...........   แต่เค้าทานอาหารทะเล .... ในแนวคิดของผมนั้น  ก็เข้าใจ นะ ว่า กินสัตว์ที่ตาย แล้ว ไม่บาป  ( จากการที่เราไม่รู้ ไม่เห็น ..... ) เพราะว่า ตอนนั้น เรามองว่า มันเป็นธาตุ ไปแล้ว นั่นเอง  เพราะว่า ถ้า เราคิดว่า บาป พืชก็ได้ปุ๋ย จากเนื้อสัตว์ที่ทับถม ลงดิน มา ก็ จะถือว่า บาป ใช่หรือไม่  นี่ แหละ ที่ผมคิดว่า เป็นที่มาของ การไม่บาป  เพราะพืช ไม่ได้ ฆ่าสัตว์เอง .... แต่สิ่งที่ผมมอง เกี่ยวกับ การไม่กินเนื้อสัตว์ นั่น คือ สุขภาพ ของเรา มากกว่าครับ ...... โดยเฉพาะ เนื้อหมู มีโปรตีน น้อยกว่า ... ไก่ และ เนื้อวัว แต่มีไขมัน ในปริมาณ ที่มาก กว่า หลายเท่า ....  (อันนี้ เห็นด้วยกับอิสลาม) และเวลาที่ เอา วัว,หมู ไปเข้าโรงฆ่า มันก็จะรู้ตัว น้ำตามันก็จะไหล ... และหลั่งสารพิษ ออกมา เวลาคนกิน ก็จะได้ สารพิษ ตรงนั้น .... สำหรับผมแล้ว ถ้ากินเนื้อสัตว์(บก) ที่ไม่ได้ฆ่าเอง ถ้าจะบาป ก็คงจะบาป กับตัวเอง มากกว่า ที่เลือกกินอาหาร ที่ไม่ใช่ธรรมชาติของมนุษย์ เท่านั้นเอง แต่เวลาอิสลาม จะฆ่าสัตว์ นำมาเป็นอาหาร เค้า ก็จะมีหลักการของเค้า ที่จะฆ่าสัตว์ ให้ตายแบบ ไม่ทรมาน ด้วย  และก็ไม่ได้ให้ฆ่า เพื่อการอื่นได้ด้วย .... ( อันนี้ ก็ รู้สึกว่า อิสลาม เค้า เข้าใจ ว่า ถ้าจะฆ่า ก็ต้องทำไปด้วยความจำเป็น ) ดังนั้น ในเรื่องของอาหาร ผมจะรู้สึกว่า อิสลาม จะเป็นธรรมชาติมากกว่า ...... เพราะยังยินยอม ให้ฆ่าสัตว์ ได้  แต่ต้องเป็นอาหารเท่านั้น.... เพราะอย่างที่ คุณ หน้ากาก ธรรมะ แสดง คห.ไว้ หาก คนทั้งประเทศ นับถือ พุทธ ถือศีล กันจริง ๆ จัง ๆ เราก็คงจะไม่ได้ กินเนื้อสัตว์ แม้แต่สัตว์อาหาร ทะเล ด้วย ........... อาหารทะเล ในมุมมองของอิสลาม นั้น เค้าไม่เข้มงวด ในเรื่องการฆ่า เพื่อมาเป็นอาหาร .... ผมจึงมองว่า อาหารทะเล น่าจะเหมาะสมมนุษย์ มากกว่า .... เพราะอิสลาม ไม่ได้ กำหนด วิธีการฆ่า ที่เข้มงวด... มากนัก ....  ( อันนี้ เป็น คห. ส่วนตัวนะครับ จากประสบ การณ์ ของตนเอง ) ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็ สุดแล้วแต่ ผู้ที่ประสงค์ จะรับประทาน อาหาร ก็แล้วกัน ครับ เพราะทาน ของไม่ดี เข้าไป ก็ จะไปสะสม ใน ร่างกายของเรา ครับ ทั้งมะเร็ง และ คลอเรสตอรอล และอื่น ๆ อีกมากมาย  หากทานเพราะรสอร่อย ... ก็จะได้ รับผลกรรม เพราะลิ้นของตนเอง อยู่ดีครับ .... อันนี้ ในกรณี ของการไม่ได้ ฆ่าสัตว์ เอง นั้น  สำหรับบาป ที่เกิดกับสัตว์ที่เรากิน นั้น ไม่น่าที่จะมีครับ ตามพระไตรปิฎก แต่ บาป สำหรับ เรา ที่รับ เอา อาหารที่ไม่ถูกต้องตามธรรมชาติ ของร่างกายเรา นั้น ก็ ลองพิจารณา กันเอง ก็แล้วกัน ครับ .... เอาเป็นว่า บาป โดยทางตรง ที่ กินเนื้อสัตว์ ที่ไม่ได้ยิน ไม่ได้ เห็น ... คงจะไม่มี  แต่ว่า บาปที่จะได้ กับตัวเอง ก็น่าจะเป็น อาหารที่ไม่เหมาะสมกับ ความเป็นมนุษย์ มากกว่าครับ เอาเป็นว่ากิน ....