ความคิดเห็นที่ 1 วัดต้นสน สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ประมาณปีพุทธศักราช 2310 วัดนี้ตามสันนิษฐานสร้างเมื่อตอนปลาย สมัยกรุงศรีอยุธยา เพราะอุโบสถหลังเก่ามี บัวอ่อน คันทวย แต่ไม่มีจดหมายเหตุบันทึกไว้เป็นหลักฐาน แต่ผู้เฒ่าแก่เล่ากันต่อๆมา และได้ทรุดโทรมมาจนเกือบจะกลายสภาพเป็นวัดร้าง เพราะไม่มีปูชณียวัตถุแต่อย่างใด ต่อมาปีพุทธศักราช 2488 พระราชสุวรรณโมลี อดีตเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง ได้ริเริ่มการก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆขึ้น ซึ่งในขณะนั้นเนื้อที่ของวัดมีเพียง 14 ไร่เศษท่านั้น ต่อมาก็ได้ขอซื้อที่ดินขยายที่ตั้งวัดออกมาเรื่อยๆ ขอซื้อหลายครั้งจนได้เนื้อที่วัดเพิ่มขึ้น ปัจจุบันนี้จึงมีเนื้อที่ทั้งหมด 27 ไร่ 3 งาน 32 ตารางวา จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:14:36

ความคิดเห็นที่ 2 บรรยากาศภายในวัดครับ จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:16:09

ความคิดเห็นที่ 3 สิ่งสำคัญภายในวัดนั่นคือ สมเด็จพระศรีเมืองทอง ที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารหลังใหญ่ ที่เราเห็นอยู่นี้ครับ จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:17:27

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อก้าวย่างเข้าไปในพระวิหาร ภาพที่ปรากฏต่อหน้า คือพระพุทธปฏิมาองค์ใหญ่ ที่สง่างาม ส่องแสงทองอร่าม แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 54 08:19:32 จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:19:21

ความคิดเห็นที่ 5 รูปครับ จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:21:07

ความคิดเห็นที่ 6 ประวัติการสร้างสมเด็จพระศรีเมืองทอง สมเด็จพระศรีเมืองทอง พระพุทธรูปองค์ใหญ่ หล่อด้วยทองเหลืองทั้งองค์ หน้าตักกว้าง 6 วา 3 ศอก 9 นิ้ว สูง 9 วา 2 ศอก19 นิ้ว ปิดทองคำแท้ทั้งองค์ เป็นที่เคารพนับถือ ของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ปูชนีย์วัตถุที่สำคัญของวัด คือพระพุทธรูปปางสะดุ้งมาร ขนาดหน้าตักกว้าง 6 วา 3 ศอก 9 นิ้ว สูง 9 วา 1 ศอก 19 นิ้ว ได้ถวายพระนามว่า สมเด็จพระนะวะโลกุตตะระธัมมะบดีศรีเมืองทอง เรียกโดยย่อว่า สมเด็จพระศรีเมืองทอง หล่อด้วยโลหะทั้งองค์ ลงรักปิดทอง โดยเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2528 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ประกอบพิธีสมพระเกตุสมเด็จพระศรีเมืองทอง วัดต้นสน พระราชสุวรรณโมลี เจ้าอาวาสวัดต้นสนองค์เดิม เริ่มสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่อันให้นามว่า สมเด็จพระพุทธนวโลกุตร ธัมมบดีศรีเมืองทอง หรือเรียกโดยย่อว่า สมเด็จพระศรีเมืองทอง เมื่อพ.ศ. 2516 โดยมีพระครูอนุศาสน์โสภณเป็นเลขาช่วยสร้างมาโดยตลอด  พระราชสุวรรณโมลีสร้างสมเด็จพระศรีเมืองทองมาได้ถึงพระอุระ (อก) ขององค์พระพุทธรูป ท่านก็ได้มรณภาพลง เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2523 ดังนั้น ท่านพระครูอนุศาสน์โสภณเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันจึงรับช่วงดำเนินการสร้างต่อเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:21:53

ความคิดเห็นที่ 7 หลังจากนั้นพวกเราเดินต่อไปที่แพปลาหน้าวัด ที่นี่มีปลาเยอะมาก ส่วนแพปลาก็ใหญ่โตมากเลยครับ บนแพปลาเหมือน 7-11  มีขายทั้งอาหารปลา และอาหารคน จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:23:49

ความคิดเห็นที่ 8 บรรยากาศบนแพปลาครับ ก่อนจะให้อาหารปลา พี่ไข่หวานขออธิษฐานปิดทองพระซะหน่อย จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:25:08

