ความคิดเห็นที่ 1 ยาทากันยุงที่ผมเคยใช้ "กย.15" มีกลิ่นไม่หอมมาก แต่ตอนที่ไปวัดล่าสุด เมื่อผมใช้ทาบริเวณแขนแล้วแสบ แดง ระคายเคือง ที่ผมใช้ยังไม่หมดอายุนะ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเคยใช้ก็ไม่เคยมีปัญหา เพิ่งจะเคยมีอาการแบบนี้ (ดังนั้นคนอื่นๆก็ไม่จำเป็นต้องเกิดอาการเดียวกับผมนะครับ) "ซอฟเฟล" ผมลองใช้แบบขวดแล้ว สะดวกดี ไม่ระคายเคือง แต่มีกลิ่นหอม ไม่กล้าใช้ครับ "ตะไคร้หอม" ลองใช้แล้ว work มาก ใช้แบบทา หรือ พ่น ยุงไม่มารบกวนเลย แต่มีระยะเวลาที่ใช้ได้ผลค่อนข้างสั้น ---------------------------------------------------------- จึงขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ ว่าเวลารักษาศีล8 ใช้ยาทากันยุงแบบไหนกันครับ จากคุณ : Five Precepts เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 11:01:21

ความคิดเห็นที่ 2 ซึ่ง คุณต่อmcu ก็ได้ให้ความเห็นที่มีประโยชน์จากกระทู้เก่าว่า "เรื่องผิดศีลนั้น ผมมองว่าดูที่เจตนานะครับ   เรามีเจตนาที่จะไม่ให้ยุงมารบกวนเรา เพื่อการภาวนาที่ดีขึ้น  เป็นปัญญาทางโลก และไม่ได้เบียดเบียนสัตว์เพราะเขาไม่ได้ตายจากการกระทำของเรา  ไม่ได้ทาเพื่อให้หอมตบแต่งร่างกาย  ฉะนั้น ตามความเห็นผมไม่น่าจะผิดศีล   แต่ถ้ายังไม่สบายใจเรื่องยาทากันยุง ผมแนะนำ ยาทากันยุงชนิดที่กลิ่นอ่อนๆ เช่น  [ผมไม่ได้ค่าโฆษณานะ แนะนำกันเฉยๆ]  ยี่ห้อ Pigeon Anti-Mosquito เป็นชนิด Wet Tissues ซองเขียวอ่อน" ------------------------------------------------------------- จากคุณ : Five Precepts เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 11:04:42

ความคิดเห็นที่ 3 ต้องขอบคุณ คุณต่อmcu ที่ให้คำแนะนำด้วยครับ ^^ ยังไงก็ตามผมขอรบกวนเพืิ่อนๆ ขอคำแนะนำเพิ่มเติมเรื่องยาทากันยุงเมื่อรักษาศีล8 ด้วยครับ จากคุณ : Five Precepts เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 11:08:05

ความคิดเห็นที่ 4 อยู่ที่เจตนามากกว่าค่ะ ส่วนตัวคิดว่าใช้ได้ไม่ผิด ถ้าเราไม่ได้ใช้เพื่อให้กลิ่นกายหอม แต่ใช้เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงมารบกวนในขณะภาวนา จากคุณ : ข้าวหน้าตาดี เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 12:30:09

