Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อีกนัยหนึ่งของพระนิพพาน...จากท่านศิษย์พระป่าครับ ติดต่อทีมงาน

นิพพาน ไม่ได้เป็นสภาวะใดๆทั้งสิ้น  หลุดพ้นจากสภาวะทั้งปวง  เพราะไม่ใช่สังขาร  แต่ใช้คำเรียกว่าเป็นสภาวะ  เพื่อความเข้าใจเท่านั้น  เพราะยังไม่มีคำอื่นๆมาใช้เรียกแทนได้
          นิพพานมีลักษณะคงที่  ไม่เปลี่ยนแปลง  คงที่อยู่อย่างนั้นมาตลอดกาล ไม่ว่าเราจะไปรู้เห็นหรือไม่ก็ตาม  แต่ถูกสังขารคือกิเลสต่างๆห่อหุ้มไว้  วันใดที่เปิดกิเลสในระดับอนุสัยออก  ก็จะเห็นนิพพานโผล่มาชัดเจน  การเปิดอนุสัยกิเลส(หรือสังโยชน์ ๑๐) ออกมาได้แต่ละขั้น  แต่ละครั้ง ก็จะเห็นนิพพานโผล่ให้เห็นทุกๆครั้ง (ภาษาตำราเรียกว่า  เกิดมรรคจิต  ผลจิต  ได้นิพพานเป็นอารมณ์)
          นิพพานมีลักษณะเหมือนจิต  ต่างกันที่ จิตมีการเกิดดับเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา  แต่นิพพานคงที่ ไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับปุถุชนทั้งหลายทั้งสองอย่างนี้จะสวมซ้อนชั้นเสมือนเป็นสิ่งเดียวกัน   คล้ายๆ เราสร้างหุ่นขึ้นมาเหมือนตัวเราทุกๆอย่าง แล้วเราเช้าไปสวมในหุ่นนั่น  กลายเป็นตัวเราคนเดียว  เราเลยเข้าใจว่าตัวเรากับหุ่นนั้นคือตัวเดียวกัน   การเข้าใจผิดอันนี้ ที่เรียกว่า  โมหะ หรือโมหเจตสิก หรืออวิชชา ที่เป็นตัวรากเหง้าของกิเลสทั้งปวง ให้เวียนว่ายตายเกิดไปในภพชาติต่างๆนับไม่ถ้วน  ...เมื่อใดที่อริยมรรคเกิด  ก็จะเห็นว่า จิต และนิพพานแยกออกมาจากกัน    อันนี้ คือที่ในตำรากล่าวว่า ได้บรรลุมรรคผล  ตามขั้นนั้นๆ   ...ตอนนั้นอนุสัยกิเลสในขั้นนั้นๆจะถูกทำลายขจัดออกไปอย่างถาวร  เช่น ถ้าเป็นระดับโสดาบัน  สักกายทิฏฐิ  สีลพตปรามาส และวิจิกิจฉาจะถูกทำลายไปหมดสิ้นในขณะจิตเดียว พร้อมๆกัน   ลักษณะที่กิเลส ๓ ตัวนี้  โดนทำลาย  ..ลองนึกถึงภาพที่เราใช้กระจกโค้งรับแสงอาทิตย์ให้ไปรวมที่จุดศูนย์กลางจุดเดียว   ลักษณะแบบคล้ายๆนี้จะเกิดกับใจของผู้นั้นเมื่ออริยมรรคเกิด  แสงของปัญญาที่มีลักณะคล้ายๆตัวทิฏฐิ (จึงเรียกปัญญาในตอนนี้ว่า สัมมาทิฏฐิ แทนที่จะเรียกว่า สัมมาปัญญา  ทั้งๆที่เป็นตัวปัญาเจตสิก) จากรอบด้านเหมือนรูปทรงกลม จะรวมศูนย์พุ่งมาที่จุดศูนย์กลางของตัวรู้ แว๊บเดียว  มีพลังเจิดจ้ามหาศาลมากๆๆ  พร้อมกับทำลายอนุสัยกิเลส ทั้ง ๓ ตัวนั้นออกไปทันที  คล้ายๆการระเบิดใหญ่  (เหมือนกับการจุดระเบิดนิวเคลียร์แบบใช้พลูโตเนียม ๒๓๙ เป็นหัวเชื้่อระเบิด แปลกดีทำไมมาตรงกันได้ ?) ..คำว่าแสงของปัญญา  ที่จริงคือความรู้  แต่เป็นความรู้ชัดเจนอย่างยิ่ง  มีลักษณะเปรียบเทียบคล้ายๆแสง ก็พอจะว่าได้ ...  อาการตอนนี้ มีกล่าวเปรียบเทียบไว้ชัดเจนหลายๆตัวอย่าง    ที่มีกล่าวไว้ในโสฬสญาณ หรือ ในวิสุทธิมรรค  จะตรงกันเปี๊ยบ

