Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สั้นๆ กระทู้เตือนภัย ---- อนุตตรธรรม ---- ติดต่อทีมงาน

ที่ขึ้นกระทู้นี้ เพราะเมื่อวาน ไปเจอคนที่นับถืออนุตตรธรรมพยายามมาชักชวนไปเข้าลัทธิอย่างจริงจัง   ไอ่เราก็ชาวพุทธชั้นดี แย้งไปเสียทุกข้อ

โธ่..ก็ข้อที่ยกมาแต่ละอย่าง มันมีแต่คนที่ไม่ได้โน้มใจไปพิจารณา เทียบเคียงกับพระธรรมคำสอนพระพุทธองค์เท่านั้นแหละจะเชื่อ(แต่จะมีสักกี่คนที่จะพิจารณาแบบนี้ สาวกลัทธินี้ จึงมีอย่างมากมาย)

ง่ายๆเขาจะชวนไป 'รับธรรมะ' ศัพท์ของลัทธินี้เขา หลักการคือให้กินเจระยะหนึ่ง แล้วไปรับธรรมะ การเจิมหน้าผาก  หลังจากนั้นให้นั่งสมาธิทุกวัน  กินเจ ตลอดชิวิต แล้วได้ไปนิพพาน ..มันง่ายดีจริงๆ

มีมากกว่านั้นอีก คือ ถ้าไม่ไปรับธรรมะกับเขา จะไม่มีรายชื่อบนสวรรค์
ถึงปฎิบัติภาวนาจนเข้าพระนิพพานแล้ว ก้เข้าแดนพระนิพพานไม่ได้
ต้องกลับลงมารอ การรับธรรมะจากเขา เพราะเขายังไม่ได้เปิดจุด  มโนทวารบนใบหน้าให้เรา ( --" )

อ้างว่าคนทุกคน มีจิตบริสุทธิ์ ล้วนมีต้นกำเนิดมาจากแดนนิพพาน(นิพพาน คือ หมดเชื้อเกิดแล้ว มันจะมาจากแดนนิพพานได้อย่างไร แต่อนุตตรธรรมมันก็อ้างมาได้ ไปค้นเรื่องจิตเดิมแท้ มาสนับสนุนตน)     ถือโอกาสที่พระพุทธเจ้า สอนว่าสิ่งเหล่านี้เป็นอจินไตย(แปลสั้นๆสำหรับคนไม่ทราบว่า คือ  สิ่งที่ไม่จำเป็นต้องไปรู้)
ในเมื่อ พระพุทธองค์ไม่บอกว่าคนเรามาจากไหน    แต่ลัทธิเขารู้ บอกได้ (แน่นอน เขาไม่ยอมรับว่าเป็นลัทธิ แต่อ้างว่าธรรมอันเที่ยงแท้ รากฐานของการใช้ชิวิต ก็แน่ละ มันไปเอาแก่นของดีของทุกศาสนามาใช้นี่หว่า)    
อนุตตรธรรมอ้างอีกด้วย ว่าพระพุทธองค์ได้บอกใบ้ เป็นการรู้กันกับพระมหากัสปะ เรื่องผู้คนมาจากแดนนิพพาน

http://www.vithi.com/vithi05.html
ความลับของ "อนุตตรธรรม" ถูกซ่อนเร้นไว้ในพระคัมภีร์พระสูตรต่างๆ เพื่อรอการเปิดเผยเมื่อเวลามาถึง ในพระสูตรของพุทธศาสนาบทหนึ่งได้กล่าวว่า ครั้งนั้นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงถือดอกบัวไว้ในมือแล้วชูขึ้นตรงหน้าพระพักตร์

พระสงฆ์สาวกทั้งหลายที่มาประชุมกันต่างฉงนสงสัยเป็นอย่างมาก มีเพียงพระมหากัสสปะเท่านั้นที่รู้ถึงปริศนาซึ่งพระพุทธองค์ทรงแสดง ท่านจึงยิ้มออกมาเป็นการรับรู้พุทธประสงค์

พระบรมศาสดาจึงเปล่งธรรมกถาขึ้นว่า
"ตถาคตมีธรรมอันซ่อนอยู่ภายในดวงตา "นิพพาน" สถิตอยู่ในใจของทุกคน สัจจธรรมนี้ไร้รูปลักษณ์และไม่สามารถบอกกล่าวเป็นคำพูด ตถาคตได้ถ่ายทอดสัจจธรรมอันสูงสุดนี้ให้แก่พระมหากัสสปะแล้ว"
^
^
เรียกว่า ตีความคำสอนพระพุทธองค์  สนับสนุนตามความเห็นผิดของตนเต็มๆ


