Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย สอนเรื่องการภาวนา และการเจริญสติ ติดต่อทีมงาน

ขอแบ่งปันครับ ฟังแล้วรู้สึกดี

จะกำหนดจิตก็ตาม ไม่กำหนดจิตก็ตาม จะตั้งใจภาวนาก็ตาม ไม่ตั้งใจภาวนาก็ตาม จิตของเค้ามีแต่ความคิดเกิดขึ้นมาอยู่ ไม่หยุดหย่อน  เค้าก็เข้าใจว่าจิตของเค้าฟุ้งซ้าน เพราะความที่ไปติดในความสงบที่เคยผ่านมาแล้ว ในเมื่อจิตมีภาพเปลี่ยนแปลงอย่างงั้น เข้าจึงเข้าใจผิดว่า เมื่อจิตมีความคิดอยู่ไม่หยุด เค้าว่าจิตของเค้าฟุ้งซ้านจิตฟุ้งซ้าน หรือจิตไม่ฟ้งซ้านนั้น เรามีข้อสังเกตุอย่างนี้

ในเมื่อจิตของเรามีความคิด และมีสติสัปะชัญญะรู้พร้อม อยู่ที่ขณะจิตที่มีความคิด คิดสักแต่ว่าคิด คิดแล้วปล่อยวางไป คิดแล้วปล่อยวางไป ไม่ยึดอะไรไว้สร้างปัญหาไว้ให้ตัวเองเดือดร้อน อันนี้ท่านเรียกว่า ปัญญาในสมาธิ หรือสมาธิปัญญา เป็นปัญญาที่เกิดจากการภาวนา เรียกว่า ภาวนามยปัญญา จิตคิดเอง สติตามรู้เอง โดยอัตโนมัติ

ถ้าความคิดอันไดที่เกิดขึ้นแล้ว ทำให้เราดีใจ เสียใจ ทุกข์ใจไป เพราะสติอ่อนตามรู้ไม่ทัน ไม่รู้จักปล่อยวาง อันนี้เรียกว่าความฟุ้งซ้าน
เพราะฉะนั้น นักภาวนา พึงทำความเข้าใจให้ดีว่า ศีลอบรมสมาธิ สมาธิอบรมปัญญา ปัญญาอบรมจิต

มีคำเตือนที่พระพุทธเจ้าทรงประทานไว้ว่า ทรงทำศีลให้เป็น อธิศีล ทำจิตให้เป็น อธิจิต ทำปัญญาให้เป็น อธิปัญญา ทำศีลให้เป็น อธิศีล หมายถึง ศีลที่เราเจตนายกเว้นจนคล่องตัว ฝึกจนชำนิชำนาน เจตนาที่จะละเว้นความชั่วตามกฏของศีลนั้น ดูประหนึ่งว่า เราไม่ได้ตั้งใจที่จะงดเว้นสิ่งนั้นๆ แต่จิตของเราเป็นปกติอยู่เองโดยอัตโนมัติ เรียกว่าศีลเป็นเอง จะตั้งใจก็มีศีล ไม่ตั้งใจก็มีศีล ศีลอย่างนี้ท่านเรียกว่าเป็น อธิศีล ในทางจิตสมาธินั้น จะตั้งใจจิตก็สงบ ไม่ตั้งใจจิตก็สงบ เรียกว่า อธิจิต ทีนี้ปัญญา ความคิดที่มันเกิดขึ้นนั้น จะตั้งใจคิดมันก็คิด ไม่ตั้งใจคิดมันก็คิด สติสัปชัญญะรู้พร้อมอยู่ทุกขณะจิตที่เกิดมีความคิด ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ ท่านเรียกว่า อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา เพราะฉะนั้น นักปฏิบัติทั้งหลาย บางทีไม่เข้าใจในความเป็นไปในภูมิจิตภูมิใจของตัวเอง

เมื่อเราทำสมาธิไปจนคล่องตัวชำนาญแล้วมันเกิดปัญญา พอเกิดปํญญา คือความรู้  ความคิด สิ่งที่ไม่เคยรู้ ก็รู้ สิ่งที่ไม่เคยเห็น ก็เห็น  ธรรมะที่ไม่เคยรู้เห็น มันก็ผุดขึ้นมารู้เองโดยอัตโนมัติ ทีนี้ผู้ปฏิบัติบางท่านไปเข้าใจว่า จิตมันคิดไม่หยุด จิตมันฟุ้งซ้าน อาจารย์ใหญ่เคยให้สติเตือนใจไว้ว่า .”เวลานี้จิตของข้ามันไม่สงบมีแต่ความคิด” ลูกศิษย์ที่ฟังดูเผินๆ ก็ว่าจิตของอาจารย์ของเรานี้เสื่อมแล้ว เมื่อไปเรียนถามท่านจริงๆ แล้ว ท่านก็จะตอบว่า ถ้าจะเอาแต่สงบอย่างเดียว มันก็ไม่ก้าวหน้า เพราะฉะนั้น สาธุชลผู้ปฏิบัติทั้งหลาย พึงสังเกตุ ความเป็นไปของจิต ของตนเองให้ดี ถ้าหากว่าจิตของท่านมีสภาพเป็นอย่างนั้น เมือก่อนเคยสงบดี แต่เวลานี้มีแต่ความคิด ก็ขอให้ท่านปล่อยให้มันคิดไป แล้วก็ตั้งใจไว้ว่า แกจะคิดไปถึงไหน ฉันจะตามดูแก ความคิดที่มันเกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัตินั้นแหละ ท่านเรียกว่า วิตก สติที่รู้อยู่เรียกว่า วิจาร เมื่อเราไม่ไปขัดใจมัน ปล่อยให้มันคิดไป กำหนดทำสติตามรู้เรื่อยไป ในที่สุดมันก็จะเกิด ปิติ เกิดความสงบ  เกิดความเป็นหนึ่ง เข้าไปสู่ อัปนาสมาธิ อัปนาฌาณได้ เหมือนที่เราทำบริกรรมภาวนา อันนี้เป็นวิถีทางของจิต ของนักปฏิบัติจะพึงดำเนินไป และอีกอย่างหนึ่งการปฏิบัติสมาธิในสมัยปัจุบันนี้


ขอขอบคุณ ที่มา : http://www.dharma.in.th/%e0%b8%98%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a1%e0%b8%b0/%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%a7%e0%b8%87%e0%b8%9e%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%9e%e0%b8%b8%e0%b8%98-%e0%b8%aa%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b8%95%e0%b8%b4.html#more-308

จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา
เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 08:55:38




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com