ละทิ้งอิสลามคืออะไร? ใครละทิ้ง? ละทิ้งอย่างไร? เนื้อหาในตำราให้เกลียด คริสเตียนและ ยิวจริงหรือไม่? เพราะสาเหตุใด? คุณแมทท์มีอ้างอิงหรือไม่? คุณแมทท์ลองระบุรายละเอียดหน่อยดีไหมครับ? ผมเห็นแต่สถิติการเข่้ารับอิสลามอย่างมากมายในตะวันตก ที่สวนทางกับกระแสสร้างภาพน่าเกลียด น่ากลัวแก่อิสลาม ที่ทำให้ผู้คนเข้าไปแสวงหาความจริงเพิ่มมากขึ้น หรือคุณแมทท์ก็ทำได้เพียงโฆษณาชวนเชื่อ และสร้างภาพ เหมือนกับที่รัฐบาลประเทศที่คุณอยู่ถนัดใช้วิธีการนี้เท่านั้นเอง?
"สอนให้เกลียดชัง กับสอนให้รู้เท่าทัน" ต่างกันครับ กรุณาแยกแยะ ...ลองพิจารณาดูนี่ ว่าพระเจ้าได้ตรัสไว้อย่างไร
+++++++++++
109 อะฮ์ลุลกิตาบมากมาย[1] ชอบ หากพวกเขาจะสามารถทำให้พวกเจ้ากลับเป็นผู้ปฏิเสธการศรัทธาอีก ทั้งนี้เพราะความอิจฉาริษยาที่มาจากตัวของพวกเขาเอง หลังจากความจริงได้ประจักษ์แก่พวกเขา ดังนั้น พวกเจ้าจงให้อภัย และเบือนหน้าเสีย[2] จนกว่าอัลลอฮ์จะประทานคำสั่งของพระองค์มา แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง
[1] หมายถึงชาวคัมภีร์ ซึ่งได้แก่ชาวยิวและชาวคริสเตียน
[2] ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
110 และพวกเจ้าจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาดเถิด และจงชำระซะกาตเสีย และความดีใด ๆ ที่พวกเจ้าได้ประกอบล่วงหน้าไว้สำหรับตัวของพวกเจ้าเอง พวกเจ้าก็จะพบมัน ณ ที่อัลลอฮ์ แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงเห็นในสิ่งที่พวกเจ้าปฏิบัติกันอยู่
111 และพวกเขากล่าวว่า จะไม่มีใครเข้าสวรรค์เลย นอกจากผู้ที่เป็นยิวหรือเป็นคริสเตียนเท่านั้น[1] นั่นคือความเพ้อฝันของพวกเขา จงกล่าวเถิด (มูฮัมมัด) ว่า พวกท่านจงนำหลักฐานของพวกท่านมา ถ้าพวกท่านเป็นผู้พูดจริง
[1] ต่างฝ่ายต่างก็อ้างว่าฝ่ายตนเท่านี้จะได้เข้าสวรรค์
112 หาใช่เช่นนั้นไม่[1]ผู้ใดที่มอบใบหน้าของเขา[2] ให้แก่อัลลอฮ์ และขณะเดียวกัน เขาก็เป็นผู้กระทำความดีแล้วไซร้ เขาจะได้รับรางวัลของเขา ณ ที่พระเจ้าของเขา และไม่มีความกลัวใด ๆ แก่พวกเขา และทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ
[1] หาใช่ตามที่ชาวยิวและคริสต์กล่าวอ้างแต่อย่างใดไม่
[2] หมายถึงทั้งชีวิตและร่างกาย
[3] หมายถึงทั้งในโลกนี้และปรโลก
113 และชาวยิวกล่าวว่า ชาวคริสต์นั้นมิได้ตั้งอยู่บนสิ่งใด[1] และชาวคริสต์ก็กล่าว่า ชาวยิวก็มิได้ตั้งอยู่บนสิ่งใด ทั้ง ๆ ที่เขาเหล่านั้นอ่านคัมภีร์กันอยู่ ในทำนองเดียวกัน บรรดาผู้ที่ไม่รู้ก็ได้กล่าวเช่นเดียวกับคำกล่าวของพวกเขา ดังนั้นในวันกิยามะฮ์[2] อัลลอฮ์จะทรงตัดสินระหว่างพวกเขาในสิ่งที่พวกเขาขัดแย้งกัน
[1] คือมิได้ตั้งอยู่บนศาสนาที่ถูกต้อง
[2] วันที่มนุษย์ถูกให้ฟื้นคืนชีพ เพื่อรับการตอบแทน
(2 : 109 - 113)
.....................