อะไร ........ ก็ .......... ได้ อย่างนั้น ครับ .......... ปล. แต่ก็แปลก ที่พระมหายาน และ พระเซน ฉัน แต่อาหารเจ ......... อาจจะเป็นเพราะ พระมหายาน อนุญาต ให้หุง หา อาหาร เอง ได้ กระมัง จึง ทำให้ต้องฉันอาหารเจ เพราะท่าน ต้องไม่ ฆ่าสัตว์ อยู่แล้ว ... น่ะ ... ส่วนพระเถรวาท ใส่อะไร ก็ต้องฉันหมด เพราะไม่ได้หุงหา เอง .. ต้องรอ ฆราวาส มาใส่ให้ ดังนั้น .... พระพุทธเจ้า จึงประสงค์ ให้ เป็นผู้เลี้ยงง่าย ด้วยเหตุ ฉะนี้... แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 19:53:45 จากคุณ : trialuck เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 19:45:14

ความคิดเห็นที่ 22 ขอนำคำเทศน์ บางส่วน ของสมเด็จพระสังฆราช ใน หลักพระพุทธศาสนา เรื่อง ปกติภาพ - ปกติสุข ความดังนี้ "  มีปัญหาที่ถกเถียงกันอยู่มิใช่น้อยว่า พระพุทธเจ้าทรงห้ามมิให้ฆ่าสัตว์ แต่ทำไม่จึงไม่ทรงห้ามการบริโภคเนื้อสัตว์ เมื่อบริโภคเนื้อสัตว์ได้ก็ต้องมีการฆ่าสัตว์ ไม่เป็นอันอำนวยให้ฆ่าสัตว์โดยอ้อมหรือ ในการเฉลยปัญหานี้ ควรแสดงข้อที่เป็นมูลฐานก่อนว่า การทำอะไรแก่สัตว์ที่ตายแล้ว จะบริโภคก็ตาม จะนำไปเผาไปฝังก็ตาม ไม่เป็นปาณาติบาตคือฆ่าสัตว์ เพราะไม่เป็นการทำร้ายแก่ร่างที่ปราศจากชีวิตแล้วไม่มีภาวะเป็นสัตว์มีชีวิตเหลืออยู่ เมื่อได้ความจริงชัดเจนดังนี้แล้ว จึงมาถึงปัญหาว่าถึงไม่เป็นปาณาติบาตแต่ก็ควรบริโภคหรือไม่ ปัญหานี้ตอบตามพระวินัยว่า พระพุทธเจ้าทรงห้ามมิให้ภิกษุบริโภคอุทิสสมังสะ แปลว่าเนื้อเจาะจง คือเนื้อที่เขาฆ่าเจาะจงเพื่อปรุงอาหารถวายพระภิกษุ เมื่อภิกษุได้เห็น ได้ยิน หรือรังเกียจสงสัยว่าเป็นเนื้อเช่นนั้น ห้ามมิให้ฉัน ทรงอนุญาตให้ฉันได้แต่ปวัตตมังสะ แปลว่าเนื้อที่เป็นไปทั่วไป คือเนื้อที่เขาทำไว้สำหรับคนทั่วไปบริโภค ถึงภิกษุจะฉันหรือไม่ฉันเขาก็ทำบริโภคกัน แม้เช่นนั้นก็ทรงอนุญาตให้ฉันได้แต่เนื้อสุก ไม่ให้ฉันเนื้อดิบ เป็นอันห้ามตลอดถึงกะปิดิบ น้ำปลาดิบ (ผู้รู้วินัยเมื่อจะใช้กะปิหรือน้ำปลาดิบ ประกอบอาหารเพื่อพระภิกษุจึงทำให้สุกก่อน) และทรงห้ามมิให้ฉันเนื้อ ๑๐ จำพวกที่ชาวโลกเขารังเกียจกัน คือเนื้อมนุษย์  เนื้อช้าง  เนื้อม้า  เนื้อสุนัข  เนื้องู  เนื้อสีหะ  