ความคิดเห็นที่ 5 ขออนุญาตออกความเห็นนะคะ ส่วนตัวไม่เคยทายากันยุงเพราะว่าแพ้ แล้วเวลาโดนยุงกัดจะมีอาการคัน และบวม พอเกาก็เป็นแผล สมัยเด็กๆนี่ขาลายเลยค่ะ พอมาปฏิบัติรักษา ศีลห้า สติไม่ค่อยดี คันปุ๊บ ลูบปั๊บ ยุงตายคามือ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ไปปฏิบัติ ที่วัด กำลังอยู่ในท่ายืนหนอ ปรากฏว่ายุงมาเกาะที่นิ้วเท้า เกิดอาการคัน แล้วก็กำหนดไว้ ก็ก้มลงพิจารณา จนยุงกินอิ่มก็บินไป รู้สึกถึงอาการคัน อยู่นานแล้วก็หายไป ค่อนข้างทรมานเหมือนกัน แต่ก็รู้สึกยินดีค่ะ อาจจะ เป็นครั้งแรกที่มีสติ ไม่เผลอไปทำร้ายมันเข้า แล้วก็พยายามจำอารมณ์ตรง นี้ไว้เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเผลอแล้วค่ะ พอคันก็ดูเฉยๆ มือไม่ไวเหมือนสมัยก่อน ก็นับเป็นโชคดีของเรา ที่ไม่ค่อยเผลอไปทำร้ายสัตว์เล็กๆอีก ป.ล. คุณมีเจตนาป้องกันเหมือนเป็นยา ไม่ได้ใช้เพื่อทำให้ร่างกายมีกลิ่นหอม ใช้ได้ค่ะ ไม่ผิดศีล แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 53 12:38:53 จากคุณ : คุณป้าจำเป็น เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 12:33:59

ความคิดเห็นที่ 6 อืมมม์ กระทู้นี้มีประโยชน์มากจริง ๆ แต่ในระหว่างอ่านกระทู้  ก็พลอยนึกไปถึงการปฏิบัติธรรมของพระสายวัดป่า/สายปฏิบัติทั้งหลาย ในอดีตที่ยังไม่มียากันยุง (ทั้งยากันยุงชนิดทา ชนิดระเหย/ระเหิดที่ใชัร่วมกับการเสียบปลักไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งชนิดจุดไฟแบบธูป) ว่า ท่านทั้งหลายเหล่านั้นมีวิธีการป้องกันยุงกันอย่างไร การกางมุ้ง ปักกลด เพียงแค่นี้  สามารถป้องกันยุงได้อย่างเพียงพอหรือไม่ ? หรือท่านมีความมานะพยายามอย่างมาก ท่านป้องกันของท่านอย่างไรกันหนอ ? เพื่อนสมาชิกมีใครพอที่จะแนะนำประสบการณ์การป้องกันยุงของพระป่า/พระสายวิปัสนามาแนะนำกันบ้างก็ดีไม่น้อยน่ะครับ  เพื่อเป็นทางเลือก ขอบคุณคุณเบญจศีล และคุณต่อMCU เป็นอย่างยิ่งที่ให้คำแนะนำที่ดีมีประโยชน์ จากคุณ : ทวนทอง เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 12:59:57

ความคิดเห็นที่ 7 กางมุ้ง ปักกลดผมว่าพอนะ เพราะที่ไปนอนที่วัดป่าที่นึงมา(วัดป่าน้ำโจน) กุฏิไม่มีไฟฟ้า หลังคามุงจาก ยุงเยอะมากมาก ทั้งยุง ทั้งมด ทั้งค้างคาว จิ้กจก แมงมุม แย้... งูก็มี รอบแรกที่ไป ทายากันยุงของซอฟเฟลแล้วแสบผิวกับออกร้อน ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกัน พอจุดยากันยุง ก็เวียนหัวมาก มึนไปเลย นั่งภาวนาไม่ได้เลย รอบสองก็ไปอีก แต่ไม่ทา ไม่จุดอะไรเลย นั่งในมุ้งกลดอย่างเดียวเลย ไม่ออกไปเดินเพ่นพ่าน ก็ไม่โดนยุงกัดนะ วันนี้ พึ่งกลับจากวัดอีกที่นึง (ผาซ่อนแก้ว) วัดนี้มีไฟฟ้า น้ำท่าสะดวก คราวนี้ ทาซอฟเฟล แต่กลับไม่แสบผิวแต่ประการใด ไม่รู้ว่าขึ้นกับเหตุปัจจัยอะไรเหมือนกัน จากคุณ : ฮิมาวาริซซัง เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 14:18:48

