 |
ความคิดเห็นที่ 124 |
คนที่ทำบุญกับธรรมกายแล้วเดือดร้อนมีมากมายเลยครับ
ไป ดูคนที่ทำบุญกับธรรมกายแล้วเดือดร้อนดูสิครับ \/ \/ \/ *********************************************************** เดลิ นิวส์ 6/6/2542
เด็ก 10 ขวบฟ้องแฉธรรมกายรีดเงิน ทุกข์หนักแม่ป่วย ต้องออก ร.ร. ให้ทนาย-เจ้าคณะฯเอาผิด
หนูน้อยวัย 10 ขวบ จูงมือน้องสาววัย 5 ขวบ ขอเป็นโจทก์ฟ้อง "ไชยบูลย์" เป็นเหยื่อบาปบริสุทธิ์ แม่หลงลมไปทำบุญหมดเงินกว่า 2 แสน
ถูกกล่อม โรคร้ายหาย ร่ำรวยทันตาเห็น ยกเอาหนังสือโม้สรรพคุณ "พ ร ะ ดู ด ท รั พ ย์" ขึ้นมาตุ๋น
ขนาดไม่มีเงินสดก็ให้ผ่อนบุญเป็นรายเดือน
แต่ทำแล้วยังเจ็บไข้เหมือนเก่า แถมกิจการย่ำแย่ ไม่มีเงินค่าเทอม
ต้องให้ลูกลาออกจากโรงเรียนเก่า มาเรียนโรงเรียนวัด กินข้าวกับไข่ต้มจิ้มน้ำปลาทุกวัน
พอไปขอเงินคืนกลับถูกไล่เหมือนหมูเหมือนหมา
ค ร อ บ ค รั ว ร้ า ว ฉ า น พ่ อ ห ม า ง เ มิ น
แ ม่ ป่ ว ย ซ้ำ เ ป็ น โ ร ค ซึ ม เ ศ ร้ า
ร้องเจ้าคณะปทุมฯ-สภาทนายให้ช่วย
ก่อภาพสะเทือนใจกอดคอร้องไห้ครวญขอเงินคืนให้คุณแม่จะได้ไปใช้หนี้
"เลขาฯอาคม" ระบุโอนที่ดินยืดเยื้อเกิดจากผลประโยชน์เหล่าสาวกไปซื้อที่ดินดักหน้า
หวัง ผุดคอนโดฯ แบ่งที่ดินขายให้ผู้มาปฏิบัติธรรม ถ้าโอนให้วัดมีหวังเจ๊ง
ท่าม กลางความพยายามสะสางปัญหาพระปลอม "นายไชยบูลย์ สุทธิผล"
ที่ต้องปาราชิกขาดจากความเป็นพระไปแล้วตามลายพระหัตถ์สมเด็จพระสังฆราช
แต่นายไชยบูลย์ยังสร้างรอยด่างพร้อย และความเศร้าหมองให้กับพระศาสนาไม่รู้จบ
ล่าสุดได้มีการเปิดเผยตีแผ่ขบวนการสูบบุญของธรรมกาย
ได้สร้างปัญหาความร้าวฉานให้กับครอบครัวเล็ก ๆ ครอบครัวหนึ่ง
และเด็กน้อยวัย 10 ขวบและ 5 ขวบต้องมาเป็นผู้รับผลกรรม
หนูน้อย 10 ขวบ ฟ้องไชยบูลย์
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา "เดลินิวส์" ได้รับการร้องเรียนเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจจากพฤติกรรมสูบบุญ สูบเลือด สูบเนื้อ ของนายไชยบูลย์ และวัดพระธรรมกาย โดย ด.ญ.กัลยา เลิศตระกูลพิทักษ์ หรือน้องจ๊ะเอ๋ นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนทานสัมฤทธิ์วิทยา ติดต่อร้องเรียน ขอความช่วยเหลือเนื่องจากครอบครัวประสบปัญหาหนักจากการทำบุญกับวัดแห่งนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 69/755 หมู่ 8 ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี สภาพเป็นตึกแถว 4 ชั้น ริมถนน เป็นร้านรับซ่อม แอร์รถยนต์ ชื่อวีอาร์แอร์ และได้พบกับ ด.ญ.กัลยา หรือน้องจ๊ะเอ๋ วัย 10 ขวบ และ ด.ญ.นันทิยา เลิศตระกูลพิทักษ์ หรือน้องจ๊ะจ๋า วัย 5 ขวบ นักเรียนอนุบาล 2 ที่เป็นน้องสาว วิ่งออกมาเปิดรับผู้สื่อข่าว