ความคิดเห็นที่ 9 หลังจากให้อาหารปลาเสร็จ เราก็เดินไปบ่อเต่าต่อ ระหว่างทางเจอเพื่อนเป็ดพะโล้ครับ ท่าทางจะหิวหนัก เอาจมูกไถชามข้าวใหญ่เลย คงน้อยใจทำไมมีแต่คนให้อาหารปลา กับเต่าไม่ให้ผมบ้างครับ จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:27:10

ความคิดเห็นที่ 10 แปบเดียวก็ถึงบ่อเต่าแล้ว ของโปรดของเค้า คือแตงโมครับ ที่นี่เค้าจะหั่นเป็นชิ้นพอคำเจ้าเต่า และมีไม้เสียบให้เราป้อนเค้าได้ถึงที่ปาก บ่อเต่าที่นี่สะอาดมากครับมีคนคอยดูแล และมีการจัดโซนที่เป็นพื้นทรายไว้ด้วย แต่คุณป้าที่ดูแลบอกว่า ก็ยังมีคนเอาเต่ามาฝากเรื่อยๆ เต่าบางตัวโดนสักไว้ที่กระดอง แล้วนำมาปล่อยก็มี หรือบางทีคนซื้อไปเลี้ยง พอมันตัวโตมากไป เค้าก็เอามาปล่อย จนตอนนี่บ่อเต่าที่ว่ากว้าง ก็เริ่มจะคับแคบ จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:30:48

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ไกลจากบ่อเต่าเป็นที่ตั้งของพระเกศแก้วจุฬามณีจำลอง ภายในเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:32:06

ความคิดเห็นที่ 12 จ๊าก ดูเวลาแล้วคงต้องรีบไปวัดประโชติการามโดยด่วนครับ เด๋วจะไม่ทันทอดผ้าป่า ผ่านไปไวเหมือนโกหก พวกเราก็มาถึงที่วัดประโชติการาม อย่างทันเวลา ไปถึงเราก็รีบนำปัจจัยไปติดต้นผ้าป่า จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:33:53

ความคิดเห็นที่ 13 มีพี่ใจบุญฝากปัจจัยมาทำบุญด้วยนะครับ ขออนุโมทนาบุญด้วย สาธุ จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:34:58

ความคิดเห็นที่ 14 หลังจากติดต้นผ้าป่าแล้ว ก็ถึงเวลาพระท่านฉันเพล เราเลยขอตัวออกมาเติมพลังกันก่อน พระท่านฉัน เราก็กิน วันนี้ก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยมาเช่นเคยครับ เจ้าเดียวกับงานกฐิน ซัดกันไปคนละ 2-3 ชาม ที่ขาดไม่ได้คือน้ำพุทราครับ ที่ทางวัดต้มไว้ อร่อยมากเลยครับ จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:37:29

ความคิดเห็นที่ 15 ตัดมาที่ภายในศาลากำลังเริ่มการถวายผ้าป่าครับ ที่เห็นบาตรเล็กๆๆ ภายในก็จะมีปัจจัยที่ชาวบ้านหรือคนที่ศรัทธาในองค์หลวงพ่อ นำไปร่วมบุญกันครับ จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:39:20

ความคิดเห็นที่ 16 กล่าวคำถวายผ้าป่า จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:40:12

ความคิดเห็นที่ 17 ร่วมกันถวายองค์ผ้าป่าสามัคคี จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:41:09

ความคิดเห็นที่ 18 ถวายเครื่องบริวารผ้าป่า จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:42:20

ความคิดเห็นที่ 19 เราสองคน ได้ร่วมถวายจานกับชามครับ สงสัยว่าชาตินี้น้ำหนักยังขึ้นไม่พอ 555 จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:43:25

ความคิดเห็นที่ 20 หลังจากนั้นท่านเจ้าอาวาสได้ให้พร และมอบพระที่ระลึก จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:55:08

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นเหรียญหลวงพ่อทรัพย์ หลวงพ่อสิน สวยงามมากครับ จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:55:57

ความคิดเห็นที่ 22 ระหว่างนั้นก็ช่วยกันนับยอดผ้าป่า จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:56:32

ความคิดเห็นที่ 23 เลขที่ออก จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:56:58

ความคิดเห็นที่ 24 พอเลิกงานพี่ไข่หวานของเราก็ไม่รอช้าครับ คว้าไม้กวาดมาทำความสะอาดศาลาทันที จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 08:57:55

