 |
ความคิดเห็นที่ 11
และผมจะให้ข้อสังเกตง่ายๆว่า ทำไมจึงไม่จำเป็นต้องแก้ไขพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ในประเด็นนี้
๑. ควรทราบก่อนว่า ท่านธัมมนันทา หรือบรรดาคณะภิกษุณีที่ไปบวชมาจากศรีลังกาและมาอยู่ในประเทศไทยนั้น อยู่ในสถานะที่
- ตั้งคณะของตนขึ้นมาเอง - ตั้งวัตร (วัด?) ของตนขึ้นมาเอง ไม่ได้ขออนุญาตใคร - เมื่อมีคณะของตนเองแล้ว ก็บิณฑบาตกันได้เอง - มีการทอดกฐิน ทอดผ้าป่ากันได้เอง บรรดา "เอง" ทั้งหลายเหล่านี้ เป็นการชี้ให้เห็นได้ชัดว่า "แม้จะไม่มีกฏหมายอะไรๆมารองรับเลย ท่านภิกษุณีทั้งหลายก็ทำศาสนกิจกันได้เองอยู่แล้ว" จึงยังไม่เข้าใจว่า จะให้มีกฏหมายคณะสงฆ์ หรือพระราชบัญญัติคณะสงฆ์รองรับไปอีก เพื่ออะไร?
๒. จขกท. สงสัยว่า "ภิกษุณีที่บวชจากประเทศลังกา สังกัดคณะสงฆ์ลังกาวงศ์ (ไม่เกี่ยวกะคณะสงฆ์ไทยเรา) เมื่อมาอยู่เมืองไทย มีความขลุกขลักไม่สะดวก เพราะกฏหมายไทยไม่ถือว่าพวกเขาเป็นนักบวช เพราะงั้นจะทำโน่นนี่ก็ติดขัด พวกเขาก็เลยต้องการได้สิทธิตามกฏหมาย
การแก้กฏหมายดังกล่าว ไม่ได้เป็นการรับรองว่าภิกษณีขาดวงศ์แล้วหรือไม่ในทางธรรมวินัย ย้ำว่าไม่เกี่ยวกับการวินิจฉัยทางธรรมวินัย เป็นแต่ว่า คนต้องการใช้ชีวิตอย่างนักบวชแบบจริงจัง แล้วก็บวชมาถูกต้อง (ในแบบของเขา) ก็ควรจะได้สิทธิของเขาเท่านั้นเอง"
ข้อนี้เป็นความยังไม่รู้เนื้อหาและสถานการณ์แท้ของจขกท. (กรุณาอย่าเพิ่งคิดว่าผมตำหนิ ผมหมายถึงว่าจขกท.ยังไม่ทราบว่าเรื่องจริงๆนั้นมาอย่างไร) เพราะว่า กฏหมายทั้งหลายแหล่ในประเทศไทยนั้น ไม่สามารถที่จะ "รองรับสถานภาพความเป็นนักบวช" ให้กับใครๆได้เลย สถานภาพการเป็นนักบวชนั้น มีอยู่เป็นอยู่เองโดยข้อบัญญัติทางศาสนา ไม่ใช่จากการรองรับทางกฏหมาย
จขกท.สงสัยว่ามีความขลุกขลักไม่สะดวกในเรื่องนั้นเรื่องนี้ ผมได้อธิบายไปแล้วทั้งใน คห.ที่ ๑๐ และใน ข้อที่ ๑ ว่า คณะภิกษุณีของหลวงแม่ธัมมนันทานั้น "ไม่มีความติดขัดอะไรทั้งสิ้นในการปฏิบัติศาสนกิจของท่าน แม้แต่นิดเดียวเลย" การใช้ชีวิตนักบวชนั้น ความจริงแล้วจะใช้ชีวิตรูปแบบไหนอย่างไรนั้น มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับกฏหมายอะไรเลย กฏหมายไม่สามารถรองรับการใช้ชีวิตแบบนักบวช หรือผู้สละเรือนได้ มีเพียงแต่ความประพฤติและข้อปฏิบัติทางศาสนานั้นๆเท่านั้น
ดูกันง่ายๆเช่นนักบวชที่เรารู้ๆกันอยู่ว่า ไม่ใช่พระ และประพฤตินอกรีตพระธรรมวินัย สั่งสอนในสิ่งที่ทำพระธรรมวินัยให้วิปริต อย่างสันติอโศก ก็ไม่เคยมาเรียกร้องขอกฏหมายรับรองสถานภาพนักบวชอะไร (และดูเหมือนจะไม่สนใจด้วยซ้ำว่าใครจะเห็นตนเป็นนักบวชหรือไม่ ขนาดสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ยังไปทำได้เฉยเลย ทั้งๆที่มีข้อห้ามตามรัฐธรรมนูญ)
อีกอย่างหนึ่งถ้าหากมีใครสงสัยว่า แล้วกฏหมายคณะสงฆ์ หรือพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ล่ะ คืออะไร? พระราชบัญญัติคณะสงฆ์นั้น เป็นเพียงพระราชบัญญัติที่มีไว้เพื่อการบริหารปกครองคณะสงฆ์ให้มีประสิทธิภาพ (ถึงแม้ดูๆไปจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ) มีบทลงโทษต่างๆ มีเรื่องการตั้งวัด ความหมายของวัด หน้าที่ของเจ้าอาวาส) ไม่มีระบุไว้เลย ถึงเรื่องการรับรองสถานภาพการบวชหรือการเป็นนักบวชของใครๆ เป็นเพียงแต่บอกว่า "... นี้ คือคณะสงฆ์ไทย" , "..... นี้ คือคณะสงฆ์อื่น (อนัมนิกาย จีนนิกาย)"