น้อง จ๊ะเอ๋ นำผู้สื่อข่าวเข้านั่งในบ้านและเริ่มเล่าถึงสภาพปัญหาของครอบครัวว่า
ขณะนี้พ่อของตนเพิกเฉยกับนางกนกวรรณ เลิศตระกูลพิทักษ์ ผู้เป็นแม่
สาเหตุเพราะแม่นำเงินไปทำบุญกับวัดพระธรรมกายถึง 205,000 บาท
ต่อมา ครอบครัว เกิดความเดือดร้อน อย่างหนักเพราะไม่มีเงิน กิจการซ่อมแอร์รถยนต์ย่ำแย่ตามสภาพเศรษฐกิจ
สุดท้าย แม่ก็คิดมาก กลายเป็นโรค เศร้าซึมไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยจา และมีอาการไข้บ่อย ๆ
น้องจ๊ะเอ๋๋เล่าต่อว่า จุดเริ่มต้นที่ทำให้แม่ของหนูต้องสูญเสียเงินก้อนโตก็เนื่องจาก แม่ป่วยออด ๆ แอด ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ
และได้มีผู้นำบุญ จากวัดพระธรรมกายชื่อนางนิภา ผ่อนผัน มาชักชวนให้ไปทำบุญไว้กับวัดพระธรรมกาย
โดยชักจูงว่า หากนำเงิน ไปทำบุญสร้าง พระประจำตัวที่วัดพระธรรมกาย
เพื่อระดมเงินไว้ก่อสร้างมหาธรรมกายเจดีย์จำนวน 30,000 บาท
จะได้พระ มหาสิริราชธาตุ มาพกติดตัว จะช่วยให้โรคร้ายที่เป็นอยู่หายขาด
โดยมีคนพกพระติดตัวแล้วรอดพ้นจากโรคร้ายมาหลายคนแล้ว
"เขายังบอก กับคุณแม่ของหนูด้วยว่า ไม่แค่โรคจะหายเท่านั้น
แต่ยังช่วยให้ชีวิตดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา มีฐานะร่ำรวยขึ้น
เพราะ พระมหาสิริราชธาตุมีอานุภาพดูดทรัพย์
หนูไม่รู้ว่าดูดอย่างไร
ตอนนั้น คุณแม่ของหน ูเชื่อจึงได้ทำบุญ สร้างมหาธรรมกาย เจดีย์เป็นเงิน 30,000 บาท
หลังจากทำบุญไปแล้วคุณแม่ก็พาหนูกับน้องจ๊ะจ๋าเข้าวัดด้วย" น้องจ๊ะเอ๋เล่าพร้อม ๆ กับที่น้องจ๊ะจ๋าพยักหน้ายืนยันอยู่ข้าง ๆ
น้อง จ๊ะเอ๋ เล่าต่อด้วยน้ำเสียงใส ซื่อว่าผู้นำบุญ คนเดิมหลังจาก ได้เงินไปแล้ว ก็แวะเวียนมาชักชวนนางกนกวรรณให้ทำบุญเพิ่มขึ้นอีกเป็นประจำ
โดยบอกแม่ว่า ทำบุญมากปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเร็ว และเพิ่มขึ้น เป็นเท่าทวีคูณ ตามไปด้วย
ซึ่งมารดา ก็ได้ทำบุญ ตามคำแนะนำ เป็นประจำ ทุกเดือน
ไถขนาดให้ ผ่อนส่งได้
แต่มาระยะหลัง ครอบครัวเริ่มรายได้ลดลง ไม่มีเงินก้อนทำบุญ
ทางผู้นำบุญก็เสนอให้มีการผ่อนส่งเป็นรายเดือนได้ แม่่ก็ตกลง ผ่อนบุญอีก