เนื้อเสือโคร่ง  เนื้อเสือเหลือง  เนื้อหมี  เนื้อเสือดาว การที่ทรงห้ามอุทิสสมังสะเป็นอันตัดทางมิให้อำนวยปาณาติบาต " ผู้สนใจในศีลข้อที่ 1 สามารถอ่านเพิ่มเติมใน blog ของผมได้ใน เบญจศีล - เบญจธรรม คู่ที่ 1 ครับ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=visutthisiri&date=12-03-2010&group=9&gblog=3 จากคุณ : sirivajj เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 23:22:19

ความคิดเห็นที่ 23 เพิ่มเติม :-              พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔              มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์              สัพพาสวสังวรสูตร ว่าด้วยการสังวรในอาสวะทั้งปวง                      ว่าด้วยละอาสวะได้เพราะการพิจารณาเสพ http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=12&A=238&w=พิจารณาโดยแยบคายแล้ว#14top      แนะนำ :-              อ่านและค้นพระไตรปิฎก ๔๕ เล่ม              อรรถกถาชาดกทั้งหมด ๕๔๗ เรื่อง              พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์              พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/              พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม                สารบัญประเภทธรรม http://84000.org/tipitaka/dic/d_type_index.php?                                หมวดหนังสือธรรมะ http://84000.org/tipitaka/book/              เรื่อง ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html              เรื่อง สิ่งที่เป็นมงคล (มงคล ๓๘) http://84000.org/tipitaka/book/bookpn06.html              เรื่อง ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก http://84000.org/tipitaka/book/bookpn01.html                      เรื่อง                           ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก                           การใช้ทรัพย์ ๕ ประการ                           มหาทาน                           ทานของสัตบุรุษนัยที่ ๑                           ทานของสัตบุรุษนัยที่ ๒                           กาลทาน ๕ อย่าง                           ให้ทานในที่ใดมีผลมาก                           ทานที่เจาะจงและไม่เจาะจง ๒๑ ประเภท                           สังฆทาน ๗ ประเภท                           ถวายภิกษุรูปเดียว ก็เป็นสังฆทาน                           