คนที่อ่านมาถึงตรงนี้ ชาวพุทธที่พากเพียรภาวนา  อาจจะบอกว่า ป.ญ.อ. ใครจะเชื่อ(แต่มีคนเชือเยอะมากนะคุณ)
เพราะเขามีหลักการ ที่ฟังแล้วน่าเชื่อ  สำหรับคนไม่รู้จักศาสนาของตนเองดีนะซิ

หลักการดังกล่าว มีการดึงเอาหลักจริยธรรม คุณธรรม อริยสัจ4 อริยมมรค8 พระบัญญัติจากศาสนาคริสต์ จากคัมภีร์อัลกุรอาน ไปผสมเป็นหลักการพื้นฐานของผู้เดินทางสายลัทธินี้
นำไปใช้แบบแนบเนียนด้วย  เนียนๆคืออะไร คือการอ้างแก่นคำสอนที่มา ว่ามาจากศาสนาไหนๆ ยกมาเลยทั้งกะบิ ของดีๆจะไปตัดทอนทำไม เพื่อคนในศาสนานั่นๆ จะได้คล้อยตามโดยง่าย ไม่ต้องเลิกนับถือศาสนาเก่า  
กรอบจริยธรรมในการอยู่ในสังคมอันดีงามต่างๆ ล้วนยกมาทั้งหมด  ผู้เข้าร่วม โดยรวมจะเป็นผู้เมตตา อยู่ในศีลธรรม มีความประพฤติที่ดีขึ้น และเข้าใจว่าตนได้ไปพระนิพพานแน่ๆ...สำคัญตรงนี้แหละ  ทำแค่นี้ ได้ไปนิพพานแน่ๆ ...

ที่มีแปลกๆยิบย่อย พวกฤทธิ์ ปาฎิหารย์  ไม่มีในพระธรรมคำสอน ไม่ปรากฎในพระไตรปิฎก แต่ของเขามี  ซึ่งเราไม่ได้จำมาในรายละเอียด   ที่เล่าข้างบนเป็นแค่ตัวอย่างใจความสำคัญที่อ้างว่า ไปพระนิพพานได้เท่านั้น    ชาวพุทธในทะเบียนจำนวนมาก ที่ไม่ได้ศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างถ่องแท้   วันๆทำงานหาเลี้ยงตัว  ชิวิตสุกๆดิบๆ ทำทานบ้าง ศีลมีบ้าง ไม่มีบ้าง    ไม่ได้ปฎิบัติธรรม ภาวนา จมอยู่กับความไม่รู้จริง   ต้องเข้าใจว่า ลัทธินี้เป็นแก้ววิเศษ ย่อมยินดีปรีดาแน่ๆ

อะไรได้มาโดยง่ายแบบนี้  คนกลุ่มหนึ่ง และจำนวนมากที่ยังทำบารมีไม่ครบ ยังไม่ได้เจริญภาวนาสติปัญญาณ 4  ได้ความสุขระงับ จากรสพระธรรม   ย่อมหลงทางไปเชื่อโดยง่าย  ปกติเรื่องชาวบ้านไกลตัว เราคงไม่สนใจ นี่หันมาดู เฮ้ย(เรียกว่าสะดุ้งโหยง)..คนที่จะทำธุรกิจด้วย เขาก็หันไปเอาทางนี้

เพื่อนเขาก็พยายามมาชวน สังขารคนพวกนี้ ปรุงไปว่าตนเองนั้น ไม่ได้คิดไปเองว่ามันดี   แต่เป็นความสุขที่ออกมาจากใจของพวกเขาโดยแท้ เพราะคิดว่าได้เจอธรรมแท้  ได้ประพฤติทำตัวดีขึ้น ได้เมตตาต่อสรรพสัตว์(กินเจ)  จะได้พ้นจากความตายที่มาจากภัยภิบัติที่กำลังมาถึงในเร็ววันนี้

ความไม่รู้ มิจฉาทิฐิของคนพวกนี้ น่าสงสารมาก สำหรับชาวพุทธแท้ๆ
เช่น อ้างว่าคนที่ได้ฌาน ทำฌานสมาบัติได้ ยังไปรับธรรมะจากเขา
เช่น อ้างว่าพระที่บรรลุพระนิพพานได้ ยังต้องรอรับธรรมะจากเขา
เช่น ภัยพิบัติ ที่กำลังมา คนที่นับถือสายนี้ จะพ้นภัยพิบัติ ได้  

สามข้อบน คงไม่ต้องบอกว่าจะแย้งอย่างไรนะ  แต่คนเวลามันจะเชื่อ ไม่มีใครไปสอบทานหรอก ว่าไอ่หน้าเหรอ ที่อ้างว่าได้สมาบัติแล้ว ยังไปรับธรรมะ หรือ ได้ฌานจริงๆ หรือ นั่งหลับ
หรือ แม้แต่ได้ฌานจริงๆแล้ว มันเป็นไปเพื่อการพ้นทุกข์ไหม
เอ้า..คนไม่ได้ปฎิบัติ  ก็คิดว่าได้ฌาน นี่ใกล้พระพิพพาน
ตรงนี้ มันเริ่มอธิบายกันลำบาก จะบอกว่าใกล้ สำหรับคนเข้าใจ ในการพิจารณาพระไตรลักษณ์
และคงบอกว่าโค ต ระ ไกลนิพพาน สำหรับคนที่ไปติดในความสุขสงบนั้น
อธิบายแบบนี้ สำหรับคนไม่ภาวนา มันจะไปเข้าใจอะไรละฮึ!


