 |
ความคิดเห็นที่ 13 |
จากฮะดีษที่ผมนำมาคร่าวๆ นั้นทำให้เราทราบได้ว่า การละหมาดนั้น ไม่ได้ปฏิบัติโดยอาศัยบรรพบุรุษ แต่เป็นการตรวจเช็คอย่างเข้มงวด จากฮะดีษ ว่าสิ่งใดที่ถูกต้องตามแบบอย่างของท่านนบีมุฮัมมัด และสิ่งใดผิด
เราจะเห็นได้ว่าการตรวจเช็คนั้นมีความเข้มข้นอย่างไร
ตามเว็บต่างๆ จะมีการตรวจสอบกันอยู่เสมอโดยใช้หลักการ จากกุรอ่าน และฮะดีษเป็นหลัก ซึ่งถ้ามีใครทำผิด หรือมีใครปฏิบัติไม่ตรงกับฮะดีษ ผู้ที่ศึกษาด้านศาสนามาจะสามารถบอกได้ว่า การกระทำใดที่ถูกต้องหรือการกระทำใดไม่ถูกต้อง
และการอ้างว่า ถ้าเราไม่เคยเห็นการละหมาดมาก่อนนั้นเราจะไม่รู้ว่าละหมาดอย่างไร จึงเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น เพราะรายละเอียดนั้น ท่านศาสดาได้บอกเราไว้แล้ว ท่าทางต่างๆ ก็ได้แสดงให้เราได้เห็นว่าท่านละหมาดอย่างไร โดยมีรายละเอียดอย่างรัดกุม
เช่น
and on bowing he placed his hands on both knees and bent his back straight
ในการโค้งหรือคำนับหรือก้มตัวนั้น ท่าจะวางมือไว้ที่หัวเขา และการโค้งหลักของท่านก็จะตรง อันนี้ สามารถปฏิบัติได้ครับ เพราะบอกไว้อย่างชัดเจนว่า คำนับอย่างไร มือวางไว้ตรงไหน ลักษณะหลังเป็นเช่นใด
นี่ไม่ใช่การปฏิบัติมาก่อน พออธิบายแล้วจึงเข้าใจ แต่เป็นการเห็นท่านศาสดาปฏิบัติให้ดูเอง เมื่อทำผิด ท่านศาสดาก็จะสอนด้วยว่าทำผิด เช่น
Abu Mas'ud al-Badri reported that the Prophet, upon whom be peace, said, "The prayer of one who does not straighten his back in his bendings and prostrations is not accomplished." This hadith is related by "the five,'' and Ibn Khuzaimah, Ibn Hibban, at-Tabarani and al-Baihaqi, who consider its chain as sahih, while at-Tirmizhi grades it as hassan sahih.
ซึ่งไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องละหมาด ตามบรรพบุรุษนะครับ ถึงจะละหมาดได้ แต่การละหมาดนั้น ใช้กุรอ่าน และฮะดีษเป็นหลัก ครับ เพราะฮะดีษมีรายละเอียดชัดเจน มีขั้นตอนต่างๆ บอกไว้ ให้ทำตามได้
จากคุณ |
:
Carroth
|
เขียนเมื่อ |
:
20 พ.ค. 53 17:34:50
|
|
|
|
 |