ทัททัลลวิมาน-แสดงอานิสงส์ของสังฆทาน                                       เรื่องเศรษฐีเท้าแมว                           ความบริสุทธิ์แห่งทักษิณาทาน ๔                           อานิสงส์ของทาน ๕ อย่าง                           ทานที่มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก ๖                           ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก ๑ http://84000.org/tipitaka/book/bookpn01.html จากคุณ : ฐานาฐานะ เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 13:40:44

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าเพื่อน จขกท. ไม่กินเนื้อสัตว์ ตามนิกายเซน ผมก็ไม่แปลกใจเท่าไรครับ เพราะสงฆ์ในฝ่ายมหายาน (โดยเฉพาะ เซน) ทางสงฆ์จะพึ่งตัวเอง ตั้งแต่ปลูกข้าว ปลูกผัก ทำและทานกันเองภายในวัดซะส่วนใหญ่ จะบิณฑบาตรก็ต่อเมื่อธุดงด์ (สะกดผิดขออภัยด้วย) เท่านั้น ดังนั้น เมื่อทำอาหารกินกันเอง ก็ฆ่าสัตว์เพื่อมาทำเป็นอาหารย่อมต้องเลี่ยงหลีกอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่พระในฝ่ายมหายาน จะทานเจเป็นปรกติ และเมื่อกี๊ อ่านแหวบๆ เห็นว่า มนุษย์ เป็นสัตวกินพืช เพราะลำไส้ยาวกว่าสัตว์กินเนื้ออย่างเสือ สิงโต ทำนอง ใครที่คิดว่านี้ หรือมีเพื่อนที่มีความคิดนี้ กรุณาบอกให้เขาคิดซะใหม่ด้วยว่า การจะตัดสินว่า สัตว์ตัวใดกินเนื้อหรือกินพืช ไม่ได้บอกกันที่ ลักษณะฟัน กรงเล็บ (ที่ไว้ใช้สำหรับล่าเหยื่อ) หรือ ความยาวของลำไส้นะครับ  ต้องมองกันที่ระบบการย่อย และพฤติกรรมการกินตังหาก   คุณรู้หรือไม่ว่า หมีแพนด้าจริงๆ แล้ว ลำไส้ของมันก็ยังเป็นลำไส้แบบสัตว์กินเนื้อนะ และยังอุตสาห์ มีฟันเขี้ยวแหลมยาว สำหรับการฉีกเนื้อแบบสัตว์กินเนื้ออยู่ด้วย ไม่ทราบตกลงหมีแพนด้าเป็นตัวกินพืชหรือเปล่า เพราะวันทั้งวันก็กินแต่ใบไผ่ จริงอยู่ที่มนุษย์สมัยเริ่มแรก น่าจะมาจากสัตว์กินพืช แต่เมื่อมนุษย์เริ่มหัดทนเนื้อ และทานกันมายาวนานนับหมื่นปีแล้ว ตอนนี้มนุษย์บนโลกนี้ กลายเป็นสัตว์จำพวก "ผู้ที่กินทุกอย่าง" ครับ และสุดท้าย ความจริงคือ ถ้าบรรพบุรุษมนุษย์ไม่เริ่มหัดกินเนื้อสัตว์ มนุษย์ก็ไม่ทานที่จะพัฒนาสมองอันชาญฉลาดนี้คงมาได้แน่นอน และมนุษย์ก็คงไม่ได้มานั่งเถียงว่า กินเนื้อสัตว์ บาปหรือไม่บาป แบบนี้หรอก จากคุณ : bmjas เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 13:53:44