โดยทุกสิ้นเดือนผู้นำบุญจะมาตาม ทวงถามและรับเงินไป
ก่อนมาจะมีการโทรฯ มาล่วงหน้าทุกวันกระทั่งวันมารับเงิน
จนถึงขณะนี้ ได้บริจาคเงินทำบุญกับวัดพระธรรมกายไปทั้งสิ้น 205,000 บาท
ได้รับพระมหาสิริราชธาตุจากวัดรวม 9 องค์
หลังจากเล่าจบ เด็กหญิงจ๊ะเอ๋ก็ได้วิ่งปรื๋อไปที่โต๊ะทำงานที่อยู่ข้าง ๆ โดยได้เอาใบอนุโมทนาบัตรจำนวน 27 ใบมาแสดง
ขณะเดียวกัน น้องจ๊ะจ๋า ก็กำพระดูดทรัพย์ 9 องค์ไว้ในมือ 2 ข้าง และวิ่งเอามาให้ผู้สื่อข่าวดูเป็นประจักษ์พยาน
น้องจ๊ะเอ๋ กล่าวว่า หลังจากทำบุญไป ที่บ้านก็ไม่ได้ดีขึ้น มิหนำซ้ำยังเดือดร้อนอีก
และหนูต้องการที่จะขอเงินคืน เพราะตอนนี้ทางบ้านฐานะ ย่ำแย่ รายได้ไม่พอ ใช้จ่าย
ต้องกินข้าวกับไข่ต้มจิ้มน้ำปลาทุกวัน มารดาก็มาป่วยซ้ำอีก
"หนู เรียนอยู่ ป.6 กับน้องจ๊ะจ๋าเรียนอนุบาล 2 ก็ต้องออกจากโรงเรียนเดิมที่เป็นโรงเรียนราษฎร์
เพราะค้างค่าเรียนและค่าอาหารกลางวัน 4 หมื่นบาท
และต้องย้ายมาเรียนโรงเรียนวัด ส่วนหนี้เก่าคุณแม่ก็ขอผ่อนผันไว้ก่อน"
น้องจ๊ะเอ ๋เล่าอีกว่าเคยไปเป็นเพื่อนคุณแม่ขอเข้าพบพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1
เพื่อร้องขอให้ช่วยแต่ก็ไม่ได้พบ
ถูกไล่เหมือนหมู เหมือนหมา
ด้านนางกนกวรรณ ผู้เป็นมารดาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หลังจากฟังการเล่าเรื่องจากลูกสาวก็ถึงกับนิ่งอึ้ง
หลังจากนั้นนางกนกวรรณค่อย ๆ ข่มใจลงและเล่าว่า
ต้นเหตุเคราะห์กรรมที่ต้องไปทำบุญสูญเงินแสนเกิดขึ้นจากการที่ตนป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ
หลังจากรักษาตัวกับแพทย์แผนปัจจุบันหมดเงินไปมากแล้วก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหาย
จึงได้หันมารักษาด้วยไสยศาสตร์
จากนั้นจึงมาพบกับนางนิภาผู้นำบุญของวัดพระธรรมกาย
โดยนางนิภาอ้างว่า มีคนที่ทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวและได้พระมหาสิริราชธาตุไว้บูชา
ก็ประสบโชคดีและโรคภัยไข้เจ็บขนาดที่ว่าแพทย์วินิจฉัยว่าไม่รอด กลับหายจากโรคร้ายด้วยการสวดบูชาพระดูดทรัพย์
จึงได้เกิดความสนใจที่จะได้พระดูดทรัพย์ไว้รักษาตัว
พร้อมทั้งจะได้มีเงินทองมาก ๆ จนร่ำรวย
"ยอมรับเลยว่าหวังเป็นอย่างมาก
เพราะได้รับหนังสืออานุภาพที่มีเนื้อหาอวดอ้างจากคนที่ได้พระดูดทรัพย์ไปครอบครองแล้วโชคดีทันตาเห็น
ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำว่าควรสร้างพระประจำตัวเก็บไว้ภายในมหาธรรมกายเจดีย์ โดยต้องใช้เงินทำบุญ 30,000 บาท"