ความคิดเห็นที่ 8 วัดที่ผมไปถือศีลเป็นประจำอยุ๋ในป่า ยุ่งเยอะมาก เรื่องโลชั่นกันยุ่งผมลองมาแล้วนะครับผม ว่า ของจอห์นสันดีที่สุดนะครับถ้าแล้วไม่ร้อนมาก ไม่ค่อยมีกลินด้วยครับผม อีกอย่างที่ใช้คือน้ำมันเหลือง ครับ ลักษณะคล้ายๆๆยาหม่องแต่เป็นน้ำๆๆ อันนี้ใช้ท่าได้ประมาณ 20-30 นาทีครับ พอกลิ่นหมด ยุงก็กลับมากัดครับผม และอีกอย่างคือแป้งกันยุง ยี่ห้ออะไรจำไม่ได้นะครับ เป็น กระป๋องพลาสติก สีฟ้าครับผม ----------------------------------------- ฝากร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคีด้วยนะครับ ปีนี้ผมเป็นเจ้าภาพนะครับผม^^ สนใจสอบถามรายละเอียดได้ครับผม อนุโมทนาบุญทุกๆๆท่านด้วยนะครับ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y9591762/Y9591762.html บุญรักษา จากคุณ : ว่าที่ceo เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 18:22:51

ความคิดเห็นที่ 9 เคยไปวัดพระท่านยื่น ธูปเทียนมาให้   เทียนรู้ว่าใช้ทำอะไรแต่ธูปไม่รู้ เลยถามแม่ชีท่านว่าใช้จุดไล่ยุง และก็ไล่ได้จริงๆค่ะ  แต่เราว่าควันมันเป็นพิษไม่ค่อยดีเลย จากคุณ : Tiger Bood เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 20:13:07

ความคิดเห็นที่ 10 ใช้ ซอฟเฟล ครับ สำหรับผมได้ผลดีแล้วก็ไม่แสบด้วย ส่วนเรื่องกลิ่นหอม ผมว่าอยู่ที่เจตนาครับ คงไม่มีใครอยากให้มีกลิ่นตัวแบบซอฟเฟลครับ ถึงจะไม่เหม็นแต่ก็ไม่ใช่หอมแบบชวนดม จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 22:28:55

ความคิดเห็นที่ 11 ขออนุโมทนาเจ้าของกระทู้ที่ตั้งกระทู้ที่มีประโยชน์ และอย่างที่ คห 9 บอก  มีอีกอย่าง คือ พวกกำยาน   ซึ่งไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะมีควันโชยออกมา บางคนใช้กำยานหรือธูปไล่ยุงมากๆ   นานๆไปอาจเกิดโรคร้ายได้ เช่น มะเร็งในปอด คห.6  ผมเคยนมัสการหลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่ที่เชียงใหม่   ขณะสนทนาธรรมกับหลวงพ่อ    มียุงตัวใหญ่ๆมารบกวน   หลวงพ่อท่านใช้ของรูปทรงคล้ายๆพัดใบใหญ่ๆปัดพวกยุง[หลวงพ่อปัดเบาๆครับ  ยุงไม่ได้รับอันตรายใดๆ]    จำได้ว่ายุงตัวใหญ่มาก ชุกชุมที่วัดป่าหมู่ใหม่     การใช้กลดก็เป็นอุปกรณ์ที่ป้องกันยุงได้อย่างดีทีเดียว         ส่วนพระป่ารูปอื่นๆที่ผมเคยอ่านประวัติ   บางรูปได้รับทุกขเวทนาจากโรคที่เกิดจากยุง เช่น โรคมาลาเรีย        ผมมองว่าการใช้ยากันยุงเป็นเหมือนยา ซึ่งช่วยป้องกันโรคที่ติดต่อทางยุงและช่วยบรรเทาทุกขเวทนาทางกายจากการโดนยุงรบกวน   แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 53 00:14:46 แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 53 00:11:55 แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 53 23:54:20 จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 23:38:25