ความคิดเห็นที่ 25 มารอบนี้เราได้เจอกับสมาชิกเว็บพลังจิตที่ช่วยประชาสัมพันธ์งานบูรณะ และผ้าป่าครับ จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 09:00:05

ความคิดเห็นที่ 26 ถ่ายรูปรวมกันซะหน่อย จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 09:00:36

ความคิดเห็นที่ 27 สำหรับเรื่องการบูรณะองค์พระ และพระวิหาร หลวงพ่อท่านบอกกับพวกเราว่าเมษานี้จะครบเวลา 2 ปีที่ถูกค้างงานบูรณะวัด ซึ่งท่านคิดว่าอาจจะยื่นหนังสือ ของดำเนินการบูรณะองค์พระเองครับ จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 09:12:02

ความคิดเห็นที่ 28 ออกจากวัดประโชติการามมา เราก็มาแวะไหว้หลวงพ่อสุขสัมฤทธิ์กันที่วัดตูม อยุธยาครับ จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 09:13:29

ความคิดเห็นที่ 29 วัดตูม วัดตูม พระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งอยู่ริมคลองวัดตูมและริมถนนอยุธยา-อ่างทอง ห่างจากอยุธยาประมาณ 6-7 กิโลเมตร วัดนี้ไม่มีหลักฐานปรากฎว่าใครเป็นผู้สร้างในปีใด ทราบกันว่าเป็นวัดโบราณครั้งเมืองอโยธยา สร้างมาก่อนที่จะตั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และวัดนี้คงเป็นวัดร้างมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อคราวเสียกรุงฯ ในปี พ.ศ. 2310 หรือก่อนหน้านั้น เพราะเป็นวัดอยู่นอกเกาะเมือง เมื่อข้าศึกเข้าล้อมกรุงฯ ผู้คนพากันอพยพหลบหนีกันหมด แม้พระสงฆ์องค์เจ้าก็อยู่ไม่ได้ จึงร้างมาตั้งแต่ครั้งนั้น ครั้งถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ในรัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จึงได้มีผู้ปฏิสังขรณ์ขึ้นอีก และเป็นวัดที่พระสงฆ์จำพรรษามาจนทุกวันนี้ ในรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะเป็นพระอารามหลวงพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดนี้หลายครั้ง วัดนี้จึงเป็นวัดพระอารามหลวงที่มีความสำคัญวัดหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาแต่รัชกาลที่ 5 เป็นต้นมา จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 09:15:37

ความคิดเห็นที่ 30 ประวัติหลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์ พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ทรงเครื่องปางมารวิชัย เรียกกันว่า "หลวงพ่อทองสุข" หน้าตักกว้าง 87 เซนติเมตร สูง 150 เซนติเมตร หนึ่งองค์ เฉพาะปูชนียวัตถุภายในวัดตูม ที่ควรนำมากล่าวไว้ในประวัติของวัดตูม คือพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ทรงเครื่องปางมารวิชัย สมัยเชียงแสน นามเดิมของท่านคือ "หลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์" เรียกกันเป็นสามัญว่า "หลวงพ่อทองสุข" ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในหอพระพุทธรูป ข้างหอสวดมนต์ด้านตะวันออก พระพุทธรูปองค์นี้จะสร้างแต่สมัยใด ไม่มีตำนานปรากฎ เดิมประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถแถวหน้าพระประธาน สันนิษฐานว่าคงจะมีมาแต่เดิมในวัดนี้ เป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะงดงามองค์หนึ่ง เป็นพระทรงเครื่องแบบมหาจักรพรรดิราชาอธิวาส สวมมงกุฏ มีกุณฑลทับทรวง สังวาลพาหุรัด ประดับด้วยเนาวรัตน์ ประทับนั่งขัดสมาธิ เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งสุดท้าย ก็รอดพ้นจากการทำลายล้างผลาญของข้าศึกได้อย่างน่าอัศจรรย์ นับว่าเป็นพระพุทธรูปสำคัญอีกองค์หนึ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มาจนถึงปัจจุบัน จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 09:16:36