 ตอนที่จิตจะลงไประเบิดตรงนั้นได้  จิตต้องลงไปตรงกลาง  ในรอยต่อระหว่างรูปกับนาม  ( หรือในระหว่างรอยต่อของ รูปฌานกับ อรูปฌาน)  คือในระหว่างที่จิตดับไป แล้วเกิดรูปขึ้นมา แล้วดับไป  (จิตเกิดๆดับๆไป  ๑๗ ดวง  แล้วเกิดรูปขึ้นมา ๑ รูป)  ..เพราะว่าที่จริง  รูปที่เป็นอารมณ์ของรูปฌาน ก็คือรูปที่เกิดจาก ๑๗ ขณะจิต นั่นเอง ..และนามที่เป็นอารมณ์ของอรูปฌาน  ก็คือจิตและอาการของจิตที่เกิดๆดับๆนั่นเอง ...ในตำราจะมีการกล่าวถึงตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน  ในวาระจิตสุดท้าย  ที่พระอนุรุธติดตามดูไปนั้น  จะเห็นว่า   ในตำรากล่าวถึงตอนนี้ว่า  พระพุทธเจ้าทรงเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน  ระหว่างรอยต่อของ รูปฌาน กับ อรูปฌาน   ซึ่งที่จริงก็คือแบบเดียวกับตอนที่พระอริยะเจ้าทั้งหลายได้เห็นนิพพาน นั่นเอง   ..เห็นนิพพานตอนที่ได้บรรลุมรรคผลก็ต้องเข้าตรงระหว่างรอยต่อนี้  ตอนเมื่อจะดับขันธ์ในจริมกจิตสุดท้ายก็ออกไปตรงทางเดิม ตรงระหว่างรอยต่อนี้เช่นกัน ...ดังนั้น รากฐานของความหมายของคำว่า "ธรรม"  ซึ่งแปลว่า  ทรงไว้  ก็บัญญัติมาจากคุณลักษณะของ นิพพาน นี่เอง  เพราะนิพพาน มีคุณลักษณะสำคัญคือ ทรงไว้ หรือคงที่

   บรรยายเรื่องนิพพาน  เอาแค่นิดๆหน่อยๆ แค่นั้น พอหอมปากหอมคอ  ...แค่นั้นน่าจะพอนะ  พอจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างไหม?... ถ้าว่ากันจริงๆ ถ้าคนที่เคยเห็นนิพพานจริงๆ มานั่งคุยกัน ๗ วัน ๗ คืน  ไม่ต้องไปทำอย่างอื่นก็ไม่มีเวลาพอ  ที่จะพูดถึงเรื่องนิพพาน   คือสามารถเอามาบัญญัติเทียบเคียงในสมมุติ ได้สารพัดอย่าง   สามารถเปรียบเทียบได้กับทุกๆอย่างในสมมุติบัญญัติ  หรือในสังขาร  ท่านจึงมีสำนวนว่า  "ทุกๆอย่างสามารถมองเป็นธรรมได้หมด" ...

จากคุณ : ศิษย์พระป่า
เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 08:58:00

จากคุณ : ใจพรานธรรม
เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 01:45:28




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com