แล้ว ..อิจฺฉิตํ ปตฺถิตํ ตุมฺหํ ขิปฺปเมว สมิชฺฌตุ
สพฺเพ ปูเรนฺตุ สงฺกปฺปา จนฺโท ปณฺณรโส ยถา มณิ โชติรโส ยถา
เหล่านี้ล่ะ แปลว่าอะไร ?
อันที่จริง ในบท ยถา น่ะ มีให้พรอยู่พร้อมแล้ว ทั้งให้คนตายทั้งให้คนเป็น หาก พระรูปใดสอนว่าให้คนตายอย่างเดียว ก็ต้องถามท่านกลับไปว่า ท่านจบเปรียญธรรมไหนมา เรียนมาจากที่ไหน? ทำไมถึงแปลภาษาบาลี ง่าย ๆ เช่นนี้ไม่ออก?
แต่ เอาเถอะครับ ล้วนแล้วแต่เป็นความหวังดีจากทุกฝ่าย เพื่อความสบายใจ พระท่านก็อยากจะแนะนำตามที่ท่านคิด ว่า น่าจะเป็นไปได้
อันที่จริง ไม่ว่าตอนไหน ๆ ครับ อย่าไประบุเลยว่า จะให้พรแก่ผี หรือแก่คน อันที่จริง คำสวดนั้นมันต่อเนื่องกันอยู่
ในเบื้องต้น สองสามวรรคแรก โอเค อาจจะกล่าวถึง ผู้ล่วงลับก็จริง แต่จากท่อน ....อิจฺฉิตํปตฺถิตํ ฯลฯ เป็นต้นไป แม้จะยังอยู่ในช่วงของ ยถา..อยู่ ก็ถือว่าเป็นการให้พร คนเป็น คนที่ใส่บาตรอยู่นั่นแหล่ะ
และที่สำคัญ พระที่พอมีภูมิรู้ บางวัด ท่านจะ พิจารณาว่าควรเริ่มจากตรงใน ในการให้พรในยามบิณฑบาตร ส่วนใหญ่ท่านจะไม่เริ่มมาจาก ยถา.... เพราะมันยืดยาวเกินไป ท่านจะไปเริ่มที่ อิจฺฉิตํ ปตุติตํ ฯลฯ...
การเริ่ม ตั้งแต่ อิจฺฉิตํ ....ก็มีที่มาด้วย ว่า เป็นธรรมเนียมของพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่จะให้พร แก่คนที่ถวายภัตตาหาร แก่พระองค์ สั้น ๆ เช่นนั้นคือ
อิจฺฉิตํ ปตฺถิตํ ตุมฺหํ ขิปฺปเมว สมิชฺฌตุ...... ขอให้ความปรารถนาของเธอจงสำเร็จโดยพลัน