ความคิดเห็นที่ 31 พระพุทธรูปองค์นี้มีลักษณะแปลกประหลาดกว่าพระพุทธรูปองค์อื่น ๆ ในประเทศไทย คือ พระเศียรตอนเหนือพระนลาฎเปิดออกได้ กับพระเกศามาลาถอดได้ ภายในพระเศียรเป็นบ่อกว้างลึกลงไปเกือบถึงพระศอ มีน้ำไหลซึมออกมาตลอดเวลา เหมือนหยาดเหงื่อ เป็นน้ำใสเย็นบริสุทธิ์ปราศมลทิน สามารถรับประทานได้โดยตักออกมาแม้มช้สำลีชุบจนแห้งก็ยังมีชึมออกมาอีก ชาวบ้านนับถือกันมากเพราะว่า เชื่อกันว่าสามารถบำบัดโรคภัยไข้เจ็บได้อย่างน่าอัศจรรย์ ดังที่ปรากฎในพระราชหัตถเลขาเรื่อง "เสด็จประภาสลำน้ำมะขามเฒ่า" บ่งบอกว่า เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยุ่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จไปนมัสการนั้นได้มีผู้พบน้ำในพระเศียรของหลวงพ่อทองสุขแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ก็คงจะได้ทำการพิสูจน์ด้วยพระองค์เอง จึงทรงรับรองว่า พระพุทธรูปองค์นี้มีน้ำในพระเศียร เรื่องราวของหลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์องค์นี้ ในด้านอภินิหารเท่าที่ชาวบ้านได้ทราบ และจดจำเล่าสืบต่อ ๆ กันมาจนทุกวันนี้ มีอยู่มากมายเหลือที่จะพรรณนา แม้หนังสือพิมพ์บางฉบับก็เคยนำไปลงเป็นข่าวอยู่เสมอ ๆ เช่น ในสมัยหนึ่งมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้ไปจากวัดตูม ไปประดิษฐานไว้ในบริเวณเกาะเมือง ตั้งแต่อัญเชิญไปแล้ว ข้าราชการผู้นั้นก็เกิดความไม่สบายใจ เกิดความเดือดร้อนภายในครอบครัวตลอดเวลาและผู้คนที่มีส่วนแบกหามเคลื่อนย้ายองค์ท่านต่างเจ็บไข้ได้ป่วยทั่วทุกคนถึงกับฝันตรงกันทุกคนว่า ถ้าไม่นำองค์ท่านไปคืน จะเดือดร้อนถึงชีวิต ท่านผู้รู้สันนนิษฐานว่า มีเทพอันทรงฤทธิ์รักษาองค์พระอยู่ ในที่สุดผู้ที่นำไปโดยพลการ จึงต้องนำกลับไปประดิษฐานไว้ ณ วัดตูมตามเดิม แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 54 09:18:05 จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 09:17:39

ความคิดเห็นที่ 32 ภาพการเปิดพระเศียร เจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กำลังบอกเล่าหลวงพ่อสุขสัมฤทธิ์ในการอันเชิญน้ำพระพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์จากในพระเศียรของหลวงพ่อสุขสัมฤทธิ์ เมื่อวันที่3สิหาคม 2551 จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 09:19:41

ความคิดเห็นที่ 33 เจ้าพระคุณสมเด็จพระมาหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดชนะสงครามฯเป็นองค์ประธานในพิธีอันเชิญ หลวงพ่อสัมฤทธิ์(วัดตูม)ขึ้นประดิษฐานบนวิหาร เมื่อวันอาทิตย์ีที่ 3สิงหาคม 2551 พร้อมกับได้เป็นองค์ประธานในการอันเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ในพระเศียรของหลวงพ่อสุขสัมฤทธิ์ออกมาให้กับท่านสาธุชน จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 09:20:45

ความคิดเห็นที่ 34 หลังจากนั้น พวกเราได้ร่วมทำบุญผูกผ้าช่อฟ้ากันครับ จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 09:22:45

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบารมีแห่งองค์หลวงพ่อทรัพย์ หลวงพ่อสิน วัดประโชติการาม จงดลบันดาลให้ทุกท่านจงมีแต่ความสุข ความเจริญ โรคภัยอย่าได้เบียดเบียน และเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป จากคุณ : เป็ดพะโล้ (เป็ดน้อยสีขาว) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 09:24:56

ความคิดเห็นที่ 36 ขออนุโมทนากับน้องเป็ดพะโล้ พี่ไข่หวานและไข่เค็มครับ ขออนุโมทนากับผู้ร่วมบุญผ้าป่าวัดประโชติการามครับ หลวงพ่อเจ้าอาวาสดูยิ้มแย้มผ่องใสตลอดครับ จากคุณ : ebusiness เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 13:32:38