หลังจากสร้างพระประจำตัวตามคำแนะ นำของผู้นำบุญแล้ว
นางกนกวรรณกล่าวว่า อาการเจ็บป่วยก็ยังไม่ทุเลาแถมยังเป็นหนักขึ้นอีก
ประกอบกับอาชีพของสามีเป็นช่างซ่อมแอร์รถยนต์ กลับประสบปัญหามีลูกค้ามารับบริการน้อยลง
ไม่มีโชคเหมือนที่อวดอ้างเลยแม้แต่นิดเดียว
ขณะนั้นก็ได้รับคำแนะนำให้ทำบุญเพิ่มแรงบุญ จึงได้ทำต่อไปจนเสียเงินเป็นแสน ๆ
เมื่อถึงที่สุดแล้วเห็นว่าไม่น่าจะเป็นอย่างที่อ้างตนได้เดินทางไปขอเงินคืนจากทางวัดพระธรรมกาย
ปรากฏว่าทางวัดได้ให้เจรจากับนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ สาวกคนสำคัญของวัดพระธรรมกาย
แต่ได้รับการปฏิเสธที่จะนำเงินมาคืน พร้อมให้เหตุผลว่าไม่มีวัดไหนที่คนเอาเงินไปทำบุญแล้วมาขอคืนได้
และกล่าวอ้างว่าวัดพระธรรมกายไม่เคยได้รับเงินทำบุญจากนางกนกวรรณเลย ทั้ง ๆ ที่มีใบอนุโมทนามาแสดงให้ดูด้วย
อย่างไรก็ตามนางกนกวรรณกล่าวว่า เรื่องของตนนี้เมื่อมีข่าวออกไประยะแรก วัดอ้างว่าจะให้ก้อนหนึ่ง และให้ลงนามรับ แต่ไม่ได้ให้จริง
ขณะนี้ครอบครัว ลำบากจะขอเงินคืนทั้งหมดดีกว่า
เมื่อนางกนกวรรณ เล่ามาถึงช่วงนี้ก็ปล่อยโฮขึ้นมาด้วยความเสียใจท่ามกลางลูก ๆ ทั้งสองคนที่นั่งขนาบข้าง
ซึ่งน้องจ๊ะเอ๋ได้ใช้ชายเสื้อยืด ที่สวมใส่อยู่ ขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ผู้เป็นแม่
พร้อมกล่าวปลอบขึ้นมาว่า "แม่ไม่ต้องร้องไห้หรอกถ้าเขาไม่สงสารเรา ๆ ก็ต้องทน"
จากนั้น หันมากล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า
"วัดพระธรรมกายสงสารคุณแม่หนูด้วย ขอให้คืนเงินให้คุณแม่ จะได้มาใช้หนี้ให้กับโรงเรียน"
ภาพที่สะเทือนใจเหล่านี้ ทำเอาผู้สื่อข่าวที่แม้จะเป็นผู้ชายที่ผ่านโลกผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ มามากก็อดที่จะน้ำตาซึมด้วยความสงสารไม่ได้
นอกจากนี้ น้องจ๊ะเอ๋กล่าวว่า คุณครูที่โรงเรียนได้แนะนำให้ไปร้องเรียนกับพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เพื่อขอความเมตาสงสาร จากพระสุเมธาภรณ์
และให้ไปขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความ เพื่อหาทางช่วยครอบครัวอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งน้องจ๊ะเอ๋ ไปไม่ถูกและยังไม่รู้จะไปอย่างไร
http://rabob.tripod.com/daily203.htm
จากคุณ |
:
ไผ่บูรพา
|
เขียนเมื่อ |
:
28 เม.ย. 53 16:27:07
|
|
|
|
 |