เรื่องอย่างนี้พูดยากครับ ปกติทางวัดก็มักจะไม่ค่อยทราบเท่าไหร่ เพราะการจัดทอดผ้าป่ามักเป็นเรื่องผู้มีศรัทธาเขาระดมทุนและจัดกันเอง
ทีนี้ปัญหาก็คือว่า เดี๋ยวนี้มักมีการกำหนดค่่านิยมใน "ราคาของตำแหน่งผู้ให้ทาน"** ขึ้นมา ว่า ถ้าเป็นผู้ให้ทาน ตำแหน่งนี้ เช่น ประธานของกองผ้าป่า จะต้องมีใส่ซองให้เท่านี้ถ้าเป็น กรรมการ ก็จะต้องใส่ซองเท่านี้ ทั้งๆที่ความจริง ควรเป็นเรื่องของกำลังศรัทธา
เคยมีผู้มาปรึกษาผมว่า จะจัดผ้าป่าไปทอดที่วัดนั้นวัดนี้ จะกำหนดจำนวนเิงินในซองอย่างไรดี ประธานควรจะเท่าไหร่ กรรมการเท่าไหร่ ฯลฯ ผมเลยแนะนำไปว่า
"ไม่ต้องไปจัดลิสท์หรือทำรายชื่อและกำหนดอะไรทำนองนั้นหรอก แค่ตกลงกันในกลุ่มผู้จะไปทอดผ้าป่ากันให้ชัด ว่าจะให้คนใดคนหนึ่งอยู่ในฐานะของประธาน ส่วนใครจะใส่ซองเท่าไหร่ก็ใส่กันไป โดยไม่ต้องกำหนดราคาอะไร แล้วเมื่อไปทำบุญ ก็ควรทำด้วยความรู้สึกที่ว่า ทุกคนมีสถานะเหมือนกัน คือผู้ร่วมบำเพ็ญกองการกุศล"
ถ้าทำแบบนี้ จะไม่มีปัญหาว่า "ทำไมถึงมาเลือกฉัน" , "ทำไมฉันต้องใส่จำนวนเ่ท่านี้" ทำไมอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นที่บาดหมางหรือขุ่นมัวกันเปล่าๆ แทนที่จะได้บุญร่วมกัน กลับมัวแต่คิดตะขิดตะขวงใจกัน บางคนแย่งจะเป็นประธาน บางคนอยากเป็นรองประธาน บางคนจะทำเท่านั้นเท่านี้ขอมีชื่อในตำแหน่งนี้ เป็นเรื่องมายึดติดกับชื่อทั้งนั้น ไม่เหมาะไม่ควรเลยในฐานะผู้ตั้งใจจะร่วมทำบุญกัน ซึ่งควรเป็นเรื่องของความสามัคคีมากกว่าจะเป็นเรื่องมาแก่งแย่งชื่อกัน หรือเรื่องจำนวนเิงินในซอง
สำหรับคำถามของจขกท.ก็ต้องตอบว่าเป็นเพียงความนิยมของยุคสมัย แต่ไม่มีการกำหนดเรื่องแบบนี้ในการทำบุญจริงๆหรอกครับ
ส่วนเรื่องว่าควรจะใส่เท่าไหร่นั้น ถ้าเขาขอให้เป็นประธาน และเรามีกำลังพอจะทำได้ในส่วนนั้น ก็ทำ ถ้ากำลังไม่พอ (หรือศรัทธาไม่ถึง ที่จะทำเช่นนั้น) ก็บอกกันไปตามตรงว่า "ผมมีกำลังเท่านี้ ก็ขอทำเท่านี้แหละ" (เพราะเขาเองก็ไม่ได้มาขอตกลงในเีิรื่องรายชื่อกันก่อน) แล้วก็ขอให้คนอื่นเป็นประธานแทน หรืออะไรก็ว่าไป
------------------
** นึกอยู่ว่าควรจะใช้คำที่เหมาะสมกว่านี้ แต่ยังนึกไม่ออก จึงขอใช้คำนี้ไปก่อน
การทอดผ้าป่า.....กำหนดเงินในการใส่ซองด้วยเหรอคะ