ความคิดเห็นที่ 25 เรียน คห.24 ครับ ก็ยอมรับนะครับ ว่า หมีแพนด้า จริง ๆ มีลำไส้ เป็นแบบสัตว์กินเนื้อจริง ๆ และจริง  หมีแพนด้า ก็เป็นสัตว์ ตระกูลเดียวกับ หมี ซึ่งจริง ๆ แล้ว หมีเป็นสัตว์กินเนื้อสัตว์ ... ซึ่งผมเคยอ่าน มา ว่า หมีแพนด้า นี่แหละครับ ที่แปลก เพราะโดยลักษณะภายนอกเป็นสัตว์ กินสัตว์ แต่ดันมากินพืช แต่ว่า หมา หลาย ๆ ตัว คนบางคน ก็ให้มัน กินอาหารแบบมังสวิรัติ ได้ เหมือนกัน นะครับ..... ซึ่งแปลว่า สัตว์ที่มีโครงสร้างเป็น สัตว์กินเนื้อ สามารถกิน อาหารที่มาจากพืชได้ครับ ..... ส่วนสัตว์ที่กินพืช ถ้าหากไปกินเนื้อสัตว์ น่าจะมีผลเสียมากกว่านะครับ ......... มีหนังสือบางเล่ม ยังแซว หมีแพนด้า เลยครับ ว่า มันมีจิตใจ ที่ดีงาม จึงเลิกกินเนื้อสัตว์ หันมากิน พืช แทน  ( แต่ อย่าถามนะครับ ว่า อ่านจากเล่ม ไหน  ลืมไปแล้วครับ และคง หามาอ้างอิง กับคุณ คห.24 ไม่ได้ครับ ) แต่ตามปกติ  ถ้าคุณไปอยู่ในป่า น่ะ คุณอยากจะเดิน ๆ แล้วไป พบกับ สัตว์กินพืช  หรือ สัตว์กินเนื้อ ล่ะครับ .... ส่วนการกินเนื้อสัตว์ ที่ถูกฆ่ามาเรียบร้อยแล้วน่ะ ผมคงจะไม่ ขอวิจารณ์ ก็แล้วกัน ว่าบาป หรือไม่บาป พฤติกรรม การกินเนื้อสัตว์ ที่คุณว่า มนุษย์ กินมาเป็นหมื่น ๆ ปี น่ะ ........... ใช่ครับ.... แต่สมัยก่อน ก็ไม่ได้กินกัน ในปริมาณ ที่ มากมาย ขนาดนี้ นะครับ ........ เพราะสมัยนี้ พวกอาหารจานด่วน จาก ทางด้านตะวันตก และ การปศุสัตว์ ในปัจจุบัน เนี่ย มันเอื้อ ให้เรารับประทาน เนื้อสัตว์ ในปริมาณ ที่ มากเกินความ จำเป็นครับ จึงเป็นโรค อ้วน  ไขมันในเส้นเลือด มะเร็ง และอื่น ๆ อีกมากมาย ก็เนื่องมาจาก การที่รับประทานอาหาร ประเภท เนื้อ สัตว์ มากเกิน ไป ...... ดังนั้น ใครไม่กลัว ต่อ โรคภัย ที่มาจาก อาหาร ก็ เชิญครับ ............. เพราะกิน อะไร ก็ ได้อย่างนั้นครับ ........ และถ้าธรรมชาติของมนุษย์ สามารถ กินได้ทุกอย่างจริง ............ เราก็คงจะไม่มีโรคภัย ไข้เจ็บ ที่เกิด มาจากการกินอาหาร ที่ไม่ถูกต้อง หรอกครับ ............. และ พวกเรา ลองถาม ตัวเรา.... ดู ก็แล้วกัน นะครับ ว่า ที่ทุก ๆ วันนี้ กินเนื้อวัว หมู ไก่  กัน น่ะ เพราะความอร่อย, หรือ ต้องการ สารอาหารที่ครบถ้วน กับร่างกาย กันแน่ครับ ......... เพราะถึงแม้ พระจะกินเนื้อสัตว์ ได้ก็จริง  ก็จำเป็นจะต้องพิจารณา ว่า เป็นอาหาร เพื่อยังชีพ มิใช่ รับประทาน เพื่อความรสชาติ และอร่อยลิ้น ดังคำที่ว่า กินเพื่ออยู่ หรือ อยู่เพื่อกิน .... ก็คงจะเคยได้ยิน กัน มาใช่ มั๊ยครับ ...... ขอบคุณครับ ที่ คุณ ยกเรื่องหมีแพนด้ามาครับ... แต่ผมก็ยังคง ยืนยัน ว่า หากเป็นไปได้ ก็ไม่ควรที่จะรับประทาน เนื้อสัตว์ ในปริมาณที่มากเกิน ไป อยู่ดี ต่อให้มันไม่ ผิดศีล ก็ตามที ....... แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 53 23:36:49 จากคุณ : trialuck เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 23:26:43