และพวกเจ้าอย่าโต้เถียงกับพวกอะฮ์ลุลกิตาบเว้นแต่ด้วยวิธีที่ดีกว่า(*1*)นอกจากบรรดาผุ้อธรรมในหมู่พวกเขา(*2*)และพวกเจ้าจงกล่าวว่า เราศรัทธาในสิ่งที่ถูกประทานแก่เรา และสิ่งที่ได้ถูกประทานแก่พวกเจ้า(*3*) และพระเจ้าของเราและพระเจ้าของพวกเขาเป็นเอกะ (*4*) และเราเป็นผู้นอบน้อมต่อพระองค์
(1) คืออย่าเรียกร้องหรือโต้เถียงพวกอะฮุลุกิตาบ(คือพวกคริสเตียน และพวกยิว) ไปสู่อิสลามในเรื่องของศาสนาเว้นแต่ด้วยวิธีการที่ดีกว่า เช่น การนำสัญญาณต่าง ๆ และหลักฐานที่ชัดแจ้งมาแถลง
(2) คือเว้นพวกอธรรม พวกต่อสู่เพื่อเป็นศัตรูกับพวกท่าน พวกเหล่านี้จึงโต้แย้งกับพวกเขาด้วยวิธีรุนแรงได้
(3) คือเราศรัทธาต่ออัลกุรอานที่ถูกประทานมาแก่เรา และต่ออัลเตารอฮ์และอัลอินญีล ที่ถูกประทานมาแก่พวกท่านมีรายงานจากอะบูฮุรอยฮ์เราะฮ์กล่าวว่า พวกอะฮุลุลกิตาบได้อ่านคำภีร์อัตเตารอฮ์ ด้วยภาษาฮิบรู (ภาษาของพวกยิว) และได้อธิบายออกมาเป็นภาษาอาหรับแก่พวกมุสลิมีน ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า พวกท่านอย่าไปเชื่ออะฮ์ลุลกิตาบและอย่าไปปฏิเสธพวกเขา และจงกล่าวว่าเราศรัทธาต่อที่ถูกประทานมาแก่พวกท่าน
(4) พระเจ้าของเราและพวกท่านนั้นเป็นองค์เดียวกัน ไม่มีพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับพระองค์ เรานอบน้อมและยอมจำนนต่อข้อชี้ขาดและคำบัญชาของพระองค์
(29 :46 )
++++++++++++++
กุรอานได้กล่าวถึงลักษณะนิสัยโดยทั่วไปของชนกลุ่มนี้ไว้หลายแห่งด้วยกัน และได้วางท่าทีของมุสลิมต่อพวกเขาไว้อย่างชัดเจน และสิ่งที่คุณแมทท์อ้างก็เป็นเพียงการยกเมฆ ปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเพียงเท่านั้น หาได้มีการอ้างอิงที่สามารถระบุชัดเจนลงไปได้ว่า ประเทศซาอุดิอะราเบียที่อ้างว่าเป็นแม่บท??? หรือบรรดามุสลิมที่อาจถูกสร้างภาพว่าเป็นส่วนใหญ่ หรือตัวแทนผู้เคร่งครัดในศาสนา ได้กระทำการเกินคำกล่าวในกุรอานอย่างไร???
ส่วนการเกลียดชัง และการตอบโต้ต่อการรุกราน และการสังหารหมู่ผู้บริสุทธิ์เพื่อแย่งชิง ดินแดน และทรัพยากรน้ำมัน และแร่ธาตุโดยตั้งผู้ดูแลผลประโยชน์ในตะวันออกกลาง และส่วนต่างๆในโลกของบรรดามหาอำนาจ โดยเฉพาะท่าทีของอิสราเอล และสหรัฐนั้น เป็นเรื่องที่ขยายตัวไปทั่วโลกอยู่แล้ว หาได้มีความเกลียดชังเฉพาะเพียงมุสลิมในตะวันออกกลางเพียงประชาชาติเดียวอย่างที่คุณแมทท์กล่าวเพียงลอยๆไม่ แต่ผู้รักความยุติธรรมทั่วโลกก็มีการต่อต้านในคุณลักษณะดังกล่าวของมหาอำนาจเหล่านี้ด้วยเช่นเดียวกัน กรุณาอย่าเอามาผสมโรง "คลุกเคล้าความจริง ด้วยความเท็จ" ด้วยวิธีการเดิมๆที่คุณถนัดอีกก็แล้วกันนะครับ
รอดูอยู่นะครับ
คำเตือน โปรดอ่านกระทู้ใส่ใคล้อิสลาม และมุสลิมของคุณแมทท์อย่างมีวิจารณญานและรู้เท่าทัน
ด้วยความปรารถนาดี
แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 54 12:20:37
แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 54 09:44:33
แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 54 09:40:35
แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 54 09:29:59