ความคิดเห็นที่ 12 คุณป้าจำเป็น - ขออนุโมทนาบุญที่มีสติไม่เผลอไปเบียดเบียนยุงนะครับ ทวนทอง - ขอบคุณมากที่คิดว่ากระทู้มีประโยชน์ครับ ช่วงนี้หน้าฝน ยุงเยอะมาก อาจเป็นอุปสรรคในการไปภาวนาในวัด หรือรักษาศีล8 ภายในบ้านได้ อนุโมทนาบุญครับ ฮิมาวาริซซัง - เหตุการณ์อย่างที่น้องฮิมาวาริซซังมีประสบการณ์ เป็นไปได้มั้ยครับ ว่ามีเทวดาหรือสิ่งศักสิทธิ์ในบริเวณนั้นๆ ต้องการช่วยให้มีศีลที่บริสุทธิ์ให้เหมาะกับสถานที่นั้นๆ ซึ่งเทวดาหรือสิ่งศักสิทธิ์ในสถานที่ต่างๆมีคติ ความเชื่อ และทิฏฐิที่ต่างกัน ทำให้ผลลัพธ์หรืออาการเวลาใช้ซอฟเฟลจึงต่างกันครับ (เป็นความเชื่อส่วนบุคคลของพี่นะ ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยด้วยครับ) จากคุณ : Five Precepts เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 08:31:43

ความคิดเห็นที่ 13 ว่าที่ceo - ขออนุโมทนาบุญที่เป็นเจ้าภาพกฐินด้วยครับ บุญแรงนะเนี่ย ขอให้ได้เป็น CEO ไวๆนะครับ ^^ Tiger Bood - จุดธูปช่วยได้จริงๆครับ แต่จุดตลอดคงไม่ไหว เพราะคนจะได้รับผลกระทบแน่นอน อนุโมทนาบุญครับ จันทร์สะท้อนเงา - ขอบคุณที่แนะนำ และอนุโมทนาบุญครับ ต่อmcu - ขอบคุณสำหรับคำแนะนำทั้งสองกระทู้เลย ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ สรุปว่า เจตนาเป็นสำคัญ ถ้าเรามองเป็นยา เป็นการป้องกันโรค ไม่ได้ใช้เพื่อความสวยงาม ประดับร่างกาย ประทินโฉม ก็น่าจะใช้ได้ใช่มั้ยครับ จากคุณ : Five Precepts เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 08:44:47

ความคิดเห็นที่ 14 #6. ส่วนเรื่องปฏิปทาของพระที่คุณทวนทองกล่าวถึงนั้น ผมเคยได้ยินท่านเจ้าอาวาสสายวัดป่าแห่งนึงกล่าวอบรมพระในวัดว่า "ยุงตัวนิดเดียว จะทานเลือดเราได้ขนาดไหนเชียว ทำใจบริจาคเลือดให้ยุงไปเลย พระป่าถ้าไม่เคยเป็นไข้ป่า อย่าพูดเลย ผมไม่เชื่อว่าเคยไปภาวนาที่ป่าหรอก พระป่าท่านมีจิตใจเข้มแข็งทุกรูป พร้อมที่จะสละตายเพื่อการภาวนา อย่าให้ยุงเป็นสิ่งที่สร้างอุปสรรคให้กับการภาวนาเลย ทำใจบริจาคเลือดให้เค้าไปเลย" (จากความจำนะครับ ประโยคอาจผิดเพี้ยนบ้าง แต่ได้ยินท่านพูดอบรมพระประมาณนี้ครับ) ตอนที่ได้ยินปฏิปทาแบบนี้ของท่าน ทำให้มองเห็นภาพของพระป่าที่ท่านภาวนาอยู่ในป่า ว่ามีจิตใจเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว และอดทนมาก ได้ชัดเจนขึ้นครับ จากคุณ : Five Precepts เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 08:58:05

ความคิดเห็นที่ 15 5555 ขนาดนั้นเลย แต่ก็อาจเป็นไปได้ เพราะที่วัดป่าน้ำโจน เค้าเคร่งมากนะ วิกาลโภชนาแบบธุดงควัตรด้วย คือ กินข้าวต้องกินมื้อเดียว อาสนะเดียว ครั้งเดียว ลุกแล้วห้ามกินอีกครับ :) จากคุณ : ฮิมาวาริซซัง เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 11:30:07