ความคิดเห็นที่ 26 คำถามยอดนิยม!! ใครๆก็อยากรู้ ถ้าจะเอากันให้ละเอียด ก็คงต้องเขียน ต้องพิมพ์กันยาวๆ เอาว่าเข้าใจง่ายๆดังที่พี่ๆ คห.ด้านบนๆ เขาว่ามานั่นแหละครับ ดีแล้ว! ...กินผัก กับ กินเนื้อ  ไม่ต่างกันเลย ถ้าจะบอกว่าเป็นการฆ่าชีวิต กินเนื้อก็คงจะตามที่เข้าใจ แต่ถ้ากินผักล่ะ ... กินกันมากๆชาวสวนชาวไร่ก็ต้องเร่งปลูกกันมาก ให้เพียงพอ พรวนดิน...โดนใส้เดือน โดนสัตว์ที่อยู่ในดินตาย ฉีดยา...แม้จะไม่ใช่สารเคมี แมลง สัตว์ต่างๆก็ต้องตาย ข้าวในนา...ไถ่นา ดำนา สัตว์เล็กๆน้อยๆในนาตายไปตั้งเท่าไหร่ หรือ ชีวิตทั่วๆไป หายใจ... สิ่งมีชีวิตเล็กๆในอากาศที่เรามองไม่เห็น แต่รู้ว่ามีอยู่ ต้องตายไปเท่าไหร่ หรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้าการเช่นดังกล่าวเป็นบาปไปซะหมด ไม่มีกฎเกณฑ์ ก็คงดำเนินชีวิตต่อไปไม่ได้แน่นอน ดังนั้น จะกล่าวเฉพาะการกินเนื้อ และกินผัก ไม่ว่าจะกินเนื้อหรือกินผัก ถ้ายังเลือก ยังยึดติด ไม่ว่าใดๆก็ตาม ไม่ดีทั้งนั้น....ให้เรากินอาหาร ไม่ใช่กินเนื้อหรือกินผัก จากคุณ : มอสเมืองเพชร เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 53 01:08:31

ความคิดเห็นที่ 27 เอาต่ออีกหน่อย ไหนๆพิมพ์แล้ว ดูต่อ สมัยนี้วิทยาศาสตร์ก้าวไกล คุณรู้ ผมก็รู้ ใครก็รู้ ... ว่าต้นไม้ มีชีวิต ปาณาติปาตา.... นั้น คือไม่ให้ฆ่าสิ่งที่มีปาณ หรือมีชีวิต ดังนั้น... กินเนื้อ กินผัก ถ้าจะเอาอย่างนั้น คงไม่ได้เลย แต่การกินอาหารนั้น เราไม่ได้ไปฆ่ามาโดยตรง ตรงจุดนี้พูดแล้วยาว ขี้เกียจพิมพ์ ไปลองดูกฎของพระสงฆ์ เรื่องอาหารก็แล้วกัน มีรายละเอียดพอจะตอบข้อสงสัยจุดนี้ได้ ว่าควรกินอย่างไร แบบไหนไม่ควรกิน แต่ยืนยันที่..ไม่กินเนื้อไม่กินผัก ...แต่กินอาหาร ...และที่ฟังๆมาหลายที่ ที่พยายามจะยัดเยียดให้พระพุทธเจ้ากินผัก บอกได้เลยว่า ถ้าคุณว่าเช่นนั้น คุณก็คงดูถูกพระองค์ท่านมากๆ ก่อนสมัยพระพุทธเจ้า มีลัทธิไม่กินเนื้อ มาก่อนแล้ว ท่านตรัสรู้มา อะไรมา ถ้ารู้แค่นั้น ก็คงไม่มีคนศรัทธามาจนถึงทุกวันนี้ มองให้ลึก อ่านให้มาก เลือกข้อมูลที่ถูก และ ไตร่ตรองด้วยตนเอง จะเข้าใจขึ้นมากนะครับ มีรายละเอียดที่อาจารย์หลายๆท่าน ที่เป็นพุทธแท้ ได้กล่าวไว้ ดีแล้ว ไปหาอ่านดูครับ ส่วนที่ต้องยอมรับ และไม่ขอเถียง คือ การกินผัก อาจจะทำให้สุขภาพดีกว่ากินเนื้อ อันนี้ยอมรับ จากผลทางการแพทย์ แต่ถ้าจะกินผัก ไม่กินเนื้อ เพราะกลัวบาปกรรม คุณคิดผิด!!! จากคุณ : มอสเมืองเพชร เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 53 01:17:56