ความคิดเห็นที่ 37              ขอบคุณนะคะ น้องๆที่นำบุญมาฝาก น้องหวานแต่งตัวสวยจังค่ะ                       คิดถึงเด็กๆมากมาย แต่ยายแก่สังขารพักนี้ไม่ค่อยไหวค่ะ            ต้องขอเวลาพักไปซ่อมนานหน่อยนะคะ ใช้มาหกสิบปีแล้วเลยเสื่อมหลายๆค่ะ จากคุณ : รักลูกเมีย เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 14:56:36

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณกับน้องทั้งสามคนนะจ้ะ สำหรับของฝากถูกใจมากจ้าๆๆ วันหน้าน้องไข่หวานไปถวาย โอ่งมังกรใบใหญ่ๆๆๆให้ที่วัดบ้างสิจ้ะ ได้บุญหนักกว่าจานนะเออ อิอิ. แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 54 15:32:27 จากคุณ : กอบัวทอง เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 15:31:59

ความคิดเห็นที่ 39 ขอมอบรูปแทนคำขอบคุณนะจ้ะ อิอิ. จากคุณ : กอบัวทอง เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 15:36:03

ความคิดเห็นที่ 40 สาธุ  สาธุ จากคุณ : จิตสิกขา เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 16:27:56

ความคิดเห็นที่ 41 อนุโมทนาด้วยครับ ทุกคน ผ่องใส กันมากๆ จากคุณ : จักรแก้ว เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 16:39:59

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณผู้อุปการะคุณสำหรับชุดแต่งตัวจากร้าน.... ค๊า ขอบคุณน้อง por410 น้องเป็ดพะโล้ที่ช่วยประชาสัมพันธ์และเตือนว่าถึงวันที่วัดนี้จัดทอดผ้าป่าแล้วนะให้ได้รับทราบ ค่ะ ขอผลบุญที่ร่วมกันสร้างวัด บูรณะวัดประโชติการาม แห่งนี้ จงเป็นพลปัจจัยให้น้องทั้งสอง และเพื่อนๆ ทั้งในกลุ่มที่เราไปร่วมกันทำ และเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในห้องแห่งนี้ที่ได้ร่วมกันบริจาคบุญกันตลอดมา จงประสบแต่สิ่งที่ดี สิ่งที่งามในชีวิตนะคะ และมีสุขภาพแข็งแรงกันถ้วนทั่วทุกคนเลยยย รวมทั้งคุณยายด้วยนะคะ ขอให้สุขภาพแข็งแรง จะได้ไปร่วมทำบุญพร้อมกันอีกนะคะ และขอประชาสัมพันธ์ให้กับทางวัดด้วย ว่าสามารถร่วมทำบุญได้ค่ะ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 17:01:48

ความคิดเห็นที่ 43 อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ จากคุณ : ลูกปลาม้า (ลูกปลาม้า) เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 17:55:52

ความคิดเห็นที่ 44 ขอประชาสัมพันธ์งานบุญ ในช่วงวันที่ 24-27 มีนาคม 2554 จะมีงานปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ วันที่ 1 - 15 มีงานบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ติดต่อได้ที่วัดประโชติการาม พระครูเกษม ธรรมโชติ โทร.0895136491 เจ้าอาวาส และสามารถติดต่อน้องเป็ดพะโล้ได้นะคะ จากคุณ : ไข่หวานน้อย เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 18:48:23

ความคิดเห็นที่ 45 โมทนาสาธุจ้า จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 19:56:31

ความคิดเห็นที่ 46 สาธุ อนุโมทนาค่ะ จากคุณ : ภรรยาแก้ว เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 20:00:08

ความคิดเห็นที่ 47 คุณไข่.. และ คุณเป็ด.. ครับ ดูแล้วก็น่าชื่นใจจริงๆนะครับ อนุโมทนากับกุศลครั้งนี้ด้วยนะครับ จากคุณ : ปันน้ำใจ เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 21:01:32

ความคิดเห็นที่ 48 อนุโมทนา สาธุครับ........ จากคุณ : ซำเหมาพเนจร เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 22:38:01

ความคิดเห็นที่ 49 อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ จากคุณ : มด2002 เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 23:59:30

ความคิดเห็นที่ 50 อยากถามน้องเป็ดพะโล้ว่า เทพจีนองค์นี้มีชื่อเสียงเรียงใด ประวัติความเป็นมาเป็นอย่างไรครับ ผมดูแล้วงงไป3วัน8วันคิดไม่ออกครับ วานทีเด้อค่ะเด้อ. จากคุณ : กอบัวทอง เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 22:42:22