มิจฉาทิฐิที่มีในตัวบุคคลทุกระดับ มันแก้ได้ง่ายๆเสียที่ไหน  จะเห็นสัมมาทิฐิได้ ต้องพากเพียรภาวนา ต้องปัจจตัตัง  รู้เอง เห็นเอง  แล้วจะมีสักกี่คน ที่กำลังเดินทางที่ถูกอยู่    คนหลงผิด จึงมีจำนวนมากกกว่ามากๆๆๆนัก  

นี่ยังไม่รวมศาสนาอื่นๆนอกจากพุทธ  อันได้แก่ คริสต์ อิสลาม เต๋า ขงจื้อ ที่โดนอุปโลกให้เป็นกิ่งก้านสาขาของเขาไปเรียบร้อย เรียกได้ว่า กินรวบหมดจดยกวงเลยทีเดียว  โดยตั้งตนเองเป็นรากแก้ว ของเหล่าศาสนาที่มีอยู่ทั้งหลายก่อนหน้า

เขียนไปเขียนมา ชักยาว เอาว่าที่เขียนไว้เนี่ย  คนที่มาชวนเรา พูดจาก็ ไม่ได้รู้เรื่องการภาวนาหรอก แต่รู้หลักของอนุตรธรรมแม่นมากอยู่  
ส่วนคนที่ไม่ได้ภาวนา ไม่ได้รู้หลักการปฎิบัติธรรม  ฟังไป ก็อาจหลงคล้อยตามไปโดยง่าย ใครมีเพื่อน พี่ ญาติที่ไหนมาชักชวนไปเข้า
หวังว่ากระทู้นี้ จะช่วยให้ผ่านตา ผ่านจิตใจตนเองสักแว่บ ว่า อนุตตรธรรมนี่แหละภัยพระพุทธศาสนา และศาสนาอื่นๆด้วย  เป็นทางเห็นผิด ไม่ได้ทำให้พ้นทุกข์ด้วยการไปพระนิพพานได้จริง  (แต่เป็นทางที่ทำให้คุณได้ทำบุญ ทำทาน เป็นผู้เป็นคนที่ดีขึ้นในสังคมเท่านั้น)

ทางสายเอกสายเดียวที่จะพ้นทุกข์ได้ พระพุทธองค์สอนไว้ คือ การปฎิบัติธรรมภาวนา การเจริญสติปัญญฐาน4  ส้รางรากฐานจากการทำทาน ถือศีล และภาวนา
สติปัญญฐาน4  อันประกอบด้วย การพิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรมเท่านั้น..ย้ำว่าเป็นทางสายเอก สายเดียว
-- ไม่มีทางสายอื่นๆอีกแล้ว--


ที่เหลือ การทำทาน การถือศีล การกินเจ(ใจมีความปิติในบุญที่ได้ทำ) เป็นไปเพื่อสวรรคสมบัติเท่านั้น   ไม่ใช่นิพพานสมิบัติ

การจะพ้นทุกข์ได้โดยแท้จริง  เราต้องพากเพียรทำด้วยตนเอง  ใจจะได้รู้ตื่น สว่างเบิกบานจากปัญญาญาณ จากผลของการพากเพียรภาวนา   ไม่ใช่จากปิติสุขอิ่มบุญเล็กๆน้อยๆ  หรือ ปิติจากการทำทาน  จากการมีใครมามอบธรรมะ มาแต้มหน้าให้  ท่องรหัส 5คำ ผ่านประตู  แล้วจะพ้นทุกข์ไปพระพิพานได้  ..อย่าหลงไปง่ายๆ..

คนปัญญาน้อย ศึกษาพระพุทธศานาเพื่อการพ้นทุกข์สำหรับตนเอง อย่างเรา ก็คงเตือนสติด้วยความปรารถนาดีต่อเพื่อนร่วมสังสารวัฎกันได้เพียงเท่านี้  ถ้าทำให้ใครขัดเคืองก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 13:59:49

แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 13:38:09

แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 04:31:55

จากคุณ : น้องต๋าว
เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 03:49:03




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com