ปกติ การเดินบิณฑบาตรของพระ จะเดินไปในบริเวณหมู่บ้านที่ไม่ห่างจากวัดที่ท่านจำพรรษาอยู่มากนัก หากเป็นพระทีมาจากที่อื่น ๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติอยู่บ้าง (ในกรณีที่ไม่ได้รับนิมนต์ จากบ้านไหนเป็นพิเศษ)
ลองพยายามถ่ายรูปชัด ๆ เอาไว้ หากเป็นไปได้นะครับ หรือถ่ายเป็นไฟล์วิดีโอก็จะดีมาก ๆ ในห้องศาสนานี้ ผมเชื่อว่า มีแฟนพันธ์แท้ "ดูพระ" อยู่บ้าง
อย่างน้อย ๆ ลักษณะการเดิน ลักษณะการห่มจีวร จะสามารถรู้อะไร ๆ ได้บ้างในเบื้องต้น
ผมกลับรู้สึกว่า พระรูปแรกที่เล่าให้ฟังนั้น ก็มีจริยวัตรที่ไม่ค่อยจะน่าเลื่อมใสศรัทธาอยู่แล้ว คุณก็มาเจอเอาพระที่น่าสงสัยเข้าไปอีก ก็น่าเห็นใจครับ
ทางที่ดี ก็ปิดประตูบ้านให้เรียบร้อยดีกว่าครับ อยากทำบุญตักบาตรเมื่อไหร่ ก็ออกมา แล้วเข้าบ้านปิดประตู การให้ข้าวปลาอาหารเป็นอามิสทาน ก็ถือว่าได้บุญได้กุศล แต่หากต้องมานั่งครุ่นคิด งุนงง สงสัย อย่างนี้ไปตลอด ก็จะมาบั่นทอนจิตใจอันเป็นกุศลของเรา
ดังนั้นก็ควรวินิจฉัยให้ดี ๆ อย่างที่คุณ "ลิงพญาไท" บอกนะครับ
หากเป็นผมนะครับ ผมจะเลือกทำบุญในวิธีอื่น ๆ ที่ผมสบายใจ เช่น
ในส่วนของการทำบุญให้ทาน เป็นข้าวปลาอาหาร ปัจจัย ฯลฯ ผมก็จะพิจารณาทำดังต่อไปนี้...
- ไปทำบุญที่วัดใกล้บ้าน หรือวัดที่เราคุ้นเคยก็ได้ จะใกล้ไกล ก็ไม่เป็นไร ตามโอกาสที่เราไปได้
- ให้ปันของกินของใช้ แก่ผู้ที่ด้อยกว่า (ผู้ที่เขาต้องการจริง ๆ) ตามโอกาสอันควร
- หยอดตู้บริจาคบ้าง
- โอนเงินให้องค์กร การกุศล ที่จัดขึ้น มีที่มาที่ไปชัดเจน
- ช่วยเหลือการศึกษาของพระภิกษุสามเณร ในวัดที่มีการเรียนการสอนพระปริยัติธรรม หรือจะรับเป็น โยมอุปัฏฐาก ให้กับพระหรือสามเณร สักรูปหนึ่ง ที่ท่านกำลังศึกษาพระปริยัติธรรม
- ช่วยมีส่วนร่วมในการถวายเงิน สร้างกุฎิวิหาร โบสถ์ฯลฯ
จะเห็นได้ว่า เรามีช้อยส์ให้เลือกมากมายในการทำบุญ
และในส่วนของการปฏิบัติตนในบ้านก็ ถือว่าทำบุญได้เช่นกัน คือทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แล้วพยายามสวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ อ่านหนังสือธรรมะ ฯลฯ
พอดีผมโชคดีมาก ๆ บ้านอยู่ใกล้วัดที่มีระเบียบวินัย ของพระน่าเลื่อมใส ขับออกไปไม่เกิน 5 นาที ใช้เวลา ทำบุญ ถวายอาหาร และรับพร และฟังข้อธรรมะ รวม ๆ แล้ว ไม่เกิน 1 ชั่วโมง แล้วกลับมาเข้าอ๊อฟฟิส นั่งทำงานได้ตามปกติ
ช่วงที่อยู่ในวัด เราก็อาจจะอยู่ทานอาหารเช้าในวัดร่วมกับคนที่ไปวัดด้วย แบบบุฟเฟต์ ถ้วยจาน ช้อนซ่อม สะอาด ในระดับโรงแรมดี ๆ.....