ความคิดเห็นที่ 16 เรียนคุณ Five Precepts   ตรงนี้ขึ้นกับวิจารณญาณของตัวเราเองว่า เราจะทำอย่างไรกับกรณีเช่นนี้ บางท่านก็ไม่เห็นความจำเป็นที่จะไปใช้สิ่งป้องกันเพราะสามารถทนทุกขเวทนาได้  ซึ่งก็อาจจะนำไปใช้ในการเจริญเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานได้  ซึ่งทำให้ก้าวหน้าในธรรมได้  แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องยอมรับผลซึ่งอาจจะเกิดได้เช่น  ติดเชื้อโรค  หรือ เกิดอาการคันที่ผิวหนัง   บางท่านก็เห็นว่า ยาทากันยุงเป็นสิ่งที่มนุษย์พัฒนาเพื่อให้ แมลงไม่รบกวน  พูดง่ายๆ คือ Win-win  ยุงเขาก็ไม่ตาย  เราก็ไม่เดือดร้อน  และเราก็สะดวกในการซื้อหรือหามาใช้    ส่วนพระป่า บางครั้งท่านก็ไม่มีความสะดวกในการจัดหาสิ่งพวกนี้ ซึ่งก็ต้องแก้ปัญหากันไป และอย่างที่ได้กล่าวว่า บางรูปต้องการปฏิบัติธรรมแบบเข้มงวด [ทุกขาปฏิปทา] ก็เป็นความเหมาะสมของท่าน     ผมเสนอไว้อีกอย่างหนึ่งว่า  สำหรับผู้ที่เป็นฆราวาสที่ไม่ได้อยู่ในป่าอย่างยาวนาน   เมื่อต้องไปปฏิบัติธรรมแล้ว ยังไงก็ต้องมาใช้ชีวิตทางโลก  ผมเสนอไว้ว่า  "ควรจะใช้ยาทากันยุง" เพราะหากติดเชื้อโรคจากยุง ก็ลำบากในการไปรับการรักษาและเสียการเสียงาน   สิ่งที่ต้องระวังคือ ไม่เอาการนำเรื่องยุงที่มาทำให้เกิดทุกขเวทนาทางกาย  มาเป็นการอวดว่า  "ฉันเก่งนะที่ไม่ต้องใช้ยาทากันยุง "   ซึ่งเป็นกิเลสยกตนข่มท่าน  และ ไม่นำมาเป็นการแบ่งแยกการเป็นพระป่าหรือพระบ้าน    จะเป็นพระที่ใดก็ตาม ถ้าปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จะที่ไหนก็ตาม น่ากราบไหว้ด้วยกันทั้งนั้น แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 53 11:40:17 แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 53 11:37:50 จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 11:37:08

ความคิดเห็นที่ 17 ว้า !!!  ว่าจะแจกกิฟท์ซะหน่อย กิฟท์หมดซะแล้ว ในยุคที่ยังไม่มียากันยุง  เวลาพระท่านเดินจงกรม  ยุงคงไล่ตอมกันเป็นพรวนเลยสินะ  ท่านคงต้องอดทนอดกลั้นมาก ๆ เลย  นี่เราเพียงแค่ได้ยินเสียงยุงมาบินวี่หวี่วี่หวี่ ๆ ๆ ๆ ข้าง ๆ ตัว ข้าง ๆ หู เรายังรู้สึกรำคาญเอามาก ๆ เลย พระท่านคงทำใจว่า ยุงตัวนิดเดียวบริจาคเลือดให้ยุงได้กินเป็นอาหารซะบ้างก็ดี กระมัง  สมัยก่อนโน้น พระท่านคงยังไม่รู้หรอกว่า ยุงเป็นพาหะของโรคต่าง ๆ จึงคงไม่ค่อยหวาดกลัว ไม่ค่อยหวาดระแวงกันเหมือนสมัยนี้นัก จากคุณ : ทวนทอง เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 13:53:21

ความคิดเห็นที่ 18 ได้ความรู้เรื่องยุงและธรรมะเยอะขึ้นเลยคะ ขอบคุณนะค๊า จากคุณ : jemuay เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 14:28:50

ความคิดเห็นที่ 19 ขอขอบคุณสำหรับทุกคำตอบ และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ ^^ จากคุณ : Five Precepts เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 20:28:57