ความคิดเห็นที่ 28 เรียน คุณ มอสเมืองเพชร สรุปได้ดีครับ ........... ส่วนที่ต้องยอมรับ และไม่ขอเถียง คือ การกินผัก อาจจะทำให้สุขภาพดีกว่ากินเนื้อ อันนี้ยอมรับ จากผลทางการแพทย์ แต่ถ้าจะกินผัก ไม่กินเนื้อ เพราะกลัวบาปกรรม คุณคิดผิด!!! เมื่อก่อน ผมก็เคยหลง... ยึดมั่น ไปกับ เรื่อง ว่า บาปกรรม และมั่นใจ ในเรื่องนี้ มาเป็นปี ..... คือ ทานอาหารมังสวิรัติ แบบไม่กิน ไข่ และ นม ด้วย ซ้ำ เพราะเคยอ่านว่า การกินไข่ ก็ส่งเสริม ให้เลี้ยงไก่ และหากเป็นเราเอง ก็ไม่อยากจะ มา โดน ถูกเลี้ยง ให้ สภาพแวดล้อม ที่ โดนบังคับให้ ออกไข่ ให้ได้มากที่สุด เท่าที่ มนุษย์ เราต้องการ ...... นี่ ก็คือ บาป ........... และ วัว เอง ก็คงจะไม่อยากจะโดน มนุษย์ รีดนม .... ในปริมาณ มาก ๆ เกือบ ทุก ๆ วัน .... โดยน้ำนม ที่ได้ ก็ไม่ได้ เอาไปให้ สัตว์ ที่เป็น พันธ์ เดียว กับตนเอง ไปดื่ม ........... นี่ คือ ความคิดเห็น การกิน มังสวิรัติ แบบ ที่ไม่ กิน ไข่ และ นมครับ ....... และโดยความคิดของผมนะครับ .... ในทางการแพทย์ อีกมุม หนึ่ง ก็ มีสรุป ออกมา แล้วว่า การกินนม วัว นั้นไม่ดี ( เป็นสาเหตุทำให้เป็นโรค ต่าง ๆ มากมาย  พอดี หนังสือ ดังกล่าว หาไม่พบ  จึงไม่ขอ แจ้งแจง รายละเอียด ก็แล้วกัน  ซึ่งบางฉลับ จะเขียนไว้ว่า คนไทยถูกหลอก  ให้กินนม ด้วย ) เพราะขนาดลูกวัว ยัง กิน นมวัว ก็แค่ ตอนยังเป็น ลูกวัว พอโต แล้ว ก็เลิกกิน ....... เห็นจะมีแต่ คนเท่านั้นแหละ ครับที่ กิน นม วัว และ นมคนอื่น ๆ ทั้ง ๆ ที่ โต เป็น ผู้ใหญ่ แล้ว น่ะครับ ....... จากคุณ : trialuck เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 53 10:34:29

ความคิดเห็นที่ 29 พอใจอย่างไหนก็ปฏิบัติอย่างนั้นนะคะ เห็นด้วยกับคุณ มอสเมืองเพชร อธิบายได้ชัดเจนทีเดียว "ไม่ว่าจะกินเนื้อหรือกินผัก ถ้ายังเลือก ยังยึดติด ไม่ว่าใดๆก็ตาม ไม่ดีทั้งนั้น....ให้เรากินอาหาร ไม่ใช่กินเนื้อหรือกินผัก" จะสัตว์หรือพืชต่างก็มีชีวิตเหมือนกัน มองให้ลึกลงไปถึงระดับโมเลกุล ระดับอะตอม ระดับควาร์ก ก็ยิ่งไม่ต่างกันเลย เป็นที่ยอมรับว่าสมัยนี้วิทยาศาสตร์ก้าวไกลมาก แต่พระพุทธเจ้าท่านเห็นอะไรตั้งแต่สมัยโน้น น่าคิดนะคะ? จากคุณ : Lamiette เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 01:19:41