ดูเหมือนจะแยกกัน และไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ความจริงแล้วก็ผูกกันกลายๆ คือ มีสมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็น "พุทธบริษัทคารวะสถาน" คือทรงดำรงพระสถานะเป็นที่เคารพสักการะของพุทธบริษัทโดยรวม และทั้งคณะสงฆ์จีนนิกายก็ดี อนัมนิกายก็ดี ล้วนอยู่ในการปกครองของสมเด็จพระสังฆราช (แต่มีอิสระในการบริหารจัดการคณะสงฆ์ในจีนนิกาย และอนัมนิกายของตนๆ ในระดับหนึ่ง) รวมถึงการขอพระราชทานสมณศักดิ์ในคณะสงฆ์จีนนิกายและอนัมนิกาย ก็ต้องเสนอผ่านสมเด็จพระสังฆราชด้วยเหมือนกัน
ถ้าหากว่าท่านธัมมนันทา หรือคณะภิกษุณีสงฆ์ศรีลังกาวงศ์ที่ว่านี้ จะมาอยู่ในคณะสงฆ์อื่น ก็ต้องอยู่ในการปกครองของสมเด็จพระสังฆราชด้วย จะยอมไหม? อีกประการหนึ่ง แม้ในพระราชบัญญัตินี้จะพูดถึงคณะสงฆ์อื่น ซึ่งก็คือ บรรพชิตจีนนิกาย และอนัมนิกาย ก็จริง แต่ปัญหาก็คือ
๑) บรรพชิตจีนนิกาย และอนัมนิกายนั้น เป็นพระภิกษุในสายนิกายมหายาน (ทั้งจีน ทั้งญวน เป็นมหายาน) เพราะเหตุนั้นจึงใช้ว่า คณะสงฆ์อื่น เพราะไม่ใช่คณะสงฆ์ในนิกายเถรวาท
๒) ถ้าหากจะมีคณะภิกษุณีศรีลังกาวงศ์ อยู่ในคณะสงฆ์อื่นด้วย ก็ต้องหมายความว่า ภิกษุณีกลุ่มนี้ ไม่ใช่เถรวาท (ทั้งๆที่ศรีลังกาก็มีแต่สายนิกายเถรวาท) แต่ท่านหลวงแม่ธัมมนันทาก็ยืนยันมาตลอดว่าตนเองเป็นเถรวาท หรือถ้าจะบอกว่า ที่ว่าคณะสงฆ์อื่นนี้ ไม่ได้หมายเอา หรือเหมารวมว่าทุกคณะสงฆ์ที่อยู่ในคำจำกัดความว่า คณะสงฆ์อื่นนั้น จะไม่ใช่สายเถรวาทหรือนิกายไหนๆ แต่หมายเฉพาะ ที่ไม่ได้บวชและอยู่ในคณะสงฆ์ไทยเท่านั้นเอง ถ้าเอาอย่างนั้นก็ได้ แต่จะมีปัญหาอีกอย่างหนึ่ง คือท่านธัมมนันทา ท่านเรียกร้องมาตลอดว่า ตัวท่านนั้นจะต้องเป็นภิกษุณี "ในคณะสงฆ์ไทย" , "ในสายเถรวาทไทย" , "คณะสงฆ์ต้องยอมให้พระภิกษุในคณะสงฆ์ไทย สามารถยกท่านขึ้นอยู่ในคณะสงฆ์ได้" (คือต้องยอมเป็นหนึ่งในสงฆ์สองฝ่าย ในการบวชภิกษุณี)
ถ้าหากว่าจะเป็นภิกษุณีศรีลังกาวงศ์ หรืออะไรวงศ์ก็แล้วแต่ อยู่ในคณะสงฆ์อื่นได้ ก็คงได้ล่ะ ไม่มีปัญหาอะไร แต่นั่นจะเท่ากับเป็นการบอกว่า "คุณก็อยู่ในศรีลังกาวงศ์ของคุณนั่นแหละ อย่ามาเกี่ยวข้องอะไรกับคณะสงฆ์ไทย" ท่านธัมมนันทายอมหรือเปล่า?
๓) ในเมืองไทยนอกจากจะมีภิกษุณีที่บวชจากศรีลังกา ที่ท่านธัมมนันทาเป็นหัวหน้าอยู่ในตอนนี้แล้ว ยังมีคณะภิกษุณีอื่นๆอีก เช่น ท่านภิกษุณีอัมพิกา คูวินิชกุล ที่ไปบวชมาจากไต้หวัน วัดโฝวกวงซัน, พระภิกษุณีที่มีสำนักอยู่ที่ซอยโชคชัย ๔ ถ้าท่านถามว่า "ทำไมจึงจะต้องมีแต่ภิกษุณีที่ไปบวชมาจากศรีลังกาเท่านั้น จึงได้อยู่ในกลุ่มคณะสงฆ์อื่น แล้วพวกฉันล่ะ ไม่ใช่ภิกษุณีหรือไม่ใช่นักบวช หรืออย่างไร"
ปัญหาจะเกิดขึ้นมากกว่าเดิมเสียอีก เพราะมีอีกหลายคำถามที่ยังไม่มีคำตอบเลย
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 23:46:20 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 23:35:04 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 23:33:09 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 22:56:20
จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 22:53:01 -----------------------------
คำตอบดังรูปภาพด้านล่าง
แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 53 16:27:42
จากคุณ |
:
ชาล้นถ้วย
|
เขียนเมื่อ |
:
วันรัฐธรรมนูญ 53 16:25:09
|
|
|
|
 |