ของใช้ของวัด ไม่ใช่ของแพง แต่เนื่องจากทางวัดดูแลอย่างดี สะอาด สวยงาม น่าใช้ และบรรยากาศในวัดสะอาดมาก มีที่จอดรถเป็นระเบียบ มีที่เดินเล่น นั่งพักผ่อนหย่อนใจ ชนิดที่รีสอร์ทบางแห่งคงสู้ไม่ได้ พระแต่ละรูป เมื่อกลับจากบิณฑบาตรแล้ว ใช้เวลาว่างสั้น ๆ นั้น ทำความสะอาด เช่นกวาดลานวัด ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งทราบมาว่า ตามปกติ เวลาบ่าย ๆ เย็น ๆ ท่านก็ช่วยกันดูแลอยูแล้วเช่นกัน
และเท่าที่ผมเห็น ก็มีญาติโยม บางท่านก็ อาสาทำความสะอาด แต่ละที่ ที่ตนถนัด อย่างผม ก็มี ผ้าสำหรับทำความสะอาด ติดท้ายรถไปด้วย พอตักบาตรเสร็จ มีเวลาว่าง ก่อนรอพระขึ้นอาสน์สงฆ์ ผมก็เอาผ้าไปเช็ด ๆ ถู ๆ ที่โต๊ะเก้าอี้ ที่วาง ๆ เรียงราย ตามใต้ต้นไม้ ที่รอให้คนมานั่งฟังธรรม และผมก็เห็นคนอื่น ๆ บางคน ก็ทำแบบผมด้วย แต่เราไม่แย่งกันทำไม่ทะเลาะกัน เราก็เลือกที่จะทำเฉพาะส่วนที่ยังไม่มีคนทำ ผมว่ามีความสุขดี หน้าตาทุกคนยิ้มแย้ม แจ่มใส มีอุบาสิกา สวย ๆ แต่งตัวดี ๆ บางคนก็จับไม้กวาด บางคนก็ เข้าไปหลังโรงครัว จัดแจงเรื่องถ้วยจาน และความสะอาด บางคน ถึงกับเตรียมชุดแม่บ้านมาเพื่อทำความสะอาดห้องน้ำ ก็เคยเห็น (อยากบอกว่า ห้องน้ำก็สะอาดมากเลย)
เหนื่อยนัก ก็มีตู้น้ำเย็นให้ดื่ม มีนำร้อนน้ำชา ไปชงทานเองได้ ตามอัธยาศัย เพราะมีคนเขาศรัทธา เอาไปให้ไว้มากมาย ในที่ที่เป็นส่วนของญาติโยมที่ต้องการจะทาน (ไม่เกี่ยวกับของพระ ของพระท่านก็รับประเคนไปฉันตามวิธีที่ถูกต้องแล้ว)
วัดนี้ มีพร้อมหลาย ๆ อย่าง ทั้ง ๆ ที่ไม่เห็นจะมีการเรี่ยไรใด ๆ แต่ข้าวของไหลมา เทมา ก็น่าแปลกใจไม่น้อย
มีห้องสมุดให้อ่านหนังสือธรรมะดี ๆ มีห้องน้ำสะอาดมาก ฯลฯ และที่สำคัญ วัดนี้ ไม่เรี่ยไรเลย หากเราจะทำบุญด้วยเงิน ดูเหมือนว่า เราต้องขวนขวาย หาวิธีเอาเอง ต้องแจ้งความประสงค์ ต้องหาทางติดต่อพระ ซึ่งพระท่านก็จะเปิดโอกาสให้เราทำบุญได้ แล้วแต่เราประสงค์ จะสร้าง อะไร ตามศรัทธา แต่ไม่เคยเห็น มีการบอกบุญ หรือเรี่ยไรใด ๆ เลย