คุณอธิโมกข์ คงไม่ได้เข้าไปอ่านกระทู้ต้นเรื่อง
พระสูตรนี้บอกว่านิพพานไม่เป็นอัตตา
=================================================================
ลองพิจารณา พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๓
ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค ดูนะครับ
(โอกฺกมติ) ปญฺจกฺขนฺเธ อนิจฺจโต ปสฺสนฺโต อนุโลมิกํ ขนฺตึ
ปฏิลภติ ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ นิโรโธ นิจฺจํ นิพฺพานนฺติ ปสฺสนฺโต สมฺมตฺตนิยามํ
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของ ไม่เที่ยง ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน เที่ยง ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
โอกฺกมติ ปญฺจกฺขนฺเธ ทุกฺขโต ปสฺสนฺโต อนุโลมิกํ ขนฺตึ
ปฏิลภติ ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ นิโรโธ สุขํ นิพฺพานนฺติ ปสฺสนฺโต
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความ เป็นทุกข์ ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน เป็นสุข ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
โอกฺกมติ ปญฺจกฺขนฺเธ อนตฺตโต ปสฺสนฺโต อนุโลมิกํ ขนฺตึ
ปฏิลภติ ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ นิโรโธ ปรมฏฺฐํ นิพฺพานนฺติ ปสฺสนฺโต สมฺมตฺตนิยามํ
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น อนัตตา ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สังเกต ถ้านิพพานเป็น อัตตา พระบาลีท่อนนี้จะต้องกล่าวว่า ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ นิโรโธ อตฺตํ นิพฺพานนฺติ
แต่ในพระสูตร พระบาลีเขียนว่า ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ นิโรโธ ปรมฏฺฐํ นิพฺพานนฺติ
ก็แสดงว่า นิพพานไม่เป็นอัตตา
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เนื้อความแปลเต็ม ๆ นะครับ
[๗๓๕] ภิกษุย่อมได้อนุโลมขันติด้วยอาการเท่าไร ย่างลงสู่สัมมัตต
นิยามด้วยอาการเท่าไร ภิกษุย่อมได้อนุโลมขันติด้วยอาการ ๔๐ ย่างลงสู่สัมมัตตนิยามด้วยอาการ ๔๐ ฯ
ภิกษุย่อมได้อนุโลมขันติด้วยอาการ ๔๐ เป็นไฉน ย่างลงสู่สัมมัตตนิยามด้วยอาการ ๔๐ เป็นไฉน ฯ
ฯลฯ...
ภิกษุ...
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของ-ไม่เที่ยง- ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-เที่ยง- ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความ-เป็นทุกข์- ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-เป็นสุข- ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความ-เป็นโรค-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีฝี-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นดัง-ลูกศร-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีลูกศร-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความ-ลำบาก-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่าความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีความลำบาก-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น-อาพาธ-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่าความดับแห่งเบญจขันธ์ เป็นนิพพาน-ไม่มีอาพาธ-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความ-เป็นอื่น-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีสิ่งอื่นเป็นปัจจัย-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น-ของชำรุด-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่าความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพานไม่มีความชำรุดเป็นธรรมดา-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น-เสนียด-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีเสนียด-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น-อุบาทว์-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่าความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีอุบาทว์-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น-ภัย-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-อันไม่มีภัย-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น-อุปสรรค-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีอุปสรรค-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของ-หวั่นไหว-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีความหวั่นไหว-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของ-ผุพัง-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีความผุพัง-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของ-ไม่ยั่งยืน-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-มีความยั่งยืน-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของ-ไม่มีที่ต้านทาน-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพานเป็นที่ต้านทาน-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของ-ไม่มีอะไรป้องกัน-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-เป็นที่ป้องกัน-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของ-ไม่มีที่พึ่ง-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-เป็นที่พึ่ง-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของ-ว่าง-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่ว่าง-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของ-เปล่า-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่เปล่า-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น-ของสูญ-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-สูญอย่างยิ่ง-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น-อนัตตา-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น-โทษ-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีโทษ-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของ-แปรปรวนเป็นธรรมดา-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพานมีความ-ไม่แปรปรวนเป็นธรรมดา-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น-ของไม่มีสาระ-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-มีสาระ-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น-มูลแห่งความลำบาก-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีมูลแห่งความลำบาก-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความ-เป็นดังเพชฌฆาต-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่าความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่เป็นดังเพชฌฆาต-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น-ของเสื่อมไป-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีความเสื่อมไป-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของ-มีอาสวะ-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีอาสวะ-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น-สิ่งมีอันปัจจัยปรุงแต่ง-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น-เหยื่อแห่งมาร-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่เป็นเหยื่อแห่งมาร-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น-ของมีความเกิดเป็นธรรมดา-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีความเกิด-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของมี-ความแก่เป็นธรรมดา-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีความแก่-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของ-มีความป่วยไข้เป็นธรรมดา-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีความป่วยไข้-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น-ของมีความตายเป็นธรรมดา-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีความตาย-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของ-มีความเศร้าโศกเป็นธรรมดา-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่าความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีความเศร้าโศก-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น-ของมีความร่ำไรเป็นธรรมดา-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีความร่ำไร-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของมีความ-คับแค้นเป็นธรรมดา-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีความคับแค้น-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของ-มีความเศร้าหมองเป็นธรรมดา-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-ไม่มีความเศร้าหมอง-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม ฯ
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๑ บรรทัดที่ ๑๐๘๕๓ - ๑๐๙๓๙. หน้าที่ ๔๕๔ - ๔๕๘.
http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=31&A=10853&Z=10939&pagebreak=0
พระบาลี
http://budsir.mahidol.ac.th/cgi-bin/Budsir.cgi/SearchItem?mode=1&valume=31&item=735&Roman=0
============================================================
ข้อสังเกต
พระสูตรนี้กล่าวถึงสิ่งที่ตรงกันข้ามระหว่าง ขันธ์ 5 กับพระนิพพานเป็นคู่ ๆ ยกเว้น 2 ที่ คือ
โอกฺกมติ ปญฺจกฺขนฺเธ สุญฺญโต ปสฺสนฺโต อนุโลมิกํ ขนฺตึ
ปฏิลภติ ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ นิโรโธ ปรมํ สุญฺญํ นิพฺพานนฺติ ปสฺสนฺโต สมฺมตฺตนิยามํ
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของ-สุญ-ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน-สุญอย่างยิ่ง-ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
กับ
โอกฺกมติ ปญฺจกฺขนฺเธ อนตฺตโต ปสฺสนฺโต อนุโลมิกํ ขนฺตึ
ปฏิลภติ ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ นิโรโธ ปรมฏฺฐํ นิพฺพานนฺติ ปสฺสนฺโต สมฺมตฺตนิยามํ
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็น อนัตตา ย่อมได้อนุโลมขันติ
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพาน เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ย่อมย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม
แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 54 01:42:39